ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

ครูบาชุ่มท่านนี้หรือเปล่าครับพี่ ที่ท่านได้ตำราตะกรุดหนังควายฟ้าผ่าจากหลวงปู่ครูบาจันต๊ะ
ขุนแผนครูบาจันต๊ัะเมตตา แคล้วคลาดปลอดภัยดีมากๆเลยครับ ผมคอนเฟริมให้เลย

 

ขออนุญาติ มาแอบนั่งเรียนหลังห้องด้วยนะครับ ^^
ขอร่วมแบ่งปัน คาถาคุ้มบ้านที่ใช้ดี อีกบทนึงด้วย
คือ บท ฆะเฎสิ ครับ สารพัดใช้ทางคุ้มบ้าน คุ้มภัย
อาจารย์ผมเล่าให้ฟัง ว่าสมัยก่อนยุคโยมพ่อของท่าน
เคยมีญาติกัน เข้ามาถามที่บ้าน ว่าที่บ้านมีดีอะไร
ไอ้....(หลานอีกคนนึง)มันจะเข้ามาขโมยของบ้านมึง
หลายทีแล้ว แต่เข้าไม่ใด้ มีคนเดินไป เดินมาตลอดเลย
จนมันถอดใจแล้ว เลยฝากกูมาถามมึงนี่แหละ ว่าที่บ้านมึง
มีดีอะไร โยมพ่อท่านเลยบอกว่า ให้มันมาให้กูเตะทีนึง
แล้วกูจะบอก.....

ซึ่งอาจารย์ผมก็แอบถามโยมพ่อท่านทีหลัง
ว่าคือบท ฆะเฏสิ นี่เองครับ


ขอฝากเนื้อ ฝากตัวด้วยครับ

 

คนละรูปกันครับ.น่าจะ.ครูบาชุ่ม พุทธโก ครับ ท่านเป็นศิษย์สายครูบาศรีวิชัย..
ส่วนครูบาบุญชุ่มฯ ท่านไม่ทัน ครูบาศรีวิชัย ครับ..และท่านจะไม่สร้าง วัตุถุมงคล แบบบูชา ครับ แจกฟรี อย่างเดียว เว้นแต่ ใครได้ไปอาจจะนำไปขายต่อ

 

ก็แนะนำแล้วไง..๕๕๕ แนะนำว่า ให้สอบถามเพื่อนๆสมาชิกดูว่า ใครมีวัดไหน สำนักไหนที่ดีๆบ้าง

ส่วนของพี่ ก็ใช้ ของ ครูบา สิทธิ..

 

ขอบคุณครับ...พี่คำรณ

 

ขอพระคุณครับ...ซึ่งบทนี้น่าจะคงคล้ายๆกันกับบทกันขโมยอีกบท


ฆะเตสิก ฆเตสิก กิงกะระนัง ฆะเตสิก อะหังปิดตัง นะชานามิ
นะชานามิ ฯ

สมัยก่อนคนโบราณที่มีวิชา ท่านก็ถ่ายทอดกันมา ว่าบทนี้ กันลักวัว ลักควาย ภาวนาก่อนปิด คอก และก่อนนอน โจรมาจะตื่นก่อนโจร..ในสมัยนี้ น่าจะใช้ได้ ครับ..แต่หลายตำราที่นำมาเผยแพร่ก็ดูคล้ายๆกัน แตกต่างกันบ้างในบางคำ..เช่น คำว่า ฆะเตสิ กับ ฆะเตสิก แต่ถ้า เชื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านก็ว่าเหมือนกัน แหละ..

 

สำหรับบทกันขโมย อีกบทหนึ่งที่ผมได้เรียนมา แต่ต้องยกครู เป็น บทเสกทราย ๑๐๘ จบ หว่านรอบบ้าน ครูท่านบอกว่า กันได้ทั้ง โจร ผู้มาทำคุณไสยหน้าบ้าน สมัยก่อนคนทำคุณไสยฯ ใสกันจะมายืนบริกรรมประตูบ้าน ก่อนจะเรียกจิตลงมาแล้วใช้มีดอาคมฟัน ก่อนจะเรียกจิต เขาจะใช้ดิน ๗ ป่าช้าเสกที่เตรียมมา เสกขว้างหลังคาบ้าน สะกด ทั้งคน ทั้งสัตว์หลับ แล้วทำพิธี..
สมัยก่อนจึงมีหลายวิชาที่ป้องกัน ทั้งกันโจร กันคนมาทำคุณไสย กันสะกด สมัยนี้คงหาไม่เจอแล้วครับใครที่ไปยืนทำแบบนั้น..ถ้าไปแอบดักยิง หรือ ดักปล้นที่ประตู นี่ไม่แน่๕๕๕

 

ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร

 

ผมเคยอ่านที่มาขอคาถาบทนี้ครับ ซึ่งแปลว่า เรารู้นะว่าท่านจะทำอะไร เรารู้นะว่าท่านคิดอะไร (ประมาณนี้ครับ)เท่าที่จำได้

เรื่องราวความเป็นมาของคาถาบทนี้
ในอดีตกาลนานมาแล้ว มีมาณพน้อยคนหนึ่ง เดินทางไปศึกษาศิลปวิทยากับอาจารย์ทิศาปาโมกข์ แกเป็นคนหัวขี้เลื่อย อาจารย์สอนให้ท่องอะไรก็ท่องไม่ได้ศิษย์คนอื่นเขามาเรียนไม่กี่ปีก็จบไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่ศิษย์คนนี้อยู่ตั้งเกือบปีแล้ว ยังเรียนไม่จบ อาจารย์สงสารจึงเรียกไปพบวันหนึ่ง กล่าวว่า

“เธอมาอยู่กับฉันหลายปีแล้ว เรียนไม่จบสักที เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ฉันจะให้คาถาสำคัญบทหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้เธอดำรงชีพได้โดยไม่ลำบาก”

ว่าแล้ว อาจารย์ก็จดคาถาให้ว่า "ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงกะระณัง ฆะเฏสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ" กำชับว่าให้ท่องบ่นดังๆ ทุกเวลาที่นึกขึ้นมาได้

เขาก้มกราบอาจารย์ แล้วเดินทางกลับบ้านเมืองของตน กลับถึงบ้าน พ่อแม่ก็จัดงานเลี้ยงฉลองอย่างใหญ่โตมโหฬาร ต้อนรับลูกชายผู้เรียนสำเร็จกลับมา คืนนั้นแขกเหรื่อที่มาในงานกินและดื่มกันเต็มคราบ บ้างก็กลับบ้านตน บ้างก็นอนสลบไหลอยู่ที่บ้านเจ้าภาพ

ตกดึก มีโจรสามสี่คนพยายามขึ้นบ้าน เพื่อจะไปขโมยของ เด็กหนุ่มหัวขี้เลื่อยนอนหลับไปพักใหญ่ตื่นขึ้นมาอีกทีเวลาตีสามตีสี่ นึกถึงคำสั่งของอาจารย์ได้จึงท่องคาถาที่อาจารย์ให้มาเสียงดังว่า "ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงกะระณัง ฆะเฏสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ" ขโมยซึ่งกำลังปีนกำแพงบ้านตกใจพากันโกยหนีไปโดยไม่คิดชีวิต

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของชายวัยกลางคนคนหนึ่งโดยตลอด
ชายผู้นี้เป็นพระราชาผู้ครองประเทศ คืนนั้นได้ปลอมตัวไปตรวจดูสารทุกข์สุขดิบของชาวเมือง
เมื่อมาถึงบ้านบัณฑิตหนุ่มสดๆ ร้อนๆ คนนี้ ก็พอดีเห็นเหตุการณ์นี้เข้า รุ่งเช้าขึ้นมาจึงรับสั่งให้มหาดเล็กมาตามเด็กหนุ่มเข้าไปเฝ้า
ขอให้เขาสอนคาถาให้พระองค์บ้าง

ชายหนุ่มก็ยินดีจดคาถาถวายพระราชาไป กราบทูลว่า ให้ท่องคาถานี้ทุกครั้งที่พระองค์ทรงนึกได้

บังเอิญระยะเวลาดังกล่าว เสนาบดีกำลังคิดก่อการขบถ ได้วางแผนให้ช่างกัลบก(ช่างตัดผม) เฉือนพระศอพระราชา ในวันที่พระองค์ทรงเครื่องใหญ่(ตัดผม) ซึ่งเป็นวันนั้นพอดี

เมื่อถึงเวลาช่างกัลบกมาพบพระราชาตามเวลาดังเช่นเคย ขณะที่ช่างกัลบกกำลังลับมีดโกน เพื่อให้แน่ใจว่า มีดคมพอที่จะเฉือนพระศอทีเดียวขาด

ขณะนั้นเองพระราชาทรงนึกถึงคาถาขึ้นมาได้ท่องเสียงดังว่า "ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงกะระณัง ฆะเฏสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ"

เท่านั้นแหละครับ ช่างกัลบกทิ้งมีดโกนหมอบแทบยุคลบาทพระเจ้าแผ่นดินละล่ำละลักพระองค์ทรงไหวทันทรงกระทืบพระบาทสำทับ เค้นเอาความลับจากเขาทั้งหมด ทรงรับสั่งให้จับเสนาบดีเนรเทศออกจากพระนครในทันใด

นับว่าทรงกำจัดเสี้ยนหนามได้ทัน เพราะคาถาบทนี้แท้ๆ

พระองค์รำลึกถึงบุญคุณของบัณฑิตหนุ่มที่ช่วยชีวิตพระองค์ไว้ได้ จึงทรงแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งเสนาบดีสืบแทนคนก่อน

โบราณาจารย์จึงนำเอาคาถาบทนั้นมาเป็นคาถากันขโมย สอนกันว่า ก่อนจะเข้าหรือออกจากบ้านไปไหน ให้ว่าคาถานี้ แล้วเป่ารูกุญแจจะป้องกันขโมยขึ้นบ้านได้ชะงัดนักแล...

 

หัวใจ คาถาต่างๆ

คำว่าหัวใจคาถาหมายถึง คำขึ้นต้นของบทเต็ม ส่วนใหญ่อาจาริยาเจ้าทั้งหลายนั้น นำมาจากบทต่างๆใน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธฺ์ ต่างมีอุปเทห์วิธีแตกต่างกันไป..

ซึ่งถ้าใครได้เรียนวิชาไสยศาสตร์แบบหลักสูตรเต็ม..ครู จะมอบบทวิชาพระคาถาหัวใจ ๑๐๘ ให้ ซึ่งจะครอบคลุม วิชาทุกแขนงแต่จะไปแยกใช้เอาตามแต่จะต้องการ..และมีอีกอย่างหนึ่งคือ หัวใจ ๑๐๘ สำหรับทำตะกรุดโทน จะมีแยกเฉพาะต่างหาก..ครับ.

หัวใจคาถาที่ควรรู้ไว้

หัวใจทศชาติ เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิเวฯ
ใช้ทางเมตตา ป้องกันประหม่า เหมาะต่อการภาวนาก่อนขึ้นพูดต่อหน้าคนทั้งหลาย

หัวใจยอดศีล พุท ธะ สัง มิ
ใช้ได้ฝอยท่วมหลังช้าง ดีทุกด้าน ทั้งทางป้องกัน เมตตามหานิยม คงกระพัน ล่องหน กำบัง

หัวใจพระพุทธเจ้า อิ กะ วิ ติ
ใช้ได้ทุกทาง ภาวนาประจำ ป้องกันสารพัดกัน ทั้งคุณผี คุณคน ใช้ทางสะเดาะ ทั้งคงทน

หัวใจพระรัตนตรัย อิ สะ วา สุ
ใช้ทางด้านเมตตา และป้องกันภัย๑๐๘

หัวใจพระไตรปิฎก มะอะอุ
ใช้ทางเมตตา เสน่ห์ทั้งหลาย

หัวใจธาตุทั้ง๔ นะ มะ พะ ทะ
ใช้ทางปลุกเสก เลขยันต์

หัวใจพระสิวลี นะ ชา ลี ติ
ใช้ทางเมตตา ค้าขาย ภาวนาทุกค่ำเช้า ผุ้คนเมตตารักใคร่ มีปิยมิตร

หัวใจพระสูตร ที มะ สัง อัง ขุ
ใช้ทางป้องกันภัย อวิชาคุณไสย และปีศาจ

หัวใจพระวินัย อา ปา มะ จุ ปะ
ใช้ทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี เข้าหักรบข้าศึก

หัวใจเสือ โต พยัค โข
ใช้ทางสะกดสัตว์ดุร้าย มหาอำนาจ

หัวใจมนุษย์(ทุกเพศ) โอม มะนุญ ยัง จิตตัง
ใช้ภาวนาทางเมตตา สะกดผู้คน ขึ้นเวทีปราศรัย ดีนักแล

หัวใจชาย จิตตัง ปุริโส
ใช้ทางเมตตา เรียก/สะกดจิตชาย (ภาวนาระหว่างพูดคุย)

หัวใจหญิง จิตตัง อิตถี ภะคินิ เม
ใช้ทางเมตตา เรียก/สะกดจิตหญิง (ภาวนาระหว่างพูดคุย)

 

หัวใจ คาถาต่างๆ

หัวใจพระอภิธรรม สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ
หัวใจของเวทย์มนต์อาคมทั้งปวง ใช้ทั้งบทตรง และบทถอด ถอดได้ ๗ ห้อง มากอุปเทห์วิธี ใช้ได้ทุกด้าน ผู้ใด ท่องได้ ๗ ห้อง ได้ครบ ๑๐๘ คาบ มีฤทธิ์เดช กำบัง

หัวใจอิติปิโส อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ
ใช้ได้มากมายอุปเทห์ ฝอยท่วมหลังช้าง ทั้งป้องกันภัย เมตตา คงกระพันชาตี ถอดถอน ขับไล่

หัวใจธาตุกรณีย์ จะ ภะ กะ สะ
ใช้ทางด้านการปลุกเสก ปลุกพระเครื่อง และวัตถุมงคลอื่นๆ

หัวใจมุตโต สุ จิ ปุ ลิ
ใช้ทางการเรียนศึกษา เสกน้ำล้างหน้า เสกข้าวกิน ความจำดีนักแล

หัวใจอาวุธพระพุทธเจ้า ปะ สิ สะ
ใช้เสกมีดหมอ เสกอาวุธทุกชนิด กำราบศัตรู หรือผีร้าย

หัวใจหนุมาน หุ นุ มา นะ
ใช้ทางคงกระพัน ภาวนาให้กำลังวังชาเหนือคนอื่น

หัวใจลิงลม วัง วัง กัง หะ บางบทเพิ่ม นะ กิน อะ กิน อุ
ใช้ทางคงกระพัน ภาวนาหลบหลีกศรัตรู

หัวใจพญานาค อะ งะ สะ
ใช้ทางพนันขันต่อ ตีต่อยก็ได้ชนะ

 

เมื่อตอนทำงานอยู่หมู่บ้านพูดภาษาถิ่นส่วย ประมาณปี 25 -30 ช่วงเข้าพรรษาวันพระ หนุ่มสาวจะพากันสวดสรภัณญะบูชาพระรัตนตรัย และบทมาลาพวงดอกไม้ เพราะมาก เสร็จแล้วก็ประชุมกันต่อ เราอยู่กับเขาก็เลยไปสวดพร้อมดูสาวไปด้วย 5 5 5 ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังปฏิบัติอยู่หรือเปล่า
แต่ที่จำไม่ลืมคือ ความศรัทธาในการก่อสร้างโบสถ์ ตอนขุดฐานรากชาวบ้านร่วมกันขุด ผลัดกันขุด ช่วยกันหาข้าวหาน้ำมาให้กันกิน พวกเราผู้ชายก็ไปขุดเอาบุญด้วย แต่งานพวกนี้ไม่ค่อยถนัด เลยมือแตกมือพองซะ...เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้ว เป็นความประทับใจที่ฝังจิตฝังใจจริงๆ

 

อยากให้สอนเกี่ยวกับยันต์ต่างๆครับ

 

รบกวนคุณคำรณประวัติครูบาฯ หน้าที่ ๓ ยังไม่ได้แสกนลงให้ครับ...