ไม่ใช่นะครับที่มักกล่าวว่า “สมถะเหมือนการหลบภัย วิปัสสนาเหมือนการผจญภัย”

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 26 พฤษภาคม 2009.

  1. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    อ้าว ไม่ยักรู้ว่า หากบรรลุธรรม นี่ต้องรู้อะไรพวกนี้ได้ จำได้ ถึงเรียกว่า รู้
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    [​IMG] รสมะนาวแก้ไอได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images22.jpg
      images22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3 KB
      เปิดดู:
      119
  3. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    อะจึ๋ย ของแบบนี้แก้ไอไม่ได้

    แย่จัง...ติด trial version มะเลิกเลย [​IMG]
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ นิวรณ์ คุณนี่ สุดโต่งนะนี่ เขาให้ระลึกจะได้ไม่ประมาท ตีความไปโน่น
    นี่แหละ เขาเรียกว่า พวกมี อกุศลจิตมาก
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ก่อนหน้านี้ ฟังว่า สันโดษ ไปเอาคำสอนใครมา ที่ว่า จิตเขาทำงานของเขาเอง เราไม่ไปห้าม สันโดษเลยแปลงร่างมันซะ 100 ร่าง
    เอกวีร์ แปลงร่างซะ 10 ร่าง เพ้อเจ้อ ทั้งวันทั้งคืน ก็เพราะว่า คำสอนที่ว่าจิตไม่ใช่เรา ทำอะไรกับมันไม่ได้นี่แหละ
    เคยตำหนิสันโดษไปว่า อย่าไปคิดแบบนั้น มีที่ไหน ไปคิดว่า มันไม่ใช่เรา มันจะทำอะไรปล่อยไป คอยรุ้ ก็นั่นแหละครับ เอาแต่รุ้ อย่างสันโดษ อย่างเอกวีร์

    นี่ยาย ขวัญอีกคนครับ " จิตเขาอยากจะพูด " เลยเพ้อเจ้อไม่หยุดหย่อน
    เรามีสติรุ้พอ เดี๋ยวมันดับมันเอง

    มาจนถึงวันนี้ 2 ปีผ่านไป เอกวีร์ เพี้ยนหนักกว่าเดิม สันโดษกู่ไม่กลับ ตามมาติดๆ คือ วิษณุ ที่กำลังจะออกทะเล
    ลอยกลางทะเลไป ยังตะโกนด่าชาวบ้านอีกนะ ว่า ไอ้พวกไม่รุ้ ไอ้พวกยังไม่ตื่น
    น่าสมเพชจริงๆ
     
  7. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ไม่ได้สุดโต่งอะไรหลอก ผมก็แค่ ทัก เพื่อให้แยกดูให้ดี
    ในถ้อยคำเหล่านั้น ว่ามีตรงไหนที่ทำให้โดนทักไหม ใน
    เมื่อดูเผินแล้ว มันถูกไม่น่าจะผิด

    เว้ากันซื่อๆ ประโยคเดียวที่เข้ากับคำว่า บรรลุแล้วต้องไปรู้เหรอ ก็คือ
    ประโยคที่ว่า "เมื่อวานกินข้าวกับอะไรไม่รู้"

    พอเห็นประโยคนี้ ก็สาวไปหาเหตุ เอ๊ะ ทำไมหลุดมาได้ ก็อ๋อ มัน
    ติดสังขารธรรมประโยคหน้าที่กำลังโปรยอย่างเมามัน "คิดอะไรไม่รู้
    นึกอะไรไม่รู้" พูดกันตามที่เห็นคือ คนที่กำลังสอนกำลังคิดพูดอะไร
    แทบจะไม่รู้ มันเลยหลุดออกมา

    อ้าวพี่ ณุ มาช่วยผมสมาทานนะ หากบรรลุแล้ว เมื่อวานกินอะไรต้องรู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2009
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ขอบคุณครับที่ชมครับ
     
  9. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    จ้า
     
  10. dokai

    dokai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +71
    หากคุณ เอกวีร์ ต้องการ จะถกธรรม เฉพาะ กับ เฉพาะกลุ่ม ก็เป็น ว่า ขออภัยที่เข้ามาขัดจังหวะ สิ่งที่ ผมแย่ง ก็แย่ง เพราะเห็น ว่า มันคาดเคลื่อนมากเกินไปก็เท่านั้น เอง ผมแย่ง เฉพาะ ข้อธรรม เท่านั้น และ ผม ก็มิได้แย่ง เจาะจงตัวใคร และ ในขณะเดียวกัน ผม ก็จะเลือกคนด้วยว่า จะแสดงแย่งหรือไม่อย่างไร เพราะ บ่อย มาก ทีจะเลื่อกนิ่งเฉย หรือไม่แย่งสิ่งใด

    หลายครั้ง สิ่งที่ คุณ เอกวีร์ กล่าว ก็เป็นประโยฃน์ ซึ่ก็เห็นด้วย และ ในหลายความเห็นต่างๆ บางที่มันก็ปนกัน มีทั้งสองส่วน แต่แต่ อันไหน มัน ปน กัน ถึงแม้นจะมีสิ่งที่เห็นด้วย ก็ตาม

    สิ่งที่เรากล่าว ๆ กัน บางที ก็ต้อง ระวัง เพราะ มันเป็นที่สาธารณะ หากคนผ่านไปมาจับประเด็นผิด มันก็เป็นโทษ ได้เช่นกัน
     
  11. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ดูอย่างเดียว เวลาทุกข์เกิดนี่ ไม่พิจารณาเป็นไปไม่ได้ครับ มันต้องดิ้นรน ร้อนรน ไม่พิจารณาก็เหมือนพิจารณา พอมันทุกข์ มันก็ต้องสัดส่าย หาทางดับทุกข์ ใครมันจะปล่อยทุกข์โดยง่าย พอมันเห็นแล้วจะกาย จะเวทนา จะธรรม มันก็ลงได้ครับ

    มันก็เหมือนท่านขันธ์ที่ดูกายแล้วมันได้ตรงนั้น ถ้าผมถามว่าดูเวทนาได้ไหม ดูจิตได้ไหม เห็นสายปฎิจจไหม ในตอนนี้ ท่านก็รู้ตัวดีอยู่ ว่าพอจะไล่ได้
    ________________________________________________

    คัดลอกบางตอนจากหลวงตาบัว ท่านขันธ์เป็นศิษย์คงไม่แย้งนะครับ (หากจะว่าผมเข้าใจธรรมไม่ถูก ก็ว่ามา)

    เมื่อ ปัญญาได้คลี่คลายดูให้เห็นชัดว่า มีเราอยู่ที่ไหน มีเขาอยู่ที่ไหนในกายอันนี้ มีของสะอาดของสวยงามอยู่ที่ไหนมีของเที่ยงแท้ถาวรที่ไหน มีความเป็นของเที่ยงที่ไหน มีความไม่แปรอยู่ที่ไหน มี อตฺตา หิ อยู่ที่ไหนในส่วนแห่ง กายนี้ ชี้แจงแสดงโดยทางปัญญาให้ใจได้เห็นชัด ก็เทียบกับว่าคลี่คลายดูสิ่งปกปิดให้ใจได้เห็นชัด ให้ใจได้หายสงสัยในสิ่งเหล่านี้ ว่าไม่ใช่เป็นสิ่งที่เป็นไปตามจิตของตนมุ่งหวัง ว่าเป็นเราเป็นของเราเป็นต้น แล้วจิตก็จะปล่อยวางจากสภาพทั้งหลายเหล่านี้โดยอัตโนมัติของตนเอง

    ไม่ต้องบังคับให้ถอดให้ถอนให้ปล่อยให้วางแต่อย่างใดเพราะจิตได้เห็นชอบตาม ปัญญาแล้ว นี่ปล่อยวางมาอย่างนี้ การพิจารณาเวทนา ก็คลี่คลายเช่นเดียวกันกับที่ส่วนกายนี้ให้จิตได้เห็นชัด คลี่คลายดูเวทนา ทั้งสาม สุข ทุกข์ เฉยๆ คลี่คลายดูสัญญาให้ชัด คลี่คลายดูสังขารให้ชัด คลี่คลายดูวิญญาณให้ชัด โดยลักษณะเช่นเดียวกันกับคลี่คลายในส่วนกายด้วยปัญญา ให้จิตได้ตรองตามปัญญา รู้ตามปัญญาที่ชี้ช่องบอกทาง ได้เห็นอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนแล้ว ก็ไม่ต้องบังคับให้ถอดถอนจากสิ่งทั้งหลายเหล่านี้โดยความถือว่าเป็นเราเป็น ของเราเป็นต้นเสีย นี่เราก็ไม่ต้องบังคับอีกเช่นเดียวกัน

    เพราะอำนาจของปัญญาได้หยั่งทราบทั่วถึงหมดแล้ว เปิดดูให้เห็นชัดไม่มีอันใดลี้ลับเพราะอำนาจของปัญญา จิตก็ถอนเข้ามาๆ กระแสของใจที่วิ่งอยู่ริกๆๆ ต่อสภาวะทั้งหลายเหล่านี้ พร้อมทั้งสัญญาที่มีความสำคัญมั่นหมายในสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ก็เป็นอันถอดถอนมาพร้อมๆ กัน การเห็นโทษในสภาวธรรมทั้งหลาย เบื้องต้นก็ต้องเห็นโทษในสภาวธรรมเพราะเราไปเห็นคุณในสภาวธรรม แต่เมื่อได้พิจารณาในสภาวธรรมส่วนหยาบมี รูปเป็นต้นแล้ว ให้ชัดด้วยปัญญา สภาวะทั้งหลายเหล่านั้นก็หมดความลี้ลับ เป็นธรรมที่เปิดเผย เป็นสภาวธรรมที่เปิดเผยโดยทางปัญญา เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เมื่อได้พิจารณาโดยทางปัญญาแล้ว ก็กลายเป็นธรรมที่เปิดเผยอีกเช่นเดียวกัน ยิ่งจะเห็นกระแสของใจที่เพ่นพ่านอยู่ทั้งวันทั้งคืน

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8F%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B9%94-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%99.189488/
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ใครช่วยขยายความ ความเป็นเหตุเป็นผลของ เอกวีร์ให้ผมฟังหน่อยซิ

    คุณ เอกวีร์ รู้สึกว่า คุณจะหมายรู้เกินไปหน่อยกระมังว่ามันคือ สังขารธรรมที่ต่อเนื่อง
    ผมจะบอกอะไรให้นะครับ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร มันออกจากธรรมในใจแล้วไม่ผิด
    ผมจะบอกให้ฟังว่า ทั้งหมดที่พูดไป นั้น อยู่ใน สภาวะแห่งความไม่รุ้ และ การหลงลืม ด้วยอวิชชาเหมือนกันหมด

    คุณ มองไปขนาดเพ่งเล็ง เหตุอันไม่ควรรุ้ ไม่ควรนึกแบบนี้ มีแต่พังครับ และที่สำคัญ เหตุที่คุณไปรุ้นั้นผิดหมด
    ความสืบเนื่องของธรรม ไม่ได้มาจากความเลื่อนลอยขาดสติ แบบที่คุณเป็น เพราะฉะนั้นอย่าไปลึกขนาดนั้น
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    "เอ้าไอ้เจ้าจอมกระล่อน" กรุณาอ่านดีๆนะครับ ผมพูดถึงจิต

    เมื่อท่านพูดว่า "ผมพูดถึงจิต" เราก็เชื่อท่านตามนั้น

    ที่เรากด ไม่เห็นด้วย เพราะ รู้สึกไม่เห็นด้วย กับคำพูดของท่าน ด้านล่างนี้
    เพราะท่านเข้าใจว่าอย่างนี้ ก็พูดอย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่าท่านเข้าใจ
    อย่างที่พระท่านเข้าใจ เพราะเราเองก็ยังรู้ตัวว่าไม่ได้เข้าใจอย่างที่พระท่าน
    เข้าใจ แล้วก็ไม่ตรงกับท่านธรรมภูติด้วย
    ก็เพราะความคิดคนเราไม่เหมือนกัน ก็รู้ว่ามันก็แค่ความคิด ไม่ใช่ความรู้
    เราไม่เห็นด้วยกับความคิดของท่าน และเราไม่อาจไปตีเสมอด้วยความคิด
    ว่าเรารู้เราเข้าใจอย่างที่พระท่านสอน ถ้าจะถูกก็เพราะฟลุ๊คว่าคิดถูกไม่ใช่รู้ถูก
    เพราะถ้ารู้ถูกจริง ย่อมต้องมีมรรคจิต ผลจิต เกิดจริง ย่อมกล่าวได้จากสภาวะ
    จริง อย่างคำพูดข้างล่างนี้ เราไม่เห็นด้วย

    +++++++++++++++++
    "เอาแค่ง่ายๆอะไรๆก็ไม่มี จิตผู้รู้ก็มีไม่ได้
    แต่ตอนท้ายพอจะบรรลุต้องมีมรรคจิต ผลจิต

    เอ้าไอ้เจ้าจอมกระล่อน
    ตอนต่อสู้กับกิเลสแทบเป็นแทบตาย ทำตนไร้สาระหายหน้าไปไหน???
    แต่พอจะบรรลุรีบเสนอหน้าเชียวหรือ
    แต่ก็อย่าดีใจไปที่สุดท้ายเจ้าจะถูกทำลายทิ้งอยู่ดี

    แต่บอกไม่ได้นะว่าใครทำลาย ข้อนี้ถือว่าเป็นความลับสุดยอด
    อย่าถามเชียวนะ ไม่ดีหรอก เพราะข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
    เพราะมันเป็นความลับ ถ้าข้ารู้มันจะเป็นความลับหรือ"
    ++++++++++++++++++++

    และเราขอกล่าวตามความคิดของเรา
    เมื่อท่านพูดออกมาจากความเข้าใจส่วนตัว
    แล้วมันไม่ตรงกับที่เราเข้าใจ ทั้งๆที่ก็อาจจะฟังมาจากที่เดียวกัน
    เราก็กดไม่เห็นด้วย เพราะเราเข้าใจไปอีกอย่าง เราจะพูดอย่างที่เราเข้าใจบ้าง

    จิตผู้รู้ ที่แยกตัวออกมาจากกาย เด่นดวง นั้นก็มีอยู่ คนที่มีก็รู้ว่ามี
    คนที่ไม่มี ก็ไม่รู้ว่ามี (เราเองก็ไม่มี เราก็ไม่รู้)
    แต่ฟังพระท่าน ก็บอกว่าอย่าไปเพ่งจิตผู้รู้ และอย่าไปอยากให้จิตผู้รู้ตั้งอยู่นานๆ

    เพราะจะทำให้เราเห็นผิดได้ว่า จิตผู้รู้นั้นเที่ยง ให้ปล่อยตามธรรมชาติ
    เขาตั้งอยู่ก็รู้ว่าตั้ง เขาไม่ตั้งอยู่ก็รู้ว่าไม่ตั้งอยู่ แบบนี้จะเห็นจิตผู้รู้ มีเกิด มีดับ
    มีไม่เที่ยงจะดีกว่า อยากให้จิตผู้รู้มันเที่ยง ทีนี้เราเข้าใจเอาเองว่า จิตผู้รู้ตามธรรมชาติ ถ้ายังไม่ถึงภูมิพระอนาคามี ก็จะเกิดดับไปตามปกติ เพราะสมาธิยัง
    ไม่บริบูรณ์พอถึงภูมิพระอนาคามี ถึงไม่อยาก จิตผู้รู้มันก็ตั้งมั่นอยู่อย่างนั้น
    เพราะหมด ความยึดมั่นถือมั่นในกายแล้ว เหลือแต่จิตเด่นดวงอยู่
    และเพราะมีสัมมาสมาธิบริบูรณ์ หมดความยึดมั่นในกาม แล้ว แต่สัมมาปัญญา
    ยังไม่บริบูรณ์ เพราะยังยึดจิตผู้รู้เป็นตน เด่นดวงมีความสุขสงบอยู่

    เมื่อภาวนาไปจนสัมมาปัญญาบริบูรณ์ จนเห็นว่าจิตผู้รู้ไม่เที่ยง
    เป็นทุกข์ จึงละความยึดมั่นในจิตผู้รู้ ละด้วยสัมมาปัญญา
    ที่เกิดมีขึ้นมา ทีนี้ตอนที่เกิดมีปัญญาบรรลุธรรมละวางจิตผู้รู้ลง ต้องมีมรรคจิต
    ผลจิต เกิดขึ้นมาด้วยเพื่อทำให้รู้สภาวะธรรมที่เกิดตามมา คนที่ยังไม่บรรลุธรรม
    จริง จะไม่มีอินทรีย์นี้ ตลอดสายของการภาวนา ก็ต้องมีจิต ตอนที่บรรลุธรรม
    ก็ต้องอาศัยจิต แต่ตอนบรรลุธรรมแล้ว ก็ละความยึดมั่นในจิตลง ที่พระท่าน
    บอกว่าสุดท้าย พบจิตให้ทำลายจิต ท่านก็มีอธิบายว่าหมายถึงให้ละความยึดมั่น
    ในจิต ไม่ได้หมายถึงการทำลายล้างจิต

    อธิบายซะยืดยาว ก็เพื่อจะบอกว่า เราและท่านอาจจะได้ฟังธรรมจากบุคคล
    คนเดียวกัน แต่เข้าใจไม่เหมือนกัน ก็ทำให้ไม่เห็นด้วยซึ่งความคิดของกันและ
    กัน แต่ไม่ได้หมายความว่า เราคนใดคนหนึ่ง เข้าใจธรรมจากบุคคลนั้นถูกต้อง
    หรืออาจจะผิดทั้งคู่ก็ได้ เพราะยังไม่มีสภาวะนั้นจริง ก็พูดได้แค่จากจิตนาการ
    ว่าเข้าใจแบบนั้นแบบนี้ ก็อย่าไม่ยึดมั่นในความคิดของเราทั้งคู่ เพราะมันไม่มี
    ประโยชน์อันใด ที่จะไปยึดมั่นในความคิด

    ถ้าเป็นความรู้จากสภาวะจริง
    ท่านบอกมาอย่างไร เราก็เชื่อว่าท่านพูดจากสภาวะของท่านจริง เรามีแต่
    จะเห็นด้วยและอนุโมทนาความรู้และสภาวะธรรมที่ท่านประสบมา แล้วมาแบ่ง
    ปันแก่เพื่อนร่วมทางธรรม ขอเพียงท่านแสดงความรู้จากสภาวะจริงรู้ว่าจริง
    แสดงความคิดรู้ว่าเป็นความคิด ก็จะเป็นประโยชน์แก่เรา เราก็อนุโมทนา
     
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    จินนี่ คุณ กำลังมุสา อย่าน่าเกลียด คุณจะจับเอาสิ่งที่ พูดบอกว่า อย่าพิจารณา ให้หมายไปว่า นั่นพิจารณาแล้ว
    และคุณกำลังเอา คำสอนของหลวงตามหาบัวมายืนยัน ตัวเองอย่างทุเรสครับ

    คุณ อ่านหน่อยว่า คลี่คลายด้วยปัญญา แล้ว จึงเห็นจริงตามนั้น แล้วมันจะปล่อยวางเองไม่ต้องบังคับให้ถอดถอน

    ผมว่า คุณอย่ามาแสดงอะไรเรื่อยเปื่อยแบบนี้เลย จินนี่ เป็นบาป เป็นกรรมติดตัวไปเปล่าๆ
    ทุกวันนี้มันก็มากพอแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าอยากศึกษาทางธรรมให้เจริญก้าวหน้า ก็อย่ามาแจม สู่รู้เป็นพวก ทำลายธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2009
  15. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 9 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิษณุ12*, jinny95, ..กลับตัวกลับใจ.., Tboon, dokai </TD></TR></TBODY></TABLE>


    เอ..คนอายุ 14ไปไหนน๊า
     
  16. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"> <tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 9 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%">nanakorn*, jinny95, ..กลับตัวกลับใจ.., Tboon, dokai </td> </tr> </tbody></table>
     
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    คน อายุ 14 ไม่มาแฮะวันนี้
     
  18. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ใครบอกว่าอย่าพิจารณาครับ

    นึกไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ งันผมขอถามสักข้อ คนใน web ที่พอจะได้สนทนากันนี่ ท่านเห็นใครดี ใครพอจะมีธรรม ใครที่มีกิเลสไม่ครบบ้างไหม

    อาจจะถามยากไป ถามใหม่ท่านขันธ์เคยไม่ปะทะคารม ปะทะวาจา ปะทะโพสกับใครบ้างไหม ^-^
     
  19. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 12 คน ( เป็นสมาชิก 10 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิษณุ12*, jinny95, วิมุตติ, dokai, หลินจิ่นเฉิง, ..กลับตัวกลับใจ.., Tboon </TD></TR></TBODY></TABLE>
    กลิ่นธูปไปเร็วนะนี่
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ ไปอ่านสิ่งที่ผมพูดก่อน ว่าจริงหรือไม่ ไม่ต้องมาถามกลับ เรื่องอื่น
    คุณยกมาผิด คุณต้องรับผิดชอบก่อน

    คนแบบคุณนี่ ใช้ไม่ได้ สิ่งที่ผมตำหนิไป คุณรับไม่ได้ รีบโต้แย้งมา ไม่ได้ย้อนดูที่ตัวเองก่อน
    ว่า จริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ยอมรับ ไม่ใช่ หาเรื่องอื่นมาแซมแบบนี้
    แล้ว ถ้าไม่รู้จริง ก็อย่ามาแย้ง หรือ ยกธรรม พระอริยะมาส่งเดช มันบาปตัวเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...