เสียงธรรม วิธีทำให้ใจของเราตั้งมั่น มีสัมมาสมาธิ

ในห้อง 'สมาธิ - พระกรรมฐาน' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 14 พฤษภาคม 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หลวงพ่อปราโมทย์ : ส่วนตัวสมาธินี่ จิตที่ตั้งมั่นนี่ ตัวนี้ หลายคนไม่เข้าใจคำว่าจิตที่ตั้งมั่น นึกว่าจิตที่ตั้งแบบแข็งกระด้าง แข็งๆ นึกอย่างนี้นะ อย่างนี้ไม่ใช่จิตตั้งมั่นนะ มันเป็นจิตที่แข็งกระด้าง จิตที่ตั้งมั่นนี่หมายถึงเป็นจิตที่รู้เนื้อรู้ตัวอยู่ มีความอ่อนโยนนะ มีความเบา ถ้าหนักๆ แน่นๆ แข็งๆ ใช้ไม่ได้เลย ไม่ใช่จิตที่มีสัมมาสมาธิจริงๆ จิตที่มีสัมมาสมาธิมันจะเบาๆ นะ ไม่ใช่เบาหวิวนะ แต่มันเบาแบบมันไม่มีภาระ สบาย มันมีความอ่อนโยน มีความนุ่มนวล ไม่มีกิเลส ไม่มีนิวรณ์ครอบงำ กระทั่งความอยากปฏิบัติยังไม่มีเลย ความอยากปฏิบัติก็เป็นกิเลสนะ จิตที่มันมีสัมมาสมาธินี่มันว่องไว ไม่ซึมไม่ทื่อนะ ถ้าไปนั่งแล้วก็ซึมอย่างนี้ไม่ใช่นะ นี่มิจฉาสมาธินะ

    สัมมาสมาธินี่ จิตจะเบา จิตจะอ่อน จิตจะนุ่มนวล คล่องแคล่วว่องไว จิตจะสามารถรู้สภาวธรรมทั้งหลายตรงตามความเป็นจริง รู้ได้อย่างซื่อๆ รู้แล้วไม่เข้าไปแทรกแซง จิตจะตั้งมั่นสักว่ารู้สักว่าเห็นอยู่ ถ้าเรามีจิตชนิดนี้แหละ ปัญญามันถึงจะเกิด ถ้าเราไม่มีจิตที่เป็นสัมมาสมาธิที่ตั้งมั่นเป็นผู้รู้เป็นผู้ดูนะ ถึงเอาสติไปจ่อเข้าในกายในใจมันได้แต่สมถะ มันไม่เกิดปัญญา ถ้าจิตเป็นผู้รู้ผู้ดูอยู่ต่างหากนะ เห็นร่างกายนี้หายใจเข้า ร่างกายหายใจออก จิตเป็นคนดูอยู่ เห็นร่างกายยืนเดินนั่งนอนจิตเป็นคนดูอยู่ เห็นท้องพองยุบจิตเป็นคนดูอยู่ เห็นยกเท้าย่างเท้าอะไรอย่างนี้จิตเป็นคนดูอยู่ ต้องแยกรูปกับนามออกจากกัน ให้ใจมันตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดูอยู่

    หลายคนเข้าใจผิดในการปฏิบัติ อย่างไปรู้ลมหายใจนี่ไปเพ่งใส่ลมหายใจ ตั้งใจให้รู้แต่ลมหายใจอย่างเดียว ไม่ให้รู้อย่างอื่น การตั้งใจให้รู้อันใดอันหนึ่งไม่ให้รู้อย่างอื่น มันเป็นการบิดเบือนความเป็นจริง ในความเป็นจริงก็คือ ในสภาวะแต่ละสภาวะที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะ แต่ละขณะที่เกิดขึ้นนั้นมีสภาวธรรมจำนวนมาก ไม่ใช่ไปเลือกเอาอันใดอันหนึ่งนะ เพราะฉะนั้น อย่างเวลาที่เรารู้ลมหายใจเข้าออก ถ้าเราจงใจไปเพ่งใส่ลม รู้แต่ลมอย่างเดียว มันส่งเสริมอัตตานะ ไม่ใช่จะเห็นอนัตตา มันจะรู้สึกว่ากูเก่ง กูเก่ง กูบังคับจิตของกูได้ หรือจะไปเพ่งใส่ท้องอันเดียวนะ ท้องพองยุบรู้หมดเลยนะ แต่ว่าจิตใจของตัวเองนี่ลืมมันไปแล้ว มีแต่รูป ไม่มีนาม เพ่งเอาเพ่งเอา อันนี้จะส่งเสริมอัตตาไม่ใช่เห็นอนัตตา เพราะฉะนั้น ในแต่ละสภาวธรรม ในแต่ละขณะมีสภาวธรรมจำนวนมากเกิดขึ้น เราก็เห็นร่างกายมันเคลื่อนไหวไป เห็นรูปมันเคลื่อนไหวไป ในขณะเดียวกันก็มีใจเป็นคนดูอยู่ มีใจเป็นคนดู เราจะเห็นเหมือนเห็นคนอื่นกำลังยืนเดินนั่งนอน เห็นคนอื่นหายใจเข้าหายใจออก ไม่ใช่เห็นตัวเรายืนเดินนั่งนอน ใจที่ตั้งมั่นขึ้นมามันจะทำให้เห็นสภาวธรรมตรงตามความเป็นจริง ว่าไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา จิตที่มีสัมมาสมาธินี่เป็นจิตที่สำคัญมาก ถ้าปราศจากสัมมาสมาธิแล้วปัญญาจะไม่เกิด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...