คลังเรื่องเด่น
-
พระกาลองค์เดิม(ไม่ใช่พระกาฬ) สนทนากับหลวงพ่อฤาษีฯวัดท่าซุง
"ตายจากมนุษย์ไปเกิดเป็นพระกาล เป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก"
เรื่องที่ ๕๔
“..อาตมาขึ้นไปที่เทวสภาเพื่อไปหาพระกาลตามที่พระยายมราชบอก ก็พอดีท่านพระกาลออกมาจากที่ประชุมตอนนี้ท่านไม่แต่งชุดสีน้ำเงินแก่ ท่านแต่งเป็นเทวดาสวยมาก เพชรแพรวพราวเป็นระยับเต็มองค์ทั้งหมด เสื้อผ้าทั้งหมดที่จะว่างจากเพชรไม่มี และมีแสงสว่างมาก การมีเพชรก็ต้องสังเกตว่า ถ้าธรรมดาๆ เพชรจะสว่างไม่มาก แต่ถ้าเป็นพระอริยเจ้าเพชรจะสว่างมากขึ้น แต่ว่าท่านพระกาลท่านเป็นเพชรขนาดพระอนาคามี ก็มีความดีใจเพราะเห็นพระอริยเจ้า อาตมาจึงถามท่านว่า “เวลาท่านไปบอกว่าจะตาย ทำไมไม่ตายตามเวลา เทวดามีการโกหกด้วยหรือ” ท่านก็ตอบว่า “ผมไม่ได้โกหก ที่ผมไปบอกผมเห็นท่านไม่เกรงความตาย จะได้ตั้งใจให้มันแน่วแน่หลังจากบอกท่านแล้วท่านก็ปกติ ท่านก็ยอมรับว่าพร้อมแล้วเรื่องการตาย”ท่านบอก “ไม่ใช้คำว่าตายเขาใช้คำว่าไป ไปจากที่นี่ไปที่โน่น”ท่านบอกอีกว่า “ท่านไปนอนอยู่ที่นิพพานสบายใจผมก็เห็น ถึงเวลาตี ๓ ท่านลงมาผมก็เห็น” จึงถามว่า “เทวดาไม่หลับกันหรือ” ท่านก็บอกว่า “เมืองเทวดาก็ดี เมืองพรหมก็ดี เมืองนิพพานก็ดี ไม่มีกลางคืนกลางวัน เพราะไม่มีแสงอาทิตย์... -
หากต้องการทำพระคาถาเฃินล้านให้ได้ผล ต้องทำให้ครบตามกติกา
ญาติโยมที่ไม่เคยใช้พระคาถาเงินล้านแล้วอยากจะใช้ ขอให้ทราบว่า คนที่จะทำพระคาถาเงินล้านให้ได้ผล หรือที่เรียกว่า "ทำขึ้น" อันดับแรกเลย...ต้องประกอบไปด้วยศรัทธา คือ ความเชื่อมั่น
อันดับที่สอง...ต้องมีการสวดภาวนาอย่างสม่ำเสมอ เคยทำวันละเท่าไร ต้องทำวันละเท่านั้น
อันดับที่สาม...ต้องมีการให้ทานเป็นปกติ เพราะว่าทานเป็นพื้นฐานของโภคสมบัติและความร่ำรวยทั้งปวง
อันดับที่สี่...ต้องมีสมาธิที่ทรงตัว อาตมาเคยบอกว่าให้ภาวนาวันละ ๑๐๘ จบ ก็เพื่อว่าอย่างน้อย ๆ ในช่วงนั้นกำลังสมาธิของเราจะได้สูงขึ้น
ดังนั้น...ใครอยากจะทำพระคาถาเงินล้านให้ได้ผล ก็ให้ดูกติกาด้วยว่าเราทำได้ครบถ้วนหรือไม่ ? เราทำด้วยความเคารพศรัทธาหรือทำเพราะอยากรวย ? เรามีความเพียรพยายามปฏิบัติได้สม่ำเสมอทุกวันหรือเปล่า ? เรามีการทำบุญใส่บาตร ถือศีลปฏิบัติธรรมทุกวันหรือเปล่า ? เรามีกำลังสมาธิที่ทรงตัวหรือเปล่า ? ถ้าหากว่ากฎเกณฑ์กติกาเหล่านี้ครบ ท่านทำต่อเนื่องไม่เกิน ๒ เดือน จะเกิดผลแน่นอน
เรื่องของคาถาเป็นพื้นฐานของอภิญญา คนที่ทำคาถาขึ้น มีสิทธิ์ที่จะฝึกอภิญญาได้สำเร็จ คราวนี้คนที่จะฝึกอภิญญาได้สำเร็จ ต้องเป็นคนที่จริงจังสม่ำเสมอ... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๖ -
."ยารักษาโรคฟุ้งและเครียด" (สมเด็จพระสังหราชเจ้า)
.
"ยารักษาโรคฟุ้งและเครียด"
" .. "อุเบกขาเป็นธรรมในธรรมสำคัญหมวดหนึ่ง คือพรหมวิหารธรรม" มนุษย์ก็ได้ชื่อว่าเป็นพรหมแม้มีธรรมหมวดนี้สมบูรณ์ "คือมีพรัอมทั้ง เมตตา กรุณา มุทิตาและอุเบกขา"
อุเบกขา หมายถึง การวางใจเป็นกลางวางเฉย ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย จึงไม่หวั่นไหวด้วยความยินดีหรือความยินร้าย "หวั่นไหวเพราะความยินดี" แม้มากย่อม "เป็นเหตให้ฟุัง" หวั่นไหว "เพราะความยินร้าย" แม้มากย่อม "เป็นเหตุให้เครียด"
"อุเบกขาจึงเป็นธรรมโอสถ เครื่องรักษาโรคทางจิต ทั้งสอง คือทั้งโรคฟุ้งและโรคเครียด" ท่านผู้มีปัญญาเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของธรรมโอสถนี้ "จึงสนใจอบรมอุเบกขา เพื่อรักษาใจให้ปราศจากโรค" ให้เป็นใจที่สมบูรณ์สุขอย่างแท้จริง .. "
"แสงส่องใจ" ๓ ตุลาคม ๒๕๒๖
สมเด็จพระสังหราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๖ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๖ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๖ -
พระตาลปุฏเถระ | ผู้ตามรักษาจิต
พระตาลปุฏเถระ | ผู้ตามรักษาจิต | มหาบุรุษ มหาสตรี | เถรคาถา
----------------------
ขอบคุณที่มา https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๖ -
พระคาถาเงินล้าน
พระคาถาเงินล้าน
ถ้ากำลังใจของเรารักษากรรมฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือแม้กระทั่งพระคาถาให้ได้ผล สิ่งอื่น ๆ ก็จะได้ผลเหมือนกัน แค่เปลี่ยนวิธีการนิดเดียว ถ้าได้อย่างเดียวอย่างอื่นเท่ากับได้ไปด้วย
ดูตัวอย่างของอาตมาเอง สมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง ปี ๒๕๒๘ หลวงพ่อท่านให้พระคาถาเงินล้านมา พอ พ.ศ. ๒๕๒๙ ก็มานั่งคิดว่าสมัยหลวงปู่ปาน ท่านมีตัวอย่าง นายห้างประยงค์ ตั้งตรงจิตร ๑ นายแจ่ม เปาเล้ง ๑ นายเฉลิม คงทอง ๑ เขาเอาคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าไปทำจนได้ผล นายห้างประยงค์นี่รวยจนนับเงินไม่ถูก เขาสำรองเงินสองหมื่นบาทไว้ให้หลวงปู่ปานตลอดเวลา หลวงปู่ต้องการเมื่อไรเรียกได้ทันที เพราะหลวงปู่ทำการก่อสร้าง ก็มานั่งคิดว่าในเมื่อสมัยนั้นมีบุคคลตัวอย่างในการใช้พระคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า สมัยหลวงพ่อทำไมเราไม่มีบุคคลตัวอย่างในการใช้พระคาถาเงินล้าน รอมาเป็นปีก็ไม่มีใครเอาจริง ก็เลยตัดสินใจว่า "กูเอง" แล้วก็เริ่มเลย
ภาวนาแบบช้า ๆ เอาคุณภาพ วันละประมาณ ๓๐๐ จบเป็นปกติ ใช้เวลาสามปีเต็ม ๆ อยากจะบอกว่าปัจจุบันที่ทำอะไรคล่องตัว ต้องการเงินเท่าไรก็มีเท่านั้น เป็นอานิสงส์ของพระคาถาเงินล้านจริง ๆ... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๖ -
ทุกข์เมื่อไร เราต้องค้นหาสมุทัย
ทุกข์เมื่อไร เราต้องค้นหาสมุทัย คือ เหตุของทุกข์นั้น ซึ่งเรียกว่าตัณหา
ตัณหา คือ อยากได้ อยากมี อยากเป็น ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น
อาการของตัณหามีมากมายก่ายกอง เช่น อยากได้ความสุขจากการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การได้รส การได้สัมผัส การคิดปรุงแต่ง อยากได้ส่ิงที่ชอบให้มาก อยากได้คนเดียว อยากได้มากกว่าคนอื่น อยากได้เร็ว อยากได้ทันใจ อยากได้ยศ อยากได้เกียรติ อยากได้ชื่อเสียง อยากได้สิ่งที่เกินกำลังที่จะหามาได้ อยากได้สิ่งที่เกินวิสัยของมนุษย์ที่จะหามาได้หรือครอบครองได้ เช่น กายที่ไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องตาย ไม่อยากต้องมีสิ่งที่มีแล้ว ไม่อยากคบคนที่จำเป็นต้องคบ ไม่อยากอยู่ในชุมชนในสิ่งแวดล้อมของตน ไม่อยากให้ชีวิตเป็นอย่างที่มันเป็น อยากให้มันเป็นอย่างอื่น ไม่อยากให้คนรอบข้างทำอย่างนี้ พูดอย่างนี้ มองเราอย่างนี้ อยากให้เขาเป็นเหมือนที่เราคาดหวังเอาไว้ เหมือนที่เราชอบ
เราไม่ต้องกลัวว่าละตัณหาได้ชีวิตจะจืดชืด เพียงความอยากที่เร่าร้อนจางไปแล้ว ความอยากที่เป็นบุญเป็นกุศลสามารถเกิดขึ้น ทำหน้าที่ดลบันดาลใจแทนมันได้
พระอาจารย์ชยสาโร
ขอบคุณที่มา -
เคล็ดลับการสวดมนต์ให้ได้ผลดี
การสวดมนต์นั้น พวกเราต้องตั้งใจประกอบไปด้วยเมตตาธรรม ต้องการจะสงเคราะห์แก่สรรพสัตว์จริง ๆ ก็คือเสียงสวดของเราสามารถแผ่ไปได้กี่โลกธาตุ ก็ให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นได้รับประโยชน์ ได้รับความสุขด้วย ท่านที่อยู่ในกองทุกข์ ก็ขอให้ล่วงพ้นจากกองทุกข์ ท่านที่มีความสุข ก็ขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป
กระแสที่ส่งออกไปพร้อมกับเสียงสวดต้องไปด้วยกัน ลักษณะเหมือนกับสายน้ำไหลเอื่อย ๆ ไปเรื่อย ไม่ได้สนใจว่าสองฝั่งน้ำจะมีใครดีใครชั่ว ตั้งใจอยู่อย่างเดียวว่าผู้ใดสามารถรับประโยชน์ได้ ก็ขอให้เขาเหล่านั้นได้รับ ถ้าสามารถสวดในลักษณะอย่างนี้ ท่านทั้งหลายจะพัฒนาตนเองขึ้นไปได้อีกหลายขั้น หลังจากนั้นจะพัฒนาไปเป็นการสวดมนต์เพื่อสร้างทิพจักขุญาณ สวดมนต์เพื่อทรงฌานสมาบัติ หรือว่าจะสวดมนต์เพื่อความหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน เมื่อทำได้แล้วจะค่อย ๆ ควานหาเจอเอง
....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
"ทุกข์ยากอยู่ที่กายกับใจนี้" (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร)
.
"ทุกข์ยากอยู่ที่กายกับใจนี้"
" .. เดี๋ยวนี้คนเราไม่รู้จัก "ความชั่วสำคัญว่าดี" คนที่ดื่มสุราสาโท เล่นพ่งเล่นไพ่ การพนัน ขโมยโพยโจร "มันไม่รู้จักว่าดีว่าชั่ว" เมื่อลักเขาแล้ว เขาฆ่าไม่ใช่เหรอ มันดีที่ไหน เขาใส่คุกใส่ตะราง เรื่องมันเป็นอย่างงั้น "นั่นแหละไม่รู้จักความผิด" เหมือนกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ "เรามีพุทธะ เรารู้แล้ว สิ่งใดชั่วเราก็ไม่ทำ เราทำแต่คุณงามความดี"
เพราะฉะนั้น "ให้เข้าถึงศาสนา" ชั้นศาสนา "แก่นศาสนา คือเข้าถึงศาสนา คือ เข้าถึงกาย เข้าถึงใจของเราที่กระทำ" นี่คือการประพฤติปฏิบัติ นี่เราเกิดมาก็มีเท่านี้ มีกายกับใจเท่านี้ "ทุกข์ยากก็ไม่มีอื่นยาก ยากกายกับใจนี้" .. "
"อาจาริยบูชา"
(หลวงปู่ฝั้น อาจาโร) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๖ -
"ละความยึดถือได้ ทุกข์ใจมันก็ดับ" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"ละความยึดถือได้ ทุกข์ใจมันก็ดับ"
" .. บุคคลจะพ้นทุกข์ได้นั้น "ก็เพราะมาพยายามภาวนา ทำจิตใจให้สงบ" ทวนกระแสจิตเข้ามาในปัจจุบัน เห็นตามว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ตัวตน อะไรเมื่อมันมาเห็นแจ้ง "มันก็ตื่นตัว รู้ว่าตนนั้นมาหลงอาศัยอยู่ในของไม่เที่ยง" มาอาศัยในสิ่งที่ บังคับไม่ได้ ไม่เป็นไปตามใจหวัง
เมื่อมันรู้ดังนี้ "มันก็ปล่อยวาง นี่แหละ ไม่ยึด ไม่ถือ" ไม่สำคัญว่าเป็นตัวเป็นตน "ก็เป็นอันว่า รู้จักต้นเหตุแห่งทุกข์ คืออุปาทานความยึดถือ" เมื่อละความยึดถือนี่ได้ "ทุกข์ทางใจมันก็ด้บไปหมดเลย" เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อทราบ "ความจริงอย่างนี้แล้ว พึงพากันตั้งใจ ปาเพ็ญทางจิตใจนี้ให้เป็นไป" ดังแสดงมา .. "
"ธรรมโอวาท หลวงปู่เหรียญ"
พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๖ -
"ปฏิบัติธรรมเข้าถึงที่สุด คือใจ" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี )
,
"ปฏิบัติธรรมเข้าถึงที่สุด คือใจ"
" .. พระพุทธศาสนาสอนให้ "เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม" ผู้ใดทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ผู้ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว คนอื่นจะรับแทนไม่ได้ ๑
สอนให้ "ทำทาน" การสละสิ่งของของตนให้แก่สัตว์ อื่นแลบุคคลอื่น ด้วยจิตเมตตาปรารถนาความสุขแก่บุคคลอื่น ถึงวัตถุที่ให้นั้นจะเป็นของน้อยนิดเดียวก็ดี หากมากด้วยจิตเมตตาของก็จะเป็นของมากเอง ๑
สอนให้ "รักษาศีล" ด้วยจิตวิรัติเจตนางดเว้นตัวเดียว โดยมี "หิริ-โอตตัปปะเป็นมูลฐาน" จะเป็นศีล ๕-๘-๑๐-๒๒๗ ก็ตาม ถ้ามี "จิตวิรัติเจตนางดเว้นตัวเดียว" โดยมีหิริ-โอตตัปปะเป็นมูลฐานแล้ว เป็นอันถึงที่สุดของการรักษาศีลได้ทั้งนั้น ๑
"สมาธิ" สอนให้เห็นโทษของอารมณ์ที่เกิดมาอายตนะ ๖ ซึ่งมันแส่ส่ายไปยังโลกธรรมทั้งแปด เป็นทุกข์เดือดร้อน ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วย่อมสละปล่อยวาง แล้วย้อนเข้ามาอยู่ที่จิตแห่งเดียว ๑
"ปัญญา" สอนให้ค้นคว้าสิ่งทั้งหมดที่มาปรากฏอยู่ที่จิต ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีให้เห็นเป็นแต่เกิดจากปัจจัย เมื่อปัจจัยในสิ่งนั้น ๆ ดับไปแล้ว สิ่งเหล่านั้น ๆ ก็ดับไปหมด จะเหลืออยู่แต่ธรรมสิ่งเดียว ๑... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๖ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๖ -
"การพูดสำคัญจริง" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"การพูดสำคัญจริง"
" .. "การพูดสำคัญจริง ๆ" เมื่อนึกถึงที่กล่าวมา "ถ้าเป็นการพูดจริง เป็นธัมมะจริง" แม้ผู้พูดจะยังไม่ถึงกับปฏิบัติได้จริงตามคำที่นำไปพูด "แต่ถ้าพูดได้ตรงตามความจริง จะเป็นเพียงท่องจำมา ก็ย่อมยังประโยชน์ให้เกิดได้" ไม่มากก็น้อย
"ผู้พูดจึงเป็นผู้มีบุญมีกุศลในระดับความตั้งใจที่เป็นบุญเป็นกุศล" ที่มุ่งเผยแผ่พระพุทธธรรม "มุ่งให้ผู้ได้ยินได้ฟังได้มีความรู้ ความเข้าใจในพระพุทธธรรม" ที่นำออกพูดให้ใคร ๆ ทั้งหลายได้ยินได้ฟังได้รับรู้ด้วย .. "
"แสงส่องใจ" ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๖ -
บุคคลที่โกหก จักไม่กระทำความชั่วอื่นเลยนั้นไม่มี
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เมื่อวันที่ ๑ ก.ค. ๒๕๖๖
วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ มีคนเก่าคนแก่ แต่ว่าไม่เก่าและไม่แก่มาก ก็คือท่านนายอำเภอนภเดช เกลียวศิริกุล พาครอบครัวมาเยี่ยม ในฐานะที่รู้จักคุ้นเคยและร่วมงานกันมาก่อน ต้องบอกว่าอำเภอทองผาภูมิของเราโชคดีมาก เพราะว่านายอำเภอแต่ละท่านที่มาอยู่ที่ทองผาภูมินั้น ล้วนแล้วแต่เอาการเอางานทั้งสิ้น แม้แต่บางท่านที่มาเพื่อรอเวลาเกษียณแท้ ๆ แต่ก็ยังทุ่มเททำการทำงานจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย
เรื่องพวกนี้ เราทั้งหลายจำเป็นจะต้องดูและทำเป็นแบบอย่าง ท่านนายอำเภอนภเดช เกลียวศิริกุลก็ดี หรือว่าในปัจจุบันนี้ ท่านนายอำเภอชาคริต ตันพิรุฬห์ก็ตาม เมื่อรับหน้าที่อยู่นั้น ไม่ค่อยจะได้กลับบ้านกลับช่องกับใคร แม้กระทั่งวันเสาร์วันอาทิตย์ก็ออกไปคลุกคลีตีโมงอยู่กับชาวบ้าน
เมื่อทักท้วงว่าเป็นวันหยุดราชการ ท่านก็ยังบอกว่า "ผมรับเงินเดือนเต็มทุกวัน..!" ดังนั้น..ขึ้นชื่อว่าวันหยุดนั้นไม่มี มีแต่วันที่ต้องทำหน้าที่ถวายการรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ดูแลความสุขความทุกข์ของประชาชน..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า... -
"การภาวนาคือ น้ำดับไฟ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"การภาวนาคือ น้ำดับไฟ"
" .. เวลามันยุ่งมาก เราจดจ่อทางคำภาวนาของเราให้มาก "เช่นพุทโธ" ใครชอบคำไหนก็ตาม ตามแต่จริตนิสัยชอบ "พุทโธ หรือธัมโม หรือสังโฆ" หรือธรรมบทอื่นใดก็ตาม "ขอให้ถูกกับจริต ให้นำมาบริกรรม" ให้จิตเกาะอยู่กับคำบริกรรมนั้น
ให้รู้อยู่กับนั้น เช่น "พุทโธ ๆ ก็ให้รู้อยู่กับพุทโธ" สติควบคุมอยู่นี้ มันอยากคิดไปไหน บังคับไว้ไม่ให้คิด "คำว่า อยากคิดคือกิเลสละมันลากออกไป ให้อยาก ๆ นี่ละกำลังของกิเลส" มันอยากให้คิดนั้นคิดนี้
มันอยากเราก็ไม่ออกไป "เราบังคับไว้ไม่ยอมให้มันออก นี่เรียกว่าบังคับกัน" ในเบื้องต้นเป็นอย่างนั้น บังคับไม่หยุด เอ้าทางนั้นอยากมาก ทางนี้ตั้งใจบังคับมากเข้า "สักเดี๋ยวสู้ทางธรรมไม่ได้ แล้วค่อยสงบเข้ามา" สงบเข้ามาแล้วแน่วนิ่งนะ สงบแน่ว "ความคิดความปรุงที่เป็นเรื่องของกิเลสสงบตัวไปด้วยอำนาจของการภาวนา"
"นี้แหละที่เรียกว่าน้ำดับไฟ" คือจิตฟุ้งซ่านรำคาญ ผสมกับกองทุกข์ไปในขณะเดียวกัน "เราภาวนาบีบบังคับ พอจิตสงบมันก็เป็นน้ำดับไฟ ใจสบาย โล่ง" พากันจำทุกคน .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๖ -
ทำพุทธานุสติให้เป็นสมาบัติ
ทำพุทธานุสติให้เป็นสมาบัติ
-------------------------------------------
ที่มา https://www.youtube.com/@YorDhamma -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๖ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๖ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๖ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๖
หน้า 33 ของ 414