สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ขอบคุณทุกๆท่านสำหรับบทเพลงที่เพราะ และมีความหมายอยู่ภายในบทเพลงนั้น ข้าพเจ้าเชื่อว่าบทเพลงเป็นผลงาน ที่ครอบอยู่ระหว่าง 2 โลก คือโลกแห่งความเป็นจริงในมิตินี้ของผู้ที่ฟัง และอีกส่วนนึงเป็นของโลกแห่งจิตวิญญาณธรรมชาติ มันเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความจริงบางอย่างก็ไม่ได้สามารถวัดจากสิ่งที่ตามองเห็น แต่ต้องใช้ความรู้สึกข้างในใจเท่านั้น สิ่งที่มองด้วยตาบางครั้ง มันก็หลอกลวงเราและตรงกันข้ามกับความเป็นจริงเสมอ รูปทั้งหลายก็ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของมัน แม้แต่ร่างกายของเราเอง ก็ประกอบมาจากธาตุหลายอย่างจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ ล้วนประกอบขึ้นมาเป็นร่างกายของเรา สิ่งที่คุณหนุมาน พูดถึง นขา โลมา ทันตา ตโจ ล้วนเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนมนุษย์อย่างเราถึงความเป็นจริง ที่ว่าร่างกายของเราล้วนเกิดจากการรวมตัวของธาตุธรรมชาติทั้งสิ้น

    พระอาทิตย์ เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานของสรรพสิ่งทั้งปวง ทั้งฟ้าและดิน พระอาทิตย์จึงเปรียบเสมือนแม่ผู้ให้กำเนิด และในขณะเดียวกันฟ้าและดินที่กำเนิดจากพระอาทิตย์ ก็ให้กำเนิดธรรมชาติเลี้ยงดูสรรพชีวิต ข้าพเจ้าจึงเห็นควร ที่มนุษย์ทั้งหลาย ควรจะต้องรู้สึกกตัญญูแล้วกราบขอบคุณต่อผู้ให้กำเนิด เราทุกคนถูกสอนมาว่า ให้กตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดของเรา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสมควรอย่างยิ่งที่เราควรจะต้องกตัญญู และตอบแทนต่อฟ้า-ดินและพระอาทิตย์ เช่นเดียวกัน

    ในขณะเดียวกัน เมื่อความมืดเข้ามาเยือน เปรียบได้กับความกลัว ความหลงผิด ความมืดมนในหัวใจของมนุษย์ทุกคน และมองไม่เห็นแสงสว่างแห่งพระอาทิตย์ หรือSUN มนุษย์ก็ได้แสงสว่างจากพระจันทร์ และดวงดาว ในการทำหน้าที่ให้แสงสว่าง ส่องทางเดินที่ปลอดภัย และทิศทางที่สมควรเดิน

    พระจันทร์เป็นบริวารของพระอาทิตย์ พระจันทร์ก็หมุนรอบตัวเองเหมือนโลก และในขณะเดียวกันก็หมุนรอบดวงอาทิตย์ พระจันทร์จึงทำหน้าที่สะท้อนแสงสว่างจากดวงอาทิตย์สู่โลก เพราะพระจันทร์ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง เพียงแต่ทำหน้าที่สะท้อแสงสว่างจากพระอาทิตย์มาสู่โลกเท่านั้น. ดังนั้น พระจันทร์หรือจันทร์เต็มดวง จึงกำเนิดมาจากพระอาทิตย์ หรืออวตารมาจากพระอาทิตย์เท่านั้น เพื่อสะท้อนความเป็นจริงมาสู่โลกในแต่ละยุคสมัย

    บางทีเราก็เป็นกบในกะลา เรามองลอดรูกะลาเห็นแต่พระจันทร์ เราก็นึกว่าพระจันทร์ส่องสว่างที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระจันทร์เป็นเพียงสสารที่สะท้อนแสงสว่างของพระอาทิตย์หรือ SUN หรือแม่ผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่งทั้งปวงเท่านั้น

    ข้าพเจ้าจึงขอยืนยันคำเดิม ศาสดาของทุกศาสนาแม้แต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า มิได้เคยสั่งสอนให้ศิษย์ทั้งหลายยึดในตัวบุคคล หรือยึดในตัวตนของบุคคลผู้สอน เพียงแต่ให้ยึดในหลักธรรม หรือธรรมชาติที่ถูกต้องที่มีเหตุมีผลเท่านั้น

    คำสอนจากธรรมชาติให้อ่อนน้อมถ่อมตน การอ่อนน้อมถ่อมตนจะเกิดขึ้นได้จากการวางตัวตน และวางอัตตาของตัวเองลงเสีย ว่างเพราะวาง นขา โลมา ทันตา ตะโจ ท่องเพื่อตอกย้ำว่า ตัวเราก็แค่เท่านี้เอง เป็นเพียงแค่สิ่งจากธรรมชาติมาประกอบกันเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2018
  2. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    การอ่อนน้อมถ่อมตนจึงเป็นการเคารพต่อสิ่งที่เรานับถือ สิ่งที่ข้าพเจ้าทำ คือใจ

    แต่ฉันทำด้วยหัวใจ
    และทำทุกอย่างที่ความรักคอยสั่ง
    โปรดรับฟังด้วยหัวใจ
    และทำทุกอย่าง อย่างคนที่มีรัก
    แล้วเธอจะเข้าใจ..

    .
    ..
    ....
    คนที่ถูกลืม
     
  3. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    คนที่รักเราที่สุดก็คือบุคคลผู้ให้กำเนิด มารดา บิดา ในขณะเดียวกัน พระอาทิตย์ก็ให้กำเนิดฟ้าและดินที่เปรียบดังบิดาและมารดาของโลกมนุษย์ พระอาทิตย์หรือ SUN จึงไม่ต่างจากแม่ผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง ในขณะเดียวกันฟ้าและดินที่กำเนิดจาก Sun หรือพระอาทิตย์ ก็ทำหน้าที่เปรียบเสมือนและบิดาและมารดา ผู้ให้กำเนิดธรรมชาติทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำลำธาร ภูเขา ทุ่งหญ้ารวงข้าวป่าไม้ ลมเย็น และมอบไฟที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย (ดิน น้ำ ลม ไฟ) ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนดังผู้ให้กำเนิดที่เราควรจะต้องรำลึกถึงบุญคุณทั้งสิ้น แม้กระทั่งข้าว เนื้อสัตว์ น้ำ ยารักษาโรคที่ได้จากสมุนไพรทั้งปวง ล้วนเป็นสิ่งที่ให้กำเนิดพลังงานแก่ร่างกายของมนุษย์ทั้งสิ้น

    เหตุใดพระคริสต์จึงต้องกล่าวสวดขอบคุณอาหารทุกครั้ง มันเป็นสิ่งที่สมควรทำต่อผู้มีพระคุณ

    ทำไมศาสนาอิสลามจึงต้องสวด ขอบคุณพระเจ้าของเขา นั่นเป็นสิ่งที่สมควรทำ เพราะเขาเชื่อว่าพระเจ้าบันดาลทุกสรรพสิ่งที่มีประโยชน์ให้แก่พวกเขา

    เหตุใดเราจึงควรแผ่เมตตาให้สรรพสิ่งทั้งปวง นั่นเป็นสิ่งที่สมควรทำในการระลึกถึงบุญคุณให้กับสรรพสิ่งทั้งหลายที่เสียสละ และอุทิศร่างกายของพวกเขาในการดำรงชีวิตของเราทุกคน

    นี่คือการอ่อนน้อมถ่อมตน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2018
  4. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    และมันก็เป็นเรื่องที่น่าขำสิ้นดี ที่เราเข้าใจในแก่นของธรรมผิดเพี้ยนไป เราเอา ธรรมะ ที่ควรจะช่วยให้เรามีจิตใจที่อ่อนโยนลง เมตตามากขึ้น วางอัตตามากขึ้น หรือเห็นแก่ตัวน้อยลง เรากลับเอาเครื่องช่วยเหล่านั้นมากอดไว้ และยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งนั้นเป็นของของเรา เราถือคัมภีร์นั้นไว้โดยปราศจากความเข้าใจในแก่นแท้ของคัมภีร์นั้น ไม่เข้าใจแม้กระทั่งเป้าหมายของผู้ที่เขียนคัมภีร์นั้นขึ้นมา เราบอกเราจะไปนิพพาน ในขณะที่เรายังวางอัตตาไม่ได้ เรายังไม่เข้าใจถึงแก่นของธรรมชาติที่หมายถึงความรัก และสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน.

    เรากอดธรรมนั้นไว้ และละทิ้งผู้มีพระคุณ มันเป็นเรื่องช่างน่าขัน แต่มันก็สะท้อนความจริงยุคปัจจุบันนั้นเป็นอย่างดี

    ฝนตก เพราะฟ้าร้องไห้
    แผ่นดินไหว เพราะแผ่นดินร้องไห้
    พระอาทิตย์เริ่มเย็นลง เพราะไร้พลังความรัก

    มนุษย์มีหน้าที่ผลิตพลังงานที่บริสุทธิส่งคืนสู่ SUN
    พลังงาน ที่บริสุทธิ์ต้องเกิดจากความรักความศรัทธาที่แท้จริง ที่มีต่อธรรมชาติ หรือสรรพสิ่งทั้งปวง

    ร้องเพลง สรรเสริญพระเจ้า

    แผ่เมตตา ให้แก่สรรพสิ่งทั้งตัว

    ตามความเชื่อของแต่ละท่าน
    ตามหลักศาสนศาสตร์ของแต่ละบุคคล
    แต่ขอให้ทำด้วยใจ ด้วยความรัก ด้วยความศรัทธา
    ไม่ต้องรวบรวมศาสนา แต่ทุกศาสนาจะเป็นหนึ่งเดียวโดยอัตโนมัติ

    เมื่อนั้นฟ้าและดินจะหยุดร้องไห้
    พระอาทิตย์จะกลับมาฉายแสงอีกครั้ง

    ฟ้าและดิน จะได้กลับมาร้องเพลง เต้นรำไปด้วยกัน ภายใต้แสงอาทิตย์ SUN ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
     
  5. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ถึงแม้ little Duck จะยังไม่ได้เข้ามาที่กระทู้นี้ แต่ใจของข้าพเจ้าก็รับข้อความ ตลอดเวลา.

    ปิดกระทู้เพราะพลังงานเต็ม

    ส่วนการจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ SUN ☀
     
  6. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    Off and on.

    ใจสั่งมา
     
  7. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ผู้ที่ให้ท่านดำรงอยู่ ..... ท่านวสุ......จึงรักท่านมากที่สุด?

    2 การนอบน้อม ... การระลึกถึงผู้ที่มีคุณต่อท่าน(มนุษย์) ระลึกให้ถูก .... ที่ผ่านมา ท่านเห็นแต่ตัวบุคคลเป็นสำคัญ ... แต่ท่านมองผ่านอะไรไปหรือเปล่า .... ว่ามนุษย์มาจากไหน ใครดูแลเธออยู่ ....นอบน้อมให้ถูก เธอก็จะมีความถูกต้องเป็นลำดับ

    sun หรือ ฟ้าและดิน (ฟ้าอุ้มอากาศ ดินอุ้มน้ำ อากาศหรือน้ำให้เธอดำรงอยู่)
    หรือ
    ผู้ให้กำเนิดและผู้ดูแลมนุษย์

    แล้้วแต่เธอจะเลือก .... หรือ เอาทั้งหมด

    เพราะเป็นผู้มีคุณต่อเธอทั้งสิ้น และ มาจากที่เดียวกัน (เป็นคู่)

    sun ใช่ว่าจะมีมาเดียว .... มีคู่อยู่ภายใน แล้ว

    มีอยู่ 5 ข้อของการปฏิบัติ
    รู้คุณ สำนึกคุณ ตอบแทนคุณ ....

    นอบน้อมเข้าสู่ภายใน

    อนึง หากละเลย 5 ข้อ ไม่มีวันสำเร็จ

    ความดีก็ต้องทำ .... เพราะ เปรียบเสมือนการยกระดับตนเอง ... จะพัฒนาก็ต้องดูความดี ....เธอไม่ทำ มัวแต่นั่งเฉยๆ ชีวิตของเธอก็ไร้ค่า ... เธอยังมองตัวเองไร้ค่า ไร้ราคา ผู้อื่นก็มองเธอไร้ค่า ไร้ราคาเช่นกัน แล้วจะก้าวหน้าได้อยากไร?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2018
  8. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ฉันถาม .... นานมาแล้ว .... บางกระทู้ บอกว่าจะให้ยกระดับตนเอง เลื่อนระดับตนเอง และในนั่งทำ????? เปิดรับพลัง ....เธอว่านั่นคือสิ่งที่ถูกต้องไหม??

    ฉันจะบอกให้ ....ในมิติแสง ...มีอยู่ยุคหนึ่งที่ผู้คนหลงไหลในการสะสมพลัง สะสมแสง คิดว่าแสงคือหน่วยให้พลัง ... แต่ว่าเมื่อผู้คนในมิติทำนานขึ้น สภาพแวดล้อม ก็จะมืดลง มืดลงเรื่อยๆ

    ธรรมชาติ กับ มนุษย์ สัมพันธ์กัน ไม่ใช่ว่า เพราะถูกดูดพลัง แต่เป็นเพราะมนุษย์ .... เปลี่ยนแปลงไป มีภาวะมืดบอด เห็นแก่ตัว บ้าพลัง บ้าอำนาจ ....สิ่งแวดล้อมเหล่านั้นจึงกลายเป็นพิษต่อคนรุ่นหลัง...รุ่นหลังจึงได้รับอิทธิพลของสิ่งเหล่านั้นกลายเป็น มาร ปอบ พ่อมด แม่มด และพยายามดัดแปลงต่างๆ เพื่อความเป็นใหญ่ กลายพันธ์ เรื่อยมา นับแต่นั่นมา ธรรมชาติ ที่ให้ดำรงจึงผิดปกติ เรื่อยมา ... พวกที่ทำอะไรผิดปกติ จึงมีอำนาจ พวกที่มีอำนาจ (นักการเมือง เศรษฐี ) จึงเป็นพวกที่ผิดปกติ เพราะมันเอาพลังจากธรรมชาติ เพื่อความยิ่งใหญ่ของมัน เช่น พวก ยิว เป็นต้น ...พวกนี้ ไม่ใช่มนุษย์ .... เห็น ร่างเป็นมนุษย์ แต่ภายในที่ควบคุมไม่ใช่มนุษย์ ....ความสำคัญไม่ใช่ร่าง....แต่เป็นภายใน

    นี่ฉันยกตัวอย่าง .... ไม่ใช่มนุษย์ ทำไมจะไม่มีอยู่ใกล้เธอ
     
  9. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    สิ่งที่ตรงกันข้าม กับการเห็นแก่ตัว คือ การให้ ....ให้ด้วยใจ เพื่อให้ความขัดแย้งที่อยู่ตรงหน้า ...ปรับอยู่ในภาะที่สมดุล ให้หาย ให้จายคลายความขัดแย้ง ให้สะอาด ให้ราบเรียบลืนไหล....

    เช่น เห็นถนนเป็นหลุม .... เธอจะทำไง มองเห็นความขัดแย้งไหม

    เช่น เห็นผู้ที่เคยมีความดี มีความลำบากอยู่ มีความขัดแย้งไหม อาทิ ทหารผ่านศึกและพิการ

    เช่น เห็นผู้ที่ทำความดีอยู่ เพื่อเรา กำลังขาดแคลนบางสิ่ง ต้องการอุปกรณ์จำเป็นรักษาชีวิต เธอจะทำอย่างไร ..อาทิ ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามชายแดน เธอได้ทำอะไรบ้าง

    ทหารที่สละกาย สละเลือด สละแรงใจให้เธออยู่สบายตามชายแดน ........
    กับคนที่ นั่ง กิน นอน สวดมนต์ มีพร้อมทุกอย่าง...อย่างไหน มีความขัดแย้ง อย่างไหนมีความจำเป็น

    ความดี จะมี จะเต็ม จะพูนล้น อยู่ที่ความจำเป็นและเกิดประโยชน์ หรือ เพื่อขจัดความขัดแย้งที่ปรากฎ

    เพราะมนุษย์ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ

    มนุษย์ ที่ใดขัดแย้ง หมายถึง ... ธรรมชาติขัดแย้ง

    เธอช่วยมนุษย์ ด้วยกัน หมายถึง ช่วยธรรมชาติ ด้วย

    เธอช่วยธรรมชาติ อย่างไร.... ช่วยให้มนุษย์ดำรงอยู่ได้อย่างปกติ

    เช่น ภูเขาโล้น แห้งแล้ว เธออยู่ได้ไหม?

    มนุษย์อยู่ได้ไหม ? ทำไง เพื่อให้มนุษย์อยู่ได้?

    การดำรงอยู่ได้ ของมนุษย์ เดิมที่ ธรรมชาติจะสรรสร้างมาให้มนุษย์อยู่ได้

    เธอ จะกลับคืน ส่วนขัดแย้งของธรรมชาติ ส่วนที่ธรรมชาติบพร่อง นั่นคือ การทำให้มนุษย์สามารถดำรงอยู่ได้

    สรุป ...ความดีคืออะไร ? รู้แล้วยัง

    ความดีของเธอ คือ .... เอาเงินไปให้พระ

    เอาเงินไปให้อรหันต์ เพื่อที่เธอจะได้ดี

    แจ่มเลย .... พวกเดียวกันย่อม สนับสนุนกัน

    พวกไหน รู้ไหม ? พวกมืด พวกตาบอด พวกสะสมพลัง เห็นแก่ตัว ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2018
  10. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ฉันจะให้เธอมอง ....อะไร?

    วัตรในหมู่คณะของ นักบวช เขากำหนดขึ้นมาเพราะอะไร? เธอเคยอ่านที่มวของวัตรเหล่านั้นไหม (ศีล จำนวนมาก)

    เหตุหนึ่งคือ ความเป็นระเบียบเรียบร้อย เหตุอีกหนึ่งเพื่อการขจัดความขัดแย้ง เหตุอีกหนึ่งเพื่อความมั่นคงสถาพรของสถานะของสถาบัน ....

    ความดี ที่ฉันเล่า กระทู้ข้างต้น ... เป็นเรื่องของการขจัดความขัดแย้ง .....

    แต่ยังมีความดีอีกอย่างคือ การสร้างความเจริญแก่มวลมนุษย์ อย่างมั่นคง สถาพร ถูกต้องไม่เบียดเบียนธรรมชาติ (รวมถึงมนุษย์)

    เธอมองเห็นอะไรไหม เมื่อเธอเป็นคนที่นิยมสร้างความดี นั่นหมายถึง เธอเป็นคนที่มีศีล

    ความดี และ ศีล คือ ตัวเดียวกัน
    หนึ่ง ทำให้เกิดความเจริญ
    อีกหนึ่ง ทำให้ความขัดแย้งหายไป
    อีกหนึ่ง มีความมั่นคง สถาพร และ ความเป็นระเบียบหนึ่งเดียวกัน

    ศีลคือความดี .... ที่มนุษย์ควรทำ ควรทำให้เป็นประจำ

    ศีล ... เป้าประสงค์ของศีล เป็นเรื่องของมนุษย์ที่แต่งขึ้นมา เป็น AI ของมนุษย์ แล้วก็หลงประดิษฐ์ จนลืมหูลืมตา กลายเป็นสิ่งที่วัดระดับของตนเอง

    กลายเป็นเรื่องยกตนให้สูง

    ความดี ต่างหากที่เป็นตัววัดระดับของเธอ

    สรุป เธอมีความดี ทำความดี นั่นคือศีลของเธอ

    ฉันไม่มีกระบวนท่าให้เธอ เกี่ยวกับศีล ดอกเธอไปหาความดี หาศีลของเธอเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2018
  11. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    หลับตาฟัง ได้ความรู้สึกมากๆค่ะ. ขอบคุณ คุณวสุธรรมสำหรับบทเพลงเพราะๆ และมีความหมายค่ะ
     
  12. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เหมือนจักรวาลมาเองนะเนี่ย ขอขอบคุณต่อสายลมที่หวังดี

    WIND OF CHANGE

    สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง
     
  13. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เรียนคุณ 999phudit

    ขอคำขยายความ. ศรีอริย

    ขอบคุณค่ะ
     
  14. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ต้องการเข้าใจเพื่อ?

    ความแตกต่าง ระหว่าง อรหันต์ กับ อริย

    1. ระดับความเข้าใจในธรรมชาติแตกต่างกัน
    อริย สูง กว่า อรหันต์ แต่ไม่เทียบเท่าพุทธ
    2 อริย คือผู้ที่เข้าถึง เข้าใจ พัฒนาในธรรม ธรรมชาติ และธรรมชาติของตน ยิ่งกว่าอรหันต์ ยิ่งกว่าอย่างไร อ่านข้อ 3, 4
    3. อริย คือผู้ที่ดำรงเป็น ฆราวาส ดำรงอยุ่อย่างปกติ ภายใต้แวดล้อมดีและไม่ดี แตกต่าง จากนักบวช จะเลือกเฉพาะแวดล้อมที่ปรุงแต่งให้เหมาะสม
    4 การปฏิบัติ ของศรีอริย คือ แนวทางการชำระตน ชำระธรรมชาติของตนให้บริสุทธิ์ แล้วจึงส่งคืนแก่ธรรมชาติ หมดหน้าที่ดูแล (ใคร?... ตัวตนแท้หมดหน้าที่)
    แต่การชำระ(หลุดพ้น)ของอรหันต์ คือการผละ(หลุด)ตนเองออกจากธรรมชาติ ส่งคืนธรรมชาติหรือไม่ คิดเอาเอง หากเขาเหล่านั้นนอบน้อมธรรมชาติก็ดีไป (หยุดทำหน้าที่ไปเฉยๆ เข้าสู่นิพพาน)

    บอกแล้วว่่า นิพพาน คือ วัด ดีๆ นี่เองที่มีกรอบ มีกฎ มีระเบียบ ... คนธรรมดาเข้าไปอาศัยประจำอยู่ไม่ได้ คนที่จะอยู่ได้คือบวช ในรูปแบบเดียวกันเท่านั้น ... นี่คือวัด

    แล้วนิพพาน ก็ไม่ต่างอะไร

    คนธรรมดาที่ปกติ อยู่ไหนกัน ก็ไปอยู่กับธรรมชาติ ...... ธรรมชาติ กับ มนุษย์สัมพันธ์กัน

    แล้วที่แยกออกไป เป็นวัด คือ แยกออกจากธรรมชาติ แยกออกจากการเป็นมนุษย์

    แยกออกไปสูงส่งไปแล้ว ไม่ใช่ ธรรมดาไปแล้ว

    การเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาตนเอง จะอยู่ในระดับใด เล่า เพราะ แยกออกจากธรรมชาติไปแล้ว สูงส่งยิ่งกว่าธรรมชาติไปแล้ว (เข้าใจเอาเอง กระมังว่า สูงแล้ว)

    ศรี ... คือ ผู้นำ และ ไม่มีผู้นำ คนที่ สอง ....ในห้วงเวลาเดียวกัน(ยุคสมัย)


    หมายเหตุ มนุษย์ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ....พูดถึงธรรมชาติ ส่วนใหญ่แกนหลักคือ มนุษย์ หากเธอจะดำรงอยู่ เหนือมนุษย์ หมายความว่าต้องการอยู่เหนือธรรมชาติ

    คนที่มีความคิดอยู่เหนือ ธรรมขาติ ก็ต้องการแยกตัวเองออกจากธรรมชาติ
    คนที่มีนิสัยแบบนี้เรียกว่า เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง

    คือแยกตัวเองออกจากธรรมชาติ ยกตัวเองเหนือมนุษย์ แต่ยังอาศัยทรัพยากรจากธรรมชาติ ดำรงอยู่ นั่นแล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2018
  15. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ..ทำไมจึงแยกตัวเองออกจากธรรมชาติ ? รู้มั๊ย ? เธอว่าไง ?

    เพราะคิดว่า ธรรมชาติ ... การเป็นมนุษย์ ทำให้เกิดทุกข์ การเป็นมนุษย์ต้องมีป่วย

    และคิดว่าเป็นของปกติว่า มนุษย์ต้องมีป่วย มีทุกข์ ....

    แต่ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงทำไม มนุษย์ ต้องทุกข์ ต้องป่วย .... กับไปคิดเอาเองว่า เพราะมนุษย์ ยึดมั่นถือมั่น .... และปล่อยวางจึงจะหาย ...
    และพยายามที่จะหลุดออกจากพันธนาการ

    แต่ความจริงคืออะไร .... ความจริงคือการเบียดเบียนของพวกไม่ใช่มนุษย์ มันเบียดเบียน มันครอบงำ ให้เธอคิด ....

    แล้วไง ล่ะ.... เธอคิดว่า หลุดพ้นแล้วไม่ได้เกิดอีกหรือไง ....

    โดยธรรมชาติ ตัวตนแท้ ก็ไม่ได้เกิดอยู่แล้ว
    โดยธรรมชาติ ตัวตนแท้ ก็เป็นอมตะ อยู่แล้ว
    (แต่จะอมตะ แบบไหน ก็แล้วแต่ ภาวะความดีเลวของเธอ)

    ที่มีเกิดใหม่คือ เธอทำไม่สมบูรณ์ จึงมาเกิดใหม่ ส่งคืนธรรมชาติ ไม่สมบูรณ์ ไม่นอบน้อมธรรมชาติ ก็มาเกิดใหม่ อยู่แล้ว ....(แต่ไม่ใช่เธอ เป็นหน่วยแยกจากเธอมาทำหน้าที่ ให้สมบูรณ์ อีกนัยคือลูกหลานเธอ)

    หน่วยของพุทธะ ยังมีมาเกิดใหม่เลย .... อยากรู้ก็ถามธรรมชาติ ดูสิ ... ฉันก็ได้คุยแล้ว.... ใครที่ชื่อโจซัน ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2018
  16. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    เมื่อเธอเห็นผิดตั้งแต่ต้น เป็นหนึ่ง

    สอง สาม ไม่ต้องไม่พูดถึงเลย

    หากเธอมองว่า ธรรมชาติ การเป็นมนุษย์

    คือความทุกข์ เป็นป่วย ต้องการหลุดพ้นทุกข์

    ไม่ต้องการป่วย .... นี่หมายความว่า ยังไม่รู้ความจริง เพราะว่า คิดว่า การป่วยคือ ธรรมดา ปกติ ของมนุษย์ จึงอยากจะหลุดพ้น

    หาวิธีการหลุดพ้น

    เอาให้ดูสิ ว่า การนับหนึ่งของ เธอ ถูกไหม
     
  17. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ธรรมชาติ มีกฎ (ผู้ดูแลฯ)
    มนุษย์ มีกฎ (ผู้ดูแลฯ)

    แล้วเธอจะหลุดพ้น คือ ตั้งตนเองเป็นใหญ๋ เสียเอง ตั้งกฎเสียเอง

    ทำตนเองห่างออกจากธรรมชาติ
    และเป็นยิ่งใหญ่กว่าธรรมชาติ ....

    เธอจะไปได้เรื่องอะไรที่ถูกต้องเล่า ?
     
  18. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    แวดล้อมที่ทำให้เธอดำรงอยู่ เธอ(มนุษย์เห็นผิด) เธอยังไม่ใส่ใจจะ ระลึกคุณเลย

    มิติที่เธอตั้งเอาเอง มิติที่เธอวาดเสียสวยหรู มันจะเป็นอย่างไรล่ะ ?

    แวดล้อมของมนุษย์ให้ดำรงมีอะไร? .... ฟ้า ดิน ดวงอาทิตย์

    สิ่งที่ผลิต ก็รักษา ให้ดี อย่าให้ชำรุด รักและปฏิบัติตนให้ดี ไม่เบียดเบียนตน

    ผม ขน หนัง เล็บ ... นั่นเป็นเรื่องจิ๊บ... ยังมีอีกเยอะที่ไม่รู้ ... ไฟฟ้า แม่เหล็ก

    สนามแม่เหล็ก

    ไม่ระลึกล่ะ ... ความจริง มันมีด้วย ...

    มนุษย์ซับซ้อนยิ่งนัก ... หลากหลายมิติ

    ระลึกคุณ ที่เห็นชัดๆ ภาพรวม ดีกว่ามั๊ย ....

    เด็กเล็ก ปกติ ก็จะดูและมองหาแต่ พ่อ และ แม่

    ไม่ได้มองตนเองหรอก...จะเป็นอะไร? อย่างไร?

    เมื่อมองหา พ่อ และ แม่ เรียกหา พ่อ และ แม่ก็จะมาหา....

    ช่วยดูแล ....

    เธอเป็นเด็กเสมอ ...

    มีแต่เด็กอวดดี อวดเก่ง เท่านั้นที่ไม่สนใจพ่อแม่ ไม่สนใจคนเลี้ยงดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2018
  19. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    หน้าที่ของมนุษย์ คือ ทำความดี

    ความดี จะทำให้โลกมนุษย์อยู่ได้
    1. มีความสามัคคี สงบ
    2. ไม่มีความขัดแย้ง (ความดี ส่วนหนึ่งคือการขจัดความขัดแย้ง
    3 .มีการพัฒนาเจริญ รุ่งเรือง ภายในใจ

    ใจที่งดงาม ใจอ่อนน้อม มีน้ำใจ
    เหล่านี้มีมาก ก็จะทำให้ 1-3 ข้อปรากฎขึ้นเอง

    1-3 คือ อะไร .... ไม่ต้องกำหนดวัตรหรือศีล ขึ้นมา เพราะ1-3 จะกลายเป็นศีล เอง มีระเบียบ มีความเรียบร้อย เกิดขึ้นเอง

    ความดี คือ ศีลของมวลมนุษย์ ข้อเดียว ...ทำความดี
     
  20. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ศีล คือ ฐานของสมาธิ และ ปัญญาเกิด(อันนี่ที่เธอท่องกันใช่ไหม)

    ความดี คือ ฐานของสมาธิ และปัญญาเกิด

    ความดี หรือข้อวัตร อย่างไหนคือสิ่งถูกต้อง

    ไตร่ตรองเอาเอง

    สร้างความดี ทำความดี หมายถึง ใจ เป็นคนอย่างไร? แล้วจะส่งผลต่อสมาธิไหมหนอ?
    แล้วจะส่งผลให้เกิดปัญญาไหมหนอ?
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...