ไม่ควรมีการเททองหล่อพระอีกต่อไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย manforlove, 6 สิงหาคม 2012.

  1. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ตัวผมเองจิตยังไม่สะอาดพอผมจะไม่พูดถึงสิ่งที่เป็นความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนไปในแง่มุมอื่นที่ก่อให้เกิดความสับสนความขุ่นเคืองใจต่อคนที่ศรัทธา อยู่เฉยๆดีกว่า ผมแค่มองดูตัวเองว่าเราเป็นพหูสูตรหรือยังถ้ายังก็เฉยซะ มีเยอะครับที่คิดเอาเองว่าที่เราอ่านมาจากพระไตรปิฎกไม่มีการกล่าวถึงแล้วก็ทึกทักเอาว่ามันมันผิดมันไม่ใช่ แต่ทำไมเอาแต่อ่านแล้วตีความอย่างเดียวทำไมไม่ฝึกปฏิบัติจนเห็นธรรมให้ได้จริงเสียก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน แต่ที่ผมเห็นพระที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติจนได้ธรรมก็ไม่มีรูปไหนท่านมากล่วามาว่าว่ามันไม่ใช่มันผิดเลยสักองค์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ปาน หลวงปู่ดู่ สมเด็จพุฒธาจารย์โต หลวงปู่ชา หลวงปู่เทสส์ หลวงตามหาบัว และท่านอื่นๆอีมากมาย ไม่เห็นมีบอกเลยว่ามันผิดมันไม่ใช่ อ่านเองเออเองคิดเอาเองสรุปเองมันจะใช่ของจริงได้อย่างไรถ้าไม่ทดสอบปฏิบัติก่อน

    ธรรมมะใดใด ก็ไร้ค่า ถ้าไม่ทำ(ปฏิบัติ) ลงมือปฏิบัติเถอะครับอย่ามาสนใจกับเรื่องปลีกย่อยเหล่านี้เลยได้ประโยชน์มากกว่ากันเยอะ
     
  2. รัศมีสีทอง

    รัศมีสีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +391
    ให้ไปอ่านคัมภีร์อปทานนะครับจะรู้ว่า จะให้มีการสร้างพระหรือไม่ คัมภีร์เขาบอกอยู่โทนโท่ว่า พระอรหันต์หลายๆรูปสำเร็จได้เพราะอานิสงค์สร้างพระ ปลูกต้นโพธิ์ ไหว้เจดีย์ แล้วใครจะกล้าลบหลู่คัมภีร์ คัมภีร์ก็เกิดจากการปฏิบัติขั้นเอาชีวิตเข้าแลกของพระอรหันตสาวก ไม่ได้พูดแบบลอยๆเหมือนพวกที่หู หนา ตาเถื่อนบางคน ตัวเองตาบอดยังจะมาเถียงคนตาดี ช่างน่าสงสาร โง่แล้วยังอวดฉลาด ความโง่ของใครบางคนจะนำมาซึ่งความทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุด น่าสงสารสัตว์โลกเหล่านี้ที่เกิดมาเสียเปล่า มองไม่เห็นผลที่ตัวเองจะได้ในชาติปัจจุบัน เขาเป็นพระอรหันต์มาเยอะแล้วเพราะพุทธานุสตินี่แหล่ะ ยิ่งพระพุทธรูปมากเต็มแผ่นดินยิ่งดี คนจะได้เกรงบ้าง ดีกว่าโรงแรม ซ่อง บ่อน เต็มบ้านเต็มเมือง คนที่เห้นว่าพระพุทธรูปแค่วัตถุโบราณเจอกันที่นรกอเวจีนะ ถึงเวลาผมจะไปโปรดคุณเอง รอให้ผมบรรลุก่อน ถึงเวลานั้นทุกอย่างก็สายเกินแล้วล่ะท่าน
     
  3. Siranya

    Siranya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    2,051
    ค่าพลัง:
    +9,004
    ธรรมะเพิ่มสติ......ทุกข์คลายใจสงบ.....
     
  4. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499
    เรียนเยอะไปไหมครับ ?
    ปฏิบัติ ปริยัติ พอดีไหม
    อันไหนมากกว่า น้อยกว่า
    ปรับสมดุลให้เหมาะสมไว้
    ถ้าอยากจะเดินทางสายกลาง
     
  5. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    นี่แหละครับ ตัวอย่างของการขวางคลอง เรือเร็วแรงขวางคลองยากมาก ต้องเป็นเรือเหาะ ตัวใครตัวมัน กระทู้นี้เป็นกระทู้การทดสอบอย่างหนึ่งเพื่อรู้ภาวะของพุทธศาสนิกชน ขอบคุณครับ
     
  6. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    กรรมใดพวกท่านทั้งหลายกล่าวละเมิดพระพุทธ พระธรรม พระสงค์ ขอพระรัตนไตร อดโทษเขาผู้ไม่รู้ รู้มาก ผู้รู้น้อยและผู้ไม่รู้ ทั้งหลายที่กระทำกริยานี้ด้วยเทอญ
     
  7. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    อโหสิกรรมต่อกันนะครับทุกท่าน
     
  8. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    ถือว่าได้แจ้งตามพระประสงค์แล้ว สุดแท้แต่บุญวาสนา
     
  9. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    ศาสนาในโลกทั้งหมดที่มี มีศาสนาใดบ้างไม่กราบไหว้รูปเคารพ
    คริส(ยกเว้นคาทอลิก)
    อิสลาม
    พุทธ (ส่วนน้อย)
    และศาสนาเล็กน้อยบางส่วนในมุมโลกซึ่งถือว่า คนส่วนใหญ่ใหว้และศรัทธารูปเคารพ พวกไม่เคารพ ก็ไม่ควรดูหมิ่น ผมไม่ดูหมิ่นไม่วางในที่ไม่เหมาะ ทุกอย่างต้องให้กลมกลืนกับสังคมจึงจะอยู่ได้ สมมุติเหนือสมมุติจึงจะพ้นสมมุติ
     
  10. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499
    รู้สึกว่า จะทดสอบแรงไปนะครับ ถามหน่อย เพื่อ ?

    คุณทดสอบแล้วได้รู้ สภาวะโน้น นี่ นั่น ของคนโน้น คนนั้น คนนี้
    แต่คุณไม่มีวันที่จะได้เข้าถึงจิตใจ ของผู้ที่ศรัทธาจากใจจริงหรอกครับ
     
  11. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    เพื่อให้คุณรู้จักการให้อภัยผู้อื่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 สิงหาคม 2012
  12. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    การกระทำทุกอย่าง หากทำด้วยเจตนาที่ดีแล้วอย่างมีสติ(คิดดี) ก็จะส่งผลต่อ การกระทำ และคำพูด ที่ตามมา ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้กระทำทั้งนั้น
    แต่อดีตกับปัจจุบันมันต่างกันหน่อยคือเรื่องของเจตนาที่มั่นคงความความดี คุณธรรมที่ดีงามของใจคนในปัจจุบันนั้นแตกต่างจากอดีต.. คือความบริสุทธิ์ของใจ

    เจตนาจึงส่งผลกับคำพูดและการกระทำโดยปริยาย แม้เพียงการกระทำและคำพูดที่ดีแล้ว..แต่เคลือบแฝงไปด้วยเจตนาที่เจือปนด้วยกิเลส (ความอยาก ความต้องการ เข้าไปร่วม) คือเจือปนด้วยอกุศลจิต ย่อมส่งผลโดยตรงกับผลของการกระทำนั้น(พระที่สร้าง) ให้ไม่บริสุทธิ์ตามเจตนาที่ทำ
    เมื่อเริ่มต้นไม่ถูก ผลย่อมไม่ถูกตามมา(ผลของกรรม) ทั้งผู้กระทำ และผู้ไปกราบไหว้(ขึ้นอยู่กับจิตที่ตั้งมั่นเฉพาะบุคคลหากไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ไม่เป็นไร)

    ดังนั้นสติ..จึงเป็นส่วนสำคัญในการระลึกรู้ถึงใจตนกับสิ่งที่เคลือบแฝง และมั่นคงกับตนเองเป็นสำคัญ
    และดำรงคงอยู่ด้วยใจที่ปกติ ไม่หวั่นไหวกับสิ่งใดๆ แม้เพียงเค้ากระทำเช่นไรย่อมเป็นเรื่องของเค้า แต่เราต้องเป็นผู้เลือกด้วยตนเองเท่านั้น เพราะทุกการกระทำย่อมมีผลของวิบากให้ต้องรับในภายหน้าเสมอ
     
  13. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    แฮ่ม! กลับฐานเถอะท่านพี่ฮับบ..๕๕๕๕...โลกนี้ก็เป็นเช่นนี้แล...

    โมทนาทุกความคิดเห็น ถูกหมดทุกข้อครับบบ..เพราะนี่คือธรรมะ..ธรรมชาติ..
     
  14. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    แนวคิดคุณ bade ไม่ผิดและก็ไม่ถูกครับ ทั้งหลายทั้งปวงนั้นเป็นสิ่งสมมุติก็จริงอยู่ หากเรายังไม่เข้าใจในสมมุติและไม่คิดว่ามันทุกข์เราก็เพิกมันออกไปไม่ได้
    หากทบทวนดูแล้วพระเถระหลายท่านท่านปฎิบัติมาตลอด แต่เราต้องทำความเข้าใจโดยค่อยๆพัฒนาจากการปฎิบัติ ถ้านั่งคิดเออออด้วยเหตุผลจะสับสนไม่กระจ่าง

    เราบริกรรมภาวนาเพื่ออะไร
    เราทิ้งบริกรรมเพื่ออะไร
    เราพิจารณาเพื่ออะไร
    เราละมันเพื่ออะไร

    เหล่านี้คือ กายานุปัสนาธรรมในสติปัฎฐาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2012
  15. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    หลวงพ่อจรัญท่านกล่าวไว้ว่า..

    หากคิดว่าปฎิบัติเกิดผลตรงตามสัมมาทิฐิ.. ต้องเกิดผล3ประการ

    1. ระลึกชาติได้ (สามารถล่วงรู้อดีตชาติว่าเคยกระทำอะไร กับใครไว้)
    2.ยอมรับกฎแห่งกรรม อย่างเบิกบาน..ไม่ตัดพ้อ โทษสิ่งใดๆ..(เพราะทุกสิ่งที่เกิด เรากระทำมาเองทั้งสิ้น)
    3.เกิดปัญญานำมาแก้ไขปัญหาในชีวิตได้จริง (ไม่ใช่บอกว่า.บรรลุแล้วแต่ปัญหาในชีวิตยุ่งเหยิง อุรุงตุงนัง)

    ก่อนจะไปสวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ จงเป็นมนุษย์สมบัติให้ได้ซ่ะก่อน..อย่าข้ามขั้นตอน.ฝากไว้ให้พิจารณา..เอเมน.
     
  16. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    พอพิจารณาจากประโยคนี้และชื่อของจขกท.ก็เลยเข้าใจว่าเพราะอะไรจขกท.จึงยังหลงผิดอยู่ บางทีอาจคิดว่าตัวเองหลุดพ้นแล้วด้วยซ้ำ

    แต่ก็ขอบคุณสำหรับกระทู้ทำให้รับรู้อะไรดีๆมากขึ้น
    ขอสรุปเป็นประเด็นคร่าวๆ 3 ประเด็น
    - สร้าง/กราบพระพุทธรูปได้บุญหรือไม่
    - กราบพระพุทธรูปผิดพระวินัย/คำสอนหรือไม่
    - สร้าง/กราบพระพุทธรูปเป็นประโยชน์หรือไม่
    ---> แล้วควรสร้าง/กราบต่อหรือไม่
    เพราะเห็นบางท่านบอกว่าไม่ได้บุญแต่เป็นประโยชน์ หรือบางท่านบอกผิดศีลแต่ก็มีประโยขน์ บางท่านก็เห็นควรสร้าง บางท่านบอกไม่จำเป็น

    ในความเห็นผม ผมมองว่า สร้างพระพุทธรูปได้บุญ ไม่ผิดพระวินัย และเป็นประโยชน์ เหตุผลที่คิดเช่นนั้นเพราะครูบาอาจารย์และพระที่บรรลุธรรมท่านทำให้ดูเป็นตัวอย่าง (สำหรับปุถุชนอย่างผมไม่ได้รู้แจ้งเรื่องบุญกรรมก็ต้องอาศัยดูจากผู้รู้นั่นแหละครับ) ดังนั้นไม่ว่าจะสร้างพระพุทธรูป เจดีย์ วัด ก็ล้วนเป็นประโยชน์และได้บุญ

    ปล. ยังมีเรื่องไม่เข้าใจอีกมาก อย่างเช่น
    - แม้พระวินัยไม่ได้ห้ามกราบพระพุทธรูป แต่พระสงฆ์ห้ามห้อยพระใช่หรือไม่ เพราะอะไร
    - ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปเกิดขึ้นจากอะไร ทำไมแต่ละองค์ศักดิ์สิทธิ์ต่างกันทั้งที่น่าจะเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าเหมือนกัน หรือขึ้นกับผู้ที่มาเคารพด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2012
  17. ลี้ท่ำฮวย

    ลี้ท่ำฮวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +178
    ยอดเจดีย์นั้น น้อยนิดยิ่ง เปรียบได้อริยะบุคคล
    ตรงกลาง ตรงฐานเจดีย์ เปรียบได้ปุถุชนทุกหมู่เหล่า
    ศรัทธา วิริยะ สติ ปัญญา ล้วนแตกต่าง
    เมื่อแตกต่าง สิ่งยึดเหนี่ยวก็ต่างกัน
    แล้วไย ต้องการให้เห็นเป็นเช่นตน
     
  18. อิ๋วจ้า

    อิ๋วจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2009
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +215
    มนุษย์เราจะมาให้แยกออกจากสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นกันมานานมากนั้นมันก็ไม่อาจแยกออกได้ในทันที หากท่านผู้รู้ค่อยๆสั่งสอนกันไปเรื่อยๆ ถึงแม้ในปัจจุบันยังไม่มีผลแต่ต่อไปก็คงจะปลูกฝังกันได้....วัตถุทั้งหลายที่ทำกันขึ้นมาก็มีดีอยู่บ้างคือศาสนาจะได้สืบต่อไปได้อีกนานๆถึงแม้จะบางๆไป..แต่ก็ยังดีกว่าที่หายไปเลย..อนาคตข้างหน้าอาจจะมีผู้รู้ซึ้งถึงธรรมอันแท้จริงมาสั่งสอนกันอีกครั้ง..ช่วงนี้ก็บางๆไปก่อน..เพราะปัจจุบันไม่มีนักบุญหรือผู้ที่มีบุญมากพอขนาดมาปลดปล่อยมนุษย์เหล่านั้นได้
     
  19. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    พิมพ์ซ้ำครับ โทษที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2012
  20. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    ตกลงผู้ที่หลุดพ้นจะไม่กราบไหว้พระพุทธรูปเหรอครับ
    การกราบไหว้พระพุทธรูปเป็นเรื่องของปุถุชนที่ไม่บรรลุเท่านั้นหรือ
    แต่พระอรหันต์ท่านก็กราบไหว้พระพุทธรูปนะ

    คงต้องมาพิจารณาใหม่ว่าจริงๆแล้วที่เราพูดกันเรื่องหลุดพ้น ไม่ยึดติด เราเข้าใจว่ายังไงกันแน่ จะเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องจริงหรือไม่

    ถ้าบอกว่า ผู้ที่หลุดพ้นอยู่เหนือสมมติแล้ว จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสมมติ เช่นนั้นหรือ
    แล้วพระอรหันต์ท่านไม่ต้องใช้ภาษา ไม่ต้องเรียกชื่อคน/สิ่งของเหมือนคนอื่นหรือครับ ในเมื่อภาษา ชื่อคน สัตว์ สิ่งของ ก็ล้วนสมมติทั้งนั้น

    ทาน ศีล สวดมนต์ ภาวนา ก็เป็นเส้นทางที่นำไปสู่การหลุดพ้น แต่พระที่หลุดพ้นก็ยังคงมีศีล สวดมนต์ ภาวนา เพราะอะไร เรียกว่ายึดติดด้วยมั้ยล่ะครับ (ผมกลับมองว่า สิ่งใดที่ดีท่านก็ยังคงทำไม่ได้ละเลย มีแต่จะต่อยอดความดีขึ้นเรื่อยๆ)

    ปล. เท่าที่อ่านทุกท่านยังเห็นตรงกันคือการเคารพพระรัตนตรัยนำไปสู่การหลุดพ้น เพียงแต่เห็นต่างว่าเคารพพระรัตนตรัยคือยังไง โดยเน้นเรื่องพระพุทธ แต่ผมจะลองยกตัวอย่างเรื่องพระธรรมบ้างก็ได้
    หนังสือธรรมมะ กับหนังสือทั่วไปต่างกันหรือไม่ โดยรูปธรรมไม่ต่าง ใช้กระดาษเหมือนๆกัน แต่ถ้าด้านนามธรรม คุณค่านั้นต่างกัน บางคนเก็บหนังสือธรรมมะไว้ที่สูง กราบไหว้ทั้งก่อนและหลังอ่าน แบบนี้ควรตำหนิด้วยหรือไม่ แล้วควรห้ามผลิตหนังสือธรรมมะหรือไม่คนจะได้ไม่กราบแล้วระลึกธรรมคำสอนในใจก็พอ พระอรหันต์ที่หลุดพ้นแล้วอ่านหนังสือธรรมมะได้มั้ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...