11111111111111* 11111111111111* แบ่งให้บูชาพระเครื่องหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พรแม่ศรี, 13 พฤษภาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    เหรียญของขวัญวันเกิด รุ่น 3 ติดโบว์ยันต์บารมี 30 ทัศ องค์พระสวยกริ๊บ ๆ (หน้า 385 #7693)
    บูชาองค์ละ 1700 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>พระคำข้าว รุ่น 2 ,พระหางหมาก ปิดทอง หลวงพ่อท่านปรารภว่าพระคำข้าวนั้น สมเด็จองค์ปฐมเสด็จมาเป็นประธานในพิธี และจะเน้นหนักไปในทางลาภ ส่วนพระหางหมากนั้น จะหนักไปในทางป้องกัน ท่านจึงแนะนำให้แขวนบูชาคู่กันเลย (เบาๆ) (หน้า 488#9742)
    บูชาคู่ละ 1,000บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>*****************ปิดรายการ*****************
     
  2. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174

    รับทราบการจองครับ โอนแล้วโทรแจ้ง จัดส่งที่แปดริ้วเหมือนเดิมนะครับ 555
     
  3. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    ขอให้สมหวังนะคร้าบ.บ.บ.....



    <table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 10 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> ณ แปดริ้ว, watthikorn, Panchita+ , Na_mo_, พรแม่ศรี+, ouuu99,Yodchy+, baimin, Ton_Ton, บำเพ็ญบารมี</td></tr></tbody></table>
     
  4. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    อุ้ย..... แซวพี่เขาทีเดียว หนีตามกันไปไหนแล้วเนี่ย หายไปพร้อมกันทั้งคู่เลยนิ... น่าสงสัย จริงๆๆ คริ คริ (แซวเล่นนะคร้าบ..บ.บ...)

    <table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> ณ แปดริ้ว, Na_mo_, ouuu99, พรแม่ศรี+, baimin, Ton_Ton</td></tr></tbody></table>
     
  5. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580
    ขออนุโมทนาครับคุณพี่พัณณ์ (สักกายทิฎฐิ)
    ขอบพระคุณครับ...baimin
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2010
  6. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    พี่ทศ ลงพระราคาเบาๆไหมครับพี่ บ้านจะได้คึกคักอ่า.... เอาแบบพระคำข้าว องค์ละ 50 พระหางหมาก 80 อะไรประมาณนี้ อ่ะ เหอะๆๆๆๆ
     
  7. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580
    ขออนุญาติแทรกธรรมะช่วงบ่ายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำครับ ท่านพี่ทศพล
    ขอขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านธรรมะครับ
    (ขออภัยหากเป็นการรบกวน)
    ขอบพระคุณครับ...baimin


    [​IMG]


    พระติสสะเป็นโรคพุพองทั้งตัว พระพุทธเจ้าเสด็จมาเช็ดนํ้าเหลืองให้แล้วเข้านิพพานในวันนั้น

    บุพกรรมของพระติสสะ
    "..ในสมัยพระพุทธกัสสป ท่านติสสะ เป็นคนที่ฆ่าสัตว์เป็นประจำ คือยิงนกมาแล้วก็แกงขายบ้าง ขายเป็นบ้าง ขายตายบ้าง ถ้าวันไหนได้นกมามาก ขายวันนั้นไม่หมดก็หักแข้งหักขา หักกระดูกปีก เกรงว่านกจะบินหนีไป เอาไว้ขายสดๆ ในวันพรุ่งนี้ ท่านทำอย่างนี้มาตลอดกาล คำว่าบุญกุศลไม่เคยทำเลย ต่อมาวันหนึ่งก่อนที่ท่านจะไปหานกในตอนเช้า วันนั้นบังเอิญพระอรหันต์มาบิณฑบาตองค์เดียว ท่านเองก็ไม่รู้ว่าเป็นพระอรหันต์ ก็คิดในใจว่าในชีวิตของเราทั้งชีวิตขึ้นชื่อว่าการทำความดีที่จะทำบุญกุศลไม่เคยมีในเรา เรามีการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทุกวัน วันนี้ขอทำบุญตอนเช้า เมื่อเห็นพระเดินมาก็ออกไปรับบาตรกล่าวคำนิมนต์ แล้วก็นำพระเข้าบ้าน สั่งแม่บ้านแกงนกที่มีอยู่ให้แกงอย่างดีที่สุด เมื่อแกงเสร็จก็นำมาใส่บาตรพระ พระท่านก็ให้พรแล้วท่านก็กลับ หลังจากนั้นมาท่านก็ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตตลอดมา
    เป็นอันว่าในชีวิตของท่านทำบุญครั้งเดียวในชีวิต แต่เป็นการบังเอิญทำบุญกับพระอรหันต์ซึ่งมีอานิสงส์มาก แต่ไม่เท่าสังฆทาน ก่อนที่จะตายท่านก็นึกถึงการทำบุญ ตายจากความเป็นคนก็ไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ครั้นหมดบุญวาสนาบารมี ในสมัยสมเด็จองค์ปัจจุบันท่านก็กลับมาเกิดเป็นคน อาศัยที่เคยทำบุญทำกุศลมาแล้วครั้งเดียวในชีวิต คือถวายทานกับพระอรหันต์ จึงไปพบพระพุทธเจ้าเข้ามีความเลื่อมใส ตั้งใจฟังเทศน์ เมื่อฟังเทศน์จบก็มีจิตเลื่อมใสอยากจะบวชในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงเห็นวิสัยว่าเขาจะเป็นอรหันต์ได้ จึงอนุญาตให้บวช เมื่อบวชเข้ามาแล้วก็เจริญฌานสมาบัติแต่ว่ายังไม่ได้ฌานโลกีย์ ท่านก็เกิดอาการป่วยไข้ไม่สบายเกิดขึ้นในร่างกาย ตามตัวมีการพุพองเม็ดเล็กๆ ตลอดทั้งตัว ต่อไปการพุพองเม็ดเล็กๆ ก็โตขึ้นๆ จนกระทั่งเท่าผลส้ม ในที่สุดก็แตกมีนํ้าเหลืองรอบตัว กระดูกต่างๆ ในร่างกายก็หัก มีทุกขเวทนามาก พระที่พยาบาลอยู่เห็นเข้าก็ทนไม่ไหวจึงทิ้ง เพราะท่านขยับตัวไม่ได้ยังไงก็ต้องตายกันแน่แล้ว
    คืนวันนั้นองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงตรวจอุปนิสัยของสัตว์ว่า วันพรุ่งนี้จะมีใครได้บรรลุมรรคผลบ้าง ก็ทรงทราบว่าพระติสสะเวลานี้ป่วยหนักและการตายของเธอจะเข้ามาถึงในวันพรุ่งนี้ ถ้าเราไปสงเคราะห์เธอ เธอจะได้เป็นพระอรหันต์พร้อมกับนิพพาน ฉะนั้นในตอนเช้าพอฉันข้าวเสร็จเรียบร้อย พระพุทธเจ้าจึงเสด็จออกจากพระมหาวิหารเดินเรื่อยๆ ไปไม่บอกใคร เมื่อบรรดาพระทั้งหลายเห็นพระพุทธเจ้าเดินก็เดินตาม
    พอไปถึงกุฏิของ พระติสสะ พระองค์ก็แวะเข้าไปเห็นนํ้าเหลืองไหลเกรอะเปื้อนผ้า ก็ทรงเปลื้องผ้าทั้งหมดเอาไปจะต้มนํ้าร้อน พระทั้งหลายก็รับอาสาว่า การต้มให้นํ้าเหลืองหมดเป็นหน้าที่ของข้าพระพุทธเจ้า หลังจากนั้นพระพุทธเจ้าก็เอาผ้ามาชุบนํ้าอุ่นๆ เช็ดร่างกายพระติสสะ จนกระทั่งนํ้าเหลืองแห้ง ร่างกายก็มีอาการปลอดโปร่ง ผ้าที่เอาไปต้มนั้นก็แห้งพอดี พระพุทธเจ้าก็สั่งให้นุ่งผ้าให้ พระติสสะ พระก็ห่มให้
    แล้วพระองค์ก็ทรงยืนอยู่ข้างๆ บอกว่า
    "ติสสะ ร่างกายนี้อีกไม่ช้าก็มีวิญญาณไปปราศแล้ว ร่างกายนี้ก็ต้องถูกทอดทิ้งเหมือนกับท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์"
    หมายความว่าจิตใจจะพ้นไปจากร่างกายแล้ว ร่างกายของเราก็ต้องตาย เมื่อตายแล้วร่างกายของเราก็ไร้ประโยชน์ เป็นของที่ชาวบ้านเขาจะทอดทิ้งเขาไม่ต้องการ สู้ท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์ก็ไม่ได้ พระติสสะฟังเพียงเท่านี้ อานิสงส์ที่เคยถวายทานกับพระอรหันต์เพียงครั้งเดียวในชีวิต ก็เป็นพระอรหันต์พร้อมปฏิสัมภิทาญาณทันทีและก็นิพพานทันทีในวันนั้น
    หลังจากนั้นองค์สมเด็จพระจอมไตรจึงทรงสั่งให้พระสงฆ์ทำฌาปนกิจศพคือเผาศพ แล้วก็ให้ทำสถูป หมายความว่าพูนดินขึ้นมาคล้ายๆ กับบาตรควํ่าเป็นโคกพูนไว้เอากระดูกไว้ในนั้น บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายจึงเข้ามากราบทูลถามว่า "เวลานี้พระติสสะตายแล้วไปไหน"
    พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า"พระติสสะ ตายจากความเป็นคนไปนิพพานแล้ว"
    พระทั้งหลายจึงกราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า "อยากจะทราบว่าพระติสสะเป็นพระอรหันต์ตั้งแต่เมื่อไร"
    พระองค์ก็ตรัสว่า "พระติสสะ เป็นพระอรหันต์เมื่อเราพูดจบ"
    บรรดาพระทั้งหลายก็เลยถามว่า "พระติสสะ ทำบุญอะไรไว้จึงเป็นอรหันต์ง่าย"
    พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า "ในสมัยสมเด็จพระพุทธกัสสป พระติสสะ ทำแต่บาปอย่างเดียวไม่เคยทำบุญ หมายถึงทำบุญอย่างชาวบ้านธรรมดาๆ นี่ไม่เคยทำ มีหน้าที่ยิงนกดักนกเอามาขายแก่ชาวบ้าน ถ้าวันไหนนกเหลือมาก ตัวไหนมันใกล้จะตายก็ย่าง นกย่างขายได้ราคาถูกกว่านกเป็นๆ ถ้านกเป็นๆ มีมากเกินไปก็เกรงว่านกจะบินหนีก็หักกระดูกแข้งเสียบ้าง หักกระดูกปีกเสียบ้าง ผลอันนี้เป็นปัจจัยให้ท่านติสสะเมื่อบวชเข้ามาแล้ว จึงมีร่างกายเป็นตุ่มทั้งตัว และตุ่มนั้นค่อยๆ โตมาทีละน้อยจนกระทั่งแตกเป็นนํ้าเหลืองเยิ้ม และกระดูกร่างกายที่หักก็เพราะเคยหักกระดูกแข้ง กระดูกขา กระดูกปีกนก เพราะกฎของกรรมอย่างนี้มาสนอง แต่อาศัยที่พระติสสะได้ ทำบุญกับพระอรหันต์เพียงครั้งเดียวในชีวิต เพราะอานิสงส์นี้เองทำให้พระติสสะเป็นพระอรหันต์ในชาตินี้เมื่อตถาคตเทศน์จบ"

    เจริญพระกรรมฐานขั้นพระนิพพาน
    ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายมีความรู้สึกว่าการเกิดเป็นคนเต็มไปด้วยความทุกข์อย่างนี้ ถ้าเราจะเกิดไปอีกกี่ชาติ เราก็จะพบกับความทุกข์อย่างนี้อีก และคิดว่าการตายของเราคราวนี้จะเป็นการตายครั้งสุดท้าย ฉะนั้นทุกคนก่อนจะหลับให้คิดง่ายๆ ดังนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดเป็นมนุษย์ก็ดี เป็นเทวดาก็ดี เป็นพรหมก็ดี จะไม่มีสำหรับเราอีก การตายคราวนี้เราขอไปพระนิพพาน และก็ภาวนาต่อท้ายสักเล็กน้อยว่า
    "นิพพานัง สุขัง นิพพานัง สุขัง นิพพานัง สุขัง"
    ภาวนาอย่างนี้สัก ๓ ครั้งด้วยความเต็มใจ การทำอย่างนี้ได้ชื่อว่าเจริญพระกรรมฐานขั้นพระนิพพาน เวลาที่ท่านจะตายบุญกุศลทั้งหลายที่ทำแล้วจะรวมตัวทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านที่ได้ มโนมยิทธิ คืออภิญญาและวิชชาสามควบกัน ก่อนจะหลับเมื่อศีรษะถึงหมอน เอาจิตไปตั้งไว้ที่พระนิพพาน ไปที่วิมานพระพุทธเจ้าก็ได้ หรือไปที่วิมานของเราก็ได้ ถ้าไปที่วิมานของเราให้นึกถึงพระพุทธเจ้าก็จะพบท่านทันที แล้วตัดสินใจว่าถ้าร่างกายนี้ตายเมื่อไรขอมาที่นี่เมื่อนั้น เพียงเท่านี้ แต่ต้องทำทุกวันนะ ตายเมื่อไรไปพระนิพพานเมื่อนั้น.."

    จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2010
  8. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174

    สาธุๆ ขอโมทนาบุญ กับพี่ชัยครับ ขอบคุณธรรมดีๆครับพี่ท่าน. พออ่านทำให้นึกกลัวเหมือนกันครับ ว่าตอนจิตสุดท้ายก่อนที่จะดับไปหากจิตจับด้านกุศลก็ไปในที่ ที่ดี แต่ถ้าพลาดหล่ะจะไปไหนหนอ.... ????
     
  9. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    ขออนุญาติ อัพเดทรายการวัตถุมงคลของพี่ทศพล ในส่วนที่ยังไม่ปิดรายการครับ หากผิดพลาดต้องขออภัย....
    ----------------------------------------------------------------------

    เหรียญพระเจ้าพรหม ทรงช้างประกายแก้ว(p.213#4244)
    บูชา 700 ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]
    </fieldset>

    พระกลีบบัวรูปเหมือนหลวงพ่อ (กลีบบัวเล็ก) สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2527 แจกเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์ พระสุธรรมยานเถระ เดือนมีนาคม 2528(หน้า384#7672)
    บูชา 4,500 ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999



    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset> พระเนื้อผงหลวงพ่อโสธร รุ่นเส้นเกศา (สมัยหลวงพ่อ) สร้าง 21 ก.ย. 2533 จำนวน 5000 องค์ องค์ สวย ๆ เดิม ๆ (p.405#8081)
    บูชา 2,500 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset> พระวิสุทธิเทพด้านหลังมียันต์เกราะเพชร สุดยอดแห่งมวลสารที่สำคัญ ๆ ของหลวงพ่อ สร้างประมาณ ปี 253..กว่า ๆ ก่อนพระคำข้าว องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 405#8093)บูชา 1000 ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]
    </fieldset> เหรียญของขวัญวันเกิด รุ่น 2 ติดโบว์ยันต์บารมี 30 ทัศ องค์พระสวย ๆ พร้อมกรอบเดิม ๆ (หน้า 419#8363)pm.หรือโทร 089-4035999
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset> ล็อคเก็ตดาว ที่ระลึกงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ ๗ องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (p.428#8551)บูชา 650 บาท ค่าส่ง 50 บาท

    โทร 089-4035999

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset> ล็อคเก็ตดาว ที่ระลึกงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ 5 องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (p.477#8924)
    บูชา 1300 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset> พระคำข้าว รุ่นปืนแตก พิมพ์ตัวหนังสือโค้ง ปลุกเสกเมื่อ 18 พ.ค. 2535 ในงานเป่ายันต์เกราะเพชร จำนวน 100000 องค์ องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ พร้อม (p.450#8990)
    บูชา 850 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-403599



    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]</fieldset> ส่วนหนึ่งจากผ้ากาสายะของพลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ฤาษีลิงดำ) สร้างเป็นที่ระลึกในงานครบรอบ 100 ปีเกิดหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ณ.วัดท่าซุง 6-10 ส.ค. 2518 (หน้า 452 #9027)
    บูชา 1,300 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]
    </fieldset> มงกุฎเพชร รุ่นพระราชพรหมยานฯ หลวงพ่อท่านทราบ ถึงอนาคตต่อไปในภายภาคหน้าว่าจะเกิดโรคระบาดขึ้นต่อมวลมนุษยชาติและสิ่งนี้ ก็ได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบันซึ่งมีโรคแปลก ๆ เกิดขึ้นมากมายหลายโรคซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต ท่านจึงได้จัดสร้างเข็มกลัดมงกุฎเพชรไว้ให้เป็นสมบัติเพื่อลูกหลานของท่านจะ ได้ปลอดภัยจากโรคระบาดต่าง ๆ พระรุ่นนี้จึงเป็นพระรุ่นที่หลวงพ่อท่านจะเน้นมาก (p.454#9071)
    บูชา 700บาท ค่าส่ง 50 บาท<!-- google_ad_section_end -->
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset> เหรียญหลวงปู่ปาน ด้านหลังมียันต์เกราะเพชร สร้าง 13 ส.ค.2526 รุ่นนี้จะมี 2 แบบ 2 พิมพ์ คือชุบกระไหล่เงินและกระไหล่ทอง (หน้า460#9200)
    บูชา 360 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999



    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG]
    </fieldset> แก้วมณีรัตนะ รูปทรงดาว 5 แฉก (สมัยหลวงพ่อ) สร้างจากแก้วคลิสตั้นอย่างดี รุ่นนี้หายากมาก (p.471#9414)
    บูชา 2,400 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG] [​IMG]</fieldset> หวายสาแหรกลูกนิมิต พระอุโบสถวัดท่าซุง ใน งานตัดลูกนิมิตเมื่อปี พ.ศ.2520 ในงานนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถพร้อมด้วยพระบรมวงษ์ศานุวงษ์ ได้เสด็จมาในงานนี้ด้วย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประธานตัดลูกนิมิตในครั้งนี้ด้วยและ นอกจากนี้ยังมีพระสหธรรมมิกของหลวงพ่อ มาร่วมงานกันอย่างมากมาย อาทิ หลวงปู่สิม,พระครูบาธรรมชัย,หลวงปู่คำแสนเล็ก,หลวงปู่คำแสนใหญ่,พระครูบาชัย ยะวงศ์ษาพัฒนา,หลวงปู่บุดดา,ฯลฯ (หน้า 471#9417)
    บูชา 600 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-40359599
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]
    </fieldset> เหรียญมหาลาภ-เอกราช (รมดำ) สร้างประมาณปี 2520 พระองค์นี้สวย กริ๊บ ๆ 100% (หน้า 471#9418)บูชาองค์ละ 390 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]
    </fieldset> แหนบสมัยหลวงพ่อ รุ่นแรก สร้าง เมื่อ พ.ศ.2520 มีอานุภาพป้องกันสรรพอันตรายทั้งปวง รวมทั้งนิวเคลียร์และฝนเหลืองและให้ผลในทางลาภและเมตตามหานิยมต่าง ๆ อธิฐานได้ตามใจปรารถนา
    บูชา 450 บาท ค่าส่ง 50 บาท (หน้า 481#9601)
    โทร 089-4035999
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]
    </fieldset> เหรียญมหาลาภ-เอชราช (เบา ๆ)
    บูชา 250 บาท ค่าส่ง 50 บาท (หน้า 481#9602)
    โทร 089-4035999
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]
    </fieldset> 2.พระคำข้าว รุ่นแรก (พิมพ์แขนจุด บัว 1 จุด) ปลุกเสกเมื่อ 17 มี.ค.2533 จำนวน 100,000 องค์ องค์พระสวย ๆ เดิม มีความคมชัด ตามแบบฉบับของพระรุ่นนี้ ปัจจุบันนี้หาได้ยากยิ่ง (หน้า 481#9605)
    บูชา 1,800บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]
    </fieldset> เหรียญพระยืน 30 ศอก (หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา) สร้างเมื่อ พ.ศ.2533 องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 485#9691)
    บูชา 1200 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]
    </fieldset> แก้วมณีรัตนะ ทรงกลม (สมัยหลวงพ่อ)สร้างจากแก้วคลิสตั้นอย่างดี สวย ๆ เดิม ๆ (p.486#9704)
    บูชา 1300 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset> แก้วมณีรัตนะ ทรงหัวใจนูนเล็ก (สมัยหลวงพ่อ)สร้างจากแก้วคลิสตั้นอย่างดี สวย ๆ เดิม ๆ (p.486#9706)
    บูชา 1000 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>

    เหรียญกูผู้ชนะ,ผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม เลี่ยมอัดกรอบพลาสติก รุ่นนี้มีประสบการณ์มากมาย เนื่องด้วยในสมัยก่อนหลวงพ่อท่านจะนำไปแจกทหารและตำรวจ (หน้า487#9730)
    บูชา 800 ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999<fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]</fieldset>
    พระแก้วมรกต หน้าตัก 5 นิ้ว องค์ พระเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองเนื่องจากกาลเวลา สวย ๆ เดิม ๆ รุ่นนี้เกศพระสามารถถอดบรรจุพระบรมสาริกธาตุได้ สำหรับพระแก้วมรกตนี้ หลวงพ่อท่านเคยปรารภว่า ทุกบ้านสมควรจะมีไว้บูชา เนื่องจากพระแก้วมรกตเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง และท่านยังได้ปรารภอีกว่า ตราบใดที่พระมรกตยังอยู่เมืองไทย ประเทศไทยจะไม่มีวันเสียเอกราชและจะยังคงต่อไป (ในหนังสือก็มีบันทึกไว้เหมือนกันนะครับ) (หน้า 488#9743)
    pm.หรือโทร 089-40359599

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG] [​IMG]

    </fieldset>




    *ท่านใดสนใจสามารถ Copy ข้อความผมเพื่อโพส สั่งจองได้เลยครับ..
    ************************************************
    โอนเงินที่ คุณทศพล ศรีสุข
    หมายเลขบัญชี
    7762142467<!-- google_ad_section_end -->
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา บ้านฉาง
    ประเภท ออมทรัพย์

    ค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ

    ติดต่อสอบถามโทร. 089-4035999 คุณทศพล
     
  10. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580
    ????=สู่สุขคติ (สี่คำพอดี)
    ขอบพระคุณครับคุณพี่พัณณ์ และคุณชายน๊อต ...baimin
     
  11. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    สาธุ จ๊ะ ดีแล้วที่กลัว...เพราะหากกลัวจริง...ก็จะไม่ประมาท

    ทุกครั้งที่น็อตส่องพระ...น็อตรู้สึกสบายใจใช่มั๊ย

    น็อตก็น้อมถึงพระนิพพานด้วยเนาะ

    ว่าหากตาย เมื่อไรขอไปอยู่กับพระองค์

    เท่ากับน็อตได้เจริญพระกรรมฐานหลายกองเลยทีเดียว

    (พุทธาฯ ธัมมาฯ สังฆาฯ มรณาฯ อุปสมาฯ)

    ก่อนนอนก็อุทิศส่วนกุศลทุกคืน..ตามแบบหลวงพ่อ

    เทวดาประจำองค์วัตถุมงคลที่เราบูชาอยู่ก็จะได้โมทนาด้วย

    ท่านก็จะมีกำลังสงเคราะห์เรามากขึ้น

    และที่สำคัญก็ท่านลุงพุฒิ...ให้ท่านเป็นสักขีพยานทุกครั้ง

    ทำแบบนี้เสมอ..จิตจะเกิดอาการชิน

    เผลอปุ้บ...กลัวปุ๊บ..จะจับภาพพระทันที...ขอไปพระนิพพาน

    บททดสอบย่อย จะมาเรื่อยๆ

    มาคอยลุ้นกัน...ใครจะได้สอบไล่ก่อนกัน (smile)
     
  12. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,232
    อนุโมทนาครับ
     
  13. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    คุณbaimin ครับ พิมพ์ผิดนะครับ ต้องพิมพ์ว่า สักกายทิฎฐิ นะครับ
    (ขออภัยหากเป็นการรบกวน)
    ขอบพระคุณครับ...พรแม่ศรี
     
  14. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580

    ผมต้องขอโทษพี่ทศพลด้วยครับ พอดีผมก๊อปมาอีกที ไม่ทันได้ดูให้ดี ผมขอกราบขออภัยทุกๆ ท่านด้วยครับ
    (เรื่องนี้เป็นความผิดของผมผู้เดียวครับ)
    ขอบพระคุณมากครับพี่ทศพล...baimin

    สักกายทิฏฐิ- สักกาย มีความหมายว่า กายแห่งตน,เรื่องของกายตน, ส่วนทิฎฐิ มีความหมายว่า ความคิด,ความเห็น,ความเชื่อในที่นี้มีความหมายว่าความเห็นผิดเชื่อผิด อันเป็นปรกติของปุถุชนด้วยอวิชชาอันย่อมมีมาแต่การถือกำเนิดเป็นธรรมดา กล่าวคือ จึงย่อมมี สักกายทิฏฐิ ซึ่งมีความหมายว่า ความคิดหรือความเห็นความเข้าใจหรือความเชื่อในเรื่องกายว่าเป็นตัวตน หรือเป็นของตัวของตนอย่างแท้จริง(สักกายสมุทัย)โดยไม่รู้ตัวเป็นไปซึ่งเกิดขึ้นและเป็นไปโดยธรรมหรือธรรมชาติ, ความคิดความเห็นว่าเป็นตัวของตน จึงเป็นเหตุให้ถือตัวตน เช่น เห็นรูปว่าเป็นตน เห็นเวทนาว่าเป็นของตน ฯ. กล่าวคือ เพราะย่อมยังไม่มีความเข้าใจอย่างมีสติสัมปชัญญะในความเป็นเหตุเป็นปัจจัยจึงเกิดขึ้นได้เท่านั้นของสังขาร จึงไม่เคยรู้ ไม่เคยระลึก ไม่เคยพิจารณา จึงย่อมไม่มีเครื่องรู้เครื่องระลึกเครื่องเตือนสติ จึงไม่เกิดสัมมาปัญญาหรือญาณอย่างน้อมยอมรับว่า ตัวตนหรือรูปกายของตนนั้นไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนอย่างแท้จริง สักแต่ว่าเกิดมาแต่การประชุมปรุงแต่งกันขึ้นของเหตุปัจจัยของธาตุ๔ หรือชีวิต(ชีวิตินทรีย์)ที่มีร่างกายตัวตนก็สักแต่ว่าเกิดแต่เหตุปัจจัยของขันธ์ทั้ง ๕ หรือเบญจขันธ์ หรือสังขารร่างกายล้วนเป็นไปตามพระไตรลักษณ์ เหมือนดังสังขารทั้งปวงที่ต่างล้วนต้องเกิดมาแต่การที่มีเหตุต่างๆมาเป็นปัจจัยกัน หรือประชุมปรุงแต่งกันขึ้นมาเพียงชั่วสักระยะหนึ่ง จึงล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่อย่างแปรปรวน แล้วดับไปเป็นธรรมดา ไม่เป็นอื่นไปได้ จึงล้วนเป็นอนัตตา คือไม่มีตัวมีตนอย่างเป็นแก่นแท้จริง เมื่อไม่มีตัวตนจึงย่อมไม่ใช่ของตัวของตน หรือของใครๆได้อย่างแท้จริง แต่ด้วยอวิชชาดังนั้นจึงมีความคิดความเห็นอย่างยึดมั่นยึดถือโดยไม่รู้ตัวอยู่ภายในอยู่ตลอดเวลาใน รูปขันธ์(กายตน) ตลอดจนในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ ว่าเป็นตัวตนของตนหรือเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของตนอย่างเชื่อมั่นหรือรุนแรงตามที่ได้สั่งสมอบรมมาแต่ทารกโดยสัญชาตญาณ(ความรู้ที่มาแต่การเกิดเป็นธรรมดา)โดยไม่รู้ตัวหรืออวิชชา, เพราะความไม่รู้และไม่รู้เท่าทันว่าตัวตนหรือกาย(รูปขันธ์)ก็สักแต่ว่าประกอบด้วยเหตุปัจจัยของธาตุทั้ง ๔ หรือชีวิตก็เป็นเพียงเหตุปัจจัยของขันธ์ทั้ง ๕ จึงเป็นสังขาร จึงย่อมมีความไม่เที่ยง(อนิจจัง) และคงทนอยู่ไม่ได้(ทุกขัง) เป็นอนัตตาที่ไม่ใช่ตัวใช่ตนของเราอย่างแท้จริง เป็นเพียงมวลหรือก้อนของเหตุปัจจัยคือธาตุ ๔ ที่ประชุมปรุงแต่งเป็นปัจจัยกันขึ้น จึงขึ้นอยู่กับธาตุ ๔ ไม่ขึ้นอยู่กับตัวตนที่หมายถึงเราหรือของเราแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นมายาจิตหลอกล่อให้เห็นว่าเป็นเราหรือเป็นของเรา ทั้งๆที่เป็นหรือเกิดแต่เหตุปัจจัย จึงขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยทั้งสิ้น, และไม่รู้และไม่รู้เท่าทันอีกว่า เวทนา, สัญญา, สังขาร, วิญญาณ หรือขันธ์ที่เหลือทั้ง ๔ ก็เช่นเดียวกัน ต่างก็ล้วนเป็นเพียงสังขารเช่นกันทั้งสิ้น จึงเกิดแต่เหตุปัจจัยมาประชุมกัน จึงเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปเช่นกัน ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่เป็นตัวตนของตน หรือเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของตนอย่างแท้จริง ดังนี้เป็นต้น จึงไม่มีเครื่องรู้ เครื่องระลึก เครื่องเตือนสติ ให้เกิดนิพพิทา ให้คลายความยึด, ความอยาก, ความกังวลหรือความหลงใหลในกายสังขารตน หรือขันธ์ ๕ อันเป็นที่หวงแหนยิ่งเหนือสิ่งใดโดยไม่รู้ตัว อันเป็นบ่อเกิดของอุปาทาน - ความยึดมั่นพึงพอใจในตัวตนหรือของตนด้วยกิเลสในขั้นต้นของปุถุชนทั้งปวงโดยทั่วไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2010
  15. ลูกคนที่ 62

    ลูกคนที่ 62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +21,538
    เอามาให้พี่ทศพลดูให้หน่อยครับ 5555 ว่าจะได๋ก็ PM บอกด้วยนะครับท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1760947.jpg
      P1760947.jpg
      ขนาดไฟล์:
      343.5 KB
      เปิดดู:
      45
    • P1760949.jpg
      P1760949.jpg
      ขนาดไฟล์:
      357.9 KB
      เปิดดู:
      38
  16. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    พัณณ์พิมพ์ผิดเองค่ะ...ไม่ใช่ความผิดคุณ baimin นะเจ้าคะ

    ขอบคุณพี่ทศที่แก้ไขให้ ถือว่าโชคดี..เลยได้ศึกษาสังโยชน์ตัวแรกที่สำคัญนี้กันมากขึ้นนะคะ

    ขอโมทนา สาธุ ค่ะ
     
  17. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580
    คุณพี่พัณณ์ ไม่ผิดหรอกครับ เพราะแค่พิมพ์ผิด การอ่านการเขียนอาจผิดได้ แต่รู้ความหมายของคำที่อ่านที่เขียนนั้นได้ถูกต้อง (นึกถึงความหมายได้ถูกต้องก่อนอ่านก่อนเขียน) ผมถือว่าถูกครับ ผมเองที่ไปเน้นคำก่อนความหมาย แต่ไม่ดูให้ดี ผมถือว่าผิดครับ
    อีกอย่างผมโชคดีที่มีคุณพี่พัณณ์ มาช่วยอ่าน ช่วยอธิบาย ในธรรมะทุกครั้ง จึงขอขอบพระคุณคุณพี่พัณณ์มากครับ
    ขอบพระคุณมากครับ...baimin

    สังโยชน์ ๑๐ คือ กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์, ธรรมหรือสิ่งที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์, สิ่งที่ผูกมัด ร้อยรัดสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ผูกติดอยู่กับความทุกข์ทําให้ไม่สามารถสลัดหลุดออกมาได้ อันมี ๑๐ ประการ คือ ๑. สักกายทิฏฐิ ๒. วิจิกิจฉา ๓. สีลัพพตปรามาส ๔. กามราคะ ๕. ปฏิฆะ ๖. รูปราคะ ๗. อรูปราคะ ๘. มานะ ๙. อุทธัจจะ ๑๐. อวิชชา
     
  18. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    อูย....ผมล้อเล่นนะครับ ฮิๆๆๆ ๆๆ ๆ ๆๆ
    ดีจังเลยนะครับ ได้ธรรมะเรื่อง สักกายทิฎฐิ หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็นกรรมฐานตรงไปพระนิพพานเลย เป็นพระกรรมฐานกองที่สำคัญมาก ๆ นะครับ
    ขออนุโมทนากับคุณ baimin ด้วยนะครับ:cool:
     
  19. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    เดี๋ยวมานะ ไปป่วนกระทู้พี่แก้วก่อนนะพี่ทศ หุหุ เดี๋ยวมาค่า....
     
  20. ลูกคนที่ 62

    ลูกคนที่ 62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +21,538

    สวัสดีครับผม วนเวียนอยู่แถวนี้แหละครับ ได้กลิ่นธูปเลยออกมาทักทายเสี่ย 5555
    สบายดีนะครับ โมทนาในกุศลทุกประการครับผม
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...