โอวาทปาติโมกข์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ตั้งฉาก, 9 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ถ้าเป็นไสยะ แบบไสยะจริงๆไม่ใช่เราป่วย
    ถ้าเราอุปปาทานน้อยกว่าคนทำไสยะ
    ไสยะจะเข้ากระทำเราได้ทีละหนึ่งไสยะ
    ไสยะที่ทำแต่เราเอาหลุดไปแล้วจะเข้ามาไม่ได้ และที่รออยู่ก็จะเข้ามาไม่ได้
    จะทำใส่เราได้ทีละไสยะ

    ถ้าเราอุทิศกุศลเราจะเดาออกว่าจะโดนอะไร
    โดนอะไรอยู่และที่หลุดไปอะไร

    นี่คือกรณีที่คนทำไสยะใส่เรามีอุปปาทานมากกว่าเรา ในระดับหนึ่ง

    ถ้าคนมาทำไสยะใส่เรามีกำลังวิปัสสนามากกว่าเราอุปปาทานน้อยกว่า
    เราอุทิศกุศล เค้าจะเอาบุญไปใช้ก่อนไม่ว่างมาทำร้ายเรา

    เรายืมแรงการผลัดเวรกันของไสยะที่คนทำใส่เราได้

    ปรกติ เพราะอุปปาทานทำให้ทุกไสยะ
    ล้อมกันเข้ามากระทำเราพร้อมกัน
    ตามแรงอุปปาทานของเรา

    ให้มันเข้ามาทีละอัน

    โลกของความคิด ลูกเหล็กของกาลิเลโอ ตกพื้นไม่พร้อมกัน
     
  2. MindSoul1

    MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +496
    เคยถาม และเคยตอบไปแล้ว เอามาให้ใหม่ก็ได้

    เมื่อจิตว่าง-สงบและตั้งมั่น ไม่แส่ส่ายออกนอก เป็นเอกัคคตา จนถึงที่สุดแล้ว
    จิต(สัตว์)จะแยกตัวออกจากขันธ์๕ ทำให้เห็นการทำงานของขันธ์๕ เพียวๆ (จากตรงนี้จะเกิดขึ้นเองพร้อมภวังค์ สติบริสุทธิ์บริบูรณ์)
    โดยที่จิต(สัตว์ฯ) ไม่ได้เข้าไปร่วมเลย ขันธ์๕จะดับสนิทไปจากจิต แยกเป็นคนละส่วนกัน
    จิต(สัตว์ฯ)จะกลายเป็นผู้ดู อาการที่เกิดจากผัสสะของขันธ์๕จะเป็นผู้แสดง(ผู้ถูกดู)
    จิต(สัตว์ฯ)จะเห็นการทำงานของขันธ์๕ ที่ปรากฎนั้นๆ ด้วยจิตเอง โดยไม่ได้ใช้การคิด
    จิต(สัตว์ฯ)จะประจักษ์ชัดเพราะเห็นความจริงของขันธ์๕ เห็นอริยสัจ ด้วยตัวของจิตเอง
    แล้วจะถอดถอนอวิชชาได้ ประหานกิเลส อันนี้เป็นวิปัสสนาญาณ

    เมื่อจิต(สัตว์ฯ)ประหานกิเลส ถอดถอนอวิชชาได้แล้ว
    จิต(สัตว์ฯ)ก็มีวิชชา จึงถูกเรียกใหม่ว่า วิมุตติญาณทัสสนะ(ผู้รู้ในวิมุตติ) มีที่ตั้งอาศัยในวิมุตติ
    ก็คือสิ่งที่หลวงตามหาบัวท่านเรียกว่า อายตนะนิพพาน(สิ่งที่รู้นิพพาน) นั่นเอง

    [ขณะจิตที่เกิดวิปัสสนาญาณ จิตจะหยั่งลงภวังค์(สติบริสุทธิ์บริบูรณ์) ขันธ์๕จะดับสนิท เกิดพร้อมกันในขณะจิตเดียว
    หลังจากนั้นแล้ว จิตจะขึ้นสู่วิถีจิตใหม่ ซึ่งทางอภิธรรมเรียกว่า ปัจจเวกขณวิถี]


    ทั้งหมดนี่แหละเกิดขึ้นแว็บเดียว เปรียบเหมือนสายสายแลบ แต่รู้ประจักษ์ชัด อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    เห็นขันธ์๕ ไม่ใช่ตัวตนของเรา ไม่ใช่ของของเรา
    เป็นของว่างเปล่า ยึดถือไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2015
  3. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    ใช่ครับคุณ MindSoul1 เคยตอบผมแล้ว
    แต่ก็เลี่ยงไม่ตอบในคำถามต่อไปของผมเหมือนกัน
    งั้นผมขอถามต่อจากคราวนั้นนะครับ

    ที่ว่าเห็น ขณะจิตเห็นธรรม มันมีอาการอย่างไรครับ
    นอกจากเห็นไตรลักษณ์แล้ว จิตถอยออกมาเห็นอะไรอีก

    เอาเป็นภาษาที่เราคุยกันนี่นะครับ
    เหมือนเล่าถึงการปฏิบัติแล้วเห็น....
     
  4. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ขออภัยครับ มันไม่ชัดเจนครับว่า นี่คือการทำสมาธิหรือวิปัสสนา จิตที่ตั้งมั่นเป็นเอกคตา ก็แค่ทำสมาธิก็ได้ ปัญญาจะไม่เกิดหากจิตไม่มีความรู้ในธรรมสะสสมไว้นะครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2015
  5. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ถ้ามนุษย์ไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นทางตาเป็นเพียงสีสันฐาน. จะหยุดการแสวงหาได้เหรอ. ก็จะอยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ที่สวยๆงามๆจะไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ไม่มีวันจบจ่ายเป็นแสนๆล้านๆก็เพราะความไม่รู้. ทั้งมันก็แค่สีสันฐาน. กระเป๋าบางใบราคาเป็นล้าน มันก็ทำมาจากหนังสัตว์สกปรกนี่เอง
     
  6. MindSoul1

    MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +496
    เราไม่ต้องการให้ใครมาลอก เพราะมีคนติดตามถามสิ่งนี้กับเราอยู่
    ผู้ที่ถึงวาระแล้ว อ่านแล้วจะรู้เองไม่จำเป็นต้องอภิบายอะไรให้ยืดยาว
    เราขอตอบเพียงเท่านี้จ้า
     
  7. MindSoul1

    MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +496
    ขออภัยด้วยค่ะ ที่จะไม่อธิบายไปมากกว่านี้
    ขอให้ท่านพบด้วยตนเองจะดีกว่าค่ะ โชคดีค่ะ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็นะ

    ตามที่อธิบายเป็นวรรเป็นเวร บวกกับที่ ขยันก๊อป มาโพส

    มัน ทะแม่งๆ ตรงไอ้ "จิต" ที่แยกจาก "ขันธ์5"

    ภาวนาแทบตาย แยกขันธ์5ได้แล้ว ดัน หนีความเป็น สัตว์(จิต) ไม่พ้น

    แยก จิต ออกจากขันธ์5 ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยัง อุตสาห์ไป ระบุว่า จิต(สัตว์)ที่
    แยกได้แล้วนั้น ก็จะ วนเสียนในสังสารวัฏต่อไป

    เอ้าแล้วกัน จะมี นิพพานกันไหม หรือ จะ เอา จิต(สัตว์) นี้ หิ้วหวีไป หิ้วหวีมา ไม่เลิก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2015
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ถ้าเอาตาม พุทธศาสนา

    จิต หรือ วิญญาณ มันไม่ใช่ สัตว์ มันเป็น ธาตุบางอย่างที่มีเหตุ มันก็เกิด

    แล้วหากว่า มันหมดเหตุ จิต หรือ วิญญาณ นี้ก็ เกิดขึ้นไม่ได้ !!!


    การไปเข้าใจว่า จิต หรือ วิญญาณ เป็น สัตว์ ล่องลอยหาที่เกิด จึงเป็น มิจฉาทิฏฐิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2015
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ปถ. ( ไม่ใช่ ปัดโถ่ แต่ หมายเอา ปถมลิขิต ) : #18 คือ ส่วนที่ คุงมายมินท์ ตัดส่วน
    มรรคการปฏิบัติ เหลือแต่ เรื่อง จิตในวงเล็บติดสัตว์ แยกโน้น แยกนี่

    ซึ่งหากเอา ส่วนมรรคปฏิบัติ โดยรวมคือ มุ่ง " ตัดผัสสะ " ภาวนาแบบ โยนผัสสะ
    ภาวนาแบบสบัดหน้าหนีผัสสะ เรื่อยๆ จนสลบเหมือด แล้ว มาฮานาก้า !!!

    ซึ่งก็เรียกกันว่า " ฆ่าตัดตอนกระแสปฏิจสมุปบาท "

    เมาที่สุดตรงที่ไประบุ " กรรมเก่า กรรมใหม่ กรรมปัจจุบัน ก็คือ นามรูป " มุ่งการข้าม
    คือ ตัดกรรม ................( อันนี้ ให้เดา คงไปอ่าน ของ พวก เพ่งมโนทวาร
    เบ้าตาเหล่ แล้ว เอามาเขียนใหม่ เป็นของตน )

    จริงๆ มันต้องไป ทวนกระแสไปที่ อวิชชา โน้น เขาต้องดับ ที่อวิชชาโน้น ซึ่งไม่ได้ยาก
    หากทวนกระแสไปถึงอวิชชา ก็จะต้อง ปรารภการ ทำฌาณ อันเกิดจาก การประกอบกุศล
    โดยไม่กดข่มกิเลส(เจริญสติปัฏฐาน จนเกิด สมาธิ เกิดฌาณ) นิวรณ์มันดับ อาหารของ
    อวิชชาก็อ่อนลง(สัมมัปธานเกิด กรรมเก่า กรรมใหม่ กรรมปัจจุบัน เอามายัด ตรงอวิชชา เข้าท่ากว่า)

    แต่ความที่ สารวนใน จิต แล้วไปปฏิเสธ วิญญาณ เพราะ ไม่มี ภูมิการภาวนา ทำให้
    พยายามยัดฮาสารพัดเข้าไปที่ ผัสสะ

    จริงๆ วิญญาณ6 มันก็ ก่อมาตั้งแต่ สังขาร แล้ว .... ถ้าคนเคยเล่น ฌาณ4 ที่มี อยาตนะ6
    ปรากฏครบตอน ถอดจิตไปเที่ยว มันจะเห็นว่า อนาตนะ6 มีครบแล้ว ตั้วแต่เกิด จิต(วิญญาณ)
    ทั้งนี้เพราะ ภพ(ภวังค์ มันมีหน้าที่ รักษารูป มีนามรูปปรากฏทำให้ หู ตา ตะหมูกฯ มันปรากฏ
    พร้อมกับ จิต ได้ )

    ดังนั้น คำว่าตัดภวังค์ ดับภวังค์ ภวังค์ดับ คือ จิตมันไม่เข้าสู้วิถี ภวังค์ ....โดยเฉพาะ พระอรหันต์
    ที่บอกว่า ไม่มีภวังค์ ไม่เข้าภวังค์อีก จิตทรงฌาณตลอด ( พระโสดาบัน จะมี ปฐมฌาณ เป็น
    ของเล่น เอาไว้ตัดภวังค์ มีสติ ตื่นตลอด -- พระโสดาบัน ตัดอยาตนะ6 ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2015
  11. MindSoul1

    MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +496
    เชิญยกมาวิจารณ์เถิดค่ะ มีอีกเยอะแยะที่มายกล่าวไว้ในเว็บนี้

    เพราะท่านไม่เข้าใจเรื่องจิต ท่านจึงกล่าวเช่นนั้น เราก็ขอให้ท่านได้เข้าถึงจิตจริงๆเถิดจะได้ไม่ขุดตนเองอยู่เช่นนี้ ขอให้ท่านโชคดี

    ทุกสิ่งที่ท่านวิจารณ์มันออกมาจากจิตท่านเพียงผู้เดียว หามีที่จิตคนอื่นไม่
     
  12. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    สำหรับผมนะ
    จิต กะเจตสิกเหมือนโออิชิเย็น เย็น
    เหมือนลูกเหล็กของกาลิเลโอ

    ตัวที่กินอาหารคือจิต เจตสิกจะไม่กิน
    ไม่มีเจตสิกก็มีจิตไม่ได้

    โออิชิเย็นเย็น เย็นที่เย็นน้อยกว่าหรือเย็นมากกว่าคือจิต ตัวที่เย็นเฉยๆคือเจตสิก
     
  13. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    [​IMG] ไม่น่าเอามาอ้าง เล้ยยยย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2015
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    นะ

    เอาไปตีลังกาหลายๆตลบ

    เขาภาวนาเพื่อมุ่งสิ้นอุปทาน พ้นการเปน สัตวะ

    นี่ภาวนาท่าไหน สิ้นอุปทานได้ ความเปนสัตว์(จิต)กลับกระจ่างใส
     
  15. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ถ้าเราอุปปาทาน ในความคิดอะไรซักอย่าง
    ถ้าเราอุทิศกุศล ตัวที่ฟุ้งออกไปคือจิต อีกตัวคือเจตสิก
     
  16. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ปรกติ รูปจะล้อมเจตสิกไว้ใน ตัวที่เป็นอิสระจากรูปคือจิต เป็นเหมือนกะจิตกามภพ
    แต่ถ้ากลับกันเป็นแบบรูปภพ จิตจะกินรูป เจตสิกจะหลุดพ้นไปจากรูป
    จะว่าเจตสิกไปเป็นนามก็ไม่ใช่ มันแค่โดนจิตแย่งรูปไป มันต้องหลุดออก
     
  17. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    จิตหนะจะเป็นตัวแย่งที่ เหมือนหมาในรางหญ้า
    เจตสิกจะไม่รุกรานใคร
     
  18. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    จิตจะเจตสิกจะเหมือนกันทุกอย่าง
    อวิชชาจะทำให้เราแยกไม่ออก ระหว่างจิตกะเจตสิก
    วิธีการแยกออกจากกันมีเยอะมาก
    แต่ผมแนะนวิธีอุทิศกุศล
    ใช้แรงของการที่ บาป และบุญจะไม่ผสมกัน ไม่ปะปนกัน ไม่ดุลยภาพกัน
    ยืมแรงมันให้จิตเกาะ มันจะแยกจิตออกจากเจตสิก
     
  19. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    เราจะได้อะไรจากการนี้ดูเจตสิกจะดูง่ายกว่าจิตเพราะมันไม่กินแดน ไม่กินอาหาร ไม่ค่อยย้ายที่
    เมื่อเห็นเจตสิก เราหาจิตได้เพราะมันจะเหมือนกันเดะๆ
    จิตจะกินอาหารได้ที่ละ หนึ่งธรรมารมณ์ หนึ่งรูป หนึ่งเสียง หนึ่งกลิน หนึ่งโพฏฏัพพะ

    ถ้ามันจะทำการอุปปาทานมันจะเลือกเหยื่อที่จะรองรับ ธรรมารมณืที่จะอุปปาทาน
    เหยื่อของมันมักเป็ฯเจตสิก

    เวลาเราอุทิศกุศลจิตฟุ้งไปกะกุศล
    เราจะพบธรรมารมณืหนะ อายตนะนอกหนะ เสียง รูปรส โพฏฏัพพะ
    เก้อ อยู่กะเจตสิก
    เหมือนไปยืนเด๋ออยู่หน้าเค้าเตอร์เซเว่นนึกไม่ออกว่าจะสั่งอะไรกิน

    แต่ไปจิตหนะลิงโลดไปกะกุศลแล้ว
    หน้ามันเหมือนกันเดะๆ

    จิตคือตัวที่ขึ้นจรวดความเร็วแสงไปแตะขอบจักรวาล
    เจตสิก คือแฝดของมันที่แก่หง่อมอยู่บนโลก
     
  20. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ดูจิตดูยาก ในเบื่องต้น บางคนยังนิยามว่าจิตคืออะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ
    แต่บังคับคนอื่นดูจิต

    ดูเจตสิกง่ายกว่าแต่ไม่ค่อยมีอานิสงค์
    เหมือนกะเป้าซ้อมดูจิต
     

แชร์หน้านี้

Loading...