11111111111111* 11111111111111* แบ่งให้บูชาพระเครื่องหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พรแม่ศรี, 13 พฤษภาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    ใช่ครับ คนในเขตภาคตะวันออกนี้จะมีความเคารพพระเจ้าตากมาก ๆ เนื่องจากท่านมีปาฎิหารย์มากมาย ผมเองทุก ๆ ปีก็จะทำบายศรีชุดเล็กไปคาราวะท่านเป็นประจำทุก ๆ ปี ครับ
     
  2. พงศ์กฤต

    พงศ์กฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    5,699
    ค่าพลัง:
    +33,737
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Ton_Ton [​IMG]
    เห็นพระพระเจ้าตากพี่ทศแล้วนึกได้ว่าแถวบ้านพวกเรา (ระยอง) เค้านับถือท่านมากครับ
    เท่าที่เห็นถ้าเป็นพระเป็นหรียญ หรือพระบูชา ราคาแรงมากครับ

    ผมเคยได้ยินมาว่าหลวงปู่ทิมเองตอนที่ท่านปลุกเสกเหรียญพระเจ้าตาก ทางถึงกับอาพาสเลยครับ ท่านยังได้บอกลูกศิษย์ลูกหาว่า พระเจ้าตากท่านแรงมากครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ใช่ครับ คนในเขตภาคตะวันออกนี้จะมีความเคารพพระเจ้าตากมาก ๆ เนื่องจากท่านมีปาฎิหารย์มากมาย ผมเองทุก ๆ ปีก็จะทำบายศรีชุดเล็กไปคาราวะท่านเป็นประจำทุก ๆ ปี ครับ


    กราบอนุโมทนาครับเสี่ย ไม่ต้องไปก็ได้บุญ อิอิ ไปแล้วผมฝากตังทำบุญด้วยครับ <!-- google_ad_section_end -->
     
  3. Ton_Ton

    Ton_Ton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +4,750
    พี่ทศอย่าลืมน้องด้วยนะครับ อยากร่วมบุญด้วยนะครับ
     
  4. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    ก้าก ๆๆๆๆ งงเสี่ยครับครับ
    เอาใหม่ หลังจากที่ท่านได้สละราชสมบัติ ให้ ร. 1 พระเจ้าตากท่านได้ไปบำเพ็ญบารมี โดยไปจำศีลที่ (จำไม่ได้แถว ๆ ภาคใต้ ที่แห่งนั้นปัจจุบันเรียกว่าถ้ำๆๆ จำชื่อไม่ได้ ) ตามที่หลวงพ่อท่านบอก และด้อยู่ที่นั่นจนวาระสุดท้าย ได้ไปพระนิพพาน ครับผม
     
  5. พงศ์กฤต

    พงศ์กฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    5,699
    ค่าพลัง:
    +33,737
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พงศ์กฤต [​IMG]
    พระเจ้าตาก ท่านได้เป็นพระอรหันต์ ยังไงล่ะครับ เนื่องจากท่านได้บำเพ็ญบารมีมาถึง 16 อสงไขยกำไลแสนกัป แต่สาววกภูมิบำเพ็ญบารมีแค่ 1 อสงไขย ก้ไปนิพพานได้แล้ว ดังนั้นเมื่อพระเจ้าตากได้ลาพุทธภูมิ ปรารถนาที่จะเป็นสาวก จึงเป็นเรื่องง่าย<!-- google_ad_section_end -->

    ตอนเป็นกษัตริย์ ท่านเป็นพระอรหันต์ตอนเป็นกษัตริย์หรือครับ เสี่ยทศแล้วก็ลาพุทธภูมิ เป็นสาวกแทน กำลังมัน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ก้าก ๆๆๆๆ งงเสี่ยครับครับ
    เอาใหม่ หลังจากที่ท่านได้สละราชสมบัติ ให้ ร. 1 พระเจ้าตากท่านได้ไปบำเพ็ญบารมี โดยไปจำศีลที่ (จำไม่ได้แถว ๆ ภาคใต้ ที่แห่งนั้นปัจจุบันเรียกว่าถ้ำๆๆ จำชื่อไม่ได้ ) ตามที่หลวงพ่อท่านบอก และด้อยู่ที่นั่นจนวาระสุดท้าย ได้ไปพระนิพพาน ครับผม<!-- google_ad_section_end -->

    อ่อแค่นั้นอืม..หุหุหุ
     
  6. พงศ์กฤต

    พงศ์กฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    5,699
    ค่าพลัง:
    +33,737
  7. ลูกคนที่ 62

    ลูกคนที่ 62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +21,538
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อปรารภไว้ดังนี้ เรื่องสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช

    <dd> วันพระเจ้าตากสิน วันที่ ๒๘ ธันวาคม เราก็ไหว้ ไหว้พระเจ้าตากสินที่เป็นกษัตริย์ด้วย ไหว้พระเจ้าตากสินที่เป็นพระด้วย อันนี้เป็นการยืนยันว่าพระเจ้าตากสินก่อนจะสวรรคตเป็นพระ แล้วก็ไม่ได้ถูกฆ่าตาย สวรรคตที่นครศรีธรรมราช ถ้ำของท่านยังอยู่ใครอยากจะไปดู ก็ไปดู กุฏิหลังนั้นเขาทำเลียนแบบไว้

    </dd><dd>แต่ความจริงกุฏิที่ท่านอยู่จริงๆ ดีกว่านั้น เขาทำมีความผาสุกกว่านั้น เวลาท่านออกมาจากถ้ำ ท่านก็มีที่พัก มีห้องพัก ห้องร้อน ห้องเย็นของท่านตามสบายๆ แต่ความจริงไม่ได้สั่งลูกชายเป็นคนสร้าง ท่านอยู่ด้วยความสงบ คนที่เป็นกษัตริย์มาแล้ว เป็นทุกอย่างมาแล้วมันก็หมดความโลภ ความโกรธ ความหลง แล้วก็คนแก่ด้วย ก็หมดความรัก

    </dd><dd>ฉะนั้น การปฏิบัติธรรมของท่าน ก็เป็นด้วยความเคร่งครัด คือไม่ได้เคร่งเครียด คำว่า "เคร่งครัด" คือปฏิบัติตรงไปตรงมาใน "มัชฌิมาปฏิปทา" แต่ทว่า พระเจ้าตากสิน เป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็น "พระโพธิสัตว์" แล้วต่อมาภายหลัง ถามภาพนิมิต ระยะเวลาใกล้ๆประมาณ มกราคม ๒๕๓๓ เอากันแค่ วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๓๓

    </dd><dd>วันนั้นพบ พระเจ้าตากสินอีกครั้งหนึ่ง คือว่า พ.อ.สถาพรนำดาบเล่มหนึ่ง มาจากเมืองตาก เขาบอกว่า ดาบของพระเจ้าตากสิน เพื่อมาให้เจ้ากรมการสัตว์ทหารบกที่นครปฐม ซึ่งเป็นนายทหารม้ารุ่นพี่ของ พ.อ.สถาพรเมื่อคืนวันที่ ๒๙ เขามาให้ไว้ คืนนั้นก็ปรากฏว่า ตั้งไว้ในที่มีเครื่องสักการะตั้งไว้บนเตียงที่สมควร

    </dd><dd>พอตอนดึกเวลาประมาณสักหกทุ่ม เวลาจะนอนลงก็ทำจิตเป็นสมาธิตามปกติของพระ ก็เห็นภาพพระเจ้าตากสิน สวยงามมาก มาที่ดาบ

    </dd><dd>ถามว่า "มาทำไม?"
    </dd><dd>ท่านบอกว่า "ก็เขาว่าดาบของผมนี่ครับ ผมก็ทำให้มันหน่อย"

    </dd><dd>ถามว่า "ทำแล้วจะมีประโยชน์อะไรบ้าง?"
    </dd><dd>ท่านก็บอกว่า "ประโยชน์มี" ท่านอธิบายให้ฟัง แต่ขอปิด ไม่ใช่ปิด แต่ไม่บอกให้ทราบหลังจากนั้นก็คุยกัน

    </dd><dd> ถามว่า "เวลานี้ลาจากพุทธภูมิหรือยัง?"
    </dd><dd>ท่านบอกว่า "ยังไม่ได้ลา"

    </dd><dd>ก็ถามว่า "ตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้าจริงๆ หรือ..?"
    </dd><dd>ท่านบอกว่า "เวลานี้ปรากฏว่าพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเต็ม รอคิวกันยาวเหยียด ผมก็อยากจะลาจากพุทธภูมิเหมือนกัน แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ถ้าลาแล้วจะมีผลเป็นประการใด?"

    </dd><dd>ก็เลยบอกว่า "ถ้าอย่างนั้น ก็ไปคุยกับพระกันดีกว่า ไปด้วยกันไหมล่ะ?"
    </dd><dd>ท่านบอกว่า "ไปซิ! ที่มานี่ก็จะมาชวนไปด้วยกัน" ไปด้วยกัน ไปหาพระท่าน ไปถึงเมื่อกราบท่านแล้วก็ถามว่า...

    </dd><dd>"เวลานี้ พระสิน เทวดาสินนี่ เวลานี้เป็นพระโพธิสัตว์ ก็ชักเอือมๆ อยากจะทราบว่า จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่เท่าไหร หลังจากพระศรีอาริย์ไปแล้ว...?"

    </dd><dd>พระท่านก็บอกว่า "จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓๐ หลังจากพระศรีอาริย์นิพพานแล้ว"

    </dd><dd>ก็เล่นเอาเทวดาสินหน้าซีดเซียว ...ต้องไปนั่งยิ้มที่ชั้นดุสิตอีกถึง ๓๐ พระพุทธเจ้า ๓๐ พุทธสมัย ก็เลยถามพระท่านบอกว่า (พระอะไรน่ะห้ามถามนะ! ถ้าจะถามว่า ถามพระอะไร ก็บอกว่าพระก็แล้วกัน)

    </dd><dd>"ถ้าเทวดาสินจะลาพุทธภูมิ เมื่อไรจะไปนิพพาน"

    </dd><dd>ท่านบอกว่า "เทวดาสินนี่ ถ้าหากลาจากพุทธภูมิเป็นสาวกภูมิ กำลังเต็มมานานแล้วกำลังเหลือ ก็เหลือแค่ "เอหิภิกขุ" เท่านั้นก็พอแล้ว ถ้าตรัสว่า "เอหิภิกขุ" เทวดาสินก็เป็นพระสมบูรณ์แบบ"

    </dd><dd>ท่านก็เลยเข้าไปกราบพระ พระท่านก็บอกว่า "เอหิภิกขุ เจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด" เพียงเท่านี้ เทวดาสินก็กลับสภาพจากเทวดาเป็นเทวดาต่อไป
    </dd>


    <dd>คำว่า "เทวดาต่อไป" ก็หมายถึงว่าเป็น "วิสุทธิเทพ" นี่เป็นเรื่องของนิมิตลืมตา ไม่ใช่นิมิตหลับตา ไม่ได้เข้าฌานสมาบัติ ถ้าถามว่า ถ้าไม่เข้าฌานสมาบัติรู้ได้อย่างไร ก็บอกว่า ท่านแสดงภาพให้รู้ มันก็รู้ด้วยกันทุกคนแหละ ไม่ว่าใคร ไม่มีความจำเป็น

    </dd><dd>คนที่เห็นผีน่ะเข้าฌานหรือเปล่าล่ะ เดินไปแล้วก็ถูกผีหลอก ต้องเข้าฌานหรือเปล่า มันก็เปล่า สภาพนี่ก็เหมือนกัน ผีไม่ได้หลอก แต่ว่าผีมาชวนคุย ผีมาบอกตามความเป็นจริง ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าฌานสมาบัติ มันเรื่องง่ายๆ เรื่องไม่ยาก เรื่องนี้ก็จบกันไปแล้ว เวลามันเหลือ มันก็จบไม่ได้สิ</dd>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2010
  8. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    อืมๆๆๆ ขอบคุง ก๊าบ.บ..บ... ตัดสินใจไม่ถูกจริงๆนะเนี่ย สองเหรียญนี้ หุหุ
     
  9. พงศ์กฤต

    พงศ์กฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    5,699
    ค่าพลัง:
    +33,737
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ลูกคนที่ 62 [​IMG]

    เป็นผม ผมชอบเหรียญทำน้ำมนต์นะครับ
    แล้วแต่ว่ากำลังใจเรามั่นคงแค่ไหนครับ หากมั่นใจองค์ไหนก็เอาขึ้นคอเลย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อืมๆๆๆ ขอบคุง ก๊าบ.บ..บ... ตัดสินใจไม่ถูกจริงๆนะเนี่ย สองเหรียญนี้ หุหุ<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
    เอามาให้พี่1อย่างแล้วก็จะไดก้ไม่ต้องคิดมาก<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. ลูกคนที่ 62

    ลูกคนที่ 62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +21,538
    (((ต่อ)))เรื่องสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    <dd>ทีนี้ก็มาดูเรื่องราวของ พระเจ้าตากสินมหาราชกับพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ บ้าง พระเจ้าตากสินมหาราชนี่เก่งกล้า ความจริงก็ไม่ใช่กษัตริย์เป็นทหาร เมื่อถึงคราวจำเป็นเข้าจริง ๆ ก็นำทหารตีฝ่าข้าศึกออกด้วยกำลังเล็กน้อย ถ้าคิดกันจริง ๆ แล้ว ไม่น่าจะสู้ข้าศึกได้ แต่ก็ฟันฝ่าไปได้ แล้วก็ไปรวบรวมกำลังพล

    </dd><dd> การหนีไปแบบนั้นเงินทองไม่มีติดตัวกันแน่ แต่ก็ไปอาศัยเมืองชลบุรีบ้าง ระยองบ้าง แต่เมืองจันทบุรีไม่เข้าร่วมด้วย ในที่สุดก็รวบรวมกำลังตีเมืองจันทบุรี ได้เมืองจันทบุรีแล้ว ผลที่สุดก็ต้องคิดดูว่า ความลำบากยากแค้นเป็นอย่างไร เรื่องนี้จะไม่พูดกัน เอาแค่วินิจฉัย

    </dd><dd> เมื่อรวบรวมได้จริง ๆ กำลังไทยทั้งชาติ เวลานั้นเกือบจะทั้งชาติ อยุธยามีกำลังทหารมาก ยังเสียท่าข้าศึก ข้าศึกยังตีเมืองแตก แต่เวลานั้นพระเจ้าตากสินมหาราชทหารไม่เท่าไร เล็กน้อย แต่สามารถยกเข้าตีประเทศไทยกลับคืนเป็นเอกราชได้ และหลังจากนั้นต่อมา เมื่อไทยทรงตัวได้ พระเจ้าตากสินฯ ก็ทรงวางนโยบาย จะสละราชสมบัติเฉย ๆ ก็เกรงว่า ชาติไทยยังเป็นหนี้เขา กษัตริย์องค์ต่อไปต้องใช้หนี้ ไม่ใช่โกง แต่มันไม่มี ก็ต้องคิดว่า

    </dd><dd>การรบแบบนั้น ภาษีอากรมันจะเก็บได้อย่างไร มันเก็บไม่ได้ กู้เขามาแล้ว ดอกเบี้ยเขาก็จะเอา ต้นเขาจะคืน และท่านก็ไม่มีใช้ไม่มีจ่าย จึงวางแผนให้สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ เป็นกษัตริย์ ไม่ใช่สืบสันติวงศ์ ไม่ใช่ราชาภิเษก เป็นปราบดาภิเษก คำว่า ปราบดาภิเษก หมายความว่า ปราบปรามกษัตริย์องค์เก่า และขึ้นเป็นพระราชา นี่เรื่องนี้ก็เป็นนิทาน

    </dd><dd> ก็เป็นอันว่า พระเจ้าตากสินฯ ก็วางแผนให้รัชกาลที่ ๑ กับพระราชวังบวรฯ ไปตีเขมร เพราะเขมรแข็งเมือง ให้เอาลูกชายไปด้วย ถ้าตีได้ ให้ลูกชายครองเมืองเขมร กลับมาขอให้รัชกาลที่ ๑ มาปกครองประเทศ พระองค์ก็บวชแกล้งทำเป็นบ้า ในที่สุดพระยาสวรรค์ก็เสียท่า ไปคบกับพวกมายึดอำนาจ พระยาสวรรค์ไม่รู้เรื่องรู้ราว ยึดจริง ๆ หวังจะครองชาติ

    </dd><dd>แต่ความจริงเป็นความโง่ พระยาอภัย หลานรัชกาลที่ ๑ อยู่ที่นครราชสีมา ยกทัพมาจับพระยาสวรรค์ ในที่สุดก็ฆ่าตาย ถือว่าเป็นกบฏ แล้วต่อมาจึงมีคำสั่งให้รัชกาลที่ ๑ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ เวลานั้นยังไม่ใช่กษัตริย์ เป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ยกทัพกลับจากเขมร และเชิญเถลิงราชสมบัติ

    </dd><dd> ตามข่าวว่า ฆ่าพระเจ้าตากสินฯ แต่ความจริงไม่ได้ฆ่า เมื่อมาถึงเป็นการรู้เรื่องกัน ตกลงกันก่อนว่าจะให้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ท่านจะพ้นไป ก็ต้องแจ้งข่าวว่า เวลานี้สั่งประหารชีวิตพระเจ้าตากสินฯ แล้ว เพราะพระสติไม่ดี ถ้าไม่ทำอย่างนั้นก็ต้องชำระหนี้กัน เป็นการสืบสันตติวงศ์ แต่ความจริงพระเจ้าตากสินฯ บวชด้วยความบริสุทธิ์ ที่เขาบอกว่า จับพระเข้ามาเฆี่ยน แต่ความจริงไม่ใช่พระ พระมีความผิดเอามาสอบสวนจริง แต่ทว่าจะเฆี่ยนตี ก็เอานักโทษโกนหัวเข้ากับผ้าเหลืองนุ่งหน่อย ก็เฆี่ยน ให้ถือว่า พระผิดก็จะลงโทษ แต่คนผิดต้องทำ คนก็เลยเห็นว่าบ้า

    </dd><dd> แต่ในที่สุดรัชกาลที่ ๑ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ในเมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นพระ มีความประสงค์ไปจำพรรษาที่นครศรีธรรมราช ก็นำขบวนไปส่งกัน ออกเวลากลางคืน ก็เป็นอันว่า พระเจ้าตากสินมหาราชพ้นจากความเป็นกษัตริย์ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกขึ้นครองราชย์ เรามาเปรียบเทียบกันกับพระเจ้าพรหมมหาราชกับช้างพลายประกายพรึก เมื่อเสร็จศึกก็ปรากฏว่า ช้างพลายประกายพรึกออกไปจากสถานที่เลี้ยง คนตามไปก็กลายเป็นงูหงอนเลื้อยหนีไป

    </dd><dd>มาพระเจ้าตากสินมหาราชก็เช่นเดียวกัน เมื่อทำทุกสิ่งทุกอย่างเกิดความมั่นคงดีแล้ว ก็ทรงสละราชสมบัติด้วยพระปรีชาสามารถ คือ ใช้กำลังปัญญาอย่างยิ่ง และก็มอบหมายการงานให้พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ออกข่าวไปบอกว่าเวลานี้ถูกประหารชีวิตแล้ว ตายไปเสียแล้ว แต่เนื้อแท้จริง ๆ ก็ไปบวชอยู่ที่นครศรีธรรมราช เป็นการสละราชสมบัติเหมือนกับช้างพลายประกายพรึก

    </dd><dd> ก็รวมความว่า ถ้าเราจะนอนฝันกันจริง ๆ ฝันกันเล่นโก้ ๆ พวกได้ฌานสมาบัติอย่าคิดตามนะ พวกเขียนประวัติศาสตร์อย่าเขียนตาม ไม่จริงเรื่องฝัน คิดว่า พระเจ้าตากสินฯ ก็คือ อาจารย์ของ พระเจ้าพรหมมหาราช สมัย นั้น ทีนี้ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ก็เหมือนกับพระเจ้าพรหมมหาราชสมัยนั้น ถ้าคิดอย่างนี้ใครจะมีความคิดอย่างไร มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง ก็เป็นอันว่า นี่เป็นแค่เรื่องวินิจฉัยหรือเปรียบเทียบ เรื่องอาจจะจริงก็ได้ ไม่จริงก็ได้ทั้ง ๒ อย่าง เพราะไม่มีใครยืนยัน

    </dd><dd> รวมความว่า ประเทศไทยของเรานั้น ในเมื่อมีความจำเป็นก็มีคนมีบุญเข้ามาช่วยอยู่เสมอ ก็ถือว่าเป็นบุญของคนไทย เอาเวลานี้ สำหรับวันนี้ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๓๓ เวลานี้ประเทศไทยกำลังมีความมั่งคั่ง เงินคงคลังมีมาก ก็ถือว่าชาติไทยเมื่อถึงคราวใกล้จะย่อยยับ เวลานั้นเงินคงคลังขาด เป็นหนี้เขายับเยิน

    </dd><dd>เวลานี้ พล.อ.ชาติชาย ชุณะหวัน เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ ๒ ปี เงินคงคลังเหลือใช้ มีเป็นแสน ๆ ล้าน ก็แสดงว่า เมืองไทยเป็นเมืองมีบุญ พอจะร่อแร่ทีไร ก็มีคนดีเข้ามาทุกที คำว่า คนดี สมัยนั้น ใครดีบ้าง อันนี้ก็ไม่ทราบ บรรดาท่านพุทธบริษัท ก็ถือว่าทุกท่านที่ร่วมกันบริหารดีก็แล้วกัน เวลาหมดแล้ว ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธ ศาสนิกชนผู้รับฟัง และผู้อ่านทุกท่าน..สวัสดี.
    </dd>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2010
  11. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    เท่านั้นท่านพี่ก้ไม่มีที่จะเก็บแล้วมั้ง....หุหุ
     
  12. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    3. ต่อ ๆ นะครับ ตามที่ท่านเจ้าอาวาสท่านได้เล่าไว้เมื่อครั้งที่ท่านมาโปรดลูกศิษย์ที่ระยอง
    หลังจากที่เสียกรุงใหม่ ๆ บ้านเมืองระส่ำระส่าย ผู้คนล้มตายบางส่วนถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย หลังจากที่ท่านได้หลบหลีกมาตั้งหลักในเขตภาคตะวันออกแล้วนั้น มีกลุ่มคนไทยบางกลุ่มต่อต้านพระองค์ท่านเนื่องจากพระองค์ท่านมิได้มีเชื้อกษัตรย์มาแต่เดิม แต่มาจากสามัญชนทั่วไป ดังนั้นจึงเรื่องที่ลำบากมากในการรวบรวมไทยให้เป็นหนึ่ง แต่ด้วยพระปรีชาสามารถ ท้ายที่สุดพระองค์ก็สามารถ รวบรวมคนไทยให้เป็นหนึ่งเดียวได้ และสามรถที่จะกอบกู้เอกราช คืนผืนแผ่นดินของไทยกลับคืนมา ซึ่งผืนแผ่นดินธรรมแห่งนี้ เป็นผืนแผ่นดินที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเลือกเขตนี้คือประเทศไทยนี้ เป็นเขตประกาศพระศาสนาให้ครบ 5000 ปี ดังนั้นเมื่อคราวใดที่แผ่นดินลุกเป็นไฟ ก็จะมีมหาพระโพธิ์สัตว์จะมีคอยช่วยอยู่เสมอและตลอดไป
     
  13. ลูกคนที่ 62

    ลูกคนที่ 62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +21,538
    โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    พูดถึงการสิ้นอำนาจของพระเจ้าตากสินมหาราชนี่ ตามประวัติศาสตร์เห็นจะเป็นเขียนผิด ความจริงคนเขียนประวัติศาสตร์เขียนไม่ผิด แต่เขียนถูกตามรับสั่งของพระเจ้าตากสินมหาราช กับสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เพราะถ้าหากเขียนถูกตามเรื่องราว ประเทศไทยเราอาจจะต้องย่อยยับเพราะเวลานั้นเป็นการแสดงละครอย่างดีมาก

    สมัยนั้นบ้านเมืองเรายับเยินมาก คนไทยแตกกระจัดกระจาย ไทยไม่เป็นไท ท่านจำต้องมารวบรวมไทย การเกิดเป็นพระยาศรีสิทธิสงคราม นายทหารเอกก็ต้องทำหน้าที่นี้

    อยุทธยาเราแตกครั้งหลังเพราะอะไร เพราะคนไทยเราแตกความสามัคคี ไม่รักความเป็นไท คล้ายๆ กับคนไทยใกล้ๆ สมัยปัจจุบันที่ชาวบ้านไม่รู้จักคำว่า รัฐธรรมนูญเป็นยังไง ก็เรียกร้องรับธรรมนูญ ชาวบ้านเขารังเกียจสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เพราะมาเคี่ยวเข็ญเขา เข้าไปแล้วไม่ได้เป็นผู้แทนจริงๆ ไปกอบโกยอำนาจ กอบโกยทรัพย์สิน ทำให้เขาเสียหายมาก คนที่อยากจะเป็นผู้แทนราษฏรก็ให้คำมั่นสัญญากับบรรดาประชาชนไว้ยังไง แต่เวลาเข้าไปในสภาแล้วก็อยากเป็นรัฐบาล แทนที่จะเข้าไปควบคุมรัฐบาล กลับอยากเป็นรัฐบาลซะเอง ความมุ่งหมายปลายทางที่ประกาศให้สัญญากับประชาชนไว้ก็ไม่เป็นไปตามความมุ่งหมาย การเมืองของประเทศใดก็ตาม ที่ยังมีพรรคการเมืองอยู่ เราก็ยังไม่เรียกประชาธิปไตย ถ้าเป็นพรรคเป็นกลุ่มเขาเรียกคณาธิปไตย แต่อย่างไหนจะดีไม่ดีไม่ขอวิจารณ์

    พระเจ้าตากสินมหาราช พระองค์เป็นคนรักชาติ เมื่อกกรุงศีอยุทธยาแตกครั้งหลังยับเยินมาก พระองค์มีกำลัง ๕๐๐ คน ตีฝ่าข้าศึกออกไป รวบรวมกำลังคนได้ไม่เกินพันคน ก็กำลังใหญ่ๆ ๑๐ จุด ของกำนันจันนั่นแหละ กลับมากู้กรุงศรีอยุทธยา สามารถกู้คนไทยได้ทั้งชาติ นี่เราต้องถือว่าเป็นบารมีของพระเจ้าแผ่นดินที่สามารถรวบรวมคนสำคัญไว้ได้ เช่น พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกก็ดี กรมพระราชวังบวรก็ดี นี่ต้องถือเป็นคู่บารมี เป็นคนที่มีบุญคุณต่อประเทศชาติมาก เวลานั้นตอนกรุงแตกมีคนขายชาติ แต่สมัยพพระเจ้าตากไม่มคนขายชาติ เพราะถ้ามีคนขายชาติละก็ ถูกกำจัดเสียหมดไม่เหลือ ดูคนคิดคดทรยศอย่างพระยาสรรค์ก็ถูกประหารชีวิต การปกครองกันต้องทำแบบนี้จึงจะถูก ไม่ควรปล่อยให้ไอ้พวกขอมเก่าเข้ามาทำลายชาติ เวลานี้เรามักนิยมขอมเก่ากัน ทั้งๆ ที่มันทำลายชาติไทยตั้งหลายวาระ และมันก็อ้างว่าจะทำโน่นให้เจริญ จะทำนี่ใหห้เจริญ แต่มันบ่อนทำลายทุกอย่าง

    เมื่อพระเจ้าตากสินขึ้นมาเป็นกษัตริย์ พระองค์ไม่ได้เป็นลูกกษัตริย์ ไม่มีราชสมบัติมาก่อน การรบทัพจับศึกมีไม่ได้หยุด นึก ดูก็แล้วกัน ท่านเป็นพ่อบ้าน เพียงแค่พ่อบ้านแม่เรือน ก็รู้อยู่ว่าการจับจ่ายใช้สอยมันมากมายเพียงใด ถ้าเป็นเรื่องของประเทศล่ะจะจับจ่ายใช้สอยกันมากมายขนาดไหน เงินที่ใช้สอย เบี้ยหวัด เบี้ยบำนาญ เงินเดือนข้าราชการ ของท่านก็ไม่มี ผลที่สุดในฐานะที่พระองค์มีเชื้อสายจีนมาก่อน ท่านจึงต้องอาศัยจีนคือ "ขอยืมเงินเจ้าสัวคนจีนเขามา" เพราะเป็นหนี้ เบี้ยหวัด เบี้ยบำนาญข้าราชการเขาอยู่มาก


    ฉะนั้น มาบั้นปลายของชีวิต
    ท่านจึงมาคิดว่า "ถ้าเราจะเป็นกษัตริย์ต่อไป เราก็ต้องใช้หนี้เขา เงินก็ไม่มีใช้หนี้เขา" จึงได้เรียกสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก หรือสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เข้ามาพบในวันหนึ่ง ให้ทรงเครื่องรบขัดดาบมาด้วย เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกท่านก็แปลกใจคิดว่าคงจะมีเรื่องร้าย ครั้นเข้ามาแล้วก็ปรากฏว่า พระเจ้าตากสินอยู่ ทรงอยู่องค์เดียวในห้องพระ ทรงขาวทั้งชุด นั่งชักลูกประคำ พระพุทธยอดฟ้าเห็นแบบนั้นก็ไม่กล้าเข้ามา เพราะขัดดาบมาด้วย พระเจ้าตากสินเห็นเข้า ก็ทรงเรียกว่า

    "ด้วงเรอะ เข้ามาซิ เอาดาบเข้ามาด้วย" (ความจริงท่านเป็นเพื่อนกัน)

    พระพุทธยอดฟ้าจะถอดดาบเก็บข้างนอกก็จำเป็นต้องถือเข้ามา แล้ววางดาบไว้ห่างๆ หมอบคลานเข้าไปเฝ้า

    พระเจ้าตากสินรับสั่งว่า "หยิบดาบมาให้ใกล้"

    พระ พุทธยอดฟ้าจุฬาโลกก็เลยเอามือกกระทุ้งดาบออกนอกประตูไป ในฐานะที่พระมหากษัตริยืประทับอยู่องค์เดียว การถือดาบเข้าไปอย่างนั้นย่อมไม่เหมาะ และอยู่ในชุดนักรบ

    พระเจ้าตากสินจึงถามว่า "ด้วง อยากเป็นพระเจ้าแผ่นดินไหม"

    พระพุทธยอดฟ้าก็กราบทูลว่า "ไม่เคยคิด พระพุทธเจ้าข้า"

    พระเจ้าตากสินจึงบอกว่า "ด้วง จะต้องเป็นพระเจ้าแผ่นดิน" แล้วทรงเล่าเรื่องตามความเป็นจริงให้ทราบ แล้วบอกว่า "อีก ไม่กี่วัน เจ้าสัวเขาจะมาทวงเงินเขา ด้วงก็รู้อยู่แล้วนี่ว่า ฉันเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ยากจนที่สุด ฉันไม่มีทรัพย์สินที่ไหนมาเลย ต้องกู้เงินเจ้าสัวเขามาจับจ่ายใช้สอย เวลานี้ฉันเป็นหนี้ เบี้ยหวัด เงินเดือน เงินปี ของข้าราชการอยู่มาก ยังชำระไม่หมด การรบทัพจับศึกก็ไม่เสร็จ ทำอยู่ตลอดเวลา การจับจ่ายใช้สอยมันก็มาก ถ้าฉันจะเอาเงินไปใช้หนี้เขาก็ไม่พอ เราก็ต้องกู้หนี้ยืมสินเขาใหม่อีก และเงินเก่าเราก็ไม่มีให้เขาพร้อมดอกเบี้ย ฉันลำบากมา ถ้ากระไรก็ดี ด้วงจะต้องเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เวลานี้เขมรแข็งเมือง ให้ด้วงยกไปตีเขมร เอาลูกชาย ๒ คนของฉันไปด้วย และเมื่อตีเขมรได้แล้ว ไม่ต้องเอาลูกชายฉันมา ให้ครองอยู่ที่นั่น ด้วงกลับมา ด้วงต้องเป็นกษัตริย์ สำหรับเงินที่จะต้องใช้ให้แก่ข้าราชการ เบี้ยหวัด เงินปีต่างๆ ที่คั่งค้างฉันเตรียมไว้แล้ว และเงินส่วนหนึ่งสำหรับใช้ภายในประเทศฉันก็เตรียมไว้แล้ว และเงินอีกส่วนหนึ่งที่จะใช้เวลาด้วงเป็นกษัตริย์ฉันก็เตรียมไว้แล้ว รวมเป็น ๓ ส่วน ด้วยกัน ซึ่งในระยะเวลาไม่ช้า เจ้าสัวเขาจะมาทวงเงินของเขา ซึ่งตอนนี้แหละ ด้วงจะต้องเป็นพระเจ้าแผ่น และฉันจะต้องพ้นจากตำแหน่งพระเจ้าแผ่นดิน แต่ด้วงทำงานคราวนี้ต้องทำในรูปปฏิวัติ หรือในรูปขบถยึดอำนาจจากฉัน แต่การยึดเฉยๆ ใครๆ เขาก็จะคิดว่าด้วงเป็นคนอกตัญญู เห่อเหิมมาก ฉันทำทีเหมือนว่าเป็นนักบวช และทำเป็นสติฟั่นเฟือน ในที่สุดกลับมาแล้ว ด้วงก็จับฉันประหารชีวิต แต่การประหารชีวิตฉันนั้น จะประหารจริงหรือหลอก ก็ให้เป็นวิธีของด้วง ฉันพร้อมยอมตายเพื่อชาติ"

    เห็นไหมลูกหลานที่รัก คนดีท่านทำอย่างนี้ ท่านไม่มานั่งเมามันเพื่อต้องการรัฐธรรมนูญ ต้องการรัฐสภา เวลาประกาศกับประชนก็ว่าต้องการเป็นตัวแทนของประชาชนชาวไทย แต่เมื่อเลือกเข้าไปแล้วก็อยากเป็นรัฐมนตรีมุ่งความเป็นใหญ่

    แต่นี่พระเจ้าตากสินมหาราช ท่านไม่ต้องการอย่างนั้น เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกเวลานั้นได้ทราบความเป็นจริง และพระเจ้าตากสินมีพระทัยมั่นคงต้องการให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ไม่อย่างนันประเทศไทยเราจะทรงตัวอยู่ไม่ได้ เพราะท่านกู้เงินของคนจีน ถ้าไม่มีให้เขา ก็อย่าลืมว่าประเทศไทยกับประเทศจีนน่ะ กำลังมันต่างกัน เราเองก็เพิ่งตั้งตัวได้ใหม่ๆ เพียงแต่จีนเขาใช้กำลังใกล้ๆ กับเรา เราก็สู้เขาไม่ได้ ถ้าเขาหหาว่าเราโกงเขา นี่เนื้อแท้ความจริงเป็นอย่างนี้

    แต่ทว่าต่อภายหลัง พระยาสรรค์บุรี ทำงานเกินอำนาจที่สั่งไว้ จับพระเจ้าตากสินเอาจริงๆ จับแบบเอาจริง แต่ตอนเข้าไปจับนั้น ท่านท้าวผกาพรหมบอกว่า ขุนดาบ ๑๐ พระยาของพระเจ้าตากสินนี่จะสู้ เพราะมีกำลังรักษาพระองค์อยู่พอสมควร พระยาสรรค์บุรี ไปเอากำลังมาจากกรุงศรีอยุทธยา เนื้อแท้จริงๆ ถ้ารบกันพระยาสรรค์ก็หัวขาด แต่ทว่าพระเจ้าตากสินคิดว่า ถ้าเกิดสู้กันจริงๆ งานที่คิดไว้ก็ไม่เป็นผลเพราะว่า ขุนดาบ ๑๐ พระยานี่ไม่รู้เรื่อง ถ้ารบก็ต้องรบถึงขั้นแตกหักกันจริงๆ พระองค์จึงห้ามปราม ๑๐ พระยานั่น ปล่อยให้พระยาสรรค์จับ

    เรื่องการลงโทษ พระสงฆ์ ของพระเจ้าตากสินเรื่องนี้ก็หลอกกัน เมื่อพระสงฆ์ทำผิดเรียกมาสอบสวน เวลาจะลงโทษ ก็เอานักโทษมาโกนหัวเอาผ้าเหลืองนุ่งแล้วก็เฆี่ยน เขาก็หาว่าท่านบ้าเฆี่ยนพระ แต่ความจริงพระไม่ได้ถูกเฆี่ยน พระองค์ทำให้คนอื่นเขาเห็นว่าบ้า นี่สติฟั่นเฟือน การจับให้ออกจากพระมหากษัตริย์ก็เป็นของธรรมดา

    เมื่อพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทราบเรื่องพระยาสรรค์ทำเกินเหตุ จึงยกทัพกลับจับพระยาสรรค์บรี ประหารชีวิตเสีย ได้รับสถาปนาเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นสมเด็จพระพุทะยอดฟ้าจุฬาโลก มีคำสั่งให้เอาพระเจ้าตากสินมหาราชไปประหารชีวิต โดยการใส่กระสอบแล้วทบด้วยท่อนจันทน์จนตาย แต่คนที่อยู่ในกระสอบไม่ใช่ พระเจ้าตากสิน ครั้งแรกมีราชองครักษ์ของพระองค์มีความจงรักภักดีมาก อาสาตายแทนพระเจ้าตากสิน แต่สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าไม่เอา ให้เอานักโทษประหารชีวิตมาใส่กระสอบทุบด้วยท่อนจันทน์ตายแทน ราชองครักษ์นั้นก็ถูกฆ่าด้วยในฐานะที่รู้เรื่องเข้าเดี๋ยวปากจะมากไป และแล้วกลางคืนวันหนึ่งก็ลงเรือจากปากท่อไปยังนครศรีธรรมราช บวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา แถวนั้นเขาเรียกว่า "หลวงตาพรหมมา" ปัจจุบันเรายังพบซากกุฏิอยู่เชิงเขาแถวนั้นเป็นป่าลึก สงัดมาก ท่านเจริญพระกรรมฐานอยู่ที่นั้นจนสิ้นชีวิต

    หลังจากนั้นไม่นาน สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ก็สั่งประหารชีวิตลูกชายพพระเจ้าตากสิน ๒ คน บอกว่า "ตัดบัวแล้วจงอย่าไว้ใย" แต่ปรากฏว่าลูกชายคนหนึ่งไปโผล่ที่นครศรีธรรมราช เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทำงานที่นั่น อีกคนหนึ่งไปค้าขายเรื่อสำเภากับต่างประเทศ

    เป็นอันว่า พระเจ้าตากสินมหาราชก็ถูกประหารชีวิตตามรับสั่งของสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ตามความเป็นจริงท่านเล่าให้ฟังอย่างนี้

    มิ ช้ามินานเจ้าสัวเขาก็มาทวงเงินคืน พร้อมกับเอาถ้วยโถโอชามมาขายด้วย พอเรือสำเภาของเจ้าสัวเลี้ยวเข้ามาในเขตจันทบุรีตราด ก็ถูกลมสลาตัน คือ ลมหอกลมดาบพักกระหน่ำจนเรือจมอยู่ที่นั่น

    เป็นอันว่า ทั้งสองพระองค์ยอมเสียชื่อเสียง เสียศักดิ์ศรีทั้งสองฝ่ายก็ต้องขอบคุณท่าน "สมเด็จพระเจ้าตากสินมาหาราชยอมเสียชื่อเสียงให้คนเขาเข้าใจว่าเป็นบ้า และถูกออกจากกษัตริย์"

    "สมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ก็ต้องยอมเสียชื่อในฐานะเป็นขบถ" แต่ความจริงทั้ง ๒ ท่านนี้ทำเพื่อไทยทั้งชาติ
    ให้ชาติไทยทรงอยู่


    ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ "ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม"

    เท่าที่พ่อนำเอาเรื่องของพระเจ้าพรหมมหาราชมาพูดก็ดี หรือนำเอาเรื่องของพระราชาองค์เก่าๆ ตั้งแต่พระราชบิดาของพระเจ้าอชุตราช มาพูดก็ดี และก็มาพุดถึงการรบก็ดี พ่อมีความมุ่งหมายอยู่ว่า "ต้องการให้ลูกรักของพ่อทุกคนรู้จักความจริง" ความจริงที่เราหนีไม่ได้ที่พระพุทธเจ้าเรียกว่า "สัจจธรรม" คือธรรมะที่พระอริยเจ้าทรงไว้ หรือ ธรรมะที่ทำให้คนเป็นพระอริยเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2010
  14. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    สาธุๆ โมทนาด้วยก๊าบ.....
     
  15. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    โมทนา สาธุ เรื่องราวต่างๆ หากหลวงพ่อกล่าวไว้..ถือว่าที่สุดแล้ว..เชื่อหมดใจเจ้าค่ะ

    ผู้มีพระคุณทั้งหลาย ท่านไปรออยู่ที่พระนิพพานแล้ว

    ขอให้พวกท่านได้โปรดเมตตาสงเคราะห์พวกเราลูกหลานให้เข้าถึงกระแสแห่งมรรคผลนิพพานในเร็ววันด้วยเถิดเจ้าค่ะ
     
  16. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    4. กลอนที่พระเจ้าตากสินทรงประพันธ์ไว้
    [​IMG]

    จบบริบูรณ์ (แบบย่อ ๆ) หากมีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2010
  17. ลูกคนที่ 62

    ลูกคนที่ 62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +21,538
    สาธุ โมทนาด้วยเช่นกันครับ วันนี้ได้รู้ถึงเกล็ดประวัติศาสตร์ สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช และการปฏิบัติของพระองค์
     
  18. Ton_Ton

    Ton_Ton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +4,750
    สุดยอดเลยครับพี่ทศ พี่ประเสริฐ ข้อมูลแน่จริงๆครับ
     
  19. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    [​IMG]


    สาธุๆ ขอโมทนาบุญกับพี่ทศครับ ที่นำข้อมูลดีๆมาเผยแพร่ครับ
     
  20. พงศ์กฤต

    พงศ์กฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    5,699
    ค่าพลัง:
    +33,737
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...