WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ข้อความเดิมจาก Somsweet:

พายุถล่มอุดรธานี เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น บ้านเรือนเสียหาย

วันที่ 11/07/2554 19:30 (ผ่านมา 35 นาที)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ 10 กรกฎาคม ได้เกิดเหตุพายุและลมกระโชกแรงพัดกระหน่ำบ้านไก่เถื่อน เขตเทศบาล ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูง ถนนมิตรภาพหนองคาย-อุดร ฝั่งขาเข้า หักโค่นลง 24 ต้น เป็นระยะทางยาวกว่าครึ่งกิโลเมตร โดยล้มลงมาพาดบนถนนมิตรภาพ ช่วงกิโลเมตรที่ 2-3 ล้ำเส้นทางบนถนนไป 1 เลน ทำให้ไฟฟ้าดับ ประชาชนในเขตบ้านไก่เถื่อน และบ้านเก่าน้อย ไม่มีไฟฟ้าใช้

โดยวันที่ 11 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอุดรธานี ได้เชื่อมต่อกระแสไฟจากเฟสอื่นเข้ามา เพื่อให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวมีไฟฟ้าใช้ และได้นำรถเครนมาขยับเสาไฟและสายไฟ ที่พาดอยู่บนถนนมิตรภาพ 1 ช่องทางออก เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับรถยนต์ที่ขับผ่านไปมา และเตรียมนำเสาไฟฟ้าและสายไฟแรงสูงที่หักล้มออก ก่อนที่จะนำเสาไฟฟ้าต้นใหม่มาปัก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ความเสียหายจากลมพายุที่พัดเสาไฟฟ้าแรงสูง พร้อมสายส่งหักลงมา คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ขณะที่ยังไม่รวมสายโทรศัพท์ และเคเบิลใยแก้วของทีโอที และทีทีแอนด์ที และอาคารบ้านเรือนจำนวนมาก ร้านจำหน่ายรถยนต์มือสอง ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก คาดว่ามูลค่าจะสูงกว่า 20 ล้านบาท



ที่มา: มติชนออนไลน์<!-- google_ad_section_end -->

น่ากลัวจริง ระมัดระวังด้วยนะคะ

เพื่อนๆช่วยเข้ามาเล่าสภาพอากาศกันได้นะคะ ใครอยู่แถบไหนเข้ามารายงานกันได้จ้า

B5

 

คืนวันที่ 11 แล้ว หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ เหลือพรุ่งนี้อีกวันที่ต้องเฝ้าระวังต่อ :boo:

B5

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พบซากโลมาถูกคลื่นซัดเกยตื้นอีก 2 ตัวที่ภูเก็ต-ระนอง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 กรกฎาคม 2554 11:40 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000084900&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากภูเก็ตเร่งผ่าซากโลมาจากพังงา หลังผ่าเสร็จไปแล้ว 1 ตัว พบอาการตับ-ม้ามโตผิดปกติ ขณะที่ล่าสุดพบซากโลมาอีก 2 ตัวลอยติดชายหาดกะรน จ.ภูเก็ต และหาดประพาส จ.ระนอง

วันนี้ (11 ก.ค.) นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการประมง หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน น.ส.พัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก และเจ้าหน้าที่ช่วยกันผ่าซากโลมาฟันห่างเพศเมีย น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัมที่ว่ายน้ำเข้ามาเกยตื้นตายที่บริเวณเกาะไผ่ จ.พังงา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งขึ้นมาเกยตื้นพร้อมกัน 2 ตัว และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ผ่าซากเสร็จไปแล้ว 1 ตัว เป็นโลมาฟันห่างเพศผู้ จากการผ่าพิสูจน์พบว่ามีอาการติดเชื้อภายใน มีพยาธิในตัว ตับและม้ามโตผิดปกติ สำหรับการผ่าซากโลมาฟันห่างนั้นจะต้องดูว่ามีอาการเหมือนกับตัวแรกหรือแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นายก้องเกียรติกล่าวว่า ขณะนี้ทางกลุ่มสัตว์ทะเลหายากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดระนองว่ามีการพบซากโลมาที่บริเวณหาดประพาสอีก 1 ตัว คาดว่าน่าจะตายมาแล้วหลายวันยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นโลมาประเภทใดเนื่องจากสภาพเน่าเละและขณะนี้ได้แนะนำให้เจ้าหน้าที่นำซากไปฝังก่อนและจะทำการเก็บกระดูกมาตรวจสอบอีกครั้ง

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบซากโลมากระโดดอีก 1 ตัวที่บริเวณหาดกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) ซึ่งเป็นซากโลมาที่ตายมาแล้วหลายวันเช่นกันไม่สามารถที่จะระบุเพศได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบต่อไป

สำหรับสาเหตุที่พบซากโลมาลอยมาเกยตื้นในช่วงนี้จำนวนหลายตัว สาเหตุหลักคาดว่าเกิดจากอาการป่วย ประกอบกับช่วงนี้ฝั่งทะเลอันดามันมีคลื่นลมแรงทำให้ซัดเอาสัตว์ทะเลที่มีอาการป่วยร่างกายอ่อนแอและไม่แข็งแรงเข้ามาบริเวณชายฝั่งได้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

นักท่องเที่ยวแตกตื่น ไฟไหม้ป่าอุทยานฯหาดเจ้าไหม

วันที่ 11/07/2554





ไฟไหม้ป่าในเขตอุทยานฯหาดเจ้าไหม อ.กันตัง ตรัง กินเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ส่งผลให้บ้านเรือน ชาวบ้าน ร้านค้า โรงเรียน ชุมชน สถานที่ท่องเที่ยวถูกควันไฟปกคลุมไปทั่วบริเวณ นักท่องเที่ยวแตกตื่นรีบเดินทางกลับทันที...

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 ก.ค. นายอะหมาด แก้วทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง นำชาวบ้านและเด็กๆ ในพื้นที่ ม. 6 ต.เกาะลิบง กว่า 30 คน ช่วยกันดับไฟป่าซึ่งกำลังโหมลุกไหม้ป่าเสม็ดในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม อ.กันตัง เป็นรอบที่ 2 หลังจากที่เมื่อช่วงสายไฟได้ลุกไหม้มาแล้วครั้งหนึ่ง ต่อมามีลมกรรโชกแรงทำให้ไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง กินเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้าน ร้านค้า โรงเรียนและชุมชน รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเช่น หาดยาว หาดสั้น และหาดหยงหลิง อ.กันตัง ถูกควันไฟปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งต้องขับรถออกจากสถานที่ท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเกรงไฟจะลุกไหม้จนไปถึงแหล่งท่องเที่ยวซึ่งอยู่ห่างจากประมาณ 1-2 กิโลเมตร และจะหาทางออกไม่ได้ ส่วนชาวบ้านและเด็กๆ ต้องใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก ซึ่งหลังไฟป่าไหม้ลุกลามอย่างหนักประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ.กันตัง พร้อมหน่วยดับไฟป่า อ.สิเกา ได้เข้าไปช่วยดับไฟให้ชาวบ้าน โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ขณะที่ชาวบ้านยังผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าดูสถานการณ์เนื่องจากยังมีกระแสลมแรง เกรงไฟจะลุกขึ้นอีก โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้

ส่วนสาเหตุไฟป่าลุกไหม้ครั้งนี้ ในเบื้องต้น นายอะหมาด แก้วทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.เกาะลิบง เผยว่า มีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น เกิดจากการจุดไฟเพื่อหาของป่าของชาวบ้าน หรือจากนักท่องเที่ยวที่ก่อไฟแล้วดับไฟไม่สนิท หรืออาจเกิดจากการเผาไล่ที่ของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งขณะนี้มีนายทุนมาบุกรุกปลูกต้นปาล์มและต้นมะพร้าวในเขตอุทยานฯ จำนวนหลายสิบไร่ โดยเหตุไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ละปีเจ้าหน้าที่ฯ มักจะเดินทางมาด้วยความล่าช้า ทำให้ไฟไหม้ป่ากินเนื้อที่ตั้งแต่ 200-500 ไร่ แต่ปีนี้เพิ่งเกิดไฟป่าขึ้นเป็นครั้งแรกเพิ่งกินเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ชาวบ้านได้ช่วยกันดับไฟไว้ได้บางส่วน และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมเรื่องการดับไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปี.

ไทยรัฐออนไลน์

 

ฮือฮาพญานาคโผล่เล่นน้ำ

วันที่ 11/07/2554 01:00 (ผ่านมา 20 ชั่วโมง 7 นาที)



ตะลึง พบสัตว์ปริศนา ยาวประมาณ 10 เมตรลักษณะคล้ายงู ลำตัวเท่าคน รองผู้ว่าฯ-ผู้การบึงกาฬ ไปชมกับตา มาตามนัด-ว่ายน้ำโชว์ในบึงช่วงใกล้เข้าพรรษา...

ฮือฮา “พญานาค” โผล่ปรากฏให้เห็นคาตาต่อหน้ารอง ผวจ. ผู้บังคับการตำรวจ และคณะ ท่ามกลางประชาชนนับพันคน ลักษณะคล้ายงูตัวใหญ่ว่ายน้ำบิดตัวไปมาโชว์ร่วม 2 นาที ก่อนดำน้ำหายไป ขณะที่ ผกก.ในพื้นที่เผยก่อนหน้านั้น “ปู่อือลือ” เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเข้าฝัน 2-3 ครั้ง ว่าจะมาโผล่ให้เห็นพร้อมบอกวันเวลา ครั้งแรกไม่เชื่อให้ลูกน้องไปดู พบโผล่ตรงตามนัดจริง เลยมั่นใจเป็น “พญานาค” กระซิบบอกผู้การ และคณะรองผู้ว่าฯที่มาตรวจราชการในพื้นที่รอพิสูจน์ ผลปรากฏทุกอย่างเป็นไปตามนัด ขณะที่เขาใหญ่เกิดพระอาทิตย์ทรงกลดดวงมหึมาแห่ไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล

ฮือฮาปรากฏการณ์ชวนพิศวงก่อนถึงวันเข้าพรรษาต่อหน้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่รายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 10 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.ชัยทัต รุ่งแจ้ง ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ ว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ร่วมกับคณะรอง ผวจ.บึงกาฬ คือนายศุภชัย เหลืองแสงทอง เดินทางไปตรวจราชการที่ อ.บึงโขงหลง ระหว่างนั้นได้มี พ.ต.อ.ชยรพ สายจันยนต์ ผกก.สภ.บึงโขงหลง มาบอกว่า วันนี้ (วันที่ 8 ก.ค. 54) เวลาประมาณ 15.20 น. จะมีพญานาคโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในบึงโขงหลงให้ผู้คนได้เห็นเป็นบุญตา

ผบก.ภ.จ.บึงกาฬกล่าวอีกว่า ตอนแรกยังไม่ปักใจเชื่อ แต่เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นกับตาเลยชวนคณะรองผู้ว่าฯไปเฝ้ารอดู เมื่อไปถึงพบมีประชาชนมารอดูอยู่แล้วประมาณ 400-500 คน และทยอยเดินทางตลอดรวมประมาณพันคนได้ ขณะเดียวกัน มีพ่อค้าแม่ ขายนำสินค้ามาขายกันเป็นจำนวนมาก ทั้งน้ำดื่ม ผลไม้ กระทั่งเวลาประมาณ 15.18 น. ประชาชนที่เฝ้ารอดูต่างส่งเสียงร้องฮือฮาตะโกนโหวกเหวกพร้อมชี้มือตะโกนไปยังกลางหนองน้ำบึงโขงหลง ภาพที่เห็นแทบจะไม่เชื่อ สายตาตัวเอง เมื่อพบเห็นวัตถุเคลื่อนไหวห่างจากฝั่งประมาณ 200 เมตร ลักษณะคล้ายงูใหญ่กำลังว่ายน้ำบิดตัวเป็นเกลียว ว่ายจากทางทิศใต้ไปทางทิศเหนือ ความยาวของสัตว์ที่กำลังว่ายน้ำก็น่าจะอยู่ประมาณ 8-10 เมตร ความใหญ่ราวๆ ลำตัวคนหรือประมาณเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 ซม.และมีสีดำ ว่ายน้ำอยู่ประมาณ 2 นาที ก็หายไป

“ครั้งแรกผมก็ยังไม่เชื่อ แต่พอได้มาเห็นประกอบกับเวลาที่ ผกก.บึงโขงหลง บอกว่าจะขึ้นมาให้เห็นใน เวลา 15.20 น. สิ่งที่ปรากฏก็ใกล้เคียง และทราบว่าครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่พญานาคโผล่ขึ้นมาให้เห็นและบอกเวลาทุกครั้งด้วย วันนั้นผมถึงกับขนแขนลุกซู่เลยนะ” พล.ต.ต.ชัยทัตกล่าวอย่างตื่นเต้น

ขณะที่ พ.ต.อ.ชยรพ สายจันยนต์ ผกก.สภ.บึง–โขงหลง กล่าวว่า เพิ่งย้ายมารับตำแหน่งเมื่อเดือน ก.พ. 54 ช่วงที่ผ่านมามักจะฝันเห็น “ปู่อือลือ” ซึ่งเป็นเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อาศัยอยู่ในบึงโขงหลง ซึ่งคนในพื้นที่เคารพนับถือ อยากให้ตนสร้างศาลให้ที่บึงโขงหลง แต่ไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับใครเพราะกลัวจะหาว่าบ้า อีกทั้งเพิ่ง ย้ายมาอยู่ ยังไม่คุ้นเคยกับใคร แต่ปู่อือลือบอกหากไม่เชื่อ จะแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้ดู โดยจะมาปรากฏร่าง เป็นพญานาคมาว่ายน้ำให้เห็นในบึงโขงหลง และบอกเวลามาด้วยทุกครั้ง “ครั้งแรกไม่เชื่อ ให้ตำรวจลูกน้องและคนรู้จักไปดูก็เห็นจริงๆ ครั้งที่ 2-3 มีคนทราบข่าว ก็มาดูกันมากขึ้น และวันออกพรรษาปีนี้ปู่อือลือท่านบอกว่าจะโผล่มาให้ชมทั้งบั้งไฟพญานาคเหมือนในน้ำ โขงที่มีลูกไฟสีแดงพุ่งขึ้นมาจากน้ำอีกด้วย”

ส่วนนายปราโมทย์ สุกทน ผอ.โรงเรียนอนุบาลสาสนสิทธิ์อำนวย ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง เปิดเผยว่า เป็นผู้หนึ่งที่มาดูพญานาคว่ายน้ำ และมาทุกครั้งจะบันทึกภาพวีดิโอไว้ด้วย นับว่าเป็นเรื่องที่แปลก เมื่อบอกเวลาทุกครั้งจะปรากฏกายให้เห็นตรงเวลาตามที่นัดไว้ทุกคนที่มาไม่เคยผิดหวัง หลายคนยกมือไหว้ขึ้นหัวสาธุที่ได้ชมเป็นบุญตา สำหรับบึงโขงหลงเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 2 กม. ยาวประมาณ 13 กม.ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลกหรือแรมซาร์ไซค์ ลำดับที่ 1,098 ประกาศเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2543 เนื้อที่ 8,062 ไร่ เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย

นอกจากเรื่องลี้ลับที่ จ.บึงกาฬ ก่อนวันเข้าพรรษาแล้วยังมีปรากฏการณ์อีกแห่งคือ ที่บริเวณเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเวลา 10.00-14.00น. วันที่ 10 ก.ค. เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดเป็นวงกลมดวงใหญ่ สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านที่พบเห็น บางคนเชื่อว่าพระอาทิตย์ทรงกลดเป็นเรื่องอัศจรรย์ จะเกิดสิ่งดีๆกับบ้านเมืองในช่วงก่อนเทศกาลเข้าพรรษาหลายคนถึงกับจุดธูปเทียนยกมือไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

ชมภาพข่าว มาตามนัด - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center 1><TBODY><TR><TD bgColor=#445f94 colSpan=5 align=middle></TD></TR><TR><TD height=25 colSpan=5 align=middle>พยากรณ์อากาศ 12 ก.ค. 54</TD></TR><TR class=RAD><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>เชียงใหม่ </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>25 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>33 </TD></TR><TR class=RA><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>แม่ฮ่องสอน </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>24 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>33 </TD></TR><TR class=RAD><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>อุบลราชธานี </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>24 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>33 </TD></TR><TR class=RA><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>มหาสารคาม </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>24 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>33 </TD></TR><TR class=RAD><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>กรุงเทพมหานคร </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>26 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>36 </TD></TR><TR class=RA><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>สงขลา </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> </TD><TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>26 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>34 </TD></TR><TR class=RAD><TD style="PADDING-LEFT: 3px" vAlign=center>ภูเก็ต </TD><TD vAlign=center width=22 align=middle> <TD vAlign=center width=20> <TD class=minTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>24 </TD><TD class=maxTempProvince vAlign=center width=20 align=middle>31</TD></TR></TBODY></TABLE>

ลักษณะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัด ปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในภาคเหนือ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในระยะ 1-3 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนด้านตะวันออก จะมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 11-15 ก.ค. 2554

 

<CENTER>11/07 การไฟฟ้าแนะวิธีการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว และไฟฟ้าลัดวงจร โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน

</CENTER>



นายพิมล นองเนือง ผู้ช่วยผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดตราด กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นช่วงฤดูฝน สภาพอากาศมีความชื้นสูงจากน้ำฝนที่ตกลงและบางแห่งอาจมีน้ำท่วมขัง ทำให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว หรือลัดวงจร เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าฤดูอื่น จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบสายไฟภายในบ้าน ว่าชำรุดหรือไม่ หากพบการชำรุดให้รีบแก้ไขหรือเปลี่ยนใหม่ทันที และควรติดตั้งสายดินเพื่อป้องกันไฟรั่ว โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งใช้งานในพื้นที่ที่มีสภาพเปียกชื้น นอกจากนี้ควรตรวจสอบเสาทีวีหรือเสาวิทยุของบ้านที่ติดตั้งใกล้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง ว่ามีความมั่นคงแข็งแรงไม่ เพราะช่วงฤดูฝนมักมีพายุรุนแรง อาจทำให้เสาทีวีล้มทับสายแรงสูง ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ หากพบเห็นสายไฟฟ้าขาด หรือหย่อน ห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด ให้รีบแจ้งการไฟฟ้าในพื้นที่ทันที รวมทั้งหากพบเห็นผู้ถูกไฟฟ้าดูดไม่ควรเข้าช่วยเหลือทันที ให้ตรวจสอบว่ามีสายไฟฟ้าแตะร่างกายอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มีจึงเข้าไปปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลต่อไป

 

11 July 2011

เกิดหลุมยักษ์ขึ้นอีกแห่งที่บริเวณรอยเลื่อน New Madrid เท็กซัส

โดยมีความกว้างขนาด 300 ฟุต และลึกกว่า 150 ฟุต

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Jf-b37stBOU&feature=player_embedded"]YouTube - ‪Amazing massive sinkhole TOWN of Daisetta Texas New Madrid Fault Line Update July 10 2011 Update‬‏[/ame]


Map of the New Madrid Seismic Zone


Reelfoot Rift and the New Madrid Seismic Zone in a 3D topographic image


**รอย เลื่อนนิวแมดริด (New Madrid fault) อยู่ใกล้กับเขตติดต่อของรัฐมิสซูรี เคนทักกี อาร์คันซอ และเทนเนสซี ได้ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.0 ริกเตอร์หรือมากกว่านั้น โดยแรงสั่นสะเทือนทำให้ระฆังของโบสถ์ในบอสตันที่อยู่ห่างออกไปถึง 1,500 ไมล์แกว่งและส่งเสียงดัง นอกจากนี้ยังส่งผลทำให้สภาพภูมิศาสตร์ของพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน คือพื้นดินถูกยกขึ้นจนแม่น้ำมิสซิสซิปปีไหลย้อนขึ้นทางต้นน้ำ โชคดีที่บริเวณนั้นมีประชากรเบาบางจึงมีคนเสียชีวิตเพียงคนเดียวและ ทรัพย์สินเสียหายอีกเล็กน้อย


B5

 

แผ่นดินไหวศูนย์กลาง: Turkey

2011-07-11 16:09:15 UTC
2011-07-11 23:09:15 THA
Lat: 40.27 , Long: 30.15
ขนาด : 4.4 , ลึก: 5 กม.


ไหวก่อนหน้านี้


Update time = Mon Jul 11 16:17:24 UTC 2011

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1><TBODY><TR><TH> </TH><TH align=middle>MAG </TH><TH align=middle>UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </TH><TH align=middle>LAT
deg </TH><TH align=middle>LON
deg </TH><TH align=middle>DEPTH
km </TH><TH> Region</TH></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/07/11 15:51:25 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -49.977 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -113.977 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>15.9 </TD><TD vAlign=top> SOUTHERN EAST PACIFIC RISE</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2011/07/11 15:35:52 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -20.525 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -178.087 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>510.4 </TD><TD vAlign=top> FIJI REGI</TD></TR></TBODY></TABLE>

B5

 

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุด

 

ชมคลิปภูเขาไฟ Etna อิตาลีเกิดการระเบิดขึ้นล่าสุด

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=SpRm3yMFO_M&feature=player_embedded]YouTube - ‪Etna paroxysm 09/07/2011 - kd produzione‬&rlm;[/ame]

B5

 

รถไฟอินเดียตกรางวันเดียว2ขบวนทั้ง'อุบัติเหตุ-ถูกบึ้ม'ตาย80เจ็บ450

วันที่ 11/07/2554 23:23 (ผ่านมา 15 นาที)



สภาพยับเยินของรถไฟกัลกาเมล (Kalka Mail) หลังเมื่อวันอาทิตย์ (10) ประสบอุบัติเหตุตกรางบริเวณเมืองฟาเตห์ปุระ (Fatehpur) ระหว่างกำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงนิวเดลี เอเอฟพี/เอเจนซี - ทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัยพร้อมสุนัขดมกลิ่นของอินเดีย ระดมกำลังค้นหาผู้เสียชีวิตและผู้ที่รอดตายแต่ยังติดค้างตามโบกี้รถไฟโดยสารที่ตกรางและถูกชนถูกอัด ภายหลังที่เกิด 2 โศกนาฏกรรมขบวนม้าเหล็กที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทว่าเกิดขึ้นภายในวันเดียวกันคือ วันอาทิตย์(10)ที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีผู้คนล้มตายอย่างน้อย 80 ราย กับผู้บาดเจ็บกว่า 450 ราย

ขบวนรถไฟสายมรณะที่ประสบเหตุพิบัติขึ้นก่อน เป็นขบวนด่วนพิเศษที่มีผู้โดยสารกว่า 1,000 ราย อัดแน่นขนัดอยู่ในโบกี้ต่างๆ สิบกว่าโบกี้ โดยเป็นรถไฟที่ออกจาก โกลกาตา (กัลกัตตา) มุ่งหน้าสู่กรุงนิวเดลี และขณะที่แล่นด้วยความเร็วเต็มที่นั้นได้หยุดรถกะทันหัน ทำให้ตู้โบกี้ร่วมๆ 10 ตู้พุ่งหลุดออกจากราง ตอนเกิดเหตุ รถไฟวิ่งอยู่ในพื้นที่รัฐอุตตรประเทศ ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของอินเดีย โดยห่างจากกเมืองลัคเนา เมืองหลวงของรัฐประมาณ 150 กิโลเมตร

สภาพความเสียหายน่าสลดใจยิ่ง ตู้โบกี้จำนวนมากพังยับเยิน บางตู้ก่ายเกยกันเป็นกองพะเนินเทินขึ้น บางส่วนถูกบดขยี้จนบี้แบนพังพาบอยู่กับพื้น ทางการต้องใช้รถยกมาเคลื่อนย้ายซากปรักเหล่านี้เป็นการเร่งด่วน

สันทีป มธุระ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของการรถไฟเส้นทางกลาง-เหนือของอินเดีย แจ้งในตอนเย็นวานนี้ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 80 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 350 คน โดยผู้ที่เสียชีวิตเป็นชาวสวีเดน 2 ราย นอกจากนั้นยังมีชาวสวีเดนที่บาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 1 รายด้วย

ส่วนที่รัฐอัสสัม ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ก็เกิดเหตุขบวนรถไฟตกรางเสียหายยับ เนื่องจากถูกวางระเบิด โดยตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติโบโดแลนด์ หรือ เอ็นดีเอฟบี (National Democratic Front of Bodoland - NDFB) ซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในรัฐอัสสัม

จุดอุบัติภัยแห่งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่จากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดราว 600 ราย มีผู้บาดเจ็บไม่น้อยกว่า 100 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 20 ราย ทั้งนี้ ขบวนรถไฟเหยื่อความขัดแย้งทางการเมืองรายล่าสุดนี้ มี 4 โบกี้ที่ตกราง โดยบางโบกี้กลิ้งลงไปในคูน้ำตื้นๆ

ขบวนรถด่วนพิเศษขบวนนี้ เต็มไปด้วยผู้จาริกแสวงบุญจากจุดต่างๆ ของรัฐอัสสัม ซึ่งพากันมุ่งหน้าไปยังเมืองปุรี แต่ต้องมาประสบเหตุร้ายกาจหลังจากเพิ่งออกเดินทางได้เพียง 70 กิโลเมตร จากสถานีตั้งต้นในเมืองกูวาฮาตี เมืองใหญ่ของรัฐอัสสัม



ที่มา: ผู้จัดการ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผ่นดินไหวรุนแรง 6.2 เขย่าฟิลิปปินส์ ยังไม่เตือนสึนามิ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>12 กรกฎาคม 2554 04:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.2 เขย่าฟิลิปปินส์เช้ามืดวันอังคาร(12) สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯระบุ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ยังไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิ

สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ เปิดเผยว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเวลาประมาณ 04.47 น.(ตรงกับเมืองไทย03.47น.) มีศูนย์กลางห่างจากเมืองเนกรอส ไปทางตะวันตก 125 กิโลเมตร ณ ความลึกเพียง 19 กิโลเมตรเท่านั้น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

B1

 อุตุฯเตือนทุกภาคระวังอันตรายจากฝนหนัก


12 กค. 2554 06:56 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศ ร่องมรสุมได้เลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนด้านตะวันออกมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 12-15 ก.ค. 2554
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน และอุตรดิตถ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


<< back  next >>

 

B1

ฝนตกถนนลื่น-อุบัติเหตุหลายจุด

วันอังคารที่ 12 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2554 07:22 น.



เกิดฝนตกหนักทั่วพื้นที่ กทม. เมื่อเวลา 00.30 น. จนถึง เวลา 04.00 น. ส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุในหลายจุด
อุบัติเหตุ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ขาออก รถแท็กซี่ ชนกับ รถนั่งส่วนบุคคล มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

อุบัติเหตุ ตรงข้ามซอยเอกมัย 30 รถเก๋ง ชนกับ รถจักรยานยนต์ เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน

อุบัติเหตุ ถนนบรรทัดทอง มุ่งหน้าเพชรบุรี ก่อนออกถนนเพชรบุรี ประมาณ 100 เมตร รถบรรทุก ของไปรษณีย์ ชนกับรถแท็กซี่ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

อุบัติเหตุ ถนนรัชดา-รามอินทรา มาจาก ถนนเกษตร-นวมินทร์ ช่วงกลางแยกไฟแดงตัดถนน นวลจันทร์ รถเก๋ง ชนกับ รถบรรทุก 6 ล้อ

อุบัติเหตุ ถนนวิภาวดี ขาออก ฝั่งตรงข้ามสนามบินดอนเมือง รถเก๋ง รถกระบะ รถแท็กซี่ รวมกัน 6 คัน ชนกัน ไม่มีคนเจ็บ

อุบัติเหตุ ถนนพหลโยธิน ขาออก เลยเมเจอร์ รัชโยธิน เล็กน้อย รถจักรยานยนต์ ชนรถแท็กซี่ มีคนเจ็บ เสียชีวิต 1 คน

อุบัติเหตุ ถนนรัตนาธิเบศร์ ขาออก ช่องทางคู่ขนาน ช่วงก่อนขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าตัวเก่า 300 ม. รถเก๋งและรถกระบะ ชนกัน 4 คัน
Link : http://www.innnews.co.th/ฝนตกถนนลื่น-อุบัติเหตุหลายจุด--296415_05.html

 

B1

รถพลิกคว่ำเด็กนักเรียนเสียชีวิต 31 คน

12-07-2554 | 01:01 l ชมทั้งหมด 1
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น ที่เมือง "มิเรอร์ชอไร" (Mirershorai) ห่างจากเมืองท่า"จิตตะกอง"(Chittagong)ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 200 กิโลเมตร โดยรถบรรทุกคันหนึ่ง ซึ่งบรรทุกนักเรียนประมาณ 50 คน อายุระหว่าง 10 ถึง 15 ปี กลับจากการไปชมและเชียร์ทีมฟุตบอลของตนที่เมือง "มิเรอร์ชอไร" และขณะที่นักเรียนบนรถกำลังพากันแสดงความดีใจและเฉลิมฉลอง ที่ทีมของตนได้รับชัยชนะนั้น รถได้เสียเสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปคูน้ำข้างทาง ทำให้นักเรียนไม่มีทางออก และสำลักน้ำเสียชีวิตอย่างน้อย 31 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 18 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 6 คน และคาดว่าตัวเลขนักเรียนที่เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานมีเด็กนักเรียนเสียชีวิต 53 คน

คำค้นฮ็อตฮิต : รถพลิกคว่ำ | รถบรรทุกนักเรียน | อุบัติเหตุ

 

B1

รถพลิกคว่ำเด็กนักเรียนเสียชีวิต 31 คน

12-07-2554 | 01:01 l ชมทั้งหมด 1
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น ที่เมือง "มิเรอร์ชอไร" (Mirershorai) ห่างจากเมืองท่า"จิตตะกอง"(Chittagong)ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 200 กิโลเมตร โดยรถบรรทุกคันหนึ่ง ซึ่งบรรทุกนักเรียนประมาณ 50 คน อายุระหว่าง 10 ถึง 15 ปี กลับจากการไปชมและเชียร์ทีมฟุตบอลของตนที่เมือง "มิเรอร์ชอไร" และขณะที่นักเรียนบนรถกำลังพากันแสดงความดีใจและเฉลิมฉลอง ที่ทีมของตนได้รับชัยชนะนั้น รถได้เสียเสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปคูน้ำข้างทาง ทำให้นักเรียนไม่มีทางออก และสำลักน้ำเสียชีวิตอย่างน้อย 31 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 18 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 6 คน และคาดว่าตัวเลขนักเรียนที่เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานมีเด็กนักเรียนเสียชีวิต 53 คน

คำค้นฮ็อตฮิต : รถพลิกคว่ำ | รถบรรทุกนักเรียน | อุบัติเหตุ

 

B1

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งฟิลิปปินส์ ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กรกฎาคม 2554 08:41 น.


       เจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า เกิดแผ่นดินไหวซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.2 ริกเตอร์ ในบริเวณนอกชายฝั่งของฟิลิปปินส์ในวันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายเกิดขึ้น
        ขณะที่สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.47 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 03.47 น.ตามเวลาประเทศไทย และอยู่ที่ระยะ 125 กิโลเมตร ทางตะวันตกของเกาะเนกรอส และอยู่ลึกถึง 19 กิโลเมตร
        สถาบันภูเขาไฟและธรณีวิทยาของฟิลิปปินส์ รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในทะเลซูลู และอยู่ห่างจากเมืองดูมากูเอ็ท ซึ่งเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของเกาะเนกรอส ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 93 กิโลเมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์มั่นใจว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ทำให้ความเสียหายเกิดขึ้น และไม่การเตือนภัยเกี่ยวกับคลื่นใต้น้ำแต่อย่างใด

 

B1


วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7530 ข่าวสดรายวัน


มือเท้าปากเปื่อยระบาดในขอนแก่น เด็กเล็กในศูนย์กว่า10ติดเชื้อ-สั่งปิดร.ร.



ขอนแก่น - นายทองกาญจน์ สิมวงศ์ เลขาฯ นายกเทศมนตรี อบต.โคกสี ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น เผยว่า ขณะนี้พบเด็กนักเรียนก่อนวัยเรียนชั้นอนุบาล ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.โคกสี มีนักเรียนประมาณ 10 คน ป่วยเป็นโรคมือเท้าปากเปื่อย สั่งให้ปิดการเรียนการสอนเพื่อระดมทำความสะอาดศูนย์ เมื่อไปตรวจสอบที่ศูนย์ได้ให้เด็กนักเรียนหยุดการเรียนการสอนไปแล้ว ครูผู้สอนเด็กเล็กในศูนย์พบเด็กนักเรียนมากกว่า 10 คน เป็นตุ่มพุพองขึ้นมาที่หลังเท้า ฝ่ามือ ตามตัว แขน-ขา บางตุ่มแตกออกมาเป็นน้ำเหลืองใส แพร่ไปตามจุดต่างๆ ในร่างกายเด็ก เมื่อได้สัมผัสกันก็ติดต่อไปสู่เด็กคนอื่นๆ

ด้านสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า เชื้อที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปากเปื่อยนั้น เป็นเชื้อไวรัสที่มีการระบาด ทำให้เด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบ ลงมามีอาการเจ็บป่วยเป็นแผลในปากและมีผื่นขึ้นตามฝ่ามือและฝ่าเท้า มักจะพบมากในหน้าหนาว หรือช่วงที่มีอากาศเย็น อาการแสดงกลุ่มนี้ก็จะมีความหลากหลาย ทั้งในแบบที่เป็นหวัดเจ็บคอทั่วไป หรือมีแผลในปากและเจ็บปากมากมีไข้สูง ทานอาหารไม่ได้ อาจมีอาเจียนและท้องเสียร่วมด้วย หรือมีทั้งแผลในปากและผื่นขึ้นตามฝ่ามือฝ่าเท้าให้เห็นชัดเจนว่าเป็นโรคในกลุ่มปากมือและเท้าเปื่อย จะระบาดส่วนใหญ่ในช่วงหน้าฝน เนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส โดยทั่วไปจะถือว่าโรคมือเท้าปากเปื่อยนี้เป็นโรคที่ค่อนข้างจะไม่รุนแรงคือมักจะหายเป็นปกติได้เอง ภายในเวลา 4-5 วัน แต่หากเกิดอาการแทรกซ้อนทางสมอง หัวใจ และปอด อาจจะทำให้มีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

B1

ประปากระบี่ฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย


วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7530 ข่าวสดรายวัน


ประปากระบี่ฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย



กระบี่ - นายจงรัก ทรงรัตนพันธ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่มที่จังหวัดกระบี่ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคชำรุดเสียหาย แหล่งน้ำบาดาลถูกปนเปื้อน รวมทั้งทรัพย์สินและทรัพยากรน้ำบาดาลได้รับความเสียหาย

ขณะนี้ได้รับการอนุมัติงบฯ ผ่านคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จ.กระบี่ จำนวนกว่า 15 ล้าน เพื่อฟื้นฟูบ่อบาดาล จำนวน 430 บ่อ ประกอบด้วย เป่าล้างบ่อบาดาลทุกอำเภอ จำนวน 142 บ่อ ติดตั้งชุดป้องกันน้ำท่วมบ่อบาดาลอย่างถาวร จำนวน 142 บ่อ ซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำแบบบ่อลึก จำนวน 86 เครื่อง และเจาะบ่อบาดาลพร้อมเชื่อมต่อ ระบบประปาหมู่บ้าน จำนวน 18 บ่อ คือ ที่ อ.เขาพนม จำนวน 16 บ่อ และ อ.อ่าวลึก จำนวน 2 บ่อ

ด้านนายวิจิตร เกิดบางกา ผู้จัดการสำนักงานประปาจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับงบประมาณจำนวน 52 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างฝายห้วยเนียง และฝายคลองแห้ง อ.เขาพนม โดยจะดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับจุดก่อสร้างเดิม อยู่ระหว่างการออกแบบ และเมื่อดำเนินการออกแบบการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะได้แจ้งส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดทำประชาพิจารณ์ในการก่อสร้าง

นอกจากนั้นจะวางท่อส่งน้ำข้ามคลองกระบี่ใหญ่ และท่อข้ามคลองกระบี่น้อย เพื่อส่งน้ำแจกจ่ายแก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอเหนือคลองด้วย ตอนนี้แก้ปัญหาระยะเร่งด่วน เพื่อแจกจ่ายน้ำให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัยมีน้ำใช้ไปก่อน

หน้า 29