WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

B1

อุตุเผย หนาวนี้ภาคเหนือเย็นยะเยือก หนาวเร็ว หนาวนาน



นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร ฝ่ายพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่ภาคเหนือในช่วงนี้จะรู้สึกเย็น เป็นผลมาจากลมหนาวจากความกดอากาศสูงเคลื่อนตัวลงมาดันร่องมรสุมลงไปทางภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง แต่ยังไม่เรียกว่าเข้าสู่ฤดูหนาว

ทั้งนี้ฤดูหนาวของภาคเหนือปีนี้น่าจะมาเร็ว โดยช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนจะเริ่มเย็น อุณหภูมิจะอยู่ประมาณ 16-22 องศาเซลเซียส ส่วนต้นเดือนธันวาคมจะเริ่มหนาว โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 8-15 องศาเซลเซียส

ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ปีนี้อุณหภูมิจะลดต่ำลงไปถึง 10-12 องศาเซลเซียส ตามยอดดอยมีแนวโน้มอุณหภูมิลงต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส และจะหนาวยาวนานไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์

Mthai News

 

B1

น้ำป่าทะลักท่วมหมู่บ้านเมืองมะขามหวานเพชรบูรณ์

13 กย. 2554 15:00 น.



<DD>

<DD>ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านโฮมแลนด์ และบ้านสำนักหมัน หมู่ 12 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านโฮมแลนด์ระดับน้ำสูงประมาณ 80 เซนติเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์ออกให้การช่วยเหลือประชาชน แจกจ่ายกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าบ้านเรือน <DD>

<DD>ส่วนถนนสายเพชรบูรณ์-บ้านไร่เหนือ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 3-4 หมู่ที่ 3 ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ มีระดับน้ำสูงกว่า 70 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ โดยระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักยังคงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง<DD>

</DD>ส่วนการค้นหาร่างของนายสมาน บุบผาที อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/2 ม.2 ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ที่พลัดตกลงในฝายกั้นน้ำหมู่ 13 ต.สะเดียง หลังจากได้ลงไปช่วยเพื่อนๆ เก็บกิ่งไม้ที่ขวางการไหลของน้ำบริเวณหน้าฝายแล้วพลัดตกลงไปในฝาย ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. ระดมกำลังทหารและหน่วยกู้ภัยจะช่วยกันค้นหาทั้งวันทั้งคืนจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบร่างของนายสมานอย่างใด


http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=529083&lang=T&cat=

 

B1

วัดพนัญเชิงฯ วิกฤติ น้ำเอ่อทะลักท่วม พระ-เณรร่วมป้อง



พระ-เณร วัดพนัญเชิงวรวิหารช่วยกันนำกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมรอบวัด ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักสูงกว่าพื้นราว 1.50 เมตร จนท.ต้องเฝ้าระวัง เตรียมพื้นที่ป้องกันอย่างแน่นหนา โบราณสถานป้อมเพชรถูกน้ำท่วมแล้ว กรมศิลปากรกำลังเร่งกู้...

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมอย่างหนักเกือบเท่าปีที่ผ่านมา เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เร่งระบายน้ำลงมา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น และแม่น้ำลพบุรีกับแม่น้ำป่าสักมีปริมาณน้ำมาก ไหลมาบรรจบกันที่บริเวณหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงวัดพนัญเชิงฯ ไหลผ่านไปอ.บางปะอิน และอ.บางไทร มีระดับน้ำสูง 50 ซม. ไหลเข้าท่วมวัด บ้านเรือน ถนน อย่างหนัก

ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นายช่วยพระ เณร แบกกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมรอบวัด ซึ่งขณะนี้น้ำที่อยู่ในแม่น้ำสูงกว่าพื้นวัดประมาณ 1.50 เมตร พระมหาเชิดชัย เลขาฯ เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยากล่าวว่า ทางวัดเตรียมป้องกันน้ำท่วมไว้เป็นอย่างดี โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากภาค 1 จำนวน 60 นาย มาเฝ้าระวังและเตรียมพื้นที่ ขณะนี้ทางวัดได้ใช้กระสอบทรายไปแล้ว 2 แสนใบ คาดว่ายังไม่พอเพราะระดับน้ำเหลืออีก 20 ซม.จะเท่ากับปีที่แล้ว จึงต้องใช้อีกประมาณ 1 แสนใบ ทางวัดป้องกันน้ำท่วมเต็มที่ ขอให้ญาติโยมมาเที่ยวและไหว้พระได้ตามปกติ




น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมตลาดเก่าบางปะอิน แม่ค้าขนของหนีน้ำไปขายบริเวณสี่แยก น้ำไหลทะลักเข้าโรงพักบางปะอิน เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้น บริเวณชั้นล่าง สำหรับโบราณสถานที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โบราณสถานป้อมเพชรและหมู่บ้านโปรตุเกส น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมแล้ว เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรกำลังระดมเจ้าหน้าที่สูบน้ำออก

ส่วนที่หน้าวัดไชยวัฒนาราม น้ำเหลืออีกประมาณ 40 ซม. จะล้นข้ามกำแพงกั้น ขณะนี้มีน้ำรั่วไหลเข้ามา เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบออกตลอดเวลา ที่ อ.เสนา ถนนสายเสนา-ผักไห่ได้มีน้ำท่วมขังตลอดเส้นทาง บางช่วงสูง 40-50 ซม.รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ชาวตลาดเสนาถูกน้ำท่วมหนักอยากให้เจ้าหน้าที่ชลประทานเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำในตลาดลดลงบ้าง เพราะขณะนี้น้ำท่วมสูงจนที่กั้นพังทลาย น้ำไหลเข้าบ้าน เสียหายหนัก.











โดย: ทีมข่าวภูมิภาค
13 กันยายน 2554, 14:46 น.

 

B1


อินเดียเจอฝนหนัก10วันเดือดร้อน2พันหมู่บ้าน

• 13 กันยายน 2554 เวลา 14:35 น. |<SCRIPT>var fbShare = {url: 'http://bit.ly/pshpDg' }</SCRIPT><SCRIPT src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.js"></SCRIPT>

<!-- end facebook-share --><!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->อินเดียเจอฝนตกหนักต่อเนื่อง 10 วันส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม 2,800 หมู่บ้าน



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านราว 2,800 แห่งในพื้นที่ชายฝั่งและพื้นที่ฝั่งตะวันตกของรัฐ โอริสสา กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องนานกว่า 10 วัน ส่งผลให่แม่น้ำมหานทีอันเป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านพื้นที่ดังกล่าวมีระดับน้ำสูงกว่าระดับอันตรายและเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ทำให้หมู่บ้านอย่างน้อย 800 แห่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ทั้งนี้ทางการอินเดียได้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวราว 180 แห่งเพื่อรองรับผู้ประสบภัยไร้ที่อยู่อาศัย รวมทั้งนำเฮลิคอปเตอร์นำ อาหารและอุปกรณ์ยังชีพไปหย่อนให้กับประชาชนที่เดือดร้อน
ขณะที่ประเทศปากีสถานเองก็ประสบกับปัญหาฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลัน เช่นเดียวกัน โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 209 ราย และมีประชาชนราว 5 ล้าน 3 แสนคนได้รับผลกระทบ ด้าน สหรัฐได้ดำเนินการส่งอาหารและยาไปยังปากีสถาน รวมทั้งส่งเต็นท์และสิ่งของต่างๆเข้าช่วยเหลือ

อินเดียเจอฝนหนัก10วันเดือดร้อน2พันหมู่บ้าน - โพสต์ทูเดย์ ข่าวรอบโลก

 

เตือน19-20 กทม.เจอน้ำเหนือก้อนใหญ่

• 13 กันยายน 2554 เวลา 14:29 น.<SCRIPT>var fbShare = {url: 'http://bit.ly/qJTJs1' }</SCRIPT><SCRIPT src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.js"></SCRIPT>

<!-- end facebook-share --><!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->กรมชลฯ เผย 19-20 ก.ย. น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงสุด เตือนจังหวัดท้ายเขื่อน เร่งเสริมคันกั้น ให้สูงขึ้น

นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกทั่วประเทศทำให้คาดว่าขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงถึง 3,700- 3,900 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาทีซึ่งเป็นปริมาณเดียวกันอุทกภัยในปี 2545 โดยปริมาณก้อนดังกล่าวเป็นปริมาณน้ำที่มาจากแม่น้ำปิงในจังหวัดกำแพงเพชร และปริมาณน้ำจากลุ่มน้ำป่าสัก ซึ่งคาดว่าจะถึงบางไทร จ.อยุธยาในวันที่ 19 ก.ย. และถึงกทม.ในอีก 3-4 ชั่วโมง หรือประมาณวันที่ 19- 20 ก.ย. ซึ่งจะส่งผลให้จังหวัดที่อยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมาโดยเฉพาะในพื้นที่ริมตลิ่งได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้นและในส่วนเจ้าพระยาตอนล่างคือ ปทุมธานีและนนทบุรี จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่มากขึ้นดังนั้นให้แต่ละจังหวัดเร่งเสริมคันกั้นน้ำให้สูงในระดับที่ไม่ต่ำกว่าปี 2545 หรือประมาณ 2 เมตรขึ้นไป



เตือน19-20 กทม.เจอน้ำเหนือก้อนใหญ่ - โพสต์ทูเดย์ ข่าวกทม.-ภูมิภาค

 

B1
Air conditioners
ศอส.เตือน32จังหวัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก-ดินถล่ม

วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 15:26 น. ณัฐญา เนตรหิน

<FORM method=post action=http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=83526:32-&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524> </FORM>นายภานุ แย้มศรี ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยว่า ในระยะ 1 – 2 วันนี้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่นและตกหนักถึงหนักมาก
โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มุกดาหารร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านของทั้ง 32 จังหวัดระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และ ดินโคลนถล่ม

ส่วนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำบริเวณภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงภาคตะวันออก ให้เตรียมการป้องกันปริมาณน้ำท่วมที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตั้งแต่ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมา ให้เฝ้าระวังภาวะน้ำล้นตลิ่งอย่างใกล้ชิด ติดตามสถานการณ์น้ำเป็นระยะ ทำการเสริมกระสอบทรายเป็นแนวป้องกัน พร้อมขนย้ายทรัพย์สินและสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง

นอกจากนี้ ศอส. ขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย 5 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันตก ได้แก่ อำเภอสุขสำราญ อำเภอกะเปอร์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง อำเภอพะโต๊ะ อำเภอสวี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร อำเภอคุระบุรี อำเภอตะกั่วป่า อำเภอกะปง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา อำเภอเขาพนนม อำเภอหน้าเขา อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ และอำเภอห้วยยอด อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1 – 2 วันนี้ หากสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ในทันที

ศอส. ได้กำชับให้จังหวัดเสี่ยงภัยที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังข้างต้นประสานนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ ระดับน้ำอย่างเข้มข้นทุกระยะ พร้อมเตรียมการแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ตลอดจนเตรียมกำลังคนและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันที อย่างไรก็ตาม หากต้องมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ขอเน้นย้ำให้ดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กและผู้พิการทุพพลภาพเป็นกรณีพิเศษ ตลอดจนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและรักษาความปลอดภัยทั้งในพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่อพยพชั่วคราว

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 16 จังหวัด รวม 69 อำเภอ 516 ตำบล 2,820 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 202,760 ครัวเรือน 465,792 คน ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท อุบลราชธานี สิงห์บุรี นครปฐม สุพรรณบุรี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา อุทัยธานี จันทบุรี และสระบุรี ผู้เสียชีวิต 80 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 3,681,912 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์ แบ่งเป็น บ่อปลา 67,618 ไร่ กุ้ง หอย ปู 2,284 ไร่ ปศุสัตว์ 2,794,246 ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ แยกเป็น ทางหลวง 7 สาย ใน 5 จังหวัด ทางหลวงชนบท 29 สาย ใน 10 จังหวัด



<!-- JOM COMMENT START -->

 

B1

พายุสุริยะยังเข้ามาเรื่อยๆ :boo: ส่งผลให้สภาพอากาศยังแปรปรวน

 

B1

สันเขื่อนประตูน้ำ อ่างทองทะลักชุมชนเมือง

13 กย. 2554 16:02 น.




<DD>สถานการณ์น้ำท่วมที่อ่างทองยังวิกฤตหนักน้ำพังสันเขื่อนประตูน้ำบางแก้วทะลักเข้าท่วม 2 ชุมชนจมกว่า 1 พัน หลังคาเรือน


<DD>เวลา 04.00 น. สันเขื่อนประตูน้ำบางแก้ว หน้าชุมชนบ้านรอซอย 2 ทนกับแรงดันของน้ำเจ้าพระยาไม่ไหวเกิดระเบิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างทำให้น้ำทะลักโหมเข้าสู่บ้านเรือนประชาชนในชุมชนบ้านรอ และชุมชนบ้านอิฐ ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง จากนั้นใช้เวลาไม่นานน้ำได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร น้ำได้ไหลบ่าข้ามถนนลงสู่คลองชลประทานก่อนที่จะล้นข้ามไปท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชนไลอ่อน ชาวบ้านหมู่ที่ 10 หมู่ที่ 11 ต.บ้านอิฐ อีกฝั่งอย่างรวดเร็ว ทำให้บ้านเรือนกว่า 1000 หลังคาเรือนจมน้ำทันที นอกจากนั้นกระแสน้ำยังพุ่งเข้าใส่ไปยังโรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทำให้ต้องเร่งเก็บของกันจ้าระหวั่น น้ำยังทำให้ถนนจากหน้าวัดไพรวัลย์สู่งตัวจังหวัดถูกตัดขาดทันที ประชาชน สัตว์ต่างๆ ต้องหนีขึ้นบนถนนกันอย่างโกลาหล บ้างก็ต้องเร่งเก็บข้าวของหนี้น้ำกันวุ่นวาย โดยเฉพาะสุนัขแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่งที่ใช้ปากคาบลูกเพื่อหนีตายแต่สุดท้ายลูกก็ต้องจมน้ำตายคาปากสร้างความหดหู่ให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก


<DD>ด้านนายสมชาย อนะวัชกุล นายอำเภอเมืองอ่างทอง กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนนี้ถือว่าวิกฤตมากทางเราพยายามป้องกันชุมชนบ้านรอและชุมชนบ้านอิฐอย่างเต็มที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก็ทนกับแรงดันน้ำไม่ไหว ทำให้แนวสันเขื่อนเกิดระเบิดขึ้นสุดที่จะป้องกันไว้ ซึ่งตอนนี้ก็ต้องเร่งป้องกันศาลากลางจังหวัดและในตลาดอ่างทอง ที่น่าเป็นห่วงมากเพราะเหลืออีกประมาณ 50 ซ.ม. ก็จะล้นกำแพงเขื่อนเข้าท่วมแล้ว ซึ่งได้ออกเสียงตามสายบอกประชาชนพ่อค้าแม่ค้าให้เตรียมเก็บของแล้ว
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=529106&lang=T&cat=

อ่างทองแนวกั้นแตกน้ำไหลบ่าท่วมหลายพื้นที่

เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำล้น ส่งผลแนวกั้นน้ำแตกบ่าเข้าท่วมหลายพื้นที่ในอ่างทอง

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขื่อนชัยนาทได้เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในปริมาณ 3,013 ลบม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้นอีก 15 ซม.และทำให้ระดับน้ำในอ.ไชโยสูงขึ้นเป็น 9.86 เมตร อ.เมือง 9.05 เมตรและทีอ.ป่าโมก 7.96เมตร และทำให้คันดินกั้นน้ำเริ่มรับแรงดันน้ำไม่ไหวพังทลายจนน้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ อย่างต่อเนื่อง จนประชาชนเดือดร้อนหลายพันครอบครัว โดยเฉพาะเด็กกำพร้าวัดตาลเจ็ดช่อที่ต้องมานอนรวมกันที่ศาลากว่า 100 คน นอกจากนี้น้ำยังไหลข้ามถนนสายป่าโมก-อยุธยา(เส้น309)เป็นระยะทางกว่า500เมตรจนการสัญจรลำบากและติดขัด ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังทำให้กำแพงคอนกรีตกั้นน้ำ ที่บริเวณชุมชนบ้านรอ ซอย2 แตกก่อนมวลน้ำจำนวนมหาศาลจะไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ต.บ้านอิฐ หมู่10 จำนวน 500 หลังคาเรือนอย่างรวดเร็วสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินของชาวบ้านที่พักอาศัยในพื้นที่ เนื่องจากไม่มีคำเตือนจากหน่วนงานราชการ

ต่อมาเวลา 10.20 น. วันเดียวกัน ที่ว่าการอำเภอป่าโมก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์พร้อมคณะเป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทานมามอบราษฎร ชุมชน 9และชุมชน 10 ต.บางปลากด อ.ป่าโมก 600 หลังคาเรือน จากนั้นจึงเป็นผู้แทนพระองค์ฯ พระราชทานเสื้อผ้านักเรียนจำนวน 461ชุด พร้อมอุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬาให้แก่นักเรียน โรงเรียนวรดิตถ์วิทยาประสูทน์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอีกด้วย.

อ่างทองแนวกั้นแตกน้ำไหลบ่าท่วมหลายพื้นที่ - MSN ข่าว


อ่างทองเริ่มอ่วมน้ำเจ้าพระยาสูงต่อเนื่อง
ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 13 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 16:21 น.

ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ จ.อ่างทอง เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทางจังหวัด จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเฉพาะกิจแบบบูรณาการ ช่วยเหลือประชาชน

นายฉัตรณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา เปิดเผยกับทาง สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.อ่างทอง ขณะนี้พบว่าระดับน้ำได้เพิ่มสูงต่อเนื่อง แม่น้ำเจ้าพระยา ได้รับน้ำเต็มที่แล้ว ในพื้นที่บางส่วนบริเวณริมตลิ่งเริ่มได้รับผลกระทบ เมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่า มีน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนบ้านรอ และหมู่ 10 บ้านอิฐ ทั้งนี้พื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ 45 ตำบล 197 หมู่บ้าน 5,676 ครัวเรือน 16,900 คน ทางจังหวัดได้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือเฉพาะกิจแบบบูรณาการ เบื้องต้นได้มีการรักษาคันกั้นน้ำ และได้มีการดูแลเยียวยาในเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นใน จ.อ่างทอง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นน้ำเหนือที่ได้ไหลหลากลงมา ผ่านทาง แม่น้ำเจ้าพระยา โดยฝนที่ตกในจังหวัด ส่งผลกระทบเล็กน้อยเท่านั้น คาดว่า หากไม่มีฝนตกลงมาอีก ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน ก็คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ภายในสิ้นเดือนนี้
Link : http://www.innnews.co.th/อ่างทองเริ่มอ่วมน้ำเจ้าพระยาสูงต่อเนื่อง--307904_06.html
</DD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ส.ส.อ่างทองเตรียมถกกรมชลฯ ขอเปิดประตูระบายน้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2554 15:44 น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> แรงดันน้ำได้พัดกระสอบทราย และคันดิน ที่กั้นเลียบถนนคลองชลประทานพังเสียหาย จนทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านหมู่ที่ 10 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง ชาวบ้านต้องเร่งเสริมแนวกระสอบทรายใหม่ที่บริเวณหน้าหมู่บ้าน โดยมีกำลังตำรวจภูธร จ.อ่างทอง มาช่วยอย่างเต็มที่ รวมทั้งนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง กล่าวว่า ตอนนี้ต้องเร่งนำที่กั้นไหล่ทางมาเสริมแนวกั้นน้ำบริเวณดังกล่าว เพราะหากน้ำยังคงไหลลงคลองชลประทานอย่างต่อเนื่อง จะทำให้น้ำท่วมเมือง โดยเตรียมจะหารือกรมชลประทานจังหวัด เพื่อขอให้เปิดประตูระบายน้ำเพิ่มเติม
ซึ่งล่าสุด นายชัยพร ธรรมภักดี ชลประทานจังหวัด กล่าวว่า ขณะนี้ได้เปิดประตูระบายน้ำบางแก้วทั้ง 3 บานเพิ่มอีก 30 เซนติเมตร เป็น 1.30 เมตร ซึ่งจะช่วยบรรเทาปริมาณน้ำในขณะนี้ได้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000116427

 

B1

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำท่วมเมืองเลยแล้ว กว่าพันครัวเรือนขนของหนีน้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2554 15:44 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

เลย-บ้านเรือนริมแม่น้ำเลย กว่า 1,200 หลังคาเรือนถูกน้ำทะลักท่วม ต้องขนของหนีน้ำขึ้นที่สูง ขณะที่นักเรียนวิทยาลัยอาชีวะ-เทคนิค หอพักถูกน้ำท่วมต้องหอบผ้าไปขอพักกับเพื่อนและญาติๆในจุดที่น้ำยังท่วมไม่ถึง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่จังหวัดเลย โดยเฉพาะบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ในริมแม่น้ำเลย ได้รับผลกระทบแล้ว กว่า 1,200 หลังคาเรือน โดยน้ำป่า จากยอดภูหลวง ไหลลงสู่แม่น้ำเลย ผ่านอำเภอวังสะพุง และขณะนี้ ปริมาณน้ำดังกล่าวได้ไหลทะลักเข้าสู่ชุมชนในเทศบาล ในอำเภอ เมือง อำเภอวังสะพุง

ทำให้บ้านเรือนราษฎร ตั้งแต่อำเภอวังสะพุง เช่น บ้าน นาหลัก บุ่งกกตาล และชุมชนเขตเทศบาลวังสะพุง ราว 400 หลังคาเรือน บ้านขอนแดง ขอนแก่น ตำบาลนาอาน

รวมถึงบ้านล่างในเทศบาลเมืองเลย บ้านนาบอน บ้านกางปลา ตำบลชัยพฤกษ์ มีระดับน้ำสูง 60-70 เซนติเมตร บ้านติ้ว หน้าวิทยาลัยเทคนิค บ้านติดต่อ ตำบลนาอาน บ้านแหล่งควายกับบ้านติดต่อ บางส่วนถูกตัดขาดจากชุมชน สะพานสูง 8 เมตร ไม่สามารถใช้การได้ ต้องใช้เรือข้าม และต้องเดินทางอ้อมไปประมาณ 15 กิโลเมตร กว่าจะเข้าหมู่บ้านได้

ทั้งนี้เฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองเลย บ้านเรือนราษฎร ขณะนี้ถูกท่วม ร่วม 800 หลัง บางจุด มีระดับความสูงของน้ำ 1-3 เมตร
นักเรียนนักศึกษา วิทยาลัยอาชีวะเลย วิทยาลัยเทคนิคเลย นักศึกษาที่มีที่พัก อยู่บริเวณติดริมแม่น้ำเลยหลายร้อยคนไม่มีที่พักในคืนนี้ต้องขนของไปพักกับเพื่อนๆนอกพื้นที่

ล่าสุดบ่ายวันนี้ นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ออกตรวจเยี่ยมราษฎรหลังน้ำได้ไหลทะลัก เข้าสู่บ้านเรือนประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองเลย โดยกล่าวว่า จังหวัดเลยได้ สั่งการไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ออกช่วยเหลือเป็นการด่วน










Local - Manager Online -

 

B1

น้ำป่าซัด3ตำบลใน อ.ภูผาม่าน ขอนแก่นอ่วม
ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 13 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 16:17 น.

น้ำป่าเทือกเขาเพชรบูรณ์ พัดถล่มพื้นที่ 3 ตำบล ใน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ชาวบ้าน 15 หมู่บ้านเดือดร้อน ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต



น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ และน้ำจากลำน้ำเซิน จาก จ.ชัยภูมิ พัดถล่มพื้นที่ 3 ตำบลของ อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ซึ่งประกอบด้วย ต.ห้วยม่วง ต.วังสวาบ และ ต.นาฝาย จึงส่งผลให้ชาวบ้านทั้ง 15 หมู่บ้าน ไม่สามารถที่จะสัญจรไปมาได้ เนื่องจากยังคงมีกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก และระดับน้ำท่วมสูงถึง 1.20 เมตร ทางด้าน นายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้นยังคงไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งทางจังหวัดได้เร่งทำการ
ให้ความช่วยเหลือ ด้วยการเตรียมอพยพประชาชนนอกพื้นที่มาไว้ในจุดที่ปลอดภัย เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าว ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขา และเป็นทางรับน้ำจาก จ.เพชรบูรณ์ และชัยภูมิ พร้อมสั่งตั้งเวรยามตรวจสอบระดับน้ำในจุดเสี่ยงภัยเพื่อ
เตือนภัยให้กับประชาชนได้รับทราบถึงสถานการณ์ในทุกชั่วโมง

Link : http://www.innnews.co.th/น้ำป่าซัด3ตำบลใน-อ-ภูผาม่าน-ขอนแก่นอ่วม--307902_06.html

 

B1

โคราชฝนหนักทำน้ำตะคองเพิ่มสูงขึ้น

ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 13 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 16:12 น.

ภาพประกอบข่าวไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


ระดับน้ำลำตะคอง เพิ่มสูงขึ้น ท่วมเขต อ.เมืองแล้ว ขณะที่ ต.หมื่นไวย ถนนคอนกรีตริมตลิ่งพังเสียหาย ท่ามกลางฝนที่ยังตกหนัก



ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง นานนับสัปดาห์ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในช่วงนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่อยู่ใต้อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ที่บริเวณ อ.สีคิ้ว และอำเภอสูงเนิน รวมถึงพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา ตอนบน ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนจำนวนมาก ไหลลงสู่ลำน้ำลำตะคอง จนทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำลำตะคอง ที่ไหลผ่านพื้นที่ ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรบางส่วนบ้างแล้ว อย่างเช่น ที่บ้านคลองบริบูรณ์ หมู่ที่ 5 ต.หมื่นไวย ปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและไหลเชี่ยวกราก ได้พัดกัดเซาะถนนคอนกรีตเสริมเหล็กริมตลิ่ง พังเสียหายยาวกว่า 50 เมตร และทรุดตัวลง โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่พากันเร่งนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวกั้นน้ำไว้ก่อน เพื่อป้องกับปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งล่าสุดระดับน้ำในลำน้ำลำตะคองที่ไหลผ่านพื้นที่ ต.หมื่นไวย ยังคงเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงบ่ายวันนี้ ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา เช่นเดียวกัน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างต้องเฝ้าระวังระดับน้ำ และเตรียมที่จะขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ ขึ้นที่สูง และเตรียมที่จะอพยพออกจากพื้นที่ทันที่ ที่น้ำเริ่มเอ่อเข้าท่วม

Link : http://www.innnews.co.th/โคราชฝนหนักทำน้ำตะคองเพิ่มสูงขึ้น--307899_06.html

 

B1

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จนท.จับจระเข้หลุดจากฟาร์มพัทยาได้ 23 ตัวแล้ว

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 align=left><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2554 16:17</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ความคืบหน้าการไล่ล่าจระเข้หลุดจากบ่อที่ฟาร์มจระเข้พัทยา เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นป่าลึก มีต้นหญ้าสูง ล่าสุดสามารถจับจระเข้ได้ 23 ตัวแล้ว โดยมีสำนักงานประมง จ.ชลบุรี เข้ามาตรวจสอบอย่างใกล้ชิด



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000116427

 

B1

ชาวนาลพบุรีเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำหวั่นขาดทุน

13 กย. 2554 16:26 น.


<DD>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวนาในเขต ตำบลโพธิ์ตรุ อำเภอเมือง ตำบลโคกสลุด ตำบลมุจลินทร์ ตำบลท่าวุ้ง ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง และตำบลบางขาม ตำบลมหาสอนตำบลบางพึ่ง อำเภอบ้านหมี่ จ.ลพบุรี ต่างรีบเก็บเกี่ยวข้าว ทั้งที่ยังไม่ถึงระยะเวลาของการเก็บเกี่ยว และบางแห่งก็เก็บเกี่ยวข้าวทั้งที่เปียกน้ำ เนืองจากมีฝนตก และน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมทุ่งนา ชาวนาในเขต อำเภอต่างเร่งมือเก็บเกี่ยวแล้วนำไปขายให้กับท่าข้าว เพราะบางก็ไม่รับซื้อ บาลบแห่งก็รับซื้อเพราะเป็นข้าวที่เปียกชื้น
<DD>นางขนิษฐา ประภากร ผู้จัดการท่าข้าว เฮง เฮง เฮง ตลาดท่าโขลง เลขที่ 381 หมู่ที่ 9 ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง ลพบุรี ว่าขณะนี้ ข้าวที่ชาวนานำมาขายส่วนใหญ่จะเป็นข้าวเปียกน้ำ เปียกฝนแม้จะเป็นข้าวที่ครบกำหนดการเก็บเกี่ยว ทาง ท่าข้าวจะให้ราคาตันละ 4,000- 5,000 กว่าบาท เท่านั้น เพราะไม่แน่ใจว่าข้าวที่ซื้อไว้จะเน่าหรือเปล่าอีกทั้งจะต้องนำมาตากแดนให้แล้งและในช่วงนี้ฝนตกลงมาตลอด หากเป็นข้าวสุพรรณ 1 และ สุพรรณ 31 จะรับซื้อในราคาตันละ 8,000 -8 ,500 บาท แต่ต้องเป็นข้าวที่ไม่เปียกน้ำ มา
<DD>“ปีนี้หากน้ำไม่ท่วมชาวนาจะได้ข้าวดี ไร่ละ 90 ถึง 100 กว่าถึง เนื้อข้าวดีมาก ในช่วงนี้ข้าวกำลังออกสู่ตลาด บางแห่งไม่รับซื้อข้าวเปียกน้ำเลย แต่ที่ท่าข้าว เฮง เฮง เฮง รับซื้อทั้งหมดข้าวที่ชาวนานำมาขายวันละ 400-500 ตัน โดยเฉพาะข้าวเปียกน้ำไม่ต่ำกว่า 500 ตัน ทำให้ชาวนาหันมาขายข้าวที่ท่าข้าวกันเป็นจำนวนมาก “ นางขนิษฐา กล่าว</DD><DD> </DD>

 

B1

ชลฯระยองปัดข่าวลืออ่างเก็บน้ำระยองแตก

13 กย. 2554 16:18 น.


<DD>จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีน้ำเอ่อท่วมล้นแม่น้ำระยองทั้งในเขตเทศบาลตำบลบ้านค่าย ร้านค้า หน้าที่ว่าการอำเภอบ้านค่าย สถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย และทำให้ชาวบ้านหลายตำบล ในอำเภอบ้านค่ายได้รับผลกระทบน้ำท่วมใหญ่ในช่วง 20กว่าปี จนชาวบ้านกล่าวหาว่าน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากอ่างเก็บน้ำ ของชลประทานระยอง ที่ตั้งอยู่ที่ อำเภอปลวกแดงแตก ชาวบ้านเตรียมอพยพหนีน้ำ
<DD>จากกรณีดังกล่าว นายเนตร อัจฉริยพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระยอง ชี้แจงว่าสาเหตุที่น้ำท่วมทะลักไหลไปตามหมู่บ้านจนได้รับความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรหลายตำบล ในอำเภอบ้านค่าย โรงเรียนมัธยมบ้านค่ายต้องปิดเรียนถึง 2 วัน
<DD>สาเหตุเกิดจากน้ำฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำที่ไหลบริเวณแม่น้ำระยองล้นและท่วมเข้าพื้นที่ต่างๆ ส่วนอ่างเก็บน้ำ ที่อยู่ในลุ่มน้ำคลองใหญ่ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำดอกกราย ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง มีความจุ 72 ลูกบาศก์เมตร ขณะนี้มีน้ำ จำนวน 61 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ตำบลละหาร ความจุ 164 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้มีน้ำ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ตำบลละหาร อำเภอปลวกแดง ความจุ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้มีน้ำ 40 ล้านลูกบาศก์เมตรพอดี ยืนยันว่าทุกอ่างยังแข็งแรง สามารถควบคุมบริหารน้ำได้ ทั้ง 3 อ่าง และยังระบายน้ำได้วันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ปริมาณฝนตกเข้ามาจะอยู่ที่ ปริมาณ 2 ล้านลูกบาศก์ เมตร
<DD>นายเนตร ยังกล่าวอีกว่า ต่อไปชลประทานจะแก้ไข ปัญหา น้ำท่วม และภัยแล้ง อย่างยั่งยืน เพื่อ ป้องกันทั้งน้ำท่วม และภัยแล้ง ตอนนี้สปินเวย์อ่างระบายน้ำล้นก็ยังไม่ถึงจุดระบายแต่อย่างใดรวมทั้งการปล่อยน้ำไปสู่ชาวบ้านมากมาย อย่างที่เป็นข่าว ก็ไม่จริง จึงขอแจ้งให้ประชาชนทราบและขณะนี้น้ำที่ไหลล้นก็เหลือ 50 เปอร์เซนต์เตรียมที่จะเข้าสู่สภาวะปกติในวันพรุ่งนี้ถ้าไม่มีฝนตกกระหน่ำมากมาย.ซึ่งเป็นหนึ่งในการ บริหารน้ำ และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีก็จะเริ่มระบายน้ำในเดือน ตค.และพย.เพื่อรองรับน้ำในปีหน้า</DD>
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=529111&lang=T&cat=

 

B1

ศอส.สรุปผู้เสียชีวิตน้ำท่วม 87 ราย "ปภ."เตือน 11 จว.ระวังน้ำป่าไหลหลาก!!

นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 21 จังหวัด 99 อำเภอ 619 ตำบล 3,578 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 221,134 ครัวเรือน 693,433 คน ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม นนทบุรี อุบลราชธานี ยโสธร ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราด ตรัง สตูล และตาก ผู้เสียชีวิต 87 ราย ผู้สูญหาย 3 ราย

นายวิเชียร กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งที่ยังต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ ลุ่มน้ำปิง ที่อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ลุ่มน้ำยม ที่ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก อำเภอสามง่าม โพทะเล โพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ลุ่มน้ำน่าน ที่อำเภอนครไทย เมือง จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอเมือง บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ลุ่มน้ำป่าสัก ที่อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ลุ่มน้ำมูล ที่ อำเภอเมือง เดชอุดม ตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ลุ่มน้ำชี ยังคงมีน้ำล้นตลิ่งที่ อำเภอเมือง มหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ลุ่มน้ำในพื้นที่ภาคใต้ ที่อำเภอย่านตาขาว ห้วยยอด เมือง ปะเหลียน จังหวัดตรัง ส่วนปริมาณน้ำที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ด้าน นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าว่า ฝากเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะอาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในวันที่ 13-14 กันยายน2554

 

B1

'หลวงพ่อคูณ'ทรงตัว ฉันอาหารทางสายยางปกติ


แพทย์ประเมินอาการ “หลวงพ่อคูณ” อยู่ในภาวะปกติ ต่อมหมวกไตทำงานดี เริ่มปรับกิจวัตรให้ใกล้เคียงช่วงก่อนอาพาธ..

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. เวลา 13.13 น. ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล รายงานความคืบหน้าการรักษาอาการอาพาธหลวงพ่อคูณ ฉบับที่ 6 หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมคณะแพทย์ ว่า ตลอดวันที่ผ่านมาอาการทั่วไปของหลวงพ่อไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีปัญหาการให้อาหารและยาทางสายยางผ่านหน้าท้อง ระบบขับถ่ายทำงานดี คณะแพทย์ได้ถวายการทำกายภาพบำบัดทั้งในส่วนของการเคลื่อนไหวแขนขา และกระตุ้นการกลืน

เช้าวันนี้คณะแพทย์ได้ทำการตรวจเลือดทั่วไป พบว่าค่าที่แสดงการทำงานของอวัยวะสำคัญต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนผลการประเมินการทำงานของต่อมหมวกไตก็พบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติเช่นกัน และได้เริ่มปรับช่วงเวลากิจวัตรต่างๆ ให้ใกล้เคียงก่อนการอาพาธมากที่สุด







โดย: ทีมข่าวการศึกษา
13 กันยายน 2554, 16:00 น.

Thairath mobile site

 

B1

รายงานแผ่นดินไหวล่าสุด





Update time = Tue Sep 13 9:45:26 UTC 2011

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1><TBODY><TR><TH> </TH><TH align=middle>MAG </TH><TH align=middle>UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </TH><TH align=middle>LAT
deg </TH><TH align=middle>LON
deg </TH><TH align=middle>DEPTH
km </TH><TH> Region</TH></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 09:32:35 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 61.853 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -150.402 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>13.7 </TD><TD vAlign=top> SOUTHERN ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 09:10:20 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 35.201 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 141.263 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>27.5 </TD><TD vAlign=top> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 08:27:36 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -6.907 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 143.868 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> NEW GUINEA, PAPUA NEW GUINEA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 07:56:10 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -6.879 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 143.932 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>15.5 </TD><TD vAlign=top> NEW GUINEA, PAPUA NEW GUINEA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 07:21:36 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 32.797 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -100.842 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>5.1 </TD><TD vAlign=top> WESTERN TEXAS</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 05:47:34 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 36.416 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -117.858 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>5.4 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 05:46:40 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 37.042 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -104.813 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>4.9 </TD><TD vAlign=top> COLORADO</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 05:24:40 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 36.943 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -104.756 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>5.0 </TD><TD vAlign=top> NEW MEXICO</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 04:49:38 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 5.633 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -77.502 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>25.7 </TD><TD vAlign=top> NEAR THE WEST COAST OF COLOMBIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 04:38:49 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 5.635 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -77.534 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>18.9 </TD><TD vAlign=top> NEAR THE WEST COAST OF COLOMBIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 04:34:05 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 58.344 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -153.920 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>68.1 </TD><TD vAlign=top> KODIAK ISLAND REGION, ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 02:59:14 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 36.975 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -104.766 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>9.0 </TD><TD vAlign=top> NEW MEXICO</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 01:37:19 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 36.976 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -104.849 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>6.8 </TD><TD vAlign=top> NEW MEXICO</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/09/13 00:48:24 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 11.383 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -86.708 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>60.6 </TD><TD vAlign=top> NEAR THE COAST OF NICARAGUA</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

B1

เพื่อนๆ ที่อยู่พื้นที่เสี่ยงให้ระวังด้วยนะค่ะ ;aa27

ศภช.เตือนด่วน 14 จังหวัด เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน

13 กย. 2554 15:35 น.



<DD>ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ(ศภช.) แจ้งว่า ในวันนี้ (13 ก.ย. 54) อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มต่อเนื่องออกไปอีกในบริเวณ </DD>
จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย

พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระมัดระวังในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ประสบภัยและติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง


http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=529095

ย้อนไปดู

- การตรวจเช็ครถยนต์ ..หลังน้ำท่วม,รถจมน้ำ

- วิธีเตรียมน้ำดื่ม"ปลอดภัย" ในภาวะวิกฤตน้ำท่วม

- คู่มือ รับสถานการณ์น้ำท่วม


หน้า 460

http://palungjit.org/threads/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-ช่วงนี้ถึงธันวาคม-2011-a.288866/page-460

 

B1

อินโดนีเซียปิดท่าอากาศยานทางตะวันตกจากปัญหาหมอกควัน

<HR style="WIDTH: 100%">
วันอังคาร ที่ 13 ก.ย. 2554
<SCRIPT type=text/javascript>var addthis_config = {data_use_flash: false}</SCRIPT><!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js#username=xa-4b2f440f591a0d23"></SCRIPT> <!-- AddThis Button END -->


จัมบี 13 ก.ย.-เจ้าหน้าที่ของทางการอินโดนีเซียกล่าวว่า ปัญหาหมอกควันที่เกิดจากการเผาพื้นที่ของบรรดาเกษตรกร ส่งผลให้ต้องปิดท่าอากาศยานอย่างน้อย 1 แห่งทางตะวันตกของประเทศ และพื้นที่บางส่วนของสิงคโปร์และมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้าน ก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวด้วยเช่นกัน

เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานเปิดเผยว่า หมอกควันหนาทึบจนทางการต้องสั่งปิดท่าอากาศยานสุลต่านทาฮาบนเกาะสุมาตรา ปัญหาหมอกควันในฤดูแล้งเกิดจากการจุดไฟเพื่อเผาพื้นที่สำหรับทำการเกษตรและโครงการพัฒนาต่าง ๆ ทั่วประเทศ ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเกือบทุกปีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 เป็นต้นมา และจุดชนวนให้เกิดความตึงเครียดภายในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังทำให้รัฐบาลอินโดนีเซียยังถูกมองว่าไร้ความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายของตนเอง.-สำนักข่าวไทย



อินโดนีเซียปิดท่าอากาศยานทางตะวันตกจากปัญหาหมอกควัน





Wildfire smoke forces closure of Indonesian airport

By AP News Sep 13, 2011 5:26PM UTC

JAMBI, Indonesia (AP) — Officials say smoke from fires set by slash-and-burn farmers has forced the closure of at least one airport in western Indonesia. Parts of neighboring Singapore and Malaysia have also been blanketed in a heavy white haze from the fires.
Airport official Abiyoso said Tuesday that the smoke was so thick that authorities had no choice but to shut down Sultan Taha airport on Sumatra island.

The dry-season haze is caused by fires set to clear land for agricultural and other development projects across Indonesia. They have plagued Southeast Asia almost every year since the 1990s.
They have stoked regional tensions and put attention on the Indonesian government’s inability to enforce its own laws.

Wildfire smoke forces closure of Indonesian airport | Asian Correspondent

 

B1

เทศบาลนครสงขลาทำแนวกั้นบนเขาน้อย

ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 13 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 17:17 น.

เทศบาลนครสงขลา นำเครื่องจักร ทำแนวกั้นบนเขาน้อย เพื่อป้องกันเหตุดินและต้นไม้ถล่ม ไหลลงไปทับบ้านเรือนของชาวบ้าน

นายยุทธนา เหมือนพิทักษ์ ผู้อำนวยการส่วนการโยธา เทศบาลนครสงขลา นำเครื่องจักร พร้อมคนงานขึ้นไปทำแนวกั้นบนเขาน้อย ในเขตเทศบาลนครสงขลา โดยนำไม้ไปตอกเป็นเสาเข็ม ที่บริเวณจุดเสี่ยงเชิงเขา ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้าน

เรือนของชาวบ้านหลายสิบหลังคาเรือน เพื่อป้องกันเหตุดินและต้นไม้จากเขาน้อย สไลด์ลงไปทับบ้านของชาวบ้านที่อยู่ด้านล่าง และจะนำกระสอบทรายมาวางซ้อนเป็นกำแพงบริเวณเชิงเขาอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันน้ำจากเขาน้อยไม่

ให้ไหลลงไปยังด้านล่าง ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดเหตุดินสไลด์จากภาวะฝนตกและดินชุ่มน้ำ ซึ่งขณะนี้ แม้ในพื้นที่ จ.สงขลา ฝนจะทิ้งช่วง แต่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังจากที่ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุดินจากเขาน้อยสไลด์ลง

มาทับบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่เชิงเขามาแล้วถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นเหตุให้ นายกฤษดา สูเมือง ครูโรงเรียนวชิรานุกูล จ.สงขลา เสียชีวิต ขณะที่นอนหลับ
อยู่ภายในบ้าน

Link : http://www.innnews.co.th/เทศบาลนครสงขลาทำแนวกั้นบนเขาน้อย--307925_06.html