WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

WHOยังมึน-โรคลึกลับระบาดเวียดนามดับ19
25 เม.ย. 55 09.00 น.

สำนักข่าว ซเวิน-จี๊-ออนไลน์ สื่อเวียดนาม รายงานจากการลงพื้นที่ของคณะผู้เชี่ยวชาญทางเคมีของทางการ ที่ได้ลงพื้นที่ อ.บาเตอ จ.กว๋างหงาย ทางภาคกลางเวียดนาม ซึ่งเป็นแหล่งที่มีผู้คนล้มป่วยด้วยโรคลึกลับ ที่กำลังระบาดจำนวนมาก เพื่อเก็บตัวอย่างดินและไปตรวจพิสูจน์ โดยตั้งโจทย์ว่า สภาพแวดล้อมในท้องถิ่นเป็นสาเหตุของการป่วยหรือไม่ ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า เคยมีคนในท้องถิ่นนี้ป่วยด้วยโรคแบบเดียวกันนี้ เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว หลังจาก คนเหล่านั้นไปไปพบสารเคมีที่ไม่ทราบชนิดและนำไปฝังด้าน สำนักงานสาธารณสุข จ.กว๋างหงาย รายงานว่า พบผู้ป่วยจำนวน 171 ราย ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ 6 นิคมของ อ.บาเตอ ในนั้นมีผู้ป่วยในท้องที่นิคมบาเดียน มากที่สุด อยู่ที่จำนวน 161 ราย และ มี 8 ราย ที่อาการรุนแรงมากในตอนนี้ ซึ่งรัฐบาลเวียดนาม ได้ร้องขออย่างเป็นทางการจาก องค์การอนามัยโลกและรัฐบาลสหรัฐ เพื่อช่วยหาสาเหตุ และขอความช่วยเหลือในการรักษาด้าน องค์การอนามัยโรค (World Health Organization) กล่าวว่า ได้รับทราบข่าว เกี่ยวกับโรคร้ายแรงลึกลับที่กำลังระบาดในจังหวัดภาคกลางเวียดนาม ซึ่งจนถึงขณะนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 คน อีกกว่า 170 คน กำลังล้มป่วย แต่ องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ยังยากที่จะกล่าวถึงสาเหตุ

 

พบโลมาตายทะเลสาบสงขลา
ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ.2555 12:04น.



พบโลมาอิรวดีเพศเมีย อายุ 15 ปี ตายเพิ่มอีก 1 ตัว ในทะเลสาบสงขลา เป็นตัวที่ 3 ของเดือนนี้ และตัวที่ 6 ในรอบปี

สถานการณ์โลมาอิรวดี ในทะเลสาบสงขลา อยู่ในขั้นวิกฤติ และน่าเป็นห่วง ล่าสุด พบโลมาอิรวดี ลอยตายอยู่ในทะเลสาบสงขลา ห่างฝั่งพื้นที่ อ.กระแสสินธุ์ ประมาณ 8 กิโลเมตร โดยเป็นโลมาตัวที่ 3 ที่ตายภายในเดือนนี้ และตัวที่ 6 ของปีนี้ จากการตรวจสอบซากโลมาของเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง และชมรมอนุรักษ์โลมาอิรวดีบ้านแหลมหาด พบว่า เป็นโลมาเพศเมีย ความยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักกว่า 170 กิโลกรัม อายุประมาณ 15 ปี ตายมาแล้วประมาณ 3 วัน ที่บริเวณหัวพบร่องรอยการติดอวนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องมือการทำประมงจับปลาบึกในทะเลสาบสงขลา คาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้โลมาตัวนี้ตาย โดยขณะนี้ โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา เหลืออยู่ประมาณ 20 - 30 ตัวเท่านั้น

INN

 

05:26 เวลาไทย ภูเขาไฟ Popocatépetl ในเม็กซิโก ยังคงมีการปะทุเป็นระยะ ทางการยังคงยกระดับเตือนภัย “สีเหลือง” 

 

08:30 ยังคงเกิดความปั่นป่วนในสนามแม่เหล็กโลก ที่ค่า kp=5 ในขณะนี้ ผลจากการเข้าปะทะของก้อน CME จากดวงอาทิตย์วานนี้ 

 

09:00 Martin McKenna ถ่ายภาพออโีรรา ที่เกิดจากการเข้าปะทะของก้อน CME ได้จากทางเหนือของไอร์แลนด์ 

 

พายุฤดูร้อนถล่มสุโขทัย!! บ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลัง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2555 11:28 น.

       ชาวบ้านใน ต.ตลิ่งชัน อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ตรวจสอบความเสียหายที่พัก หลังเกิดพายุฤดูร้อนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ มีบ้านได้รับความเสียหายกว่า 50 หลัง โดยเฉพาะที่โรงเรียนบ้านตลิ่งชันเสียหายมากที่สุด ทั้งส่วนอาคารเรียน คอมพิวเตอร์ และบ้านพักครู โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำลังจะลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือ
        กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานความกดอากาศต่ำ เนื่องจากว่าความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศร้อนถึงร้อนจัง ประกอบกับมีลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้าปกคลุม ทำให้มีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชก โดยระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนระลอกใหม่ จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นเป็นแห่งๆ

 

กรณีที่ลูกเจี้ยบออกมาผิดปรกติเพราะตัวแม่ผิดปรกติ ไม่สามารถเบ่งออกมาได้เท่านั้นเอง แต่น่าคิดว่าลูกเจี้ยบหายใจในตัวแม่ไก่ได้อย่างไรมากกว่า

 

แม่ฮ่องสอนเผชิญภัยแล้งทุกอำเภอ


นายเพิ่มวิทยา กันทะทรง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 20 เมษายน 2555 จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง 7 อำเภอ 43 ตำบล 389 หมู่บ้าน ราษฏรได้รับความเดือดร้อน 36,017 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 43.35 ของจำนวนครัวเรือนของราษฏรทั้งหมด ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีพื้นที่ทาวงการเกษตรได้รับผลกระทบ 13,316 ไร่ สัตว์เลี้ยงของราษฏรได้รับผลกระทบ 28,135 ตัว ประกอบไปด้วย โค กระบือ แพะ แกะ และสุกร ส่วนด้านความช่วยเหลือ ราษฏรได้ซ่อมแวมระบบประปา ซ่อมแซมภาชนะรองรับน้ำ ขัดซื้อภาชนะรองรับน้ำ ซ่อมแวมจัดทำฝายกั้นน้ำ ขุดลอกเปิดทางน้ำ แจกน้ำเพื่อการเกษตร แจกจ่ายน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค จัดหาวัคซีน เวชภัณฑ์ เพื่อบำรุงและรักษาสุขภาพสัตว์

สำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะยาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ประสานกับส่วนประสานและบริหารจัดการลุ่มน้ำสาละวิน ซึ่งในปีงบประมาณ 2556 มีโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ จำนวน 30 โครงการ เพื่อนำน้ำในลุ่มน้ำสาละวนเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ตังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่อไป

 

<object width="640" height="505"><param name="movie" value="http://video.postjung.com//player.swf?id=49145&vfw=480&vfh=360"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><param name="wmode" value="transparent"></param><embed src="http://video.postjung.com//player.swf?id=49145&vfw=480&vfh=360" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" wmode="transparent" width="640" height="505"></embed></object>

พิษณุโลกเกิดไฟระอุใต้พื้นดินลวกชาวบ้าน-สัตว์เลี้ยง

"พิษณุโลกเกิดไฟระอุใต้พื้นดินลวกชาวบ้าน-สัตว์เลี้ยง"

พิษณุโลก 25 เม.ย.-เกิดปรากฏการณ์ไฟระอุใต้พื้นดินที่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก กินพื้นที่ 100 ตารางวา ทำให้ชาวบ้านถูกไฟลวกเท้า และสัตว์เลี้ยงล้มตาย

เจ้าหน้าที่ป้องกันและป้องกันสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 3 เข้าตรวจสอบบริเวณหมู่ 9 บ้านเนินตาโนน ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก จุดที่เกิดไฟระอุอยู่ใต้พื้นดินกินพื้นที่กว้าง 100 ตารางวา ริมถนนสายนครไทย-ด่านซ้าย พบซากสุนัขถูกไฟคลอกจนไหม้เกรียม และพบรอยแยกของพื้นดินความลึก 50 เซนติดเมตร ถึง 1 เมตร เมื่อนำเศษไม้และกระดาษโยนลงไปเกิดไฟลุกไหม้ทันที นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้าน 3 คน ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกไฟลวกที่ฝ่าเท้า วัวตาย 1 ตัว รวมทั้งสุนัขและแมว

สำหรับพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นโรงเลื่อย คาดว่าขี้เลื่อยที่ทับถมกันมานาน ประกอบกับอุณหภูมิโลกสูงขึ้น อาจทำให้เกิดการปฏิกิริยาสันดาปจากคลื่นความร้อนกระทบกับขี้เลื่อย จนเกิดประกายไฟ

ล่าสุด เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกะท้าวได้นำเชือกมาล้อมกันพื้นที่ พร้อมเขียนป้ายห้ามเข้าเขตอันตราย และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาพิสูจน์ถึงสาเหตุของการเกิดไฟระอุใต้พื้นดินครั้งนี้.

-สำนักข่าวไทย




ชมภาพปรากฏการณ์ ชาวนครไทย จ.พิษณุโลก แตกตื่น! แห่ดูแผ่นดินร้อนไฟลุกจากพื้นดิน เผาสุนัข4ตัวแล้ว

วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 14:19:11 น

ภาพชาวบ้านอำเภอนครไทย จ.พิษณุโลก ต่างแตกตื่นแห่ชมปรากฏการณ์พื้นดินร้อนระอุ อุณหภูมิสูงอย่างมากและมีควันไฟพวยพุ่งจากใต้ดินขึ้นตลอดเวลาบริเวณริมถนนสายบ้านแยง-นครไทย หมู่ 9 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จพิษณุโลก ก่อนเข้าตัวอำเภอนครไทย 1 กิโลเมตร ขณะที่มีสุนัขที่เข้าไปบริเวณดังกล่าว ถูกไฟเผาไหม้เสียชีวิตแล้ว 4 ตัว ส่วนผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านจัดสรรที่เดินไปตามสุนัขตกลงไปในหลุมได้รับบาดเจ็บไฟลวกเช่นกัน จนเจ้าหน้าที่ต้องกั้นเชือกและติดป้ายเตือนไม่ให้เข้าใกล้ พร้อมกับส่งตำรวจมารักษาความปลอดภัย เมื่อวันที่ 25 เมษายน








http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1335334418&grpid=03&catid=&subcatid=


ทรัพยากรธรณีบุกพิสูจน์แล้ว! ไฟลุกพื้นดินที่อ.นครไทย เจาะชั้นดินตรวจ ชี้เกิดจากแก๊สมีเทน

วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 16:29:00 น.
Share

สำนักงานทรัพยากรธรณีส่งเจ้าหน้าที่เจาะชั้นดินพิสูจน์หลุมไฟอ.นครไทย จ.พิษณุโลก ระบุเป็นแก๊สมีเทน ไม่มีกลิ่น ติดไฟได้เอง เกิดจากการสะสมของเศษขี้เลื่อยและถ่านเก่า และเจอน้ำท่วมประจำทำให้เกิดปฏิกิริยาลุกเป็นไฟเมื่อเจออากาศร้อน ทั้งนี้ เวลา 13.00 น. วันที่ 25 เมษายน ที่บริเวณหลุมไฟ ม.9 บ้านโนนตะโพน ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ริมถนนบ้านแยง-นครไทย หลังจากเกิดปรากฏการณ์พื้นดินเนื้อที่ประมาณ 1 งาน เกิดไฟลุกไหม้ในชั้นใต้ดิน มีความร้อนระอุ คนและสัตว์ลงไปเหยียบย่ำได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต จนชาวอำเภอนครไทยแตกตื่นกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก

นายสมบุญ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรณี เขต 1 ( ลำปาง ) พร้อมเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรณี ได้ลงมาตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว เพื่อพิสูจน์ทราบว่า บริเวณที่ไฟลุกไหม้ใต้ดินนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร และต้องหาวิธีการจัดการป้องกันแก้ไขอย่างไร เจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรธรณีเขต 1 ลำปาง ได้ใช้เหล็กแหลม ขุดเจาะสำรวจบริเวณดังกล่าว 3 จุดลึกลงไปประมาณ 2 เมตร เพื่อตรวจสอบว่าชั้นใต้ดินว่ามีเชื้อเพลิงอะไรบ้าง โดยขุดเจาะบริเวณที่เกิดไฟลุกไหม้ลงไป 1 จุด เบื้องต้นพบว่า มีชั้นเถ้าถ่าน ที่เป็นเชื้อเพลิงของไฟลุกไหม้หน้าประมาณ 1 เมตร อยู่บริเวณผิวดิน ขณะที่ลึกลงไป เป็นชั้นผิวดินเดิมปกติ และอีก 2 จุด ทำการขุดเจาะบริเวณทุ่งนา รอบ ๆ จุดที่ไฟปะทุใต้ดิน เพื่อนำไปเปรียบเทียบ

นายสมบุญ เปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้อยู่ในพื้นที่เดิมเบื้องต้นทราบว่า พื้นที่ที่ไฟกำลังลุกไหม้ใต้ดินขณะนี้นั้น ในอดีตเคยเป็นเตาเผาถ่านเก่า จำนวน 3 เตา ด้านหลัง เป็นโรงเลื่อยเก่า ในอดีต เคยมีการประกอบกิจการเผาถ่านบริเวณนี้ และมีการนำขี้เลื่อยมาทิ้งไว้ แต่ได้เลิกกิจการเตาเผาถ่านไปนานแล้วร่วม 30 ปี ขณะพื้นที่บริเวณนี้ ได้เกิดน้ำท่วมทุกปี จากน้ำแควน้อยล้นตลิ่งในช่วงฤดูฝน ทำให้เกิดการสะสมของซากพืช ซากสัตว์ และชั้นทราย ชั้นดินไปปิดทับ ทำให้เกิดปฏิกิริยาสันดาป ก่อให้เกิดแก๊สชีวภาพ ที่คาดการณ์เบื้องต้นว่า เป็นแก๊สมีเทน ที่สามารถติดเป็นไฟได้เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เป็นแก๊สที่ไม่มีกลิ่น เป็นธรรมชาติที่เกิดได้ในหลายพื้นที่ ลักษณะคล้าย ๆ กับไฟไหม้ป่าพลุในเขตภาคใต้ ที่จะเกิดไฟลุกไหม้ใต้ดิน

"ในวันนี้ได้เจาะชั้นดิน 3 จุด ทั้งจุดที่ไฟลุกไหม้ และพื้นที่รอบ ๆ เพื่อนำไปพิสูจน์ สถานการณ์ขณะนี้ เชื่อว่ายังคงลุกไหม้ต่อไป และไม่รุนแรง เพียงแต่ต้องกันไม่ให้คนและสัตว์เข้าไปใกล้บริเวณดังกล่าว หรือต้องขุดเปิดหน้าดิน เพื่อให้ไฟได้เผาไหม้ได้หมด และจะดับไปเอง"นายสมบุญระบุ


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1335346097&grpid=03&catid=19&subcatid=1906

.


.

 

ลำปางทุบสถิติปท.ร้อนจัดทะลุ41องศาฯ

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ.2555 14:35น.



จังหวัดลำปาง ร้อนจัด ทะลุ 41 องศาฯ ทุบสถิติสูงสุดของประเทศอีกครัง
สภาพอากาศช่วงเช้าของวันนี้ ในพื้นที่ จ.ลำปาง ท้องฟ้าแจ่มใส่ ดังนั้น จึงทำให้พระอาทิตย์ส่องลงมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้สภาพอากาศในช่วงเช้าของวันนี้ ยังคงเกิดความร้อนอบอ้าว และร้อนจัด ขณะ นายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย รวมถึง จ.ลำปาง ความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนยังปกคลุมประเทศไทยตอนบน มานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว ประกอบกับยังมีลมใต้ พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้าปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้ภาคเหนือมีอากาศร้อน ไปจนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีฟ้าหลัว หรือที่เรียกว่าหมอกแดด จะเกิดขึ้นในตอนกลางวัน

ล่าสุด จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอุณหภูมิสูงสุดของประเทศวานนี้ (24 เม.ย. 55) อยู่ที่ อ.เถิน จ.ลำปาง 41.0 องศาเซลเซียส อ.เมือง 40.7 องศาเซลเซียส ส่วนที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง 40.3 องศาเซลเซียส

 

เกิดพายุไซโคลนรุนแรงมาพร้อมกับลูกเห็บ พัดกระหน่ำ เมือง Tinsukia ประเทศอินเดีย เมื่อช่วงบ่ายวันนี้
มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

A severe cyclone accompanied by heavy hailstorm that reaped through the Tinsukia district in the late afternoon yesterday claimed three lives, besides causing heavy damage to property. More than 40 villages under Kakopathar, Pengeree and Dhola police stations have faced the fury of the cyclone. At Majbari village of Kakopathar, a big tree fell over a nine-year-old girl, Rashmi Moran, who went to witness Gochtol Bihu, killing her instantly. In another incident, one Phuleswer Dohotia (25) of Dirak Mithong under Kakopathar PS received serious head injuries in the hailstorm. He later succumbed to his injuries at Assam Medical College Hospital, Dibrugarh. On the other hand, one Bindesweri Kurmi, a 55-year-old woman of Sonari Gaon, Dhola, is reported to have died when a big tree fell on her. There are reports of injuries to several other people in the areas affected by the cyclone. The cyclone played havoc in the entire areas destroying hundreds of residential houses, animal sheds, granaries, schools and other government buildings. There are reports of heavy losses of livestock and wild animals in the cyclone. The National Highways 37 and 52 have been blocked by uprooted trees for several hours. The power supply and telecommunication system have also been disrupted in the cyclone-affected areas of the district, which are yet to be fully repaired. The exact amount of losses in the cyclone is yet to be assessed.

Our Dibrugarh Staff Correspondent adds: One minor girl was killed and her mother sustained injuries as thunderstorm lashed several villages and tea gardens last night in Tinsukia and Dibrugarh districts. The three-year-old girl Jayshree Minj, daughter of Niren and Juri Minj of Laina tea estate, was injured when a tree branch fell on her. The mother of the child sustained injury while protecting her daughter. The minor girl later succumbed to her injuries at Assam Medical College and Hospital (AMCH). The storm destroyed hundreds of houses, demolished a hospital and a church, besides uprooting trees and disrupting power supply in the two districts. The storm accompanied by rains lasted for about 30 minutes, leaving a trail of destruction in most parts of the two districts with Doomdooma circle in Tinsukia being among the worst hit. A few names of affected villages and tea estates as gathered from several NGO workers are Talap, Dangri, Tezipathar, Katorbasti, Borali, Maithong, Laina, Khobang, Dhola, Haikhati, Ghutung Gaon, Kherbari, Samguri, Kakopathar, Dirak in Tinsukia district. In Laina tea estate alone, some 91 houses were demolished, its hospital roof blown away and a church pulled down. Road communication was severely disrupted in several areas with uprooted trees and electric poles blocking highways and other roads.

Government officials failed to give estimate of the total number of displaced people, affected villages and tea estates since the assessment was being carried out till the time of filing this report and none of the officials could be reached over phone. However, according to Seva Kendra, a Dibrugarh-based NGO whose workers visited the strom-ravaged areas in Tinsukia along with a worker of Carita India, said that around 3,000 people have been rendered homeless. Fr Elias Lugun, Director of Seva Kendra, told The Assam Tribune that most of the displaced people were being sheltered by neighbouring families whose houses were not affected. In some tea estates and villages, affected people constructed tents while a few have taken shelter in schools and churches. In Dibrugarh too, few houses were damaged in JP Nagar area in the city here and about 18 houses were destroyed in Basmatia tea estate, some 22 km from here. According to Rupankar Goswami, Manager of Basmatia TE, the tin roof of the fertilizer godown was completely damaged and the storm also uprooted several shade trees in the tea estate area. A huge tree was also uprooted near the residence of the Superintendent of Police here, causing blockade of the road for hours. Most parts of the district plunged into darkness since midnight yesterday and the powert supply has not been restored till the time of filing this report.

http://www.assamtribune.com/scripts/detailsnew.asp?id=apr2512/state06

 

ชาวอุตรดิตถ์แตกตื่น!! ถนนคอนกรีตระเบิดไม่ทราบสาเหตุ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2555 15:41 น.

       ชาวบ้านเจริญสุข หมู่ 7 ต.หาดหล้า อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ แตกตื่น เมื่อเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายบ้านค่าย-ท่าปลา โดยไม่ทราบสาเหตุ ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงรู้สึกได้ถึงแรงสั่นไหว และเสียงยังดังไกลกว่า 100 เมตร
        จากการตรวจสอบพบถนนบริเวณดังกล่าวร้าวเป็นทางยาว 4 เมตร ลึก 15 เมตร จนเห็นเส้นลวดด้านใน เศษปูนกระจายเกลื่อนพื้น สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน เพราะไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพื่อความปลอดภัย

 

กฟภ.เตือนประชาชน เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า อาจเกิดอัคคีภัย


นายณรงค์ศักดิ์ กำมเลศ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เปิดเผยว่า ในระยะนี้สภาพอากาศร้อน และแห้งแล้ง สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการเกิดเพลิงไหม้ อาคารบ้านเรือนและที่อยู่อาศัย ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาทหากเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงวัสดุอุปกรณ์สายไฟ และหลอดไฟที่อยู่ในสภาพเก่า หรือใช้งานมานานก็ควรเปลี่ยนใหม่ หรือซื้อเครื่องใหม่ โดยอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ จะต้องมี มอก. รับรอง ซึ่งควรเป็นเครื่องที่ประหยัดไฟ และหลังจากการใช้งานให้ถอดปลั๊กเครื่องใช้ฟ้าทุกครั้ง โดยเฉพาะเตารีด กระติกน้ำร้อน และกระทะไฟฟ้า นอกจากนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานและมีความชื้น เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่นหรือตู้เย็น ควรมีการติดตั้งสายดินทุกเครื่อง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

อนึ่ง นอกจากไฟฟ้าแรงต่ำภายในบ้านซึ่งควรใช้อย่างระมัดระวังแล้ว ไฟฟ้าแรงสูงก็มีโอกาสเป็นอันตรายได้เช่นเดียวกัน เช่น การก่อสร้างใกล้สายไฟฟ้าแรงสูงต้องมีที่ครอบสายไฟป้องกันกระแสไฟฟ้าดูด หรือ มีกิ่งไม้ หรือ ว่าว ไปติดสายไฟฟ้าแรงสูง อาจทำให้เกิดไฟฟ้าขัดข้อง หรือสายไฟฟ้าขาดลงมาได้ ซึ่งจะมีอันตรายสูงเช่นเดียวกัน จึงขอให้ประชาชนมีความระมัดระวังให้มากขึ้นด้วย

ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากเมื่อท่านพบเห็นสภาพผิดปกติ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้องและอาจเกิดอัคคีภัยได้ โปรดแจ้งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใกล้บ้านท่านทราบ หรือที่สายด่วน หมายเลข 1129

 

เก็บข้อมูล...ถนนคอนกรีตทรุดระเบิดดังลั่น

ชี้ “ถนนอุตรดิตถ์ระเบิด” ไม่ธรรมดา ใต้ดินมีรอยเลื่อนผ่านเขื่อนยันเมืองปัว <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="40"> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">26 เมษายน 2555 13:53 น.</td> <td align="left" valign="middle">

Share6

</td><td>
</td></tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td>
</td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> อุตรดิตถ์ - ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 รับเหตุถนนคอนกรีตอุตรดิตถ์ระเบิด “ไม่ธรรมดา” ต้องมีการตรวจสอบพิสูจน์ให้ชัดเจน สะพัดพื้นที่เกิดเหตุเป็นรอยต่อรอยเลื่อนผ่านเขื่อนสิริกิติ์ ยาวถึงเมืองปัว

นายสมบุญ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง ซึ่งได้รุดไปตรวจสอบพื้นที่ถนนระเบิดที่บ้านเจริญสุข หมู่ที่ 7 ตำบลหาดล้า อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ในตอนกลางคืน (25 เม.ย.) ตามที่ได้รับแจ้งและไปถึงที่ถนนสายในหมู่บ้านที่มีรอยร้าวของถนนคอนกรีต กว้างประมาณ 18 เซนติเมตร ยาว 12 เมตร มีปูนกะเทาะและลึก 20 เซนติเมตร (รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ และต่อมาราษฎรได้ใช้กรวด-ทรายมาถมรอยแตกเพื่อให้รถสัญจรไปมาได้) กล่าวว่า ตอนแรกก็คิดว่าเป็นรอยแตกเพราะผิวถนนขยายตัว แต่เมื่อไปดูในพื้นที่แวดล้อมนำมาประกอบแล้วเป็นสิ่งที่จะต้องมีการพิสูจน์ ที่ละเอียดอีกที

“พักนี้เกิดเหตุภัยพิบัติขึ้นหลายแห่งในที่แห่งนี้เช่นกันที่เราจะมีการตรวจสอบและพิสูจน์อย่างละเอียดกันก่อน” นายสมบุญ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง กล่าว

นายสมพล พรมเสน ราษฎรที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเล่าให้ฟังว่า มีเสียงระเบิด และเมื่อเข้าไปดูก็พบรอยร้าวดังกล่าว และที่ห่างจากถนนไปประมาณ 30 เมตร พบบ้านนางน้อย สุดทะ มีรอยร้าวและปูนกะเทาะเป็นแนวดิ่งหลายแห่งซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติมาก

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าในพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นรอยต่อ-รอยเลื่อนใต้ดินที่มีแนวยาว ผ่านอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ไปถึงอำเภอปัว จังหวัดน่านด้วย

</td> </tr> </tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="right" height="25" valign="bottom" width="102"></td> <td align="center" background="/images/TabGalleryUBG.gif" height="25" valign="bottom"></td> <td align="left" height="25" valign="bottom" width="11"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" height="7" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="top">
</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="middle" width="33%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom"></td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2"></td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top"></td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="middle" width="33%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom"></td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2"></td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top"></td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom"></td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2"></td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top"></td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline" width="33%">
</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="baseline" width="33%">
</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="baseline">
</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="top">
</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="middle" width="33%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom"></td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2"></td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top"></td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="middle" width="33%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom"></td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2"></td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top"></td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom"></td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2"></td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2"></td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2"></td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top"></td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline" width="33%">
</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="baseline" width="33%">
</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="baseline"> นายสมบุญ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง (เสื้อขาว)</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4"></td> <td align="center" valign="top">
</td></tr></tbody></table>

.

 

พัฒนา “แอป” สำรวจพื้นที่ภัยพิบัติรับมือเครื<WBR>อข่ายล่ม


หากการสื่อสารขัดข้องในช่วง... ภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหว สึนามิ น้ำท่วม ฯลฯ ไม่เพียงแค่คนในครอบครัวจะห่วงใ<WBR>ยญาติมิตรในพื้นที่ประสบภัย แต่การช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็ยั<WBR>งเป็นไปด้วยความยากลำบาก นิสิตเกษตรจึงพัฒนาแอปพลิเคชันท<WBR>ี่ต่อยอดจากการแอปรายงานการจราจ<WBR>ร สู่แอปแจ้งตำแหน่งที่ถูกต้องของ<WBR>ผู้ประสบภัย พร้อมภาพถ่ายของผู้ประสบเหตุ เพื่อสอบถามผู้เชี่ยวชาญในการปฐ<WBR>มพยาบาลเบื้องต้น

ณัฐวุฒิ ถนอมวงษ์ ซึ่งใกล้จะสำเร็จการศึกษาระดับป<WBR>ริญญาตรีจากภาควิชาวิศวกรรมคอมพ<WBR>ิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวกับทีมวิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ว่า ในช่วงเกิดเหตุภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว สึนามิ หรือภัยธรรมชาติอื่นๆ ที่ทำลายโครงสร้างพื้นฐานในการส<WBR>ื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือ อาจส่งผลต่อการเข้าช่วยเหลือผู้<WBR>ประสบภัย เขาจึงพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับสม<WBR>าร์ทโฟนในระบบแอนดรอยด์เพื่อใช้<WBR>สำรวจพื้นที่ ประสบภัย

เขาเล่าแนวคิดให้ฟังว่า หากในพื้นที่ประสบภัยมีการจัดศู<WBR>นย์อพยพ โดยภายในศูนย์มีผู้เชี่ยวชาญด้า<WBR>นสุขภาพหรือแพทย์ และกำหนดให้มีอาสาสมัครออกไปค้น<WBR>หาผู้ประสบภัยตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งแอปพลิเคชันที่เขาพัฒนาขึ้น<WBR>นี้จะช่วยให้อาสาสมัคร หรือทีมกู้ภัยส่งข้อมูลผู้ประสบ<WBR>ภัยไปยังศูนย์อพยพได้ ทั้งตำแหน่งที่ถูกต้องและภาพถ่า<WBR>ยของผู้ประสบภัยเพื่อให้แพทย์ปร<WBR>ะจำศูนย์อพยพ ให้คำแนะนำในการดูแลผู้ประสบภัย<WBR>เบื้องต้น โดยปรากฏข้อมูลของผู้ประสบทั้งต<WBR>ำแหน่งและภาพถ่ายบนแผนที่

แอปพลิเคชันดังกล่าวช่วยสร้าง “เครือข่ายแอดฮ็อก” ที่สมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ ซึ่งรับส่งสัญญาณดาวเทียมจีพีเอ<WBR>ส (GPS) ได้ด้วย สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างสมาร<WBR>์ทโฟนด้วยกันได้ผ่านสัญญาณไว-ไฟ<WBR> ซึ่ง ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เขาต่อยอดการพัฒนาแอปพลิเคชันนี<WBR>้จากโครงการปริญญานิพนธ์ของรุ่น<WBR>พี่ ซึ่งพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้เครื<WBR>อข่ายแอดฮ็อก เพื่อรายงานสภาพจราจร โดยเขาได้พัฒนาแอปพลิเคชันนี้ขึ<WBR>้นมาสำหรับเป็นปริญญานิพนธ์ของเ<WBR>ขาเอง

ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยระหว่างการนำเสนอ<WBR>ผลงานในโครงการ MT^2 (Mobile Technology for Thailand) ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างเข<WBR>ตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์ปาร์ค) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด เมื่อวันที่ 24 เม.ย.55 ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ดูเพิ่มเติม
โดย: สถานี RTV1 สำนักข่าวออนไลน์ 24 ชั่วโมง