คลังเรื่องเด่น
-
“รอดตายเพราะสวดมนต์” เรื่องเล่า อานิสงส์ของการสวดมนต์ที่เกิดขึ้นจริง
คุณเชื่อเรื่อง อานิสงส์ของการสวดมนต์ ไหม
เรื่องราว อานิสงส์ของการสวดมนต์ ต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับ คุณวิชาญ ฤทธิรงค์ อดีตประธานชมรมพุทธศาสตร์ ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยกิจกรรมของชมรม ที่มีการนิมนต์พระสงฆ์มาเทศนา และสอนวิธีการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน สัปดาห์ละ1 – 2 ครั้ง หลังเลิกงาน คุณวิชาญจึงไม่ลืมที่จะนำแนวทางแห่งพุทธศาสนา มาปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน นั่นก็คือ การสวดมนต์
คุณวิชาญเริ่มฝึกการสวดมนต์ภาวนา ด้วยการสวดบทพาหุงและบทอิติปิโส ในจำนวนครั้งเท่ากับอายุตัวเองบวกหนึ่งจนจบ จากนั้นต่อด้วยบทแผ่เมตตา ให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้ที่เคยโกรธเกลียดกันมาก่อน ยิ่งไม่ชอบหน้ากันมากเท่าไร คุณวิชาญก็ยิ่งสวดมนต์แผ่เมตตาให้เขามากขึ้นเท่านั้น
ผลของการสวดมนต์ ไม่เพียงทำให้คุณวิชาญได้รับความเมตตาจากคนที่เขาเคยโกรธ เคยไม่ชอบหน้าเท่านั้น ทว่าอานิสงส์ของการสวดมนต์ ยังส่งผลไปถึงลูกสาวของคุณวิชาญที่อยู่ไกลถึงรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย
เหตุการณ์ในครั้งนั้นเริ่มขึ้นจากวันหนึ่งลูกสาวคุณวิชาญโทรศัพท์มาจากอเมริกา เพื่อขอให้ผู้เป็นพ่อซื้อรถยนต์ให้ใช้ขณะอยู่ที่นั่น... -
กราบสาธุ!! "หลวงปู่หนูอินทร์" เกจิดังอีสาน อวยพรปีใหม่2560 ทุกประโยคนับเป็นมงคลชีวิต!!
กราบสาธุ!! "หลวงปู่หนูอินทร์" เกจิดังอีสาน อวยพรปีใหม่2560 ทุกประโยคนับเป็นมงคลชีวิต!!
วันที่ 30 ธันวาคม 2559 พระราชศีลโสภิต (หลวงปู่หนูอินทร์ กิตฺติสาโร) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ขออำนวยอวยพรให้พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ได้ใช้หลักธรรมะของพระพุทธเจ้า คือศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพราะเมื่อทุกคนยึดถือปฏิบัติ โดยมีศีล สมาธิ ปัญญา แล้ว ก็จะมีสติ รอบรู้ ใคร่ครวญ ทำให้ไม่ประมาท โดยเฉพาะไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต คือไม่ประมาทในวัย ทั้งปฐมวัย มัชฌิมวัย และปัจฉิมวัย
ปฐมวัยคือวัยเด็ก เป็นวัยที่ต้องศึกษาหาความรู้ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มัชฌิมวัยคือวัยกลางคน ซึ่งเป็นวัยทำงาน ประกอบสัมมาชีพโดยสุจริต เพื่อสร้างหลักฐานให้ครอบครัวมีความมั่นคง และปัจฉิมวัย คือวัยสูงอายุให้รู้จักเข้าวัด หมั่นทำบุญ ให้ทาน ดังนั้นในโอกาสต้อนรับปีใหม่ จึงขออำนวยอวยพรให้พุทธศาสนิกชน ญาติโยม ศิษยานุศิษย์ ประชาชนชาวไทย ปราศจากสิ่งไม่ดี ละเว้นสิ่งที่ไม่ดี ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต ที่จะเป็นแนวทางสร้างความสุข... -
เมื่อพระพุทธเจ้าสอนเด็ก
เมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ในพระเชตวนาราม ใกล้กรุงสาวัตถี โกศลรัฐ เช้าวันหนึ่งเสด็จออกบิณฑบาตทอดพระเนตรเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังตีงูด้วยท่อนไม้ ตรัสถามว่า “ทำอะไรกัน” “งูพระเจ้าข้า กำลังตีด้วยท่อนไม้” “เพราะเหตุอะไร” “เพราะกลัวจะกัดพระเจ้าข้า”
พระพุทธเจ้าตรัสสั่งสอนแปลความว่า “ผู้ที่แสวงหาสุขเพื่อตน เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายที่รักสุขด้วยท่อนไม้ ต่อไปย่อมไม่ได้สุข ส่วนผู้ที่แสวงหาสุขเพื่อตน ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายที่รักสุขด้วยท่อนไม้ ต่อไปย่อมได้สุข” เด็กกลุ่มนั้นฟังเข้าใจซาบซึ้ง เลิกเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายโดยเด็ดขาดตั้งแต่นั้นมา
- เด็กวัด 26 พุทธศตวรรษ - -
วิธีทำบุญให้เป็นฌานแบบง่ายๆก่อนหลับและหลังจากตื่นนอนใหม่ๆ
ก่อนจะหลับทำบุญเสียหน่อย ตั้งใจเอาเงินใส่ในภาชนะนั้นเก็บไว้ คิดว่าเราจะถวายพระเป็นค่าภัตตาหารก็ได้ เป็นวิหารทานก็ได้ เป็นธรรมทานก็ได้ หรือสร้างพระพุทธรูปก็ได้ตามใจชอบ แต่ก่อนที่จะใส่ถ้าว่าคาถาวิระทะโยเป็นก็ว่าไป ถ้าไม่ว่าก็นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ หรือพระปัจจเจกพุทธเจ้า ถือว่าเวลานั้นจิตของท่านเป็นพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ เป็นอนุสสติใหญ่ การคิดว่าจะเอาสตางค์ใส่ในบาตรหรือใส่ในกระป๋อง คิดว่าจะใส่ อันนี้เป็นจาคานุสสติกรรมฐาน เป็นทาน การใส่อย่างนั้นเป็น ทานบารมี
บรรดาท่านพุทธบริษัท การทำเพียงแค่นี้ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททำทุกวันอย่างนี้ อาตมาขอยืนยันว่าทุกคนนี่ลงนรกไม่ได้ ถ้าเรามีการเริ่มต้นอย่างนี้ หากว่าญาติโยมจะถามว่าทุกคนต้องการไปนิพพาน ทำจิตถ้าเป็นฌานอย่างนี้พื้นฐานใหญ่ ถ้าหากว่านอนหลับตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ ถ้าเราหวังนิพพาน สำหรับท่านที่ได้มโนมยิทธิ อย่าลืมพุ่งใจตรงไปนิพพานทันที แล้วก็ตั้งใจว่าถ้าตายเมื่อไรขอมาที่นี่จุดเดียว อย่างนี้ไปนิพพานแน่
ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัทปฏิบัติแบบ สุกขวิปัสสโก เมื่อหลับตื่นขึ้นมาหายเหนื่อยแล้ว ก็รวบรวมกำลังใจจะนอนอยู่แบบนั้นก็ได้... -
ธรรมทานนี้เลิศกว่าทานทั้งหลาย
การแสดงธรรมบ่อย ๆ แก่บุคคลผู้เงี่ยหูลงรับฟัง
นี้เลิศกว่าพูดถ้อยคำอันเป็นที่รัก
การชักชวนผู้ไม่มีศรัทธาให้ตั้งมั่นทรงไว้
ได้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
ชักชวนผู้ละเมิดศีลให้ตั้งมั่นทรงไว้
ได้ถึงพร้อมด้วยศีล
ชักชวนผู้ไม่อยากให้ให้ตั้งมั่นทรงไว้
ได้ถึงพร้อมด้วยการให้ปัน
ชักชวนผู้มีปัญญาทรามให้ตั้งมั่นทรงไว้
ได้ถึงพร้อมด้วยปัญญา
นี้เลิศกว่าการประพฤติประโยชน์ทั้งหลาย
(เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ภาษาไทยฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ “พลสูตร” ข้อที่ ๒๐๗)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=36372 -
ท่านผู้ไกลกิเลส มีความสุขจริงหนอ
ท่านผู้ไกลกิเลส มีความสุขจริงหนอ
คนมีห่วงกังวล ย่อมวุ่นวายอยู่
ตราบใด ยังมีชิ้นเนื้อคาบไว้นิดหน่อย ตราบนั้น ก็ยังถูกกลุ้มรุมยื้อแย่ง
พวกมนุษย์ผู้อ่อนปัญญาไม่เห็นอริยธรรม สนทนาถกเถียงกันทั้งวันทั้งคืน แต่ในเรื่องที่ว่า เงินของเรา ทองของเรา
ผู้ถึงธรรมไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ฝันเพ้อถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง ดำรงอยู่ด้วยสิ่งที่เป็นปัจจุบัน ฉะนั้น ผิวพรรณจึงผ่องใส
มัวเศร้าโศกอยู่ก็ซูบผอมลง อาหารก็ไม่อยากรับประทาน ศัตรูก็พลอยดีใจในเมื่อเขาถูกลูกศรแห่งความโศกเสียบแทงย่ำแย่อยู่
ชนทั้งหลายผู้ยังอ่อนปัญญาเฝ้าแต่ฝันเพ้อถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง และ หวนละห้อยถึงความหลังอันล่วงไปแล้ว จึงซูบซีดหม่นหมอง เสมือนต้นอ้อสดที่เขาถอนขึ้นทิ้งไว้ในกลางแดด
ผู้ใดพอใครถามถึงทุกข์ของตน ก็บอกเขาเรื่อยไปทั้งที่มิใช่กาลอันควร ผู้นั้นจะมีแต่มิตรชนิดเจ้าสำราญ ส่วนผู้หวังดีต่อเขาก็มีแต่ทุกข์
ได้ลาภเสื่อมลาภ ได้ยศเสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข และ ทุกข์ สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมดาในหมู่มนุษย์ ไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน อย่าเศร้าโศกเลย ท่านจะโศกเศร้าไปทำไม... -
เหตุที่บรรลุธรรมได้อย่างรวดเร็ว เมื่อฟังธรรมเทศนาเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า
เรื่อง "เหตุที่บรรลุธรรมได้อย่างรวดเร็ว เมื่อฟังธรรมเทศนาเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า"
(โอวาทธรรม หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
ท่านผู้อ่านทั้งหลายคงเคยได้ทราบเรื่องของพระสาวกบางรูปมาแล้วว่า ท่านได้บรรลุพระอรหัตตผลในขณะที่ท่านนั่งฟังพระธรรมเทศนาเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธองค์นั่นเอง แล้วท่านเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมท่านจึงสำเร็จง่ายดายนัก ท่านไม่ได้เจริญ ฌาน-สมาธิ-วิปัสสนา และมรรค ๘ บ้างหรือ
หากท่านตั้งใจคิดและพิจารณาด้วยใจอันเป็นธรรมแล้ว คงจะเห็นชัดด้วยใจของตนเองว่า ท่านเหล่านั้นในขณะนั้นท่านไม่ได้เจริญฌาน หรือหากบางท่านจะเคยได้เจริญฌานมาก่อนแล้วก็ตาม แต่ในขณะที่ท่านนั่งฟังพระธรรมเทศนาอยู่นั้น ท่านไม่ได้เจริญฌาน ท่านเจริญสัมมาทิฏฐิ อันมีสัมมาสมาธิเป็นรากฐาน คือดำเนินตามองค์มรรค ๘ ทีเดียว มีวิปัสสนาคือ พระไตรลักษณญาณเป็นผู้อุดหนุน
หากจะมีความสงสัยว่าสมาธิในขณะนั้นจะมีได้อย่างไร ขอเฉลยไว้ ณ โอกาสนี้เลยว่า สมาธิ ไม่ต้องดับรูป-เสียง-กลิ่น-รส-สัมผัส เหมือนฌาน แต่สมาธิจะยึดเอาอารมณ์ทั้ง ๖ นั่นแหละมาเป็นเครื่องพิจารณาจนเห็นอารมณ์ทั้ง ๖ นั้นชัดตามเป็นจริงว่า อายตนะ ๖ มีตาเป็นต้น... -
เหลือเชื่อ! เจ้าชายน้อยภูฏานวัย 3 ขวบ ระลึกชาติ 824 ปี เป็นอาจารย์ที่นาลันทา!!
เหลือเชื่อ! เจ้าชายน้อยภูฏานวัย 3 ขวบ ระลึกชาติ 824 ปี เป็นอาจารย์ที่นาลันทา!!
เป็นกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์ของภูฏานและอินเดีย เมื่อมีรายงานข่าวหลายแห่งระบุว่า เจ้าชายราชวงศ์ภูฏานพระองค์หนึ่ง ชันษา 3 ปี สามารถระลึกชาติได้ว่า ชาติก่อนทรงเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก เมื่อ 824 ปี ก่อน
รายงานระบุว่า เจ้าชายน้อยพระองค์นี้ เป็นโอรสของเจ้าหญิงพระองค์หนึ่งแห่งภูฏาน ทรงบอกว่า เมื่อ 824 ปีก่อน ทรงเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยนาลันทา ในประเทศอินเดีย และหากว่าได้เสด็จเยือนที่มหาวิทยาลัยนาลันทาอีกครั้ง จะทรงจำทุกอย่างได้ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา พระอัยยิกา(ยาย) ของเจ้าชายจึงพาเจ้าชายไปที่มหาวิทยาลัยนาลันทา ที่ประเทศอินเดีย ปรากฏว่าเจ้าชายสามารถจำสถานที่ต่างๆได้แม่นยำ แม้แต่ห้องเรียนของพระองค์เอง
เรื่องนี้สร้างความฮือฮาแก่สื่อมวลชนและชาวโซเชียลในประเทศอินเดียและภูฏานอย่างยิ่ง และกำลังอยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งสองประเทศ
ที่มา : ข่าวสด
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_177373 -
"พระศรีอาริย์โปรดสัตว์ 3 กาล"
"พระศรีอาริย์โปรดสัตว์ 3 กาล"
นับตั้งแต่พระศากยมุนีพุทธเจ้าปรินิพพานให้หลัง ไปแล้ว 5,670,000,000 ปี ( ห้าพันหกร้อยเจ็ดสิบล้านปี ) จะถึงกาลที่พระศรีอาริย์จะลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า แสดงธรรมโปรดสัตว์ 3 กาล คือ
1. ปฐมกาล โปรดเวไนย์ ผู้ถือศีล 5 ที่ตกค้างจากองค์
พุทธที่ 4 จำนวน 9,600,000,000
( เก้าพันหกร้อยล้านคน )
2. มัธยมกาล โปรดผู้มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง จำนวน
9,400,000,000 ( เก้าพันสี่ร้อยล้านคน )
3. ปัจฉิมกาล โปรดผู้ที่ภาวนาพระนามพระพุทธเจ้า
ด้วยเอกจิต จำนวน 9,200,000,000
( เก้าพันสองร้อยล้านคน )
พระศรีอาริย์ยุคก่อนกึ่งพุทธกาล
เอกัง สะมะยัง.......สมัยหนึ่งที่สมเด็จพระชินศรี สัมพุทโธเจ้าเสด็จประทับเมืองกุสินารายณ์ ทรงสำราญพระอริยาบถในสวนพระราชอุทยานแห่งพระเจ้าสามลราช กับเหล่าพระภิกษุสงฆ์ ครานั้นสมเด็จพระพิชิตมารทรงพระประชวรอยู่แล้ว ( ใกล้เข้าสู่พระปรินิพพาน ) ได้ตรัสแก่พระอานนท์และพระภิกษุสงฆ์สองหมื่นรูปว่า.......
ตถาคตใกล้เข้าสู่พระปรินิพพานอยู่แล้ว ตถาคตจะบัญญัติไว้แก่พระศาสนาห้าพัน สัตว์ทั้งปวงจะบังเกิดมาในอนาคตกาลภายภาคหน้า
-... -
หลวงพ่อพระราชพรหมยานเล่าให้ฟัง เรื่อง แดนพระนิพพาน
.. " วันหนึ่ง *สมเด็จ* ท่านพามาที่วิมาน นิพพานนี่มันกว้างลิ่ว และ *บ้าน* นี่นะนาน ๆ จะได้ไปสักที ส่วนมากก็ไปนั่งป๋ออยู่ที่วิมานพระพุทธเจ้า
.. ถ้าเราไปอยู่ที่นั่นแล้ว เวลาเราตายมันจะไปไหน อาตมาเป็นคนเกาะ *พุทธานุสสติกรรมฐาน* เป็นอารมณ์ตลอดเวลา
.. ถ้าวันไหนไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้า วันนั้นตายดีกว่า มันจะเป็นยังไงก็ตาม ยิ่งป่วยยิ่งไข้ยิ่งหนัก ป่วยนิดเดียวจิตจะไม่ยอมคลาดพระพุทธเจ้า เราถือว่าถ้าเราเกาะพระพุทธเจ้าอยู่ มันจะตายลงนรกก็ยอม
.. ท่านคงไม่ยอมให้ลง ..
.. แล้วท่านก็พาไปดูที่วิมาน ชี้ให้ดูบอกว่า : " คณะของคุณมันมาก เพราะคุณใช้เวลาบำเพ็ญบารมีถึง ๑๖ อสงไขย กับ แสนกัป และ เป็นฝ่าย *วิริยาธิกะ* "
.. เป็นอันว่าคณะของเรา ที่ตามกันมาเป็นระยะ ไอ้ที่เขาหนีไปนิพพานแล้ว นับไม่ถ้วน พวกนั้นขี้ขลาดสู้เราไม่ได้ ไอ้เราต้องมาตกระกำลำบาก ช่วยกันวิ่งโน่นวิ่งนี่ ไอ้ที่จะกินก็ยังไม่มี แต่ยังพยายามหาเลี้ยงคนอื่น ใช่ไหม
.. วันนี้มีเวลาลองสอบดูนิดหนึ่ง ถามว่า : " คณะของข้าพระพุทธเจ้ามีกี่สาย จากหลังบ้านไปนี่ "
.. ท่านบอกว่า : " มี ๓๗ สาย "
.. ถามว่า : " สายหนึ่งมีระยะยาวเท่าไร.? "
.. ท่านบอกว่า : "... -
วิธีพ้นภัยได้ด้วยศีลธรรม ความดี" จากคำบอกของปู่อินทร์ตาทิพย์ ผู้ได้บารมีจากท้าวสักกะเทวราชอายุ 115 ปี
วิธีพ้นภัยได้ด้วยศีลธรรม ความดี" จากคำบอกของปู่อินทร์ตาทิพย์ ผู้ได้บารมีจากท้าวสักกะเทวราชอายุ 115 ปี
ปู่อินทร์ตาทิพย์เขาตำแย คือท่านผู้เฒ่าที่อายุมากกว่า 115 ปี แล้วมีการกล่าวไว้ว่า ท่านเป็นมนุษย์ผู้ที่ได้รับญาณบารมีของท่านท้าวสักกะเทวราช และยังดำรงร่างกายเดินเหินใช้ชีวิตได้ตามปกติ เมื่อได้สนทนากับท่าน ก็จะรู้ว่าท่านมีสติสมบูรณ์มิได้หลง หรือเลอะเลือนเช่นคนชราทั่วๆ ไป ท่านบอกว่าท่านยังตายไม่ได้ เพราะบ้านเมืองมีปัญหา และยังต้องอยู่รอให้ถึงปี 2562 ก่อน และเมื่อเหตุการณ์ภัยพิบัติจบลงในปี 2562 ท่านจะให้พระยาธรรมมิกราชมาปรากฏ ในปี 2563 เราก็จะได้พบกับสามร่มโพธิ์ศรี จากนั้นท่านจะพิจารณาอีกทีว่าจะอยู่ต่อหรือจะละร่างนี้
ท่านปู่อินทร์ตาทิพย์ เขาตำแย ท่านได้บอกเตือนเกี่ยวกับการเกิดภัยต่างๆในปี ๒๕๖๐ ไว้ เพราะเกิดจาก ปัจจุบันนี้ผู้คนไม่มีศีลธรรม ไม่ละอายแก่บาป เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่ใช่กรรมของใครๆ แต่นี่คือ วัฎจักรของโลก บ้านเมืองเจริญขึ้น แต่จิตใจมนุษย์เจริญลง ยิ่งการสมสู่มนุษย์ต่อกันเดียวนี้ไม่มีเลือกผัวเลือกเมียหรือลูกหลาน นี่แหละกลียุคตามคำทำนายขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าพุทธโคดม... -
ทุกข์เพราะคิดผิด --ที่สุดแห่งสมาธิ-- โดย หลวงปู่ชา
เมื่อตอบปัญหา คนดีอยู่ไหนแก่ตนเองแล้ว หลวงพ่อเกิดความปลื้มปิติเยือกเย็นใจมาก และได้ถือเอาความรู้นั้นเป็นคติสอนใจตลอดมา
หลวงพ่อได้ออกจาริกต่อตามวิถีทางของพระกรรมฐาน ผู้ไม่ยึดติดและไม่ยอมให้สิ่งใดผูกมัดตน แม้จะต้องผ่านพบกับสิ่งต่างๆ ทั้งดีและเลว ทั้งสุขและทุกข์ ก็เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยการเห็นโทษ และมีปัญญาในการสลัดออก
วันหนึ่งหลวงพ่อเดินผ่านดงใหญ่ถึงวัดร้าง ใกล้หมู่บ้านโคกยาว จังหวัดนครพนม พบว่าสถานที่วิเวกดี จึงหยุดพักอยู่ที่นั่น ได้รับความสงบระงับดีมาก ท่านเล่าถึงประสบการณ์เกี่ยวกับการภาวนาที่วัดร้างนั้นให้ฟังว่า...
"คืนนั้นประมาณห้าทุ่มกว่าๆ ขณะเดินจงกรมอยู่ รู้สึกแปลกๆ มันแปลกมาตั้งแต่กลางวันแล้ว รู้สึกว่าไม่คิดอะไรมาก มีอาการสบายๆ เมื่อเดินจงกรมเมื่อยแล้ว จึงขึ้นไปนั่งกระท่อมเล็กๆ ขณะจะนั่งคู้ขาเข้าแทบไม่ทัน จิตมันอยากสงบ มันเป็นของมันเอง... พอนั่งลงแล้วจิตมันก็สงบจริงๆ รู้สึกตัวหนักแน่น...
คืนนั้นในหมู่บ้านมีงาน เขาร้องรำทำเพลงกัน ได้ยินอยู่แต่จะทำให้ไม่ได้ยินก็ได้ เมื่อไม่เอาใจใส่ก็เงียบไม่ได้ยิน จะให้ได้ยินก็ได้ยิน ไม่รู้สึกรำคาญ...
ดูจิตกับอารมณ์ก็เห็นตั้งอยู่คนละส่วน... -
นึกถึงพุทโธไว้ก่อนจะตายประมาณ๓วันจะมีรถทิพย์มารับ
"ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคน ทุกวันถ้ามีความจำเป็นต้องทำบาป อย่างพวกปลูกผักปลูกหญ้านี่ เวลาที่ทำแล้วกลับมาบูชาพระลืมบาป ทิ้งบาปเสีย ตั้งใจภาวนา พุทโธ บ้าง สัมมาอรหัง บ้าง อะไรก็ได้ตามชอบใจ พอถึง เวลาบูชาพระ ก็ นึกถึงเฉพาะพระ เวลาเราจะหลับนึกถึงเฉพาะพระนิพพาน เป็นอารมณ์ ตั้งใจไว้เลยว่าเราจะไปนิพพาน ถ้าชาตินี้ตายเมื่อไร ขอไปนิพพานเมื่อนั้น แล้วภาวนาว่า พุทโธ จับลมหายใจเข้าให้หลับไป พอตื่นขึ้นมาใหม่ก็ตั้งใจเฉพาะภาวนาว่าพุทโธ เราจะไปนิพพาน
เอาแค่นี้บรรดาพุทธบริษัท ขอยืนยันว่า ถ้าทุกคนทำได้จริง คำว่าทำได้จริงก็หมายความว่า เวลาเข้าบ้านปั๊บ ถึงเวลาบูชาพระ จิตต้องไม่นึกถึงบาปแล้วก็ภาวนาว่า พุทโธ ตั้งใจไปนิพพาน พอตื่นขึ้นมาปั๊บจิตก็นึกถึงพระนิพพานขึ้นมาทันที ภาวนาว่า พุทโธ อย่างนี้จิตเป็น ฌาน ถ้าจิตเป็นฌานอย่างนี้ทุกคนสังเกตเวลาตาย กำลังบารมียิ่งมีความสำคัญ ถ้าบารมีของเรายังอ่อน ถ้าเวลาตายเห็นกองไฟ มีความสุข เพราะอะไรรู้ไหม ปลาจะสุกได้เพราะไฟใช่ไหม นั่นลงนรกแน่นอน ถ้าเห็นป่าจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เห็นก้อนเนื้อไปเกิดเป็นมนุษย์ ภาพเกิดก่อนจะตายนะ
ทีนี้ถ้าเราเป็นคนมีบุญ เมื่อมันจะตายจริง... -
หลวงพ่อจรัญแนะนำวิธีลดกรรม ด้วยวิธีใส่บาตรให้ถูกวิธี พร้อมอธิษฐานตามนี้ให้ถูกหลัก
• ก่อนใส่บาตร… ให้จุดธูป 3 ดอกกลางแจ้ง ขอขมากรรม โดย ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า ข้าพเจ้าขอขมากรรม ต่อเจ้ากรรมนายเวร ศัตรู หมู่มาร หมู่พาล ทุกภพทุกชาติ ขอให้อโหสิกรรม ให้ขาดจากกัน
• หลังใส่บาตรเสร็จ… ทุกครั้ง ให้ ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า กุศลที่ลูกได้ทำแล้ว ขอถวายแด่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 5 พระองค์ ขอให้ทุกพระองค์ นำส่งบุญให้ข้าพเจ้า มีเดช ปัญญา โภคะ ขอให้สมหวัง สมปรารถนาทุกเรื่อง ขอให้มีบุญบารมีเต็มขั้น เกิดสภาวะธรรม ตามบุญวาสนาที่ได้ทำมา จากทุกภพทุกชาติโดยเร็วเทอญ และ ขออุทิศให้ เจ้ากรรมนายเวร ทุกภพทุกชาติ (วิญญาณ) ศัตรูหมู่มารหมู่พาล (เช่น มนุษย์,หุ้นส่วน,เพื่อน,ในครอบครัว) ทุกภพทุกชาติ (เอ่ยชื่อได้ยิ่งดี) ขอให้อโหสิกรรม ขอให้ขาดจากกัน ณ.เดี๋ยวนี้ เทอญ ขอให้อุปถัมภ์ค้ำจุนข้าพเจ้า
• ถ้าทำบุญด้วยข้าวสารเป็นกระสอบ หรือ ถมทราย ดิน ก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า … ผลบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าร่ำรวย เหมือนเมล็ดข้าวสาร เม็ดทราย ดิน เจ้ากรรมนายเวร ตามเมล็ดข้าวสาร ตามเม็ดทรายดิน ขอให้ได้รับ และขอให้อโหสิกรรม หลุดขาดจากกัน ณ บัดนี้เดี๋ยวนี้เทอญ ขอให้ข้าพเจ้า มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง พบแต่... -
นางลาช เทวธิดาข้าวตอก ผู้ได้บรรลุโสดาปัตติผล
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภนางลาชธิดา ตรัสพระธรรมบทว่า
มีหญิงชาวนาเข็ญใจผู้หนึ่ง ถวายข้าวตอกแก่พระมหากัสสปะที่เพิ่งออกจากฌานสมาบัติ หลังถวายข้าวตอกแล้วได้ทำความปรารถนาว่า "ท่านเจ้าข้า ขอดิฉันพึงเป็นผู้มีส่วนแห่งธรรมที่ท่านเห็นแล้ว" พระเถระได้กล่าวอนุโมทนาว่า " ความปรารถนาอย่างนั้น จงสำเร็จ"นางไหว้พระเถระแล้วนึกถึงทานที่ตนถวายหันหลังเดินกลับมา
ในระหว่างที่นางเดินมาบนคันนาเพื่อกลับมาที่กระท่อมนั้น นางถูกงูพิษกัดตาย ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่ในวิมานทอง ประมาณ ๓๐ โยชน์ มีร่างกายประมาณ ๓ คาวุต เพราะอานิสงส์ถวายข้าวตอกเป็นทานด้วยศรัทธา นางจึงได้ชื่อว่าลาชเทวธิดา(เทวธิดาข้าวตอก) นางต้องการจะเพิ่มพูนบุญกุศลให้แก่ตน ได้ลงจากสวรรค์มาเก็บกวาดบริเวณที่พักของพระมหากัสสปเถระในตอนเช้าๆ ถูกพระเถระห้ามปรามไม่ให้ทำ เพราะเกรงว่าคนจะนำไปติเตียนได้ นางเทวธิดาเสียใจร้องไห้ที่ถูกขัดขวางมิให้ทำความดี พระพุทธเจ้าทอดพระเนตรเห็นด้วยพระเนตรทิพย์ ได้เนรมิตพระวรกายไปปรากฏประหนึ่งว่าอยู่เบื้องหน้าของนาง แล้วรับสั่งกับนางว่า ความสำรวมระวังเป็นหน้าที่ของกัสสปะ... -
ในเรื่องของกาม
ในเรื่องของกาม
คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์นั้น
รูปอะไรก็ไม่จับใจเท่ารูปผู้หญิง ผู้หญิงรูปร่างบาดตา
ก็ชวนมองอยู่แล้ว ยิ่งเดินซอกแซกๆ ก็ยิ่งมองเพลิน
เสียงอะไรจะมาจับใจเท่าเสียงผู้หญิง เป็นไม่มี
มันบาดถึงหัวใจ กลิ่นก็เหมือนกัน กลิ่นอะไรก็ไม่เหมือน
กลิ่นผู้หญิงติดกลิ่นอื่นก็ไม่เท่าติดกลิ่นผู้หญิง
มันเป็นอย่างนั้น รสอะไรก็ไม่เหมือน รสข้าว รสแกง
รสสารพัดก็ไม่เทียบเท่ารสผู้หญิง หลงติดเข้าไปแล้ว
ถอนได้ยากเพราะมันเป็นกาม โผฏฐัพพะก็เช่นกัน
จับต้องอะไรก็ไม่ทำให้มึนเมาปั่นป่วน
จนหัวชนกันเหมือนกับจับต้องผู้หญิง
ฉะนั้น เมื่อลูกท้าวพญาที่ไปเรียนวิชากับอาจารย์ตักศิลา
จนจบแล้ว จะลาอาจารย์กลับบ้าน อาจารย์จึงสอนว่า
เวทย์มนต์กลมายาอะไรๆ ก็สอนให้บอกให้จนหมดแล้ว
เมื่อกลับไปครองบ้านครองเมืองแล้ว
มีอะไรมาก็ไม่ต้องกลัว จะสู้ได้หมดทั้งนั้น
จะมีสัตว์ประเภทใดมาก็ไม่ต้องกลัว
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์มีฟันอยู่ในปากหรือมีเขาอยู่บนหัว
มีงวง มีงา ก็คุ้มกันได้ทั้งสิ้น
แต่ไม่รับรองอยู่เฉพาะสัตว์จำพวกหนึ่ง
ที่เขาไม่ได้อยู่บนหัว แต่หากไปอยู่ที่หน้าอก
สัตว์ชนิดนี้ไม่มีมนต์ชนิดใดจะคุ้มกันได้... -
กิเลส 16 ชนิดที่แฝงมากับการเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค....
กิเลส 16 ชนิดที่แฝงมากับการเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค....
1. อภิชฌาวิสมโลภะ
เห็นใครโพสภาพบ้านหลังใหญ่ๆ รถหรูๆ อาหารดีๆ ภาพการพักผ่อนในโรงแรมสวยๆ ภาพชีวิตหรูหรา ก็เกิดความรู้สึกอยากได้เหมือนอย่างเขา เกิดความไม่พอใจชีวิตของตนเอง เกิดความโลภ เกิดความทุกข์ หดหูใจว่าทำไมหนอ ชีวิตคนอื่นจึงดีกว่าชีวิตของตนเอง นานวันเข้าก็พัฒนาไปสู่ความโลภ อยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัว รู้สึกอยากจะโพส อยากจะอวดเหมือนอย่างเขาบ้าง
2. พยาบาท
เปิดเฟสส่องดู เห็นคนที่ตนเกลียดมีความสุข ก็คิดหมั่นไส้อยู่ในที แต่เมื่อเปิดดูแล้ว เห็นคนที่ตนเกลียดมีความทุกข์ หรือมีปัญหาก็รู้สึกยินดีพอใจ
3. โกธะ
ใครโพสสิ่งใดไม่ถูกใจ ไม่ตรงกับความคิดของตัว ก็นึกโกรธ จับโยงความคิดผู้อื่นมาปะทะกับความคิดของตนเอง จนกลายเป็นความทุกข์ใจ
4. อุปนาหะ
เมื่อโกรธ เพราะคิดเห็นต่างกัน ก็ผูกใจเกลียดคนๆ นั้น โดยไร้เหตุผล
5. มักขะ
เห็นใครทำความดีก็นึกหมั่นไส้เขา เห็นคำสอนปราชญ์ คำสอนพระ คำสอนศาสดา คำสอนผู้รู้ใดๆ ที่ไม่เข้ากับความคิดของตน ก็นึกดูแคลน พยามใช้ความคิดของตนหักล้าง ทั้งที่รู้ว่าสิ่งที่เขานำเสนอนั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์
6. ปลาสะ... -
เจ้าหญิงแห่งภูฏาน กับชีวิตตามรอยธรรมแห่งพุทธศาสนา
เจ้าหญิงเคซัง โชเดน วังชุก แห่งภูฏาน กับชีวิตตามรอยธรรมแห่งพุทธศาสนา
เมื่อกล่าวถึงประเทศภูฏาน คนส่วนใหญ่มักนึกถึงภูมิประเทศที่สวยงาม ผู้คนและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ รวมไปถึงสมเด็จพระราาธิบดีจิกมีผู้ทรงเป็นที่รักใคร่ของประชาชน แต่วันนี้ซีเคร็ตของนำเสนอเรื่องราวของเจ้าหญิงเคซัง โชเดน วังชุก เจ้าหญิงแห่งภูฏานที่ทรงดำเนินชีวิตในรีตรอยแห่งพุทธศาสนาบ้าง เรื่องราวของพระองค์จะเป็นอย่างไร ติดตามไปพร้อมกับซีเคร็ตเลยค่ะ
อะไรคือความแตกต่างที่เด่นชัดที่สุดระหว่างศาสนาพุทธนิกายเถรวาทกับนิกายวัชรยานที่ชาวภูฏานนับถือครับ
ศาสนาพุทธนิกายเถรวาทจะเน้นหนักไปที่การปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือตนเองให้หลุดพ้นก่อนแล้วจึงไปช่วยเหลือคนอื่นแต่ศาสนาพุทธนิกายวัชรยานเชื่อว่า เราจะไม่สามารถหลุดพ้นได้ หากเราไม่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คนอื่นให้มีดวงตาเห็นธรรมก่อน... -
โอวาทธรรมหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
"การที่จะปฏิบัติให้ถึงโลกุตรธรรมนั้นไม่ใช่ของง่าย ไม่เหมือนจำเอาตามแบบจากตำราแล้วเอามาพูดคุยกันอวดกัน คือ สมาธิ ปัญญา นั้น ต้องปฏิบัติทางด้านจิตใจ ให้เป็นผู้รู้เองเห็นเองด้วยตนของตนเอง เริ่มตั้งแต่มีอินทรีย์สังวรขึ้นไป เพราะบรรดากิเลสน้อยใหญ่ เกิดจากทวารเหล่านี้ เมื่อความชั่วเกิดต้องมีสติรู้เท่าทัน ละป้องกันไม่ให้เกิด ละออกจากจิตจากใจของเรานี้ เอาจิตเอาใจของเรานี้ละ เอาจิตเอาใจของเรานี้ปล่อย เอาจิตใจของเรานี้ปล่อยวางจากความชั่วทั้งสิ้น"
๑๐ มกราคม ๒๕๖๐
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน
facebook เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
https://www.facebook.com/mettathamma -
การทำบุญสร้างวัดเป็นการแผ้วทางสู่โลกุตรธรรม
ความเสียสละอันใดจักใหญ่หลวงเท่ากับการสร้างพระอารามนั้น
ย่อมหาได้ยากเพราะผู้ที่จะร่วมจิตร่วมใจกันสร้างพระอารามนั้นได้
ต้องเป็นผู้มีการบริจาค คือ จาคะอย่างน้อยก็ทรัพย์สินส่วนตัว
เป็นที่ตั้ง หากผู้มั่งคั่งสมบูรณ์เป็นเศรษฐี การบริจาคนี้ก็จะไม่
เดือดร้อนสักเท่าไร แม้จะต้องบริจาคสถานที่เป็นธรณีสงฆ์ก็ดี
แม้จะต้องบริจาคทรัพย์สินเงินทอง เพื่อก่อสร้างอาคารกุฎีโบสถ์
วิหารก็ดี หากเป็นผู้มั่งคั่งอย่างถึงขนาดแล้ว การบริจาคทั้งหลาย
เหล่านั้นย่อมไม่เป็นเหตุนำให้เดือดร้อน แต่ก็ต้องเป็นผู้ที่ยกย่อง
กันว่า เป็นผู้ปราศจากตระหนี่มีใจกว้างขวาง เป็นผู้มีความเลื่อมใส
ศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาโดยแท้จริง การกระทำเช่นนี้ย่อม
ได้อานิสงส์มากอย่างหนึ่ง
เมื่อเจ้ามีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์ตามเจตจำนงในใจของเจ้า
ก็นับว่าเป็นกุศลอันดีอย่างยิ่งที่เจ้าจักแผ้วถางทางไว้เพื่อจัก
ประสบความสำเร็จในโลกโลกุตรธรรมเบื้องหน้า เจ้าอย่าดูถูก
ว่าปัจจัยที่เจ้าบริจาคเพียงส่วนน้อย จักไม่ทำให้การสร้าง
พระอารามสำเร็จลงได้ แม้น้ำเพียงหยดเดียวสามารถจะนำ
ความชุ่มชื่นมาสู่จิตใจผู้ที่อดน้ำฉันใด ก็น้ำแต่ละหยดทั้งหลาย
เหล่านี้... -
ภัยพิบัติป้องกันด้วยการแผ่เมตตาได้หรือไม่
ภัยพิบัติป้องกันด้วยการแผ่เมตตาได้หรือไม่
ถาม : พระอาจารย์คะ หากเราไม่อยากให้เกิด ภัยพิบัติ ในประเทศไทย เราสามารถใช้วิธีแผ่เมตตาให้กับแผ่นดินไทยได้ไหมคะ
พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ ไขปัญหาเรื่อง “ภัยพิบัติ” นี้ว่า
ตอบ : ไม่อยากให้เกิดภัยพิบัติคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเกิดแน่ไม่มีพลังไหนจะต้านพลังธรรมชาติ พลังจักรวาล หรือพลังกรรมได้ แต่เราอาจช่วยลดทอนได้ หากทุกคนช่วยกันสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตาให้กับบ้านเมือง
การส่งคลื่นที่บริสุทธิ์เช่นการแผ่เมตตาให้โคจรอยู่ในพื้นแผ่นดินนั้นๆ ในอาณาบริเวณนั้นๆ บ่อยๆ จากภัยพิบัติที่อาจจะมาแรงๆ ก็คงลดทอนกำลังลงได้บ้าง จาก 100% อาจเหลือสัก 70% - 80%
แต่ขณะกำลังจะเกิดภัยธรรมชาติซึ่งเป็นผลมาจากกรรมไม่ดีในอดีตส่งผล ถ้าคนทั้งหมดในประเทศชาติกำลังทำกรรมไม่ดีอยู่ เช่น ฆ่ากัน ตีกัน ทะเลาะกัน สิ่งที่จะเกิดก็จะให้ผลสองเท่า เกิดภัยพิบัติครบทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ โคลนถล่มน้ำท่วม ฝนตก พายุมา มีการเผาบ้านเผาเมือง ไฟไหม้ เละตุ้มเป๊ะทั้งแผ่นดิน... -
เชื่อมบุญอย่างไร ให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
เป็นการเชื่อมบุญที่สำคัญ เพราะจะทำให้เรานั้นเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ทาง ถ้าครอบครัวอันเป็นเบื้องต้นมีความสุข จะทำอะไรก็สำเร็จ เพราะมีแรงบุญช่วยกันหนุนนำ ขอให้สังเกตเถิดว่า คนที่ครอบครัวพร้อมสนับสนุน มักจะทำอะไรก็มีความสุขและสำเร็จไม่ยาก ไม่ว่าเรื่องนั้นจะแสนยากเย็นเพียงใด
หลายคนเรียกว่า”พลังใจ” แต่ขอเรียกว่า “พลังบุญ”
แต่ก็มีหลายคนแย้งว่า ไม่จริงหรอกฉันทำอะไรสำเร็จเพราะไม่ยุ่งเกี่ยวกับครอบครัว คนที่พูดอย่างนั้นยังเข้าใจที่ผิด เพราะว่าความสุขนั้นบางครั้งไม่ได้วัดกันที่ตัวเลข วัดกันที่เงินทอง หลายคนบอกว่าประสบความสำเร็จมากในการทำงาน
แต่ทว่าหัวใจปราศจากความสุข หันไปทางไหนไม่เห็นคนในครอบครัวกันเลยสักคน อย่างนี้จะสำเร็จไปทำไมกัน สู้ทั้งครอบครัวก็สุข งานก็สัมฤทธิ์ผลไม่ได้แน่นอน ยิ่งถ้าเก่งและมีคนในครอบครัวหนุนรับรองว่าจะต้องพบกับความสำเร็จจากที่เป็นอยู่อีกหลายเท่าตัว
การที่เกิดมาเป็นครอบครัวเดียวกันนั้น เป็นการยืนยันในเรื่องบุพเพสันนิวาสในเบื้องต้น ว่าต้องเป็นคนที่เคยร่วมทำบุญมาด้วยกันอย่างใกล้ชิดแน่นอน ในอดีตชาติต้องเคยเป็นญาติสนิทติดกันมา ทั้งเป็นพ่อแม่ พี่น้อง เป็นสามีหรือภรรยา... -
คาถากันงูที่พระธุดงค์สายพระป่าทุกองค์ใช้ป้องกันตัวทุกครั้งที่ออกธุดงค์
คาถากันงูที่พระธุดงค์สายพระป่าทุกองค์ใช้ป้องกันตัวทุกครั้งที่ออกธุดงค์
พระคาถาขันธปริตร (พระคาถากันงูร้าย)
พระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาแต่ครั้งพุทธกาล พระโบราณาจารย์นิยมใช้สวดสาธยายเมื่อออกจาริกธุดงค์ไปในป่าเขาลำเนาไพร
ตำนานคือ...มีภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัดตายในเมืองสาวัตถี ภิกษุทั้งหลายนำความไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ทรงทราบ พระองค์จึงตรัสว่า ที่เป็นเช่นนั้นเพราะภิกษุมิได้แผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔ หากแผ่เมตตาไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔ แล้วก็จะไม่ถูกงูกัดตาย ตระกูลพญางูทั้ง ๔ คือ ตระกูลพญางูชื่อ วิรูปักข์ ๑ ตระกูลพญางูชื่อ เอราบถ ๑ ตระกูลพญางูชื่อ ฉัพยาบุตร ๑ ตระกูลพญางูชื่อ กัณหาโคตมกะ ๑ ต่อแต่นี้ไป เราอนุญาติให้ภิกษุทั้งหลายแผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔ นี้ เพื่อคุ้มครองป้องกันตน
บทพระบาลีที่มีนามว่า ขันธปริตร เป็นบทสำหรับสาธยายแผ่เมตตาจิต ไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔
ขันธะปะริตตะคาถา (พระคาถากันงูร้าย)
วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม
ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ
อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม
จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง... -
กำลังจะบวชครับ ช่วยแนะนำวัดที่เน้นการปฏิบัติให้ผมหน่อยครับ
สวัสดีครับ
ตอนนี้ผมกำลังวางแผนที่จะบวช แต่ก็ยังไม่มีวัดที่จะตั้งใจไปบวช เข้ามาขอข้อมูลพี่ๆสมาชิกช่วยแนะนำให้หน่อยนะครับ
ผมเองอยู่ทางใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยากบวชใกล้ๆบ้านเพื่อสะดวกให้แม่และญาติพี่น้องได้สะดวก ผมไม่ได้จัดงานอะไรใหญ่โต เพราะไม่มีงบถึงมีก็ไม่คิดจะจัด แค่อยากบวชให้ผู้มีพระคุณเท่านั้น ตัวผมเองนับถือหลวงพ่อฤาษีลิงดำและหลวงปู่ปานเป็นที่สุด เคยฝึกมโนมยิทธิมาบ้าง ตอนอยู่บ้านก็อาศัยฝึกอานาปานสติ อยากบวชวัดเล็กๆ ที่เป็นวัดที่เน้นการปฏิบัติ ไม่ใช่วัดติดเมือง ไม่ใช่วัดออกงาน ตั้งปฏิญาณว่าถ้าได้บวชจะตั้งใจปฏิบัติให้ถึงที่สุด จะเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพื่อผู้มีพระคุณ และขัดเกลากิเลสในตัว ผมเองไม่ค่อยมีข้อมูลวัดของทางใต้เลย ถ้าพี่ๆสมาชิกท่านใดมีข้อมูลวัดดังที่ผมกล่าว ช่วยแนะด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ -
วิกฤติด้ามขวานไทย หลายจังหวัดจมบาดาลหรือนี่คือสัญญาณเตือนของธรรมชาติ?? (รวมภาพอุทกภัยภาคใต้จากหลายพื้นที่)
วิกฤติด้ามขวานไทย หลายจังหวัดจมบาดาลหรือนี่คือสัญญาณเตือนของธรรมชาติ?? (รวมภาพอุทกภัยภาคใต้จากหลายพื้นที่)
หลังกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 34 ลงวันที่ 06 มกราคม 2560 เรื่อง"ฝนตกหนักถึงหนักมากภาคใต้ตอนล่าง และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย "
โดยระบุว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมทะเลอันดามันตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง และพังงา ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ปริมาณฝนที่ตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้น และขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ทำให้หลายพื้นที่ภาคใต้ตอนนี้มีน้ำท่วมสูงชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก วันนี้เราได้รวบรวมภาพเหตุการณ์อุทกภัยภาคใต้ที่เกิดขึ้นแต่ละพื้นที่ให้ได้รับชมกัน เห็นแล้วก็อดนึกห่วงด้ามขวานไทยว่าจะจมบาดาลอย่างที่เคยมีคนทำนายไว้หรือไม่... -
กราบสาธุ!!! ชาวเน็ตชื่นชม "เจ้าอาวาสวัดดัง" เมืองคอน ไม่ทิ้งชาวบ้าน พายเรือแจกของผู้ประสบอุทกภัย กราบน้ำใจท่านจริงๆ
กราบสาธุ!!! ชาวเน็ตชื่นชม "เจ้าอาวาสวัดดัง" เมืองคอน ไม่ทิ้งชาวบ้าน พายเรือแจกของผู้ประสบอุทกภัย กราบน้ำใจท่านจริงๆ
วันที่ 6 ม.ค.60 ผู้สื่อข่าว จ.นครศรีธรรมราช รายงานว่าหลังจากเกิดน้ำท่วมทั่วพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน ล่าสุดหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ได้เร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการอพยพ แจกข้าวสาร อาหารกล่อง อย่างไรก็ตามพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนครอบคลุมทุกพื้นที่เป็นวงกว้าง ทำให้การช่วยเหลือชาวบ้านของหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่ทั่วถึง
ล่าสุดชาวโลกโซเชียลได้แห่ชื่นชมพระปลัดอำนาจ ฐิติญาโณ เจ้าอาวาสวัดหมน หมู่ 5 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเจ้าอาวาสพร้อมด้วยพระลูกวัดจำนวนหนึ่ง ได้พายเรือฝ่ากระแสน้ำท่วมออกจากวัด เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ถูกน้ำท่วมบ้านและไม่สามารถออกจากบ้านได้ ทำให้ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม
โดยเจ้าอาวาสวัดพร้อมพระลูกวัด ได้พายเรือพร้อมนำน้ำดื่ม อาหารกระป๋อง ข้าวสารที่มีผู้ใจบุญนำมาทำบุญที่วัดช่วงก่อนน้ำท่วม ไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่... -
คนที่ได้พระโสดาบันเขาทรงตัวอย่างไร
พระโสดาบัน
คนที่ได้พระโสดาบันเขาทรงตัวอย่างไร จะไปดูพระน่ะไม่ได้ ต้องไปดูชาวบ้าน เพราะพระตามปกติต้องอยู่คนเดียวอยู่แล้ว แต่ชาวบ้านเขามีคู่ครองก็ต้องดูคนที่เขาเป็นพระโสดาบัน มีคู่ครองแล้วเขาต้องหย่าจากสามีภรรยาไหม และคนที่เขายังไม่มีคู่ครองเขาเป็นพระโสดาบัน เขาแต่งงานหรือเปล่า
ก็รวมความว่าคนที่เป็นพระโสดาบันแล้ว เมื่อมีคู่ครองก็ไม่ต้องหย่าจากคู่ครอง คนที่ยังไม่แต่งงานก็แต่งงานได้ ก็ไม่เห็นมีอะไรมาก แถมคนไม่มีลูกก็มีลูกได้ แตไ่ม่ใช่คนหาลูกไม่ได้อย่างพระ เป็นพระโสดาบันแล้วมีลูกไม่ได้นะ อย่าไปเหมาหมด เมื่อวานนี้มีคนมาขอลูก อยากจะมีลูก ถามว่าเมื่อไรจะมีลูก ฉันก็ตอบไม่ได้
ก็เป็นอันว่าพระโสดาบันก็ชาวบ้านชั้นดี ทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ว่าจิตอยู่ในขอบเขตของศีล ๕ เท่านั้นเอง แต่ว่ามีอารมณ์ก้าวเข้าไปอีกนิด คือมีความรู้สึกว่า โลกมนุษย์มันเป็นทุกข์ เทวโลกและพรหมโลกพักทุกข์ชั่วคราว แล้วก็ต้องกลับมาเสวยทุกข์ใหม่ อารมณ์ใจของพระโสดาบันไม่ต้องการมนุษยโลก เทวโลก และพรหมโลก ต้องการจุดเดียวคือพระนิพพาน
⛭ ที่มา : ธรรมะปฏิบัติ ๔๗ หน้า ๕๘-๕๙
นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ -
พลานุภาพของการสวดมนต์ จากพระไตรปิฎก
พลานุภาพของการสวดมนต์ จากพระไตรปิฎก
พลานุภาพของการสวดมนต์ ทำให้จิตใจผ่อนคลาย เป็นสมาธิ ถือเป็นกิจกรรมสำหรับพัฒนาจิตวิญญาณอย่างหนึ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มานับพันปีตั้งแต่ยุคโบราณ ศาสนิกชนในศาสนาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพราหมณ์ ฮินดู พุทธ คริสต์ อิสลาม ล้วนแต่สวดมนต์กันเป็นกิจวัตร
ในศาสนาพุทธ มีการกล่าวถึงพลานุภาพของการสวดมนต์ไว้อย่างชัดเจน ในพระไตรปิฎก เช่น เมื่อพระมหากัสสปเถระ และ พระมหาโมคคัลลานะอาพาธ พระพุทธองค์เสด็จมาเยี่ยม และทรงสวด โพชฌงค์ 7 ประการ ให้แก่พระสาวกทั้งสอง เมื่อสวดจบ พระมหากัสสปะและพระมหาโมคคัลลานะก็หายจากอาการอาพาธนั้น หรือแม้เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ทรงพระประชวรเอง ก็โปรดให้ พระมหาจุนทะ สวดโพชฌงค์ 7 ประการถวาย เมื่อสวดจบ พระพุทธองค์ก็ทรงสรรเสริญโพชฌงค์ 7 และหายจากอาการประชวร
นอกจากนี้ยังมีกรณีอื่น ๆ อีกมากมาย ที่การสวดมนต์ช่วยให้หายป่วยได้ เช่น เมื่อท่าน คิริมานนท์ อาพาธ พระพุทธองค์มีรับสั่งให้พระอานนท์ ไปเยี่ยม และให้สวดแสดง สัญญา 10 ประการ ให้ฟัง เมื่อฟังจบท่านคิริมานนท์ก็หายจากอาการอาพาธ
แม้แต่ฆราวาสในครั้งพุทธกาล เมื่อป่วยจนใกล้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิต... -
ธรรมะไม่เคยล้าสมัย! วิบัติเพราะเทวฑัต...ศึกครุฑยุดนาค! พระพุทธเจ้าย้อนเล่าอดีตชาติพระสารีบุตร เกือบตายเพราะหลงไว้ใจนักบวชปลอม
ธรรมะไม่เคยล้าสมัย! วิบัติเพราะเทวฑัต...ศึกครุฑยุดนาค! พระพุทธเจ้าย้อนเล่าอดีตชาติพระสารีบุตร เกือบตายเพราะหลงไว้ใจนักบวชปลอม
เรื่องเล่าในครั้งนี้ นำมาจากชาดก เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์พญาครุฑ และพระสารีบุตรพญานาคราช
พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพญาครุฑ(ผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวทราม)
พระศาสดา เมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภการที่พระเทวทัตทำมุสาวาทแล้วถูกแผ่นดินสูบ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า วิกิณฺณวาจํ ดังนี้.
“บุคคลไม่พึงประทุษร้ายต่อมิตร เพราะผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวทรามที่สุด จะหาคนอื่นที่เลวกว่าเป็นไม่มี ชีเปลือยถูกอสรพิษกำจัดแล้วในแผ่นดิน ทั้งที่ได้ปฏิญญาว่าเรามีสังวร ก็ได้ถูกทำลายลงด้วยคำของพญานาคราช”
ความย่อว่า เมื่อพวกภิกษุพากันกล่าวโทษพระเทวทัต ในคราวนั้น พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในชาติก่อน พระเทวทัตก็กระทำมุสาวาท ถูกแผ่นดินสูบแล้วเหมือนกัน ดังนี้ แล้วทรงนำอดีตนิทานมาตรัส ดังต่อไปนี้
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในพระนครพาราณสี พ่อค้า ๕๐๐ คน แล่นสำเภาไปยังมหาสมุทร... -
วิธีปฏิบัติเพื่อให้ไปถึงพระโสดาบัน ต้องปฏิบัติอย่างไร?
วิธีปฏิบัติเพื่อให้ไปถึงพระโสดาบัน
ต้องปฏิบัติอย่างไร?
พระอาจารย์สุชาติ : ต้องทำบุญ ทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิ ทำใจให้สงบ แล้วพิจารณาร่างกายว่าไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ปล่อยวางร่างกายได้ ไม่ทุกข์กับความแก่ ความเจ็บ ความตาย ไม่กลัวความแก่ ความเจ็บ ความตาย ก็เป็นโสดาบันได้ ถ้ายังกลัวอยู่ก็ยังเป็นไม่ได้ แสดงว่ายังยึดติดกับร่างกายอยู่ ต้องเห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวเรา มันต้องแก่ เจ็บ ตาย
เหมือนกับเราเห็นร่างกายของคนอื่น ร่างกายของคนอื่น เราไปทุกข์กับเขามั๊ย เขาแก่ เขาเจ็บ เขาตาย เรานี้ไม่ทุกข์เลยใช่มั๊ย ร่างกายของเราก็เหมือนร่างกายของเขา เพียงแต่เรามาครอบครอง มายึดเป็นของเรา เราก็เลยไม่อยากให้มันแก่ เจ็บ ตาย พอไม่อยากมันก็เลยทุกข์ ก็ต้องไม่อยากไปอยากไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย ปล่อยมันแก่ไป เจ็บไป ตายไป
ถ้าอยากรู้ว่าปล่อยได้หรือไม่ ก็ลองไปทดสอบดู นั่งให้มันเจ็บ ปล่อยให้มันเจ็บไป ไม่ต้องลุก ไม่ต้องขยับ ปล่อยให้มันเกิดดับไปของมันเอง เดี๋ยวมันก็ดับไปเอง ความเจ็บเดี๋ยวมันก็หายไป เกิดแล้วก็ดับไป ถ้าปล่อยได้ก็แสดงว่าปล่อยความเจ็บได้แล้ว ความตายปล่อยได้มั๊ย ก็ลองไปอยู่ป่าช้าดู...
หน้า 401 ของ 414