ได้ไปเจอ "ซัน" ผู้มีญาณทิพย์

คุณ elleelle อยู่กรุงเทพหรือเปล่าคะ วันที่ 5 พค. 51 เป็นวันคล้ายวัดเกิดของแม่ชีใหญ่ค่ะ ที่วัดก็มีการทำบุญกันตามปกติ ในวันงาน คุณจะได้เข้าพบแม่ชีใหญ่ค่ะ พร้อมกับประชาชนอีกเป็นร้อย กำหนดจิตดี ๆ ทุกคำถามอาจจะไม่ได้รับคำตอบ แต่ให้ขอบารมีแม่ชีใหญ่ หลวงพ่อสมปรารถนา ซึ่งเป็นพระประธานในโบสถ์ ตลอดจนพระปรางค์ 3 ยอด สัญลักษณ์ประจำวัด ให้ทุกปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่เบาบางลง แม่ชีใหญ่ ท่านแผ่เมตตาครอบจักรวาล นายเวรที่ตามมากับคุณ เขาจะได้รับอานิสงค์จากตรงนั้นค่ะ.....

 

ข่าวสารกิจวัตรแม่ชีใหญ่ประจำเดือน : พฤษภาคม ๒๕๕๑

- วันที่ 3 พฤษภาคม 2551
แม่ชีไปบรรยายธรรมที่ค่่ายทหารทัพอากาศ สุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา

- วันที่ 8 - 9 - 10 พฤษภาคม 2551
ขอเชิญร่วมเลี้ยงภัตตาหารพระที่จะรับปริญญา ทั้งช่วงเช้าและเพล
ตลอดทั้ง 3 วันได้ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม

- วันที่ 12 พฤษภาคม 2551
แม่ชีไปบรรยายธรรมให้กับนักศึกษาและคณาจารย์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขน กรุงเทพ

- วันที่ 13 - 19พฤษภาคม 2551
ในวันที่ 13 - 19 พฤษภาคม 2551 ทางวัดได้เปิดให้มีการปฎิบัติธรรม ณ วัดพิชยญาติการาม สนใจสอบถามได้ที่ วัดพิชยญาติการาม

- วันที่ 19 พฤษภาคม 2551
ร่วมทำบุญในวันวิสาขบูชา ที่วัดพิชยญาติการามได้ตามเวลาดังนี้
09.00 ทำวัตรเช้า - ฟังเทศน์
20.00 เวียนเทียน

- วันที่ 24 พฤษภาคม 2551
แม่ชีไปบรรยายธรรม ณ เดอะมอลล์ นครราชสีมา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : 02-861-5425 (แฟกซ์อัตโนมัติ และเบอร์โทรศัพท์)

 

ครับ ... เวปพี่ซันคือ
www.geocities.com/sun_suraphatt
ครับผม

หากมีข้อความไม่ถูก ต้องการแก้ไขแจ้งผมน่ะครับ........
ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนขอรับ อิๆๆ

 

ขออนุโมทนา กับน้องซัน ด้วยคะ ได้อ่านหนังสือของน้องตั้งแต่เล่มแรกเลย ( ซัน คนไม่อยากเห็นเคราะห์) แต่ยังไม่มีโอกาสเจอตัวจริงเลย วันที่ 17/5/08 ถ้าไม่ติดอะไร จะไปค่ะ

 

แต่สงสัยนิดหน่อย ไปดูแต่เก็บเงินเป็นร้อยเป็นพันแล้วบอกว่าเอาเงินไปทำบุญ แล้วทำไมไม่ดูให้คนอื่นฟรีๆเป็นทานไปเลยล่ะครับ

 

อ้างอิง>>
แต่สงสัยนิดหน่อย ไปดูแต่เก็บเงินเป็นร้อยเป็นพันแล้วบอกว่าเอาเงินไปทำบุญ แล้วทำไมไม่ดูให้คนอื่นฟรีๆเป็นทานไปเลยล่ะครับ>>เด็กโชว์พาว

ก็คนที่ไปหาพี่ซันเพราะมีความทุกข์ ถามว่าทุกข์มาจากไหน......
แน่ๆเลยครับ ก็มาจากการทําชั่วการทําเลว(บางครั้งต้องพูดว่าเลวระยําตําบอน)
อะไรล่ะที่จะช่วยคนเหล่านี้ได้ ....ก็ผลบุญไงครับ...ผลบุญมาจากไหน ....
1. ทาน ก็เงินๆๆที่คุณเสียนั่นแหละ พี่ก็เอาไปทําบุญ ถามว่าทําไมต้องให้พี่ซันไปทําบุญ ก็พี่ซันเข้าไปมีส่วนร่วมในกรรมที่คุณกระทําตั้งแต่ตอนที่พี่ซันไปบอกอะไรคุณแล้ว.... พี่ซันได้รับผลที่พวกคุณๆๆทําไม่ดีมาด้วย ดังนั้นการทําบุญครั้งนี้พวกคุณๆและพี่ซันก็ได้บุญและเป็นแนวทางบรรเทาทุกข์ขั้นแรก
2.ศีล อันนี้เป็นการบ้านของพวกคุณๆต้องไปสวดมนต์ รักษาศีลเอง
3. ภาวนา อันนี้ก็เป็นการบ้านของพวกคุณๆด้วย ใครทําคนนั้นได้

การดูฟรีเป็นทาน .... ผมต้องถามว่าจะเอาบุญส่วนไหนไปช่วยพวกคุณๆที่ทุกข์มากจากผลการทําชั่วของพวกคุณๆล่ะ .....จะเอาบุญจากพี่ซันคนเดียวเลยหรอ ..... ถ้าเป็นอย่างนี้ พวกคุณก็เห็นแก่ตัวเองเกินไปแล้วแหละ ....
ทําเลวมา ได้รับทุกข์ แล้วยังไปให้คนอื่นช่วย และยังไปเอาบุญคนอื่นมาอีก แถมพี่ซันยังต้องมาเจ็บแทนพวกคุณๆๆอีก..... มิน่า พี่ซันจึงบ่นกับผมว่า....... พี่ซันจะทนกับสังคมที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ได้ไหม .......

 

ผมก็ถามไปงั้น ถ้าคุณใจบริสุทธ์ก็ไม่จำเป็นต้องร้อนตัวจริงมั้ยครับ คนที่มีความสามารถเค้าส่วนใหญ่ก็ไม่มาเปิดเผยตัว ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าทำอะไรแบบนี้ก็ต้องโดนจับตามองเป็นธรรมดา เรื่องก็มีแค่นั้นแหละครับ

 

อ่านมาตั้งนานแล้วค่ะ ขอพูดหน่อยนะค่ะว่า คงต้องแยกประเด็นให้ออกว่า
การทำบุญ ทำทาน ช่วยเหลือคนนั้น คุณซันก็บอกอยู่แล้วว่า แล้วแต่ความสะดวกของคุณซันเอง ที่พร้อมจะเปิดบ้านในวันไหน
ซึ่งทุก ๆ คน สามารถมาได้ จะทำบุญหรือไม่ทำบุญก็แล้วแต่
ไม่มีใครไปบังคับได้ แต่คุณซันช่วยเหลือคุณ แปลว่าเขามีบุญคุณกับคุณ
ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน ๆ คุณก็ต้องตามไปใช้คุณซัน เนื่องด้วยมีกรรมผูกพัน
กันอยู่ แต่ถ้าคุณทำบุญ บุญของคุณที่ได้ทำ คุณซันก็อนุโมทนาบุญให้
ก็ย่อมเปรียบเสมือนอโหสิกรรมให้แก่กัน ทั้งตัวคุณและคุณซันก็ได้อานิสงฆ์
ผลบุญทั้งคู่ ส่วนที่ว่าคุณซันรับไปดูให้เป็นการส่วนตัว แบบนั้นถือว่าผู้ที่ให้ไป
หานั้น เขาให้ค่าเสียเวลา ค่ารถกับคุณซัน ส่วนคุณซันจะเอาไปใช้หรือทำบุญ
ก็ย่อมถือเป็นสิทธิส่วนตัว ที่ผู้ให้เขาเต็๋มใจให้

คุณให้คุณซันไปหา แล้วคุณจะไม่ให้ค่ารถ ค่าข้าว ค่าเสียเวลาเขาบ้างเลยหรือ
อย่างไร เขาไม่ได้เรียกร้องคุณว่าต้องไปหาคุณ แต่คุณเองต้องการความ
เหลือจากคุณซัน แล้วคุณจะให้คุณซันควักกระเป๋าให้คุณอย่างนั้นหรือ
แล้วคุณคิดว่าถ้าวันหนึ่งมีแบบนี้เป็นสิบคน คุณซันต้องควักกระเป๋าตัวเองเท่าไร
บางทีต้องเห็นอกเห็นใจเขาบ้าง การทำบุญทำทาน ทำได้แต่ตัวเองต้องไม่
เดือดร้อนไม่ใช่หรือ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่พร้อมที่จะจ่ายเป็นสินน้ำใจส่วนตัวให้
คุณซัน คุณก็รอเวลาที่คุณซันเปิดบ้านเพื่อเป็นวิทยาทาน ธรรมทาน ไว้จะไม่
ดีกว่าหรือค่ะ ที่เขียนมานี้คืออยากให้ทุกคนเปิดใจ คิดถึงใจเขา ใจเราบ้างก็
เท่านั้นแหละค่ะ

 

ถ้าคิดจะทำต่อไปก็ต้องทนน่ะครับในเมื่อคุณอยากจะทำจริงๆ เพราะถ้าเกิดคุณทนไม่ได้คุณก็ต้องเลิกทำ สังคมสมัยนี้ไว้ใจกันได้ที่ไหน คนดีก็มี คนไม่ดีก็มีแต่ใส่หน้ากากทำตัวเป็นคนดีก็มีถมเถไป

 

ผมไม่เคยเห็น ซัน ไม่เช่นนั้นจะบอกได้ว่า จริงหรือไม่จริง
แต่ก็ ถ้ามีจิตใจที่บริสุทธิ์ คิดทำบุญก็ทำไปเถอด แต่ของอะไรที่เราเห็นจริง พิสูจน์แล้วว่าจริง จึงค่อยเอามาบอกคนอื่น

ถ้าเราเห็นเพียงนิมิต จริงหรือไม่ยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ แบบนี้ก็ไม่ควรมาสอน มาบอกคนอื่น เพราะว่า ตัวเราเองเราก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่

ทีนี้ การทำบุญ นี้ เราต้องรับผิดชอบชีวิตของเราให้ดีพร้อม ด้วยการตั้งใจเรียนหนังสือให้สำเร็จ แล้วประกอบอาชีพที่สุจริต

 

ผมคิดว่าการที่คุณเด็กโชว์พาวตั้งข้อสงสัยมานี้
ก็เป็นมุมองทั่วไปของผู้สังเกตุการณืคนหนึ่ง
เพราะการที่ใครที่เป็นที่สนใจของสังคม เช่น นักร้อง ดารา นักการเมือง
หรือบุคคลลผู้มีชื่อเสียง ก็ย่อมที่จะเป็นเป้าเพ่งเล้งได้ง่าย
ในเรื่องของความเหมาะสม การวางท่าที และพฤติกรรมต่างๆ ย่อมเป็น
ที่จับตามองอยู่แล้ว

บางคนก็อาจมองในแง่ร้ายไว้ก่อน นั่นอาจเป็นเพราะอาจต้องการป้องกัน
สิ่งที่อาจมีผลกระทบตามมาในภายหลัง อันนี้คิดว่าเป็นมุมมองโดยทั่วไป
ของคนในสังคมที่มองคนที่มีชื่อเสียงแบบนี้อยู่แล้ว

และยิ่งซันเริ่มต้นเป็นที่รู้จักของสังคมจากการที่ช่วยเหลือคนอื่นมามาก
และหากจู่ๆ ก็ได้ข่าวเรื่องการรับเงิน รับทอง แม้ว่าจะเป็นการบริสุทธิ์ใจก็ตาม
แต่ในสังคมวงนอกเขาอาจสรุปแบบผิวเผินไปว่า ต้องการผลประโบชน์
การมีความคิดเห็นแบบนี้แทบเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไปแล้ว

แต่ผมเชื่อว่าเจตนา สำคัญที่สุด เจตนานั้นเป็นเครื่องบ่งชี้การกระทำ
ผมเชื่อว่าซันก็ได้พิสูจน์ตนเองมาในระดับหนึ่งแล้ว
ที่ช่วยเหลือคนอื่นมามากมาย
และยังยืนหยัดจะทำเช่นนี้อีก แม้ว่าจะได้รับความกดดันจาก
มุมองของสังคม
และคิดว่าซันนี่ใจเพชร จริงๆ ครับ คิดว่าเป็นคนอื่น
อาจต้องเลิกช่วยคนอื่นไปแล้ว

ผมคิดว่าแต่ละฝ่ายก็มีเหตุผลในมุมอมองของตนเอง
ถ้าในส่วนตัวของผมเองผมยังเชื่อใจซัน แต่ถ้าผมมองในมุมของ
คนทั่วไป บางทีผมคิดว่าซันอาจขาดความชัดเจน คือถ้าจะทำอะไร
นอกเหนือจากช่วยเหลือคน และหากต้องมีเงินทองมาเกี่ยวข้อง
ซันน่าจะอธิบายเหตุผลต่างๆให้ชัดเจนไปเลยดีกว่า และยืนในจุดยืนนั้น
คนอื่นเขาก็คงเข้าใจได้

 

อ้าว...กำลังเพลิน มาเถียงกันซะแล้ว
ต่างฝ่ายก็มีเหตุผลนะครับ
รอเจ้าตัวเขามาบอกดีกว่าไหมครับ

 

ก็ไม่ได้ถียงอะไรหรอกครับ
จริงๆผมก็พูดอย่างเป็นกลางๆน่ะครับ เพราะผมไม่เคยรุ้จักเค้าเป็นการส่วนตัวน่ะครับ
อย่ากังวลไปเลยนะครับคุณซัน ที่พูดไปผมพูดในฐานะคนที่เฝ้าดูเขาคนนึง ไม่ใช่คนที่เกลียดเขาครับ

 

ท่านทั้งหลายครับ

อยู่ที่บุญสัมพันธ์ และกุศลบารมีที่เนื่องกันมาแต่อดีตด้วยนะ

สงเคราะห์ได้ไม่เหมือนกันทุกคน ให้เข้าใจด้วย

เดี๋ยวไม่ถูกใจ ไม่ตรงใจใครเข้า จะไปปรามาสเขา

ทุกคนมีหนี้กรรมและกุศลบารมีมาต่างๆกัน จะให้ท่านเหล่านี้ช่วยทุกคนย่อมไม่ได้

การบำเพ็ญเพียร การช่วยผู้อื่นควบคู่ มีกฏสวรรค์ควบคุม

 

ผมคิดว่าคนเราก็มีทั้งดีและไม่ดี เป็นเรื่องธรรมดา
เพราะตราบใดที่คนยังมีกิเลส ไม่สามารถรับรองได้ว่า
คนนั้นต้องดีไปทั้งหมด
แต่การเลือกที่จะมองคนนั้น สำคัญกว่าว่าเราอยากจะเลือก
มองคนในมุมไหน
ถ้าเรามองคนในข้อดีของเขาได้ ก็ทำให้เราและเขามีแต่ความสุข
และเป็นการสร้างความรุ้สึกดีๆให้เกิดขึ้นกับเราด้วย
เพราะอันที่จริงแล้ว ทั้งเขาหรือใครล้วนไม่มีอยุ๋จริงหรอก
มีแต่เราที่เป็นสภาวะธรรมที่เกิดดับเป็นไปตามตามเหตุปัจจัย
แต่เราก็เลือกได้ว่าจะให้สภาวจิตที่ดีเกิดหรือไม่
ซึ่งการมองคนอื่นในแง่ดีนั้น
ก็เป็นอุบายอย่างหนึงจะให้เราเกิดกุศลได้ และก็มันก็สะท้อน
ความเป็นเราด้วยว่าเราเป็นเช่นใดเมื่อเราได้มองคนอื่น

เหมือนคำกล่าวว่า ขอให้คุณบอกนิสัยของเพื่อนๆของ
คุณให้ผมฟัง แล้วผมจะบอกว่าคุณมีนิสัยอย่างไร

 

สาธุนะครับ^^

ดีจัง อาเงินที่ขายหนังสือไปทำบุญ

 

ริชชี่ และ ซัน มาในช่วงคนไทย โหยหาที่พึ่ง เพราะความดีของคนไทยสั่นคลอน
กิเลสมาก ก็ให้ดับกิเลสตัวเอง
เข้าหาพระอริยะสงฆ์ นั้นแหละ คือ สิ่งที่ควร ไม่ใช่ไปหาซัน เพราะซันยัง ถ่ายรูปโชว์กล้ามอยุ่เลย
รัก โลภ โกรธ หลง ซันยังไม่เจือจางเลย แล้วจะมาช่วยอะไร พวกคุณได้

 

การที่ซันถ่ายรูปโชว์กล้ามเพราะถ่ายแบบตอนอยู่ต่างประเทศไม่ได้บอกว่าซันไม่สามารถช่วยคนได้ ด้วยรูปกายภายนอกของคนเราต่างกันไป ซันก้ต้องหาเงินเรียนตอนที่อยู่ต่างประเทศไม่ได้มีใครส่งเสียหรือเลี้ยงดู หวังว่าคุณขันธ์คงเข้าใจ และไม่อยากให้คุณตัดสินใจคนเพียงภายนอก ไม่ได้สัมผัสไม่ได้รู้จักอย่ากล่าวอ้างด้วยความมีคติ หวังว่าคุณคงเข้าใจจะตัดสินใครสักคนต้องตัดสินด้วยปัญญา

 

คุณซันจำได้มั้ยคะ ที่คุณซันเคยบอกเรื่องจุดบอด ว่าทุกคนมีจุดบอด แต่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ต้องมาเจอตัวเป็น ๆ ดูทางรูปไม่ได้ จะเหมือนการเทียนเขียนเอา มันไม่ดี จำได้หรือเปล่าคะ ตอนนั้นประมาณเกือบเที่ยงมั้งคะ

 

ซันโชว์กล้ามด้วย แล้ว ขันธ์น้อยไปเห็นได้ไง น่าสงสัยกว่า