คลังเรื่องเด่น
-
เสียงธรรม วีดิโอประวัติหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
เดือนกรกฏาคม ตรงกับวันเกิดและวันมรณะภาพของหลวงพ่อปาน
จึงขอนำประวัติของท่านมานำเสนอ เพื่อน้อมระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่
ที่มีต่อพระพุทธศาสนา, ศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไป
ประวัติหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค บูรพาจารย์หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง - PaLungJit.com -
อารมณ์ฌานโลกุตตระ : พระราชพรหมยาน
วันนี้ก็จะพูดถึง ฌานโลกุตตระ
โลกุตตระ หมายความว่า ความเป็นพระอริยเจ้า สำหรับพระอริยเจ้า 2 ขั้น คือ พระโสดาบันกับพระสกิทาคา ทั้ง 2 ท่านนี่ พระพุทธเจ้าตรัสว่า
เป็นผู้มีปัญญาเล็กน้อย แล้วก็มีสมาธิเล็กน้อย แต่เป็นผู้มั่นอยู่ในศีล เป็นผู้ทรงอธิศีล
คำว่า อธิ นี่แปลว่า ยิ่ง หรือว่า ใหญ่ หรือว่าทับทรงอธิศีล ก็หมายความว่า ทรงศีลอย่างยิ่ง ที่ยอมตัวตายดีกว่าศีลขาด หรือ สำหรับพระโสดาบัน มีอะไรบ้าง
ถ้าว่ากันตาม สังโยชน์ ก็คือ
1. สักกายทิฏฐิ
2. วิจิกิจฉา
3. สีลัพพตปรามาส
พระสกิทาคามี ก็มีเท่ากัน สำหรับปัญญาในด้านสักกายทิฏฐิ เห็นไม่ลึก ยังเห็นตื้น ๆ นั่นก็คือว่ามีความรู้สึกอยู่อย่างเดียวว่า การเกิดเป็นทุกข์ การทรงชีวิตอยู่นี่มันเป็นทุกข์ และในที่สุดชีวิตของเราก็จะต้องตาย ท่านที่เป็นพระโสดาบัน ท่านไม่ลืมความตาย แต่ไม่ใช่ว่านึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออกอย่างที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสถามพระอานนท์ว่าอานันทะ ดูก่อนอานนท์ เธอนึกถึงความตายวันละกี่ครั้ง
พระอานนท์ก็ตอบว่า วันละประมาณ 7 ครั้ง พระพุทธเจ้าข้า พระพุทธเจ้าตรัสว่า
ยังห่างมากอานนท์ ตถาคตนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก... -
เสียงธรรม “กฐิน”ความสามัคคีของคนที่เจริญ
“กฐิน”ความสามัคคีของคนที่เจริญ
พระพรหมคุณาภรณ์
(ป.อ. ปยุตฺโต)
นามเดิม ประยุทธ์ อารยางกูร เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มกราคม ๒๔๘๑ ณ ตลาดศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๒ ปี ที่วัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ และอุปสมบทในพระบรมราชานุเคราะห์(นาคหลวง) ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ ๒๔ ก.ค. ๒๕๐๔ สำเร็จการศึกษาชั้น น.ธ.เอก ป.ธ.๙ (ขณะเป็นสามเณร) และพุทธศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ ๑)
ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม
ผลงานอันเลื่องชื่อที่ท่านมอบไว้เป็นมรดกแก่ชาวโลกคือ หนังสือ "พุทธธรรม" และงานนิพนธ์อันทรงคุณค่าอีกไม่ต่ำกว่า ๓๕๐ เล่ม พ.ศ. ๒๕๓๗ องค์การยูเนสโกได้น้อมถวายรางวัล การศึกษาเพื่อสันติภาพ แก่พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) ซึ่งท่านเป็นคนไทยคนแรกและคนเอเชียคนที่ ๑๔ ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติยิ่งนี้ -
แผ่เมตตา จัดเป็นคุรุกรรมกุศล(กรรมหนักฝ่ายบุญ) หมั่นกระทำย่อมส่งผลเร็วให้ผลก่อน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
หากปรารถนาสุขให้เข้าฌาณ 4
ปรารถนาผิวพรรณดีให้รักษาศีล
ปรารถนาโภคะให้เธอเจริญเมตตา
๑. ให้ทานกับสัตว์เดียรฉาน ๑๐๐ ครั้ง เท่ากับให้ทานกับมนุษย์ชั้นเลวไม่มีคุณธรรม ๑ ครั้ง
๒. ให้ทานแก่มนุษย์ชั้นเลว ๑๐๐ ครั้ง เท่ากับให้ทานแก่มนุษย์ที่รักษาศีลห้า ๑ ข้อ ๑ คน
๓. ให้ทานแก่มนุษย์มีศีล ๑ ข้อ ๑๐๐ คน เท่ากับให้ทานกับมนุษย์ที่รักษาศีลห้า ๒ ข้อ ๑ คน
๔. ให้ทานกับมนุษย์มีศีลห้า ๒ ข้อ ๑๐๐ คน เท่ากับให้ทานกับมนุษย์รักษาศีลห้า๓ ข้อ ๑ คน
๕. ให้ทานกับมนุษย์ที่มีศีลห้า ๓ ข้อ ๑๐๐ คน เท่ากับให้ทานกับมนุษย์ที่รักษาศีลห้า ๔ ข้อ ๑ คน
๖. ให้ทานกับมนุษย์ที่มีศีลห้า ๔ ข้อ ๑๐๐ คน เท่ากับให้ทานกับมนุษย์ที่รักษาศีลห้า ๕ ข้อ ๑ คน
๗. ให้ทานกับมนุษย์มีศีลห้า ๕ ข้อ ๑๐๐ คน เท่ากับให้ทานกับ พระโสดาบัน ๑ องค์
๘. ให้ทานกับพระโสดาบัน ๑๐๐ องค์ เท่ากับให้ทานกับ พระสกทาคามี ๑ องค์
๙. ให้ทานกับพระสกทาคามี ๑๐๐ องค์ เท่ากับให้ทานกับ พระอนาคามี ๑ องค์
๑๐. ให้ทานกับ พระอนาคามี ๑๐๐ องค์ เท่ากับถวายทานกับ พระอรหันต์ขีณาสพ ๑ องค์
๑๑. ถวายทานกับ พระอรหันต์ขีณาสพ ๑๐๐ องค์ เท่ากับถวายทานกับพระปัจเจกพุทธเจ้า ๑... -
"พระพุทธรูปสำคัญ ๆ ก็มีเทวดารักษาทั้งนั้นแหละ" โดยหลวงพ่อจรัญ
"พระพุทธรูปสำคัญ ๆ ก็มีเทวดารักษาทั้งนั้นแหละ" โดยหลวงพ่อจรัญ
“หลวงพ่อครับ กระผมอยากทราบความคิดเห็นของหลวงพ่อที่มีต่อเทวดาที่ เขาสวดชุมนุมเทวดานั้น จะมีจริงหรือไม่”
หลวงพ่อจรัญท่านตอบในทันทีว่า “อาตมาเชื่อ ทำไมจึงเชื่อ อาตมาจะเล่าให้ฟัง”
แต่เดิมนั้นอาตมาไม่เคยเชื่อเรื่องเทวดา เพราะอาตมาไม่เคยสัมผัสนี่ แล้วอาตมาจะไปเชื่ออย่างไร ในเมื่อแม่ชีก้อนทอง ปานเณร อายุ ๘๗ ปี มาบอกกับอาตมาว่า เทวดามาสอนสวดมนต์
แม่ชีมาเรียนกรรมฐาน อาตมาสอนให้เดินจงกรม ให้พิจารณาเห็นหนอ แต่แม่ชีเดินจงกรมแล้วไปคิดถึงเทวดา ไปเพ่งเทวดาเข้า เทวดาก็มา แกก็เก็บเงียบไว้ แต่แล้วในที่สุดแกก็เก็บไม่ไหวต้องการให้มีใครสักคนได้รับรู้เอาไว้ แกจึงมาบอกอาตมาว่า
“หลวงพ่อ ดิฉันเห็นเทวดาเจ้าค่ะ มาสอนสวดมนต์ให้ด้วยเจ้าค่ะ”
“เทวดาที่ไหนกับแม่ชีเอ๊ย อาตมาไม่เชื่อหรอก”
แต่แม่ชีก็ว่าไม่ได้โกหก อาตมาถามว่า “เทวดามาตอนไหนเล่า” แม่ชีบอกว่า
“พอดิฉันได้ยินนาฬิกาตี ๑๒ เป็นเวลาเที่ยงคืนเทวดาก็ปรากฏให้ดิฉันเห็นไม่ได้มาเ ปล่านะคะ มาสอนให้ดิฉันสวดมนต์บทเมตตาใหญ่ ดิฉันจึงสวดได้”
อาตมาก็บอกให้แม่ชีไปถามเทวดาว่าอยู่ที่ไหน... -
เสียงธรรม “อานุภาพพลังจิต ”
“อานุภาพพลังจิต ”
ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา -
เสียงธรรม “คำอธิบายวิถีกรรมในเชิงวิทยาศาสตร์”
“คำอธิบายวิถีกรรมในเชิงวิทยาศาสตร์”
ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา -
“ในหลวง ร.๙”ทรงสอน“พุทธศาสนานี้..ปฏิบัติที่ไหน..ปฏิบัติอย่างไร”
“ในหลวง ( ร.๙ ) ” ทรงสอน “พุทธศาสนานี้ ปฏิบัติที่ไหน ปฏิบัติอย่างไร”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระราชศรัทธาปสาทะอันแน่วแน่มั่นคงในบวรพุทธศาสนา
โดยได้เสด็จออกทรงพระผนวช
ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม-5 พฤศจิกายน พ.ศ.2499
ในระหว่างนั้นได้ทรง ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย
อย่างเคร่งครัด ดังที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงเล่าถึงพระราชจริยวัตร
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะทรงพระผนวชว่า
ภาพนี้ปลื้มพระองค์ท่านที่สุด ^_^
“...พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จะได้ทรงพระผนวชตามราชประเพณีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหามิได้
แต่ทรงพระผนวชด้วยพระราชศรัทธา
ที่ตั้งมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
มิได้เป็นบุคคลจำพวกที่เรียกว่า “หัวใหม่” ไม่เห็นศาสนาเป็นสำคัญ
แต่ได้ทรงเห็นคุณค่าของพระศาสนา
ฉะนั้น ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาสามัญก็กล่าวได้ว่า “บวชด้วยศรัทธา”
เพราะทรงผนวชด้วยพระราชศรัทธา ประกอบด้วยพระปัญญา
และได้ทรงปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด...”
และสมเด็จพระสังฆราช ยังได้ทรงกล่าวถึงพระราชจริยวัตร
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในทางพุทธศาสนา ว่า... -
เสียงธรรม ตามรอยธรรม“ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ “( MP3 )
ตามรอยธรรม“ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ “
ให้เสียงโดย พ.ท.ธนกร เฟื่องฟุ้ง
up ใหม่ 3ไฟล์นะคะเนื่องจากไฟล์โหลดไม่สมบูรณ์ ขอโทษมากๆเลย ลืมดู รีบด้วยอ่ะตอนนั้น
mp3_095_1.mp3 ~>ประวัติหลวงปู่ดู่
mp3_095_2.mp3 ~>ตามรอยธรรมหลวงปู่ดู่ ๑
mp3_095_3.mp3 ~>ตามรอยธรรมหลวงปู่ดู่ ๒ (upให้ใหม่แล้ว)
mp3_095_4.mp3 ~>ตามรอยธรรมหลวงปู่ดู่ ๓
mp3_095_5.mp3 ~>ตามรอยธรรมหลวงปู่ดู่ ๔ (upให้ใหม่แล้ว)
mp3_095_6.mp3 ~>ตามรอยธรรมหลวงปู่ดู่ ๕ (upให้ใหม่แล้ว)
mp3_095_7.mp3 ~>ตามรอยธรรมหลวงปู่ดู่ ๖
mp3_095_8.mp3 ~>ตามรอยธรรมหลวงปู่ดู่ ๗
............. -
เสียงธรรม พระอริยะมองร่างกายอย่างไร, วิธีคิดเรื่องร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของของเรา
ท่านจิตโต เทศน์ที่บ้านตลิ่งชัน
เทศน์เรื่อง พระอริยะมองร่างกายอย่างไร
เทศน์เรื่อง วิธีคิดเรื่องร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของของเรา
เทศน์เรื่อง ร่างกายเป็นเครื่องกั้นความดี เพราะทำให้เกิดนิวรณ์
tamma.homeip.net -- เพื่อเผยแพร่พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า -
ผลกรรมผู้หญิงแต่งกายไม่สำรวมเข้าวัด
ผู้หญิงเข้าวัดแต่แต่งตัวไม่สำรวม
ผู้หญิงที่เข้าวัดแต่แต่งตัวไม่สำรวมอวดเนื้อหนังให้พระหวั่นไหวต่อไปจะได้รับ
ผลกรรมอย่างไร...?
ขอบเขตของคำถามที่ว่า ‘แต่งกายไม่สำรวม’ เข้าวัดนั้น อาจทำให้เพ่งโทษคับแคบ ต้องค่อยๆ
มองให้คลุมข้อเท็จจริงตามลำดับครับ
โดยความเป็นเพศหญิง มีธรรมชาติดึงดูดใจ หรือล่อตาอยู่ในตัวเองเดินๆไปถ้าเป็นที่สนใจได้ก็ถือว่ามีรูปสมบัติอันพึงมีสมเพศตนถ้าวันไหนแต่งองค์ทรงเครื่องได้ถึงขนาดชายหญิงมองเหลียวหลังกันทั่วทุกหัวระแหงก็จะยิ่งภาคภูมิเต็มอิ่มประมาณเดียวกับที่นักวิ่งเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรกทีเดียว
ฉะนั้นผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาดีเกือบทุกคนจึงอดไม่ได้กับการอยากทดสอบเสน่ห์ของตนแล้ว
อะไรจะเป็นเครื่องทดสอบได้ดีไปกว่าผู้ประกาศตนว่าสละเรื่องทางเพศแล้วไม่สนใจเพศหญิงอีกแล้ว
สมัยนี้พระทั่วไปไม่ใช่เครื่องทดสอบที่น่าท้าทายอะไรนักเนื่องจากข่าวฉาวที่ประดังเข้าหูเข้าตาผ่านหน้าหนังสือพิมพ์แทบไม่เว้นแต่ละวันทำให้ผู้หญิงยุคใหม่มองพระไม่ต่างจากชายนุ่งกางเกงนอกวัดทั้งหลายหากทำให้สนใจได้ยังไม่ถือว่าแน่อะไรนัก... -
บุพกรรมของคน ๓ คน
ท่าน สาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย ลำดับต่อไปนี้อาตมภาพจะได้นำพระสูตรเนื่องด้วยกฎของกรรมมาแสดงแก่บรรดาท่าน พุทธบริษัท ทั้งนี้ก็เพราะว่ามีบรรดาประชาชนทั้งหลายสงสัยกฎของกรรมเป็นอันมาก มักจะมีบุคคลทั้งหลายมาถามว่า ชาตินี้ไม่ได้ทำความชั่วอะไร ทำแต่ความดีทุกอย่าง บุญก็ทำ กรรมก็สร้าง
หมายถึงบุญกุศลก็ทำ พระธรรมเทศนาก็ฟังและการปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระชินวรบ รมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทำ เมื่อทำแล้วทุกอย่างในด้านของความดีที่องค์สมเด็จพระชินศรีทรงสรรเสริญ แต่ก็กลับถูกกรรมชั่วสนองให้เกิดทุกข์อย่างนี้เป็นปัจจัยให้เกิดความสงสัย ว่าการทำบุญในศาสนาขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาไม่มีผล
เพื่อจะ เปลื้องความสงสัยของบรรดาพุทธศาสนิกชน จึงได้ขอนำพระสูตรที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้มาให้บรรดาท่าน พุทธบริษัทได้สดับ สำหรับตอนนี้ขอนำเรื่องของคน ๓ คน ที่มีกรรมตามสนองเป็นกรรมจากชาติก่อน มาแสดงแก่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย
ความตามพระบาลีมีอยู่ว่า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภคน ๓ คน จึงได้แสดงพระธรรมเทศนานี้ความว่า น อนฺตลิกฺเข สมุทฺทมชฺเฌ... -
ขั้นตอนการไปพระนิพพาน
ขั้นตอนการไปพระนิพพาน โดย พระราชพรหมยาน หลวงพ่อวัดท่าซุง
ทรงความดี
1) ถ้าเราจะเป็นคนดี เราทำอย่างไร
อันดับแรก จิตจับ พรหมวิหาร 4 ไว้ก่อน คำว่า พรหมวิหาร 4 นี่ให้รักษาตามกำลัง ค่อย ๆ รักษาเรื่อย ๆ ไปจนมีกำลังเข้มข้นมาก เพราะว่า พรหมวิหาร 4 นี่เป็นศูนย์กลางของความดี คนที่มีพรหมวิหาร 4 อยู่นี่จะมีสมาธิดีเป็นปกติ
ศีล บริสุทธิ์ต้อง พรหมวิหาร 4
สมาธิ จะทรงตัวตั้งมั่นเพราะ พรหมวิหาร 4
ปัญญา กับ วิปัสสนาญาณ จะเข้มข้น ตัดกิเลสได้ง่ายเพราะ พรหมวิหาร 4
พรหมวิหาร 4 มีอะไร ที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำว่า เมื่อตื่นขึ้นตอนเช้า จิตใจคิดไว้เสมอ คิดว่าเราจะเป็นมิตรที่ดีของคนและสัตว์ทั่วโลก เราจะไม่เป็นศัตรูกับใคร จะไม่มีเวรมีภัยกับใคร นึกไปถึงคนต่าง ๆ ในโลก ว่าทุกคนก็ต้องการความสุข และทุกคนก็ต้องการความรัก เราจะรักเราจะสงสารคนทุกคนในโลก และสัตว์ทุกตัวในโลก
ถ้าท่านผู้ใดมีทุกข์ ถ้าไม่เป็นเหตุเกินวิสัยเราที่จะช่วยได้ เราจะช่วยให้เขามีความสุขมีจิตอ่อนโยนไม่อิจฉาริษยาใคร เมื่อใครได้ดีจะพลอยยินดีด้วย จิตจะเป็นสุขถ้าเกิดอะไรขึ้นมันเป็นเหตุสุดวิสัยที่เราจะสงเคราะห์ได้ หรือแก้ไขได้ เราจะวางเฉย... -
บัญชีนิพพาน สิ่งที่หลวงพ่อฤาษีไม่เคยรู้มาก่อน
วันนี้แปลกท่านพระยายมก็ดี นายบัญชีก็ดี ท่านมา
แต่งเต็มอัตราเลย ก่อนท่านมาขนลุกซู่ทั้งตัว
หลังจากนั้นแล้ว ก็เห็นนายบัญชีท่าน ก็เลยถามท่านว่า
"คนที่เจริญกรรมฐานนี่จะมีผลอันดับสูงสุดสักกี่คน?"
ท่านบอกว่า "นี่ท่านถามนิพพานใช่ไหม?"
บอก "ใช่" ท่านก็บอกว่า "บัญชีนิพพานไม่ได้อยู่
ที่ผม บัญชีมี ๓ บัญชี" เพิ่งรู้วันนี้ คือว่า
๑. บัญชีขึ้นๆ ลงๆ ได้แก่ นายบัญชีใหญ่ อยู่ที่พระยายม
ไปนรกก็ได้ ไปสวรรค์ก็ได้ ไปพรหมก็ได้ ใครจะ
ไปพรหมท่านก็รู้ พรหมโลกีย์นะ ผู้ทรงฌานโลกีย์
จะไปสวรรค์ท่านก็รู้ จะไปนรกท่านก็รู้ บัญชีเขามี
๒. บัญชีสวรรค์กับพรหมโดยเฉพาะ อยู่ที่ท่าน
ปัญจสิกขเทพบุตร เลขาพระอินทร์
๓. บัญชีนิพพาน อยู่ที่ท่านท้าวสหัมบดีพรหม
ท่านบอกว่า ถ้าบัญชีพระอริยเจ้าเบื้องสูง ต้องที่ผม
ใครจะไปนิพพานหรือไม่ อยู่บัญชีนั้น และใครที่เป็น
พระอริยเจ้าเบื้องสูงอยู่ในบัญชีนั้น
ความจริงเพิ่งรู้เหมือนกัน ไม่ใช่เห็นมาก่อน คือวันนี้แปลก
พระยายมก็ดี นายบัญชีก็ดี ท่านมาเต็มอัตราแต่งเต็มอัตราเลย
คือเครื่องแบบของเทวดากับพรหมมี ๓ ประเภทคือ
๑. ปล่อยตัวเหมือนกับมนุษย์ นุ่งกางเกงใส่เสื้อธรรมดา
บางทีก็ลืมใส่เสื้อบ้าง... -
เสียงธรรม อาฏานาฏิยะปะริตตัง
ตำนานพระปริตร : อาฏานาฏิยปริตร
บทขัดอาฏานาฏิยปริตร
องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาค ผู้เป็นมหาวีรบุรุษ ทรงแสดงพระปริตรใด เพื่อคุ้มกันพุทธบริษัททั้ง ๔ มิให้ถูกเบียดเบียน จากอมนุษย์ทั้งหลาย ที่ดุร้ายสันดานหยาบช้า ไม่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ซึ่งบัณฑิตทั้งหลายรับรองแล้วว่า เป็นศาสนาดีทุกเมื่อ ท่านผู้เจริญทั้งหลายพึงสวดพระปริตรนั้นเทอญ
ตำนาน
สมัยหนึ่งสมเด็จ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเสด็จประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฎบรรพต ใกล้กรุงราชคฤห์มหานคร ในครั้งนั้น ท้าวจาตุมมหาราชทั้ง ๔ ซึ่งสถิตย์อยู่เหนือยอดเขายุคันธร ที่เรียกว่าชั้นจาตุมหาราชิกา อันเป็นชั้นต่ำกว่า สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงมาซึ่งเป็นที่สถิตย์ขององค์อินทราธิราช
พระอินทร์ ทรงมีเทวะพระบัญชาให้มหาราชทั้ง ๔ ทำหน้าที่เฝ้ารักษาประตูสวรรค์ในทิศทั้ง ๔ เพื่อป้องกันมิให้พวกอสูรมารบกวน โดยมี
ท้าวธตรฐ ผู้เป็นเจ้าแห่งพวกคนธรรพ์ รักษาทิศบูรพา
ท้าววิรุฬหก เป็นเจ้าแห่งกุมภัณฑ์ รักษาทิศทักษิณ
ท้าววิรูปักษ์ เป็นเจ้าแห่งนาคทั้งปวง รักษาทิศปัจจิมท้าวเวสวัน เป็นเจ้าแห่งยักษ์ รักษาทิศอุดร
ท้าวมหาราชทั้ง ๔ มีจิตเลื่อมใสศรัทธา ปรารถนาจะเกื้อกูลพระพุทธศาสนา... -
ใครมีวิธีแก้กรรมด่าพระด่าเจ้าบ้าง
คือผมเป็นคนหนึ่งที่เคารพและบูชาพระรัตนตรัยอย่างมาก แต่ทุกครั้งที่กราบบูชาหรือ มองพระพุทธรูป หรือทำอะไร ก็ตาม สมองมันก็ด่าว่า ต่าง ๆ มันคิดในใจนะ ไม่รู้จะทำอย่างงัยดี ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่ดี มีใครว่ารู้วิธีแก้บ้าง จะทำอย่างไรดี วันไหนนั่งสมาธิก็สงบหน่อย วันไหนกิเลสฟู มันก็เริ่มอีกแล้ว รบกวนทุกท่านด้วยนครับ ใครรู้วิธีแก้ บอกหน่อยเถอะ ถือว่าเอาบุญ ผมไม่อยากตกนรก นะครับ ..........ขอสารภาพเลย. -
ชาวพุทธควรมีศรัทธา 4อย่าง
ตามคำสอนในพุทธศาสนา ชาวพุทธควรมีศรัทธา 4อย่าง
คือ
...........1. ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คือ เชื่อว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้จริง เป็นผู้ประกอบด้วยพระปัญญาธิคุณ พระวิสุทะคุณ และ พระมหากรุราธิคุณ
............2. กัมมสัทธา เชื่อเรื่องกรรม คือ เชื่อว่ากรรมมีจริง
............3. วิปากสัทธา เชื่อเรื่องผลของกรรม คือ เชื่อว่ากรรมที่บุคคลทำไม่ว่าดีหรือชั่ว ย่อมให้ผลเสมอ
............4. กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตน คือ เชื่อว่าผลที่เราได้รับเป็นผลแห่งการกระทำของเราเอง ซึ่งอาจจะเป็นกรรมที่ทำในปัจจุบันชาติหรืออดีตชาติ
...........หลายคนคิดว่ากฎแห่งกรรมไม่มีจริง จนถึงกับประชดประชันว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป เห็นด้วยว่าคนทำกรรมชั่วได้รับผลเป็นคนร่ำรวย เป็นคนมีวาสนา มีคนเคารพยกย่อง ตรงข้ามกับคนที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ขยันขันแข็ง กลับต้องมีชีวิตที่ยากลำบากหรือคนทีททำงานไม่เป็น เลี่ยงงาน ประจบสอพลอกลับได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง...........กรรมให้ผลไม่เหมือนกัน ให้ผลทันเวลาและให้ผลระยะยาวต่อไป ฉะนั้นทุกคนจึงมีโอกาสรับกรรมไม่เหมือนกัน... -
"มีดหมอ"หลวงพ่อเดิม..วัดหนองโพ..อันดับ๑..ของวงการนักสะสม
"มีดหมอ" หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อันดับ ๑ ของวงการนักสะสม
ปกติผมไม่ค่อยเก็บวัตถุมงคลประเภทเครื่องรางของขลัง แต่ มีดหมอหลวงพ่อเดิม ด้ามนี้ต้องเก็บไว้ เพราะหามานานมาก กว่าจะได้สักด้ามที่ถูกใจ ก็ด้ามนี้แหละ
มีดหมอ ด้ามนี้เป็นฝีมือการสร้างสรรค์ของ ช่างไข่ เป็นแบบมีดสองกษัตริย์ ลวดลายสกุลช่างเป็นมีดของหลวงพ่อเดิมโดยแท้
ตามประวัติ มีดหมอที่หลวงพ่อเดิมท่านสร้างไว้มี ๒ ขนาด มีดหมอขนาดใหญ่ เรียกว่า มีดควาญช้าง ขนาดเล็กลงมาเรียกว่า มีดหมอปากกา ใช้พกพาติดตัวได้
หลวงพ่อเดิม ท่านได้เริ่มสร้าง มีดหมอ มาตั้งแต่ปี ๒๔๕๖ บ้างก็ว่า สร้างราวๆ ปี ๒๔๖๐ ก็แล้วแต่ตำราแต่ละเล่มที่ค้นคว้าหาหลักฐานมาได้ คงไม่ได้ต่างกันมากนัก
ในสมัยแรกๆ ศิษย์แต่ละคนต่างว่าจ้างช่างทำกันเอง แล้วเอามาให้หลวงพ่อลงจารอักขระ และปลุกเสกให้ ต่อมามีคนสนใจมากขึ้น ทางวัดก็ได้ได้จ้างช่างชาวอำเภอพยุหะคีรี ให้ตีมีดส่งวัดโดยตรง
ช่างตีมีดมีหลายคน อาทิ ช่างไข่ ช่างฉิม ช่างสอน ช่างแม้น โดยจะเน้นแกะสลักใบมีด เป็นลายต่างๆ เช่น ลายเทพพนม ลายนาคเกี้ยว ลายน่องสิงห์ ลายกระหนกผีเสื้อ และ ลายเสมาใบโพธิ์ มีดหมอหลวงพ่อเดิม ที่ท่านสร้างนั้น... -
หลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ พระผู้เมตตาแห่งกรุงศรีอยุธยา
เมื่อหลายครูบาอาจารย์รับรองความเป็นไปของหลวงพ่อทวดและหลวงพ่อดู่
หลวงพ่อดู่ท่านเกี่ยวกับหลวงพ่อทวด สาเหตุที่บอกว่าเกี่ยวได้เต็มปากเนื่องจากได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวที่หลวงพ่อดู่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อทวดที่คนหลายคนได้ยินจากปากของหลวงพ่อดู่เอง
อาทิ
พวกเเกเดินข้ามไปข้ามมาจะข้ามหัวหลวงพ่อทวดเเล้วยังไม่รู้อีกเหรอ
พวกเเกนะรู้มั้ยว่าช้างยังรู้เลยว่าหลวงพ่อทวดคือใคร
มีคนบอกว่าข้าจะสำเร็จระหว่างต้นไม้สองต้น
เรื่องข้าบางทีมันพูดไปดีไม่ดีเขาจะไม่เชื่อจะพากันปรามาสเป็นบาปกรรมกันได้อย่าพูดไป
หลวงพ่อบุดดาพระอรหันต์เเห่งวัดกลางชูสีเจริญ
มาหาหลวงพ่อดู่เเล้วบอกว่า ที่คุณตั้งใจหนะสำเร็จเเน่ต่อไปคุณจะได้เป็นพระพุทธเจ้า
หลวงพ่อเกษม บอกว่า หลวงปู่ดู่เป็นพระใจเพชร
พ่อท่านจำเนียร เจ้าสำนักต้นเลียบที่ฝังรกหลวงพ่อทวดที่ล่วงลับเคยได้สัมผัสภาพเเละรูปเหมือนหลวงพ่อดู่ท่านกล่าวว่า
หลวงพ่อองค์นี้ต่อไปท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าพระศรีอาริยเมตไตร
พ่อท่านนอง วัดทรายขาว ศิษย์ผู้น้องอาจารย์ทิม วัดช้างให้
ท่านกล่าวถึงหลวงพ่อดู่เมื่อมีคนเอารูปให้ท่านพิจารณา ว่า... -
ด่าหลวงพ่อ...(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
ด่าหลวงพ่อ...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
วันนี้มีคนมารายงานบอก มีคนหนึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อตายไปแล้วบอกว่าลำบาก เขาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ อีตอนลำบากนี้ไม่รู้ลำบากแบบไหนน่ะ ฉะนั้นพวกที่ได้มโนมยิทธิ ถ้าได้แล้วจริงๆ เขาเคยซักซ้อมแล้ว ทางที่ดีก็ไปเช็คบัญชีที่พระยายม ไปดูบัญชีด้วยนะ ว่าบัญชีเขาเขียนตัวสีอะไร ถ้าเขียนตัวสีแดงก็ดีใจได้เลยว่า ลงนรกแน่นอน ก็แก้ได้นะ วิธีแก้ก็อย่างที่เชียงรายเชียงใหม่ใช่ไหม คู่หูยกทรง (ทายก) นี่ บารมีเหมือนกัน เขาฉลาด เขาเป็นพระโพธิสัตว์ ฉลาดมาก จะแนะนำอะไรก็ตามต้องแนะนำอย่างย่อๆ หัวข้อเขารู้หมด เข้าใจหมด
แกบอกว่า แกรับตรงๆ คนตรงๆ แบบนั้นหายาก รับตรงๆ ว่าสมัยก่อนโน้นเคยด่าพระพุทธเจ้า เคยด่าหลวงพ่อ พี่สาวเลื่อมใสหลวงพ่อไปเล่าให้ฟังด่าหลวงพ่อต่อไป ใครเขาจะให้ทานหาว่าโง่เง่าเตาตุ่น แกรับ คนอย่างนี้หายาก เขารับจริงๆ และเวลาแรกเจริญมโมยิทธิไปพบแม่เขา ร้องให้ใหญ่ วันที่สองครูพาซ้อมๆ ตั้งแต่นิพพานถึงอเวจี คล่องขนาดนั้น เห็นอเวจี เห็นโลหกุมภีสดใสมาก ไฟแดงฉานหมดนะ
แล้วต่อมาในขั้นสุดท้ายตอนจะจบ ครูถามว่า ใครสงสัยอะไรบ้างให้ถาม... -
บุพกรรมที่ทำให้สัตว์โลกแตกต่างกัน
วัฏสงสาร หมายถึง การเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพภูมิต่างๆ ของสัตว์โลก
ด้วยอำนาจของกิเลส กรรม และวิบาก หมุนวนไปตามภพภูมิต่างๆ ๓๑ ภูมิ
แบ่งเป็น
๑. โลกเบื้องต่ำ ๔ ภูมิ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน
๒. โลกเบื้องกลาง ๗ ภูมิ ได้แก่ มนุษย์โลก ๑ และเทวภูมิ ๖
๓. โลกเบื้องสูง ๒๐ ภูมิ ได้แก่ รูปพรหม ๑๖ อรูปพรหม ๔
ในอันดับแรกนี้จะนำสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดมานำเสนอก่อน คือ มนุษย์โลก
สัตว์ที่มาเกิดในโลกมนุษย์มี ๔ จำพวกคือ
๑. ผู้มืดมา แล้วมืดไป เป็นบุคคลที่เกิดในตระกูลต่ำ ยากจน ขัดสน ลำบาก
ฝืดเคืองอย่างมากในการหาเลี้ยงชีพ มีปัจจัย ๔ อย่างหยาบ เช่นอาหารน้อย
เครื่องนุ่งห่มเก่า ร่างกายมอซอ หม่นหมอง หรือเกิดมาพิการหูหนวก ตาบอด
อัตคัดในเรื่องที่อยู่อาศัย เช่นอยู่ในสลัม
เมื่อเกิดมาในสภาพนั้นแล้ว กลับประพฤติตนผิดศีลผิดธรรม เมื่อตายไปย่อม
เข้าถึงแดนอบายภูมิ มีนรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉานเป็นต้น
๒. ผู้มืดมา แล้วสว่างไป เป็นบุคคลที่เกิดในตระกูลต่ำ ยากจน ขัดสน ลำบาก
ฝืดเคืองในการหาเลี้ยงชีพฯ แต่เขาเป็นคนมีศรัทธา ทำทานตามกำลัง
มีความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา... -
ยังไม่แต่งงาน แต่นอกใจแฟน...บาปหรือเปล่า?
อยากถามว่าถ้าคนที่เป็นแฟนกันหรือคนรักกัน แต่ยังไม่ได้แต่งงาน แล้วอีกฝ่ายเผลอใจไป ให้คนอื่น หรือถึงขึ้นร่วมประเวณี กรณีนี้ถือว่า ผิดมากและถือว่า ผลกรรมร้ายแรงไหม และถ้าหลังจากนั้นสำนึกได้และกลับตัวกลับใจแล้ว
ขอบคุณค่ะ -
พระพุทธรูปสำคัญอย่างไร
หากจะพิจารณาถึงความสำคัญของพระพุทธรูปว่า ว่าวัตถุเช่นนี้มีความสำคัญอย่างไร เหตุใดจึงต้องสร้างและดูแลกันอย่างดีตลอดเวลากว่า 2,000 ปี ก็จะเห็นความสำคัญได้ดังนี้
1.เป็นสิ่งแทนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระพุทธรูปจะสร้างด้วย หิน ดิน ทราย หรือวัสดุอย่างใดๆ ก็ตามเมื่อเป็นรูปพระพุทธรูปขึ้นมาแล้ว ผู้คนก็พากันเคารพนับถือกราบไหว้โดยมิได้นึกถึงความเป็นวัสดุนั้นต่อไปอีก เพราะทั้งผู้สร้างและผู้พบเห็นต่างมีวัตถุประสงค์อย่างเดียวกันว่าจะให้เป็นรูปพระพุทธเจ้า พระพุทธรูปจึงเป็นสื่อความหมายให้ผู้คนได้คิดถึงพระพุทธเจ้าได้ดีที่สุด พระพุทธรูปจึงเป็นสิ่งแทนพระพุทธเจ้าได้ดีที่สุด
2.เป็นสิ่งอนุสรณ์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในบรรดาสิ่งที่ชาวพุทธกำหนดขึ้นเป็นสิ่งระลึกถึงพระพุทธเจ้า เช่น พระสถูปเจดีย์ พระแท่นใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ รอยพระพุทธบาท หรือแผ่นจารึกหัวข้อพุทธธรรม เมื่อเกิดพระพุทธรูปขึ้นมาแล้วปรากฏว่าพระพุทธรูปเป็นสิ่งอนุสรณ์ถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ดี และชัดเจนกว่าสิ่งใดๆ จึงมีการสร้างพระพุทธรูปเป็นพุทธสาวรีย์ที่ใดมีพระพุทธรูปชาวพุทธก็ปฏิบัติต่อรูปนั้นเสมือนว่าพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่... -
กรรมที่ทำให้เป็นนายนิรยบาลโดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
สนทนาสายลม 7
วันจันทร์ที่10 มีนาคม 2523
ญาติโยมถามว่าเดือนเมษาจะมาเมื่อไหร่ ก็ตอบว่า เฮ้ย วันเกิดท่านเจ้ากรมก็ควรจะแจกเหรียญวันเกิด ก็ควรจะแจกเหรียญวันเกิดด้วย ก็เลยยอมรับว่าเขาว่า แจกเท่าที่มีนะ มี 1เหรียญคนมาแสนคนก็แจกพอ ก็ถือเอาไว้เฉย (หัวเราะ) ใช่ไหม เป็นอันว่าวันนั้นเหนื่อยมาก เอ้ ญาติโยมพุทธบริษัทนั่งนิ่งสงบก็อยากจะนอนสักหน่อยก็ไม่ได้ไป ปรากฏท่านมากันเต็ม เอ้ คุยกันไปคุยกันมาท่านก็บอกว่า เออ วันนี้ จิตใจของเขาดีมาก แต่ความจริงละเอียดมีมาก ก็มีท่านที่มาใหม่ท่าน บางทีท่านก็ตั้งอารมณ์ไม่ถูกอยู่บ้างไม่กี่คน แค่คนสองคน ไม่ใช่ว่าทำถูกหรือทำผิดหรอกแต่ว่าอารมณ์นั้นยังไม่ทรงตัว นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่ง แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่คุยกันเป็นพิเศษ พอญาติโยมสงบปั๊บก็มีแขกพิเศษมาสองท่าน นั้นคือ ท่านพระยายมกับท่านนายบัญชีใหญ่ งัดบัญชีเล่มเบ้อเร่อเลย
ถาม ทำไมจะทวงหนี้หรือไง
ก็บอก เอ้าก็คุณบอกว่าเขามีก็บัญชีกัน ผมก็แบกบัญชีมา
แล้วถามท่านว่า ความจริงบัญชีมันมีไหม
ท่านบอก เทวดาไม่เจ๊กขายกระดาษ แหม พ่อค้าระยำจริงๆ ถ้าไปขายที่นั้นไม่รู้รวยก็ไม่รู้จักไปขาย... -
กายทิพย์ออกจากกายเนื้อโดยสติปัฏฐาน
พอดีมีประสบการณ์การถอดกายทิพย์อีกแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นกับผมโดยไม่เคยออกด้วยวิธีนี้มาก่อน จึงนำมาเล่าไว้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้างครับ
ผมขอออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ผู้ชำนาญเรื่องนี้ เป็นแต่มีประสบการณ์เกิดขึ้น และผมก็เห็นอยู่ว่าสภาวะนี้อยู่ในกฏไตรลักษณ์ทั้งสิ้น มิใช่สรณะครับ
ปกติที่ผมออกจากกายเนื้อนั้นผมจะกำหนดจิตไว้ที่กึ่งกลางหน้าผากครับ
คืนวันที่ ๔ พค ๕๑ สี่วันที่ผ่านมา หลังจากสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิตามกิจวัตรประจำวันก่อนนอน
แต่วันนี้มีการกำหนดจิตเพิ่มกว่าเดิมหลังจากได้อ่านธรรมบรรยายของหลวงพ่อจรัญเรื่องการทำสติด้วยยุบหนอพองหนอ
พอเข้านอนผมได้กำหนดสติตามการยุบพองของท้องแบบแนบแน่นมากแทบไม่ให้คลาดจากอาการยุบพองเลย แล้วจึงหลับไปพร้อมพองยุบสุดท้าย
คืนนั้นไม่ได้เกิดการฝันเลยเหมือนปกติที่ผมนอนหลับจะไม่ค่อยฝัน
แต่พอใกล้รุ่งผมระลึกสติขึ้นมาเหมือนตื่นนอน แต่กลับปรากฏอาการซู่ ๆ ทางกายทั่วทั้งตัว จึงรู้ขึ้นมาว่ากายทิพย์กำลังจะออกจากร่าง
ผมจึงค่อย ๆ พยุงตัวให้ลุกขึ้นจากเตียง ก็พบว่ากายเนื้อยังนอนอยู่บนเตียง
แต่ใจไม่ได้นึกว่าอยากจะไปไหน ได้แต่น้อมเอาว่า เออ... -
การทำบุญ ๗ อย่างวันตรุษสงกรานต์
ความเชื่อการทำบุญ ๗ อย่างวันตรุษสงกรานต์
คำว่า "ตรุษสงกรานต์" คือ วันแห่งความร่าเริงยินดี ที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ
หรือวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไทยเดิมนั่นเอง ที่มักเรียกว่า วันมหาสงกรานต์
โดยกำหนดตามสุริยคติ เป็นวันที่ ๑๓ เมษายน วันที่ ๑๔ เมษายน เป็นวันเนา แปลว่าอยู่
เพราะเป็นช่วงที่ พระอาทิตย์โคจร อยู่ระหว่าง ๒ ราศี คือ ราศีมีน กับราศีเมษ
ดังนั้นวันเนาจึงอยู่ตรงกลางระหว่างวันมหาสงกรานต์ กับวันเถลิงศกจุลศักราช คือ วันที่ ๑๕ เมษายน
แม้ว่าปัจจุบันคนไทยจะหันไปยอมรับปีใหม่สากล คือ วันที่ ๓๑ ธันวาคม เป็นวันส่งท้ายปีเก่า
วันที่ ๑ มกราคม เป็นวันต้อนรับปีใหม่ ไปนานแล้วก็ตาม แต่ความสำคัญของวันมหาสงกรานต์
ที่เคยประกาศให้เป็นวันปีใหม่มาหลายสิบปี ตั้งแต่ปี ๒๔๓๒ และถูกยกเลิกไปแล้วในปี ๒๔๘๔
ก็ยังไม่เลือนรางจางหายไป ยังคงมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
อาจารย์ธรรมจักร สิงห์ทอง คณาจารย์สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง บอกว่า ในช่วงเทศกาลนี้มีการทำบุญ ๗ ประการ คือ
๑.การก่อและถวายพระเจดีย์ทราย
๒.การทำบุญตักบาตรอุทิศให้ญาติที่ตายแล้ว
๓.การบังสุกุลอัฐิ (กระดูก)... -
จะพูดลาของที่ถวายหน้าหิ้งอย่างไรและกินต่อได้มั้ย
----------------------
เพิ่งได้บูชาแม่นางกวัก แต่ยังสงสัยว่า เวลาถวายอาหารแล้ว จะเก็บลงจากหิ้งต้อ
งกล่าวลาอย่างไร และอาหารกับน้ำแดงที่ถวายไปนั้นต้องนำไปทิ้งหรือกินต่อ ถ้าต้องทิ้ง ต้องไปทิ้งยังไง สงสัยจริง ๆ ขอผู้รู้ช่วยแนะนำวิธีปฏิบัติด้วยค่ะ -
หลวงพ่อพระราชพรหมยานสรุปโพชฌงค์7
เรามาสรุปเรื่องมหาสติปัฏฐานสูตร ที่ศึกษามาแล้ว ว่าการปฏิบัติแบบไหนมันถึงจะได้มรรคผลโดยเร็ว เร็วหรือไม่เร็วก็ชื่อว่าเข้าถึงมรรคผล เมื่อก่อนนี้เราก็ว่ากันมาตั้งแต่ อานาปานุสสติกรรมฐาน นั่นเป็นการศึกษา แต่ถ้าจะปฏิบัติกันจริงๆ ละก็ ท่านจะต้องขึ้น โพชฌงค์ ๗ ก่อน ฉันไม่เหมือนชาวบ้านเขาแล้ว ถ้าเราจะเอามรรคผลกันจริงๆ ก็ต้องใช้โพชฌงค์ ๗ ก่อนอันดับแรก เพราะกำลังใจของเราต้องเข้าถึงโพชฌงค์ เราต้องมีโพชฌงค์ ๗ มาเป็นกำลังใจ อันดับแรกก่อนคือ
๑. ต้องเป็นคนมี สติ
๒. ธัมมวิจยะ ธัมมวิจยะนี่ใคร่ครวญธรรมะที่เราพึงปฏิบัติ และข้อวัตรปฏิบัติ
๓. วิริยะ มีความเพียรต่อสู้กับอุปสรรค
๔. มี ปีติ สร้างปีติ ความเอิบอิ่มใจให้ปรากฏกับใจ นี่หมายความว่า การปฏิบัติแบบนี้องค์สมเด็จพระชินสีห์บอกว่าถึงพระนิพพานแน่ อย่างเลวที่สุดเราก็ไปพักแค่สวรรค์ดีขึ้นไปหน่อยไปพักแค่พรหม ดีที่สุดเราถึงพระนิพพาน เรารู้ความจริงแบบนี้ ปีติ คือความอิ่มใจมันก็เกิด ก็คิดว่า เรานี่ยังไงๆ ก็ไม่ตกนรกแน่ ความภาคภูมิใจที่เกิดอย่างนี้เราเรียกว่าปีติ
๕. ปัสสัทธิ แปลว่าความสงบ สงบของปัสสัทธิ มีอยู่ ๒ จุด คือ สงบจากนิวรณ์และสงบจากกิเลส...
หน้า 412 ของ 414