โดนขังวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.

  1. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    ผึ้งทำรังในบ้าน มีโชค
    > โดยธรรมชาติแล้ว ผึ้งมักนิยมทำรังตามต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นหนาแน่น และอยู่ในที่
    >สงบไม่พลุกพล่าน แต่เมื่อใดที่ผึ้งมาทำรังในบ้านจะเป็นชายคาบ้าน ใต้หลังคาบ้าน บางบ้าน
    >มีผึ้งมาทำรังถึงห้องน้ำก็มี
    > ท่านว่าไว้ว่า อย่าไปไล่หรือทำลายเด็ดขาด จะทำให้เกิดความหายนะขึ้นกับครอบ
    >ครัวเรือนนั้น เพราะผึ้งเป็นสัตว์นำโชค ให้ปล่อยผึ้งทำรังต่อไป เชื่อกันว่า ยิ่งรังใหญ่มาก
    >เท่าใด ก็จะมีโชคลาภมากขึ้นเท่านั้น และควรจุดธูปเทียนบูชา รวมทั้งดอกไม้ เพื่อความเป็น
    >สิริมงคลด้วย
    >
    >
    >
    >
    >
    >ดูดวงจากต้นว่าน
    > คนที่ทำอาชีพค้าขาย หรือนักธุรกิจติดต่อกับผู้คน เพื่อการค้าต่างๆ คนโบราณ
    >โดยเฉพาะในสมัยก่อน นิยมปลูกต้นว่านต่างๆชนิดแล้วแต่ และดูดวงชะตาตัวเองจากการ
    >เจริญเติบโตของต้นว่าน นั้นๆว่า เติบโตงอกงามขึ้นหรือไม่ ชีวิตกำลังรุ่งเรืองและยิ่งต้น
    >ว่านนั้นออกดอกออกผล ก็จะยิ่งทำให้ดวงชะตาพุ่งสูงมาก ท่านรีบจุดธูปขอพรให้ดวง
    >ชะตาคงอยู่เช่นนั้น แต่หากต้นว่านที่ปลูก อยู่ๆเกิดหักงอ หรือเหี่ยวแห้งลงทุกวันๆ หรือ
    >ปลูกมานานแล้วก็ไม่เกิดดอกออกผลเสียที ท่านให้เชื่อว่า ดวงกำลังตก การค้าขายก็กำลังแย่
    >ให้รีบทำบุญทำทาน หรือหาทางแก้ไขปรับปรุงการค้า หรือธุรกิจนั้นเสีย พร้อมกับบำรุงดูแล
    >ต้นว่านนั้นด้วย
    >
    >
    >
    >
    >เลือกก้าวเท้าก่อนออกจากบ้าน
    > ก่อนออกจากบ้าน เพื่อไปทำธุรกิจหรือพบปะผู้คน โบราณท่านว่าไว้ ให้ดูฤกษ์ยาม
    >ก่อนออกจากบ้านเสียก่อน เพราะนอกจากเวลาเที่ยงแล้ว ควรดูด้วยว่าจะไปทำการใดจึงจะมี
    >ความสำเร็จได้ เช่น
    >
    >
    >
    >
    >
    >มือชนกันขณะกินข้าว จะมีแขกมาเยือน
    > ในสมัยโบราณ ไม่มีการติดต่อสื่อสารที่สะดวกเหมือนปัจจุบันการโทรศัพท์ก็ยังไม่
    >มีใครรู้จักนัก เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายกับใครรู้จักนัก เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายกับใคร
    >สักคนก็เป็นไปได้ยาก จะต้องพบกันแล้วนัดหมายในครั้งต่ไปกันเลย
    > แต่คนโบราณใช้วิธีการสังเกตความเป็นไปได้ว่า ในขณะที่นั่งล้อมวงรับประทาน
    >อาหารกันนั้น หากมี 2 คนในวงเอื้อมมือไปหยิบอาหารพร้อมกัน และชนกันที่กลางสำรับอาหาร
    >เชื่อว่าจะต้องมีแขกมาเยือนกันถึงเรือนชานอย่างแน่นอน ไม่วันนี้ก็เป็นพรุ่งนี้ ก็จะมีการเตรียม
    >ข้าวปลาอาหารรอต้อนรับ และก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป

     
  2. sleepyman

    sleepyman สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +1
    แล้วถ้ามีเสาไฟฟ้ามาอยู่ในเขตรั้วบ้านล่ะครับ...จะพอแก้ยังไงได้บ้าง???
     
  3. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1640780/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ปู่ฤาษีท่านนี้แหละทีเคยฝันเห็น แต่ท่านนุ่งขาวห่มขาว ตาที่สามของท่านยาวใหญ่ จากขมับขวาจนถึงขมับซ้าย เรียกว่าเต็มหน้าฝากเลย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    <center> พญานาคผู้มีอิทธิฤทธิ์

    ในตำนาน
    พระพุทธชัยมงคล คาถาบทที่ 7 (บทสวด "พาหุง") มีเรื่องเกี่ยวกับพญานาคว่า..
    </center> [​IMG]"........ สมัยหนึ่ง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร วันหนึ่งทรงรับนิมนต์ที่จะเสด็จไปฉันภัตตาหารที่บ้านของอนาถบิณฑิกเศรษฐีใน วันรุ่งขึ้น ครั้นเวลาใกล้รุ่ง พระองค์ทรงพิจารณาดูหมู่เวไนยสัตว์ปรากฏว่า “พญานันโทปนันทนาคราช” เข้ามาปรากฏอยู่ในข่ายพระญาณของพระองค์
    ........พระพุทธองค์ทรงพระดำริว่า พญานาคราชนี้เป็นสัตว์เดรัจฉานมีวาสนาเข้ามาข้องในข่ายพระญาณของเราตถาคต ควรที่เราตถาคตจะเสด็จไปโปรดแต่พญานันโทปนันทนาคราชนี้ผู้ประกอบด้วยมหิทธิ ฤทธิศักดานุภาพยิ่งนักและเป็นมิจฉาทิฐิ ผู้ที่จะทรมานทำให้หมดพยศร้ายได้นั้น จะต้องประกอบไปด้วยมหิทธิฤทธิ์อันพิเศษ พระโมคคัลลานะเถระมีความสามารถที่จะทรมานพญานันโทปนันทนาคราชให้หมดพยศร้าย ได้

    <dd>พอได้เวลาจึงเสด็จออกจากพระคันธกุฏิ แล้วมีพระดำรัสสั่งให้พระอานนท์นิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาประชุมพร้อมกัน แล้วทรงอธิษฐานว่า ขอให้เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายมองเห็นพระตถาคตและพระอรหันต์ทั้งหลายในกาลบัดนี้

    </dd><dd>ครั้นทรงอธิษฐานแล้วก็ทรงพาหมู่ภิกษุสงฆ์ทั้งหลายเหาะมาโดยทางนภากาศ แล้วมาสู่สวรรค์เทวโลก เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จพระพุทธดำเนินไปในอากาศวันนั้น ประกอบด้วยพระรัศมีอันสว่างไสว

    </dd><dd>วันนั้นพญานันโทปนันทนาคราชได้แลเห็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ บังเกิดความพิโรธยิ่งนัก จึงคำรามว่า สมณะโล้นเหล่านี้ จะได้ยำเกรงเราสักนิดก็ไม่มี พาพรรคพวกเหาะมาบัดนี้ชะรอยว่าจะไปสู่ดาวดึงส์พิภพกระมัง

    </dd><dd>ถ้าเหาะไปทางอื่นก็ช่างเถิด แต่ถ้าเหาะข้ามเราไปเมื่อไร เป็นต้องผิดใจกัน เพราะเมื่อเหาะข้ามเราไป ผงละอองธุลีในฝ่าเท้าก็จะต้องหล่นลงเหนือหัวของเราเป็นมั่นคง ทางที่ดีเราควรจะไปสกัดหน้าหมู่สงฆ์เอาไว้ อย่าให้เหาะข้ามเราไปได้

    </dd><dd>เมื่อคิดดังนั้นก็สำแดงมหิทธิฤทธิ์ศักดานุภาพ เนรมิตตนให้มหึมาใช้ลำตัวรัดเขาพระสุเมรุราช อันสูงประมาณแปดหมื่นสี่พันโยชน์ด้วยขนดหาง 7 รอบแล้วแผ่พังพานปิดเมืองดาวดึงส์กว้างประมาณได้สิบสองโยชน์ปรากฏอยู่เหนือ เขาพระะสุเมรุราชนั้น แล้วบันดาลให้บังเกิดเป็นควันและหมอกมืดมัวไปทั่ว

    </dd><dd>ฝ่าย พระรัฐบาล อรหันตเถรเจ้า ครั้นเห็นมืดมนอนธการไปทั่วเช่นนั้น จึงกราบทูลถามมูลเหตุแด่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาว่าเป็นเพราะเหตุไรจึงเป็นเช่นนั้น

    </dd><dd>สมเด็จพระพุทธองค์ตรัสว่าที่มืดมนอนธการเช่นนี้เป็นเพราะ “อานุภาพของพญานาคราชอันมีชื่อว่า "นันโทปนันทะ” มีจิตกริ้วโกรธพยาบาทต่อเราผู้ตถาคตยิ่งนัก จึงเอาร่างกายกระหวัดรัดเขาพระสุเมรุราชไว้ประมาณเจ็ดรอบแล้วแผ่พังพานปก คลุมไปในเขตเมืองดาวดึงส์สวรรค์ แล้วบันดาลให้บังเกิดเป็นหมอกควัน มืดมัวไปทั่วแดนดาวดึงส์สวรรค์

    </dd><dd>เมื่อพระรัฐบาลอรหันตเถระเจ้าได้ฟังพระดำรัสของพระพุทธองค์เช่น นั้น จึงกราบทูลอาสาที่จะทรมานพญานาคราชให้พ่ายแพ้สิ้นพยศร้าย แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาต ต่อจากนั้นพระอรหันตเถระเจ้าทั้งหลายได้กราบทูลขออาสาที่จะทรมานปราบพญา นาคราชนั้นให้เสื่อมหายจากพยศร้าย แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาต

    เดชพระโมคคัลลานะ
    </dd><dd>เมื่อพระมหาโมคคัลลานะเถระผู้เป็นอัครสาวกเบึ้องซ้ายได้กราบทูลขอ อาสาไปทรมานพญานาคราชนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาต พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า เมื่อได้รับพระพุทธานุญาตแล้วจึงมาดำริว่า

    </dd><dd>พญานาคราชตนนี้เป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานสำคัญตนว่า มีร่างกายยาวใหญ่ยิ่งกว่าพญานาคราชอื่น ๆ ไม่มีผู้ใดที่จะมาต่อสู้ตนด้วยอานุภาพได้ จึงบังเกิดความกำเริบมัวเมาคิดอาละวาด เราจะต้องทรมานให้หมดพยศอันร้ายนี้เสีย

    </dd><dd>ครั้นคิดเช่นนั้นแล้ว จึงเนรมิตกายให้กลับกลายเป็นพญานาคราชอันเรืองฤทธา มีกายยาวใหญ่กว่าพญานันโทปนันทนาคราชประมาณสองเท่า แล้วเนรมิตพังพานประมาณกว้างแสนหนึ่ง แล้วกระหวัดรัดตัวพญานันโทปนันทนาคราชนั้น ให้แน่นเข้ากับภูเขาพระสุเมรุสี่รอบ แล้วแผ่พังพานออกไปอย่างใหญ่หลวงมหึมาอยู่เหนือเบึ้องบนแห่งพญานันโทปนันทนาคราช แล้วรัดให้แน่นเข้า ๆ กับภูเขาพระสุเมรุราชนั้น

    </dd><dd>ฝ่ายพระยานันโทปนันทนาคราชให้บังเกิดความอึดอัดประหนึ่งว่าจะขาดใจ ตาย ทั้งกระดูกนั้นเล่าก็เหมือนจะแตกแหลกลาญเป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่ จะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวกายสักนิดก็มิได้ ให้รู้สึกกลัดกลุ้มเดือดตาลใจเป็นกำลังจึงบันดาลพ่นพิษให้เป็นควันแผ่ออกไป ในระยะไกลได้ประมาณแสนโกฏิจักรวาล ตั้งแต่พื้นพสุธาถึงภวัคพรหม

    </dd><dd>พระมหาโมคคัลลานะเถระก็บันดาลมหิทธิฤทธิ่ให้เป็นควันมากขึ้นเป็นสองเท่า ให้ผจญกับฤทธิ์ของพญานันโทปนันทนาคราช พญานันโทปนันทนาคราช มิสามารถจะผจญกับฤทธิ์ของพระมหาโมคคัลลานะเถรได้ก็ให้บังเกิดคั่งแค้นอย่างใหญ่หลวง จึงบันดาลเนรมิตให้เกิดเป็นไฟขึ้น เพื่อหวังจะให้เผาผลาญพระเถระเจ้าให้ย่อยยับไป

    </dd><dd>พระมหาโมคคัลลานะเถระจึงบันดาลให้เกิดเปลวไฟขึ้นบ้าง ลุกลามไหม้กายพญานันโทปนันทนาคราชไพโรจน์โชติช่วงทั้งภายในและภายนอก สร้างความรุ่มร้อนระส่ำระสายสุดที่จะทนทานได้ พญานันโทปนันทนาคราชครุ่นคิดอย่างตื่นตระหนกว่าบุคคลผู้นี้ชื่อใด มาแต่ไหนหนอ จึงประกอบไปด้วยฤทธิ์ศักดาเดชานุภาพมากมายนัก จึงถามไปว่า ท่านมาแต่ไหน มีชื่อเสียงว่าอย่างไร จงบอกให้ข้าพเจ้าทราบหน่อยเถิด

    </dd><dd>พระมหาโมคคัลลานะจึงกล่าวตอบว่า เราเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีชื่อว่า "โมคคัลลานะ" เมื่อพญานันโทปนันทนาคราชได้ทราบดังนั้นจึงกล่าวอย่างมีเล่ห์อุบายว่า พระผู้เป็นเจ้า ท่านเป็นสมณะ มาทำกรรมอย่างนี้เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง

    </dd><dd>พระมหาเถระจึงตอบว่าการที่เราต้องกระทำเช่นนี้ก็เพื่อต้องการจะทรมานท่านให้หมดพยศร้าย หายจากมิจฉาทิฐิ ว่าแล้วพระมหาเถระเจ้าก็บันดาลให้เพศพญานาคราชอันตรธานหายไปกลับกลายเป็นสมณะอย่างเดิม แล้วกล่าวว่า

    กัมมวิปากชาฤทธิ์
    </dd><dd>ท่านพญานันโทปนันทนาคราช ตัวท่านเป็นสัตว์เดรัจฉาน มีมหิทธิฤทธิ์อานุภาพยิ่งล้นด้วยบุพกรรมเท่านั้น แต่หาได้รู้จักบาปบุญคุณโทษ ประโยชน์ มิใช่ประโยชน์ ไม่รู้จักคุณพระรัตนตรัย คุณมารดา บิดา กล้าด่าบริภาษแม้กระทั่งองค์สมเด็จพระบรมครูกับพระอรหันตสาวกทั้งหลายด้วย ถ้อยคำหยาบช้าต่าง ๆ นานา เท่านี้ยังไม่พอท่านยังบังอาจเนรมิตกายให้ยาวใหญ่ด้วยน้ำใจอหังการ์ เพื่อจะไม่ให้พระพุทธองค์กับเหล่าสาวกเสด็จไป ด้วยกลัวว่าธุลีที่ติดอยู่ตามพระบาทนั้นจะตกลงมาใส่หัวแห่งตน

    </dd><dd>ความจริงท่านควรจะปลื้มปีติใจ ถ้าละอองธุลีที่พระบาทของพระพุทธองค์ตกใส่หัวท่าน เพราะการที่พระบาทยุคลแห่งองค์สมเด็จพระบรมทศพลถูกต้องศรีษะแห่งใครนั้น ย่อมเป็นบุญลาภอันยิ่งใหญ่

    </dd><dd>ทั้งนี้เพราะผู้ที่เกิดมาในโลกนี้ ยากนักที่จะได้พบเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่างเกิดมาเปล่าไปเสียหลายหมื่นหลายแสนชาติ จะได้พบพระพุทธเจ้านั้นก็หามิได้

    </dd><dd>ตัวท่านเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานมีฤทธิ์เดชโดยกำเนิดเกิดแก่ผลกรรมเรียกว่า “กัมมวิปากชาฤทธิ์” ประกอบไปด้วยมิจฉาทิฐิเช่นนี้ ท่านสมควรจะได้รับทุกขเวทนาอย่างสาหัส ในปัจจุบันทันตาเห็นบัดเดี๋ยวนี้ เพราะผลแห่งกรรมปัจจุบันอันชั่วช้าของท่าน

    </dd><dd>ครั้นว่าดังนี้แล้ว พระมหาโมคคัลลานะเถระเจ้าก็เข้าไปในช่องหูข้างขวาของพญานันโทปนันทนาคราช แล้วออกมาทางหูข้างซ้าย แล้วย้อนกลับเข้าหูข้างซ้าย ออกทางหูขวา แล้วเข้าไปทางช่องจมูกข้างขวา ออกทางช่องจมูกซ้าย ย้อนเข้าช่องจมูกซ้าย ออกช่องจมูกขวา เดินไปเดินมาอยู่อย่างนี้ สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้แก่พญานันโทปนันทนาคราชอย่างแสนสาหัส ถึงกับคร่ำครวญในใจว่า

    </dd><dd>บรรดาพญานาคทั้งหลายจะมีฤทธิ์เดชานุภาพมากเหมือนตัวเรานี้ย่อมหา ไม่ได้ แต่สมณะองค์นี้ทำให้เราได้รับทุกขเวทนาลำบากสุดแสนสาหัสเหลือที่จะอดทนได้ จำเราจะใช้อุบายหลอกลวงสมณะองค์นี้ให้หลงเข้าไปในปากเรา แล้วเคี้ยวให้แหลกละเอียดเป็นผุยผงไปเสียบัดนี้เถิด

    </dd><dd>คิดดังนั้นแล้วจึงกล่าวว่า ข้าแต่สมณะ ธรรมดาสมณะทั้งหลายย่อมปฏิบัติตามคำพูด ก็ท่านพูดว่ามิได้โกรธเคืองแก่ข้าพเจ้าแต่บัดนี้ท่านมากระทำให้ข้าพเจ้าได้รับความลำบากยิ่งนัก

    </dd><dd>พระโมคคัลลานะเถระเจ้าจึงตอบว่า การที่เราต้องกระทำเช่นนี้ ก็เพื่อจะให้ท่านละจากมิจฉาทิฐิอันวิปริตผิดจากคลองธรรม นำให้ตั้งมั่นอยู่ในสัมมาทิฐิ เราหวังดีต่อท่านถึงกระนี้แล้ว ตัวท่านยังคิดร้ายจะให้เราเข้าไปในปากของท่าน แล้วท่านก็จะขบกัดเราให้แหลกละเอียดเป็นธุลีไปอีกหรือ?

    </dd><dd>ว่าแล้วพระมหาเถรเจ้าผู้เลิศด้วยมหิทธิฤทธานุภาพก็ปาฏิหาริย์เข้า ไปในปากของพญานาคราชมิจฉาทิฐิตัวนั้น แล้วก็เดินจงกรมไปมาอยู่ในท้องของพญานาคราช

    ฤทธิ์ปราบฤทธิ์
    </dd><dd>ฝ่ายพญานันโทปนันทนาคราชคิดในใจด้วยอุบายว่า ถ้าสมณะองค์นี้มิได้มีใจโกรธเราแล้ว ขอพระผู้เป็นเจ้าอย่าได้เบียดเบียนทำอันตรายแก่เราเลย ขอจงออกมาจากในท้องของเราในบัดนี้เถิด

    </dd><dd>พระมหาโมคคัลลานะเถระเจ้าทราบความนึกคิดของพญานาคราชดังนั้น ท่านก็เดินออกมาจากในท้องของพญานาคราชนันโทปนันทะแล้วนั่งอยู่ พญานันโทปนันทนาคราชเห็นดังนั้นจึงรีบฉวยโอกาสพ่นลมพิษออกไปหมายทำร้ายพระอรหันตเถระเจ้า แต่ก็หาทำร้ายพระเถระเจ้าได้ไม่

    </dd><dd>ต่อจากนั้นพญานาคราชได้สำแดงฤทธิ์ด้วยประการต่าง ๆ ด้วยความเคียดแค้นพยาบาท หวังจะทำลายพระมหาโมคคัลลานะเถระให้พินาศย่อยยับไปด้วยฤทธิ์เดชของตน แต่ผลสุดท้ายก็ถูกพระมหาเถระเจ้าผู้เลิศด้วยมหิทธิฤทธิ์เดชานุภาพทรมานจนหมด พิษสงฤทธิ์ชั่วร้าย ยอมพ่ายแพ้สำนึกผิดกลายเป็นสัมมาทิฐิ เนรมิตกายเป็นมานพหนุ่มน้อยเข้าไปถวายนมัสการลงแทบเท้าของพระมหาโมคคัลลานะ เถระเจ้าอ้อนวอนขอขมาโทษและขอนับถือเป็นที่พึ่ง

    </dd>
    <table width="97%" align="center" border="0" cellpadding="2" cellspacing="1"><tbody><tr><td><dd>พระมหาโมคคัลลา นะเถระเจ้าจึงพาพญานันโทปนันทนาคราชไปสู่สำนักของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้พระพุทธองค์ทรงยกโทษให้แก่พญานาคราชนันโทปนันทะ เมื่อไปเฝ้าพระพุทธองค์แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงประทานศีลห้าให้แก่นันโทปนันท นาคราชยึดถือรับไปเป็นหลักปฏิบัติ แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงพาหมู่ภิกษุสงฆ์ไปสู่เรือนของอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี เพื่อรับภัตตาหารสืบไป.</dd></td></tr></tbody></table>
     
  6. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    เจ้ากาแฟ สุนัขเต๊ะบอล มือสมัครเล่น (หมาบ้านใครหว่า)


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=uhsDwMD4f64"]coffee_dog.wmv - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2011
  7. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    เงียบดีแท้ :cool:
     
  8. คนฝึกใหม่

    คนฝึกใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +101
    เงียบและวังเวงจริงๆ ทีเดียวเชียว
     
  9. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    การกำหนดลมเป็นกสินครับ

    :cool:
    การกำหนดลมเป็นกสินครับ เผื่อท่านอื่นสนใจ
     
  10. กาโน

    กาโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +152
    ขอเล่าเรื่องความฝันหน่อยนะครับ
    วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประมาณซัก 05.00 น. จะต้องลุกขึ้นมานั่งสมาธิ ประมาณชั่วโมงก็กะว่าจะเตรียมตัวอาบน้ำไปทำงาน ทีนี้ก็เลยนึกอยากจะนอนเล่นซักหน่อย เลยเผลอหลับไปประมาณ 10 นาที ปรากฎว่าฝันว่าไปเดินเล่นในบริเวณวัดที่ใหนสักแห่ง มีสถานที่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป องค์เทพต่าง จัดวางเป็นจุดๆ ให้คนเข้าไปกราบไหว้ บูชา ก็ตามเขาไปด้วยเช่นกัน อยู่ๆก็มีเสียงเรียกว่าให้เข้าไปกราบท่านเจ้าอาวาสด้วยท่านอยู่หลังโน้น ก็เลยเดินไปดู พอไปถึงปรากฎว่าตัวเราอุ้มเทวรูปมาด้วยองค์หนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เป็นเทวรูปที่เป็นผู้หญิงไม่แน่ใจว่าเป็นท่านใด พอไปถึงมีเณรยืนอยู่บันไดทางขึ้น ท่านบอกว่าขึ้นไปตรงนี้แหละ พอมองขึ้นไป ไม่เห็นมีขั้นบันไดเลยซักขั้น เห็นเป็นทางปูนลาดชันเวียนรอบเสาขึ้นไป โอ้โห....จะขึ้นได้ไงนี่ ถ้าอุ้มเทวรูปอยู่นี่ขึ้นไม่ได้แน่ ท่านเณรบอกว่า วางไว้ก่อนค่อยขึ้นไป ก็ทำตามที่บอก เสร็จแล้วเดินขึ้นไป จนถึงด้านบน เห็นเป็นช่องเล็ก ๆ ต้องปีนขึ้นไปอีก เหมือนกับปีนหน้าผาซะงั้น เล่นเอาขาสั่น ...กว่าจะขึ้นไปได้โฮ่... พอโผล่ขึ้นไปบนกุฏิเจ้าอาวาส พื้นด้านบนของกุฏิกลับกลายเป็นพื้นดินกว้างใหญ่ ยังงัยก็ขึ้นมาแล้ว ก็ต้องไปต่อ มองไปเห็นพระรูปหนึ่งนั่งอยู่ ที่มองเห็นท่านไม่ได้ห่มดองนะ และก็ล้อมรอบมีพระเณรอีกประมาณ 10 รูปนั่งล้อมอยู่ ก็คลานเข้าไปก้มกราบ 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายรู้สึกว่ามีลมเป่ามาที่หัวของเรา และก้อ..ได้ยินเสียงสวดมนต์ครับ ดังขึ้นพร้อมกันที่เดียว ที่แปลกก็คือเสียงสวดมนต์นั้น ไม่ทราบว่าเป็นภาษาอะไร ฟังไม่ออกเลย....ไม่ใช่บาลีแน่นอน แต่ที่รู้สึกได้ก็คือ อบอุ่นแลปิติมาก พอสวดจบก็พอดีตื่น คืนสู่ความจริงของปัจจุบันกาล ที่ต้องกระทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ขอฟังคำชี้แนะด้วยครับ
     
  11. คนฝึกใหม่

    คนฝึกใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +101
    ช่วงนี้ทำไมอะไรๆก็เงียบไปซะหมด เฮ้อ............. วิเวกวังเวงจัง
    พี่จิโปปปปปปปปปปปปปป อยู่ป่าวค๊า


    อะอยู่แต่พี่พร หวัดดีค่า ^-^^-^(smile) อายจังมาทำเสียงดังในบ้านผู้อื่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2011
  12. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    อ้าว เตรียม ตัวฉลอง มีคนเข้ามาอ่าน จะครบ 2000 คนแล้วครับ
     
  13. คนฝึกใหม่

    คนฝึกใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +101
    รีบๆๆต้อนคนเข้าทู้ เตรียมอุปกรณ์ ในการฉลอง เอจะเอาพลุ หรือระเบิดขวดดี
    เตรียมตัวrabbit_run_away
     
  14. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    สมาชิกที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว : 1971 (Set)

    อีก 29 คนครับ :cool:
     
  15. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    อุ้มเทวรูปใว้ขึ้นไม่ได้คือ เรายึดสิ่งนั้นใว้เป็นอัตตาอยู่ในใจของเรา ยึดใว้ว่าสิ่ง
    นี้มีอำนาจเหนือกว่าเมื่แยึดใว้ก็ปลงไม่ได้ เมื่อปลงไม่ได้ก็ขึ้นสู่จุดสูงสุดไม่ได้

    การที่เราขึ้นไปแล้วท่านสวดภาษาให้เราคือพรของท่านที่ให้เราครับ โชคดีมาก
    เลยครับ ทีนี้ก็มองๆหานะครับว่าเรายังยึดอะไรใว้ ข้ามสิ่งเหล่านั้นด้วยการปลง
    สร้างวิสัยทัศน์มุมมองในธรรมให้กว้างขึ้นครับ
     
  16. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    อยู่ครับ ถามหาทำไมกลัวผีหลอกรึ
     
  17. คนฝึกใหม่

    คนฝึกใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +101
    หวัดดีค่า พี่จิโป และทุกๆคน แหะๆๆๆ เห็นเงียบไปนาน แล้วกระทู้ก็เงี๊ยบ เงียบ เลยขอเสียงดังไว้ก่อน (ที่จิงก็กลัว.... นะแหละ) เอาเสียงข่มเข้าว่า
     
  18. กาโน

    กาโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +152
    ขอบคุณครับ..
    เริ่มมองเห็นอะไรๆ เพิ่มขึ้นอีกแล้ว และสิ่งที่คิดว่ากำลังยึดไว้อยู่ด้วย
    อีกอย่างนะครับอารมณ์ในขณะนั่งสมาธิ ตอนนั้นจับลมไว้ เป็นอีกอย่างหนึ่ง
    พอออกจากสมาธิ ก็เลยปล่อยใจสบายๆว่างๆ เอนหลังได้ก็หลับไปในสภาพนั้นเลย แล้วก็จะฝันไปเป็นแบบนี้บ่อยๆ ครับ อารมณ์จุดนี้แหละครับน่าจะเป็นจุดสำคัญอย่างหนึ่งของการปรับอารมณ์นะครับ
     
  19. คนฝึกใหม่

    คนฝึกใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +101
    ใกล้ครบ สองพันแย้ว คุณแบล๊ค และทุกคน เตรียมตัว
    ดีค่ะคุณกาโน่
     
  20. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    อีกเยอะน่าดูครับ

    คุณจิโปครับเมื่อคืนฝันว่าไปดูพระให้ใครไม่รู้เอาพระมาจ่อหน้าผากมันก็ตึง ๆ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...