ไม่ควรมีการเททองหล่อพระอีกต่อไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย manforlove, 6 สิงหาคม 2012.

  1. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +973
    สายสุกขวิปัสโก กับสายอภิญญา รู้เห็นได้เหมือนกันที่ไหนเล่า

    สุดท้าย เหมือนกันที่หมดสิ้นกิเลส

    พุทธภูมิ และสาวกภูมิ หน้าที่และการบำเพ็ญเพียร เท่ากันเสียที่ไหน 10 ทัศ กับ 30 ทัศ

    พึงแยกแยะ พิจารณา...."พระธรรมกว้างใหญ่ไพศาล เกินจะรู้ทั่ว"
     
  2. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571

    นั่นน่ะซี่ ใครเขาจะสร้างพระ เพื่อเคารพบูชา ก็ปล่อยเขาไป จะไปตัดสินเขาทำไม เพราะที่เขาทำมิได้ทำให้พุทธเสื่อมลง

    สิ่งไหนที่ไม่ใช่สำหรับคุณ คุณก็แค่ปล่อยให้มันผ่านไป แล้วไปทำสิ่งที่ใช่สำหรับตนเอง และดีที่สุดสำหรับตนเองก็แค่นั้นเอง



    หากมันร้อนรนทนไมไหวแล้วล่ะก็...

    วันหลังเห็นใครเขากำลังเททองหล่อพระกันอยู่ ก็เข้าไปจัดหนักแบบ จขกท เลยนะ

    เผื่อจะได้ สมปรารถนา (deejai)(deejai)(deejai)
     
  3. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    มันไม่ควรมีใครตัดสินใครทั้งนั้นล่ะค่ะ เพราะมีแต่คนที่เข้าใจกับไม่เข้าใจ ไม่ใช่ว่าจะถูกหรือผิด อะไร
    ดังนั้น..การที่คนอื่นเค้าพูดในมุมของเค้า มันก็คือความเข้าใจของเค้า ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องตัดสินกัน

    ส่วนของ เจ้าของกระทู้ก็เหมือนกัน มันเป็นความเข้าใจของเจ้าของกระทู้เค้า คนอื่นไม่เข้าใจมุมนี้มันก็เรื่องของคนอื่นก็ไม่ต้องตัดสินกัน
    เพราะแค่ความเข้าใจที่รับรู้และเข้าใจได้ไม่เท่ากัน
    อะไรดีก็รับไว้ อะไรไม่เหมาะกับตนเองก็ปล่อยไป อย่าเป็นผู้ตัดสินหรือเป็นผู้กระทำเพราะมันมีผลให้กับตนเองต้องรับ

    เป็นผู้ตัดสิน คือ การตั้งด้วยมิจฉาทิฎฐิ วางจิตไว้ให้ถูก ผลจึงจะถูกได้

    (deejai)(deejai)(deejai) อ๊ะ ให้ 3 ดี ค่ะ

    ปล. เททองบ้านท่านมันเย็นหรือคะ ที่ไหนๆ ก็ร้อนทั้งนั้นล่ะค่ะ เพราะมันใช้ไฟหลอมนะคะ เจ้านาย 5555
     
  4. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    สวัสดีท่าน bade ประคองจิตไว้ใจเย็นๆ เดึ๋ยวท่านก็ถึง(นิพาน)แลัว ส่วนผมต้องสะสมอีกหลายชาติครับ ยังชอบโลกใบนี้อยู่เลย สวัสดีครับ
     
  5. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เจ้าของกระทู้เค้าก็ยังเป็นคนอยู่ไม่ใช่หรือคะ ไม่ได้เป็นไรซะหน่อย

    ยังไม่ตายเหมือนเราๆ ท่านๆ นั่นแหละค่ะ
     
  6. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ได้ยินมาว่า..ตนแล ฝึกได้ยาก
    ความเมตตา ทำให้คนหลุดพ้น จากโลกนี้ได้
    ..................................................................
    เธอปฎิบัติ เพื่อละความหลง หรือว่าเธอกำลังหลงไปกับการปฎิบัติ?
    วิธีการปฎิบัติธรรมที่ดีที่สุด..ต้องค้นหาจากใจของตัวเราเอง.
    ไม่มีใครบอกเธอได้ นอกจากตัวเธอเอง..
    ...............................................................
    สัจจธรรม คือ ของแท้
    สัจจะ ไม่ซ้ำเติมคนมีกรรม
    บ่อยครั้ง คนเราแพ้ชนะกันที่ใครอดทนกว่าใคร ไม่ใช่ใครเก่งกว่าใคร
    ความสุขสร้างได้ ความทุกข์ทำเอง.ครับ
    .
     
  7. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    สวัสดีครับ คุณ raiwaห้าห้า ผมหมายถึงให้ท่านbade ระวังประคับประึคองดวงจิต
    ไม่ขุ่นมัว
    เพราะท่านbade ปฎิบัติแบบเข้าถึงนิพาน มิได้หมายความว่า เป็นไรซะหน่อย ไม่รู้ว่าได้อ่านมาทั้งหมดรึยังครับ อ่านก่อนนะ..นะจะ
    ส่วนผมน่ะเกิดมาบุญมีน้อยไม่อาจเอื้อมถึงนิพาน (ขอแค่ให้ได้เกิดมาเททองหล่อพระพุทธรูปทุกชาติไปก็พอ) พูดคุยถึงท่านbadeแบบสหายธรรมแบบกัลยาณมิตร
     
  8. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ทำไมมามักน้อย กั๊กตนเองแบบนี้ล่ะท่าน เกิดมาทั้งที เมืองพุทธศาสนาอีกตะหาก
    ทุกอย่างล้วนอยู่ที่ปัจจุบันทั้งนั้นล่ะท่าน ขึ้นอยู่กับว่าปัจจุบันทำไงต่างหากล่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าอาจเอื้อมหรือไม่อาจเอื้อม
    ไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหนเลยซักกะนิด ทำใจให้สบายเถิด แล้วทุกอย่างก็จะสบายๆ ได้เอง
    แค่รักษาใจให้สบายไปเรื่อยๆ เมื่อไม่สบายก็ให้ยาสติระลึกรู้ไป ต่อไปก็สบายได้เรื่อยๆ เองนั่นล่ะค่ะ

    ปล. อ่านข้อความทั้งหมดล่ะค่ะ และทราบเจตนาท่านดี ส่วนเราเจตนาจะแซวท่านเล่นก็เท่านั้น ม่ายมีไร
    อ้อ...ยืนยันเช่นเดิม ท่านเจ้าของกระทู้ก็เป็นคนเหมือนเราๆ ท่านๆ ค่ะ
     
  9. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    สงกะสัยว่า ต้องทำความเคารพพระเจ้าซะแร้ว....ม่ายงั้นอาจโดน....

    เคารพค๊าบกระผม
     
  10. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    ทรงยกพระธรรมวินัยไตรปิฎกเป็นศาสดา ประทานปัจฉิมโอวาทแล้วปรินิพพาน

    ก่อนเสด็จนิพพานเล็กน้อย คือภายหลังทรงโปรดสุภัททะปริพาชกแล้ว พระพุทธเจ้าประทาน
    โอวาทพระสงฆ์ โอวาทนั้นเป็นพระพุทธดำรัสสั่งเป็นครั้งสุดท้าย มีหลายเรื่องด้วยกัน เช่น เรื่องหนึ่งเกี่ยว
    กับพระสงฆ์ยังใช้ถ้อยคำเรียกขานกันลักลั่นอยู่ คือ คำว่า 'อาวุโส' และ 'ภันเต' อาวุโสตรงกับภาษาไทยว่า
    'คุณ' และภัตเตว่า 'ท่าน'

    พระพุทธเจ้าตรัสสั่งว่า พระที่มีอายุพรรษามากให้เรียกพระบวชภายหลังตน หรือที่อ่อนอายุ
    พรรษากว่าว่า 'อาวุโส' หรือ 'คุณ' ส่วนพระภิกษุที่อ่อนอายุพรรษา พึงเรียกพระที่แก่อายุพรรษากว่าตนว่า
    'ภันเต' หรือ 'ท่าน'

    ครั้นแล้วทรงเปิดโอกาสให้พระสงฆ์ทั้งปวงทูลถาม ว่าท่านผู้ใดสงสัยอะไรในเรื่องที่พระองค์
    ทรงสั่งสอนไว้แล้วก็ให้ถามเสียจะได้ไม่เสียใจเมื่อภายหลังว่าไม่มีโอกาสถาม

    ปรากฏตามท้องเรื่องใน มหาปรินิพพานสูตร ว่า ไม่มีพระสงฆ์องค์ใดทูลถามพระพุทธเจ้าใน
    ข้อสงสัยที่ตนมีอยู่เลย

    เมื่อก่อนพระพุทธเจ้าจะเสด็จนิพพานนั้น พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงตั้งสาวกองค์ใดให้รับตำแหน่ง
    เป็นพระศาสดาปกครองพระสงฆ์สืบต่อจากพระองค์เหมือนพระศาสดาในศาสนาอื่น เรื่องนี้ก็ไม่มีพระสงฆ์
    องค์ใดทูลถามพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้าก็ตรัสสั่งพระสงฆ์ไว้ฃัดเจนก่อนจะนิพพานว่า พระภิกษุรูปใด

    ตรัสบอกพระอานนท์ว่า "ดูก่อนอานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราได้แสดงไว้ และ
    บัญญัติไว้ด้วยดี นั่นแหละจักเป็นพระศาสดาของพวกท่านสืบแทนเราตถาคต เมื่อเราล่วงไป
    แล้ว"

    ครั้นแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสเป็นปัจฉิมโอวาทครั้งสุดท้ายว่า "ภิกษุทั้งหลาย! บัดนี้เราขอเตือน
    พวกท่านให้รู้ว่า สิ่งทั้งหลายที่เกิดมาในโลกมีความเสื่อมสลายเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำหน้าที่อันเป็น
    ประโยชน์แก่ตนและคนอื่นให้สำเร็จบริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด"

    หลังจากนั้นไม่ได้ตรัสอะไรอีกเลย จนกระทั่งนิพพานในเวลาสุดท้ายของคืนวันขึ้น ๑๕ ค่ำ
    เดือน ๖ หรือวันเพ็ญวิสาขะ ณ ภายใต้ต้นสาละทั้งคู่ที่ออกดอกบานสะพรั่งเป็นพุทธบูชานั่นเอง
     
  11. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    ภิกษุทั้งหลาย … เมื่อเราปรินิพพานแล้ว พระธรรมวินัยทั้ง ๘๔,๐๐๐
    (แปดหมื่นสี่พัน)พระธรรมขันธ์ จะเป็นครูสอนแทนตัวเรา อย่าได้คิดว่า พระศาสดาของเรา
    ปรินิพพานแล้ว ศาสดาของเราจะไม่มีด้วย เพราะแท้จริงแล้ว ธรรมก็ดีวินัยก็ดีที่เราแสดง
    และบัญญัติเอาไว้ จะเป็นศาสดาแทนเราต่อไป ภิกษุทั้งหลายเธอทั้งหลายจงมีธรรม
    และวินัย เป็นที่พึ่งเถิด อย่าได้มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลยแม้ตถาคตก็เป็นแต่เพียง
    ผู้บอกทางเท่านั้น
     
  12. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    แหมท่านก็..เราแค่เคารพก่อนไงล่ะ ไม่ต้องเคารพตอบก็ได้ไม่เห็นเป็นไรเลย

    ส่วนกำลังใจก็ให้อย่างสม่ำเสมอจ้าาา ไม่ขออะไรตอบแทนแม้แต่นิดเดียว

    เพื่อที่พระเจ้าจะได้ทำดีได้อย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ ที่มีอย่างล้นเหลือที่ใจ

    เอ็มร้อยมันน้อยไปป่าวท่าน ใช้งานขนาดนี้ ต้องเอ็มพัน เอ็มหมื่น หรือเอ็มแสนไปเลยค่ะ
     
  13. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    สวัสดีครับ ท่าน sianns ใจเย็นๆครับ เอาแบบคุยเรื่องธรรมะที่สงสัยกันก็พอ
    ครับ ประมาณว่าทำแบบใด..ใช่ ทำแบบใดคือ..ไม่ใช่ และเพราะอะไรครับ
    ไม่ต้องเครียดกันครับ มีแค่ ปุจฉา-วิสัจชนา ครับ เดี๋ยวเรื่องพระเจ้าไว้อีกคอลัมน์นึง อันนี้ผมก็สงสัยเพราะว่าปีที่แล้วพ่อผมกลับมาจากอเมริกามาพบกันก่อนกลับ
    ได้ยื่นใบเบิ้ลขนาดพ็อกเกตบุคให้ผมบอกให้ผมอ่านดูผมก็รับไว้ไม่ปฏิเสธ
    แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเป็นภาษาอังกฤษผมเลยไม่ค่อยถนัด แต่ถ้าในใบเบิ้ลสอนอะไรที่ดีและผมทำได้แบบไม่รู้สึกว่าฝืนผมก็จะรับไว้ แบบน้ำยังไม่เต็มแก้ว
    ข้าวยังไม่เ็ต็มยุ้ง ชีวิตอีกยาวไกลรับได้อีกเยอะครับ อันนี้เล็กน้อยเพิ่งกระทู้เดียว
    ยินดีที่ได้ทักทาย สวัสดีอีกครั้งครับ...
     
  14. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ผมว่ามันอยู่ที่ปัญญาของตัวบุคคลแหละครับ เพราะว่าทุกๆคนล้วนแล้วแต่คิดว่า สิ่งที่ตัวเองคิด สิ่งที่ตัวเองนับถือ ศรัทธา เป็นสิ่งที่ดีและถูกต้องด้วยกันทั้งนั้นแหละ และก็อยากที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของคนอื่นให้เป็นอย่างที่ตนคิด

    แต่ดูแล้วผมว่ามันคงเป็นการยากจริงๆที่จะเปลี่นนความคิดที่ฝังรากลึกกันมานาน
    เพราะในอดีตที่ผ่านๆมานั้นผู้คนก็ต่างก็พากันสรรหาสิ่งที่คิดว่ามีค่าสูงค่าที่สุดมาสรรสร้างเป็นสิ่งที่ตนนับถือศรัทธาเป็นธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นเทพเจ้า รูปนั้นนี่นั่น หรือสัญลักษณ์ต่างๆ ให้เป็นเครื่องหมาย ให้เป็นที่ระลึก ให้เป็นเครื่องรางนำโชค ไม่ว่าเผื่อให้เป็นที่พึ่งมั้ง ให้ช่วยเหลือมั้ง ให้เป็นกำลังใจมั้ง ไม่ก็เผื่อที่หวังว่าจะได้บุญมั้ง ไม่ว่าจากการสร้าง หรือการเคารพบูชา

    จะว่าไปมันก็เหมือนจะดีหรือไม่แตกต่างไปกว่าพวกที่บูชายัญเทพเจ้าที่ตนนับถือด้วยชีวิตของสิ่งมีชีวิต พวกที่กราบไหว้สิ่งแปลกประหลาดผิดธรรมชาติ รวมถึงพวกที่กราบไหว้สัตว์เดรัจฉานที่เกิดมารูปร่างผิดแปลก เพราะต่างก็คิดว่าสิ่งที่ตนกระทำนั้นเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูกต้อง
    ด้วยเหตุผลนาๆนับประการมาสนับสนุนความคิด ความเชื่อของตนเองให้หนักแน่นยิ่งขึ้น

    แต่ถ้าจะลองเปรียบเทียบดูให้เห็นชัดๆกว่านี้ ก็ลองนึกดูอย่าง หมามันกิขี้ซิ มันก็ยังคิดว่าเป็นสิ่งที่กินได้ ก็คงต้องรอวันที่ตายจากหมาแล้วเกิดเป็นมนุษย์ถึงจะรู้นะว่ามันขี้เป็นของเน่า ของสกปรกไม่ควรกิน
     
  15. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2012
  16. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    สวัสดีครับ blackangel
    ท่านคิดมากไปปล่าวครับ เรื่องไม่ควรมีการเททองหล่อพระอีกต่อไปน่ะ
    แอบบ่นอะไรอยู่น่ะ เอาธรรมะมาคิดธรรมกันแบบนี้...หมามันกิน.. ก็เห็นแล้วไม่วาง ไปเก็บเอามาถือไว้ทำไมครับ ถ้าได้ธรรมะมาแค่นี้ บอกให้ครับของปลอมผิดทางแล้วครับผม ท่านได้ญาณรู้หริอว่ามันคิดอะไร คุยกับคนก็พูดเรื่องคนเถิดครับนะ นะ เิอาไว้สอนตัวเองอย่าไปนึกแทนกันนะ เรียนทางนี้แล้วถ้าต้องคิดแบบนี้ไม่เอาดีกว่า...ลึกซึ้งเกินไป ไปละ่สวัสดี...ท่านลองอ่านดูนะขำขำ
    แต่ถ้าจะลองเปรียบเทียบดูให้เห็นชัดๆกว่านี้ ก็ลองนึกดูอย่าง หมามันกิขี้ซิ มันก็ยังคิดว่าเป็นสิ่งที่กินได้ ก็คงต้องรอวันที่ตายจากหมาแล้วเกิดเป็นมนุษย์ถึงจะรู้นะว่ามันขี้เป็นของ เน่า ของสกปรกไม่ควรกิน
     
  17. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    เมื่อพระบรมศาสดาได้จากพุทธบริษัทไป เพราะกระเพาะหมูซึ่งเป็นอาหารที่ย่อยยาก
    ทำให้เกิดศาสนาอื่นตาม มาที่หลัง และทุกศาสนาเมื่อสวาศาสนาอื่นมาสืบค้นพุทธศาสนาแล้ว
    เมื่อพบคำสอนที่เป็นแก่นแท้ต่างโยกย้ายศาสนามาศึกษาศาสนาพุทธอย่างเข้มแข็ง(เผลอๆเข้มแข็ง
    กว่าคนพุทธทะเบียนบ้านอีก)ระบบศีลซึ่งแปลว่าปกติ ไม่เคยปกติเลยสำหรับพุทธศาสนิกชนไทย
    พุทธศาสนิกชนไม่ได้ยึดมั่นพระรัตนไตรแบบโบราณกาลกลับยึดเอาสระอื่นซึ่งไม่ใช่คำสอนศาสดา
    และยิ่งนับวันยิ่งทวีคูณความเชื่อผิดๆ ระบบศาสนาพุทธไม่ๆได้สอนให้มีการปะทะการต่อสู้เป็นศาสนาที่ล
    ห้ามทัพห้ามศึกมาแล้วนับไม่ถ้วนอีกทั้งยังเป็นศาสนาที่สร้างจอมกษัตริย์จนถึงพระจักรพรรดิ์ได้มหาศาล
    เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเกิดมาเราเห็นแล้วซึ่งรูปปั้นรูปเคารพมาตั้งแต่ก่อน เมื่อย้อนอดีตไปในประวัติศาสตร์
    ศาสดาไม่ให้ยึดมั่นในสิ่งใดบ้าง ทุกสิ่งย่อมเสื่อมไปเป็นธรรมดา เราจะยึดมั่นของที่เสื่อมได้กระนั้นหรือ
    แม้แต่ทองคำยังเปลี่ยนรูป และเพชรนิลจินดาก็ย่อมเปลี่ยนรูป สิ่งใดเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป แต่สัจธรรมอันเที่ยงแท้
    ไม่ควรเปลี่ยน เพราะพุทธศาสนาไม่ได้เกิดมาในโลกในครั้งเดียว บางครั้งเราขุดพบพระพุทธรูปเก่ามีอายุก่อนพุทธกาล
    แต่ยุคพุทธกาล หากพระพุทธรูปเป็นสิ่งที่ศาสดาพร่ำสอน ณ.สังเวนียสถาน คงเต็มไปด้วยพระพุทธรูป
    บดบังแผ่นดินแผ่นหินที่พระพุธองค์ตรัสรู้เรียบร้อยแล้ว ระบบการชี้นำเป็นอย่างนี้มานานจึงมีส่วนหนึ่ง
    ที่ค้นพบความจริง เมื่อวานผมโทรศัพท์หาด็อกเตอร์ท่านหนึ่ง ซึ๋งท่านปลีกวิเวกกับพระภิกษุรูปหนึ่ง ผมถามว่า
    ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับการสร้างพระพุทธรูปทองคำ ประดิษฐานในประเทศไทย ท่านตอบว่า ในคำสอนของศาสดาไม่มี
    ผมจึงไม่มีความเห็น ผมจึงถามต่อว่าแล้วในบทใหนครับที่ว่าห้ามสร้าง ท่านบอกว่าไม่ทราบ ผมจึงตอบว่าตอนหนึ่งสูญหายไป
    คือตอนที่พระอานนท์ถามพระพุทธองค์ว่า จะขออนุญาติสร้างรูปปั้นแทนศาสดาได้หรือไม่หลังจากที่พระพุทธองค์ปรินิพพาน
    พระศาสดาไม่ทรงอนุญาตุ พระอานนจึงทูลถามต่อไปว่า งั้นจะให้พุทธศาสนิกชน กราบบูชาสิงใด พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า อันใดควร
    แก่การสักการะ อันนั้นควรชื่อว่าเรา ตถาคต สิ่งสมมุติที่แทนตถาคตได้ ไม่มี เปรียบรูปปั้นดั่งขนของทราย การกราบไว้ พระธรรม
    สังเวณียสถาน 4 แห่ง และต้นโพธิ์ และศาสดาได้ตอบข้อสงสัยกับพระอานนท์อีกหลายประการและการปฏิบัติต่อพระสรีระ
    ของศาสดา พระศาสดาสั่งให้พระอานนท์ทำการกับพระสรีระ ดั่งพระเจ้าจักรพรรดิ์ คือ ห่อด้วยผ้ากำพล (ผ้าที่ซักด้วยไฟ)และห่อผ้า
    อีก500 ชั้นชุบด้วยน้ำมัน และอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาติรวมกันไว้ในสถูปเจดีย์บนทาง 4 แพร่ง(ซึ่งแปลได้ว่ามัชิมาประเทศ)ที่
    อยู่ตรงกลางระหว่างทวีปทั้ง 4 เพื่อให้ทั้ง 4 ทวีปเดินทางมาสักการะ และจุดนั้นมีอยู่ในประเทศไทย และในโลก นั้นทรงบอกใบ้ไว้แล้วว่า
    พระพุทธองค์ คือพระเจ้าจักรพรรดิราชทางธรรม เหลือแต่พระเจ้าจักรพรรดิราชทางโลกที่จะมาในกึ่งพุทธการตามพุทธประเพณี คือหาก
    ศาสดาสิ้นก่อนครบอายุศาสนาจะต้องมีกษัตริย์โพธิสัตว์และพระเจ้าจักรพรรดิ์ปกครองโลกเพื่อส่งเสริมศาสนา ต่อไปเพราะปกติศาสดาจะมีอายุ
    ขัยเป็นพันเป็นหมื่นปี และมนุษย์คงมีอายุขัยมากกว่าปัจจุบัน เพราะพยามารได้อัญเชิญพระพุทธเจ้าดับขันก่อนพระอานนท์ ถ้าพระอานนท์อัญเชิญ
    พระพุทธเจ้าอยู่ต่อ อีก กับ หรือหลายกัปหรือกัล ก็พออยู่ได้ศาสดาตรัสแล้ว ท่านคงมีวิธีที่จะทำให้สรีระของพระองค์อยู่ถึง 5000 ปีได้แน่และ
    มนุษย์เองคงไม่อายุสั้นลงอย่างนี้ ทีนี้มาแยกประเด็น
    1.พยามาร อยากให้มนุษย์อายุสั้น เกิดมาแป๊ปเดียวรีบตายเพราะหากรู้มากแล้วควบคุมยาก
    2.ฝ่ายพระธรรม อยากให้มนุษย์อายุยืนเป็นหมื่นๆปี หรือจนถึงเป็นอมตะ
    สองฝ่ายต่อสู้กันมานาน หากมนุษย์อายุยาวได้ มากกว่า 120 ถือว่าฝ่ายธรรมะชนะ ดังนั้น 2 ฝ่ายจึงเล่นเกมส์ทั้งระบบจักรวาล
    ถามว่าวันนี้ท่านเลือกข้างไปฝ่ายใหน
    ฝ่าย 1 เกิดอีก ๆๆ ๆๆ เรียนรู้เดิมๆ และหลงไปเรื่อยๆ
    ฝ่าย 2 เกิดทีเดียวจบ ไม่เกิด หรือเกิดแล้วอยู่ยาวบนความสุข
    นอกจากนี้ยังมีความรู้อีกหลายกระบุงโกยยังไม่เล่าให้ฟัง เพราะฤาษีแปลงสารก็ลงมาเกดแล้ว จึงพอแค่นี้ก่อน
     
  18. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    ฉลาดไม่พอแล้วอวด สอนเท่าไรไม่จำ อย่าสอดแทรก กำลังดูงานอยู่ รู้แล้วอยู่เฉยๆ อย่าหัวล้านลื่นครู ให้สอนซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่นั่นแหล้ว หาลูกศิษย์ได้หลายยัง หาได่แล้วเปิดสำนักไป กำลังเฮ็ดงานอีหลี อย่ากวนน้ำให้ขุ่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 สิงหาคม 2012
  19. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    การเสียสละทรัพเพื่อสร้างเป็นการปูทาน ทาน สำหรับมัละกษัตริย์ จะออกบวชต้องสละราชสมบัติก่อน เรียกว่า อามิสบูชา ใกล้กับ อามิสสินจ้างใหม พระพุทธองค์อยู่ มีกษตริย์บูชาด้วยอามิสมากมายกับยาจกที่บูชาด้วยใจ ใครมีศิษย์บวชในศาสนานี้ สิบนิ้วต่างธูปเทียนทอง ท่านคงอาจจะได้ยิน
     
  20. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    (deejai)(deejai) deeja__a (deejai)(deejai)
     

แชร์หน้านี้

Loading...