New!!!ชุดลูกแก้วสารพัดนึก(วรรณะกลมเขียวอ่อน)รุ่น2ปี24+ตะกรุดผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม ลพ.ฤาษีลิงดำ น.11

รายการที่ 37 พระผงวิเศษกลีบบัว หลวงพ่อห้อม วัดคูหาสุวรรณ ติดเกศา ปี2529 (ไตรมาสรุ่นแรก) องค์ที่2

หลวงพ่อห้อม อมโร วัดคูหาสุวรรณ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งกรุงเก่า เมืองพ่อขุนรามคำแหงมหาราช จังหวัดสุโขทัย
ท่านเป็นศิษย์สายตรงหลวงปู่ฤทธิ์ เทวะ ซึ่งหลวงปู่ฤทธิ์ เป็นศิษย์สายตรงของสมเด็จพุฒาจารโต พรหมรังสี วัดระฆังโฆสิตาราม ศึกษาวิชาต่างๆกับสมเด็จพุฒาจารโตอยู่6พรรษา
หลวงพ่อห้อม จึงได้รับการถ่ายทอดทั้งด้านพุทธคม ด้านวิปัสสนากรรมฐาน มาอย่างเข้มข้นมาทางสายสมเด็จพุฒาจารย์โตโดยเฉพาะ ซึ่งชาวจังหวัดสุโขทัยมีความเลื่อมใสศรัทธาต่อท่านมาก

***เหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ เป็นข่าวเมื่อปี2559ที่ผ่านมา....***

อัศจรรย์! ไฟไหม้กุฏิวัดคูหาสุวรรณวอด-ภาพเกจิดัง “หลวงพ่อห้อม” ไม่ไหม้
สุโขทัย - เกิดเหตุไฟไหม้กุฏิวัดคูหาสุวรรณ แม้เจ้าหน้าที่จะระดมรถดับเพลิงนับสิบคันฉีดน้ำสกัดเป็นชั่วโมงแต่เอาไม่อยู สุดท้ายวอดทั้งหลัง แต่กลับเจอเรื่องอัศจรรย์ใจจนอึ้งกันหมด หลังเห็นภาพ “หลวงพ่อห้อม” เกจิดังนับสิบภาพไม่ไหม้ เชื่อเป็นปฏิหาริย์และความศักดิ์สิทธิ์จริง​

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 พ.ย. 59 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิพระภายในวัดคูหาสุวรรณ ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย เปลวเพลิงได้โหมหนัก และลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้พนักงานดับเพลิงเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ตลอดจนรถดับเพลิงจากหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด 10 คันต้องระดมฉีดน้ำสกัด โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่ากุฏิไม้สักสองชั้นของหลวงพ่อห้อม อมโร (พระราชพฤฒาจารย์) อดีตเจ้าอาวาส อดีตเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งเป็นพระเกจิชื่อดังแห่งเมืองสุโขทัยที่มรณภาพไปแล้ว ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลังพร้อมกับพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยสุโขทัยจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าเสียหายหลายล้านบาท เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หลังเพลิงสงบทางคณะศรัทธาและลูกศิษย์วัดคูหาสุวรรณได้ร่วมกันตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บทรัพย์สินมีค่าที่ยังพอหลงเหลือแล้วนำมาไว้ที่ศาลาการเปรียญหลังใหม่ ปรากฏว่าเจอเรื่องน่าอัศจรรย์ใจขึ้น เมื่อต่างได้เห็นภาพถ่ายของ “หลวงพ่อห้อม” จำนวนนับสิบภาพอยู่ในซากกองเพลิงโดยไม่ไหม้ไฟ ทำให้เชื่อว่านี่คือปาฏิหาริย์และความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อห้อมที่ชาวสุโขทัยเคารพกราบไหว้

***พระผงวิเศษกลีบบัวนี้ เป็นวัตถุมงคลไตรมาสรุ่นแรก ปี2529 ด้านหลังติดเกศาหลวงพ่อห้อม หลวงพ่อห้อมปลุกเสกไตรมาสอย่างเข้มขลัง เป็นพระรุ่นหนึ่งที่มีประสบการณ์โดดเด่น และเป็นที่แสวงหาต่อผู้ที่ศรัทธาหลวงพ่อค่ะ

พุทธคุณ โดดเด่นเรื่องมหาเมตตา มหานิยม

รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
บูชาราคาพิเศษ 299 บาท
จองแล้วค่ะ^^
หมายเหตุ: ภาพด้านล่างสุด เป็นภาพหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ กราบนมัสการหลวงพ่อห้อม ค่ะ​

 

รายการที่ 38 เหรียญเสด็จเตี่ย รุ่น เปิดพระตำหนัก
19 ธันวาคม 2536
วัดเขตอุดมศักดิ์วนาราม หาดทรายรี จังหวัดชุมพร

พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงเป็นต้นราชสกุล "อาภากร" เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และองค์ที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาโหมด พระองค์ทรงได้รับสมัญญานามว่า "องค์บิดาของทหารเรือไทย"

พระองค์ทรงเป็นผู้วางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือ ทรงได้รับการเชิดชูในหมู่ทหารเรือเรียกขานพระองค์ว่า "เสด็จเตี่ย" หรือ "หมอพร" และ "พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย" ต่อมาในปี 2536 มีประกาศกองทัพเรือขนานพระนามพระองค์ว่า "พระบิดาของกองทัพเรือไทย"และในปี 2544 แก้ไขเป็น "องค์บิดาของทหารเรือไทย"

ภายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ได้มีการจัดสร้างศาลและอนุเสาวรีย์พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ รวมทั้งสิ้น 217 แห่งทั่วประเทศไทย เช่น โรงพยาบาลชุมพร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร หรือที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

เสด็จเตี่ย พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในด้านการรบ การศึก และทรงเป็นวีรบุรุษนักรบอันกล้าหาญของสยามประเทศ อีกทั้งเป็นขวัญกำลังใจที่สำคัญยิ่งของทหารหาญทั้งหลาย

เหรียญรุ่นเปิดพระตำหนัก พิธีใหญ่ เกจิชื่อดังเมืองชุมพรร่วมพิธีปลุกเสกมากมาย อาทิ หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน หลวงพ่อบุญมา วัดถ้ำโพงพาง และเกจิอาจารย์สายเขาอ้อ

เหรียญนี้เป็นเหรียญเนื้อทองแดงค่ะ ไม่ผ่านการใช้งาน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. สวยมากๆค่ะ

พุทธคุณ: เป็นมหาบารมี มหาอำนาจ มหาอุต แคล้วคลาด

แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับท่านที่ศรัทธาเสด็จเตี่ยนะคะ

รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ
บูชาราคาพิเศษ 299 บาท
(จัดส่งEMSฟรีค่ะ)

​

 

รายการที่ 39 พระกริ่งหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา งานผูกพัทธสีมา ปี2546

หลวงปู่ทอง ศิษย์น้องสมเด็จโต”เสกอะไร ขลังทุกอย่าง” แม้ ร.5ยังศรัทธา ประเทศเกิดภัยสงคราม ต้องนิมนต์ขึ้นเครื่ิองบิน ป้องกันภัย!

ประวัติหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา(ลาดบัวขาว) กรุงเทพฯ
หลวงปู่ทอง อายะนะ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2363 ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นบุตรของนายฮวด แซ่ลิ้ม ชาวจีนฮกเกี้ยน มารดาเป็นชาวมอญ ต่อมาท่านได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2384 ได้อุปสมบท ณ วัดเงินบางพรม ตลิ่งชัน โดยมีท่านเจ้าคุณวินัยกิจจารีเถระ (ภู่) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 2 ของ วัดเงินบางพรม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาตามภาษามคธว่า อายะนะ หลังจากอุปสมบทมา ได้พำนักจำพรรษา ณ วัดแห่งนั้นเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และคอยอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ของท่านภายหลังได้ธุดงค์วัตรเพื่อแสวงหาโมกขธรรม

เมื่อพระราชโยธาก่อสร้างวัดราชโยธาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้นิมนต์ท่านให้มาเป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของ วัดราชโยธาท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมากๆในสมัยก่อน โดยท่านเป็นศิษย์รุ่นน้องของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งมีอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกันคือ หลวงปู่แสง วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี (ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันอีกท่าน คือ หลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์) นอกจากนี้ สหายของหลวงปู่ทองที่ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ เพื่อแลกเปลี่ยนวิชาความรู้และวิชาอาคมต่างๆก็มี
หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร
หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
หลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก
หลวงปู่ภู วัดอินทร์
หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
หลวงปู่แช่ม วัดฉลอง จ.ภูเก็ต
ท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม
หลวงปู่ปั้น วัดเงิน ตลิ่งชัน
ส่วนลูกศิษย์ของหลวงปู่ทองก็มี หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ซึ่งเป็นศิษย์ก้นกุฏิของท่านเพราะท่านเป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้เอง และตอนที่หลวงปู่เผือกสร้างพระ หลวงปู่ทองก็ยังมอบผงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
ซึ่งท่านแบ่งมาจากสมเด็จพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ศิษย์พี่ของท่าน ให้หลวงปู่เผือกไปสร้างพระด้วย
นอกจากนี้ ยังมีพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่านที่มาขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่ทอง เช่น
หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม
หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี
หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช
หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ สมุทรสาคร
หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ภูเก็ต
หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี
และศิษย์ที่เป็นฆราวาส เช่น
อาจารย์แก้วคำวิบูลย์ (บวชเป็นพระแล้วต่อมาศึกเป็นฆราวาส)
อาจารย์แถว กรเดช
อาจารย์เจ็ก สำนัก สามแยกไฟฉาย
อาจารย์เที่ยง น่วมมานา สำนักบ้านมีดี
ในสมัยก่อนหลวงปู่ทอง ท่านเป็นพระที่มีอาวุโสสูง และทรงไว้ซึ่งวิทยาคมแก่กล้า
ดังนั้นไม่ว่าใครก็ล้วนมาขอเรียนวิชาต่างๆ จากท่าน
หลวงปู่ทองท่านเป็นพระที่ความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ท่านมีอภิญญาจิตรและปาฏิหาริย์มากมาย แม้แต่คนจะถ่ายรูปท่าน ก็ยังถ่ายไม่ติดเลยครับ ทำให้ปัจจุบัน จึงไม่ค่อยมีรูปท่านให้เห็นกันจะมีที่เห็นก็เพียงรูปเดียวที่ชัดสุด ก็คือ รูปที่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายร่วมกันไปอ้อนวอนขอถ่ายรูปท่าน ซึ่งเป็นรูปที่ท่านกำลังลงบันไดไปฉันเพลเท่านั้น ส่วนรูปที่แอบถ่ายตอนท่านฉันเพลนั้นไม่ชัดติดเป็นเงาๆ เท่านั้น
หลวงปู่ทองท่านมรณภาพ ปีพ.ศ. 2480 สิริรวมอายุได้ 117 ปี นับเป็นยอดพระเกจิอาจารย์แห่งอาจารย์ของเมืองไทยที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบันครับ
ขอบพระคุณข้อมูลจากแอพ เกจิ

***พระกริ่งหลวงปู่ทอง พุทธาภิเษก ณ วัดราชโยธา ที่ระลึกในงานผูกพัทธสีมา 1-9 ก.พ.2546
ขนาดหน้าตัก 1.7 ซม.
เป็นพระกริ่งรูปเหมือนหลวงปู่ทอง อุดกริ่งยันต์"นะ" สภาพสวยงามมากค่ะ

รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
บูชาราคาพิเศษ 299 บาท
จองแล้วค่ะ โดยคุณ3D^^​

 

แจ้งจัดส่งพัสดุให้เรียบร้อยนะคะ
เลขEMS ER 5956 3123 8TH
ขอบพระคุณมากๆค้า^^

 

แจ้งจัดส่งพัสดุให้คุณshaj เรียบร้อยค่ะ
เลขEMS ER5956 3453 0TH
ขอบพระคุณมากๆค้า^^

 

รายการที่ 40 พระกริ่งมหาสมบัติ(ปางจักรพรรดิ) พระอาจารย์สมบัติ จิตตปญโญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล

พระกริ่งมหาสมบัติ (ปางจักรพรรดิ) พระอาจารย์สมบัติ จิตตปญฺโญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล ต.ศรีวิไลอ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เนื้อทองเหลือง สร้างเพื่อหารายได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญวัดป่าโพธิ์ศรีวิไล และขยายที่สำนักสงฆ์หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

พิธีมหาพุทธาภิเษก ๓ วาระ

วาระที่ ๑. ทำพิธีที่วัดศรีสรรเพชร จังหวัดบึงกาฬ โดยมีหลวงปู่ทองพูล สิริกาโม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมร่วมในพิธีด้วยเป็นจำนวนมากรวมทั้งพุทธบริษัทผู้ถือบวชเนกขัมมะจำนวนหลายพันคน ได้ร่วมสวดพระคาถาพุทธาภิเษกโต้รุ่ง ณ วันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

วาระที่ ๒. ทำพิธีที่วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นวัดสาขาของ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ มีพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จำนวน ๑๐๐ กว่ารูปร่วมสวดเจริญพระคาถาพุทธาภิเษก และพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจำนวนมากร่วมอธิษฐานจิตโต้รุ่ง ร่วมกับพุทธบริษัทผู้ถือบวชเนกขัมมะหลายพันคน ทำพิธี ณ วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยพระประภัสสสรมุณี เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้จุดเทียนชัย หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม อธิษฐานจิตประจุพระคาถาใส่เทียนนพเก้า เพื่อจุดเทียนชัย และพระอาจารย์สมบัติ จิตตปญฺโญ เป็นผู้ดับเทียนชัย

วาระที่ ๓. เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกเหมือนวาระที่ ๒ ทำพิธี ณ วันที่ ๔ มกราคม พศ ๒๕๕๗

ขอบพระคุณข้อมูลจาก เอวาริน พระเครื่อง นะคะ

พุทธานุภาพ : มหาเศรษฐี มหาโชค มหาลาภ มหาสมบัติ

พระสภาพสวยมากค่ะ พร้อมกล่องเดิม มีขนาดหน้าตัก 1.7 ซม. สูง 4 ซม.
อุดกริ่งเสียงดังชัดเจนค่ะ

รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ
บูชาราคาพิเศษ 250 บาท
จองแล้วค่ะ^^​

 

รายการที่ 41 เหรียญพระนเรศวรย่ำศึก วัดป่าเลไลย์ ปี2517

เหรียญพระนเรศวรย่ำศึก ปี2517 พุทธาภิเษก ณ วัดป่าเลไลย์
ด้านหน้าหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลย์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองสุพรรณบุรี
ด้านหลังพระนเรศวรทรงช้างศึก

เหรียญสภาพสวยมากค่ะ เนื้อทองแดง คมชัดทุกรายละเอียด

พุทธคุณ เด่นเรื่องมหาอำนาจ มหาบารมี มหาอุตค่ะ

แนะนำอย่างยิ่งสำหรับท่านที่เคารพศรัทธาองค์สมเด็จพระนเรศวรฯนะคะ

รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
บูชาราคาพิเศษ 250 บาท
จองบูชาแล้วค่ะ โดยคุณปกรณ์^^​

 

ขอบพระคุณมากๆนะคะ^^​

 

ขอบพระคุณมากๆนะคะ สำหรับการจองบูชาค้า^^​

 

รายการที่ 42 ขุนแผนพรายชมจันทร์ เนื้อทองประสานทวีทรัพย์ หลังยันต์ฝังตะกรุดเงิน

พระขุนแผนพรายชมจันทร์พระขุนแผนเมืองนนท์หน่อเนื้อ'ผงพรายกัญญา'

พระขุนแผนพรายชมจันทร์ จัดสร้างเพื่อหาทุนทรัพย์ในการบูรณะอุโบสถหลังใหม่ของวัดบางแพรก จ.นนทบุรี กดพิมพ์นำฤกษ์ อธิษฐานจิต "หลวงพ่ออนันต์ วิสุทโธ” วัดบางพลีน้อย จ.สมุทรปราการ เทพเจ้าแห่ง "พญาวานร" และได้รับความเมตตาอธิษฐานจิตเป็นกรณีพิเศษจากหลวงพ่อทอง สุทธสีโล วัดพระพุทธเขายายหอม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ

มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญนั้น "พระครูปลัดธีรนันท์ ญาณเมธี" หรือ "พระอาจารย์ ตุ๊กเล็ก" เจ้าอาวาสวัดบางแพรก ได้ทำหนังสือขอเมตตาจากญาคูจุณฑ์ หรือพระอาจารย์จุณฑ์ วัตรป่าเจ้าสัว จ.อุบลราชธานี เพื่อขอมวลสารผงพรายกัญญา มาเป็นมวลสารในการสร้าง ซึ่งก็ได้รับความเมตตาจากวัดป่าได้มอบมวลสารผงพรายกัญญามาให้

"พระอาจารย์ตุ๊กเล็ก" ได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีจนได้ฤกษ์อันเป็นอุดมมงคลจึงได้ทำพิธีผสมมวลสารกดพิมพ์นำฤกษ์ ในวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ และได้ทำพิธีเสกนำฤกษ์ในคืนเพ็ญเดือนสิบสอง และจะได้เปิดให้สาธุชนรวมทำบุญเช่าบูชาพร้อมกันในวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

จำนวนการสร้างพระขุนแผนพรายชมจันทร์ ประกอบด้วย

๑.พระขุนแผนพรายชมจันทร์ เนื้อทองประสานทวีทรัพย์ หลังยันต์ฝังตะกรุดทองคำ สร้างจำนวน ๑๙๙ องค์
๒.พระขุนแผนพรายชมจันทร์ เนื้อเกสรทิพย์มหาโชค หลังยันต์ฝังตะกรุดเงิน-ข้าวสารหิน-พลอยเสก หรือนิล สร้างจำนวน ๕๐๐ องค์
๓.พระขุนแผนพรายชมจันทร์ เนื้อทองประสานทวีทรัพย์ หลังยันต์ฝังตะกรุดเงิน สร้างจำนวน ๙๙๙ องค์
๔.พระขุนแผนพรายชมจันทร์ เนื้อทองประสานทวีทรัพย์ หลังยันต์ฝังข้าวสารหิน สร้างจำนวน ๑,๙๙๙ องค์
๕.พระขุนแผนพรายชมจันทร์ เนื้อทองประสานทวีทรัพย์ หลังยันต์ฝังนิล สร้างจำนวน ๒,๙๙๙ องค์
๖.พระขุนแผนพรายชมจันทร์ เนื้อเกสรทิพย์มหาโชค หลังเรียบ ฝังนิล-ข้าวสารหิน สร้างจำนวน ๕๐๐ องค์
๗.ลูกอมพรายชมจันทร์ (นำฤกษ์) เนื้อเกสรทิพย์มหาโชค สร้างจำนวน ๕๐๐ ลูก
๘.ลูกอมพรายชมจันทร์ เนื้อทองประสานทวีทรัพย์ สร้างจำนวน ๒,๙๙๙ ลูก

นอกจากนนี้ยังมีพระขุนแผนพรายชมจันทร์เนื้อพิเศษ เกสรทิพย์มหาโชค (ก้นครก) หลังยันต์ฝังตะกรุดทอง-ข้าวสารหิน- พลอยเสก จำนวนสร้าง ๒๙ องค์

อย่างไรก็ตาม พระขุนแผนในสายผงพรายกัญญา มีขุนแผนเพียง ๓ รุ่น ลูกอม ๓ รุ่น และตระกรุดเพียง ๒ รุ่น ตามชื่อรุ่นดังนี้

๑.พระขุนแผนพรายกัญญา ลูกอม แห่งเสนาสนะวัตรป่าเจ้าสัว จ.อุบลราชธานี

๒.พระขุนแผนพรายทองคำ ลูกอม แห่งพุทธยานเทพสถิต จ.ชัยภูมิ

๓.พระขุนแผนพรายชมจันทร์ ลูกอม แห่งวัดบางแพรก จ.นนทบุรี (ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุมงคล สุดท้าย,ท้ายสุด,ทิ้งทวน จาก ผงพรายกัญญา ๒ ขวดสุดท้าย ที่ได้รับมวลสารผงพรายกัญญา ผงพรายกัญญามาอย่างถูกต้อง มีความชัดเจนที่สุด

๔.ตะกรุดดับเดือน-ดับตะวัน

๕.ตะกรุดสามกษัตริย์ "สาลิกาพญารัดใจ" ซึ่งได้รับการยืนยันว่าใช้แทนพระขุนแผนพรายกัญญา

มวลสารในการสร้างพระขุนแผนชมจันทร์
๑.ผงพรายกัญญา 1 ขวดเต็มๆ
๒.ลูกอมหลวงปู่ทิม
๓.มวลสาร หลวงปู่เกลี้ยง วัดสุทธาวาส ชลบุรี
๔.ชาญหมากหลวงปู่ทิม วัดพระขาว
๕.ผงพรายทองคำ ครูบาโชคชัย
๖.ผงอาจารย์เปรื่อง
๗.ผงพรายกุมาร ครูบาโชคชัย
๘.ผงงาช้างพลายชุมพล
๙.ดินเจ็ดป่าช้า
๑๐.ดินกลางอุโบสถ์ อายุ ๓๐๐ กว่าปี วัดบางแพรก
๑๑.มวลสารหลวงปู่ฤาษีลิงใหญ่ มหาสารคาม
๑๒.แร่เหล็กไหล
๑๓.แร่เหล็กน้ำพี้ิ
๑๔.แร่เหล็กเปียก
๑๕.แร่เขาอึมคึม
๑๖.แร่เกาะล้าน
๑๗.แร่บางไผ่
๑๘.ดินสังเวชณียสถาน ๔ ตำบล
๑๙.ผงธูปบูชาองค์พระธาตุพนม
๒๐.ผงหลวงพ่ออนันต์ วัดบางพลีน้อย
๒๑.ผงไม้ตะเคียนเสาโบสถ์วัดเคลือวัลย์
๒๒.ผงไม่เสาโบสถ์วัดไก่เตี้ย
๒๓.มวลสารหลวงพ่อสังเวียน จ.ร้อยเอ็ด
๒๔.ผงงาช้างหลวงพ่อสังเวียน
๒๕.มวลสารหลวงพ่อหนู จ.ร้อยเอ็ด
๒๖.สีผึ้งหลวงพ่ออนันต์
๒๗.สีผึ้งหลวงพ่อสังเวียน
๒๘.สีผึ้งหลวงพ่อหนู
๒๙.น้ำมันงาเสกหลวงพ่อวัฒนา จ.ร้อยเอ็ด
๓๐.สีผึ้งเก่ามากกว่า ๓๐ วัด
๓๑.น้ำมันว่าน ๑๐๘ เสาร์ห้า ปี ๕๕ วัดบางแพรก
๓๒.ผงว่าน ๑๐๘
๓๓.ว่านดอกทอง
๓๔.ว่านเสน่ห์จันทร์หอม
๓๕.ว่านช้างผสมโขลง
๓๖.ผงคูณตายพลาย
๓๗.ผงไม้คะเคียนตายพลาย
๓๘.ทรายเสก
๓๙.จตุคามรามเทพมากกว่า ๕๐ รุ่น
๔๐.พระสมเด็จชำรุด
๔๑.มวลสารพระสมเด็จวัดบางแพรก ปี ๕๓
๔๒.ผงธูปบูชาหลวงพ่อโต วัดบางพลี
๔๓.ผงขี้เถ้า ๗ วัด
๔๔.ดิน ๗ ถ้ำ
๔๕.ทองเปลวจากสถานที่ต่างๆ ฯลฯ
๔๖.แป้งเจิมหลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
๔๗.แป้งเจิมหลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้
๔๘.แป้งเจิมหลวงพ่อรักษ์ วัดสุทธาวาส
๔๙.แป้งเจิมหลวงพ่อสิริ วัดตาล นนทบุรี
๕๐.แป้งเจิมหลวงปู่วาส วัดสะพานสูง
๕๑.น้ำมนต์หลวงพ่อพูน วัดไผ่ล้อม
และมวลสารอีกมากมายนับร้อยรายการ จากนับร้อยสถานที่่ และนับร้อยพระเถราจารย์ นี้เป็นเพียงบางส่วนที่นำมาบอกเล่าให้ท่านทั้งหลายทราบ

จากพระขุนแผนรุ่นพรายกัญญา สู่พระขุนแผนรุ่นมหาภูติพรายทองคำ เพื่อเป็นที่สุดแห่งปี ๒๕๕๗ ปิดท้ายด้วยพรายชมจันทร์ พูดถึงขุนแผนที่ร้อนแรง ไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยมวลสารผงสำเร็จ "พรายกัญญา" ที่มีพลังแฝงด้วยพุทธคุณ อิทธิปาฏิหาริย์ มีประสบการณ์ จนเป็นที่กล่าวขานในยุคปัจจุบัน จึงถือว่า "ขุนแผนพรายชมจันทร์" จัดสร้างโดยวัดบางแพรก จ.นนทบุรี เป็นวัตถุมงคลที่ครบเครื่องอีกรุ่นในสาย "ผงพรายกัญญา" แห่งยุคนี้

ขอบพระคุณข้อมูลจาก คมชัดลึก นะคะ

***องค์นี้เป็นเนื้อทองประสานทวีทรัพย์ หลังยันต์ฝังตะกรุดเงิน สภาพสวยเดิมค่ะ ที่เห็นตำหนินิดหนึ่งที่ขอบด้านล่าง เกิดจากการกดพิมพ์พระจากทางวัดเองนะคะ(ไม่ได้เกิดจาการทำตกหล่นแต่ประการใดค่ะ) พร้อมกล่องเดิมค่ะ

***สุดยอดขุนแผน สุดยอดแห่งมหามวลสาร สุดยอดอิทธิปาฏิหาริย์***


รับประกันพระแท้ตลอดชีพ

​

 

รายการที่ 43 พระสิวลี 200ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รุ่น 2 หลวงพ่อธรรมงาม
พระสิวลี 200ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รุ่น 2
หลวงพ่อธรรมงาม พระธุดงค์เถื่อน

หลวงพ่อธรรมงาม นั่นก็คือ พระธุดงค์เถื่อน ท่านชอบอยู่ป่า อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งตามหาตัวอยากมาก เป็นศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
การบรรพชาอุปสมบท หลวงพ่อบวชตามประเพณีลูกผู้ชายครบ ๒o ปี ในปี พ.ศ.๒๕๑๗(บวช ๒ เดือนกับ ๒ วัน)สึกออกมา มาแสดงดนตรีลูกทุ่งรวมดาวกระจาย ของ ม.ก. ในนามของ " เหยี่ยว ห่อ แห้ง" พร้อมกับเป็นนักจัดรายการวิทยุ ม.ก. บางเขน และทำงานสถานีวิทยุสวนมิสกวัน ๖๓o ต่อมาบวชอีกครั้งหลังกลับจากประเทศอิสราเอลที่เดิมโบสถ์เก่า แต่กุฎิพักหลังใหม่ เมื่ออายุ ๒๘ ปี พระอุปัชฌาย์ : พระธรรมวราภรณ์ (เพิ่ม อาภาโค) พระกรรมวาจาจารย์ : พระครูญาณวิโรจน์ พระอนุสาวนาจารย์ : พระครูวิริยาธการ เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ เวลา ๑๓.oo น. ณ อุโบสถวัดราชาธิวาส แขวงวชิระ เขตดุสิต กรุงเทพฯสังกัดฝ่ายธรรมยุติกนิกายเป็นเวลา ๖ พรรษา
ท่านได้ปฎิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์สาย พระอาจารย์มั่น ภูริทั้ตตเถระ ๔ ท่านสำคัญๆ ได้แก่ หลวงปูสิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ (ขึ้นไปพักกับชาวเขาเผ่าลีซอที่ดอยเชียงดาวแล้วมาอยู่กับท่านหลวงปู่หนู ขณะที่ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ยังมีชีวิตอยู่ ที่วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ แล้วมาทางภาคอีสานอยู่กับพระอาจารย์ชัยชาญ ชะยะธัมโม วัดหินหมากแป้ง ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ปฎิบัติธรรมกับท่านหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แล้วเข้ามาทางวัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ร่วมกับพระชัยณรงค์ ครุธัมโม หัดปฎิบัติข้อวัตรจาก หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
***ท่านเป็นพระที่โดดเด่นในเรื่องการให้โชคลาภมากๆค่ะ ผู้ที่ได้มีโอกาสพบเจอท่านมักจะขอโชคขอลาภจากท่านทุกครั้ง และวัตถุมงคลของท่านจะโดดเด่นมากเรื่องโชคลาภ เงินทอง เป็นอย่างยิ่งค่ะ
สภาพพระสวยมากๆค่ะ ไม่ผ่านการใช้งาน
รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
บูชาราคาพิเศษ 299 บาท
จองบูชาแล้วค่ะ โดยคุณbuddism​

 

ขอบพระคุณ คุณย้ง ผู้ศรัทธาจากบางบอนมากๆนะคะ จองบูชาและโอนเงินให้อย่างรวดเร็วค่ะ
พรุ่งนี้จัดส่งให้ทันทีค้า^^

 

แจ้งจัดส่งพัสดุให้คุณย้งเรียบร้อยนะคะ^^
ขอบคุณมากๆค้า​

 

แจ้งจัดส่งพัสดุให้พี่นิรันดร์เรียบร้อยค้า
ขอบพระคุณมากๆค่ะ^^​

 

รายการที่ 44 พระผงหลวงพ่อเพชร วัดแจ้ง หลังพระปิดตา ปราจีนบุรี

พระเนื้อผงหลวงพ่อเพชร วัดแจ้ง หลังพระปิดตา ปราจีนบุรี

หลวงพ่อเพชร เป็นพระนามของพระพุทธ รูปศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี เหตุที่ได้รับการขนานนามเช่นนั้น เพราะพระเนตรทั้งสองข้างถูกบรรจุเพชรแท้น้ำงามขนาดใหญ่เท่าแววตาดำเอาไว้ เป็นพุทธบูชา ชาวบ้านจึงเรียกชื่อกันไปตามจุดเด่นที่ได้เห็นในองค์พระ

หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปที่ถูกขุดพบบริเวณทุ่งร้างใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้อัญเชิญท่านเข้าประดิษฐานเป็นมิ่งขวัญแก่วัดแจ้ง อันเป็นวัดที่เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สร้างถวายไว้เพื่อบูชาพระพุทธศาสนา

นับแต่หลวงพ่อได้ที่ประทับเป็นกิจจะลักษณะ ท่านก็เริ่มแสดงกฤษดาภินิหารช่วยเหลือผู้คนซึ่งทุกข์ร้อนเข้ามาบนบานศาล กล่าว ส่วนใหญ่มักพบความสำเร็จตามปรารถนาทั่วกัน ในแต่ละวันจึงมีศรัทธาประชาชนหลั่งไหลเข้านมัสการหลวงพ่อเพชรอย่างไม่ขาดสาย

คุณ ส. บางคล้า นักเขียนลือนาม แห่งนิตยสาร ‘นะโม’ ได้เคยสัมภาษณ์ คุณโกวิท วัฒนกุล ดาราชื่อดังซึ่งประสบกับอภินิหารของหลวงพ่อเพชร แห่งวัดแจ้ง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเรื่องนี้มีความเหมือนกับเรื่องของผมในแง่ที่ว่า ‘ไร้รูป แต่ลงมือได้’ ผมจึงขออนุญาตนำมา ถ่ายทอดเพื่อเทิดกิตติคุณในหลวงพ่อเพชรอีกครั้ง

คุณ ส. - “เคยได้พบอภินิหารอะไรไหมครับเกี่ยวกับพระที่แขวน”

คุณโกวิท - “มีครับ เป็นหลวงพ่อเพชร วัดแจ้ง ปราจีนบุรี นั่น เห็นมาสามหนซ้อน ๆเลย เป็นของที่พ่อตาถอดออกจากคอให้ผมเลย”

คุณ ส. - “อุบัติเหตุที่ว่าน่ะ แบบไหนครับเล่าให้ฟังสักนิดซิ”

คุณ โกวิท - “ขับรถชนกัน เชื่อมั๊ยของเค้านี่ขาดสองท่อนเลย ของผมแค่หัวบิ่นเท่านั้นเอง ตอนไปถ่ายหนังเรื่อง 7 พระกาฬ ที่สระบุรี พุ่งใส่กันเลย ของเขาขาดสองท่อน รถผมพุ่งเข้าเสียบกลางไม่เป็นอะไรเลย จะชนสุนัขก็เคย เรื่องมันประหลาดมาก กลางคืนผมเห็นสุนัขตัวใหญ่มาก ตอนแรกเห็นนึกว่าควาย แต่พอเข้าไปใกล้ถึงได้เห็นว่าเป็นเจ้าตูบ ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เห็นอย่างนั้น ผมตกใจมากเลยหักหลบลงไปข้างทาง แต่ก็ไม่เป็นไรอีก”

คุณ ส. - “มีอีกไหมครับ เรื่องตื่นเต้นอย่างนี้”

คุณโกวิท - “มีครับ ผมว่าหลวงพ่อเพชร ทั้งนั้นแหละ”

คุณ ส. - “ที่ไหนครับ”

คุณโกวิท - “ตอนไปถ่ายเรื่องกระท่อมนกบินหลาที่ จ.นครศรีธรรมราช นั่งรถไฟเลยทีเดียว ฉากรถไฟ ผมต้องกระโดดเกาะรถไฟ วันนั้นเขาขอรถไฟได้แล้ว แต่ปรากฏว่ารถไฟเบี้ยวไม่ให้ถ่าย แต่งานทุกอย่างเขาเตรียมไว้แล้ว ก็ต้องถ่าย เอาเป็นว่าเล่นกับของจริงเลย รถไฟวิ่งมาผู้กำกับเขาก็ให้ผมกระโดดเกาะ ปรากฏว่าผมพลาดมือจับไม่ติด หล่นตุ้บลงไป พอดีเลย มันลงไปตรงช่องบันไดรถไฟ หัวผมติดพื้นรางเลย ถ้าโผล่มานิดเดียวเท่านั้นหัวขาดไปเลย ทุกคนร้องกันลั่นสถานีคิดว่า ยังไงผมก็ต้องตายแน่”

คุณ ส. - “ตอนนั้นรู้สึกอย่างไรบ้าง”

คุณ โกวิท - “เออ! มันแปลกนะครับ ตอนนั้นผมมีความรู้สึกว่ามือใครก็ไม่รู้มากดหัวผมไว้ ผมกระดกหัวไม่ขึ้น ถ้าขึ้นมาก็...ป่านนี้ไม่มีโกวิทแล้ว รถไฟมันยาวตั้ง 15 โบกี้ ผมว่านี่แหละ อภินิหารหลวงพ่อเพชร ที่พ่อตาให้มา”

เป็นอย่างไรครับ เรื่องคุณโกวิท วัฒนกุล พอจะยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเพชรได้ไหม ที่คุณโกวิทแขวนอยู่นั้นเป็นรุ่นแรก แต่ที่วัดสร้างใหม่เขาก็มีพิธีดีและเป็นรูปหลวงพ่อเหมือนกันความ ศักดิ์สิทธิ์เชื่อว่าไม่แตกต่างกันเลย ใครศรัทธาเชิญที่วัดแจ้งโดยตรง คงสมหวังกันทุกคน

"นี่คือพระที่คุ้มภัยได้แน่นอนองค์หนึ่งครับ"

ขอบคุณข้อมูลของคุณรณธรรม ธาราพันธุ์ จากเวบนวรัตน์ดอทคอมครับ
และขอบคุณข้อมูลจากเว็บพระนะคะ

พระผงหลวงพ่อเพชร หลังพระปิดตา บูชามาประมาณปี 36 ค่ะ สภาพสวยเดิม ไม่ผ่านการใช้งาน หลวงพ่อเพชรท่านศักดิ์สิทธิ์มากๆค่ะ หลายท่านได้เจอประสบการณ์ด้วยตัวเอง เป็นพระผงรุ่นหนึ่งที่น่าบูชามากๆ ทั้งแคล้วคลาด ปลอดภัย ป้องกันสิ่งชั่วร้าย ได้ดีนักแล

รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ
บูชาราคาพิเศษ 250 บาท​

 

ขอบพระคุณมากๆค้า​

 

แจ้งจัดส่งพัสดุให้คุณปกรณ์เรียบร้อยค้า
ขอบคุณมากๆนะคะ^^​

 

รายการที่ 45 พระกริ่งไพรีพินาศ พ่ายฤทธิ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรณายก ปี2557

"พระไพรีพินาศ" เป็นพระนามของพระพุทธรูป ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ เก๋งบนชั้นสองของพระเจดีย์ใหญ่วัดบวรนิเวศ วิหาร กรุงเทพฯ เป็นพระศาลาแกะที่มีชนาดย่อม หน้าตักกว้าง 33 ซม. และมีความสูงถึงปลายรัศมี 53 ซม. สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงมีพระวินิจฉัยในสาสน์สมเด็จว่า"พระไพรีพินาศเป็นพระพุทธรูปแบบมหายานปางประทับ นั่งประทานอภัย กล่าวคือ มีพระพุทธลักษณะเหมือนพระปางมารวิชัยหัตถ์ขวาที่วางอยู่บนพระชานุขี้น"

พระไพรีพินาศองค์นี้มีผู้นำมาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้นยังทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร และอยู่ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระไพรีพินาศองค์นี้ทรงแสดงอภินิหารให้ปรากฏอริราช ศัตรูที่คิดปองร้าย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่างมีอันเป็นไป และพ่ายแพ้ภัยตนเอง พระองค์จึงโปรดให้ถวาย พระนามของพระพุทธ รูปองค์สำคัญนี้ว่า
"พระไพรีพินาศ".

ไพรี = ข้าศึก,ฝ่ายตรงกันข้าม, ผู้ปองร้าย.
พินาศ = วินาศ,ฉิบหาย,วอดวาย,หายนะ,มลาย,เสียหาย.

***พระกริ่งไพรีพินาศพ่ายฤทธิ์ วัดบวรนิเวศวิหาร จัดสร้างด้วยชนวนมวลสารวัตถุมงคลสำคัญที่เป็นตำนานหลายรุ่นของวัด ใต้ฐานประทับชื่อพระไพรีพินาศและหมายเลขกำกับทุกองค์ และพระไพรีพินาศเป็นหนึ่งในตำนานพระพุทธรูปสำคัญของวัด สมเด็จพระบูรพอดีตเจ้าอาวาสและท่านเจ้าอาวาสทุกพระองค์ทุกท่านจึงมีธรรมเนียมการจัดสร้างสืบทอดกันมาทุกยุคทุกสมัย

พระไพรีพินาศพ่ายฤทธิ์ รุ่นนี้จัดสร้างเพื่อน้อมถวายเป็นพระสังฆบิดรบูชาอภิสัมมานสักการะสมนาคุณที่ได้ร่วมสมทบทุนหล่อพระประธานประจำอุโบสถดิน จังหวัดยโสธร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ซึ่งได้รับประทานนามว่า "พระพุทธสิริยโสธรญาณสังวรมงคลศตวรรษ" ถวายไว้เป็นสมบัติแผ่นดินในนามศิษยานุศิษย์เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก

พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
โดยพระเดชพระคุณพระเทพสารเวที อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช และพระอาจารย์เดชา สิริจนฺโท เจ้าอาวาสวัดสิงห์ทอง จังหวัดยโสธร

พระคาถาบูชาพระไพรีพินาศ
อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สุจิรํ ปรินิพฺพุโต
ธมฺเมหิ ธรมาโนทานิ ปารมีหิ จ ทิสฺสติ
ยาวชีวํ อหํ พุทฺธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณงฺคโต
ปูเชมิ รตนตฺตยํ ธมฺมํ จรามิ โสตฺถินา ฯ

ขอบคุณข้อมูลจากเอวาริน พระเครื่อง และบล็อคอภินิหาร พระไพรีพินาศ มากๆค่ะ

รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
บูชาแล้วค่ะ​

 

รายการที่ 46 พระพุทธชินราช-พระนเรศวร เนื้อผงทาทอง พิธีเสาร์5 ปี2536 (พิธีใหญ่)

ประวัติพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
ประวัติพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปสำคัญของคนไทย พระพุทธชินราช องค์ที่ประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองพิษณุโลกนั้นเป็นที่ รู้กันว่ามีความสำคัญมากองค์หนึ่ง และถูกยกย่องว่า “งาม” ที่สุดในบรรดาพระพุทธรูปทั้งหลายในเมืองไทย พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารใหญ่ด้านทิศตะวันตกของ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งเป็นด้านหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระพุทธชินราช มีหน้าตักกว้าง ๕ ศอก คืบ ๕ นิ้ว ผันพระพักตร์ไปทางแม่น้ำ

ประวัติการสร้างพระพุทธชินราช ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในปีใด แต่ก็มีการสันนิษฐานโดยอ้างอิงตามพงศาวดารเหนือคาดว่า ตำนานพระพุทธชินราช น่าจะสร้างพร้อมกับพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ในรัชสมัย พระมหาธรรมราชาที่ 1(ลิไท) จากนั้นจึงมีการลงรักปิดทององค์พระเป็นครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มีการบูรณะ ลงรักปิดทองอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 5 และมีการบูรณะครั้งล่าสุดในรัชกาลที่ 9 พระพุทธชินราช นี้เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัย หมวดพระพุทธชินราช ลักษณะขององค์พระเส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระขโนงโก่ง พระเนตรประดุจตากวาง พระนาสิกโด่ง ชายผ้าสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ นิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ยาวเสมอกัน อยู่ในลักษณะปางมารวิชัย ด้านซ้ายและขวาขององค์พระ มียักษ์ 2 ตน คอยปกปักรักษาองค์พระอยู่ อีกทั้งยังมีพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรเป็นอัครสาวกอยู่ด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีซุ้มเรือนแก้ว ประวัติพระพุทธชินราช ที่คาดว่าน่าจะสร้างในสมัยอยุธยาลักษณะเป็นรูปตัวเหรา ถือเป็นศิลปะที่สวยงามมากอย่าหนึ่ง พระพุทธชินราช ประดิษฐานในวิหารลักษณะเก้าห้อง ซึ่งมีการบูรณะปฏิสังขรณ์มาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน ทำให้องค์พระสวยงามบริบูรณ์อย่างในปัจจุบัน และในประวัติศาสตร์ยังพบว่ากษัตริย์ในทุกๆสมัยของไทยให้ความเคารพและศรัทธาต่อองค์ พระพุทธชินราช มาอย่างต่อเนื่องทุกๆพระองค์

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งพระมหากษัตริย์ไทยทรงเคารพนับถือสักการะบูชา มาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ดังมีรายพระนามที่ปรากฎในพงศาวดาร คือ สมเด็จพระราเมศวร สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร สมเด็จพระมหาธรรมราชา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเพทราชา พระเจ้าบรมโกฐ พระเจ้ากรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี องค์ต่อ ๆ มาเกือบทุกพระองค์...

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสรรเสริญไว้ว่า พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศาสดา ทั้ง ๓ พระองค์ เป็นพระพุทธปฏิมากรดีล้ำเลิศ ประกอบไปด้วยพุทธลักษณะอันประเสริฐ มีสิริอันเทพยดาหากอภิบาลรักษา ย่อมเป็นที่สักการะบูชานับถือแต่โบราณ
ขอบคุณข้อมูลจากพระเครื่องตั้มศรีวิชัยค่ะ

พระผงองค์นี้ทาทองทั้งด้านหน้าและหลังเต็มองค์ค่ะ ด้านหน้าพระพุทธชินราช ด้านหลังพระนเรศวรมหาราช ปลุกเสกพิธีเสาร์5 ปี2536 ภายในพระอุโบสถพระพุทธชินราช ซึ่งเป็นพิธีใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งในพิธีนี้ยังปลุกเสกวัตถุมงคลอีกหลายรุ่น เกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นร่วมในพิธีมากมายค่ะ สภาพสวยมาก พร้อมกล่องเดิม

พุทธานุภาพแห่งองค์พระพุทธชินราช พระพุทธรูปคู่แผ่นดินสยาม มากมายเหลือคณา

รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
บูชาราคาพิเศษ 199 บาท

​

 

รายการที่ 47 พระนางพญา หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ รุ่น เงินล้นคลัง ปี2540

พระนางพญาหลวงพ่อแดง รัตโต (พระครูญาณวิลาศ) วัดเขาบันไดอิฐ ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี ปี 2540 รุ่นเงินล้นคลัง
จัดสร้างโดยหลวงพ่อบุญส่ง ธมมฺปาโล (พระครูโสภณพัฒนกิจ) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ องค์ต่อจากหลวงพ่อแดง

ท่านเป็นศิษย์เอก เป็นศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของหลวงพ่อแดง เป็นทายาทสืบต่อในทุกสิ่งทุกอย่างที่หลวงพ่อแดงได้ประสิทธิ์ประสาทไว้เต็มบริบูรณ์ เป็นพระสงฆ์ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี มีเมตตาขันติธรรม ประพฤติตนอยู่ในครรลองพระพุทธศาสนา มีความรอบรู้ใฝ่เรียนใฝ่ศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นพระเถระนักพัฒนาที่ส่งเสริมการศึกษาสร้างสรรค์พัฒนาวัดเขาบันไดอิฐในทุกด้าน ตลอดจนชุมชนละแวกใกล้เคียง

พระครูโสภณพัฒนกิจ มีนามเดิมว่า บุญส่ง ดีฉ่ำ เป็นบุตรของนายเนื่อง-นางบาง ดีฉ่ำ เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2485 เป็นชาวบ้านหมู่ 3 ต.บ้านหาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี บรรพชา ณ วัดเขาบันไดอิฐ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2506 โดยมีพระครูญาณวิลาศ(หลวงพ่อแดง) เจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “บุญส่ง ธัมฺมปาโล” เป็นพระกรรมวาจารย์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ เมื่อปี 2517 พระครูโสภณพัฒนกิจถึงแก่มรณภาพด้วยภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ ณ รพ.สงฆ์ กรุงเทพฯ สิริอายุ 71 ปี 7 เดือน 6 วัน 50 พรรษา นับเป็นการสูญเสียพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองเพชรอีกรูปหนึ่ง

พระนางพญา รุ่น เงินล้นคลัง นี้มีมวลสารเก่าของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ซึ่งมีอานุภาพมาก ดั่งเช่นพระผงรุ่นเก่าของหลวงพ่อแดง ด้านหลังยันต์
พุทธคุณ แคล้วคลาด ปลอดภัย มหาอุต เป็นมหาเมตตา มหาเศรษฐี

รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
บูชาราคา 350 บาท
​