ไปพระนิพพานได้ แต่ไม่ยอมไป..!

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 3 มิถุนายน 2010.

  1. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +526
    ขึ้นชื่อว่า กำลังใจ ถ้าตั้งใจจะตรัสรู้เป็นองค์สุดท้ายนั้น ย่อมไม่น้อยนิดนะครับ

    ลองคิดง่ายๆดูสิครับว่า เราเกิดมาชาตินี้ต้องเจอกับความลำบากเนื่องด้วย

    ร่างหุ่นกระบอก ร่างนี้เท่าไร เกิดมาก็เจอกับความทุกข์แล้ว ทุกข์เพราะต้องหิว

    ต้องกินต้องขับถ่าย ไหนจะต้องมาเริ่มหัดคลาน หัดเดิน ต้องล้มลุกคลุกคลานอีก

    แค่กี่ครั้ง ไหนฟันน้ำนมจะหลุดไหนจะเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องทนทุกข์ไปกับร่าง

    ขันธ์ห้า นี้ไปนานจนสิ้นอายุขัย นั่นคือ 1 ชาติเท่านั้นเอง แล้วท่านที่ปราถนา

    จะเป็นองค์สุดท้ายกัน ต้องทนเกิดกันไปนับไม่ถ้วนกว่าบารมีจะเต็ม นั่นก็เพื่อ

    หวังที่จะพาหมู่มวลมนุษย์ที่เหลืออยู่ตอนนั้น(สัตว์เดรฉาน คงไม่มีแล้ว)ไป

    นิพพาน กันให้หมด เพราะความสงสารเท่านั้นเอง

    ฉะนั้น กำลังใจของพระโพธิสัตว์นั้น หยั่งไม่ถึงเลยจริงๆครับ
     
  2. มาพบพระ

    มาพบพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    643
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ธรรมะออกจากโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าเมื่อทรงเห็นแล้วว่าถึงกาลสมควร เราจึงควรพูดเมื่อเห็นว่าเป็นกาลสมควรพูด
     
  3. ฟามีไมล์ลอ

    ฟามีไมล์ลอ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +11
    ขออนุโมทนาด้วยครับกับเรื่องที่คุณtamsak กรุณาเล่าให้ฟังฟังแล้วรู้สึกตื้นตันและชื่นใจในพระธรรมของ พระโพธิสัตว์จริงๆเลยครับ ...........สาธุ
     
  4. ฉันผู้ฝึกตน

    ฉันผู้ฝึกตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +201
    ลูกขอฝากร่างกายและจิตวิญญาณทั้งหมดทั้งมวล
    ใ้ห้แก่พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
    ทั้งภพชาตินี้และทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะถึงพระนิพพาน
    สาธุ...
     
  5. emperron

    emperron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +432
    ผู้ประกอบด้วยโลกุตรปัญญาอันลึกซึ้ง
    ได้มองเห็นว่า โดยธรรมชาติแท้แล้ว ขันธ์ทั้งห้านั้นว่างเปล่า
    และด้วยเหตุที่เห็นเช่นนั้น จึงได้ก้าวล่วง พ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้
    รูปไม่ต่างจากความว่าง ความว่าง ก็ไม่ต่างไปจากรูป
    รูปคือความว่างนั่นเอง และความว่างก็คือรูปนั่นเอง
    เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็เป็นดังนี้ด้วย
    สารีบุตร ธรรมทั้งหลาย มีธรรมชาติแห่งความว่าง ไม่ได้เกิดขึ้นและไม่ได้ดับลง
    ไม่ได้สะอาดและไม่ได้สกปรก ไม่ได้เพิ่มขึ้นไม่ได้ลดลง
    ดังนั้น ในความว่างจึงไม่มีรูป ไม่มีเวทนา หรือสัญญา ไม่มีสังขาร หรือวิญญาณ
    ไม่มีตาหรือหู ไม่มีจมูกหรือลิ้น ไม่มีกายหรือจิต ไม่มีรูปหรือเสียง ไม่มีกลิ่นหรือรส
    ไม่มีโผฏฐัพพะหรือธรรมารมณ์ ไม่มีโลกแห่งผัสสะ หรือวิญญาณ
    ไม่มีอวิชชา และไม่มีความดับลงแห่งอวิชชา ไม่มีความแก่และความตาย
    และไม่มีความดับลงซึ่งความแก่ และความตาย ไม่มีความทุกข์
    และไม่มีต้นเหตุแห่งความทุกข์ ไม่มีความดับลงแห่งความทุกข์
    และไม่มีมรรคทางให้ถึง ซึ่งความดับลงแห่งความทุกข์
    ไม่มีการประจักษ์แจ้งและไม่มีการลุถึง เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องลุถึง
    พระโพธิสัตว์ผู้วางใจในโลกุตรปัญญา จะมีจิตที่เป็นอิสระจากอุปสรรคสิ่งกีดกั้น
    เพราะจิตของพระองค์เป็นอิสระจาก อุปสรรคสิ่งกีดกั้น
    พระองค์จึงไม่มีความกลัวใดๆ ก้าวล่วงพ้นไปจากมายาหรือสิ่งลวงตา
    ลุถึงพระนิพพานได้ในที่สุด พระพุทธในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
    ผู้ทรงวางใจในโลกุตรปัญญา ได้ประจักษ์แจ้งแล้วซึ่งภาวะอันตื่นขึ้น
    อันเป็นภาวะที่สมบูรณ์และไม่มีใดอื่นยิ่ง ดังนั้น จงรู้ได้เถิดว่า โลกุตรปัญญา
    เป็นมหาธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นธรรมแห่งความรู้อันยิ่งใหญ่
    เป็นสิ่งอันไม่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่า เป็นมนต์อันไม่มีสิ่งอื่นใดมาเทียบได้ซึ่งจะตัดเสียซึ่งความทุกข์ทั้งปวง
    นี่เป็นสัจจะ เป็นอิสระจากความเท็จทั้งมวล ในใจของตน
    "อัตนา โจทยัตตานัง" จงกล่าวโทษเตือนตนไว้เสมอ
    "สัพพะปาปัสะอกรณัง ละเว้นความชั่ว
    กุสลัสสูปสัมปทา ทำแต่ความดี
    สจิตตะปริโยทปนัง ทำจิตใจให้ผ่องใส
    เอตังพุทธานะสาสะนัง" พระพุทธเจ้าทรงสอนเช่นนี้เหมือนกันหมด
    "อัตตาหิอัตโนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
    โกหินาโถปโรสิยา ใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
    อัตตาหิสุทันเตนะ เมื่อฝึกตนดีแล้ว
    นาถังลภะติทุลภัง" จะได้ที่พึ่งอันบุคคลอื่นหาได้ยาก
     
  6. badjoize

    badjoize เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +293
    สิ่งใดถูกต้องดีแล้ว จงทำต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...