หมดแล้ว แหวนนพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล รุ่น 2

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย anuchang, 9 ตุลาคม 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. hanada9

    hanada9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +9,853
    พี่หมอ พอประมาณเวลาได้ไหมครับ ว่าแต่ละสถานที่จะใช้เวลากี่นาที (ช่วงเวลาก็ได้ครับ) เผื่อไปดักรอระหว่างทาง อิอิ
     
  2. pom1967

    pom1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +317
    จอง แหวนนพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล รุ่น 2 ส่วนที่เป็นแหวนเกินจำนวน 5 วง
     
  3. fujyjo

    fujyjo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    969
    ค่าพลัง:
    +1,535
    สนใจ คำสอนของหลวงปู่ท่านจังครับ ถ้าพี่ๆท่านไหนไปกราบท่าน รบกวนรวบรวมส่งให้ผมได้ไหมครับ
    สนใจนำมารวบรวมพิมพ์เป้นหนังสือนะครับ ^^
     
  4. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา
    ก็ได้นำแหวนนพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล รุ่น 2 ไปให้ลพ.วิชัย วัดถ้ำผาจม เชียงราย
    ท่านอธิษฐานให้เป็นแหวนกันมะเร็งให้ ที่ รร.ถนอมบุตร กทม.


    [​IMG]

    ซึ่งในคราวนี้ก็ได้กราบเรียนถามข้อข้องใจว่า...แหวนกันมะเร็งนี้ ตกลงใช้กันได้อย่างเดียว หรือใช้รักษาโรคมะเร็งได้ด้วย
    หลวงพ่อท่านได้บอกว่า...สามารถที่จะทั้งกันและแก้โรคมะเร็งได้
    ในวันนั้นท่านได้มอบหัวหยกพม่าที่จะใช้ทำแหวนสัตตภุชงค์โพชฌงคปริตร (แหวนกันโรค-กันมะเร็ง) ของท่านมาให้ประมาณ 200 หัว
    ซึ่งท่านก็ได้ให้ลองเอาหัวหยกใส่กับตัวเรือนตัวอย่างให้ท่านดู ก็เป็นที่พอใจของท่านมาก
    แต่ท่านอยากให้ทำตัวเรือนเป็นสีทองแทนสีเงิน ซึ่งท่านก็ได้กำหนดราคาที่จะให้บูชาแล้วว่าวงละ 1,000-
    ซึ่ง แหวนสัตตะภุชงค์โพชฌงคปริตร (แหวนกันโรค-กันมะเร็ง) ของ ลพ.วิชัย วัดถ้ำผาจม นี้์
    จะเปิดให้สั่งจองเฉพาะเนื้อพิเศษได้ในเดือนมิถุนายน
    (หลังจากเคลียร์เรื่องแหวนนพสิทธิ์ฯ รุ่น 2 เรียบร้อยแล้ว)
    ส่วนเนื้อโลหะชุบทองนั้นวงละ 1,000-นั้นจะไม่ได้เปิดจอง เพราะเป็นส่วนที่ทำถวายท่าน 500 วง
    ซึ่งสามารถบูชาได้ที่วัดเพียงแห่งเดียว

    ในการนี้ได้กราบเรียนถามท่านว่า เห็นที่วัดของท่านก็มีพวกแหวนหยก กำไลหยก ให้บูชาอยู่
    วงนึงก็ไม่กี่บาท อย่างแหวนหยกที่วัดท่านวงละ 39- เอง ทำไมหลวงพ่อต้องให้ทำแหวนกันมะเร็งขึ้นมาด้วย
    เพราะต้นทุนมันก็แพงกว่าแหวนที่วัดของหลวงพ่อ

    หลวงพ่อก็ทำหน้างงและก็บอกว่า...ไม่มี หลวงพ่อไม่เคยทำแหวนหยกกันมะเร็ง จะมีก็ทำให้เฉพาะรายบุคคลที่มาขอเท่านั้น
    แต่ที่ทำให้บูชายังไม่เคยทำเลย

    ก็บอกท่านไปว่าก็มีคนเขาไปบูชามาจากที่วัดหลวงพ่อตั้งหลายวง
    หลวงพ่อก็งงและก็บอกว่า
    ...ไม่มี ท่านไม่เคยทำ
    คราวนี้ก็เลยมีปัญหาตามมาว่าแล้วพวกแหวนหยก กำไลหยก ในตู้วัดนี่มันยังไงกัน
    ก็เลยสงสัยว่าแม่ชีท่านคงเป็นคนจัดการให้ แต่เวลาเสกหลวงพ่อท่านเสกให้เป็นวัตถุมงคลแบบธรรมดา ไม่ได้เสกให้เป็นแหวนกันมะเร็ง
    เพราะมีอยู่คราวหนึ่งให้ท่านเสกแหวนให้ พอท่านเสกเสร็จก็ถามท่านว่าหลวงพ่อเสกให้เป้นกันมะเร็งได้ใช่ไหมครับ
    ท่านก็บอกว่า...อ้าว ไม่บอกนี่ ท่านก็เสกให้แบบธรรมดา เลยต้องขอให้ท่านทำให้ใหม่อีกรอบ
    เลยรู้ว่าการเสกเฉพาะด้านนี่มันต้องใช้วิธีการเสกเฉพาะแต่ละอย่างๆ ไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2014
  5. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    วัดแรกที่ไปก็คือ วัดชีปะขาว อ.บางปลาม้า
    อดีตที่วัดนี้มี หลวงพ่ออ่ำ เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งท่านเป็นหลานของ ลพ.เนียม วัดน้อย
    ปัจจุบันมี พระครูสุวรรณพัฒนโกศล (ทองเหมาะ ธมฺมธีโป) เป็นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน


    [​IMG]

    ลป.ทองเหมาะ วัดชีปะขาว อายุ 77 ปี 55 พรรษา ท่านมีปู่เป็นนักเลงเรืองอาคม เพราะปู่เป็นศิษย์ ลพ.เนียม วัดน้อย
    ได้รับตำราที่เกี่ยวกับการลงตะกรุดเลขยันต์วิชาคงกระพันชาตรีจากหลวงพ่อเนียมถึง ๓ เล่ม มีวิชาเด่นๆ อยู่มากมาย
    เช่น วิชาเสือมหาอำนาจ วิชาตรีนิสิงเหที่ ลพ.เนียม ใช้ลงตะกรุดมหาอุด วิชาหัวใจพระกัสสป (สี่เกลอ) ที่นำมาลงเป็นตะกรุดสังวาลย์เพชร วิชาลบผงต่างๆ
    วิชาเหล่านี้ลป.ทองเหมาะและพี่ชายของท่าน คือ พระครูสุวิบูลย์สังฆกิจ (ประจวบ สมฺปณโณ) วัดบางใหญ่ ได้สืบทอดไว้จนหมดสิ้นตั้งแต่ก่อนบวช
    โดยเฉพาะการผูกพยนต์เสือ โดยท่านผูกและเลี้ยงเสือไม้ตัวใหญ่ของท่านไว้เอง ๒ ตัวมาเนิ่นนาน ชื่อ ไอ้เหลือง กับ ไอ้ดำ

    หลังบวชแล้วได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ ลพ.ครื้น วัดสังโฆ ได้รับถ่ายทอดการสร้างเครื่องรางรูปสัตว์ต่างๆ
    เรียนน้ำมนต์เดือดและวิชาธรรมกายจาก ลพ.เล็ก วัดลาดหอย ศิษย์ ลพ.สด วัดปากน้ำ ซึ่งเป็นลุงของท่าน
    เรียนวิชาสาย ลพ.อ่ำ วัดชีปะขาว จากอาจารย์หล่อ เรียนวิชาสักจากอาจารย์ยิ้ม ฆราวาสหนังเหนียว


    ลป.ทองเหมาะท่านเสกให้ไวมาก จับสายสิญจน์ไม่ทันไรเสกเสร็จแล้ว เรียกว่ายังไม่ทันจะได้ถ่ายรูปเลย
    แต่ท่านก็มีเมตตาตั้งท่าเสกให้ใหม่เพื่อให้พวกเราถ่ายรูปกันอีกครั้ง
    เห็นเสกไวอย่างนี้ แต่วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากโดยเฉพาะเสือของท่าน เด่นทางมหาอำนาจ คงกระพัน และมหาอุดเป็นอย่างมาก
    แต่หลังๆ มีศูนย์พระเข้าไปสร้างปัญหาให้กับทางวัดมาก ทางวัดจึงยกเลิกการให้บูชาวัตถุมงคลทั้งหมด
    เมื่อท่านรู้ว่าแหวนนี้ทำให้กับทางวัดของหลวงปู่ดู่ ท่านก็เมตตาอธิษฐานจิตให้
    ในการนี้ได้ขอให้ท่านจารแผ่นเงินให้เพื่อเป็นชนวนในการทำแหวนกันมะเร็งในครั้งต่อไป

    การเดินทาง วัดอยู่ติดถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 )
    ถ้าวิ่งจากกทม.มาถึงกม. 82 (ก่อนถึงสะพานข้ามคลองบางยี่หน) ให้ชะลอความเร็วชิดซ้ายไป 800 เมตร
    แล้วเลี้ยวซ้ายตรงร้านก๋วยเตี๋ยวนายเท้า เข้าไปทางอุทยานปลาวัดเจ้าขาว 3.5 กม.
    (ผ่านวัดบางยี่หนและวัดแก้วตะเคียนทอง) ก็จะเจอป้ายและซุ้มประตูวัดชีปะขาวอยู่ขวามือ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2014
  6. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    เสร็จจากนั้นพวกเราก็ได้ไปกราบ ลป.นาม วัดน้อยชมพู่
    แต่เนื่องจากท่านอาพาธจึงมิได้ให้ท่านอธิษฐานให้แต่อย่างใด แต่ก็ได้ร่วมกันถวายปัจจัยช่วยค่ารักษาพยาบาลท่าน
    เพราะเย็นวันนั้นท่านจะต้องไปนอนรพ. เพราะมีอาการเหนื่อยหอบมากต้องใช้ออกซิเจนช่วยตลอดเวลา

    ออกจากวัดลป.นามก็ไปกราบ ลป.หริ วัดละหาร ที่อยู่ตรงกันข้าม
    ท่านอาวุโสกว่า ลป.นาม 2 ปี


    [​IMG]

    หลวงปู่สิริ (หริ) อคฺคสิริ วัดละหาร ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
    อายุ ๙๕ ปี ท่านบวชมาตั้งแต่เด็กไม่เคยสึกหาลาเพศ เรียกได้ว่าประพฤติพรหมจรรย์มาตลอดชีวิตของท่านเลยก็ว่าได้
    ท่านเป็นศิษย์สายสมเด็จพระพุฒาจารย์โต โดยท่านได้เรียนกรรมฐานกับ ลป.นาค วัดระฆัง
    ได้รับถ่ายทอดวิชายันต์เกราะเพชรจาก ลพ.แต้ม วัดพระลอย ที่ท่านเรียนจาก ลพ.ปาน วัดบางนมโค
    ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมสาย ลพ.เนียม วัดน้อย จาก ลพ.โต วัดขวาง ลพ.โบ้ย วัดมะนาว และลพ.ครื้น วัดสังโฆ
    อีกทั้งยังได้รับการแนะนำเพิ่มเติมจากลพ.มุ่ย วัดดอนไร่ และลพ.ปุย วัดเกาะ

    นอกจากนี้หลวงปู่ฯ ยังได้ศึกษากับ ลพ.ถิร วัดป่าเลไลย์ ลพ.หรุ่น วัดเสาธงทอง
    และยังได้แลกเปลี่ยนกรรมฐานพระเวทย์อาคมกับ ลพ.ฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง
    และ ลพ.จวน วัดไก่เตี้ย ลป.เจริญ วัดหนองนา ซึ่งเป็นสหธรรมิกรุ่นพี่อีกด้วย
    ท่านสนิทกับ ลป.เกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี มาก เรียกได้ว่าถ้าลป.เกลี้ยงมีพุทธาภิเษกเมื่อไรจะต้องมีฎีกามานิมนต์ลป.หริ ไปร่วมเสกด้วยทุกครั้ง
    ถ้าแต่หลวงพี่เอก วัดเขาแร่ ก็ยังมานิมนต์ท่านไปร่วมงานพุทธาภิเษกที่วัดเขาแร่เป็นประจำเช่นกัน


    [​IMG]

    ลป.หริ ท่านเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง ความจำยังดี และยังแข็งแรงมาก
    ท่านเป็นพระสไตล์พระโบราณ เคร่งและระมัดระวังในเรื่องศีลเป็นอย่างมาก
    ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ประมาณ 10 นาที
    ช่วงเวลาที่ท่านอธิษฐานจิตอยู่นั้น ญาติธรรมท่านหนึ่งที่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย
    ได้เห็นรัศมีโอภาสสีขาวสว่างจ้าครอบคลุมไปทั่วทั้งศาลาเลยทีเดียว
    นอกจากนี้ท่านยังได้จารแผ่นเงินเพื่อเป็นชนวนในการทำแหวนกันมะเร็งให้ด้วย

    หลังเสกเสร็จท่านก็ขอวัตถุมงคลส่วนหนึ่งไว้แจกลูกศิษย์ท่านบ้าง
    เพราะแหวนรุ่นแรกที่เคยถวายท่านไว้ มีแต่คนมาขอท่านอยากจะได้ ท่านก็ไม่มีจะให้
    ก็เลยกราบเรียนท่านไปว่า...ขอนำไปเสกให้เสร็จสิ้นพิธีการก่อนแล้วจะนำมาถวายให้ท่านไว้แจก
    ก็พอดีได้น้องท่านหนึ่งที่ไปด้วย ได้นำพระชัยวัฒน์สิริวัฒฑโนมาถวายให้ท่านแจกกับหมู่คณะที่ได้ร่วมทางไปในครั้งนี้จนทั่วหน้า
    ก็ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิตครั้งนี้ด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2014
  7. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    หลังจากนั้นพวกเราก็ได้เดินทางกันต่อไปที่วัดลำพันบอง
    ไปถึงพี่ที่ตู้วัตถุมงคลก็บอกให้พวกเรารีบไปกราบท่าน เพราะเดี๋ยวท่านจะออกไปกิจนิมนต์ข้างนอก
    ก็นับได้ว่าเป็นโชคดีของพวกเราที่มาทันเวลาพอดี

    [​IMG]

    ลป.สมบุญ ปิยธมฺโม วัดลำพันบอง ต.หนองโพธิ์ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี
    อายุ ๙๒ ปี พรรษา ๗๒ ท่านเป็นศิษย์รูปหนึ่งของลพ.มุ่ย วัดดอนไร่ ที่ยังเหลืออยู่
    วัตถุมงคลของท่านเด่นด้านเมตตา ค้าขาย มหาอุด คงกระพันชาตรี
    โดยเฉพาะแหวนนิ้ว ของท่านนับว่ามีประสบการณ์เรื่องอสรพิษกันมากราย
    เช่น เหยียบงูเห่า งูจงอาง แต่ปรากฏว่างูไม่สามารถอ้าปากกัดได้
    บางรายถูกงูแมวเซากัด บางรายถูกงูจงอางกัด แต่งูพิษกัดศิษย์ท่านไม่เข้า
    เมื่อรอดตายแล้วยังมาเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็พูดว่า งูมันบ่มีแข่ว (ฟัน) ไปเหยียบหัวมันไว้บ้าง งูมันตาฟางบ้าง มันจะกัดได้จังได๋
    เมื่อครั้งที่หมูป่ากัดชาวบ้านไม่เข้าเพราะสวมแหวนของท่านที่นิ้ว
    ท่านก็บอกว่า หมูมันเฒ่า (แก่) แข่ว (ฟัน) มันหักบ้าง แข่วมันหร่อง (หรอ) จึงกัดบ่เข้า


    [​IMG]

    ก่อนจะเสกท่านได้มองไปที่นาฬิกา แล้วก็บอกว่า...9 นาทีพอดีนะ ก็ปรากฏว่าตรงกับเวลา 11.59 น.พอดี
    พอท่านเริ่มเสกฟ้าที่ทำท่ามืดครึ้มตั้งแต่ตอนมา ก็เกิดคำรามลั่นขึ้นมาตรงกับจังหวะช่วงเวลาที่นาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงตรงพอดี
    ท่านเสกให้นานพักใหญ่ราวๆ 10 นาทีได้
    ญาติธรรมที่ไปด้วยท่านเดิมได้กำหนดจิตดูตอนท่านเสก เห็นวัตถุมงคลทั้งหมดลอยอยู่บนพื้นน้ำ
    ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับพญานาค หรือเป็นเพราะท่านใช้อาโปกสิณในการเสก
    เพราะตอนขอให้ท่านเสกได้บอกท่านว่าเป็นแหวน ท่านก็เลยอาจจะเสกให้เป็นแหวนกันงูเหมือนกับแหวนของท่านก็เป็นได้

    หลังเสกเสร็จพวกเราหลายคนต่างก็เฮโลกันไปที่ตู้วัตถุมงคลของท่าน
    เช่ากันหมุบหมับๆ พี่ที่ประจำอยู่ที่ตู้วัตถุมงคลก็เป็นนักประชาสัมพันธ์และนักการขายที่ดีมาก
    มีนิทานประกอบวัตถุมงคลแต่ละอย่างว่ามีประสบการณ์อย่างไร เล่นเอาเบาตัวไปเลย
    นับได้ว่าเป็นวัดแรกที่สามารถเรียกทรัพย์ออกจากกระเป๋าได้ดีทีเดียว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2014
  8. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    เสร็จจาก ลป.สมบุญ พวกเราก็ไปกราบ ลป.นิ่ม วัดหนองปรือ
    แต่ท่านไปกิจนิมนต์ข้างนอก ก็เลยไปกราบ ลพ.สมคิด วัดเขาวงศ์ ต่อ

    [​IMG]

    ลพ.สมคิด ปโยคจิตโต วัดเขาวงศ์ ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี
    ท่านเป็นพระป่าปฏิบัติสายกรรมฐาน เป็นลูกศิษย์ ลป.ฝั้น อาจาโร และลป.เทศน์ เทสรังสี
    ก่อนบวชท่านมีดีกรีเป็นถึงนร.นอก จบการศึกษาจากประเทศออสเตรเลีย
    ช่วงที่ท่านบวชอยู่กับลป.ฝั้น ท่านได้รับการฝึกให้เขียนลบผงจนทะลุกระดานได้ หรือลงตะกรุดแผ่นเดียวติดไปอีก 4-6 แผ่น
    และสามารถเป่าทองทะลุกระดาษโดยไม่ต้องสัมผัสเลย แต่ตอนนี้หมอให้ท่านงดเนื่องจากสุขภาพท่านไม่สู้ดี
    อีกทั้งท่านยังมีญาณหยั่งรู้อันน่าอัศจรรย์ (ฟันของท่านและเกศาก็ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุแล้ว)


    ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ลป.ฝั้นท่านเคยแสดงวิชาเหล่านี้ให้ดู
    โดยเขียนยันต์ไว้ที่ฝ่ามือแล้วสามารถเป่าให้ไปติดที่ไหนก็ได้ แม้แต่แผ่นทองก็เช่นกัน
    เคยมีโยมนิมนต์ลป.ฝั้นไปเจิมบ้านให้ เตรียมหาบันไดมาให้ท่านปีนขึ้นไปเจิมเหนือประตูบ้าน
    แต่ลป.ฝั้นท่านบอกไม่ต้อง แล้วท่านก็เอาแผ่นทองวางบนมือแล้วเป่าให้ไปติดที่เหนือประตูได้อย่างน่าอัศจรรย์
    เคล็ดของวิชานี้ท่านบอกว่าอยู่ที่จิตอย่างเดียว
    ถ้าใครอยากเรียนท่านไม่หวง สอนให้ได้

    นอกจากนี้ท่านยังเล่าว่า ลป.ฝั้นท่านเก่งมาก ท่านสามารถเรียกปรอทจากใต้ดินขึ้นมาได้
    ลป.ฝั้นท่านยังทำพระปรอทไว้อยู่จำนวนหนึ่ง เวลาท่านธุดงค์ไปไหนท่านก็จะเอาพระปรอทติดย่ามไปองค์หนึ่ง
    พระปรอทของท่านกันไข้ป่าได้ชะงัดนัก


    เล่าเรื่องการเสกแหวนคราวนี้บ้าง พอกราบเรียนว่าทำให้ในนามของหลวงน้าใย วัดสะแก
    ท่านก็บอกว่า....หลวงตาองค์นี้เก่ง และท่านก็มองมาที่กองวัตถุมงคลกองพะเนินเทินทึกที่อยู่ตรงหน้า
    แล้วก็บอกว่า....เสกมาเยอะแล้วนี่ ยังจะให้เสกอีกเหรอ
    ก็บอกท่านไปว่า ขอให้ท่านช่วยเสกเสริมให้ครบทุกๆ ด้าน เอาทั้งรัดนิ้วเตือนภัยได้
    ดูดพิษ ถอนพิษได้ ทำน้ำมนต์รักษาโรคได้

    ท่านก็เมตตาทำให้ราวๆ 15 นาที พอเสร็จก็อดถามท่านว่าไม่ได้ว่ามีนิมิตอะไรเกิดขึ้นตอนท่านเสกหรือไม่
    ท่านก็มองมาที่กองวัตถุมงคลแล้วก็พูดขึ้นมาว่า....มีพระกริ่งด้วยนี่ (กริ่งจักรพรรดิเจ้าสัวเพชรกลับ)...แล้วท่านก็อมยิ้ม
    ก็บอกท่านไปว่าเป็นของญาติธรรมที่มาด้วยกัน เขาเสกมาเยอะก่อนแหวนอีก
    ท่านก็บอกว่า...ดีๆๆ พระกริ่งนี่เก่งมาก
    เจ้าของพระกริ่งก็เลยกราบเรียนบอกท่านไปว่าเขาได้นำเอาไปอธิษฐานขอพระพุทธบารมีจากพระพุทธรูปทองคำมาแล้ว 5 วัด
    ส่วนแหวนที่ผมสร้างท่านก็บอกว่า...ใส่แล้วเจริญ เป็นมงคลดี

    ซึ่งในขณะที่ท่านกำลังเสกแหวนอยู่นั้น ญาติธรรมท่านนี้ก็ได้กำหนดจิตตามไปด้วยก็พบแต่ความว่าง
    เสมือนนั่งอยู่ตัวคนเดียว คนอื่นๆ หายไปหมด กองวัตถุมงคลก็หายไป มีแต่ความว่างสงบ
    แสดงว่าท่านเสกด้วยวิมุตติล้วนๆ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 525_n-crop.jpg
      525_n-crop.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.3 KB
      เปิดดู:
      3,693
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2014
  9. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    หลังจากเสร็จกิจจากวัดเขาวงศ์ ก็เข้าเมืองกาญจน์
    เป้าหมายแรก คือ ลป.เสงี่ยม วัดบ้านทวน ที่เสกพระลืมตา เวลาเสกนัยน์ตาก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว
    แต่ปรากฏว่าท่านไปกิจนิมนต์ที่เชียงใหม่ตั้งแต่วันศุกร์ก่อนที่พวกเราจะมาได้ 1 วัน
    จึงได้ไปที่วัดเย็นสนิทธรรมมารามแทน ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการเดินทางในครั้งนี้

    [​IMG]

    พระครูสุภัทรกาญจนกิจ (สนองชาติ ฐิตฺจิตฺโต) วัดเย็นสนิทธรรมาราม ต.ลาดหญ้า อ.เมือง กาญจนบุรี
    อายุ 74 ปี ท่านเป็นศิษย์ พระครูเนกขัมมวิสุทธิคุณ (ฮวด) วัดไม้รวก อยุธยา
    เรียนการเขียนอักษรขอม เลขยันต์ต่างๆ โหราศาสตร์ การดูฤกษ์ยาม แพทย์แผนโบราณ
    นอกจากนี้ท่านได้ศึกษาวิชากับ พระปลัดบุญรอด วัดแค (โคกมะนาว) อยุธยา ซึ่งเป็นพระเขมร
    และยังได้ไปเรียนวิชาต่างๆ จาก ลพ.นอ วัดกลางท่าเรือ ลพ.แจ่ม วัดวังแดงเหนือ และ ลพ.ตาบ วัดมะขามเรียง ลพ.นา วัดดอนพุด
    อีกทั้งยังได้ศึกษาค้นคว้าจากตำรับตำราของ ลพ.ปาน วัดบางนมโค
    ต่อมาท่านได้ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม และได้รับการครอบครูให้
    โดย ลพ.เงิน ให้ท่านไปอธิษฐานให้พระพุทธเจ้าเป็นคนครอบครูให้แทน
    ลพ.สนองชาติท่านชอบไปนั่งปฏิบัติอยู่ตามป่าช้าเป็นนิจ
    ตอนหลังท่านได้ถือหลักสติปัฏฐาน ๔ ในการปฏิบัติ


    [​IMG]
    เหรียญรุ่นแรก ด้านหลังเป็นยันต์เอกลักษณของหลวงพ่อสนองชาติ คือ ยันต์เทวดากวักหัตถ์

    ท่านได้นั่งสมาธิจนบังเกิดอักขระยันต์ในสมาธิ คือ ยันต์เทวดากวักหัตถ์ ที่ประทับอยู่หลังเหรียญรุ่นแรกของท่าน และยันต์ พ พ่อรักษา
    วัตถุมงคลของท่านไม่มีเสื่อม และสามารถถอนของได้
    ของๆ ท่านมีประสบการณ์ทาง 3 จังหวัดชายแดนใต้เยอะมาก

    [​IMG]

    ท่านเมตตาเสกให้นานราวๆ 10 นาที ท่านเสกแบบหลับตาสลับกับการลืมตาเพ่งไปที่วัตถุมงคลเป็นพักๆ
    ท่านบอกว่า
    ...ของที่ทำให้ในวันนี้ไม่มีเสื่อม ใช้ได้ทุกทางตามแต่จะอธิษฐานเอา แต่ถอนของไม่ได้
    แต่ถ้าเป็นของๆ ท่านเอง จะสามารถถอนของได้ด้วย
    แค่มีวัตถุมงคลของท่านสักอย่างจะอะไรก็ได้ แม้แต่รูปเล็กๆ ของท่านที่ท่านแจก
    แค่กำไว้ในมือ ของที่อยู่ในตัวจะไหลออกมาทางมือข้างที่กำวัตถุมงคลของท่าน
    เราจะรู้สึกซ่าๆ ที่ปลายนิ้ว ท่านบอกว่าปล่อยให้มันหายไปเอง หมดซ่าเมื่อไรก็แสดงว่าของออกหมดแล้ว
    แต่เวลาจะทำ ให้เอาวัตถุมงคลอื่นที่ติดตัวอยู่ออกจากตัวให้หมด ไม้งั้นของมันจะไปติดอยู่ตรงที่วัตถุมงคลมาขวางไว้ทำให้ออกไม่ได้
    และถ้าวัตถุมงคลนั้นเสกมาไม่ดีก็จะโดนถอนพลังออกไปด้วย


    เลยถามท่านว่า...แล้วอย่างนี้คนที่เขาสักยันต์หรือลงน้ำมันอะไรมาอย่างนี้ของเขาจะเสื่อมด้วยไหม
    ท่านบอกว่า...เสื่อมเหมือนกัน แต่เสื่อมชั่วคราวคือเสื่อมแค่ชั่วในขณะที่ถอนของเท่านั้น
    เพราะตำราเขายังมี ครูเขายังมีอยู่ ดังนั้นพอเขาระลึกถึงวิชาที่เขาลงไว้ หรือระลึกถึงครูความศักดิ์สิทธิ์ก็จะกลับมาเอง


    ไม่รู้ว่าคนอื่นในคณะที่ไปจะนึกสงสัยเหมือนผมหรือเปล่า คือผมก็นึกในใจว่าแล้วทำไมหลวงพ่อไม่เสกให้ถอนของได้แบบหลวงพ่อด้วย
    แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามท่าน ท่านก็เฉลยมาเองเลยว่า....
    ที่ท่านไม่ได้ลงถอนของให้ เพราะว่ามันจะต้องทำพิธีในโบสถ์ มีบายศรี เครื่องบูชาครู มีฤกษ์ยาม
    ถ้ามาให้เสกแบบนี้ท่านก็ทำให้ได้เต็มที่แค่นี้
    แต่ถึงเสกให้แบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะถอนไม่ได้เลย ก็พอได้บ้างแต่ไม่เต็มที่เหมือนกับของๆ ท่านเอง


    ท่านยังเล่าอีกว่าสมัยก่อนที่ท่านเรียนวิชามานั้น ท่านเรียนทั้งกันและแก้มาเพียงคนเดียว
    ปกติการเรียนไสยศาสตร์เขามักจะเรียนกันเป็นคู่ เผื่อคนหนึ่งเป็นอะไรไปก็จะได้มีอีกคนช่วยแก้ให้ได้
    แต่ท่านเรียนมาคนเดียวโดดๆ ไม่มีคู่ ดังนั้นจะทำอะไรก้ต้องระวัง ผิดครูไม่ได้ไม่งั้นจะไม่มีใครช่วยแก้ให้
    อย่างบายศรีสมัยนี้ไปจ้างเขาทำ แต่ของท่านนี่ไม่ได้ ท่านต้องทำเองคนเดียว เราเป็นศิษย์ท่านใครจะมารู้จักอาจารย์ของเราดีเท่าเรา
    บายศรีนี่การม้วนก็มีความสำคัญ จะม้วนเข้าหรือม้วนออก เขามีกำหนดไว้ ขึ้นอยู่กับว่าจะทำอะไร ดังนั้นไปจ้างคนอื่นทำให้ไม่ได้
    แล้วไข่ยอดบายศรีนี่สำคัญ เวลาเราเชิญครูบาอาจารย์มาท่านก้จะสถิตย์อยู่ที่ไข่ยอดบายศรีนี่ล่ะ
    แล้วทีนี้เวลาเราไหว้ครู พลังของเราอาจจะไปกระทบคนอื่น เขาก็จะปล่อยของมา
    ทีนี้ของที่ปล่อยออกมาจะวิ่งผ่านข้ามบายศรีมาโดนตัวเราไม่ได้ ก็จะตกอยู่ที่ไข่ลูกยอด
    ในทางไสยศาสตร์เขาเชื่อกันว่า หากเรากินของที่เขาทำออกมาแล้วเขาก็จะทำของนั้นใส่เราไม่ได้อีก
    ไข่ยอดบายศรีจึงมีความสำคัญมาก ช่วยป้องกันตัวเราในระหว่างทำพิธี

    ท่านได้เล่าให้พวกเราฟังว่าตัวท่านเรียนไสยศาสตร์มาก่อน
    ยิ่งแต่ก่อนท่านอยู่อยุธยา ตำรับตำราเก่าๆ มีมาก ตำรับตำราไหนๆ ท่านก็ไปขอยืมมาค้นคว้า คัดลอก เรียนจนประสบความสำเร็จ
    จนบางทีเจ้าอาวาสวัดที่ไปขอยืมตำราเขามาเขาก็อิจฉา เพราะเขาเรียนแล้วทำไม่ได้ พาลโมโหเลยเผาตำราทิ้ง เสียสติไปเลย
    ของอย่างนี้ไม่ได้ เขามีครูบาอาจารย์อยู่ แล้วตำรับตำราเก่าๆ พวกนี้ สมัยก่อนเขาใส่พานบูชาอยู่ที่โต๊ะ
    อย่าว่าแต่ตัวตำราเลย ขนาดตู้ที่ใส่ตำราก็ยังเฮี้ยน บางทีเด็กไปจับตู้เข้าชักดิ้นชักงอเลย


    สมัยนั้นท่านชอบศึกษาค้นคว้า เรียนมามาก จนพอจะครอบครูท่านก็เลยจะไปให้ ลพ.เงิน วัดดอนยายหอมท่านครอบครูให้
    ทีนี้การจะครอบครูนี่เขาก็มีวิธีการของเขา คือ ท่านก็ให้แต่ละคนที่จะครอบครูไปทำของมาประมาณครึ่งบาตร
    แล้วก็ปลุกให้ของขึ้น ทีนี้ถ้าคนไหนจะเป็นครูบาอาจารย์เขาได้ก็จะต้องสั่งของนั้นให้หยุดได้
    แต่ปรากฏว่าของที่ท่านทำมา ใครๆ ก็สั่งให้หยุดไม่ได้
    ลพ.เงิน ก็ว่า...เอาอย่างนี้แล้วกัน ท่านเรียนวิชามาเยอะ ครูบาอาจารย์มีมากเสียเหลือเกิน
    ท่านเอาพานดอกไม้ธูปเทียนไปอธิษฐานต่อหน้าพระพุทธรูปก็แล้วกัน ให้พระพุทธเจ้าท่านครอบครูให้ท่าน


    ท่านได้เล่าถึงเรื่งการเสกแหวนในครั้งนี้ให้ฟังด้วยว่า
    เริ่มแรกท่านจะลงอาถรรพ์ให้ก่อน เพราะอาถรรพ์ไม่มีวันเสื่อม
    แล้วใช้อาคมบางบทปลุกเสกเพื่อให้จิตเกิดเป็นสมาธิได้เร็ว แล้วค่อยใช้สมาธิเสกอีกที
    แต่ถ้าเป็นตามปกติที่ท่านทำ วัตถุมงคลของท่านจะใช้สมาธิอย่างเดียวล้วนๆ
    ซึ่งญาติธรรมเจ้าเดิมที่จิตสัมผัสดีได้ดูการเสกของท่านพบว่า

    ตอนแรกท่านใช้สมถะในการเสกแล้วค่อยใช้วิปัสสนาญาณเสกคลุมทับอีกที

    ท่านได้อธิบายให้ฟังว่าการเสก มี 2 แบบ คือ ปลุก กับ เสก
    เสกเป็นการทำของที่ไม่มี (พลัง) ให้มีขึ้น ส่วนการปลุกเป็นการทำของที่มีอยู่ (ในตัว) แล้วให้ขึ้นมาแล้วถ่ายลงไปในวัตถุมงคล
    ดังนั้นพวกปลุกของก็จะมีอาการตัวสั่นแบบของขึ้น ซึ่งพวกนี้น่าสงสาร
    เพราะเวลาของขึ้นมันเป็นอย่างไรรู้ไหม หัวใจนี่มันจะทำงานหนักเต้นเร็วมาก
    ดังนั้นครูบาอาจารย์ที่แก่ๆ แล้วเสกด้วยวิธีปลุกแบบนี้มีโอกาสหัวใจวายในขณะทำพิธีได้ง่ายๆ
    อีกอย่างเคยสังเกตกันบ้างไหมว่าทำไมเราใช้วัตถุมงคลบางอย่างแล้วมีอาการฮีกเหิม โมโหร้าย อยากมีเรื่องชกต่อย
    ทั้งนี้ก็เพราะว่าเวลาที่ครูบาอาจารย์ท่านถ่ายพลังลงในวัตถุมงคล ถ้าองค์ๆนั้นไม่ได้ฝึกวิปัสสนากรรมฐานมาอารมณ์จริตนิสัยของท่านเป็นแบบใด
    ก็จะลงไปอยู่ในวัตถุมงคลด้วย ทำให้ผู้นำไปใช้มีอามณ์จิตแบบนั้นตามไปด้วย

    ดังนั้นผู้ที่เรียนอาคมมาจริงๆ ต้องฝึกวิปัสสนาไปด้วย เพื่อควบคุมอามณ์จิตของตนเองไม่ได้ไปติดอยู่ในวัตถุมงคล
    แต่มักไม่ค่อยมีใครฝึกกัน เพราะวิปัสสนามันต้องละวาง แต่อาคมมันต้องเพ่งยึดรูป
    แต่หลวงพ่อไม่เอา หลวงพ่อฝึกทั้ง 2 ด้านไปพร้อมๆ กัน

    แล้วท่านก็ได้สอนว่า เวลาไปหาครุบาอาจารย์ถ้าจะขอให้ท่านทำอะไรให้
    ถ้าง่ายๆ ก็ให้หาพวงมาลัยกับธุูปเทียนแพไปขอท่าน
    ถ้าจะให้ดีหน่อยก็แต่งขัน 5 ไป ทำกรวยกระทงในกรวยใส่ ธุูป 1 ดอก เทียน 1 เล่ม หมากพลู 1 ยาเส้น 1 ดอกไม้ 1
    ทำอย่างนี้เหมือนกันทั้ง 5 กระทง อันนี้เป็นประเพณีโบราณที่เขาปฏิบัติกันมา

    ครั้งหนึ่งท่านเคยพูดถึงเรื่องพุทธาภิเษกวัตถุมงคลว่าท่านไม่ค่อยอยากไป เดี๋ยวนี้ไปแล้วไปลองกันมากกว่า
    ท่านถามว่า...ถ้าเป็นเธอๆ รู้ว่าองค์นี้ดัง เก่งมาก แล้วถ้าเธอมีวิชาทำได้ เธออยากจะรู้ไหมว่าเขาเก่งจริงหรือเปล่า
    ดังนั้นพิธีพุทธาภิเษกเดี๋ยวนี้วัตถุมงคลแทนที่จะกลายเป็นเมตตากลายไปเป็นคงกระพัน มหาอุดกันทั้งนั้น
    เพราะถ้าเขาปล่อยหนักๆ มาเรามัวแต่ทำเมตตาอยู่ก็สู้เขาไม่ไหว มันก็ต้องใช้ของหนักยันกันไว้
    บางองค์ถึงกับหงายหลังล้มกลางพิธีก็มี
    ก็เลยถามท่านว่า....แต่สมัยก่อนเขาก็มีพิธีพุทธาภิเษกเหมือนกันนี่ครับ
    ท่านก็บอกว่า...สมัยก่อนกับสมัยนี้ไม่เหมือนกันหรอก ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านรุู้วาระจิตกันทั้งนั้น รู้แนวฝีมือของกันและกันเป็นอย่างดี
    ดังนั้นเวลาพุทธาภิเษกท่านก็จะน้อมจิตไปในทางเดียวกันหมด
    แต่เกจิในยุคสมัยนี้มันไม่ใช่ ไม่ได้มีวาระจิตหยั่งรู้เหมือนท่านเหล่านั้น ดังนั้นต่างคนต่างเสก
    ใครมีวิชาอะไรก็เอาตามที่ตัวถนัด ก็ซัดกันมั่ว คนนึงอุตส่าห์ทำจิตให้แข็งปลุกเสกเป็นมหาอุดอย่างดี
    เจออีกองค์ดันเอาเมตตาเข้ามาลูบเสียท่าเลย จากแข็งกลายเป็นอ่อนไป ทีนี้บางพิธีที่ของยังศักดิ์สิทธิ์อยู่ได้ก็เพราะเทวดาเขาช่วยไว้
    เขามาช่วยจัดหมวดหมู่ให้ ทีนี้ถ้าพิธีไหนอัญเชิญเทวดาไม่ดีก็เละ

    ในเรื่องของความโกรธท่านสอนให้ใช้การดูอารมณ์โกรธ
    อย่าพยายามไปดับมัน เพราะถ้าเราไปดับมันก็เหมือนกับเราจุดเทียนแล้วทำให้ดับ
    แต่เทียนยังเหลืออยู่ จุดอีกเมื่อไรก็ติด
    ดังนั้นให้พิจารณาดูอาการของมันไป อย่าไปใช้ความคิดมาดับ หรือคิดถึงคำสอนของหลวงพ่อมาดับไม่ได้
    แค่ใช้ความคิดก็ผิดแล้ว หรือยิ่งไปคิดหาหนทางมาดับมันก้ยิ่งเหมือนสาดน้ำมันเข้ากองไฟ
    ดังนั้นให้ดูอาการของมัน ว่าต้นเหตุมาจากไหน แล้วการดำเนินของมันเป็นอย่างไร
    ดูว่าร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ร่างกายเราร้อนขึ้น หัวใจเต้นแรงขึ้น หน้าแดง มือสั่น
    ดูไปเรื่อยๆ จนไปถึงที่สุดของมันความโกรธก็จะหายไปเอง เหมือนเทียนที่ลุกใหม้จนหมดเล่ม
    แต่ทำไมพอเราคิดถึงเรื่องนั้นก็ยังโกรธขึ้นมาอีกได้ นั่นก็เป็นเพราะสัญญาของเราที่ยังไปยึดติดอยู่
    ที่จริงท่านสอนเรื่องการละสัญญาไว้ด้วยแต่มันละเอียดลึกซึ้งกลัวจะอธิบายผิดไปจากคำสอนของท่าน ต้องรอให้ท่านอื่นที่จำได้ดีกว่ามาเล่าดีกว่า
    เพราะเรื่องนี้เป้นปัญหาการปฏิบัติของญาติธรรมคนที่สมาธิจิตดี ซึ่งเขาทำได้ถึงขั้นนั้นแล้วยังติดอยู่
    แต่ที่แน่ๆ พอสรุปได้ว่าท่านเน้นสติปัฏฐาน 4
    การทำงานก็ให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่พอทำงานก็คิดเรื่องรวยแล้ว นั่นมันเรื่องอนาคต
    หรือทำอะไรมาล้มเหลวแล้วก็มานั่งกลัวอันนั้นมันก็เรื่องอดีตจบไปแล้ว

    ที่จริงท่านพูดถึงเรื่องการต่ออายุขัยด้วย แต่ไม่กล้าเล่ากลัวผิด เพราะจำได้คร่าวๆ
    แต่ตอนจะตายท่านว่าเวทนามันเกิด พอเวทนาเกิดอกุศลกรรมก็จะมาแทรกทำให้เราต้องไปเกิดตามผลกรรมนั้น
    ตอนที่ธาตุทั้ง 4 ในร่างจะแตกสลายจะมีเวทนาเกิดขึ้นทุกคนไม่มากก็น้อย ทำบุญเยอะเวทนาก็แทบไม่มี
    ส่วนที่ไปไม่ดีมักจะมีเวทนามากๆ ทั้งนั้น
    ท่านว่าตัวท่านกำลังฝึกการต่ออายุอยู่ ถ้าได้ท่านจะมีอายุถึง 100 กว่าปี แต่ท่านบอกว่าท่านขอแค่ 28 ปี
    แต่ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับะาตุขันธ์ในร่างกาย ถ้าอยู่แล้วมันทำอะไรไม่ได้เป็นภาระให้คนอื่นก็จะเป็นบาปกรรมเราก็ไม่ต่อ
    ถ้าจะต่อก็ต้องอยู่แล้วยังทำประโยชน์อะไรได้

    อ้อ....ท่านพุดถึงเรื่องวัตถุมงคลสมัยนี้ว่าถ้าเอาตามแบบโบราณไม่ต้องทำไรมากแค่เข้ากทม.ก็เสื่อมแล้ว
    เพราะต้องลอดใต้สะพาน ลอดอะไรสารพัด แต่ของๆ ท่านๆ กันและแก้ผูกไว้หมดทุกอย่าง ไม่มีทางคัดถอนได้
    อย่างพวกทหารทางใต้ที่ใส่พระไปเต็มคอน่ะ ทำไมถึงตายกัน ก็เพราะคนทำวัตถุมงคลกันเดี๋ยวนี้เสกกันไม่เป็น
    อย่านึกว่าอีกฝ่ายเขาไม่มีวิชานะ แค่เขาเอากกน.ผู้หญิงมาพันปากกระบอกปืนแล้วยิงก็เข้าแล้ว
    ก็เลยถามท่านว่า...แล้วอย่างนี้เราจะแก้อย่างไร
    ท่านก็ว่า...เราก็ต้องเพ่งให้หนักขึ้นกว่าปกติ สิ่งอัปมงคลก้ต้องล้างด้วยมงคลชั้นสูง
    พระที่ท่านเสกไว้ ถึงท่านตายไปก็ไม่มีเสื่อม อย่างบาตรน้ำมนต์ที่ท่านทำเอาไว้ แค่เอาน้ำใส่ในบาตรแล้วระลึกถึงชื่อท่านก็ใช้ได้เลย
    แล้วท่านก็หันมาถามผมว่ารู้จักชื่อท่านแล้วใช่มะ...
    แลวท่านก็ถามว่า...แล้ววัตถุมงคลที่ไม่ได้เสกมีพลังไหม ?
    ท่านบอกว่า...มี แต่มีเฉพาะบุคคล เช่นถ้าคนๆนั้นไปได้ของๆ ท่านที่เป็นของปลอมมา แต่รู้จักท่าน
    เรียกให้ท่านไปช่วยท่านก็ไป แต่ปัญหามันจะตกอยู่กับลูกหลาน
    ตัวพ่อเองใช้ดีมีประสบการณ์ แต่พอลูกใช้มันไม่เหมือนกัน เกิดลูกหลานเขาไม่รู้จักท่าน ไม่ศรัทธาในตัวท่าน มันก็คุ้มครองชีวิตเขาไม่ได้




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2014
  10. Sod

    Sod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +471
    ขอร่วมจองแหวนที่เกิน 1 วง ครับ
     
  11. spaiderman

    spaiderman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +6,901
    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ไปในครั้งนี้ครับ น่าอิจฉามากๆ ได้กราบกลวงพ่อหลายๆ ท่าน แถมได้หลวงพ่อเทศนาคำสอนดีๆ ให้ฟัง ได้บุญอิ่มกลับมากันถ้วนหน้า คราวหน้าถ้ามีอีก และถ้าผมไม่ติดอะไร ขอไปด้วยน๊ะครับ ^_^
     
  12. ชายชุดขาว

    ชายชุดขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    4,007
    ค่าพลัง:
    +12,706
    คณะนี้น่ารักมากเลยครับ คงเป็นเพราะคอเดียวกัน มีจุดมุ่งหมายในทางที่ดีเหมือนกัน :cool:

    คราวหน้าขอติดหนึบครับ อิอิ
     
  13. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีญาติธรรมท่านหนึ่งที่ได้อ่านเรื่องราวของพ่อท่านผอมจากที่นี่
    แล้วได้เดินทางไปกราบท่านที่บ้านสามิธรรม ศรีราชา
    ได้มีโอกาสพยุงท่านเข้าไปในห้องนอนท่าน ซึ่งเขาเล่าว่าในห้องท่านไม่มีอะไรเลย
    มีเตียงไม้อยู่เตียงเดียว หมอนก็ไม่มี เพราะเขามองหาหมอนจะให้ท่านหนุนก็ไม่มี
    แล้วท่านก็นอนตะแคงในท่าสีหไสยาสน์หลับไป
    ทำให้นึกถึงพระสมัยก่อน เช่น ลพ.เนียม วัดน้อย ลพ.โหน่ง วัดคลองมะดัน ที่ท่านก็นอนท่านี้ตอนมรณภาพ
    ทำเอาญาติธรรมท่านนี้เชื่อแน่ว่าท่านเป็นพระอริยบุคคลชั้นสูงแน่นอน
    แล้วตอนที่ญาติธรรมท่านนี้ขอเมตตาให้ท่านเสกพระให้ ท่านก็บอกว่าเอาแต่แก่นนะ กระพี้ไม่เอา
    ดังนั้นใครที่ยังไม่มีโอกาสไปกราบท่านก้ขอแนะนำ โดยเฉพาะหลายๆ ท่านที่อยู่กทม.
    จากกทม.มาศรีราชาแค่นี้ไม่ไกล แล้วท่านจะได้รับความอิ่มใจกลับไปอย่างแน่นอน


    หลังจากตระเวนเสกกลับมาก็เลยให้เพื่อนท่านหนึ่งที่สมาธิจิตดีช่วยดูให้หน่อยว่าแหวนรุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง
    ก็ได้รับคำตอบว่าเด่นทางโภคทรัพย์มาก หนุนเรื่องการงาน ทำน้ำมนต์ อธิษฐานได้ และก็ช่วยเรื่องสมาธิ จิตสัมผัส
    แต่เรื่องดูดพิษยังไม่เด่นชัดนัก แต่ไม่เป็นไรยังเหลือเวลาอีก 4 สัปดาห์ที่เอาไปเสกเพิ่มได้
    เพื่อนบอกว่ารุ่นนี้จะว่าไปแล้วเด่นกว่ารุ่นแรกเสียอีก และก็เย็นกว่าด้วย ไม่เหมือนรุ่นแรกที่ใครบารมีไม่ถึงใส่แล้วมักจะร้อน
    รุ่นนี้ใส่แล้วจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2014
  14. jotaro4s

    jotaro4s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,121
    ค่าพลัง:
    +5,431
    อนุโมทนา สาธุครับ
     
  15. ชายชุดขาว

    ชายชุดขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    4,007
    ค่าพลัง:
    +12,706
    รุ่นแรก บารมีไม่ถึงจริงๆ ครับ เพราะเงินไม่พอเช่าเนื้อเงิน เลยต้องเช่าสัมฤทธิ์ ใส่แล้วแพ้ คันยิบๆ เลยวางไว้เฉยๆ
     
  16. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,907
    ค่าพลัง:
    +54,565
    จองร่วมเดินทางครับ
     
  17. ชาวประมง

    ชาวประมง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4,657
    ค่าพลัง:
    +22,538
    ตั้งตารอเเหวนกันมะเร็งกันต่อไป ติดตามตลอดครับพี่หมอ
     
  18. ชายชุดขาว

    ชายชุดขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    4,007
    ค่าพลัง:
    +12,706
    จองด้วย 1 ที่ครับพี่ :cool:
     
  19. ชายชุดขาว

    ชายชุดขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    4,007
    ค่าพลัง:
    +12,706
    ความจริง พระกริ่งจักรพรรดิเจ้าสัว เสกจนพลังล้นแล้ว แต่เห็นว่า พี่หมอไปกราบหลวงปู่บัว จึงอยากไป เพราะฝันว่าได้ไปกราบที่ตักท่าน ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเลย

    ครั้งนี้ขอให้ได้พบหลวงปู่บัว ตามที่ได้ฝันได้ด้วยเทอญ.

    กราบ กราบ กราบ
     
  20. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,075
    ค่าพลัง:
    +22,243
    แปลกดี ผมก็ฝันเห็นท่าน ไปเจอรูปหล่อท่านรุ่น "เมตตามหาเศรษฐี" ไม่กล้าเก็บ ไม่รู้ประวัติการสร้างเลย

    รุ่นนี้ดีไหมครับพี่???????????
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...