+++Premium พระเครื่องราคาพิเศษ(ปิดกระทู้ชั่วคราว)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 กันยายน 2009.

  1. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ปิดรายการรวดเร็ว แถมพระพุทธชินราช เนื้อไม้งิ้วดำ ของหลวงปู่สรวง ไปอีก 1 องค์
     
  2. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ช่วงแนะนำพระเกจิยอดประสบการณ์

    ผมสังเกตว่า สมาชิกในเว็บของเราส่วนใหญ่ ยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องพระเกจิยุคเก่าและกลาง จะมีแต่องค์ที่ลงในเว็บทำให้เกิด ....ตามมา ผมจึงอยากเผยแพร่เกียรติคุณนำประวัติและวัตถุมงคลของท่านมาเรียบเรียงครับ (ถ้าผมว่างจากการเรียน) อยากให้พี่ๆ ช่วยกัน comment ด้วย เพื่อเพิ่มความรู้ครับ คิดถึงบรรยากาศเก่าๆที่แบ่งปันความรู้กันครับ
    ........................................................

    ขอบคุณข้อมูลจาก พี่ Hellboy(อ.ทิพสุริยา) เว็บสวนขลังครับ

    หลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสังข์ (หลังไร่สับปะรด)
    ท่านเป็นศิษย์ในหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง ตัวจริงเสียงจริง <!--sizec--><!--/sizec--><!--colorc--><!--/colorc--><!--sizeo:4--><!--/sizeo-->นอกจากท่านแล้ว ที่เก่งมากๆก็จะมีหลวงปู่พิมมาลัย มาลโย วัดหุบมะกล่ำ

    องค์(หลวงปู่พิมพ์มาลัย)นี้ ผมว่า ถ้าเทียบพลังจิตแล้ว น่าจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยทีเดียว ในความคิดผมเองนะครับ ผมว่า ก็น่าจะ

    พอๆกับหลวงปู่ทิม หลวงปู่โต๊ะ ถ้ามิอาจเอื้อมเกินไปก็น่าจะพอกับ หลวงปู่ศุขด้วยซ้ำ เพียงแต่ไม่ดังเท่าท่านเหล่านั้น ท่านเองก็เจ้าตำรับ ฝังเข็ม

    เวลาเรียกให้เข็มวิ่ง แทบจะไม่ต้องนั่งกำหนดอะไร เรียกปุ๊บโผล่ปั๊บ จิตดีมากๆ ท่านเรียนมาจากพระอาจารย์ที่วัดหนองไม้เหลือง เรียนจนสำเร็จ

    จนถึงขนาดที่องค์อาจารย์ยกย่องว่าเก่งมาก สำหรับเหรียญท่านไว้จะถ่ายภาพมาลง อีกองค์ที่อยากแนะนำก็หลวงปู่ทอง วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา นี่ก็สุดๆครับ เป่าอักขระที่จารบนมีดหมอที่ด้านหนึ่ง จนไปนูนที่อีกด้าน องค์นี้ใจดี สนิทกับพ่อและน้องชายพ่อผมมาก หลวงพี่ทุ้ยอีกองค์หนึ่ง(ศิษย์หลวงปู่ทอง ก้อนแก้ว) วัดมีหมู มีลิงก้นแดงแจ๋เลย แต่มันไม่เคยไล่กัดผมโชคดีไป
    หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย ฯลฯ องค์ท่านทั้งหลายเหล่านี้ เก่งจริง เก่งมากๆด้วย

    เข้าเรื่องหลวงพ่อพานต่อ

    หลวงพ่อพานนี้นะครับ หลวงพ่อยิด(หลวงพ่อยิดเป็นอัฐิพระธาตุใสอย่างกับแก้วเลยนะครับ)ยังยกย่อง เรียกพี่ใหญ่หรือพี่เบิ้มนี่แหล่ะ ท่านเอ่ยชมเลยนะครับ

    หลวงพ่อยิดท่านว่า ของฉันเก่งก็เก่งจริง แต่ถ้าทำไม่ดี เดี๋ยวคุ้มไม่ได้ ของหายบ้าง เสื่อมบ้าง อะไรบ้าง

    แต่ของหลวงพ่อพาน คุ้มได้หมด ได้ขนาดไหน(ท่านอาจจะถาม) ขนาดยิงกรอกปากไม่ออกก็แล้วกันครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

    (สำหรับหลวงพ่อยิด ไว้จะถ่ายพระกริ่งรุ่นแรกสุด แรกจริงของท่าน สร้างโดย กองบิน53 กุยบุรี ทางกองบิน นับถือท่านมาก สมัยก่อน น้องชายพ่อผมก็หล่อปลัดเนื้อตะกั่ว ถวายครับ น่าจะเป็นยุคแรกๆด้วย เดี๋ยวนี้หายหมด)

    หลวงพ่อพานเป็นน้องชายแท้ๆ ของหลวงพ่อเพลินวัดหนองไม้เหลือง เพชรบุรี

    เป็นศิษย์ หลวงพ่อเตี้ย วัดสิงห์

    และศิษย์ อีกหลายอาจารย์ครับ
    ...................................................................

    องค์นี้เก่งไม่เก่ง ยุคท้ายๆ หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐต้องนิมนต์ท่านมาร่วมปลุกเสกด้วยทุกพิธี

    [​IMG]
    ตะกรุดของท่าน เป็นตะกรุดที่แพงที่สุดของเมืองประจวบคีรีขันธ์ครับ

    <TABLE class=ipbtable cellSpacing=0><TBODY><TR><TD class=post1 vAlign=top>






    [​IMG]
    </TD><TD class=post1 id=post-main-2656 vAlign=top width="100%"><!-- THE POST 2656 --><!--sizeo:5--><!--/sizeo-->

    </TD></TR></TBODY></TABLE><!--sizec--><!--/sizec-->
     
  3. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก ศิษย์หลวงพ่อกวย

    [​IMG]
    ขอบคุณข้อมูลจากคุณ pookyclub เว็บวัดโฆษิตาราม ครับ
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  4. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

    ประวัติหลวงพ่อสงวนวัดไผ่พันมือ



    [​IMG]
    หลวงพ่อสงวน ธัมมานันโท
    ชาตะ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๐
    มรณะภาพ เมื่อวันที่ ๑๔ ก.พ ๒๕๓๖
    หลวงพ่อเป็นคนสุพรรณบุรีโดยกำเนิด เกิดที่อำเภอบางปลาม้า ตั้งแต่เป็นเด็กท่านมีนิสัยนักเลง เด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ไม่ยอมคน ไม่กลัวใคร เข้าสู่วัยรุ่นได้คบหากับเพื่อนที่มีนิสัยคล้ายกันจนได้มารู้จักสนิมสนมกับเสือในสมัยก่อน อาทิ เสือมเหศวร เสือดำ เป็นต้น แต่ท่านมีอายุน้อยกว่าจึงคบหากันเป็นลูกพี่ลูกน้องกันจนภายหลังท่านได้มาบวชเรียนครองผ้าเหลืองเสือมเหศวรยังคงได้ไปมาหาสู่กับท่าน ตลอดจนช่วยท่านสร้างวัดไผ่พันมือ จนกระทั่งท่านมรณภาพลงเสือมเหศวรก็ยังมาเป็นประธานในงานฌาปนกิจของท่าน




    เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๗๐ กว่าๆทางการเร่งปราบปราม บรรดาเสือและสมัครพรรคพวก โยมบิดา มารดา เกรงจะถูกทางราชการเพ่งเล็งว่าเป็นสมัครพรรคพวกของเสือในจังหวัดสุพรรณบุรี โยมบิดา มารดาจึงขอให้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดองค์รักษ์ ซี่งมีหลวงพ่ออรรถ เป็นเจ้าอาวาส และได้รับทราบวิชาการสร้างลูกอมมาจากหลวงพ่ออรรถนี่เอง ลูกอมหลวงพ่ออรรถเป็นเนื้อเทียนชัย มีพระพุทธคุณทางด้านแคล้วคลาดป้อง กันสัตว์ร้ายเขี้ยวงา แม้กระทั่งฟ้าผ่า เป็นที่เลื่องลือและนิยมแสวงหาของคนในพื้นที่


    จนเมื่ออายุครบบวช หลวงพ่อได้อุปสมบทที่วัดสังโฆษิตาราม เมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๘๐ มีหลวงพ่อครื้น อมโร เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งต่อมาภายหลังหลวงพ่อสงวนท่านได้เล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับอาจารย์ของท่าน ท่านนี้ให้ศิษย์ของท่านฟังมากมาย มักเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประสบการณ์พิเศษที่ท่านเคยเห็นมากับตา อาธิ การเดินผ่านทะลุฝาผนังกุฏิ การเรียกหรือห้ามลม ฝน การปลุกเสกพระเครื่องรางฯ ฯลฯ


    [​IMG]
    หลังจากบวชเป็นพระแล้วท่านได้เล่าเรียนธรรมะศึกษา พระปริยัติธรรมได้นักธรรมตรี-โท-เอก และอักขระเลขยันต์คาถาอาคม การเขียนผงลบผงอิทธิเจจากพระอุปัชฌาย์จนเชี่ยวชาญพร้อมๆกันนั้น ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อครื้น ด้วยหลังจากอุปสมบท ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดองครักษ์ อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี ราว ๔-๕ พรรษา ชาวบ้านเลื่อมใสในปฎิปทาต้องการให้ท่านเป็นเจ้าอาวาส แต่ท่านไม่รับตำแหน่ง หวังจะศึกษาวิชาคาถาอาคมที่ได้ร่ำเรียนมา จึงได้ย้ายไปอยู่ที่วัดบ้านกร่าง ในราวปี พ.ศ.๒๔๙๐ จนในที่สุดได้ลาสิขาบท เมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ที่วัดบ้านกร่าง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี


    จากนั้นจึงได้พบหญิงคนรัก มีครอบครัว บุตรและธิดา รวม ๒ คน ระหว่างที่ท่านได้ครองเรือนอยู่นั้น ท่านก็ยังไฝ่ในพระธรรม คงมาถือศีลปฏิบัติธรรมอยูที่วัดห้วยสุวรรณก่อนที่ท่านจะเข้าอุปสมบทอีกครั้งในราวปี พ.ศ. ๒๕๐๕ บวชครั้งนี้ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งแฝก จำพรรษาที่วัดทุ่งแฝก ประมาณ ๖ - ๗ พรรษา ในช่วงนี้ท่านมีญาติโยมไปมาหาสู่ มาขอพึงบารมีท่านเป็นจำนวนมาก ท่านจึงเริ่มสร้างพระและเครื่องรางในราวปี พ.ศ.๒๕๑๐ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกอมเนื้อผงอิธิเจ แจกแก่ญาติโยม เป็นครั้งแรก แต่ส่วนมากจะแจกให้แก่เด็กๆ เพราะในสมัยนั้นชาวบ้านไม่ชอบลูกอมกัน เพราะยังไม่รู้จัก และยังไม่เห็นประสบการณ์


    [​IMG]
    หลังจากที่เด็กๆแขวนลูกอมของท่านถูกหมากัดแต่ไม่เข้า จึงมีชาวบ้านที่รู้ข่าว เห็นประสบการณ์มาขอลูกอมท่านกันมากขึ้นๆ จนเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายเช่นปัจจุบัน
    ราวปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ท่านจำพรรษาอยูที่วัดทุ่งแฝกได้ระยะหนึ่งเกิดขัดแย้งกันภายในวัด ท่านจึงได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดไผ่พันมือ หมู่ที่ ๖ ตำบลดอนปรู อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งขณะนั้น เป็นวัดร้าง ท่านก็เริ่มสร้างกุฏิไม้หลังเล็กๆขึ้นและจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว ออกบิณฑบาตรทุกวันต้องเดินเท้าระยะทางไกลประมาณ ๕-๖ ก.ม ต้องตื่นแต่เช้าตรู่ จึงจะทันชาวบ้านตักบาตร


    ข้อมูลจากเว็บศิษย์หลวงพ่อสงวนครับ

    ประสบการณ์ด้านมหานิยมสุดยอด เป็นพระที่สำเร็จวิชาเขียนผงอิทธิเจ ปถมัง ยุคใหม่ มือ 1 ขนาดหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ยังมาขอไปผสมผงสมเด็จแพพันอันลือลั่นเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2009
  5. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    หลวงปู่คำ วัดหนองแก อริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน

    [​IMG] [​IMG]
    "หลวงปู่คำ วัดหนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ท่านเป็นสุดยอดเกจิห้าแผ่นดิน ในหลวงและสมเด็จพระราชินีทรงเสด็จมาร่วมพิธีตัดลูกนิมิตพระอุโบสถวัดหนองแกในปี 2509 ปีเดียวกันกับที่เหรียญรุ่นหนึ่งถูกสร้าง และเสกขึ้น เหรียญรุ่นหนึ่งนั้นมีสองบล็อคที่นิยมด้านหลังเหรียญตัว อ ต้องเป็น ฮ เพราะมีหางตรง อ (มีเฉพาะเหรียญเงิน) สร้างทั้งหมด 11,500 เหรียญ แบ่งเป็นเหรียญทอง 500 เหรียญ เหรียญเงิน 1000 เหรียญ และอีก 10,000 เป็นเหรียญทองแดง ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่นาควัดหัวหิน ท่านเกิดในแผ่นดินพระพุทธเจ้าหลวงล้นเกล้ารัขกาลที่ 5 และมรณภาพในปีพ.ศ. 2537 รวมศิริอายุได้ 101 ปี 79 พรรษา หลวงปู่คำ ถึงแม้ว่าท่านจะตาบอดข้างนึง แต่ท่านก็ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ทรงอภิญญามีทิพยจักษุ(ตาทิพย์), วาจาสิทธิ์, หยั่งรู้อนาคต, เจ้าตำรับยาสมุนไพรแผนโบราณ อีกอย่างเรื่องการสักยันต์ ถ้าใครได้สักกับหลวงพ่อคำแล้ว ที่พบส่วนใหญ่ศพของผู้ที่สักจะเผาไม่ไหม้ จนกว่าหลวงปู่คำท่านจะมาถอนวิชา ออกไป จึงเผาได้"
    "เหตุการณ์เมรุระเบิด เกิดขึ้น วันที่ 24 มิถุนายน 2537 ในขณะที่พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั้ง 12 รูป นั่งปรกอฐิษฐานจิต อยู่ ณ พระอุโบสถวัดหนองแก(หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก,หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ,หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก,หลวงพ่อเบิ้ม วัดวังยาว,หลวงพ่อพาน วัดเฉลิมราษฎร์,หลวงพ่อหวล วัดนิคมวชิราราม,พระอาจารย์พงษ์ทิพย์ วัดเขาตะเกียบ,หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวหลวงพ่อห่วย วัดห้วยทรายใต้ พระอธิการทองหล่อ วัดไตรรัตน์เจริญผล,หลวงพ่อตัด วัดชายนหลวงปู่คำ วัดหนองแก) เกิดเหตุการมหัศจรรย์คือ ฟ้าคำรามลั่นอยู่หลายครั้งโดยไม่มีฝนตก และปล่องเมรุได้ระเบิด อย่างไม่มีสาเหตุ มีผู้ไปบอกให้หลวงปู่คำทราบว่าเมรุระเบิด หลวงปู่คำท่านกลับพูดขึ้นว่า"เออ เมรุมันระเบิดได้อย่างไง ฉันสร้างด้วยตัวของฉันเอง สงสัยมันจะน้อยใจว่า เขาสร้างเมรุขึ้นใหม่ ไม่เรียกใช้เมรุเก่าแล้ว" พูดจบท่านก็หัวเราะชอบใจ"

    ขอบคุณข้อมูลจากเว็บ uamulet ร่มโพธิ์ไทร และศิษย์วัดบางพระครับ
     
  6. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    พ่อท่านแก้ว วัดโคกโดน

    ขอบคุณข้อมูล จากเว็บอิทธิปาฏิหารย์

    ศิษย์เอกหลวงพ่อเล็ก วัดประดู่เรียง ที่หมอสมสุข ศิษย์เอกหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ยกย่องว่าจิตแกร่งมากๆ

    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top>ประวัติ พ่อท่านแก้ว (หลวงพ่อแก้ว) ธัมมิโก วัดโคกโดน
    [​IMG]"หลวงพ่อแก้ว" หรือ "พ่อท่านแก้ว ธัมมิโก" อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกโดน ต.โตนดด้วน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายเขาอ้ออีกรูปหนึ่ง ที่ชาวพัทลุงให้ความเลื่อมใสศรัทธา และรู้จักชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี
    เนื่องจากพ่อท่านแก้ว ได้ร่ำเรียนศึกษาวิทยาคมกับพระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อชื่อดังในยุคสมัยนั้นหลายท่าน อาทิ พระอาจารย์เอียด ปทุมสาโร วัดดอนศาลา, พระอาจารย์ปาล ปาลธัมโม วัดเขาอ้อ และพระอาจารย์คง วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
    อัตโนประวัติ พ่อท่านแก้ว มีนามเดิมชื่อ แก้ว ขาวนวล เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2451 ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 9 ปีระกา ที่บ้านชายห้วย หมู่ที่ 2 ต.โตนดด้วน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายรุ่งและนางคล้าย ขาวนวล
    ชีวิตในวัยเยาว์ได้ศึกษาเล่าเรียนระดับชั้นประถมที่โรงเรียนวัดป่าตอ ต.โตนดด้วน อ.ควนขนุน จากนั้นได้ลาออกจากการเรียนมาทำงานช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพ
    จนกระทั่งอายุครบบวช จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2472 ณ พัทธสีมาวัดป่าตอ ต.โตนดด้วน อ.ควนขนุน โดยมีพระพุทธิธรรมธาดา หรือพระอาจารย์บุญทอง อดีตเจ้าอาวาสวัดสุวรรณวิชัย และเจ้าคณะอำเภอควนขนุน จ.พัทลุง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ธัมมิโก
    หลังอุปสมบท ท่านได้อยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าตอและได้ศึกษาพระปริยัติธรรมด้วยความตั้งใจ
    พ.ศ.2475 สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี ที่สำนักเรียนวัดป่าตอ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และพ.ศ.2476 เป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำ ต.เขาปู่
    พ.ศ.2482 ได้ชักชวนญาติโยมในหมู่ที่ 2 ต.โตนดด้วน อ.ควนขนุน ร่วมบริจาคที่ดิน รวมทั้งดำเนินการจัดตั้งสำนักสงฆ์โคกโดน และโรงเรียนวัดโคกโดน
    พ่อท่านแก้ว เป็นศิษย์วัดป่าตอ ย้ายมาปกครองวัดโคกโดน เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ท่านเป็นพระนักปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีวัตรปฏิบัติน่ายกย่อง ซึ่งท่านเป็นพระชอบสันโดษ รักธรรมชาติ และชอบศึกษาค้นคว้าวิชาทางด้านวิทยาคม โดยมีพระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อชื่อดังในสมัยนั้นหลายท่าน เช่น พระครูสิทธยาภิรัต หรือพระอาจารย์เอียด อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนศาลา พระอาจารย์ปาล ปาลธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ และพระครูพิพัฒน์สิริธร หรือหลวงพ่อคง อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านสวน ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาทางด้านวิทยาคมให้ จนเกิดความรู้ความเข้าใจสามารถปฏิบัติอย่างได้ผล จนเป็นที่รู้จักในวงการพระเครื่องและพระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้น
    นอกจากนี้ ท่านยังได้เดินทางไปศึกษาวิชาแขนงพิเศษจากพ่อท่านคล้าย จันดี เป็นเวลานานถึง 2 ปี จนเป็นที่รู้จักกิตติศัพท์ของท่านกันดี
    ด้านวัตถุมงคลพ่อท่านแก้ว ธัมมิโก ได้รับความนิยมและสนใจจากนักสะสมพระเครื่องและผู้สนใจอย่างมาก มีจัดสร้างหลายรุ่นด้วยกัน เช่น เหรียญรูปเหมือน เนื้อนวโลหะ มีลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ ปี พ.ศ.2528 เหรียญกลีบบัวและรูปหล่อลอยองค์ พ.ศ.2534 และเหรียญเสมา ล็อกเกต พระนาคปรก พ.ศ.2536 และวัตถุมงคลรุ่น รัตนะบารมี ทวีโชค โภคทรัพย์ ปี 2550 สร้างขึ้นเพื่อสมทบทุนในการก่อสร้างอุโบสถไม้ทรงไทย วัดโคกโดน
    พ่อท่านแก้ว นอกจากจะเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแล้ว ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่สร้างคุณูปการแก่ชุมชนสังคมและสร้างความเจริญให้กับวัดและชุมชนมากมาย ซึ่งท่านได้สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ ศาสนสถานต่างๆ ภายในวัดมากมาย จนเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ
    ต่อมาประมาณปี พ.ศ.2537 พ่อท่านแก้วมีอาการอาพาธตามสังขารที่ร่วงโรยตามวัย โดยมีพระอาจารย์เสถียร ฐานจาโร หรือพระครูวิจิตรกิจจาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโคกโดนรูปปัจจุบัน ได้มารับใช้ดูแลคอยปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด
    พ่อท่านแก้วเริ่มมีอาการอาพาธหนัก มีอาการทรงๆ ทรุดๆ แม้อาการก็ดีขึ้น แต่ไม่หายขาด อย่างไรก็ดี พ่อท่านแก้วยังคงสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้บ้าง ก่อนที่พ่อท่านแก้ว จะละสังขารไปอย่างสงบในปี พ.ศ.2538 สิริอายุ 87 ปี พรรษา 66
    ตลอดชีวิต พ่อท่านแก้ว ธัมมิโก อาศัยในร่มเงาพระพุทธศาสนา ประกอบคุณงามความดีด้วยจิตใจที่ผ่องแผ้ว แม้ว่าจะละสังขารไปแล้วก็ตาม แต่คุณงามความดีที่ได้ประกอบศาสนกิจมาตลอดชีวิต ยังคงปรากฏอยู่ในใจของพุทธศาสนิกชนชาวเมืองพัทลุงอย่างมิลืมเลือน ในฐานะปูชนียบุคคล
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ครูบาเที่ยงธรรม โชติธัมโม

    สหธรรมิก หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดินครับ
    เคยบอกว่า อายุของคนทั้งศาลารวมกันยังไม่เท่าท่านเลย พระอภิญญาเช่นเดียวกันครับ ประวัติของท่านไม่ค่อยมีคนนำมาเผยแพร่เลยครับ

    -จิต....ในโลกนี้ ถ้าไม่ฝึกมาในอดีตชาติ อำนาจมันก็ลดน้อยลง มีน้อย ส่วนอำนาจของจิตมนุษย์ ก็เป็นเหตุให้สัตว์หลายๆอย่าง กลัวมนุษย์ เพราะจิตมนุษย์มันสูงกว่าสัตว์เหล่านั้น......ถ้าจิตมีพลังสูง ก็ไม่จำเป็นต้องบอกว่า ***สูงกว่า*** เป็นสัตว์[​IMG]นานาชนิด มันก็ให้จิตมาเหมือนกัน แต่จิตบางอย่าง จิตบางชนิดของสัตว์เลื้อยคลาน และไม่เลื้อยคลานในน้ำและบนน้ำ ในอากาศพวกนี้ บางประเภท มันก็มีจิตสูงกว่ามนุษย์เหมือนกัน แต่ถ้าจิตของมนุษย์ที่ฝึกดีแล้ว อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ นั่นคือ จิตมีอำนาจ ถ้าจิตไม่ได้ฝึก หรือฝึกแล้วไม่ได้ ไปอยู่ไหนจิตนั้น คือ ไม่หนึ่งเดียว ถ้าจิตหนึ่งเดียว ย่อมมีอำนาจกว่าจิตหลายดวง หนึ่งเดียว คือ จิตนี้ มันจบการศึกษาแล้ว นั่นแหละ จิตมีอำนาจ เช่น เราเว้นชั่ว ทำดี ชนะใจตน จบการศึกษา เป็น "อเสขบุคคล"......นี่แหละ จิตมีอำนาจ และอำนาจ ก็จะถูกเสริมด้วยจิต คือ "จิตโลกอุดร จิตทิพยโลกาจักรวาล".....เป็นจิตผู้เหนือกาลเวลา อีกอันหนึ่ง ยิ่งขึ้นไปอีก เหนือกาลเวลา ยิ่งมีอำนาจ ถ้าอำนาจมันน้อยๆ แค่ผู้มีกาลเวลา เพราะกาล มันกำหนดหมด ถ้าเหนือกาลได้ ก็จะมีอำนาจสูงสุด เป็นจิตเหนือกาลเวลา........
    ข้อมูลจากเว็บแสงทิพย์
     
  8. คนปราจีน

    คนปราจีน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +80
    ทำการโอนเงินเรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับปิดตา วัดโคนอน ใน p.m. ครับ
     
  9. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง

    แนะนำทุกอย่างของท่าน

    ประวัติท่านไม่ค่อยเผยแพร่ ท่านเป็นพระทางเหนือ ธุดงค์มา ที่วัดบางระโหง

    ว่ากันว่า ท่านเคยท้าให้วัยรุ่นมายิงเสาที่ท่านปัสสาวะรด ปรากฏว่าปืนยังยิงไม่ออกเลย ปัจจุบันเบี้ยแก้ของท่าน ติดลมบนไปซะแล้ว
     
  10. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ครูบาคำ ศีลสังวโร วัดดอนปิน เชียงใหม่

    เหรียญยอดประสบการณ์ของคนพื้นที่ ขนาดรถไฟชนไม่เป็นไร จ่อยิงยังแคล้วคลาดมาได้
    เป็นพระสายอาคมที่สามารถเคี้ยวแก้วได้ ถ่ายทอดวิชาต้องทำกันในป่าช้าเท่านั้น

    เหรียญท่านกำลังดังมากในพื้นที่เลยครับ เขียนโดยหัวใจโจรพิสดาร ซึ่งปกติแล้วจะลงกับปลัดขิกครับ
     
  11. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    หลวงปู่เย่อ วัดอาษาสงคราม

    [​IMG]
    ท่านเป็นพระเชื้อสายรามัญ จัดเป็นพระนักพัฒนาองค์หนึ่งในสมัยนั้น ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั้ง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนแถบนั้นมากมาย พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่าน มีประสบการณ์ต่างๆนาๆมากมาย คนสมุทรปราการจะรู้กันดี โดยเฉพาะข้าราชการจะใช้ดี
     
  12. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    เหรียญตะกรุดไขว้(รุ่น4) หลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสังข์

    [​IMG]
    ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก
    http://www.suankhlang.com/ipb//index.php?showtopic=299

    - พระน้องชายหลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง
    - หลวงพ่อแดง วัดขาบันไดอิฐ ต้องนิมนต์มาปลกเสกทุกงาน
    - หลวงพ่อยิด(อัฐิเป็นพระธาตุ) บอกว่า ป็นพี่เบิ้ม ของๆท่านคลุมทุกด้าน

    ขนาดคุณ vision ศิษย์ของคุณหมอสมสุขคณะรัศมีพรหมโพธิโก ที่สร้างหลวงพ่อพรหม วัดช่องแคทุกรุ่น ยังแนะนำเหรียญตะกรุดไขว้เลยครับ

    ให้บูชาเผยแพร่เกียรติคุณครูบาอาจารย์ เหรียญละ
    200 บาท สภาพ 100 % พร้อมกล่องเดิม มี 10 เหรียญ

    (บูชา 3 เหรียญแถมพระปิดตาวัดโคนอน ปี 15)
    แนะนำของดีประสบการณ์ให้แล้ว ขาดแค่แรงเชียร์ กระแส และการปั่นราคาครับ
     
  13. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    มีองค์ไหนบ้างครับที่ เมตตา และมหาลาภแรง ๆ ครับ ขอความรู้ครับ
     
  14. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ผมคงไม่มีความรู้ไรที่จะไปแนะนำหรอกครับ ....
    แต่อยากให้เพื่อนสมาชิกช่วยกันคิดๆก่อน ลงไว้ในกระทู้ได้เลย ทั้งประสบการณ์ที่เคยเจอมา เมื่อได้พอสมควร ผมจะลงให้ชุดใหญ่เลย (และไม่เหมือนใครด้วย)

    เหรียญ ลพ พานที่ ลงไปล้วนเป็นเหรียญแท้นะคับ เชื่อในพุทธคุณและของดีหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณแล้วกันนะคับ ของดีไม่จำเป็นต้องแพง
     
  15. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ประวัติ หลวงปู่เย่อ วัดอาษาสงคราม พระเกจิที่หลวงพอ่อุตตมะให้ความนับถืออย่างสูง

    หลวงปู่เย่อ” มีนามเดิมว่า “เย่อ” นามสกุล “กงเพ็ชร์” เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๑ โยมบิดาชื่อ “เคอะ” โยมมารดาชื่อ “และ” มีเชื้อสายเป็นชาวรามัญขณะที่ “หลวงปู่เย่อ” อายุได้ ๑๓ ปี บิดา-มารดาได้พาท่านไปบรรพชาเป็นสามเณรที่ “วัด อาษาสงคราม” โดยท่าน “พระมหาขันธ์” เป็นอาจารย์ให้ศีลและอนุสัยบวชให้จากนั้นก็ได้ศึกษาเล่าเรียนอักขระสมัยทั้ง ไทยและรามัญ จนมีความชำนิชำนาญสืบมาจนอายุย่างเข้าครบ ๒๐ ปี
    จึงอุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๑ โดยมี “หลวงพ่อทอง วัดโมกข์” เป็นอุปัชฌาย์ “พระอาจารย์เกลี้ยง วัดพญาปราบปัจจามิตร” เป็นกรรมวาจาจารย์ได้ฉายาว่า “โฆสโก” แปลว่า “ผู้ มีความกึกก้องกังวาน” หลังจากอุปสมบทแล้วท่านพิจารณาเห็นว่า สิ่งที่จะทำให้ล่วงพ้นความทุกข์ไปได้ นั้นก็คือการมุ่งศึกษาทาง “ปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน” จึงแสวงหาอาจารย์ผู้ทรงคุณในทางปฏิบัติโดยเดินทางไปศึกษากับ “หลวงพ่อหลิม วัดทุ่งโพธิ์ทอง” ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่มีความสามารถทางวิปัสสนาสูงและเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ เชี่ยวชาญทางพุทธเวทวิทยาคมและ “อาจารย์พันธ์ วัดสะกาว” ผู้มีชื่อทางด้านทำ “สีผึ้ง” ที่ดีเด่นทางด้าน “เมตตามหานิยม” ด้วยเหตุนี้มงคลวัตถุขึ้นชื่อของ “หลวงปู่เย่อ” ก็คือ “สีผึ้ง” ซึ่งท่านได้เรียนมาจาก “อาจารย์พันธ์ วัดสะกาว” มาสร้างขึ้นตามตำรับของ “อาจารย์พันธ์” คือใช้ “น้ำมันช้างพลาย” โดยเอาน้ำมันจาก “ช้างพลายที่กำลังตกมัน” ยังบริเวณ “ซอกหูช้าง” (ผู้ที่จะเอาน้ำมันนี้ได้จะต้องมีวิชาสะกดช้างให้หยุดได้ เพราะขณะช้างตกมันจะดุร้ายมากใครเข้าใกล้ไม่ได้) เมื่อได้ “น้ำมันช้างพลายตกมัน” แล้วก็นำมาหุงกับ “สีผึ้งบริสุทธิ์” ซึ่งก่อนจะหุงก็จะต้องปลูก “ต้นบวบ” เสียก่อนกระทั่ง “ต้นบวบออกดอก” มีช่อดอก “๕-๗ ช่อ” จึงจะทำพิธีหุงกวน “สีผึ้งกับน้ำมันช้างพลายตกมัน” ได้และต้องทำพิธีใต้ร้านต้นบวบนั้นจึงจะเข้มขลังมีอานุภาพทางด้านเมตตามหา นิยมและขณะหุงกวนสีผึ้ง “หลวงปู่” จะต้องทำพิธีบริกรรมคาถาเวทมนตร์ประกอบไปด้วย ทุกขณะตาม “ตำราของรามัญ” และทุกขั้นตอนจะต้องอยู่ใน “ฤกษ์ยาม” ที่เป็นมงคลโดย “สีผึ้ง” ที่ทำสำเร็จนี้มีผู้นำไปใช้ แล้วเกิดเห็นผลมากมาย โดยเฉพาะทางด้าน “เมตตามหานิยม” และ “มหาเสน่ห์” ได้ผลทันตาเห็นจนเกิดปัญหายุ่ง ๆ ตามมาคือหลายรายต้องกลับมาให้ “หลวงปู่เย่อ” แก้ไขหลายครั้งหลายหนทำให้ “หลวงปู่เย่อ” ตัดปัญหาไม่ยอมทำสีผึ้งชนิดนี้อีกต่อไป


    เหรียญรุ่นแรก” ของ “หลวงปู่เย่อ” เป็นเหรียญ “รูปอาร์มเนื้ออัลปาก้า” ขนาดกว้าง ๒.๗ ซม. สูง ๓.๒ ซม. ด้านหน้าเป็นรูป “หลวงปู่เย่อ” นั่งเต็มองค์แบบสมาธิด้านล่างเขียนว่า “พระครูสังฆวิจารณ์ (เย่อ) อายุครบรอบ ๗๘ ปี” ด้านหลังเป็นรูป “หลวงพ่อโต” ประทับนั่งสมาธิบนบัวคว่ำบัวหงายด้านบนมีสามกลีบและด้านล่างสามกลีบเหนือพระ เศียรหลวงพ่อโตเขียนว่า “หลวงพ่อโต วัดอาษาสงคราม ๒๘ พ.ค. ๐๘” ตรงมุมด้านขวามือ (ของเรา) ข้างเศียร “หลวงพ่อโต” มีรอยลายมือลงเหล็กจารซึ่ง “หลวงปู่เย่อ” ลงของท่านเองซึ่งถือเป็นเหรียญรุ่นแรกที่มีประสบการณ์มากมาย สุดที่จะนำมาพรรณนากันได้หมดเพราะ “หลวงพ่อโต” ที่อยู่หลังเหรียญของท่านองค์นี้เป็น “พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ศิลปะลังกา” มีความงดงาม มากเป็น “พระพุทธรูปโบราณ” ที่ชาวพระประ แดงนับถือมาก

    มงคลวัตถุของ “หลวงปู่เย่อ” ท่านสร้างด้วยความพิถีพิถันเป็นพิเศษทุกขั้น สร้างด้วยความตั้งใจจริง มีเมตตาธรรมเป็นที่ตั้งมิได้สร้างเพื่อแสวงหา ผลประโยชน์ ดังนั้นมงคลวัตถุแต่ละอย่างของ “หลวงปู่เย่อ” จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยพุทธานุภาพอย่างเหลือล้น มีประสบการณ์มากมายสามารถคุ้มครองป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ให้แคล้วคลาดปราศจากภัยต่าง ๆ ได้อย่างวิเศษ ซึ่งรายละเอียดของประสบการณ์จึงไม่อาจจะนำมาเสนอได้หมด เพราะมีมากมายจึงขอยกแต่เพียงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งซึ่งหนังสือพิมพ์

    “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ฉบับวันที่ ๑ ต.ค. ๒๕๒๐ ได้เสนอเป็นข่าวไว้ว่า “จ.ส.ต.ทองอินทร์ มณีรัตน์” บุกเดี่ยวจับโจรแล้วถูกโจรยิง “๖ นัด” แต่กระสุนไม่เข้าเพราะมีเหรียญ “หลวงปู่เย่อ วัดอาษาสงคราม” โดยเนื้อหาในข่าวรายงานว่า “จ.ส.ต.ทองอินทร์” เป็นตำรวจอยู่ที่ อ.พระประแดงได้ไล่จับ “โจรปล้นรถสองแถว” จำนวน ๓ คน เพียงลำพังจึงถูกโจรยิงกระหน่ำกระสุนถูกบริเวณ “หน้าอก” ของ “จ.ส.ต.ทองอินทร์” ทั้ง ๖ นัด ทว่าไม่ได้ระคายผิวของ “จ.ส.ต.ทองอินทร์” แต่ประการใด

    “หลวงปู่เย่อ” นับเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม มีความกรุณาต่อทุกคนที่ไปกราบไหว้ท่านโดยเสมอหน้ากัน ท่านเป็นผู้มีอารมณ์ดีเจรจาปราศรัยด้วยความเป็นกันเอง และไม่เคยอวดอ้างความเก่งกล้าใด ๆ ให้ใครรู้เห็น มีแต่คอยสั่งสอนอบรมศีลธรรมแก่ทุก ๆ คนที่ไปหาให้หมั่นทำคุณงามความดีต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ “พัดยศสีขาวฝ่ายวิปัสสนา” ในนาม “ พระครูสังฆวุฒาจารย์ ” หลวงปู่เป็นที่ศรัทธาของประชาชนจำนวนมากมีชีวิตอยู่จนถึงอายุ “๙๔ ปี” จึงมรณภาพเมื่อ วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๒๔ ด้วยโรคชราท่านจากไปท่ามกลางความอาลัยของบรรดาศิษยานุศิษย์ คงทิ้งไว้แต่คุณงามความดีที่ท่านได้สร้างสรรค์ไว้เป็นอนุสรณ์

     
  16. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ชุดโปรโมชันชุดที่ 2

    1. พระกริ่ง เนื้อนวโลหะ รุ่นทิ้งทวน หลวงปู่คำ วัดหนองแก 2537
    พลังมาช้า แต่หนักและแรงมากๆ ท่านเสกเดี่ยวไตรมาส และเข้าพิธีเกจิ 12 องค์ (ลพ ยิด ลพ พาน ลพ ทองเบิ้ม วัดวังยาว ลพ เปิ่น ลพ ตัดเป็นต้น) ปลุกเสกจนเมรุระเบิด เนื้อนวโลหะราคาขึ้นตามทองคำนะครับ
    2. เหรียญเกลียวเชือก ปี 2519 หลวงปู่สี ฉันทสิริ
    3. เหรียญรุ่น 4 หลวงพ่อเย่อ วัดอาษาสงคราม ยอดประสบการณ์ที่พุทธาภิเษกยิ่งใหญ่มาก (ลป โต๊ะ ลพเส่ง วัดกัณยา ลพ กี๋วัดหูช้าง ลพ อุตตมะ ) 2521
    4. สีผึ้งหัวเชื้อ หลวงปู่สี ฉันทสิริ 1 ตลับ 2518
    5. แหนบกันรังสี เนื้อทองเหลือง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    6. สิงห์งาแกะพร้อมรูปถ่ายหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน 2535
    7. ปลัดขิกเนื้อผงรุ่นแรก หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก 2534
    8. ปิดตานะหัวเข่า ลพ เอี่ยม วัดโคนอน ปี2515
    9. พระสมเด็จเนื้อผง หลวงตาวาสน์ วัดสะพานสูง
    10. ชานหมาก ลป.ละมัย สวนสมุนไพร เพชรบูรณ์

    10 ชิ้น 2320 บาท (น่าตกใจมาก ชิ้นนึงไม่ถึง 300 บาท)
    ทุกชิ้นรับประกันความแท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2009
  17. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ไม่มีใครช่วยเมตตาตอบให้ผมเลย ตอบเองละกัน

    ก่อนอื่นต่้องออกตัวก่อนนะคับ ว่าผมยังเด็ก ไม่มีความรู้เท่าใดนัก (รวมถึงเรื่องวัตถุมงคลด้วย) แต่ถ้าขอให้แนะนำจะช่วยนะครับ



    ผมสังเกตว่า สมาชิกส่วนใหญ่เป็นคนจิตใจดี และศรัทธาจริตครับ ส่วนใหญ่ก็จะชอบไปตามกระแส ไปตามๆกัน ทั้งๆที่ไม่รู้ข้อมูลเบื้องลึกหรือข้อเท็จจริงครับ ....
    สำหรับคำถามว่า มหานิยม หรือมหาลาภแรงๆนั้น จากผู้ที่ผมนับถือได้ให้ข้อคิดหลายอย่างนะคับ เช่น
    1. มีบุญบารมีแต่ปางก่อน (อดีตแก้ไขไมได้)
    2. บุคลิกภาพ การแต่งตัวที่ดูดี น่าเชื่อถือ (ให้สังเกตเวลา CEO ในTOP500 ของนิตยสาร Forbe ออกงานนะครับ จะแต่งตัวใส่สูบเรียบๆ ดูดีและตะหง่านมากๆ)
    3. ฉลาด ปรับตัวเก่ง แก้ไขสถานการณ์ล่วงหน้าได้ดี
    4. สร้าง connection ที่ดี รู้จักเข้าสังคม (อย่างเป็นพระเครื่องที่เช่าๆครับ บางคนโทรมาหาผม ถ้าสนิทนี่ลดจนหน้าตกใจเลย ยังบอกว่าถูกกว่ากระทู้เพื่อนบ้าน 2-3 เท่า )
    5. มี Positive attitude จะทำให้แสดงออกมาทางสีหน้าและการกระทำครับ คนอื่นอยากจะอยู่ใกล้
    6. Update ตัวเอง เสมอๆ ตามแฟชันบ้าง วิเคราะห์เรื่องที่ผู้เจรจาสนใจเป็นพิเศษ ตามกลยุทธ์พิชัยสงครามของซุนวู (เช่น เรื่องกีฬา บันเทิง ข่าวในวงธุรกิจ เช่น ผมสนใจเรื่องมวลสารสร้างพระและพระธาตุก็จะคุยสนุกเป็นพิเศษ)
    7. เข้าใจวงจรทางธุรกิจ และการตลาด เทรนส์การสร้าง marketing
    8. ให้ความสำคัญของการศึกษา (Warren buffet ยังลงทุนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียกับเกรแฮม จนในที่สุดการสงทุนแบบเน้นคุณค่าก็ประสบความสำเร็จในเบิร์กไซน ฮาราเวย์ แม้บิลเกตต์จะไม่จบมหาวิทยาลัยเขายังค้นคว้าตลอดเวลา และในที่สุดก็ได้ปริญญาจากHarvard U.)
    9. เข้าใจธุรกิจที่กำลังทำอย่างลึกซึ้ง (Donald J. Trump ยังรู้ขนาดของเสาเข็มในตึกที่กำลังสร้างแม้ไม่ได้เป็นวิศวกร)
    10. กล้าเสี่ยง กล้าตัดสินใจ จงเอาชนะขอบเขตของความสบายใจ(border line of laziness)ของเราเอง
    11. สร้างโอกาสและลิ้มรสชาติแห่งชัยชนะ ไม่หยุดยั้งอะไรง่ายๆ สร้างความท้าทายกับความสำเร็จของเราเอง
    12. ทำตัวฉลาดๆ จนคนอื่นต้องเกรงใจ (ถ้าคุณเป็นลูกจ้าง ลองทำอะไรซักสิ้นเพื่อสร้างไอเดียให้บริษัทได้เป็นกอบเป็นกำสิ)
    13. สนใจในธุรกิจที่ทำอย่างจริงจัง เริ่มต้นจากความชอบ หรือความชำนาญในฟิวส์นั้นๆ (Bill Gate เริ่มต้นศึกษาคอมพิวเตอร์โดยขลุกตัวทั้งวันทั้งคืนมากกว่าวันละ 10 ช.ม.ตั้งแต่เป็นระบบปฏิบัติการ DOS โดยเริ้มต้นตอน ป.6 วอร์เรนช่วยพ่อซื้อขายหุ้นตอน อายุ 11 และเปิดบริษัทเองตอนอายุ 15 แล้วตอนอายุเท่านั้นคุณทำอะไรอยู่)
    ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    อย่าเรียกร้องแต่ให้คนอื่น (เทวดา พรหม) คอยช่วย ควรช่วยตัวเองเป็นลำดับแรกก่อน สำหรับเรื่องวัตถุมงคลนั้น ผมจะตอบให้เพื่อตอบสนองกิเลส แต่รับรองว่าสู้การเปลี่ยนแปลงตัวเราเองไม่ได้แน่นอน (อย่าไปเชื่อ โดยเฉพาะคำว่าแรงมากๆ,วันเดียวเงินเข้าตลอด,เห็นผลทันตา-ภาษาแพทย์เค้าเรียกว่า placebo effect)
    <O:p></O:p>

     
  18. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    น้อมรับคำแนะนำครับ ท่าน

    ผมก็อยากรู้อยากเห็น ไปทั่วครับ มองตัวเอง ได้บ้าง เป็นบางที พยายามอยู่ครับ
     
  19. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    มาถึงวัตถุมงคล

    ผมไม่ได้มีเจตนาจะว่าหรืออะไรนะครับ แต่เป็นความรู้สึกจริงๆที่อยากจะบอก วัตถุมงคลด้านเมตตาที่มักเกิดประสบการณ์มักเป็นสิ่งที่สร้างน้อยๆ ครับ และมักเป็นฆราวาสเสียส่วนใหญ่ ถ้าเป็นด้านเสน่ห์นะคับ แนะนำเล็กๆน้อยๆนะคับ
    1. ผ้ายันต์ม้าเสพนาง ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
    2. น้ำมันเดือดครูบาสุรินทร์ วัดศรีเตี้ย
    *3. ผ้ายันต์ปูหนีบทรัพย์หลวงปู่จักร เขารังไก่ (แนะนำเฉพาะที่ไม่ใช่ของเสริมนะครับ)
    4. สีผึ้งช้างพราย ลพ.เย่อ วัดอาษาสงคราม
    5. ขุนแผนครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน
    6. สมเด็จญาณวิลาศ ลพ.แดง วัดเขาบันไดอิฐ
    * สังเกตว่า 5-6 เบื้องหลังท่านเป็นคนเดียวกัน
    7. สมเด็จ หลวงพ่อจันทร์ วัดโฉลกหลำ
    8. ปลัดขิกอุดผงพราย 59 ตน อ.เปล่ง บุญยืน
    *9. ขุนแผน 7 ท่า ปู่หมอนาค เพชรแสงแก้ว (อาจเป็นplacebo effect)
    10. ลูกอม ลพ.สงวน วัดไผ่พันมือ
    11. พุทโธน้อย แม่ชีบุญเรือน
    *12. สีผึ้งสายบน พระอาจารย์พรสิทธิ์
    13. เต่าเรีอน ลพ.สนิท
    14. เต่าเรือน ลพ บุญเรือน วัดย่าง
    15. เต่า ลพ.ทรง วัดศาลาดิน(ไม่แนะนำเหรียญ)
    16. เต่าขนาดบูชา ลป.หลิว วัดไร่แตงทอง
    17. สีผึ้งหัวเชื้อ ลป .สี ฉันทสิริ
    18. พระผงพิมพ์ประทานพร ลป.เหรียญ วัดหนองบัว
    19. วัตถุมงคลหลวงปู่ดี อุปัชฌาย์ของพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน
    *20. พระบางรายการของ ลพ.เสน่ห์ เชียงขาง
    *21. ตะกรุดเมตตา ครูบาอุ่น วัดโรงวัว
    22. ตะกรุดแนวเมตตา หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย
    23. ตะกรุดแนวเมตตา หลวงพ่อสมภพ วัดสาลีโข
    *24. หนังตะลุง ลป.โปร่ง วัดตำหนักเหนือ
    25. กุมาร ลพ เต๋ วัดสามง่าม
    *26. เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่สิงโต วัดดอยแก้ว
    27. ลูกอมเทียนชัย พ่อท่านเขียว วัดหรงบน
    28. ปิดตาพรายเจ้าสมุทร พ่อท่าน เจิมอชิโต
    29. พระของพ่อท่านฮก วัดท่าข้าม
    30. สมเด็จหลังสังกัจจาย ลพ .ผินะ วัดสนมลาว
    * คือ ผู้สร้างยังทรงขันธ์อยู่
    30 รายการก่อนนะคับ จะแนะนำเรื่อยๆ รบกวนคุณผู้ถาม commentด้วยนะคัรบ
     
  20. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6842 ข่าวสดรายวัน



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    "พระครูสุวรรณศาสนคุณ" พระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมแห่งเมืองสุพรรณบุรี มีพลังจิตเข้มขลัง วิทยาคมแก่กล้า ชาวบ้านต่างเรียกขานนามท่านว่า "หลวงปู่ผู้เฒ่า" หรือหลวงปู่นาม หรือพระอุปัชฌาย์นาม

    ปัจจุบัน พระครูสุวรรณศาสนคุณ สิริอายุ 88 พรรษา 67 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดน้อยชมภู่ ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี

    อัตโนประวัติ พระครูสุวรรณศาสนคุณ มีนามเดิมว่า นาม ไม่ทราบนามสกุล เกิดเมื่อปี พ.ศ.2464 เป็นชาวเมืองสุพรรณบุรีโดยกำเนิด สำหรับประวัติชื่อโยมบิดา-มารดา และประวัติในวัยเด็ก ไม่สามารถสืบค้นได้ แม้กระทั่งตัวหลวงปู่เองก็จำเหตุการณ์ในช่วงวัยเด็กไม่ค่อยได้

    ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่ออายุ 21 ปี ณ พัทธสีมาวัดบ้านกร่าง โดยมีพระเมธีธรรมสาร (ไสว) วัดบ้านกร่าง เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระปลัดทวี (หลานหลวงพ่อมุ้ย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    ภายหลังอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิทยาคมกับพระเมธีธรรมสาร (ไสว) วัดบ้านกร่าง พระอุปัชฌาย์ของท่าน ควบคู่กับการศึกษามูลกัจจายน์ บาลี อักษรขอม ไทยน้อย อักษรลาว ทำให้ท่านมีความรู้ทางด้านอักขระโบราณอีกแขนงหนึ่ง

    ในพรรษาที่ 4 ท่านได้ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดน้อยชมภู่ (เป็นวัด 2 วัดมารวมกัน วัดเก่ามาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา คือ วัดน้อยกับวัดชมภู่ รวมกันเรียกว่า วัดน้อยชมภู่) วัดนี้มีพระเกจิชื่อดังมาแต่เดิม ทำน้ำพระพุทธมนต์ให้เจ้านายสมัยก่อน

    ท่านได้มาอยู่กับหลวงปู่ขำ เจ้าอาวาสวัดน้อยชมภู่ หลวงปู่ขำ เป็นศิษย์ในสายหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว กับหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา

    ต่อมา ท่านได้ไปอยู่กับหลวงปู่เหมือน ผู้เป็นศิษย์หลวงพ่อเนียม แห่งวัดน้อย และหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

    หลวงปู่เหมือน เป็นพระอภิญญา ท่านได้สั่งสอนถ่ายทอดสรรพวิชาให้ท่านมากมาย กล่าวกันว่า หลวงปู่เหมือน สามารถเสกตัวต่อให้เต็มวัด เพื่อไล่ขโมย หรือเสกข้าวให้ออกรวงทั่ววัด เพื่อเลี้ยงพระทั้งวัดก็ได้ เสกใบมะขามเป็นฝูงผึ้งไล่ลิง ที่เข้ามาทำลายข้าวของในวัด

    ดังนั้น หลวงปู่นาม จึงได้วิชาในสายหลวงปู่เหมือนมาอย่างเอกอุ พุทธาคมนี้หลวงปู่นามไม่เป็นสองรองใคร แต่ท่านไม่พูด ท่านเงียบเฉยเหมือนหลวงตาเฝ้าวัด แม้แต่หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองสุพรรณอีกรูปหนึ่ง ยังมีความสนิทสนมถูกอัธยาศัยกับหลวงปู่นาม ส่วนหลวงปู่นามยังเคยไปอยู่จำพรรษาที่วัดหลวงพ่อมุ่ย หลายครั้ง

    ตอนที่หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ ยังมีชีวิตอยู่ คนมาขอพระเครื่อง ท่านยังบอกว่า "ที่สุพรรณ หมดหลวงพ่อมุ่ย ต้องไปหาพระอาจารย์นาม วัดน้อยฯ เขาเก็บไว้หมด"

    ในสมัยหนุ่ม หลวงปู่นามไปเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งสรรพวิชาต่อยอดในสายสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ท่านยังเป็นสหธรรมิกกับท่านเจ้าคุณผัน และท่านเจ้าคุณเที่ยง (เจ้าอาวาสวัดระฆังฯ รูปปัจจุบัน) ท่านเจ้าคุณทั้งสองยังเรียกขานหลวงปู่นามว่า "หลวงพี่"

    หลวงปู่นาม ปลุกเสกพระเครื่อง เพื่อแจกลูกศิษย์ แต่ไม่ได้จัดพิธีใหญ่โต คนที่ได้รับไป ล้วนมีประสบการณ์ทุกคน

    หลวงปู่นาม เคยปรารภความหลังในกุฏิว่า "สมัยฉันหนุ่มๆ นะ เสกพระงบน้ำอ้อยไว้ ไม่แน่ใจนะ ก็เอาใส่รถไปให้หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย ท่านเสกให้ พอเปิดกล่อง ท่านก็บอกว่า ผมเสกไม่เข้าแล้ว ท่านเสกจนจะบินแล้วนี้"

    "ฉันก็ยังไม่แน่ใจ เอาอีก เอาไปให้หลวงพ่อดี วัดพระรูป ท่านเสก ท่านหยิบเท่านั้นแหละ ท่านกำพระไว้ ยกมือจบยกขึ้นเหนือหัวท่านเลย หาว่าเรามาล้อท่านเล่น ท่านว่า เสกจนหมุนได้แล้วนี่จะให้ผมทำอะไรอีก"

    ในด้านถาวรวัตถุ ท่านสร้างอุโบสถไว้หลายหลัง สร้างวิหาร กุฏิสงฆ์ ปรับภูมิทัศน์บริเวณวัดน้อยชมภู่ ให้เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรม และแจกทุนการศึกษา ส่งพระภิกษุ-สามเณรมาเรียนกรุงเทพฯ ทุกปี

    หลวงปู่นาม หรือ พระครูสุวรรณศาสนคุณ เป็นยอดพระเกจิที่ชาวเมืองสุพรรณบุรี ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ท่านเป็นคนเงียบ ไม่พูด ไม่คุย แต่ชาวเมืองสุพรรณทราบดีว่า พระรูปนี้เป็นยอดพระเกจิที่เข้มขลังขนานแท้ ท่านสืบพุทธคุณสายลุ่มแม่น้ำท่าจีนและสายสุพรรณมาอย่างครบถ้วน

    ปัจจุบัน หลวงปู่นาม ได้สร้างวัตถุมงคล อาทิ เหรียญรุ่นแรก ตะกรุดโทน เพื่อหาเงินไปสมทบทุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณร และนักเรียนที่ยากจน

    ซึ่งเป็นปณิธานของหลวงปู่ผู้เฒ่าแห่งสุพรรณบุรี

    คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
    ที่มาจากหนังสือพิมพ์ : [​IMG]
    ผมจะไปขอให้ท่านอธิษฐานพระให้ ผู้ใดสนใจอยากเช่าตะกรุด สามารถฝากได้นะครับ ดอกละ 300 โดยท่านจารมือเองทุกดอก รีบเก็บก่อนเป็นตะกรุดปั้มที่ไม่ได้เรียกสูตรอักขระทีละตัวนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...