แชร์ !!! ประสบการณ์ แรงบันดาลใจ คติเตือนใจ หลักธรรม ในการดำเนินชีวิต

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย bhagavad gita, 3 เมษายน 2013.

  1. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    คัดลอกจากหนังสือ (คู่มือเบื้องต้น อานาปานสติ) พระอาจารย์ มิตซูโอะ คเวสโก

    ๕.การพยายามแก้ไขตนเอง

    เมื่อเราสังเกตดูจิตใจ ความคิดของตนเองแล้ว จะเห็นว่าจิตใจของเราคิดแต่เรื่อง ของคนอื่นเป็นส่วนใหญ่ ว่าเขาดี เขาไม่ดี น่ารัก น่าชัง คิดเรื่องคนอื่นมากกว่า 90 คิดเรื่องของตนเองน้อยกว่า 10 อยากให้คนอื่นละความชั่วที่ไม่ถูกใจเรา อยากจะให้คนอื่น ทำความดีเพื่อให้ถูกใจเรา อยากให้คนอื่นทำจิตใจให้บริสุทธิ์เพื่อจะไม่กระทบเรา แต่จิตของเรากลับปล่อยให้ขุ่นมัว เศร้าหมอง เครียด ฟุ้งซ่าน
    "โทษผู้อื่นเห็นเป็นภูเขา โทษของเราแลไม่เห็นเท่าเส้นผม ตดคนอื่นเหม็นเหลือทน ตดของตนถึงเหม็นก็ไม่เป็นไร"

    เปลี่ยนมาเป้น สนใจเอาใจใส่ ดูตนเองเพิ่มขึ้น มากขึ้น จนดูตนเอง 90 ดูคนอื่น 10 เราดูคนอื่นเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาตัวเอง
    เห็นตัวเองในคนอื่น และเห็นคนอื่นในตัวเอง
    เพราะไม่มากก็น้อย เราก็เหมือนกับคนอื่น
    เป็นการเจริญสติ สัมปชัญญะ ทำให้มีเมตตา กรุณา
    ตำหนิติเตียนคนอื่น ดูหมิ่น ดูถูกคนอื่น น้อยลง
    ตำหนิติเตียนตนด้วยสติปัญญา แก้ไขพัฒนาตน มากขึ้น

    ความคิดที่ปรับปรุงแก้ไขตนนี้ เป็นกุศลกรรม
    เมื่อสำรวจตัวเอง แล้วพยว่า มีข้อที่คิดว่าน่าแก้ไข
    ให้ตั้งใจทุกวัน พยายามแก้ไขอยู่อย่างนั้น
    ผิดพลาดไปเป็นร้อยเป็นพันครั้งก็ช่างมัน
    พยายามคิดตั้งใจจะแก้ไขอย่างนั้นก็ใช้ได้
     
  2. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    ความโกรธ : เกิดขึ้นได้คือ มีเหตุต่อแต่นี้

    ขาพูดจริง หวังดีต่อเรา แต่ไม่ถูกใจเรา ------เราโกรธ
    เขาพูดธรรมดา แต่ไม่ถูกใจเรา-----เราโกรธ
    เขาไม่พูด ไม่ถูกใจเรา ------เราโกรธ
    เราคิดว่าเขานินทาเรา (ที่จริงเขามิได้นินทา)-----เราโกรธ
    เขาว่าเรานินทาเขา (แต่เราไม่ได้นินทาเขา)-----เราโกรธ
    เราเข้าใจผิดว่าเขาทำผิด(ทั้งๆที่เขาทำดี)-----เราโกรธ
    เขาเข้าใจผิดว่า เราทำผิด(ทั้งๆที่เราทำดี)------เราโกรธ
    เขาหน้าบึ้ง ใจไม่ดี เรารู้สึกว่าเขาไม่พอใจเรา ------เราโกรธ


    กายที่ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด ก็มีอารมณืโทสะครอบงำจิตใจ ของเรา เรารู้สึกหงุดหงิด ก็มี อย่างไรก็ตามเมื่อเรารู้สึกหงุดหงิด เราจะรู้สึกว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ใครจะอยู่รอบตัวเรา น่าโกรธทั้งนั้น เราจะรู้ึกว่า เขาคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำอะไรอะไรก็ไม่ดี น่าโกรธ สมควรโกรธ...ครูบาอาจารย์สอนไว้ว่า "เหตุที่สมควรโกรธนั้น ไม่มี อย่าเชื่อความรู้สึก อย่าเชื่อความผิด เพราะมันไม่แน่"


    ความโกรธเปรียบเหมือนอาหารที่ไม่อร่อย
    หากมีใครนำมาให้เราแล้วเราไม่รับ ผู้ที่นำมาให้ ก็จะต้องรับกลับไปเอง ความโกรธนั้นก็เช่นเดียวกัน เมื่อเขาโกรธเรา แล้วเราเฉยๆ ก็เท่ากับเขาโกรธตัวเอง หากเราโกรธตอบ ก็เหมมือนกินอาหารไม่อน่อยนั้นด้วย


    เมื่อเกิดอารมณืโกรธ โมโห การหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ จนมีสติสัมปัชัญญะ มีความรู้สึกตัวทั่วถึงลมหายใจแล้ว อารมร์โกรธท็ตั้งอยู่ไม่ได้ จึงเปรียบเหมือนการที่เราไม่กินอาหารไม่อร่อย ที่เขาปรุงมาให้ เขาก็ต้องยกอาหารนั้นกลับคืนไป ...
     
  3. bhagavad gita

    bhagavad gita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +94
    การระงับความโกรธ

    ระพุทธเจ้า ทรงเปรียบเทียบความโกรธ เป็นไฟไหม้ป่า ที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ขวางหน้า ความโกระนั้น เผาทั้งตัวเราเอง ตัวเขา ทั้งคนที่รักเรา และคนที่เรารัก ถูกเผาไปทั้งหมด ไม่มีอะไรเหลือ เหมือนตกนรกทั้งเป้ฯ มีแต่โทษ ไม่มีคุณเลยแม้แต่นิดดียว

    ปกติ เมือ่เราเกิดอารมณ์ดกรธ ถ้าเราสังเกตจะพบว่า ลมหายใจเกิดการเปลี่ยนแปลงก่อน เป้นลมหายใจแรงๆสั้นๆ ต่อมาจึงเกิดความโกรธ แล้วเป็นความรู้สึกโกรธ สำหรัผู้ที่ยังใหม่ต่อการปฏิบัตินั้น คงจะเป็นเรื่องยาก ที่จะห้ามความรู้สึกโกรธ แต่การปรับเปลี่ยนลมหายใจนั้น ใครๆก็ทำได้ เพราะไม่ยากจนเกินไป ขอให้ความเข้าใจอย่างถูกต้องเท่านั้น

    การหายใจออก กับการหายใจเข้า ใช้ระบบประสาทที่แต่ต่างกัน สามารถแยกแยะ ได้ตามความรู้สึก ที่เกิดขึ้น กับจิตของเราเอง การหายใจออก มีลักษณะที่ผ่อนคลาย ให้ความรู้สึกเบาสบายใจ ส่วนการหายใจเข้านั้น มีลักษณะของความตั้งใจ หรือความเคร่งเดครียด ดังนั้น เมื่อจะระงับอารมร์โกรธ จึงเน้นที่ลมหายใจออก ด้วยการเปลี่ยนลมหายใจ

    ตั้งสติ หายใจออกยาวๆๆ สบายๆหายใจเข้า ปล่อยไปตามธรรมชาติ เพื่อคามรู้สึกที่ไม่ดีออกไป และหายใจ ให้ลมหายใจเข้าลึฟๆ ทำซ้ำอยู่เรื่อยไป ก็จะรู้สึกสบายใจ สงบเย็นใจ และเกิดความละอายต่ออารมร์โกรธไปเลย จนกระทั่งความโกรธ ไม่กล้าโปล่หน้ามาให้เห็นอีก

    สำหรับคนที่ขี้โกรธมากๆ การห้ามมิให้โกรธเลน อาจจะเป้นไปไ้่ด้ยาก หรือ ยิ่งพยายาม ระงัย ยิ่งเครียด ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ปล่อยให้โกรธไปตามปกติ แต่พยายาม ให้ความรู้สึกโกรธนั้น หายไปเร็วๆ อย่าปล่อยวางให้เราขึ้น แล้วก็จะปล่อยวางไปที่สุด ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...