เหตุการณ์ใน-นอกโลก VS ภัยธรรมชาติ และupdate พายุสุริยะ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 10 มกราคม 2011.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    Satellite Glitch Disrupts TV, Radio Signals

    A technical glitch with a satellite on Thursday disrupted TV signals in Thailand, and temporarily brought down Burma's state-owned radio and television stations. A technical problem with the Thaicom 5 satellite brought down for three hours state-run radio broadcasts from Burmese capital Naypyidaw and state-owned TV broadcasts across the country, except in Naypyidaw and Rangoon, according to the New Light of Myanmar newspaper on Friday.

    But Burma's state media avoided reporting rumors of a military coup in Thailand, false reports of which circulated in Bangkok following the interruption to TV signals.

    http://www.irrawaddy.org/
     
  2. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
  3. apichart ww2

    apichart ww2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +439
    :cool:ว่ากันต่อวันมีเหตุการณ์น่าคิดมากจริงๆ
     
  4. Dodedu

    Dodedu สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +0
    ตกลงมันคือเสียงอะไร? ใครพอทราบบ้าง

    ลองเข้าไปอ่านกระทู้พวกนี้ดู...

    วันนี้ตอนสิบโมงเช้า มีเสียงเหมือนโซนิคบูม ที่สุพรรณ แต่ชาวบ้านคิดว่าเครื่องบินตก

    เสียงระเบิด ที่สุพรรณ

    เสียงระเบิดที่สุพรรณ ตกลงเสียงอะไร

    เมื่อกี้ขับรถผ่านอยุธยาขาเข้ากทม.พอดีได้ยินเสียงระเบิดบนท้องฟ้าเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเลยครับ!!

    พอดีว่าติดตามอ่านเรื่องนี้มาซักพักแต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดสักทีพูดเล่นกันไปซะหมด จะเป็นแค่เสียงยางรถยนต์แตก? หรือเสียงเครื่องบิน? ใครอยู่พื้นที่แถบสุพรรณบุรี อยุธยา หรือชายแดนปอยเปต เคยได้ยินเสียงที่ว่านี่รึปล่าว มันคือเสียงอะไรกันแน่
     
  5. Doom day

    Doom day สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +0
    หมายเหตุ
    (ความคิดของผมเองล้วนๆ นะครับ)



    ดังมานานหลายเดือนแล้ว ทั่วประเทศไทย แล้วแต่ว่าที่ไหนดังมากหรือน้อย

    มันคือเสียงดังมาจากในพื้นดิน ครับ ถามว่าปกติไหม ตอบว่าไม่ครับ

    แต่เรื่องอะไรๆ ที่น่ากลัวเช่นนี้ เค้าไม่มาประกาศบอกกันหรอกครับ (cry)
     
  6. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    เรื่องเสียงดังลั่น แต่หาที่มาของเสียงไม่ได้ที่สุพรรณ เมล์ไปถาม อ. ปัญญา จารุศิริ แล้ว เพราะสงสัยว่าจะโยงกับรอยเลื่อนแผ่นดินไหว ก็ตรง 5 - 6 อำเภอ ที่เสียงดัง มันติดกาญจนบุรี เลยคิดถึงรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์

    วันจันทร์จะโทรไปถามความคืบหน้าอาจารย์
     
  7. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ถ้าดูตามทฤษฎี เรื่องเสียงดังจากใต้ดิน มันก็เข้าทางหลุมยุบด้วยนะ

    หลุมยุบ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ดินยุบตัวลงเป็นหลุมลึก และมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 1-200 เมตร ลึกตั้งแต่ 1 ถึงมากกว่า 20 เมตร เมื่อแรกเกิดปากหลุมมีลักษณะเกือบกลมและมีน้ำขังอยู่ก้นหลุม

    ภายหลังน้ำจะกัดเซาะดินก้นหลุมกว้างขึ้น ลักษณะคล้ายลูกน้ำเต้า ทำให้ปากหลุมพังลงมาจนเหมือนกับว่าขนาดของหลุมยุบกว้างขึ้น โดยปรกติหลุมยุบจะเกิดในบริเวณที่ราบใกล้กับภูเขาที่เป็นหินปูน

    เนื่องจาก หินปูนมีคุณสมบัติละลายน้ำที่มีสภาพเป็นกรดอ่อนได้ ประกอบกับภูเขาหินปูนมีรอยเลื่อนและรอยแตกมากมายดังจะสังเกตเห็นได้ว่าภูเขาหินปูนมีหน้าผาชัน หน้าผาเป็นรอยเลื่อนและรอยแตกในหินปูนนั่นเอง

    บริเวณใดที่รอยแตกของหินปูนตัดกันจะเป็นบริเวณที่ทำให้เกิดโพรงได้ง่าย โพรงหินปูนถ้าอยู่พ้นผิวดินก็คือถ้ำ ถ้าไม่พ้นเรียกว่าโพรงหินปูนใต้ดิน ซึ่งจำแนกเป็น 2 ระดับ คือ โพรงหินปูนใต้ดินระดับลึก (ลึกจากผิวดินมากกว่า 50 เมตร)

    และโพรงหินปูนระดับตื้น (ลึกจากผิวดินไม่เกิน 50 เมตร) ส่วนใหญ่หลุมยุบจะเกิดในบริเวณท่มีโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น หลุมยุบเกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กรมทรัพยากรธรณีได้รับแจ้งและเข้าไปตรวจสอบพื้นที่มากกว่า 45 แห่ง

    โดยพบว่า พื้นที่ที่เกิดหลุมยุบอยู่บนที่ราบใกล้ภูเขาหินปูน ภายหลังการเกิดพิบัติภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 พบว่ามีหลุมยุบเกิดขึ้นมากว่า 19 ครั้ง โดยเกิดใน 4 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากธรณีพิบัติภัยครั้งนี้ คือ

    จังหวัดสตูล พังงา กระบี่ และตรัง ถึง 14 ครั้ง เกิดขึ้นในภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 4 ครั้ง และเกิดในภูมิภาคอื่นคือ จังหวัดเลย 1 ครั้ง


    <HR>ปัจจัยที่ทำให้เกิดหลุมยุบ

    เป็นบริเวณที่มีหินปูนรองรับอยู่ในระดับตื้น

    มีโพรงหรือถ้ำใต้ดิน

    มีตะกอนดินปิดทับบาง (ไม่เกิน 50 เมตร)

    มีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน

    มีรอยแตกที่เพดานโพรงใต้ดิน

    ตะกอนดินที่อยู่เหนือโพรงไม่สามารถคงตัวอยู่ได้

    มีการก่อสร้างอาคารบนพื้นดินที่มีโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น

    มีการเจาะบ่อบาดาลผ่านเพดานโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น ทำให้แรงดันน้ำและอากาศภายในโพรงถ้ำเปลี่ยนแปลง

    มีผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเกิน 7 ริกเตอร์

    สาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยุบ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์

    แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 9 ริกเตอร์ ทำให้หินปูนที่มีคุณสมบัติแข็งแต่เปราะได้รับการกระทบกระเทือนเป็นบริเวณกว้าง เพดานโพรงหรือถ้ำใต้ดินที่อยู่ระดับตื้นและไม่แข็งแรงอยู่เดิมมีโอกาสยุบตัวหรือถล่มลงมาได้ง่าย

    นอกจากนี้คลื่นสึนามิ ที่กระหน่ำเข้ามามีแรงกระแทกมหาศาล ทำให้ระดับน้ำและบนดินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    จากปัจจัยที่กล่าวมาแล้ว บวกกับปัจจัยที่มีอยู่เดิมทำให้เกิดหลุมยุบขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในบริเวณที่ได้รับผลระทบจากแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์โดยตรง และในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเพียงอย่างเดียว

    สรุปสาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยุบหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ คือ

    เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดินอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเกิดคลื่นยักษ์ทำให้แรงดันของน้ำและอากาศภายในโพรงเสียสมดุล

    เกิดการขยับตัวของพื้นที่ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยร้าวของเพดานโพรง สืบเนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง


    สิ่งบอกเหตุก่อนเกิดหลุมยุบและโพรงยุบ ในพื้นที่ราบที่อยู่ใกล้เขาหินปูน

    1.เกิดเสียงดังคล้ายเสียงฟ้าร้องจากใต้ดิน ซึ่งเป็นผลมาจากการถล่มของเพดานโพรงหินปูนใต้ดินหล่นลงมากระแทกพื้นถ้ำใต้ดิน ก่อนที่จะเกิดการยุบตัวของหลุมในเวลาต่อมา ซึ่งอาจจะหลายนาที หลายชั่วโมงหรือเป็นวันก็ได้

    2.บางกรณีจะมีน้ำทะลักพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน ภายหลังการเกิดเสียงดังจากใต้ดิน เนื่องจากเกิดการยุบถล่มของเพดานถ้ำที่มีน้ำอยู่ในโพรงใต้ดิน

    3.ก่อนเกิดการยุบตัว พื้นดินรอบข้างจะมีรอยแตกร้าวอย่างผิดสังเกต ซึ่งรูปร่างของพื้นที่ที่พบรอยแตกร้าว ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นวงกลมหรือวงรี คล้ายร่างแหหรือใยแมงมุม ขนาดของพื้นที่ที่พบรอยแตกร้าวจะใกล้เคียงกับขนาดโพรงหรือถ้ำที่อยู่ใต้ดิน โดยทั่วไปมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 5 เมตร

    4.สิ่งก่อสร้างที่หยั่งลึกลงไปในดิน เช่นท่อน้ำ เสา รั้ว จะมีลักษณะคดโค้งหรือเลื่อนตัวผิดสังเกต

    5.บางครั้งจะพบว่าน้ำตามบ่อบาดาลหรือบ่อน้ำที่อยู่ใกล้เคียง จะมีสีขุ่นข้นหรือเป็นโคลน อันเนื่องจากการพังทลายของผนังถ้ำ



    กระบวนการเกิดหลุมยุบ - Scratchpad Wiki Labs - Free wikis from Wikia
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2011
  8. คุชินาดะ

    คุชินาดะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +1,215
    ถ้าสงสัยว่าเป็น Sonic Boom Sounds ให้ทดลองเปิดฟังเสียงเทียบเคียงดูนะ ว่าคล้ายกันหรือเปล่าค่ะ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=QX04ySm4TTk"]YouTube - Sonic Boom - Extreme Close Fly By[/ame]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.7 KB
      เปิดดู:
      98
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.8 KB
      เปิดดู:
      94
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.9 KB
      เปิดดู:
      88
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2011
  9. Mr.tom

    Mr.tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    269
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,185
    ชาวบ้าน อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรีพบน้ำสีเหลืองตกจากฟ้า หวั่นอันตราย วอนรัฐเร่งตรวจสอบ

    [​IMG]


    [​IMG]



    วันที่ 24 เมษายน ต.วังลึก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ชาวบ้านฮือฮาหลังมีน้ำสีเหลืองตกมาจากท้องฟ้าเป็นจำนวนมากและเป็นระยะเวลานานหลายเดือนส่งผลให้ไม่กล้านำเสื้อผ้าหรือสิ่งของ โดยเฉพาะของกินมาวางบริเวณกลางแจ้ง เกรงว่า หยดน้ำสีเหลืองที่ตกลงมาจะส่งผลให้ได้รับอันตราย รวมทั้งต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบ


    นางประเสริฐ ขาวพันธ์ อายุ 74 ปี ชาวอำเภอสามชุก กล่าวว่า หลังเกิดหยดน้ำสีเหลืองตกลงมา ชาวบ้านเรียกว่า ฝนเหลือง ซึ่งตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบเห็นเรื่องราวดังกล่าวมาก่อน ยอมรับว่า กลัวเพราะถือว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมชาติ น่าจะเป็นสัญญาณเตือนอะไรบางอย่างที่จะบ่งบอกว่าโลกไม่ปกติเหมือนก่อนแล้ว ขณะนี้ไม่กล้านำผ้ามาตากไว้ด้านนอกเหมือนเคยเพราะเกรงว่าน้ำสีเหลืองจะตกลงไปที่ผ้าและเป็นผดผื่นได้ บางครั้งก็ต้องนำผ้ามาตากกลางแจ้ง เมื่อผ้าแห้งแล้วรีบเก็บเพราะเกรงว่าน้ำสีเหลืองที่ชาวบ้านจะตกใส่เสื้อผ้า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเก็บตัวอย่างหรือมาตรวจสอบ

    ก่อนหน้านี้ จ.ระยอง ฝนตกกลางดึกรุ่งเช้าพบจุดสีเหลือง เกาะติดฝากระโปรงรถยนต์ เจ้าหน้าที่รีบเข้าตรวจสอบ หลังชาวบ้านกระจายข่าวเป็นฝนกรด

    โดยวันที่ 26 มี.ค. 54 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนบ้านพง ซอยสุขุมวิท 23 เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมืองระยองว่ารถยนต์กระบะแค๊ปยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์สีบรอนซ์ และรถยนต์กระบะแค๊ป ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว จอดทิ้งไว้หน้าบ้านถูกฝนที่ตกลงมาเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาบริเวณฝากระโปรงรถ ด้านหน้ามีจุดสีเหลืองเล็กๆจำนวนหลายจุด ชาวบ้านเกรงจะเป็นฝนปนสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือชาวบ้านเรียกว่า ฝนกรด


    นายนพเก้า สินนอก อายุ 53 ปี กล่าวว่าเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. – 02.00 น. เกิดฝนตกลงมาพอรุ่งเช้ามีเจ้าหน้าที่จากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เดินทางมาตรวจสอบพร้อมเก็บตัวอย่างจุดสีเหลืองบริเวณฝากระโปรงรถยนต์ไป ตนก็ไม่ทราบว่าจุดสีเหลืองเป็นสาเหตุมาจากฝนที่ตกลงมาเหลือไม่และฝนที่ตกลงมาจะเป็นอันตรายหรือไม่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบนับว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี


    นางอารีย์ ธรรมวรรณ อายุ 30 ปี ชาวบ้านกล่าวว่าช่วงที่โรงงานชัตดาว์นมักจะมีเสียงดังมากเวลากลางคืนจะเห็น ปล่องไฟสีแดง ปล่อยควันดำเป็นภาพที่น่าตกใจ และถ้ามีฝนตกลงมา จะสังเกตเห็นตะกอนสีดำก้นภาชนะที่รองน้ำฝน ก็ฝากให้เจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลบ้าง แต่โรงงานหลายแห่งในขณะนี้ก็มีดีอยู่บ้าง ชุมชนหลายชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุดจะได้รับแจกเครื่องกรองน้ำไว้อุปโภค บริโภค


    นายประทีป เอ่งฉ้วน ผอ.สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ชี้แจงว่าได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าที่ชุมชนบ้านพงโดนฝนตกเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ฝากระโปรงรถมีจุดสีเหลืองเกาะติดอยู่หลายจุดชาวบ้านเกรงจะเป็นฝนเหลืองตามที่ชาวบ้านเข้าใจกันเอง จึงให้เจ้าหน้าที่ กนอ. เอ็นพีซี และเอสแอลอี ซึ่งมีความชำนาญด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยเดินทางไปดูที่เกิดเหตุและ เก็บตัวอย่างมาตรวจสอบหาสาเหตุ ผลการตรวจวิเคราะห์ PH ตัวอย่างความเป็นกรด-ด่างมีค่า 6 PPM กว่าถือว่าปกติไม่เป็นอันตราย ขณะนี้ได้ส่งตัวอย่างไปวิเคราะห์ห้องแล็ปต่อไป และให้มีการตรวจการฟุ้งกระจายครอบคลุมพื้นที่บริเวณใกล้เคียงแต่ก็ไม่พบสิ่ง ผิดปกติแต่อย่างใด


    นายประทีป กล่าวยืนยันว่าไม่ใช่ฝนกรดแน่นอน ตามที่ชาวบ้านมีความเข้าใจ คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากฝุ่นละอองเกสรดอกไม้ต้นคูนบริเวณดังกล่าวเมื่อถูกฝน ทำให้เกิดจุดสีเหลืองเกาะติดฝากระโปรงรถ แต่ก็ไม่ทิ้งประเด็นสาเหตุจากปล่องควันโรงงานที่อยู่เหนือชุมชนบ้านพง ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

    นอกจากนี้ ทั่วโลกประจักษ์ซึ้งถึงพิษภัยของ "ฝนเหลือง" (Agent Orange) เป็นอย่างดีในยุคสงครามเวียดนามระหว่างปี 2504-2518 เพราะเป็นสารกำจัดวัชพืชชนิดรุนแรงที่ทหารอเมริกันใช้ฉีดพ่นเหนือผืนป่าอันกว้างใหญ่ของเวียดนามใต้ เพื่อทำลายป่าที่หลบซ่อนของทหารเวียดกง โดยมีการประมาณกันว่า อเมริกันใช้ฝนเหลืองร้อยละ 60 หรือ 42 ล้านลิตร จากจำนวนสารเคมี 72 ล้านลิตรที่ใช้ไปในสงครามครั้งนั้น แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านไปแล้ว 20 ปีเศษ แต่ผลกระทบของฝนเหลืองต่อระบบนิเวศ สภาพแวดล้อม และสุขภาพของคนในเวียดนามใต้ ยังคงปรากฎให้เห็นชัดเจน และทำให้กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงวิทยาศาสตร์ พยายามกลบเกลื่อนเรื่องสารเคมีที่ขุดพบใน สนามบินบ่อฝ้ายเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2542 ว่าไม่ใช่ "ฝนเหลือง" ทั้ง ๆ ยังไม่มีการตรวจหา ไดออกซินซึ่งเป็นสารประกอบสำคัญของฝนเหลือง เพราะประเทศไทยไม่มีเครื่องมือที่ตรวจสอบสารนี้ได้ และมีผู้ที่เคยทำงานให้กับทหารอเมริกันในช่วงปี 2506-2507 ออกมายืนยันว่า ถังสารเคมีที่ขุดพบเป็นฝนเหลืองที่สหรัฐอเมริกาทิ้งไว้หลังจากเข้ามาทดลองในประเทศไทย ซึ่งสหรัฐฯ เองก็ไม่ได้ปฏิเสธ
    ปฏิกิริยาของกรมควบคุมมลพิษในเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า สำหรับประเทศไทยแล้ว ฝนเหลืองยังน่ากลัวน้อยกว่าวิธีการทำงานแบบไม่โปร่งใสของหน่วยงานแห่งนี้เสียอีก


    สำหรับในยุคสงครามเวียดนาม ฝนเหลืองมาจากชื่อเล่นภาษาอังกฤษว่า Agent Orange เป็นสารผสมจากสารเคมี 2 ตัวคือ 2,4-D และ 2,4,5-T ซึ่งเป็นสารกำจัดวัชพืชในกลุ่ม chlorophenoxy herbicide แม้สารเคมีในกลุ่มนี้จะยังมีอีกหลายตัวด้วยกัน แต่ตัวที่มีพิษร้ายแรงที่สุดตัวหนึ่ง คือ 2,4,5-T นี่เอง
    สารในกลุ่ม chlorophenoxy herbicide เป็นสารที่ดูดซึมผ่านผิวหนังได้ และจะทำให้เกิดอาการทางประสาทตามมา ทำให้เกิดผื่นคัน ทำลายเนื้อเยื่อตับและไต และยังเป็นสารก่อมะเร็ง (carsinogen) เคยมีรายงานการทดลองในสัตว์พบว่า สารตัวนี้ทำให้เกิดมะเร็งและยังมีผลกระทบไปถึงลูกในรุ่นต่อไป ทำให้ทารกพิการแต่กำเนิด แม้ได้รับในปริมาณความเข้มข้นที่ต่ำ สำหรับสาร 2,4-D มีชื่อเต็มว่า 2,4-dichlorophenoxy acetic acid องค์การอนามัยโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มของสารอันตรายปานกลาง (Solid Class II, Moderately Hazardous๗ จัดเป็นสารกำจัดวัชพืชและสารที่ทำให้ใบไม้ร่วง มีฤทธิ์ฉับพลันต่อคนคือ ถ้าหากสูดดมเข้าไปจะทำให้ทาง เดินหายใจ คือ คอ จมูก และปอด ปวดแสบปวดร้อน ถ้าสัมผัสที่ตาจะทำให้ตาแดง แสบตา ถูกผิวหนังจะทำให้ผิวด่าง และหากสัมผัสมาก ๆ จะทำให้เกิดอาการชักกระตุกของประสาทรอบนอก
    ส่วนสาร 2,4,5-trichloronoxy acetic acid องค์การอนามัยโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มของสารอันตรายปานกลางและมีฤทธิ์ต่อพืชเช่นเดียว กับ 2,4-D จากการทดลองในหนูทดลองพบว่า สาร 2,4,5-T มีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์คือทำให้ฮอร์โมน testosterone ลดลงและทำให้ผู้ชายเป็นหมันได้
    ประเด็นสำคัญคือ ทั้งในสาร 2,4-D และ 2,4,5-T มีสารประกอบสำคัญที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลกคือ 2,3,7,8-tetrachlorodibenzo-p-dioxin (TCDD) หรือที่รู้จักกันในชื่อ dioxin ลำพังสาร 2,4-D และ 2,4,5-T เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะถูกขับออกในไม่ช้าและย่อยสลายในไม่นาน แต่ตัวที่อันตรายในที่สุดในฝนเหลืองคือ ไดออกซิน (dioxin) ซึ่งเป็นกลุ่มสารเคมี non-biodegradable คือมีช่วงอายุนานหรือย่อยสลายยากในธรรมชาติ และ dioxin นี่เองที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและชีวิตของคนเวียดนามใต้อย่างมาก

    หลายคนมักเข้าใจผิดระวัง Yellow Rain กับ Agent Orange ความเหมือนกันของมันคือ เป็นสารเคมีที่ถูกนำมาใช้สำหรับการทำลายล้าง ในสมัยสงครามเวียดนาม คนส่วนมากคิดมากอเมริกันโปรยฝนเหลือง แต่แท้จริงแล้วฝนเหลืองเป็นสิ่งที่คอมมิวนิสต์ใช้ เพื่อกำจัดฝ่ายที่เข้าข้างอเมริกัน ในสงคราม ซึ่งก็คือ ม้ง


    สิ่งที่อเมริกันเอามาใช้ ในการเปิดป่า และทำลายความรกทึบของต้นไม้ เพื่อเข้าถึงตัวเวียดกงและคอมมิวนิสต์ได้นั้น ไม่ใช่ฝนเหลืองแต่เป็น Agent orange ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อต้นไม้ เพราะเมื่อไปสัมผัสกับต้นไม้ ใบของต้นไม้ก็จะร่วงหล่น รากจะตาย พบว่ามีส่วนประกอบของ dioxins ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง แต่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อจำกัดมนุษย์โดยตรง


    ส่วนฝนเหลือง หรือ T-2 mycotoxin ซึ่งแท้ที่จริงมาจากเชื้อราชนิดหนึ่ง มีสีออกเหลือง และเหนียวติดใบไม้ ที่มีผลต่อผิวหนัง , ทางเดินหายใจ และระบบย่อยอาหาร ทำให้ตาบอด และเลือดออกจากเซลล์ เป็นอาวุธชีวภาพ ที่ออกแบบเพื่อฆ่ามนุษย์โดยตรง


    คำว่าฝนเหลือง มาจากการเรียกของชาวม้ง ซึ่งตามภาษาอังกฤษว่า Yellow Rain เป็นสิ่งที่พวกคอมมูนิสต์ ใช้ในการฆ่าคนม้งในลาว ซึ่งในตอนนั้นเข้าข้างฝ่ายอเมริกัน แต่อเมริกันไม่ได้เป็นคนใช้



    อ้างอิงเพิ่มเติม
    ฝนเหลือง
    ผวา ฝนเหลือง! ชาวบ้านหวั่นเป็นฝนกรด | โคราช เดลินิวส์ - ข่าวโคราช, รายวัน, หนังสือพิมพ์โคราช,




    http://www.job1hit.com/news/4066/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 46.jpg
      46.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.5 KB
      เปิดดู:
      1,564
    • 56.jpg
      56.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.1 KB
      เปิดดู:
      1,609
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 เมษายน 2011
  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    เอ่ สุพรรณแปลกๆ นะ ใครอยู่แถบนั้นมีอะไรช่วยอัพเดทกันด้วยนะ
     
  11. rehacked

    rehacked เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,191
    ค่าพลัง:
    +8,013
    คล้ายกันป่าว

    โตเกียวผวา"ฝนเหลือง"

    สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เกิดฝนสีเหลืองตกลงมาเมื่อวันพุธที่ 23 มี.ค. ในเขตคันโต และพื้นที่โดยรอบกรุงโตเกียว กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นรับแจ้งจากประชาชนกว่า 200 รายในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 24 มี.ค. ว่า พบคราบน้ำฝนสีเหลืองตามหลังคาและเจิ่งนองตามพื้น ทำให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่วว่าน้ำฝนปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี เป็นเหตุให้กรมอุตุนิยมวิทยาต้องออกแถลงการณ์ว่า น้ำฝนสีเหลืองเกิดจากละอองเกสรดอกไม้ ไม่ใช่สารกัมมันตรังสีซึ่งรั่วไหลมาจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จ.ฟูกูชิมะ ซึ่งห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 240 ก.ม. อย่างที่ประชาชนหวาดกลัว

    ข้อมูลจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมระบุว่า ละอองเกสรดอกไม้จำนวนมากฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศเหนือเขตคันโต และรวมตัวตกลงมากับน้ำฝน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสำนักงานเทศบาลกรุงโตเกียวเผยว่า มีความเป็นไปได้ว่าน้ำฝนจะมีสารกัมมันตรังสีปนเปื้อน แต่ไม่มากจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
     
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    จุดดับใหญ่ 1195

    [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif]BIG SUNSPOT: [/FONT] This detailed image of sunspot 1195 looks like it was taken by one of NASA's most advanced space telescopes. In fact, it comes from someone's backyard in the Netherlands. Scroll down for the full story, and carefully examine the starscape as you go:


    [​IMG]
    Photographer Emil Kraaikamp explains: "I took the picture on April 23rd using a 10-inch telescope with a white-light solar filter. The sunspot is so large, I could see plenty of details." Indeed, the primary dark core (at the top) is more than two times wider than Earth. With such dimensions, the sunspot group may be clearly resolved even from humble backyards.​
    All around the sunspot, the stellar surface is literally boiling. The blobs shown so clearly in Kraaikamp's picture are solar granules, akin to rising blobs of water in a pot on a hot stove. These blobs, however, are made of plasma and they are about the size of Texas.


    SpaceWeather.com -- News and information about meteor showers, solar flares, auroras, and near-Earth asteroids
     
  13. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> Solar wind
    speed: 556.0 km/sec
    density: 0.4 protons/cm<sup>3</sup>
    explanation | more data
    Updated: Today at 0920 UT <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> X-ray Solar Flares
    6-hr max: B8 0322 UT Apr25
    24-hr: B8 0322 UT Apr25
    explanation | more data
    Updated: Today at: 0900 UT <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> Daily Sun: 25 Apr 11 <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> Sunspot 1195 is in a state of decay and poses a declining threat for strong solar flares. Credit: SDO/HMI
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> Sunspot number: 78
    What is the sunspot number?
    Updated 24 Apr 2011

    Spotless Days
    Current Stretch: 0 days
    2011 total: 1 day (<1%)
    2010 total: 51 days (14%)
    2009 total: 260 days (71%)
    Since 2004: 820 days
    Typical Solar Min: 486 days
    Updated 24 Apr 2011

    The Radio Sun
    10.7 cm flux: 117 sfu
    explanation | more data
    Updated 24 Apr 2011
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> Current Auroral Oval: ​
    [​IMG]

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> Switch to: Europe, USA, New Zealand, Antarctica
    Credit: NOAA/POES <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> Planetary K-index
    Now: Kp=[FONT=Arial, Helvetica, sans-serif] 1 [/FONT] quiet
    24-hr max: Kp= 3 quiet
    explanation | more data
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> Interplanetary Mag. Field
    B<sub>total</sub>: 4.3 nT
    B<sub>z</sub>: 3.2 nT north
    explanation | more data
    Updated: Today at 0926 UT [​IMG]
     
  14. apichart ww2

    apichart ww2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +439
    เมื่อเวลาประมาณสองทุ่มครึ่งมีเสียงดังแน่นๆประมาณ4-5ครั้งหลังฝนตกไม่นานเสียงมันดังแบบแน่นๆเสียงเหมือนยางรถสิบล้อแตกแต่ดังกว่ามากหรือเสียงประมานพุล อยู่แถวบางแค ใครมีข้อมูลบ้างครับ
     
  15. angel323

    angel323 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +6
    ไม่ต้องตกใจครับนั่นมันฟ้าผ่า ผมเลิกงานเวลาประมาณนั้นพอดีกะลังเดินเข้าบ้านเห็นฟ้าผ่าใหญ่มากตอนแลกแสง(โครตน่ากลัว แสงใหญ่มากๆ)มาก่อนแล้ว1-2นาทีเสียง(เสียงดังสนั่นมากก)ค่อยตามมา น่ากลัวสุดๆขี้จะแตกเอาอันนี้ไม่เวอร์
     
  16. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
  17. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif]STORMY SHUTTLE: [/FONT] The final flight of the space shuttle is nigh, but only if the clouds part. Jacob Kuiper sends this stormy picture from the Kennedy Space Center on April 26th:
    [​IMG]
    "We are experiencing unstable weather conditions at Kennedy Space Center, just three days ahead of the launch of Space Shuttle Endeavour," says Kuiper. "Weather conditions in the coming 72 hours will change, but there could be more thunderstorms right up until the big moment. For updates, follow the briefings of shuttle weather-officer Kathy Winters," he urges.​
    Endeavour's last flight will take it on a two week mission to the International Space Station. There it will deliver the Alpha Magnetic Spectrometer--a $1.5 billion cosmic ray detector that could reveal the nature of dark matter and find whole galaxies made of antimatter. What a way to end the shuttle program!​
     
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    Coronal Holes: 27 Apr 11 <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [​IMG] <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> A solar wind stream flowing from the indicated coronal hole should reach Earth on April 30th or May 1st. Credit: SDO/AIA.
     
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ช่องโคโรน่าใหญ่มาก หันหน้ามายังโลกตรงๆ (ตรงกับไทยด้วยแน่ๆ)

    [FONT=Arial, Helvetica, sans-serif] CORONAL HOLE: [/FONT] NASA's Solar Dynamics Observatory is monitoring a hole in the sun's atmosphere--a "coronal hole." It is the dark region circled in this extreme ultraviolet image taken during the early hours of April 28th:
    [​IMG]
    Above: A composite 171-193-211 Angstrom EUV image from SDO. April 28 @ 06:28 UT
    Coronal holes are places where the sun's magnetic field opens up and allows the solar wind to escape. A stream of solar wind flowing from this coronal hole is expected to reach Earth on April 30th-May 1st. NOAA forecasters estimate a 35% chance of geomagnetic activity at that time.


    Coronal Holes: 28 Apr 11 ​
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [​IMG] <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> A solar wind stream flowing from the indicated coronal hole should reach Earth on April 30th or May 1st. Credit: SDO/AIA.

    SpaceWeather.com -- News and information about meteor showers, solar flares, auroras, and near-Earth asteroids
     
  20. วิปัสนะ

    วิปัสนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +647
    พี่ Falkman ช่องโคโรน่าเนี่ย มันจะมีผลอะไรกับโลกเรามั่งอ่ะ..อยากรู้
     

แชร์หน้านี้

Loading...