โดนขังวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.

  1. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    คุณพี่จิ-โปคะ
    ครือว่าปลงจนหมด ยังไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าปลงตอนไหน
    แล้วขอถามว่า การอโหสิกรรมหมดนี่ เป็นการปลงด้วยหรือเปล่าคะ
    ครือการอโหสิกรรมสำหรับหนูนี่ มันปลงไปเองโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว
    แต่เราไปอธิษฐานซ้ำอีก มันเป็นการปลงไปหมดเลยหรือเปล่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการปลงปีติด้วยหรือเปล่าคะ หนูไม่เข้าใจค่ะ
     
  2. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    อโหสิกรรมไปแล้วเป็นสุขใหม? หรือเฉยๆ
    ปลงแล้วปิติยังอยู่ใหม หรือปิตินั้นหายไปด้วย?
    ปลงแล้วสุขใจเราหายไปหมดใหม?

    สิ่งที่ควรทำคือ ปลงแล้วใจพองฟู อิ่มเอิบด้วยบุญแห่งการปลง สดชื่นแจ่มใส
    เกิดอุเบกขาแล้วใจเราเกิดสุขุมอิ่ม รู้สึกเหมือนเราคล้ายจะเป็นศูนย์กลางของโลก
    ด้วยกระแสแห่งบุญ คล้ายเราแยกอยู่อีกมิติหนึ่งแต่ยังอยู่บนโลก มองโลกเหมือนโรงละคร
    ฉากหนึ่ง สิ่งใดผ่านมากระแสแห่งความหลังของสิ่งนั้นๆทั้งคนสัตว์สิ่งของ จะไหลเข้ามา
    ที่ใจเรา เรารับรู้กรรมทั้งหมด เป็นต้น
     
  3. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ต่อให้อีกหน่อยนะทีโอ เพื่อสร้างกำลังใจให้เจ้า
    ตามธรรมดาแล้วการดูระดับจิตของผู้ปฏิบัตินั้นทำกันหลายแนวทาง ทั้งการใช้เจโต
    ทั้งการดูเทวดารอบๆบริเวณสถานที่ ทั้งดูที่วิมาณที่เป็นทิพย์
    อาจารย์ผู้สอนย่อมรู้ว่าควรชี้แนะแนวทางไหนที่จะตรงที่สุดตามสมควร
    ในตอนนี้ทั้งไม่ได้อยู่ต่อหน้า ทั้งรอบบริเวณของทีโอก็เปรอะไปด้วยคาถาอาคมก็ดู
    ไม่ได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สมควรแนะนำคือวิมาณเจ้าจะเปลี่ยนเป็นสีขาว ทั้งเครื่องประดับ
    และอาณาบริเวณ แสดงถึงสวรรรค์ระดับพรหม อันเป็นเครื่องอยู่ของอารมณ์แห่งอุเบกขา
    เพราะฉะนั้นแล้ว เจ้าเองปฏิเสธไม่ได้หรออกว่าเจ้าไม่ได้อยู่ในอารมณ์นี้ เพราะของทิพย์
    หลอกกันไม่ได้ แม้ปลงโดยอัตฺโนมัติ เราก็ต้องพยายามรับรู้ด้วย เพื่อเกิดความสุขสดชื่น
    เพราะขาดปิติสุขเมื่อใดเข้าฌาณไม่ได้ ฌาณก็จะเสื่อม เมื่อฌาณเสื่อมใจเจ้าก็จะไหลลง
    ต่ำไปตามวิบากกรรม บางครากรรมนั้นจะบังตาให้รับทุกข์ทรมานใจนั่นก็เพราะปัญญาไม่เกิด
    เพราะไม่สงบนั่นเอง

    วิมาณสีขาวนั้นก็ดีอยู่พอสมควร แต่จะดีกว่านี้ถ้าใสเป็นแก้วแต่ไม่แวววาว อย่าพึ่งทุกข์
    ร้อนไปเจ้าเองอาจไม่เคราะห์ร้ายตายไปตอนนี้ ยังพอมีเวลาเหลือ ให้ตรวจวิมาณ เสวย
    อารมณ์นี้ จนเบื่อ เมื่อเบื่ออารมณ์นี้เข้าฌาณไปแล้วระรึกชาติที่เป็นพราหมณ์ที่ใส่ชุดขาว
    ด้วยบุญบางอย่างของชาตินั้น ทำให้เจ้าจุติเป็นเทวดาบ้าง เป็นคนบ้างเพื่อรั้งใว้ไม่ไห้
    เข้าสู่อรูปพรหม หนทางนิพพานยังคงมีกำจัดกิเลสแห่งพราหมณ์นั้น เจ้าก็หลุดพ้น
     
  4. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    คุณจิ-โปมีแนวทางเดียวกับหลวงพ่อที่ผมเคารพเลย ขอคำแนะนำอะไรสักอย่างได้มั้ยครับ อะไรก็ได้ครับ
     
  5. chaiyawat

    chaiyawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +148
    อาจารย์จิโปขอคารวะท่านด้วยความเคารพเลื่อมใสครับ
     
  6. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    เมื่อมีปัญหาถึงเตือนและแนะนำกันได้ครับ ถ้าปัญหาไม่มีก็ไม่รู้จะแนะนำอะไร
    เพราะคนบางคนมองปัญหาว่ามันคือหนทางสู่ปัญญา เลยไม่มีปัญหาเลยไม่รู้จะแนะนำอะไร

    ..............

    ผมไม่ใช่อาจารย์ครับ(ผมทำมาค้าขาย..) มีอะไรพอจะมาเล่าสู่กันฟังได้ก็จะมาเล่าตาม
    สมควรครับ
     
  7. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    เมื่อนั่งสมาธิแล้วเกิดอาการเวทนาขึ้นมาใช้ภาวนา พุธ - โธ แก้ได้ไหมครับกำหนดที่ลมหายใจ เพราะผมลองแบบยุบพองหนอ แล้วจะได้กำหนดเจ็บหนอพอทำไมทำมามันก็กลายเป็น พุธ - โธ ซะงั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2011
  8. พลภัทร Mechanic

    พลภัทร Mechanic Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +41
    ขออนุโมทนากับความคิดเห็น และคำแนะนำของคุณจิโปนะคะ
    ไปดีไม่ถึงไหน ทำได้แค่เห็นคนอื่นได้ดีก็สุขใจ แค่นั้นก็อิ่มใจมากแล้ว
     
  9. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196

    การแก้แบบนี้นั้นไม่ใช่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุครับ การเจ็บปวดร่างกายแล้ว
    ภวนาพุทโธ ยุบหนอพองหนอ หรือแบบอื่นๆนั้น ให้ทำได้ในบางครั้ง
    อย่าทำตลอด วิธีแบบนี้คือการยกจิตขึ้นอยู่เหนืออารมณ์ ให้จิตจับที่คำ
    ภวนาจนจิตหลุดพ้นจากการปรุงแต่งของกายก็จะหายจากเวทนาได้
    แต่ความรู้มันไม่เกิดครับ

    การแก้แบบที่ยกใว้ข้างบนเกี่ยวกับเวทนาห้านั้นต้องแยกออกทำนองนี้คือ

    เจ็บร่างกายตอนนั่นสมาธิ ดูว่าเจ็บส่วนไหน เจ็บกายนี่คือทุกข์ เจ็บที่กาย
    แล้วใจร้อนตามใจเป็นทุกข์นี่คือโทมนัส ทีนี้มากำหนดดูว่าเจ็บตรงไหน
    มองไปเห็นขาเราเจ็บก็กำหนดดูใต้ผิวหนัง ให้รู้สึกว่าเจ็บผิวนอกหรือผิวใน
    หรือกล้ามเนื้อ รู้สึกให้เห็นว่าเจ็บเพราะเลือดมันไม่เดินมันรวมกันทำให้
    ประสาทรับรู้เรียกว่าผัสสะทำงาน ให้รู้สึกถึงกระแสของชะวะนะจิต ที่ส่งไป
    รับรู้และส่งกลับ ให้พิจารณาถึงธาตุ ดินน้ำลมไฟ ที่กอปกันเป็นสังขารของเรา
    ตรงส่วนที่มันเจ็บนี้ว่า ธาตุใดมันแรงกล้า ธาตุใดมันอ่อนแอ ให้รู้สึกถึง
    กระบวนการทำงานของจิตตั้งแต่สัมผัสของผัสสะจนมาถึงมโนจิตที่เราคิด
    นี่คือเวทนาที่เจ็บทางกายเรียก ทุกข์ อันดับที่สองของเวทนาห้า

    (คนที่นั่งแล้วไม่เจ็บก็อย่าดีใจนั่นอาจจะเป็นสุข อันดับแรกของเวทนาห้าก็ได้)

    ในส่วนของโทมนัส คือทุกข์ที่เกิดที่ใจ อันเนื่องมาจากทุกข์ทางกายข้างต้นก็ดี
    อันเนื่องมาจากการระลึกนึกถึงบางอย่างที่ทุกข์ก็ดี นั่นต่างจากทุกข์กายที่เรา
    ต้องมาพิจารณาธาตุ ดินน้ำลมไฟ แต่โทมนัสนี้ให้เราพิจารณา รูปและนาม
    เช่น เราเจ็บปวดร่างกายที่เราพิจารณาแล้วมันยังไม่หายปวดก็พักใว้มาพิจารณา
    มี่ใจต่อ ให้รู้สึถึงชวนจิตที่ส่งขึ้นมาจากการไปเกี่ยวมาของจิตว่านั่นเรียกนาม
    เหตุของการเจ็บคือกายเรานี่รูป ภาพที่เห็นในมโนจิตเราทั้งหลายคือรูป เสียง
    ที่เราคิดทั้งหลายคือนาม รู้สึกให้ได้ สาวไปให้ถึงว่ารูปนี้มาจากที่ใด รูปนี้เกิด
    จากธาตุดินน้ำลมไฟ นามนี้เกิดจากสัญญาสังขารปรุงแต่ง

    ที่ยกมานี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักการคิดในการแยกออกมาให้เห็นซึ่งเวทนา
    ที่พระท่านแยกใว้ว่ามีห้าอย่าง สุข ทุกข์ โสมนัส โทมนัส อุเบกขา นั่นเอง
    ให้ทำความรู้สึกก่อน แยกออกมาให้เห็นก่อน ค่อยเข้าไปทำสมถะภวนาเพราะ
    การแยกออกมานี้ใช้เพียงอุปจารสมาธิ เมื่อเราพิจารณาแล้วเห็นแล้วจริงๆ
    ไม่ใช่เห็นโดยไม่แน่ใจ แต่เห็นในแบบที่เรารู้ว่าใช่ เมื่อนั้นเราเองจะละขาด
    จากกายสังขาร เกิดเวทนาครั้งต่อไปใจเราจะไม่เกิดโทมนัส เกิดอุเบกขา
    ต่อไปใจเราก็จะรู้ว่านี่เวทนา จะทำให้เราเข้าฌาณสมาธิในขั้นลึกได้ง่าย

    ถามแค่เวทนาประโยคเดียวจะตอบได้ถึงนิพพานเพราะสัญญาก็จัดเป็นเวทนา
    วิญญาญก็เป็นเวทนา เรียกว่าเป็นพระอรหันต์มาจากเวทนาก็เคยมีเรียกว่า
    อุปทานอรหันต์ ซึ่งลึกมากและยิ่งลึกเท่าใดคำตอบยิ่งสั้นกระชับ ไม่ต้องอธิ
    บายกันยาวขนาดนี้ เช่น"วิญญาณเป็นเวทนาจะทำยังไง?"
    ท่านก็บอก "อนัตตา"แค่นั้นเอง เรามาพิจารณาตามหลักอนัตตาก็จะ
    เห็นทางเอง.
     
  10. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    เหตุใดนะหรือ ก็ข้าวสารเสกนั่นแลที่เอามาซัดรอบบ้านสดๆร้อนๆ
    แต่ก่อนมองไปไม่มี
    การทำให้อาคมนั้นเสื่อมก็ไม่ยากไม่ง่าย แต่เขาอยากมีข้าวรอบบ้านก็ให้เขาทำไป
    เราก็เป็นลูก ไม่ต้องทำอะไรหรอกเดี๋ยวนกมันก็คาบไปกิน หนูก็มาเต็มไปหมด

    การทำให้วิมาณเป็นแก้วนั้นทำที่ใจเราละกิเลสเท่านั้นเอง ส่วนท่านพระอาจารย์ทั้งสอง
    ท่านหมดเวลาที่จะทำต่อตามอายุขัย เปลี่ยนไม่ทันครับ
     
  11. chaiyawat

    chaiyawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +148
    ขอบคุณครับสำหรับคำตอบ ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2011
  12. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ทำยังไงถึงจะตัดตัวฟุ่งซ่านที่ทำให้ใจมัวหมอง ออกไปอย่างถาวรได้คะ...กำหนดฟุ่งหนอ...แล้ว พักหนึ่งก็หาย แต่เผลอก็กลับมาใหม่ละ... เจ้าตัวฟุ่งซ่านนี่ก็เป็น นิวรณ์ตัวกางกั้นบุญ.. ด้วยใช่ไหมคะ..

    วันก่อนไปทำบุญที่วัดมา ได้เจอพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านพูดสอน ท่านว่าให้รู้เท่า...รู้ทัน..อารมย์ ศิลามณี ยังรู้ไม่เท่า...ส่วนใหญ่มักมันจะเกิดแล้วทุกที....คุณจิโป จะกรุณาแนะนำได้ไหมคะ
     
  13. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196

    ความจริงห้องนี้คือห้องวิทย์ลึกลับไม่ใช่ห้องอภิญญา-สมาธิ เราน่าจะเอาสิ่ง
    ที่เรารู้เห็นและสัมผัสด้วยการปฏิบัติมาเล่าก่อนค่อยถาม ไม่งั้นเขาอาจย้ายกระทู้
    นี้ไปใว้ห้องอภิญญาก็ได้เพราะมันไม่ลึกลับ

    เช่นฟุ้งซ่านแล้วเห็นวิญญาณ ลอยไปมาแต่ไม่ทำร้าย ฟุ่งซ่านแล้วเกิดฝันเห็น
    หนุ่มๆในอดีตที่ผูกพันแต่มาชาตินี้กลายเป็นอย่างอื่นไป มันใช่ใหม? อะไรทำ
    นองนี้

    ก่อนอื่นเราต้องถามตัวเราก่อนว่าจะตัดฟุ้งเพื่ออะไร เพราะบางเวลาเราแค่
    มีสติตามแม้นิดเดียวก็ช่าง ตามไปมันจะฟุ้งจะเกิดนิมิตใด จะตกเหว ร่วงลงมา
    ก็ช่าง มีสติตามแค่นั้นเอง ไม่ใช่ตัดเพราะการกำหนดว่าตัด(ซึ่งนั้นจะปิดกั้นทาง
    ของการทำสมาธิของเราเอง) มันจะเหมือนในใจเรามันพลุ่งพล่านเป็นวังน้ำวน
    เหมือนอยู่ในกลุ่มหมอกควัน เราเองนั้นต้องจับสติใว้หาตัวเอกของเรื่องให้ได้
    ว่าในใจเราขณะนั้นที่มันพลุ่งนี้ จุดใดสงบ จุดใดมันวางเฉย รู้สึกตรงจุดนั้นให้
    เด่นชัด เหมือนเราขี่บนหลังนกยักษ์ที่บินอยู่ระหว่างพายุและหมอกควัน ในตัว
    ฟุ้งนั่นแหละจะมีจุดนี้อยู่ หาให้ได้นี่คือวิปัสสนา แล้วเราจะเจอว่า อ้อมันฟุ้ง
    เพราะเหตุอย่างนี้ๆ มันเป็นเช่นนี้เอง


    ทีนี้ถ้าจะถามว่า ฉันไม่สนใจฉันจะตัดฟุ้งล่ะ ก็ไม่ยาก ไม่ยากเลยถ้าไม่อยาก
    ได้ปัญญาก็ยกจิตอยู่เหนืออารมณ์ กำหนดแก้วซักดวง ห้ามคิดแต่ให้นึก นึกถึง
    ดวงแก้วนั้นให้ปรากฏชัด ถ้าคิดมันจะเป็นเสียงในใจนะระวังตรงนี้ แต่ให้นึกถึง
    ลูกแก้วนั้น มันจะปรากฏรูปอื่นๆมาแทรกก็อย่าสนใจมัน อย่าเกิดคำว่า "เอ๊ะ"
    ในใจเรา คำอุทานขึ้นต้นนี้เองจะนำมาซึ่งการคิด เมื่อคิดมันก็ฟุ้งเลยล่ะ ให้เรา
    ทำอย่างเดียวเท่านั้นคือนึกภาพลูกแก้วนะ

    ถ้าเรานึกถึงลูกแก้วนานเข้ากายก็จะหายไปเหลือเพียงจิตเรากับความสว่าง
    แล้วค่อยเข้าไปแสวงหาปัญญาในนั้นก็ได้ สังเกตุว่าเรามีสติใหม ท่องบทสวดมนต์ซักบทว่ายังท่องได้ใหม ถ้าได้แสดงว่ายังดีอยู่แต่ถ้าท่องไม่ได้ ไม่เกินชั่ว
    ขณะจะไหลลึกเข้าไปแล้วหลับครับ เกินฌาณไปแล้ว อันนี้เป็นตัวอย่าง จะกำ
    หนดอะไรก็ได้ขอให้เป็นรูปใช้ได้หมดครับ
     
  14. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ขอบคุณคะ คุณจิ-โป ศิลามณีจะทำตามดู ...ไม่เอาฟุ่งซ่านแล้ว..เพราะคิดทีไร ทำให้จิตเศร้ามัวหมอง...ร้องไห้แงๆ..ทุกที ....พอนอนหลับก็ฝันร้ายทุกทีเช่นกันคะ.. อะ แต่ถ้าวันไหนไม่คิดนะคะ...แต่นอนภาวนาแทนจนหลับไป.. ไม่ฝันอะไรเลย หรือถ้าฝัน...ฝันนั้นเป็นฝันดี

    ทำแล้วได้ผลยังไง ศิลามณีจะวิ่งมาบอก คุณจิ-โป นะ จะได้ไม่ถูกย้ายกระทู้ไง:p
     
  15. chaiyawat

    chaiyawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +148
    กระผมได้รับฝากคำถามมาจากพี่ครับ ขออนุญาตเรียนถามดังนี้

    พี่กระผมซื้อข้าวมันไก่มา 1 ห่อนำไปใส่บาตร ขณะก่อนใส่บาตร ขณะใส่บาตร ขณะหลังใส่เสร็จ ขณะกรวดน้ำ ได้อธิษฐานให้พ่อ-ปู่-ย่า-ตา-ยาย-เทวดาประจำตัว-เจ้ากรรมนายเวร ที่พี่สงสัยคือ

    เทวดาคาดว่ามาอนุโมทนา แต่ถ้าวิญญาณบรรพบุรุษบางท่านยังไม่ได้ไปสวรรค์เวลาเขามารอรับกัน ในโลกลี้ลับนี้เขาจะแบ่งกันแบบไหน ข้าวคนละคำ หรือข้าวคนละห่อเลย (ถ้าเขายังเป็นวิญญาณลอยไปมาในโลกบ้าง เปรตบ้าง สัมภเวสีบ้าง ปนๆกันหลากหลายระดับแต่ไม่ถึงเทวดา)

    อันนี้เป็นคำถามจากพี่ผมครับ เขาสงสัยจริงๆ เพราะเคยอ่านในหนังสือหลายแห่งตอบต่างกันทุกแห่ง พี่ค่อนข้างละเอียดหน่อยเพราะเขาเคยอ่านเจอในหนังสือบางเล่มบอกละเอียดเช่นว่าถ้าเราอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรแต่ลืมบอกว่าของข้าพเจ้า บางทีเจ้ากรรมนายเวรของคนอื่นในบริเวณนั้นก็มาแย่งกันเต็มไปหมดเลยสุดท้ายเจ้ากรรมนายเวรเราเลยไม่ได้

    ผมเลยลองนำมาถามดูนะครับ
     
  16. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    พี่จิ-โปครับ

    แล้วอาการที่นอนแล้วรู้สึกตัวแต่ตื่นไม่ได้มันคืออะไรครับ นานๆเป็นครั้งครับทั้งกลางวันคืน
    กว่าจะตื่นขึ้นมาได้สุดๆเหนื่อย

    ขอบคุณครับ
     
  17. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    เขาไม่ได้แบ่งเป็นฮอลล์คนละเม็ด หรือเหลือเม็ดเดียวแล้วผลัดกันอมจากหัวแถวมาท้าย
    แถวเหมือนรับน้องในสถาบันหรอกครับ ผมเห็นเขาได้แบบนี้คือคนที่รับรู้ว่ามีการทำบุญให้
    ตัวเอง ก็กล่าวอนุโมทนาสาธุ ยกมือท่วมหัวน้ำตาไหลพรากๆ แล้วเกิดปิติตื้นตันใจ ในบุญ
    นั้น บ้างก็กล่าวขอบคุณ บ้างก็อวยพรตามสมควร(อันนี้ผู้ให้คงไม่เห็น) ถ้ามาหลายๆคน
    ยกมือแล้วตื้นตันใจเหมือนกันหมด ความตื้นตันใจนี้ล่ะคืออารมณ์บุญที่ได้ แต่แบบนี้เรียกว่า
    เขาไม่ได้รับนะ หมายถึงว่าเขาสูงกว่ารับไม่ได้แต่รับเพียงอารมณ์บุญ

    ทีนี้พวกที่รับได้โดยตรงเช่นเปรต เขาจะเดือดร้อนมากเพราะต้องแย่งกันใครกำลังมากก็
    ได้กินมาก ใครกำลังน้อยก็คอยเก็บเศษๆตามพื้นที่เขากินแล้วหล่นลงมา เปรตนี้บาปมาก
    กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ต้องให้ธรรมะด้วยเพื่อให้เขาพ้นจากสภาพเปรตนี้ และถ้าเราเจาะจง
    ว่าให้ญาติเรา ก็ญาติเราที่เป็นเปรตเท่านั้นที่จะคว้าได้นอกนั้นจับไม่ติดเหมือนภาพมายา

    อาหารถวายครั้งเดียวได้อานิสงค์ตามระดับ ตั้งแต่เปรตที่ได้อย่างหยาบ จนถึงเทวดา
    ที่ได้อย่างละเอียดคืออารมณ์บุญ แต่ถ้าเราไม่ได้ให้ใคร ใส่เฉยๆหรือคิดว่าอันนี้ให้เราเอง
    ของนั้นจะเป็นทิพย์ รอที่วิมาณของเรา ถ้าไม่มีวิมาณก็ไม่รู้ว่ามันไปอยู่ไหนเพราะมองไม่
    เห็นที่เก็บ รู้แต่ว่าเมื่อท่านอยากกินของก็ปรากฏบนโต๊ะบ้าง และบางท่านเมื่ออยากกินก็
    มีอีกคนไปหามาให้ บางท่านเมื่ออยากกินก็ปรากฏรสในปากแล้วอิ่มเลยก็มี
     
  18. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    เพราะจำลมหายใจตัวเองไม่ได้ครับ
    คนที่เป็นแบบนี้จะลืมสติทั้งจากการฝึกฝนมาหรือลืมแบบเป็นธรรมชาติ
    สตินี้ไม่ใช่สติแบบไม่รู้ตัวนะครับ รู้ครับรู้แบบรู้ว่าตื่นแต่ไม่รู้ว่าเราหายใจครับ
    การแก้ก็ไม่ยาก ก็ให้ฝึกสังเกตุลมหายใจเวลาว่างๆ อย่าทำกิจอื่นเพลินไป
    ถ้านก็ให้รู้ว่าเราหายใจใหม แล้วตอนกำลังจะตื่นแต่ขยับไม่ได้ให้ดูว่าเราหายใจ
    ใหม หายใจแรงหรือค่อยจากปลายจมูกไหลไปถึงไหนแล้วตามลมนั้นครับ

    ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มีคนลักษณะแบบนี้ไม่ค่อยมาก คือตอนนอนนั้นจิตออก
    จากร่างกายไปเลย ไม่ใช่แค่ฝันแบบนิมิตแต่ออกไปเลยทั้งตัว อันเป็นผล
    มาจากการฝึกสมาธิในบางสายที่คนเขาไม่ฝึกกัน ตอนออกไปก็ไม่รู้ว่าออกยังไง
    ตอนเข้าร่างก็ไม่รู้ว่าเข้ายังไง มันจำได้เพียงเหตุการณ์ที่ไปประสบพบมาซึ่ง
    บางวันก็จำไม่ได้บางวันก็จำได้นิดหน่อย ทีนี้วิญญาณและร่างกายมันผูกกันใว้
    ด้วยสายใยคือลมหายใจ อันจะเป็นเหมือนสัญญาณมาตรฐาน เมื่อจิตวิญญาณ
    ไม่ตรงกับลมหายใจคือลืมจังหวะของมัน ก็ควบคุมร่างกายไม่ได้แค่นั้นเอง
    เมื่อใดที่รู้ตัวว่าเราหายใจเข้าออกเมื่อนั้นแสดงว่าจิตเรารับรู้กับร่างกายแล้วครับ
     
  19. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    ขอบคุณมากๆครับ
    ครับผมบางครั้งมันก็เคิ้มๆแล้วหลับไปคล้ายๆอาการเหมือนผีอำแต่ก็ไม่เชิงซักเท่าไรถูกสูบเข้าไปบางครั้งก็เจอผี
    ปีศาจ แต่เมื่อเจอเหมือนกับผมจนมุมแล้วผมจะใช้เนตรมองมันจนเกินเป็นไฟจนมันวอดวายผมถึงจะตื่นขึ้นมาได้
     
  20. chaiyawat

    chaiyawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +148
    :cool:ขอบคุณพี่จิโปมากครับ ที่เข้ามาให้ความกระจ่างครับ ^_^:cool:

    ขออนุญาตเรียนถามเพิ่มเติมนะครับ "ต้องให้ธรรมะด้วยเพื่อให้เขาพ้นจากสภาพเปรตนี้" ทำอย่างไรครับ.....ให้กับเปรต.....หรือให้กับผู้อื่นอย่างไรครับ.....เช่นแจกหนังสือธรรมะแล้วอุทิศบุญให้


     

แชร์หน้านี้

Loading...