WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

B1

สุพรรณโอดหนีน้ำนอนข้างถนน สุดทน เจอสัตว์พิษ-ปลิงเพียบ



วันที่ 16 ก.ยซ นายชัยพร อินทร์ทอง อายุ 31 ปี ชาวอำเภอศรีประจันต์ กล่าวว่าขณะนี้เดือดร้อนมากหลังจากน้ำเข้าท่วมบ้าน และทั้งชีวิตไม่เคยเจอเรื่องอย่างนี้มาก่อน ต้องขนของมาอยู่บนถนน นอนกลางถนน น้ำก็ไหลเข้าท่วมถนนอีก
ฝนก็ตกแทบทุกวันข้าวของเสียหาย ทรัพย์สินเสียหายทั้งหมด ตอนนี้ชาวบ้านขาดห้องน้ำ ที่ทิ้งขยะ ไม่มีที่ทิ้งชาวบ้านก็กองทิ้งกันไว้แมลงวันเริ่มมาก

น้ำเริ่มส่งกลิ่นเหม็น สัตว์มีพิษเริ่มบุกมาที่สูงเหมือนกันเข้าที่นอนวันนี้เจอ 4 ตัว เมื่อวานเจองู ในน้ำเจอปลิงทั้งแบบเล็กแบบใหญ่หลายต่อหลายตัว ลำบากมากตอนนี้เห็นน้ำท่วมบ้านแล้วนั่งร้องไห้เลยต้องเดินลุยน้ำที่รู้ว่ามีปลิงเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินตลอดทั้งวันทั้งคืนใครไม่เป็นเองไม่รู้ไม่เข้าใจ

นางนิตยาสุวรรณรัตน์ อายุ 43 ปีกล่าวว่า ตนปลูกบ้านชั้นเดียวอยู่ข้างบ้านญาติน้ำท่วมเสียหายทั้งหมดขณะนี้เดือดร้อนทำมาหากินไม่ได้ต้องมานอนกลางถนนเหมือนพวกเร่ร่อนตอนนี้ลำบากสุดในชีวิตบนแห้งเจองู ตะขาบ ทุกวันแมลงชนิดต่างๆที่ตามขึ้นมาบนแห้ง ในน้ำเจอปลิงอีกมีหลายหลายขนาด ไม่รู้จะอยู่อย่างไร ต้องใช้รถยนต์ดัดแปลงนำที่นอนขึ้นไปและนอนบนรถเพื่อความปลอดภัย ลูก สามี นอนกันในรถทั้งหมดเพราะนอนที่ถนนก็เจอสัตว์มีพิษกัดเข้าสักวันเจอวันหนึ่งไม่รู้กี่ตัว ลูกไม่ได้ไปโรงเรียนเล่นน้ำก็เจอปลิงอีกไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว

เด็กชายนิธิเสถียรพงษ์เทพ อายุ 7 กล่าวว่าตนไม่ได้ไปโรงเรียนเห็นน้ำท่วมบ้านก็สนุกและเล่นนำทุกวัน แต่ขณะนี้ไม่กล้าลงไปเล่นเพราะเจอปลิงเกาะหลายตัว ตอนแรกไม่รู้จักนึกว่าเศษกิ่งไม้ใบไม้ติดแต่พอรู้ว่าปลิงก็วิ่งหนีกระเจิงมันยืดๆตนล้างเท้ามัน แต่ยังเกาะรองเท้าเลย ตนกลัวไม่กล้าลงน้ำแล้ว อยากอยู่บนที่แห้งก็เจอตัวตะขาบอีก งูก็มี ตนกลัว อยากกลับไปอยู่ในบ้านแล้วเมื่อไรน้ำจะแห้งสักที ตนอยากไปโรงเรียนแล้ว

 

B1

พิจิตรผวา จระเข้โผล่กัดกินสัตว์เลี้ยง ชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้าน



วันที่ 16 ก.ย.สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่จังหวัดพิจิตรวิกฤตหนัก โดยเฉพาะเส้นทางคมนาคมแทบจะทุกชนิด ทุกเส้นทางถูกน้ำท่วมสูงและบางจุดถูกตัดขาดจำนวนมาก โดยรถไฟสายเหนือทั้งขบวนขาขึ้นขบวนขาล่องระหว่างสถานีบ้านท่าฬ่อ ถึงสถานีพิจิตร และจากสถานีพิจิตรไปถึงสถานีตะพานหิน

สถานีบางมูลนาก มีน้ำท่วมสันรางเป็นช่วงๆตลอดเส้นทางสูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร ทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต้องสั่งรถไฟสายเหนือทุกขบวนชะลอความเร็วการเดินรถไฟลงต่ำสุดเหลือเพียง 5กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้การเดินรถทุกขบวนล่าช้าออกไปจากเดิมเกือบ 5 ชั่วโมงต่อขบวน

ขณะที่เส้นทางหลวงแผ่นดินสายหลักมุ่งสู่ตัวเมืองพิจิตรทุกเส้นทางถูกน้ำท่วมสูงและถูกตัดขาดสัญจรไปมาไม่ได้หลายเส้นทางทางหลวงแผ่นดิน 12 เส้นทาง โดยเฉพาะทางหลวง 113 พิจิตร-ตะพานหิน และตะพานหิน- เขาทราย ,หมายเลข 1118 ตะพานหิน – บางมูลนาก, หมายเลข 115 พิจิตร-สากเหล็ก ,หมายเลข 1067 โพธิ์ไทรงาม –โพทะเล ฯลฯ นอกจากนี้ ทางหลวงชนบทอีก 24 เส้นทาง ฯลฯ รวม 128 เส้นทาง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เหลือเส้นทางเดียวที่เข้าสู่ตัวเมืองพิจิตรที่สะดวกและไม่มีน้ำท่วมคือ แยกจากทางหลวงหมายเลข 117 ถนนสายนครสวรรค์- พิษณุโลก บริเวณแยกปลวกสูงเข้าหมายเลข 115 ผ่านอำเภอสามง่าม เข้าสู่ตัวเมืองพิจิตรได้

ล่าสุด ชาวบ้านบ้านไดชุมแสง ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมืองพิจิตรออกไปหาปลา พบจระเข้ขนาด 1—2 เมตร โผ่ ลอยตัว ไล่กัดกินสัตว์เลี้ยงชาวบ้านอีกที่บ้านเนินทราย –ไดชุมแสง ตำบลบ้านบุ่ง ทำให้ชาวบ้านผวา ไม่กล้าออกไปหาปลา เด็ก หรือชาวบ้านไม่กล้าลงไปเล่นน้ำ อีกทั้งชาวบ้านไม่กล้าออกไปไล่ล่า

ด้าน นายมนตรา บุญเรือง ผู้ใหญ่บ้าน หมูที่ 6 ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมืองพิจิตร กล่าวว่า ล่าสุด มีจระเข้ซึ่งน่าจะ เป็นของ ชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ ในตำบลบ้านบุ่ง กล่าวว่าน่าจะ หลุดออกมาเนื่องจาก มีชาวบ้านที่ส่วนส้ม ออกไปหาปลาแล้วเจอจระเข้ลอยตัวเหนือน้ำ ซึ่งอยากให้ประมงเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านนั้นไม่กล้าออกไปหาปลา เนื่องจากหวาดกลัว เพราะ เกรงว่ามันจะหิวแล้วกัด กินคนสัตว์เลี้ยงเป็นอาหาร
นอกจากนี้ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนในเรื่องถนนหนทางถูกตัดขาด น้ำท่วม จนติดเกาะ ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ต้องใช้เรือ ปรากฏว่าทางโรงเรียนหลายแห่งจังหวัดพิจิตรไม่ปิด ทำให้การ ไปมาของนักเรียนที่อยู่รอบนอกไปมาด้วยความลำบากซึ่งเกรงว่าจะได้รับอีนตรายเพราะน้ำท่วมสูง ชาวบ้านบางราย พายเรือถึง 2 -3 กม.กว่าจะมาขึ้นรถ

 

ฺB1

นนทบุรี-6 ตำบลน้ำท่วมแล้ว



แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มทะลักเข้าท่วม 6 ตำบลในอำเภอเมืองนนทบุรี บ้านเรือนบางหลังและวัด 10 แห่ง ได้รับความเสียหาย ขณะที่ชาวบ้านริมน้ำเจ้าพระยา วอนเรือด่วนและเรือน้ำมันลดความเร็ว หวั่นคลื่นกระแทกตลิ่งพัง

จากการเปิดเผยของ นายนิยม ประสงค์ชัยกุล รองนายกเทศมนตรีนครเมืองนนทบุรี และ ส.จ.วิรัช เกียรติสันติกุล จังหวัดนนทบุรี เปิดเผย หลังพาทีมข่าวลงเรือตรวจระดับน้ำริมฝั่งเจ้าพระยาว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำมาเร็วกว่าปกติ โดยพบว่าชุมชนใน 6 ตำบล ที่อาศัยริมฝั่งเจ้าพระยาได้รับความเสียหายบางส่วนแล้ว ซึ่งชุมชนตลาดขวัญ ตำบลสวนใหญ่ ได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่มีบ้านสูง 2 ชั้นก็จะอพยพไปอยู่ชั้น 2 แต่บางคนที่บ้านเพียงชั้นเดียวก็จะต้องหาที่อยู่ใหม่ให้ โดยหน่วยงานเทศบาลของจังหวัดจะเข้าไปดูแลที่สำคัญยังพบว่าวัดวาอาราม ได้รับความเสียหายถึง 10 วัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัดเดิมที่เคยได้รับผลกระทบ แต่ปีนี้ได้รับผลกระทบหนักกว่าทุกปี เนื่องจากระดับน้ำสูงพระภิกษุ สามเณร ต้องใช้เรือสัญจรทางน้ำแทน บางส่วนไม่สามารถออกมาบิณฑบาต

ขณะที่ชาวบ้านริมฝั่งเจ้าพระยา วอนคนขับเรือด่วน และเรือน้ำมัน ที่แล่นทั้งกลางวันกลางคืนลดความเร็วลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคลื่นลูกใหญ่กระแทกตลิ่งบ้านเรือนพังเสียหาย ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมภัยน้ำท่วม ทำให้หลายคนเครียดนอนไม่หลับ ยอมรับว่าปีนี้น้ำท่วมหนักมาก กังวลว่าจะออกจากบ้านไม่ทันหากน้ำมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคุณป้าพรรณี เขตนนท์ วัย 64 ปี ที่เอ่ยปากหากหน่วยงานราชการหาที่อยู่ใหม่ให้ได้ก็จะขอออกไปอยู่เป็นการชั่วคราว เพราะกลัวน้ำเหนือที่จะหลากลงมาในวันที่ 17-20 กันยายน นี้

 

ฺB1

เตือนระวัง! แก๊งช็อตไฟฟ้าอาละวาด ตระเวนปล้นทรัพย์ทั่วกรุง



ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

การแจ้งเตือนให้ระวังภัยแก๊งช็อตไฟฟ้าครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากน.ส.หงษ์ พูลทองดี อายุ 20 ปี ผู้เสียหายถูกแก๊งดังกล่าวรุมทำร้ายและชิงทรัพย์ ที่บริเวณเชิงสะพานข้ามแยกบางปะแก้ว ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตจอมทอง กทม. เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา

โดยน.ส.หงษ์ เผยว่า ในระหว่างที่ตนกำลังขี่รถกลับบ้านนั้นจู่ๆ ก็มีวัยรุ่นประมาณ 10คนขี่มอร์ไซค์มาล้อม และบังคับให้ตนส่งของมีค่าให้ แต่ตนไม่ยอมจึงพยายามขับหนี ทำให้กลุ่มคนร้ายใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า จี้เข้าที่หน้าท้องจนชา จากนั้นคนร้ายได้ใช้มีดรุมฟันตนจนบาดเจ็บ พร้อมกับพูดเชิงขู่ว่า คิดหนี ต้องโดนอย่างนี้ ก่อนจะชิงรถจยย.ของตนขี่หลบหนีไป

อย่างไรก็ดีในคืนวันเดียวกันนายภาณุพงษ์ แสงคำ อายุ 18 ปี และเพื่อน ก็ถูกทำร้ายโดยกลุ่มคนที่มีลักษณะและวิธีการชิงทรัพย์แบบเดียวกันและถูกชิงรถจักรยานยนต์ไปด้วย ที่บริเวณริมถนนบางบอน 3 แขวงและเขตบางบอน ในท้องที่ สน.บางบอน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองท้องที่ได้เผยว่าแก๊งดังกล่าวได้ออกอาละวาดมานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ โดยคนร้ายจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงและมักจะขี่รถจักรยานยนต์คนเดียว ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงอยากเตือนให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา และเฝ้าระมัดระวังภัยในลักษณะดังกล่าวด้วย

เบื้องต้นเตรียมสอบสวนผู้บาดเจ็บและพยานแวดล้อมอีกครั้งเพื่อเร่งติดตามแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีต่อไป เพราะได้ก่อเหตุอุกอาจมาแล้วหลายท้องที่ ทั้งสน.ประชาชื่น สน.บางเสาธง สน.บางพลัด สภ.บางกรวย และล่าสุด สน.ทุ่งมหาเมฆ

 

ฺB1

น้ำท่วมชัยภูมิ 6อำเภออ่วม ปิดถนนสายชัยภูมิ-นครสวรรค์สะพานเชื่อม 2อ.พัง

น้ำท่วมชัยภูมิ ทวีความรุนแรงขึ้น หลังน้ำชีไหลทะลักเข้าท่วม 6 อำเภอ สะพานเชื่อมพังเสียหายจนต้องปิดถนนสายชัยภูมิ-นครสวรรค์ ยาวกว่า 29 กม.



ซากสะพานที่เชื่อมระหว่าง อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเหลือเพียงตอหม้อ หลังถูกน้ำชีไหลเข้าท่วมอย่างรุนแรง ส่งผลให้สะพาน ถูกน้ำพัดพังเสียหายทั้งหมด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ ได้สั่งปิดถนนทุกสายในอำเภอบ้านเขว้า เนื่องจากถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะเส้นทางจากอำเภอบ้านเขว้า ไปยังจังหวัดนครสวรรค์ ระยะทางยาวกว่า 29 กิโลเมตร ซึ่งประชาชน จะต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางผ่านอำเภอจัตุรัส เพื่อความปลอดภัย

ทั้งนี้ ปริมาณน้ำชี ที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ยังทำให้บ้านเรือนประชาชนกว่า 1,000 ครัวเรือน ในตำบลลุ่มลำชี อำเภอบ้านเขว้า ถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้าน ต้องอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของตัวบ้าน ซึ่งมีรายงานว่า ชาวบ้านบางส่วนใน ตำบลตลาดแร้ง ได้หนีน้ำขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ และถูกน้ำพัดไหลไปตามกระแสน้ำ 3 คน โชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือไว้ทั้งหมดจึงไม่มีผู้เสียชีวิต

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดชัยภูมิ ขณะนี้มีพื้นที่น้ำท่วมแล้ว 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองชัยภูมิ อ.บ้านเขว้า อ.จัตุรัส อ.หนองบัวระเหว อ.ภักดีชุมพล และอ.หนองบัวแดง รวมพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่าแสนไร่ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทั้งหมดแล้ว

 

ฺB1

วัดริมน้ำเจ้าพระยาสร้างแนวกั้นรับน้ำท่วม

ข่าวสังคม วันศุกร์ที่ 16 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 16:48 น.



วัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จ.นนทบุรี ยังไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เนื่องจาก มีการสร้างแนวกั้น รับมือไว้แล้ว


จากการสำรวจวัดที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองต่าง ๆ ล่าสุด พบว่ายังไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เนื่องจากมีการทำแนวคันการกั้นน้ำ เพื่อป้องกันเอาไว้แล้ว โดยล่าสุด วัดเขมาภิรัติการามวรวิหาร ซึ่งถือเป็นวัดโบราณ
และพระอารามหลวง ชั้นโท ที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ได้มีการสร้างแนวคันกั้นน้ำด้วยกระสอบทรายสูง 5 ชั้น อีกทั้ง ยังได้นำไม้มาตีประกบ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับแนวกั้น จึงทำให้พระภายในวัด มั่นใจว่า น้ำจะไม่ไหลเข้ามา ขณะเดียวกันที่ วัดชลอ ซึ่งเป็นวัดที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย และมีพระอุโบสถ อายุมากกว่า 450 ปี ล่าสุด แม้ว่าจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้นำเครื่องสูบน้ำและกระสอบทราย มาปิดกั้นบริเวณด้านหลังของวัด ซึ่งติดกับคลองบางกรวย เพื่อป้องกันน้ำที่จะเอ่อล้นตลิ่งเอาไว้แล้วด้วย

Link : http://www.innnews.co.th/วัดริมน้ำเจ้าพระยาสร้างแนวกั้นรับน้ำท่วม--308642_03.html

 

B1

เผยถนนน้ำท่วม 73 เส้นทางรวม 77 แห่ง ผ่านไม่ได้ 21 แห่ง



กรมทางหลวงรายงานข้อมูล ล่าสุดวันนี้(16 ก.ย.54 )มีถนนของกรมทางหลวงที่ถูกน้ำท่วมใน 18 จังหวัด รวมแล้ว 73 เส้นทาง 77 แห่ง ผ่านไม่ได้รวมทั้งสิ้น 21 แห่ง แนะนำตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง



ศูนย์บริหารงานอุบัติภัย กรมทางหลวง สรุปรายงานการเกิดอุทกภัย ประจำวันที่ 16 กันยายน 2554 ณ เวลา 09.00 น. ระบุว่า จากสภาวะอุทกภัยในปัจจุบัน มีสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ 18 จังหวัด ท่วมเส้นทางคมนาคมของกรมทางหลวง จำนวน 73 สายทาง จำนวนรวม 77 แห่ง ผ่านได้ 56 แห่ง, ผ่านไม่ได้ 21 แห่ง ดังนี้

ภาคเหนือ

1. สุโขทัย

1.เส้นทางหมายเลข 12 "วังวน-สุโขทัย” ท้องที่อำเภอเมืองที่กม. 164-166 ระดับน้ำสูง 10 ซม. (ยังผ่านได้) แขวงฯสุโขทัย055-611-258" 2. เส้นทางหมายเลย101 "สุโขทัย-สวรรคโลก “ท้องที่อำเภอเมืองที่กม. 35-36 ระดับน้ำสูง 25 ซม. (ผ่านได้)

3.ทางหลวงหมายเลข 1056 "ศรีสำโรง-เขาดิน” ท้องที่อำเภอศรีสำโรงที่กม. 0-14 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 10-25 ซม.(ผ่านได้) 4. ทางหลวงหมายเลข 1195 "สวรรคโลก-สุโขทัย ท้องที่อำเภอเมืองที่กม. 30-31 ระดับน้ำสูง 25 ซม.(ผ่านได้)

5.ทางหลวงหมายเลข1293 "สุโขทัย-พิษณุโลก ท้องที่อำเภอเมืองที่กม. 8-11 ระดับน้ำสูง 45 ซม. (ผ่านไม่ได้) ใช้ทาง ทช.แทน

2. พิจิตร (ประชาชนร้องเรียน ภรรยาผู้ว่า พาข้าราชการระดับสูงไปเที่ยวบาหลี การช่วยเหลืออาจจะล่าช้า)

6.ทางหลวงหมายเลข111 "สากเหล็ก-พิจิตร” ท้องที่อำเภอเมืองที่กม.14-16 ระดับน้ำสูง 25 ซม. / "แขวงฯพิจิตร056-697-016" 7.ทางหลวงหมายเลข113 "บึงสามพัน-ตะพานหิน” ท้องที่อำเภอตะพานหินที่กม.0-3 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 20 ซม. (ผ่านได้)

8,ทางหลวงหมายเลข…”บางมูลนาก-พิจิตร” ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม. 14-18 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 30 ซม.(ใช้การไม่ได้) ใช้ทางทช,แทน

9.ทางหลวงหมายเลข1067 "บางมูลนาก-โพทะเล ท้องที่อำเภอโพทะเลที่กม.19-20 ระดับน้ำสูง 15 ซม.(ผ่านได้)

10.ทางหลวงหมายเลข1068 "วังจิก-ไผ่ท่าโท ท้องที่อำเภอโพธิ์ประทับช้างที่กม.7 -10 ระดับน้ำสูง 30 ซม.(ใช้การไม่ได้) ใช้ทาง ทช.

11.ทางหลวงหมายเลข1069 "เนินมะกอก-บางมูลนาก ท้องที่อำเภอบางมูลนากที่กม.0-3 เป็นแห่งๆระดับน้ำสูง 25ซม.

12.ทางหลวงหมายเลข1118 "ตะพานหิน-บางมูลนาก” ท้องที่อำเภอตะพานหินที่กม.0-23 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15-50 ซม. (ผ่านไม่ได้)ใช้ สาย 11 ทับคล้อ-สากเหล็ก แทน

13.ทางหลวงหมายเลข1221 "พิจิตร-พิษณุโลก ท้องที่อำเภอเมืองที่กม.7-8 ระดับน้ำสูง 25 ซม.ผ่านได้

14.ทางหลวงหมายเลข1289 "วังสำโรง-บางลาย ท้องที่อำเภอบึงนารางที่กม.9-10 ระดับน้ำสูง 25 ซม.

15.ทางหลวงหมายเลข1304 "หัวดง-ยางสามต้น ท้องที่อำเภอเมืองที่กม.2-6 ระดับน้ำสูง 50 ซม. (ผ่านไม่ได้)

ใช้สาย 1110 สากเหล็ก-พิจิตร แทน

16.ทางหลวงหมายเลข1313 "บางมูลนาก-ตะพานหิน ท้องที่อำเภอบางมูลนากที่กม.11-14 ระดับน้ำสูง 35-60 ซม. (ผ่านไม่ได้)ใช้สาย 1118 ตะพานหิน-สากเหล็ก

3. พิษณุโลก

17.ทางหลวงหมายเลข1065 "บางระกำ-บ่อทอง ท้องที่อำเภอบางระกำที่กม.0-7 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม. ผ่านได้

18.ทางหลวงหมายเลข1114 "สันติบันเทิง-บางกระทุ่ม ท้องที่อำเภอบางกระทุ่มที่กม.13-15 ระดับน้ำสูง 10 ซม.ผ่านได้

19.ทางหลวงหมายเลข1221 "พิจิตร-ท่ามะขาม ท้องที่อำเภอบางกระทุ่ม ที่กม.13-14 ระดับน้ำสูง 20 ซม.

20.ทางหลวงหมายเลข1275 "ท่าช้าง-พรหมพิราม ท้องที่อำเภอพรหมพิรามที่กม.2-3 ระดับน้ำสูง 70 ซม. (ผ่านไม่ได้)ใช้สาย 1086 พิษณุโลก-วัดโบสถ์ แทน

21.ทางหลวงหมายเลข1281 "บางระกำ-บ่อทอง ท้องที่อำเภอบางระกำที่กม.0-1 ระดับน้ำสูง 15 ซม. ผ่านได้

4. เพชรบูรณ์

22.ทางหลวงหมายเลข 21 "เลี่ยงเมืองหล่มสัก ท้องที่อำเภอหล่มสักที่กม.9-10 ระดับน้ำสูง 40 ซม.(ผ่านไม่ได้)

ใช้สาย 21 เพชรบูรณ์-หล่มสัก แทน

23.ทางหลวงหมายเลข203 "หล่มสัก-หล่มเก่า ท้องที่อำเภอหล่มสักที่กม.140-144 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 20 ซม.

24.ทางหลวงหมายเลข2181 "ปากห้วยขอนแก่น-หล่มสัก ท้องที่อำเภอหล่มสักที่กม. 1-6 ระดับน้ำสูง 50 ซม.ผ่านไม่ได้ ให้ใช้สาย 12 แคมป์สน-น้ำหนาว

25.ทางหลวงหมายเลข2326 "ห้วยใหญ่-เพชรบูรณ์ ท้องที่อำเภอเมืองที่กม.51-52 ระดับน้ำสูง 20 ซม.

26ทางหลวงหมายเลข2275 "นาป่า-เพชรบูรณ์ ท้องที่อำเภอเมืองที่กม.117-122 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม.

ภาคกลาง 5. 5.นครสวรรค์

27.ทางหลวงหมายเลข 122 "ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันตก ท้องที่อำเภอเมืองที่กม.0-3 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40-50 ซม. ผ่านไม่ได้ ใช้สาย 1 พยุหะคีรี-นครสวรรค์

28.ทางหลวงหมายเลข225 "ปากน้ำโพ-นครสวรรค์ ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม.1-10 เป็นแห่งๆระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้สาย 3004 นครสวรรค์-ท่าตะโก ผ่านได้

29.ทางหลวงหมายเลข1072 "ลาดยาว-วังซ่าน ท้องที่อำเภอลาดยาวที่กม.12-29 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม. ผ่านได้

30.ทางหลวงหมายเลข1073 "บรรพตพิสัย-พิจิตร ท้องที่อำเภอบรรพตพิสัยที่กม.0-11 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 10-25 ซม. ผ่านได้

31. ทางหลวงหมายเลข1084"ป่าแดง-บรรพตพิสัย ท้องที่อำเภอเมืองที่กม.47-52 ระดับน้ำสูง 50 ซม.ผ่านไม่ได้ ใช้ทาง ทช.

32.ทางหลวงหมายเลข "บรรพตพิสัย-ขาณุวรลักบุรี ท้องที่อำเภอบรรพตพิสัยที่กม.22-24 ระดับน้ำสูง 25 ซม. ผ่านได้

33.ทางหลวงหมายเลข1182 "นครสวรรค์-บรรพตพิสัย ท้องที่อำเภอบรรพตพิสัยที่กม.32-33 ระดับน้ำสูง 15 ซม. ผ่านได้

34.ทางหลวงหมายเลข 3005 "ทาตากุ๋ย-โกรกพระ ท้องที่อำเภอเมืองที่กม. 1-2 ระดับน้ำสูง 25 ซม. ผ่านได้

35.ทางหลวงหมายเลข 3013 "อุทัยธานี-ลาดยาว ท้องที่อำเภอลาดยาวที่กม. 43-44 ระดับน้ำสูง 20 ซม. ผ่านได้

36.ทางหลวงหมายเลข3319 "โกรกพระ-อุทัยธานี ท้องที่อำเภอโกรกพระที่กม. 0-2 ระดับน้ำสูง 25 ซม. ผ่านได้

37.ทางหลวงหมายเลข3522 "ทางแยกเข้าพยุหะคีรี ท้องที่อำเภอพยุหะคีรีที่กม. 2-4 ระดับน้ำสูง 25 ซม. ผ่านได้

38.ทางหลวงหมายเลข1118 "พิจิตร-ชุมแสง ท้องที่อำเภอชุมแสง ที่กม.17-19 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ผ่านได้

39.ทางหลวงหมายเลข 3004 "ไพศาลี-วังพิกุล ท้องที่อำเภอไพศาลีที่กม. 26-27 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ผ่านได้

40.ทางหลวงหมายเลข 3475 "ทับกฤช-พนมรอก ท้องที่อำเภอชุมแสง ที่กม. 0-12 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 30-50 ผ่านไม่ได้

6. พระนครศรีอยุธยา

41.ทางหลวงหมายเลข3412 "อยุธยา-บางบาล ท้องที่อำเภอบางบาลที่กม.7-8 ระดับน้ำสูง 20 ซม. ผ่านได้

42.ทางหลวงหมายเลข3454 "หน้าโคก-เสนา ท้องที่อำเภอเสนา ที่กม.92-93 ระดับน้ำสูง 25 ซม.ผ่านได้

43.ทางหลวงหมายเลข "โพธิ์ทอง-หน้าโคก ท้องที่อำเภอผักไห่ที่กม.86-87 ระดับน้ำสูง 20 ซม.ผ่านได้

7. สิงห์บุรี

44.ทางหลวงหมายเลข 309 "พระงาม-พรหมบุรี ท้องที่อำเภอพรหมบุรีที่กม.78-82 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม.ผ่านได้

45.ทางหลวงหมายเลข311 "สิงห์บุรี-ชัยนาท ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม.6-9เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 30 ซม. ผ่านไม่ได้ ใช้สาย 3030 บางระจัน-สิงห์บุรี

46.ทางหลวงหมายเลข3030 "สิงห์บุรี-บางระจันท้องที่อำเภอเมืองที่กม.0-1 ระดับน้ำสูง 50 ซม.

ใช้สาย 32 เอเซีย ผ่านได้

47.ทางหลวงหมายเลข3033 "บางา-พรหมบุรี ท้องที่อำเภอพรหมบุรีที่กม.1-10 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 30 ซม.

ใช้สาย 32 เอเซีย ผ่านได้

8. ลพบุรี

48.ทางหลวงหมายเลข 1 "วงเวียนเทพสตรีลพบุรี-โคกสำโรง ท้องที่อำเภอโคกสำโรงที่กม.155-184 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 10 ซม. ผ่านได

49.ทางหลวงหมายเลข 205 "บ้านหมี่-โคกสำโรง ท้องที่อำเภอบ้านหมี่ที่กม. 15-16 ระดับน้ำสูง 25 ซม.ผ่านได้

50.ทางหลวงหมายเลข 3019 "เขาพระงาม-โคกกระเทียม ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม. 1-2 ระดับน้ำสูง 25 ซม." ผ่านได้

51.ทางหลวงหมายเลข3024 "บ้านหมี่-เขาช่องลม ท้องที่อำเภอบ้านหมี่ ที่กม. 6-7 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ใช้สาย 1 โคกสำโรง-ลพบุรี"ผ่านได้

9. สระบุรี

52.ทางหลวงหมายเลข1 "สระบุรี-หนองแค ท้องที่อำเภอเมืองที่กม. 99-103 เป็นแห่งๆ(ทางขนานขาเข้ากรุงเทพ) ระดับน้ำสูง 10-25 ซม."ผ่านได้

53.ทางหลวงหมายเลข2 สระบุรี-มวกเหล็ก ท้องที่อำเภอเมืองและอำเภอแก่งคอย ที่กม. 1-21 เป็นแห่งๆ(ทางขนานขาเข้า กทม.) ระดับน้ำสูง 15 ซม.ผ่านได้

54.ทางหลวงหมายเลข362 วงแหวนรอบเมืองสระบุรีด้านตะวันออก ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม. 30-31 ระดับน้ำสูง 15 ซม.ผ่านได้

55.ทางหลวงหมายเลข 3020 "พระพุทธบาท-หนองแค” ท้องที่อำเภอพระพุทธบาท ที่กม. 6-7 ระดับน้ำสูง 25 ซม.ผ่านได้

56.ทางหลวงหมายเลข 3222 "แก่งคอย-นครนายก ท้องที่อำเภอแก่งคอย ที่กม. 4-5 ระดับน้ำสูง 10 ซม.ผ่านได้

10. ชัยนาท

57.ทางหลวงหมายเลข 311 "สิงห์บุรี-ชัยนาท ท้องที่อำเภอสรรพยาที่กม.26-31 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม.ผ่านได้

11. ปทุมธานี

58.ทางหลวงหมายเลข 3100 "ปทุมธานี-บ้านใหม่ ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม.1-2 ระดับน้ำสูง 10 ซม.ผ่านได้

59.ทางหลวงหมายเลข 3309 "ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร-สามโคก ท้องที่อำเภอสามโคกที่กม.28-32 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม.ผ่านได้

12. อ่างทอง

60.ทางหลวงหมายเลข 309 "อยุธยา-อ่างทอง ท้องที่อำเภอป่าโมกที่กม.42-54 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 10-20 ซม.ผ่านได้



61.ทางหลวงหมายเลข 334 "บางแก้ว-อ่างทอง ท้องที่อำเภอเมืองที่กม.3-4 ระดับน้ำสูง 15 ซม.ผ่านได้

62.ทางหลวงหมายเลข 3501 "อ่างทอง-อยุธยา ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม. 4-11 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม.ผ่านได้

13. ตราด

63.ทางหลวงหมายเลข 3158 "พนมพริก-นาวง ท้องที่อำเภอเขาสมิงที่กม 9-10 ระดับน้ำสูง 30 ซม.

ใช้สาย 3157 ท่าจอด-ช้างทูน ผ่านได้

14. สุพรรณบุรี

64.ทางหลวงหมายเลข 340 "ทางแยกเข้าสุพรรณบุรี ท้องที่อำเภอเมืองที่กม 0-1 ระดับน้ำสูง 40 ซม.ผ่านไม่ได้

ใช้ 340 ทางเข้าสุพรรณบุรี(สายเก่า)แทน

65.ทางหลวงหมายเลข "สุพรรณบุรี-ศรีประจันต์ (สายเก่า) ท้องที่อำเภอเมืองที่กม 1-9 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 10-15 ซม.ผ่านได้

66.ทางหลวงหมายเลข 3350 "ท่าช้าง-สระบัวก่ำ ท้องที่อำเภอเดิมบางนางบวชที่กม 26-27 ระดับน้ำสูง 20 ซม.ผ่านได้

67.ทางหลวงหมายเลข 3351 "บ้านเก้าห้อง-บางแม่หม้าย ท้องที่อำเภอบางปลาม้า

ที่กม 6-11 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม.ผ่านได้

68.ทางหลวงหมายเลข 3487 "วัดป่า-โพธิ์พระยา ท้องที่อำเภอเมืองที่กม 6-10 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15-20 ซม.ผ่านได้

69.ทางหลวงหมายเลข 3507 "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ-โพธิ์พระยา ท้องที่อำเภอเมืองที่กม 0-5 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม.ผ่านได้

15. อุทัยธานี

70.ทางหลวงหมายเลข 3265 "อุทัยธานี-มโนรมย์ ท้องที่อำเภอเมืองที่กม 1-7 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม.ผ่านได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

16. ปราจีนบุรี

71.ทางหลวงหมายเลข 319 "ปากพลี-ศรีมหาโพธิ ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม.152-153 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ผ่านได้

72.ทางหลวงหมายเลข 3069 "ปราจีนบุรี-ศรีมหาโพธิ ท้องที่อำเภอเมืองที่กม.0-12 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 10 ซม. ผ่านได้

73.ทางหลวงหมายเลข 3076 "บ้านสร้าง-นครนายก ท้องที่อำเภอบ้านสร้างที่กม.0-1 ระดับน้ำสูง 25 ซม. ผ่านได้

74.ทางหลวงหมายเลข 3293 "ปราจีนบุรี-บ้านสร้าง ท้องที่อำเภอบ้านสร้างที่กม.7-10 ระดับน้ำสูง 25 ซม. ผ่านได้

17.ชัยภูมิ

75.ทางหลวงหมายเลข 225 "กิ่วเขา-วังกะทะหุบโพธิ์ ท้องที่อำเภอเทพสถิต ที่กม.153-155 ระดับน้ำสูง 50-80 ซม. ผ่านไม่ได้ ใช้สาย 201 ชัยภูมิ-หนองบัวโคก แทน

76.ทางหลวงหมายเลข 2359 "หนองบัวแดง-วังใหญ่ ท้องที่อำเภอหนองบัวแดง ที่กม.16-17 ระดับน้ำสูง 70 ซม.ผ่านไม่ได้ ใช้ทางของ ทช.

18. สระแก้ว

77.ทางหลวงหมายเลข 33 "ปราจีนบุรี-สระแก้ว ท้องที่อำเภอเมือง ที่กม.235-237 ระดับน้ำสูง 25 ซม.ผ่านได้

เผยถนนน้ำท่วม 73 เส้นทางรวม 77 แห่ง ผ่านไม่ได้ 21 แห่ง

 

B1

ย้อนดูน้ำท่วมกรุงเทพฯ ปี 2485 และ ปี 2538

ถ้อยคำบางส่วนจากบทนำในหนังสือ "เหตุการน์น้ำท่วม พ.ส.2485" ของ กระซวงมหาดไทย (กระทรวงมหาดไทย) ที่บันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

น้ำท่วมกรุงครั้งนั้น ได้ถูกจารึกไว้ว่า เป็นอุทกภัยครั้งใหญ่ ที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 เมื่อครั้งที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะมีการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์

ปี 2538 เป็นอีกครั้งหนึ่งที่กรุงเทพฯประสบกับน้ำท่วม ในช่วงที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ยังเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร น้ำเหนือหลากท่วมอยุธยา ปทุมธานี หมู่บ้าน White House ตอนเหนือของกรุงเทพฯ น้ำท่วมร่วม 2 เดือน












ภาพจำลองน้ำท่วมกรุงเทพ 2 เมตร

http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=195889.0

 

ฺB1

อุบลฯอ่วม น้ำท่วมถนนเชื่อมหมู่บ้านขาดเป็นระยะ ทหารจ่อเข้าช่วยซ่อมแซม

16 กย. 2554 12:49 น.


ฝนที่ตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี นอกจากนี้น้ำจากลำห้วยโดม ได้ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมสะพาน และถนนทางเข้าหมู่บ้านต่างๆ ระยะทางยาวร่วม 1 กิโลเมตร น้ำไหลเชี่ยวแรงทำให้สัญจรไปมาอย่างยากลำบาก
นายสุทัศน์ เรืองศรี รองนายก อบจ.อุบลราชธานี กล่าวว่า หลังน้ำลด อบจ.จะได้ประสานกับทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่(นพค.) 56 ทำการซ่อมแซมสะพาน ส่วนการยกระดับถนนจะนำไปหารือต่อคณะบริหาร อบจ.อุบลฯ เพื่อจัดสรรงบประมาณมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในระยะยาว สำหรับการช่วยเหลือชาวบ้านล่าสุด พ.อ.อัครภณ ทองสุทธิ์ ผบ.นพค.56 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้นำกำลังพล เรือท้องแบน จำนวน 2 ลำ พร้อมทั้งรถขนย้ายอุปกรณ์เข้าทำการช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาว อ.นาเยียแล้ว เป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น
ส่วนที่ประสบอุทกภัยถนนถูกตัดขาด ระยะทางเป็นช่วง ๆ จากบ้านนาเยีย ถึง บ้านนาจาน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 4 หมู่บ้าน คือ บ้านนากระชุม บ้านนาจาน บ้านแก่งยาง และบ้านโนนสมบูรณ์ ทุ่งนาได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมกว่า 300 ไร่ โรงเรียนได้รับความเสียหาย 2 โรง โดยเฉพาะบ้านโนนสมบูรณ์ ราษฎรไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร ต้องใช้เรือจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 ในการเข้าออกหมู่บ้าน ราษฏรได้รับความเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือน
พร้อมกันนี้ทางหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 ได้ร่วมกับนายสุทัศน์ เรืองศรี รองนายก อบจ.อุบลราชธานี ลงเรือสำรวจสภาพน้ำท่วมของบ้านโนนสมบูรณ์ และได้นำถุงยังชีพพร้อมน้ำดื่ม 50 ชุด มอบให้แก่ราษฎรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว
พ.อ.อัครภณ กล่าวว่า จะเข้าซ่อมแซมถนนให้ชาวบ้านเมื่อระดับน้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงจะเข้าดำเนินการได้ทันที แต่ในปัจจุบันทำได้เพียงนำเรือและรถยนต์เข้าช่วยเหลือราษฎรจนกว่าระดับน้ำจะเริ่มลดลง และหากหน่วยงานใด หรือราษฎรหมู่บ้านใด เดือดร้อนก็สามารถร้องขอความช่วยเหลือมาได้ที่เบอร์ 045-866659 ทางหน่วย นพค.56 อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับระดับน้ำแม่น้ำมูลวันนี้ ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก 12 เซนติเมตร อัตราการไหลของน้ำความเร็ว 3,034 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และแนวโน้มระดับน้ำยังปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะในพื้นที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง

 

ฺB1

 

ฺฺB1

เขื่อนสิริกิติ์ลดพร่องน้ำแล้ว-หวังบรรเทาน้ำท่วมภาคกลาง

นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ ฝ่ายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำมาก คิดเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 95.43% เพราะมีน้ำไหลมาจาก จ.น่าน วันละ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้ปล่อยน้ำปล่อยน้ำอยู่ที่ประมาณ 67 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อกันน้ำล้นเขื่อนฯ ล่าสุดได้รับการประสานจากกรมชลประทาน ขอปรับการระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อระดับน้ำในลำน้ำน่านด้านท้ายเขื่อนสิริกิติ์ เพราะส่งผลกับน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง จึงปรับการระบายน้ำเป็นวันละ 57 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ด้วยอัตราการระบายคงที่ ตั้งแต่วันนี้ -19 ก.ย.54 สำหรับการปรับการระบายน้ำครั้งนี้จะทำให้น้ำในแม่นํ้าน่านบริเวณพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์มีระดับคงที่ และจะปรับลดการระบายลงอีกหากไม่มีฝนตกด้านเหนือเขื่อน

 

ฺฺB1

กทม.ประสานผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นให้ความรู้การป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติ

นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร ลงนามสัญญาความร่วมมือการป้องกันภัยพิบัติระหว่างสมาคมอุตสาหกรรมป้องกันภัยพิบัติกับภาคเอกชนของญี่ปุ่น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการป้องกันภัยธรรมชาติ และเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลมากกว่า 7 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นภัยคุกคาม นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน อาทิ แผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิ พายุ น้ำท่วม และโคลนถล่มในหลายประเทศ สร้างความหวาดกลัวในการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วโลก ขณะที่ กทม.ให้ความสำคัญ และได้จัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหา วางแผนทั้งระยะสั้น และระยะยาว เพื่อป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง สำหรับการลงนามครั้งนี้จะนำมาสู่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน และภาครัฐให้เกิดการกระตุ้น ตื่นตัว เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ขึ้นในอนาคต


อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานคร จะต้องมีแผนการป้องกันอย่างยั่งยืน เช่น การสร้างแก้มลิง การสร้างอุโมงค์ยักษ์เพื่อระบายน้ำ รวมทั้งการกำหนดให้โครงสร้างอาคาร และที่อยู่อาศัยของประชาชนต้องมีความแข็งแรง ทนทานต่อภัยพิบัติธรรมชาติ

 

ไม่แน่ใจว่ามีคนเคยเอามาโพสต์แล้วรึยังนะคะ

<CENTER>“บ้านลอยน้ำ”… บ้านทางเลือกใหม่... หลังจากน้ำท่วมใหญ่ ((ของประเทศไทย))

</CENTER>



“บ้านลอยน้ำ”… บ้านทางเลือกใหม่... หลังจากน้ำท่วมใหญ่ ((ของประเทศไทย))

...

...

​

…



บ้านลอยน้ำ

จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย
ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบภัย
กรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งมีภารกิจหลักประการหนึ่ง
คือการให้บริการแบบบ้านเพื่อประชาชนที่มีอยู่อย่างหลากหลาย
รูปแบบในระดับราคาต่างๆ กัน

ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบ้านที่จะสามารถป้องกันภัยดังกล่าวได้
จึงได้เริ่มทำการศึกษาเพื่อการออกแบบ จากแหล่งต่างๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านท่าขนอน อำเภอกาญจนดิษฐ์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีบ้านลอยน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน
ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในพื้นที่


เมื่อ 27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ได้เสด็จมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง
เพื่อทรงเปิดพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
เมื่อได้ทอดพระเนตรนิทรรศการแบบบ้านเพื่อประชาชนของกรมฯ แล้ว
ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ ? บ้านลอยน้ำ ?

กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ออกแบบบ้านหลังนี้ขึ้น
โดยปรับใช้แนวคิดจาก บ้านลอยน้ำท่าขนอน
และเรือนแพของชาวบ้านในอดีต นำมาประยุกต์
ใช้กับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน


ซึ่งในฤดูแล้งตัวบ้านจะตั้งอยู่บนพื้นดินตามปกติ
แต่เมื่อมีน้ำท่วมก็จะลอยขึ้นตามระดับน้ำได้
โดยจะมีการยึดตัวบ้านไว้กับเสาหลักทั้งสี่มุม
เพื่อป้องกันการโคลงตัวหรือลอยไปตามกระแสน้ำ
และเมื่อระดับน้ำลดลงตัวบ้านก็จะกลับมาตั้งอยู่บนพื้นดินตามเดิม

ขนาดของบ้านลอยน้ำที่ได้ออกแบบขึ้นนี้
ตั้งอยู่บนพื้นฐานของขนาดวัสดุสำเร็จรูปที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด
เพื่อให้เป็นการใช้วัสดุที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้และทำการก่อสร้างได้ง่าย
เนื่องจากมีระบบวิศวกรรมโครงสร้างเป็นรูปแบบอย่างง่าย
ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านช่างในระดับทั่วไปก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้เอง

​

…
ทัศนียภาพกลุ่มอาคาร

บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่รวม
ประมาณ 60 ตารางเมตร
ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มาก
เพื่อความสะดวกในการก่อสร้างและการลอยน้ำ
แต่หากมีความต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น
ก็อาจเชื่อมต่อหลายหลังเข้าด้วยกัน
โดยใช้สะพานทางเชื่อม
พาดระหว่างชานรอบตัวบ้าน

สำหรับราคาค่าก่อสร้างประมาณการได้ว่า
กรณีดำเนินการก่อสร้างเองจะมีราคาประมาณหลังละ 719,000 บาท
หากจ้างเหมาราคาประมาณหลังละ 915,000 บาท
เนื่องจากต้องมีการคิดค่าดำเนินการ กำไรและภาษีด้วย

แบบบ้านลอยน้ำของกรมโยธาธิการและผังเมืองนี้
น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ที่ต้องอยู่อาศัยในพื้นที่ที่อาจต้องประสบภัยน้ำท่วมตามฤดูกาลได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อยู่อาศัยในบริเวณที่เป็นที่ลุ่ม
โดยอาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบและพื้นที่ใช้สอย
ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องตามความต้องการที่แท้จริงของตนเองต่อไป

สนใจสอบถามไปได้ที่ 0-2299-4471-72, 0-2299-4858, 0-2299-4877
หรือเข้าชมรายละเอียดที่เว็บไซท์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง
http://subweb2.dpt.go.th/pip/floating_house/floatingH.html

​

…

ขนาดพื้นที่ ประมาณ 60 ตารางเมตรประกอบด้วยพื้นที่อยู่อาศัย 23
ตารางเมตร ส่วนทำอาหารห้องน้ำและซักล้าง รวม 37 ตารางเมตร

ราคาค่าก่อสร้าง โดยประมาณ 719,000 บาท (กรณีปลูกสร้างเอง)
และประมาณ 915,000 บาท (กรณีมีผู้รับจ้างเหมา)





รูปด้านหลัง






ด้านล่างของตัวบ้าน


…

วัสดุก่อสร้าง ใช้วัสดุก่อสร้างพื้นฐานทั่วไปที่สามารถหาได้ง่ายในท้องตลาด
ซึ่งสามารถดัดแปลงได้ตามความเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ทุ่นลอยเป็นถังน้ำมัน
ขนาด 200 ลิตร หรือถังไฟเบอร์กลาส กรณีต้องการความทนทานเพิ่มขึ้น

ระบบสุขาภิบาล ใช้ระบบการย่อยสลายโดยมีถังบรรจุจุลินทรีย์ EM
ติดตั้งอยู่ใต้ห้องน้ำเพื่อย่อยสลายและเร่งการตกตะกอนของสิ่งปฏิกูล

ที่มาเว็บไซท์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง
http://subweb2.dpt.go.th/pip/floating_house/floatingH.html

​

แนวคิดในการสร้างบ้านแบบที่ว่านี้
เกิดขึ้นมาจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลกเมื่อ 4,000 ปีก่อน
ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล
และชายคนหนึ่งชื่อโนอาก็สามารถรอดชีวิตได้
เนื่องจากเขาได้ต่อเรือไว้รับมือกับเหตุการณ์นี้
และใช้ชีวิตอยู่อาศัยบนเรือลำนี้เป็นระยะเวลานาน
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่
ซึ่งก็เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ต่างๆ
ที่เกิดขึ้นกับโลกเราในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อน แผ่นดินไหว ซึนามิ และอุทกภัยอย่างรุนแรง

อย่างที่เห็นล่าสุดก็คือ เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุด
ในรอบ 60 ปีของประเทศอังกฤษ
ที่ส่งผลให้ประชากรกว่า 30,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย
และทำให้บริษัทประกันภัยต่างๆ ต้องจ่ายค่าชดเชย
ไปกว่า 6 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ฝนตกหนัก
โคลนถล่มที่ประเทศอินเดีย เนปาล และบังกลาเทศ
ที่คร่าชีวิตผู้คนและทำให้คนไร้ที่อยู่เป็นจำนวนมาก

ที่สำคัญได้มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้ทำนายไปในทิศทางเดียวกันว่า
ในอนาคตข้างหน้านี้ โลกของเรานั้นจะมีปริมาณน้ำที่มากขึ้น
ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำให้น้ำไหลเข้าท่วม
บริเวณที่อยู่อาศัยของคนเป็นบริเวณกว้าง
จึงทำให้มีคนเกิดแนวคิดที่จะสร้างบ้านที่สามารถลอยตัวบนน้ำได้
เพื่อรองรับกับเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น







…


บ้านใน Maasbommel อยู่ห่างจาก Amsterdam ราว 60 ไมล์
สร้างด้วยโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาสามารถลอยน้ำได้


…

…

แนวคิดการสร้างบ้านแบบใหม่นี้จะต่างจากบ้านแบบธรรมดา
ตรงที่การออกแบบและวัสดุที่ใช้จะค่อนข้างยืดหยุ่นและลอยตัวได้
เมื่อน้ำท่วมหรือน้ำทะเลหนุนขึ้นสูงถึง 5 เมตร
ซึ่งบริษัทที่คิดค้นได้มีการพัฒนาแบบบ้านมาสองแบบ

​

…


โดยแบบแรกคือบ้านที่ปกติก็ลอยตัวอยู่บนน้ำเลยเหมือนเรือ
และแบบที่สองที่ในสภาวะปกติก็ทรงตัวบนผืนแผ่นดินธรรมดาเหมือนทั่วๆไป
แต่ถ้าเกิดกรณีน้ำท่วมขึ้นมา ตัวบ้านก็จะสามารถลอยตัวขึ้นเหนือน้ำเหมือนเรือ

…
ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการสร้างจะใช้กล่องคอนกรีตสี่เหลี่ยมกลวงมาทำเป็นฐาน
เพื่อทำให้บ้านลอยตัวได้บนน้ำ และใช้เสาเหล็กกล้าเป็นโครงสร้างหลัก
และเสริมความมั่นคงของตัวบ้าน

ส่วนของสาธารณูปโภค เช่น น้ำและไฟนั้น
จะมีการส่งผ่านท่อที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมาก
ต่อกระแสน้ำที่จะมาปะทะอีกด้วย

​

…

และในส่วนที่เหลือต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ภายในบ้าน
หรือแบบบ้านนั้นก็คล้ายกับบ้านปกติโดยทั่วไป
เช่น ต้องการที่จะมีระเบียงบ้านยื่นออกไป
หรือต้องการติดบานพับหน้าต่าง
และทาสีต่างๆ

…
ซึ่งบ้านแบบใหม่ที่ว่านี้นอกจากจะออกแบบและสร้างไว้
เพื่อรับมือกับน้ำท่วมแล้ว บ้านแบบนี้ก็ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

​

…

โดยแนวคิดนี้ ได้ใช้เวลาในการพัฒนาและค้นคว้ามากว่าสามปี
โดยบริษัททางวิศวกรรมสถาปัตยกรรมชั้นนำในประเทศเนเธอร์แลนด์
ที่ชื่อว่า Dutch architectural form Factor Architecten
ซึ่งโครงการนี้เกิดขึ้นมาจากว่าที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นั้น
พื้นที่ครึ่งหนึ่งของประเทศมีระดับอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล
จึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมอยู่เสมอ
ทางบริษัทจึงคิดหาทางแก้ไข
…
ซึ่งทางแก้นี้ดูเหมือนว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมาก
สำหรับประชากรในประเทศ และทั่วโลกอีกด้วย

…

 

B1

 สิงห์บุรี ประตูน้ำพระงาม อ.พรหมบุรีพังน้ำไหลทะลักเข้าท่วม

16 กย. 2554 20:11 น.

นายสุรเกียรติ ยิ้มพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระงาม อำเภอพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เปิดเผยว่า จากการที่ประตูน้ำพระงาม ที่กั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยเมื่อน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาดันตัวประตูน้ำพัง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้น้ำในคลองกระทุ่มโพรงนั้นสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 หมู่ 6 ไปแล้ว 3 หมู่บ้านและจะไหลท่วมทั้ง 6 หมู่บ้าน ซึ่งทำให้ประชาชนในตำบลพระงามได้รับความเสียหายจำนวน 1,228 ครัวเรือน ซึ่งก่อนหน้าที่ประตูน้ำจะพังทาง อ.บ.ต. ก็ประกาศเตือนให้ประชาชนเก็บของขึ้นที่สูงเอาไว้ตั้งแต่กลางวันของวันที่ 15 กันยายน 2554 แล้วเพราะสภาพของประตูน้ำจะไม่สามารถทนแรงดันน้ำ ซึ่งก็เป็นตามคาดเวลาประมาณ 5 ทุ่มของคืนวันที่ 15 กันยายน 2554 ประตูน้ำก็พัง
สำหรับประตูน้ำพระงามที่พัง จะส่งผลกระทบในพื้นที่ตำบลพระงาม อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และอำเภอโพธิ์ทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ในวันเดียวกันเวลา 12.00 น.ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำทับยา หมู่ที่.2 อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จำนวน 50 คน ด้านฝั่งตะวันออก ซึ่งอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมมีความลึกของระดับน้ำถึง 3 เมตร ทำให้บ้านเรือนราษฎรที่ ปลูกชั้นเดียวน้ำได้ท่วมถึงหลังคาบ้านไม่อาจอาศัยอยู่ได้ เนื่องจากชาวบ้านในตำบลเดียวกันฝั่งตะวันตกได้นำรถแม็คโครไปตักดินกั้นบนถนนสายสิงห์บุรี-ชัยนาท สูงประมาณ 1 เมตร เพื่อไม่ให้น้ำที่ไหลข้ามถนนลงไปในนาข้าวของเกษตรกรในตำบลดังกล่าวซึ่งข้าวขณะนี้กำลังจะเก็บเกี่ยวจนเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง โดยชาวบ้านฝั่งตะวันออกได้ใช้จอบเสียมมาทำลายคันดินที่กั้นน้ำอยู่ริมถนน แต่ชาวบ้านอีกประมาณ 40 คน ฝั่งตะวันออกไม่ยอมให้ทำลายคันดิน พ.อ.อ.สมศักดิ์ กลิ่นคง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เจ้าของพื้นที่ จึงได้เข้าไปทำการไกล่เกลี่ยให้


  

 

B1

 น้ำท่วมศรีสะเกษเริ่มวิกฤตอ่างเก็บน้ำเต็มเกือบทุกอ่าง
  

16 กย. 2554 18:01 น.

น้ำท่วมศรีสะเกษ เริ่มวิกฤติ อ่างเก็บน้ำเต็มความจุเกือบทุกอ่างแล้ว ราษฎร 6 อำเภอเดือดร้อนหนัก
สถานการณ์น้ำท่วมที่แทบทุกพื้นที่ในประเทศได้รับเดือดร้อนอย่างหนักในขณะนี้ ในส่วนของจังหวัดศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ นายสมศักดิ์ แสนหิรัณย์ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ลงตรวจพื้นที่น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ โดยมีนายสมพร จึงศิรกุลวิทย์ รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ และ นายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของช่วยผู้ประภัย
นายสุขสันต์ บุญโทแสง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้รับรายงานพื้นที่ประสพภัยน้ำท่วมแล้ว 6 อำเภอ 28 ตำบล 136 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับผลกระทบ 5,153 ครัวเรือน 21,323 ราย เบื้องต้นได้เร่งประสานงานกับหน่วยงาน อปท.นำเต็นท์และถังน้ำดื่มมาให้บริการเพื่อเป็นการช่วยเหลือในส่วนหนึ่ง ที่น่าห่วงมากที่สุดคืออำเภอกันทรารมย์ มี 15 ตำบล 85 หมู่บ้าน 2,613 ครัวเรือน 13,065 ราย ส่วนมากเป็นพื้นที่ไร่นาที่ได้รับความเสียหาย ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
นายไพฑูรย์ ไชยภูมิสกุล ผอ.โครงการชลประทานศรีสะเกษ กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำขนาดกลางส่วนใหญ่น้ำเต็มความจุ ในส่วนของอ่างที่ยังไม่เต็มได้พยายามพร่องน้ำเพื่อรองรับกับน้ำที่กำลังจะเข้ามาใหม่ ทั้งนี้จากการติดตามพยากรณ์อากาศพบว่าร่องความกดอากาศ ทำให้จังหวัดศรีสะเกษมีฝนตกชุกในทุกพื้นที่ หลังจากนี้เป็นต้นไป ประชาชนจะต้องระวังมากขึ้น เนื่องจากน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกอ่างเต็มหมดแล้ว ไม่สามารถรองรับน้ำได้อีกต่อไป จึงขอฝากเตือนให้ประชาชนเฝ้าติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศอย่างต่อเนื่อง ที่ๆต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือลุ่มน้ำห้วยสำราญ ที่ต้องเร่งระบายน้ำเพื่อไม่ให้ห้วยสำราญท่วมโดยเฉพาะอำเภออุทุมพรพิสัย ปรางค์กู่ รวมทั้งอำเภอเมือง ก็ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ


<< back  next >>

 

B1

น้ำทะลักท่วมชุมชนวัดบางหลวงปทุมธานี



น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ล้นท่วมชุมชนหลังวัดบางหลวง ปทุมธานี ชุมชนด้านทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ยังไร้หน่วยงานเหลียวแล...

เมื่อวันที่ 16 ก.ย 54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมชนหลังวัดบางหลวง ม.4 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีสภาพคล้ายเกาะกลางน้ำ เนื่องจากพื้นที่ของชุมชนด้านทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนด้านทิศตะวันตกติดคลองบางหลวง โดยในวันนี้ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนชุมชนหลังวัดบางหลวงทั้งหมดจมอยู่ในน้ำลึกประมาณกว่า 1 เมตร ชาวบ้านในชุมชนเกือบ 200 หลังคาเรือน ต้องช่วยเหลือตัวเองโดยขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง และใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออกบ้านหรือไปทำงาน

นางอรสา พุมกาญจน์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ชุมชนแห่งนี้อยู่ริมเจ้าพระยาและคลองบางหลวง โดยกระแสน้ำได้เอ่อเข้ามาในพื้นที่ชุมชน ซึ่งชุมชนแห่งนี้มีบ้านเรือนประชาชนกว่า 200 หลังคาเรือน แต่ไม่รุนแรง และเพิ่งจะมีระดับน้ำสูงมากกว่า 1 เมตร เมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา และมีฝนตกลงมาประกอบกับน้ำเหนือไหลมา เพราะเขื่อนต่างๆ ปล่อยปริมาณน้ำมามาก ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นและเอ่อเข้ามาในชุมชน

นางอรสา กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ชาวบ้านอยากได้สะพานไม้ เพื่อที่จะได้สะดวกในการเดินทางเข้าออกของชาวบ้านและเด็กนักเรียน เพราะจะกั้นกระสอบทรายคงจะเอาน้ำไม่อยู่ ทั้งนี้ได้ติดต่อขอสะพานไม้ทางเทศบาลบางหลวงไป แต่กลับเงียบหาย และถ้าอีก 3-4 วัน น้ำเหนือมามากอีก ประกอบกับน้ำทะเลหนุนชาวบ้านคงต้องเดือดร้อนกว่านี้แน่นอน

ด้านนายสุพจน์ ลำพัชวา นายก อบต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้มีการออกประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยกันเก็บข้าวของขึ้นที่สูงอย่างต่อสูง พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ อบต. ออกช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วม และสำรวจในการช่วยเหลือชาวบ้านทุกหลังคาเรือน นอกจากนี้ยังนำเรือมาให้ชาวบ้านยืมจำนวน 15 ลำ หลังน้ำลด จะต้องนำคืน อบต.เพื่อใช้งานในปีต่อไป

สำหรับพื้นที่ ต.ท้ายเกาะ นอกแนวคันกั้นน้ำได้ถูกน้ำท่วมทุกหลังคาเรือน และในวันนี้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงมากที่สุด ทำให้ถนนเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมหมดแล้ว รวมทั้งโรงเรียนท้ายเกาะ วัดในพื้นที่ถูกน้ำท่วมหมด นอกจากนี้ พื้นที่ชั้นในฝนได้ตกมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้น้ำท่วมขังและไม่สามารถดูดน้ำออกได้ทัน ทำให้น้ำท่วมนาข้าวที่จะเก็บเกี่ยวได้ต้นเดือนหน้า ได้รับความเสียหายจำนวนมาก และหากฝนยังตกอยู่แบบนี้ จะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันทั่วหน้า ส่วนที่วัดโพธิ์เลื่อน และโรงเรียนวัดโพธิ์เลื่อน ต.บ้านกระแชง อ.เมือง น้ำยังท่วมขัง เด็กนักเรียนอนุบาลและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต้องขึ้นไปเรียนบนศาลาวัดแทน

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
16 กันยายน 2554, 20:20 น.

 

B1

น้ำท่วมสตูลเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ พบพะยูนตาย 1




ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ จ.สตูล สรุปสถานการณ์น้ำท่วมใน 7 อำเภอ 30 ตำบล 246 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 133798 คน 30346 ครัวเรือน พะยูนตาย 1 ขณะนี้สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ปกติ ...

วันที่ 15 กันยายน ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.สตูล สรุปสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.สตูล ที่ผ่านมา โดย จ.สตูล เกิดอุทกภัย 7 อำเภอ 30 ตำบล 246 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 133798 คน 30346 ครัวเรือน โดยแยกเป็นอำเภอ คือ อ.ควนกาหลง ประสบภัย 3 ตำบล 32 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 11208 คน 2802 ครัวเรือนพืชผัก พืชไร่ เสียหาย 270.5 ไร่, ไม้ผล ไม้ยืนต้น เสียหาย 300 ไร่,อ.เมืองสตูล พื้นที่ประสบภัย 8 ตำบล 54 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 41404 คน 11712 ครัวเรือน พืชผักเสียหาย 220 ไร่ ไม้ผลเสียหาย 90 ไร่ นาข้าวเสียหาย 3050 ไร่,อ.ควนโดน พื้นที่ประสบภัย4 ตำบล 31 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 12520 คน 3432 ครัวเรือน พืชผัก พืชไร่เสียหาย 414 ไร่ ไม้ผลเสียไม้ยืนต้นเสียหาย 505 ไร่ นาข้าวเสียหาย 200 ไร่,อ.มะนัง พื้นที่ประสบภัย 2 ตำบล 19 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 9000 คน 3500 ครัวเรือน อพยพไปที่ปลอดภัย300 คน 102 ครัวเรือน บ้านพักชาวบ้านถูกน้ำท่วม 227 ครัวเรือน เสียหาย 1 หลัง วัดเสียหาย 3 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง ถนนชำรุด 62 สาย มูลค่าเสียหายเบื้องต้น 6 ล้านบาท บ่อเลี้ยงปลา 138 บ่อ ไก่ 100 ตัว พืชผัก พืชไร่ 345 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น เสียหาย 90 ไร่

ขณะที่ อ.ท่าแพ พื้นที่ประสบภัย 4 ตำบล 31 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 6250 คน 1250 ครัวเรือน พืชผัก พืชไร่เสียหาย 90 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นเสียหาย 150 ไร่ นาข้าวเสียหาย 100 ไร่,อ.ทุ่งหว้า พื้นที่ประสบภัย 3 ตำบล 14 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 1288 คน 418 ครัวเรือน อพยพ 30 คน 10 ครัวเรือน ถนนชำรุด 12 สาย เรือประมงขนาดเล็กจม 1 ลำ พืชผักพืชไร่เสียหาย 115 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น เสียหาย 156 ไร่ พบซากพะยูนตาย 1 ตัว ขนาดลำตัว ยาว 2.70 เมตรน้ำหนัก 300 กก.,อ.ละงู พื้นที่ประสบภัย 6 ตำบล 61 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 32128 คน 7232 ครัวเรือน อพยพไปที่ปลอดภัย 530 คน 175 ครัวเรือน พืชผัก พืชไร่ เสียหาย 1270 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น เสียหาย 880 ไร่ นาข้าวเสียหาย 1300 ไร่ สถานการณ์ปัจจุบันระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปรกติทุกพื้นที่แล้ว.


ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
16 กันยายน 2554, 20:30 น.

 

น้ำท่วมสตูลเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ พบพะยูนตาย 1

วันที่ 16/09/2554 20:30





ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ จ.สตูล สรุปสถานการณ์น้ำท่วมใน 7 อำเภอ 30 ตำบล 246 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 133798 คน 30346 ครัวเรือน พะยูนตาย 1 ขณะนี้สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ปกติ ...

วันที่ 15 กันยายน ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.สตูล สรุปสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.สตูล ที่ผ่านมา โดย จ.สตูล เกิดอุทกภัย 7 อำเภอ 30 ตำบล 246 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 133798 คน 30346 ครัวเรือน โดยแยกเป็นอำเภอ คือ อ.ควนกาหลง ประสบภัย 3 ตำบล 32 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 11208 คน 2802 ครัวเรือนพืชผัก พืชไร่ เสียหาย 270.5 ไร่, ไม้ผล ไม้ยืนต้น เสียหาย 300 ไร่,อ.เมืองสตูล พื้นที่ประสบภัย 8 ตำบล 54 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 41404 คน 11712 ครัวเรือน พืชผักเสียหาย 220 ไร่ ไม้ผลเสียหาย 90 ไร่ นาข้าวเสียหาย 3050 ไร่,อ.ควนโดน พื้นที่ประสบภัย4 ตำบล 31 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 12520 คน 3432 ครัวเรือน พืชผัก พืชไร่เสียหาย 414 ไร่ ไม้ผลเสียไม้ยืนต้นเสียหาย 505 ไร่ นาข้าวเสียหาย 200 ไร่,อ.มะนัง พื้นที่ประสบภัย 2 ตำบล 19 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 9000 คน 3500 ครัวเรือน อพยพไปที่ปลอดภัย300 คน 102 ครัวเรือน บ้านพักชาวบ้านถูกน้ำท่วม 227 ครัวเรือน เสียหาย 1 หลัง วัดเสียหาย 3 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง ถนนชำรุด 62 สาย มูลค่าเสียหายเบื้องต้น 6 ล้านบาท บ่อเลี้ยงปลา 138 บ่อ ไก่ 100 ตัว พืชผัก พืชไร่ 345 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น เสียหาย 90 ไร่

ขณะที่ อ.ท่าแพ พื้นที่ประสบภัย 4 ตำบล 31 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 6250 คน 1250 ครัวเรือน พืชผัก พืชไร่เสียหาย 90 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นเสียหาย 150 ไร่ นาข้าวเสียหาย 100 ไร่,อ.ทุ่งหว้า พื้นที่ประสบภัย 3 ตำบล 14 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 1288 คน 418 ครัวเรือน อพยพ 30 คน 10 ครัวเรือน ถนนชำรุด 12 สาย เรือประมงขนาดเล็กจม 1 ลำ พืชผักพืชไร่เสียหาย 115 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น เสียหาย 156 ไร่ พบซากพะยูนตาย 1 ตัว ขนาดลำตัว ยาว 2.70 เมตรน้ำหนัก 300 กก.,อ.ละงู พื้นที่ประสบภัย 6 ตำบล 61 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 32128 คน 7232 ครัวเรือน อพยพไปที่ปลอดภัย 530 คน 175 ครัวเรือน พืชผัก พืชไร่ เสียหาย 1270 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น เสียหาย 880 ไร่ นาข้าวเสียหาย 1300 ไร่ สถานการณ์ปัจจุบันระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปรกติทุกพื้นที่แล้ว.

 

ศอส.สรุปน้ำยังท่วมใน 29 จว. เตือน 8 จว. ลุ่มเจ้าพระยา เสริมคันกันน้ำ คาดสูงกว่าปี 2553

วันที่ 16/09/2554


นายภานุ แย้มศรี ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 กันยายน ว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 29 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี ยโสธร เลย ขอนแก่น ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ฉะเชิงเทรา นครนายก ตราด ตาก สระแก้ว ปราจีนบุรี ตรัง สตูล และสุราษฎร์ธานี รวม 162 อำเภอ 1,021 ตำบล 5,449 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 333,073 ครัวเรือน 1,148,250 คน ผู้เสียชีวิต 98 ราย สูญหาย 2 ราย พื้นที่การเกษตร 4,809,302 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บ่อปลา 54,852 ไร่ กุ้ง/ปู/หอย 560 ไร่ สัตว์ได้รับผลกระทบ 3,954,046 ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ แยกเป็น ทางหลวง 22 สาย ใน 10 จังหวัด ทางหลวงชนบท 50 สาย ใน 20 จังหวัด
นายภานุกล่าวว่า ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำ ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 3,670 ลบ.ม./วินาที และผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,183 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ลุ่มต่ำ 8 จังหวัด มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในส่วนของสถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำร้อยละ 86 ของความจุอ่างฯ เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำร้อยละ 95 ของความจุอ่างฯ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำมากเกินความจุร้อยละ 102 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำร้อยละ 95 ของความจุอ่างฯ ซึ่งต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อพร่องน้ำอย่างต่อเนื่อง จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ท้ายเขื่อนให้เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
นายภาณุกล่าวต่อว่า พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมาในเขตจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 10-15 เซนติเมตรต่อเนื่องหลายวัน โดยจะมีระดับน้ำสูงใกล้เคียงกับปี 2553 ที่ผ่านมา จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร เสริมแนวคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นไม่ต่ำกว่าหรือเท่ากับปี พ.ศ. 2553 รวมทั้งให้ขนย้ายสิ่งของมีค่า ขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

 

ข้อมูลแผ่นดินไหวทั่วโลกล่าสุด


Update time = Fri Sep 16 14:31:57 UTC 2011

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1><TBODY><TR><TH> </TH><TH align=middle>MAG </TH><TH align=middle>UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </TH><TH align=middle>LAT
deg </TH><TH align=middle>LON
deg </TH><TH align=middle>DEPTH
km </TH><TH> Region</TH></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 14:17:04 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 32.086 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -115.260 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>22.4 </TD><TD vAlign=top> BAJA CALIFORNIA, MEXICO</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 14:00:09 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 61.242 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -147.043 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>0.5 </TD><TD vAlign=top> SOUTHERN ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 13:46:52 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 61.180 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -147.086 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>51.7 </TD><TD vAlign=top> SOUTHERN ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 13:39:16 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 61.201 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -147.100 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>2.7 </TD><TD vAlign=top> SOUTHERN ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 11:52:17 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 18.220 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 119.340 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>9.9 </TD><TD vAlign=top> PHILIPPINE ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 06:56:47 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 18.937 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -67.734 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>24.5 </TD><TD vAlign=top> PUERTO RICO REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 06:43:16 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 7.484 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -36.939 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL MID-ATLANTIC RIDGE</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 06:08:22 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 5.265 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -82.537 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> SOUTH OF PANAMA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 05:27:11 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 35.465 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 140.850 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>41.8 </TD><TD vAlign=top> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 05:11:37 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 14.842 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -95.271 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>11.1 </TD><TD vAlign=top> OFF THE COAST OF OAXACA, MEXICO</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 03:23:51 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 19.226 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -64.788 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>24.8 </TD><TD vAlign=top> VIRGIN ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/16 02:51:44 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -20.562 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -179.001 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>650.6 </TD><TD vAlign=top> FIJI REGION</TD></TR></TBODY></TABLE>

(Earthquakes with <ABBR title=Magnitude>M</ABBR>2.5+ within the United States and adjacent areas.)



B5