โลกคือพระเจ้า...รู้หรือไม่...

อ่านแล้วก็ได้ความหมายของคำ ห้ามไม่ได้

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในจิต คือ ไปเห็นความ พยายามของพี่วิษณุ ในการหามุข

 

เกาะไหนหรือครับ?

แต่ก่อนผมไม่ค่อยเห็นว่าการไปปฏิบัติแบบอุกฤษต์ จะได้อะไรมากมายเกินไปกว่าการปฏิบัติตามชีวิตประจำวัน

พอดีมีสหายท่านหนึ่ง นิยมใช้ชื่อว่า หลงเข้ามา หรือ ฐาณัฐณ์ แนะนำให้ลองดู
ตอนนี้ก็เห็นด้วยแล้วว่า มันช่วยได้มาก เห็นรูปนามได้ชัดเจนยิ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด
สถานที่สัปปายะ และข้อศีล8 ช่วยเสริมได้มาก
คราวที่แล้ว ไปช่วงวันมาฆะ 3 วัน ฟัดกับนิวรณ์อย่างสนุกสนาน
วันแรกเจอกับอุททัจจะ สู้กันแทบเป็นแทบตาย
วันที่สองเจอถีนมิทธะ พระแนะนำว่า ถ้าเวลาคุยกันนี่ ไม่มีง่วง แต่พอปฏิบัติ ดันมีง่วง นี่แหล่ะ ถีนมิทธิ พอเราเห็นมันชัด มันครอบงำเราไม่ได้ ความง่วงหายเป็นปริตทิ้ง
ส่วนมานะ ปฏิฆะ และกามฉันทะ ไม่ค่อยเห็นนะ
คราวนี้ไม่รู้จะเจออะไรอีก
ท่านแปงมีอะไรแนะนำไหมครับ...

 

บุญสำเร็จด้วยใจได้ไหม
แค่รู้ว่าคิดดี เราก็ยินดีในสิ่งที่เขาคิด แม้สิ่งนั่นยังไม่แน่นอน

ความพอใจเกิดแล้ว อะไรๆก็ตามมาเอง

 

คิดมากเนอะ
พระท่านก็เคยบอกผมเหมือนกันว่า คิดมากยากนาน หุๆๆๆ
สาธุครับ...

 

แนะได้ดีครับ
ตัวนี้สู้กับมันไปยกๆไป
ระยะหลังไม่ค่อยมีแล้วนะ
ตัวที่กำลังมาแรงน่าจะเป็นวิจิกิจฉา หุๆๆๆๆ

 

หูย อะไรจะเครียด ขนาดนั้น

 

อ่อ ผมก็เคยได้ยินชื่อนั้น เห็นคุยกันว่าตัวจริงหล่อ ไม่รู้เท็จจริงอย่างไร

คงไม่มีอะไรมากครับ แค่ตั้งข้อสังเกตุเล็กน้อย เรานั่งหน้าคอมทุกวัน วันละหลายๆชั่วโมงไม่รู้สึกอึดอัด
หากลงมานั่งเฉยๆสักชั่วโมง แทบตาย
อยากรู้ จักวาลแห่งจิต มีอะไรให้เที่ยวท่องบ้างไหมหนอ

 

คงไม่ขอไปลักจำนิพพานอรหันต์ของใครหรอก
หากไม่เข้าใจนิพพาน แล้วก็คงฟุ้งนิพพานไม่ได้เช่นท่านหรอก

 

พี่แซนขา

นะเอย นะเอย

 

ถีนมิทะ แปลว่า ง่วง ก็ได้

แต่ถ้าตอนปฏิบัติ แล้วเห็น จิตมันสัดส่ายถอยกำลังการรู้ อันนั้น เรียก ถีนมิทะ ของจริง

ส่วน ง่วง เป็นอารมณ์ธรรมดา เป็นวิบาก เนื่องจาก เรือนกายอ่อนเพลีย

หากดูจิต รู้ที่จิต เรือนกายมันเพลีย มันหลับของมันไป แต่ไม่มีถีนมิทะ ก็ภาวนาได้อยู่

 

ท่านวิมุตติ กางเต้นท์เข้าป่าเลย ไปมันคนเดียวนั่นล่ะ ดี!

 

อา ของดีเลยตอนง่วนในสมาธินะ

ดึงสติดูง่วงไป เหตุเกิดที่ตา ง่วงเกาะที่ใบหน้า จิตมันก็อยู่ตรงนั้น

ดูตามไปให้มันทะลุง่วงไปเลย ได้ธรรมอะไรบอกกันด้วยเน้อ ท่าน

 

ใช้ ถ้ากล้าพอ ก็ต้องดู ถีนมิททะไป เพราะเป็น สติปัฏฐาน ดูธรรมบรรพ

หากไม่กล้า ก็จะเผลอออกมาหมุนจักระบ้าง ทำจิตวนตามฐานลมบ้าง
ทำอโลกสิณบ้าง มัวแต่ทำจิต มัวแต่ทวนกระแส สุดโต่งไปด้านอัตกลิมัถานุโยค
แทนที่จะเอาจังหวะมาเจริญปัญญาสติปัฏฐาน

ก็ดูจิตมันทำไป หากปัญญาอินทรีย์มี ก็มีแสงสว่าง มีความกล้า มันก็จะดูธรรมบรรพได้

หากไม่มีปัญญาอินทรีย์ ไม่มีแสงสว่าง ก็ต้องอาศัยความสว่างด้วยการทำกสิณ หรือ สมถะ
ชนิดอื่นๆ ไป

 

นะเอย นะเอย แทน แทน แถ่น

 

อันนี้คุณนิวรณ์ตอบได้ดีกว่าผมนะ

ขอถามหน่อย อารมณ์พระอรหันต์เป็นอย่างไร

 

เมื่อนั้นดรุณี สวีดัด
ดอดกาย ออกมาทัก
นะเอย ก็เคยนัก
ดุจภัทร ใจรัก นะเอ่ย เอย เอ่ย เอ๋ย

 

มี ที วี สี

 

ก็ตกตามแต่ง แค่คำกลอน
เศรษกิจคลอน ทรัพย์จางตามกระแส
ใครจะรวยล้ำตามน้าจร ไม่เคยแปร
เปิดแอร์ ซดกระแช่ก่อนนอน

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิษณุ12, รักก็บอกไม่รักก็บอก, โชแปง, CHAYA MARUTY, jinny95, k.kwan, no more, siarayamarata, tro </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->
ถามพระศรีฯ พระศรีมาแล้ว

 

เข้าตามกระทู้หน่อย ไม่รู้สรุปว่าอย่างไรน้าจร

"โลกคือพระเจ้า"

ถ้าพระสี ตอบก็ พระเจ้าเหา