เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 30 มิถุนายน 2010.

  1. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    สงสัยเหมือนกันนะคะ ไม่มีดวงจิตแล้วมันอันตรายมั้ยอะคะ
    แล้วที่ยังดำเนินชีวิตอยู่นี่คืออะไรคะ เงง งง เงง ...
     
  2. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    จันทรุปราคา คืนนี้ มีความหมายอย่างไรบ้างคะ คุณหมอสุวิ
     
  3. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สงสัยหมอสุวิ ไม่ว่างตอบ ไปสู้กับอสูร มากันเพียบบบบเลย

    สงสัยเพราะมีบางท่านตื่นขึ้นมา ....

    หวังว่าหมอสุวิคงปลอดภัย
     
  4. JINKLE

    JINKLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,226
    แล้วดวงจิตคุณอธืษฐานหายไปไหนคะ แล้วรู้สึกแตกต่างจากที่เคยมีดวงจิตไหมคะ แล้วความรู้สึกนึกคิดต่างๆยังมีอยู่ไหมคะ
     
  5. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หัวหน้าอสูร ที่ปรากฏตนในคืนจันทรุปราคา เมื่อคืนนี้
    มนุษย์หลายๆคน รู้จักท่านในนาม "เทพราหู"
    ท่านเป็นหนึ่งในหัวหน้าการปกครอง ในสายอสูร

    ในการปกครองมีสามสาย เทพ อสูร มาร ทุกท่านเป็นสัมมาทิฐิ
    บางครั้ง เทพ มาร อสูร ก็รวมตัวกันเป็นร่างเดียว แต่มีสามเศียร
    กะทิเรียกท่านที่มีสามเศียรนี้(ตามใจชอบ)ว่า เทพลิขิต

    ที่อสูรท่านนี้ยกทัพมากันมืดฟ้ามัวดิน เพื่อกวาดจับมารกลุ่มหนึ่ง ที่มาจากจักวาล
    มารกลุ่มนี้มุ่งหวังยึดครองโลกธาตุนี้ ให้อยู่ในอำนาจ ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่หมด
    ศึกครานี้เหล่ามาร ระดมทัพมากันจากจักวาลและมหาจักวาลเลยทีเดียว มากมาย

    อสูรเทพราหู กวาดจับได้ส่วนหนึ่ง
    พวกที่มาจากมหาจักวาล มีฝีมือสูง พวกนี้อสูรไม่อาจจับกุมเขาได้ คงต้องรอกองทัพจากสหพันธ์ฯ เทพ มาร อสูร มากวาดล้างอีกรอบหนึ่ง

    อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทุกอย่างเป็นไปตามวิบากกรรมรวมของโลก ที่มนุษย์ร่วมกันทำไว้
    กุศลกรรมบถสิบ เป็นตัวแปรที่สำคัญยิ่ง ที่จะรักษาความคงอยู่ของโลกธาตุนี้
    ทุกวันนี้ มนุษย์ ทำผิดใน มโนกรรม และวจีกรรมกันมาก
    โลก จะรอดจากการชำระล้างไหมหนอ
     
  6. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    อ.สุวิ ครับ ตกลงดวงจิตผมยังอยู่ใช่มั้ยครับ แฮะๆ สงสัยอะครับ เมื่อวานผมส่งลูกแก้วไปคุ้มกันให้ ได้รับรึยังครับ เอาไว้เป็นกำลังเสริม อิ อิ แล้วท่านเทพราหู ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า ในกัปต่อไป ต่อจากพระศรีอารย์ ใช่มั้ยครับ แล้วคนไม่มีดวงจิต กับคนไม่มีออร่า เหมือนกันมั้ยครับ แล้วจะรักษายังไง ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 เมษายน 2015
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ถามซะหลายเชียว
    ๑.ตกลงดวงจิตผมยังอยู่ใช่มั้ยครับ
    ตอบ
    ยังอยู่ดีครับไม่บุบสลาย
    แต่ไม่อยู่ในร่างมนุษย์เดินดินกินข้าวแกงตนนี้
    สายไยเชื่อมต่อ กายมนุษย์หยาบละเอียด กับดวงจิต ก็ยังสมบูรณ์ดี ไม่ขาดไม่วิ่น
    อยู่ที่ไหน ไม่บอก

    ๒.ส่งลูกแก้วไปคุ้มกันให้ ได้รับรึยังครับ
    ตอบ ได้รับแล้วครับ ขอบใจมาก

    ๓.ท่านเทพราหู ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า ในกัปต่อไป ต่อจากพระศรีอารยื ใช่มั้ยครับ
    ตอบ
    อสูรเทพราหู ท่านแบ่งกายได้มากมาย มีกายพี่ กายน้อง กายลูก กายหลานเหลนโหลน
    หนึ่งในกายอวตารนามอสุรินทราหู นี้คือ ท่านที่ได้รับพยากรณ์ ว่าจะก้าวขึ้นเป็นพุทธะ
    ดวงจิตของท่านที่ยกทัพมาเมื่อคืน(เทพราหู) ไม่ใช่ ผู้ได้รับพยากรณ์

    ๔.คนไม่มีดวงจิต กับคนไม่มีออร่า เหมือนกันมั้ยครับ แล้วจะรักษายังไง
    ตอบ
    ออร่า เป็นพลังชีวิตของมนุษย์ และสัตวที่มีปราณทั้งหลาย (รวมจิตวิญญานต่างๆด้วย)
    กายหยาบ กายละเอียด และดวงจิต ของมนุษย์ล้วนมีออร่า ซึ่งแสดงถึงมีพลังชีวิตอยู่

    สัตว์โลกใด ไม่มีพลังชีวิตหล่อเลี้ยง นั่นคือสัตว์ที่สิ้นชีวิตแล้ว

    สัตว์โลกใด ดวงจิตหนีออกเที่ยว แต่ผู้เดียว หรือบางครั้ง ก็อาจพากายละเอียดไปด้วย แต่ยังมีสายไยกายทิพย์ต่อเชื่อมอยู่กับกายหยาบอยู่
    กายหยาบนั้นก็ยังคง มีพลังชีวิตหล่อเลี้ยงอยู่ จึงยังคงมีออร่าอยู่

    ๔.๒.หากร่างกาย ไม่มีออร่า รักษาอย่าไร
    ตอบ
    เผาครับ เผาทิ้งได้ลย ก่อนที่มันจะเน่าส่งกลิ่นและฯลฯ ทำความเดือดร้อนรำคาญแก้ผู้คน

    ๔.๓. หากร่างกายไม่มีดวงจิต จะทำอย่างไร จะรักษาอย่างไร
    ตอบ
    ช่างหัวมันเถอะ หากไอ้ดวงจิตนั้น มันไม่รักร่างกาย ไม่อยากได้ มันหนีไป แล้วสลัดสายไยกายทิพย์ให้ขาด
    ไม่เกิน ๗ วัน กายละเอียดและกายหยาบก็จะไม่มีพลังชีวิตหล่อเลี้ยง ก็จะค่อยๆสลายไป ตามธรรมชาติ
    แต่หากถูกเบียดเบียน จนสายไยกายทิพย์ขาด นั่นก็เป็นวิบากกรรมตัดรอน หากรู้ตัว มีบุญหญ่ายคุ้มหัวอยู่ ก็หาคนดีมีความรู้ ต่อชะตาชีวิตให้
     
  8. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947


    มีเหตุอันใดบ้างคะ ที่ทำให้ดวงจิตหนีออกจากกายหยาบ ไม่อยากอยู่กับกายหยาบ
    แล้วคนที่ดวงจิตสามารถหนีจากกายหยาบได้ตามใจนั้น ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างคะ
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    มีเหตุอันใดบ้างคะ ที่ทำให้ดวงจิตหนีออกจากกายหยาบ ไม่อยากอยู่กับกายหยาบ
    ตอบ
    ไม่อาจตอบชี้เฉพาะลงไปได้
    แต่รวมๆแล้ว เกิดจากมิจฉาทิฐิ ความเห็นผิดๆ เช่น
    กายนี้ไม่ใช่ของเรา แล้วภาวนาไม่เอากายนี้ กายนี้มีแต่ทุกข์ ไม่นาปรารถนา น่าละทิ้ง
    เมื่อภาวนาไปก็เกิดการยึดถือเกิดอัตตาตัวตน ว่ากายนี้น่ารังเกียจ ไม่ควรเอาไว้
    เมื่อฝึกไปพลังงานสูงพอ จิตจะปฏิเสธกกาย และทิ้งกายเนื้อเอาดื้อๆ
    นี่คือมิจฉาทิฐิ เห็นผิด ทิ้งอัตตาตัวเดิม และสร้างอัตตาตัวใหม่ มาแทน

    พิจารณาคำตอบนี้ให้ดี
    หากพิจารณาผิวเผิน ก็อาจเข้าใจผิดได้

    ถาม คนที่ดวงจิตสามารถหนีจากกายหยาบได้ตามใจนั้น ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างคะตอบ
    คนได้ฌาน หรือคนที่สามารถถอดจิตได้
     
  10. Jindamunee

    Jindamunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,187
    รบกวนอาจารย๋ครับอยากทราบว่าพระอาทิตย์ 5 ดวง
    เมื่อวันที่ 1 ที่เขมรนั้น คืออะไร ทางวิทยาศาสตร์ทราบแล้ว
    แต่ทางอีกมิติคืออะไร อีกข้อครับอสูรอีกจักรวาลนั้นมีมิจฉาทิฐิขนาดไหน
    และในจักรวาลนั้นมีคู่ปรับเขาไหม ในจัักรวาลอื่นมีสายคู่ปร้บที่เหนือชั้นกว่า
    ร้อยๆเท่าหรือไม่ เวลาจันทคราสนี่มิติมืดเชื่อมอีกจักรวาลเหรอครับ
    แล้วทำไมต้องเป็นอสูร เป็นมหาเทพจักรวาลอื่นไม่ได้หรืือ
     
  11. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ฟังเหมือนจะเข้าใจยาก แต่ก็พอจะเข้าใจอยู่นะคะ
    แค่ออร่าอ่อน ก็ยังน่วมแล้วนะคะ ถ้าไม่มีออร่า
    ก็พอจะคิดภาพออก คงต้องเผาจริงๆ 555

    อย่างนี้ ถ้าไม่มีดวงจิต และไม่มีสายใยด้วย
    ถ้าไม่มีทางช่วย ไม่เกิน 7 วัน ก็ซี้แง๋แก๋ ใช่มั้ยคะ

    แล้วถ้า ทั้งอยาก-ไม่อยาก เอา-ไม่เอา
    ต่างก็เป็นมิจฉาทิฐิ ก่อให้เกิดอัตตา

    งั้นเปลี่ยนเป็น กายนี้ไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา
    เกิดธรรมอันใด ก็ปฏิบัติไปตามวาระธรรมอันนั้น
    ไม่ได้ยินดี ยินร้าย มองตามสภาพความเป็นจริง
    อย่างนี้ สัมมา ยังคะ
     
  12. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    ขอบคุณ อ.สุวิ ที่ให้ความกระจ่างครับ แต่ว่ากรณีของผมน่าจะเป็นฌาน เพราะว่าตั้งจิตอัตโนมัตไว้ที่นิพพาน แต่ ขอเข้าไป ดูจุดกำเหนิดจักรวาลก่อน รึว่ามีใครเอาดวงจิตผมไปใช้ทำงานรึป่าวครับ แล้วเมื่อไหร่จิตจะกลับเข้ากายเนื้อครับ ถ้า
    ฝึก ดูจิต จะช่วยไม่ให้จิตออกจากกายโดยเราไม่อณุญาต ได้มั้ยครับ คือผมสงสัยว่ามี ผู้มีบารมี เอาจิตผมไปช่วยงาน แล้วไม่ส่งกลับคืน อะครับ
     
  13. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    คือผมสงสัยว่ามี ผู้มีบารมี เอาจิตผมไปช่วยงาน แล้วไม่ส่งกลับคืน อะครับ
    ตอบ
    ก็อยากเป็นนักมิใช่หรือ ไอ้เทพพิทักษ์จักวาลนะ
    และที่สำคัญ เขาไล่กลับ ก็ไม่ยอมกลับ หลงยึดอัตตา ความเป็น เทพพิทักษ์จักวาล ไม่ปล่อย

    ส่วนไอ้ฌาน นะยังไม่ต้องพูดถึง อัปปนาสมาธิยังไม่แน่นปึกเลย(ได้สมาธิตัวนี้แล้วจึงจะขึ้น ฌาณที่ ๑)

    ระดับสมาธิ

    1. ขณิกสมาธิ สมาธิค่อยๆ เล็กน้อย ที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่นใช้อ่านหนังสือ หรือขับรถ
    2. อุปจารสมาธิ สมาธิที่แน่วแน่มากกว่าขณิกสมาธิ แต่แน่วแน่น้อยกว่าอัปปนาสมาธิ
    3. อัปปนาสมาธิ สมาธิที่ไม่หวั่นไหว สมาธิที่ผ่านระดับนี้จึงจะขึ้นสู่ ปฐมฌาณ
     
  14. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    แล้วแบบนี้ผมต้องทำไงดีละครับ วาง ความเป็น เทพพิทักษ์จักรวาล แล้วเข้านิพพาน ก่อน ค่อยออกมาโปรดสัตว์ ตามที่ผู้รู้บอก หรือครับ การวางความว่าง นี่ต้องทำไงอะครับ มันติดอยู่ตรงนี้แหละ ด่านความว่าง
     
  15. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543


    ตื่นตา กัมพูชาตะลึงพระอาทิตย์ 5 ดวงโผล่บนท้องฟ้า

    นั่งดูมา ๒-๓ วันแล้ว
    ไม่พบพลังในมิติใดๆ นอกจากพลังของดวงอาทิตย์ปกติทั่วไปเท่านั้น
    ดังนั้นที่ถามมา จึงไม่มีคำตอบใดๆ
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ไร้ข้อแนะนำใดๆทั้งสิ้น
    (กาย)มนุษย์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ ในเรื่องทั้งปวง
     
  17. นายเล็ก

    นายเล็ก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +23
    ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์เทียม หรือ ซันด๊อก มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า พาร์ฮีเลีย (parhelia) เป็นคู่ของดวงแสงสว่าง อยู่ 2 ข้างของดวงอาทิตย์ จะเกิดในวันที่ท้องฟ้ามีเมฆซีร์โรสเตรตัส (Cirrostratus) ซึ่งมีผลึกน้ำแข็งขนาดใหญ่กว่า 30 ไมโครเมตร รูป 6 เหลี่ยมอยู่มาก
    ซันด๊อก มักจะเกิดเมื่อดวงอาทิตย์อยู่ใกล้กับเส้นขอบฟ้า (horizon) ทำให้แสงจากดวงอาทิตย์เมื่อผ่านผลึกน้ำแข็งแล้ว มันจะหักเหไป 22 องศาก่อนจะมาถึงตาของเรา เกิดเป็น "ดวงอาทิตย์เทียม" หรือ sun dogs ขึ้น 2 ด้านของดวงอาทิตย์ ...
    ส่วน sun dogs อีกคู่นึงนั้น เรียกว่า พาฮีเลีย 120 องศา (120° parhelia) จะเกิดยากกว่า sun dogs ธรรมดามาก โดยจะเกิดที่ตำแหน่ง 120 องศาจากดวงอาทิตย์ทั้งซ้ายและขวา .. ดูตัวอย่างที่เกิดที่อเมริกาได้ในรูปแถวล่าง
    สำหรับรุ้งกลับหัวนั้นเรียกว่า โค้ง เซอคัมซีนิทธัล (Circumzenithal Arc) วงแหวนสว่างในแนวระนาบจากดวงอาทิตย์เรียกว่า วง พาเฮลิค (Parhelic Circle)
    จริงๆ หลักการนี้ก็คล้ายกับเวลาเกิด "พระอาทิตย์ทรงกลด" (ไม่ได้เกิดจากปาฏิหาริย์ใดๆ แค่เมฆมีน้ำแข็งมากเหมือนกัน) เพียงแต่ว่าผลึกน้ำแข็งในกรณีของ ทรงกรด นั้นจะอยู่ในทิศทางที่กระจัดกระจาย ขณะที่ผลึกน้ำแข็งในกรณีของ sun dogs นี้จะต้องอยู่ในแนวที่ด้านแบบของมัน นั้นอยู่ในแนวเส้นขอบฟ้าด้วย ถึงจะเกิด
    ภาพแถวบน เอามาจากคลิป sun dog 2 คู่ ที่เขมร https://www.youtube.com/watch?v=g2uRIAjKblU
    ภาพแถวล่าง จากคลิป sun dogs 2 คู่ที่อเมริกา https://www.youtube.com/watch?v=_qQwozKfpvg
    เนื้อหาและภาพลักษณะการเกิด sundog เอามาจาก Sundogs: mock suns or parhelia
    เรื่อง 120° parhelia มาจาก 120° parhelion - Wikipedia, the free encyclopedia
    *๊Update แก้ไข เรื่องเมฆ และ เรื่อง Halo ตามคำแนะนำของ ดร.ชิว บัญชา ธนบุญสมบัติ
    1) ผลึกน้ำแข็งรูปแผ่นแบนที่หักเหแสงอยู่ในเมฆระดับสูงที่เรียกว่า ซีร์โรสเตรตัส (Cirrostratus) [ ไม่ใช่ เมฆซีร์รัส (Cirrus)]
    2) ปรากฏการณ์ทั้งหมด คือ halo ... ไม่ใช่ว่าเฉพาะพระอาทิตย์ทรงกลด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    นิทาน พลังอธิษฐานของกะทิ ตอน มหาเทวีจากเกษียรสมุทร (ตอนต่อค่ะ)


    พอเธอผู้นั้นหันหน้ามามองจ้องกะทิอย่างตั้งใจ ในใจของกะทิก็เหมือนจะเตรียมตัวแล้วว่า “ชื่อต้องยาวแน่นอน” กะทิเธอจึงพยายามเรียกสติตั้งใจฟังเธออย่างมาก

    และหญิงผู้นั้นก็เหมือนจะรู้และเข้าใจอยู่ก่อนแล้ว และอยากจะหาทางทำให้กะทิเธอจำได้ง่ายที่สุด เธอจึงคิด “ตัดคำ” ในชื่อของเธอ และพูดทีละคำ เน้นแต่ละคำ แบ่งแต่ละคำ ชัดถ้อยชัดคำมาก

    คุณผู้หญิง : เราชื่อ (เน้นจิกคำหน่อยๆ แต่ไม่จิกเสียงนะคะ) “บุปฝา” เธอพูดเว้นวรรคอึดใจ แล้วกล่าวชื่อของเธอต่อเพื่อเน้นให้กะทิเธอจำและฟังได้อย่างชัดเจน “ทา..ระ..วะ..ดี”

    กะทิ : คุณมีหนังสือพยากรณ์รึเปล่าคะ?

    คุณผู้หญิง : ใช่


    เท่าที่จำได้ก็รู้สึกว่ากะทิเธอจะถามหญิงผู้นั้นไปเท่านี้แล้วก็ออกจากสมาธินะคะ ก็ได้คำตอบตามที่หมอสุวิแนะให้ถามเรียบร้อยแล้วหนิคะ กะทิเธอทื่อๆ ไหมล่ะคะ ท่านผู้อ่าน


    วันรุ่งขึ้นกะทิก็เขียนไปเล่าให้หมอสุวิอ่าน หมอก็ถามกลับมาว่า


    หมอสุวิ : แล้วปฐมของคุณ บุปฝา ทารวดี ที่เธอแบ่งกายมานั่นคือใคร? ได้ถามเธอรึเปล่า?


    กะทิ(คิดในใจระหว่างอ่านข้อความ) : อ้าว ใครจะไปรู้ว่าให้ถามอะไรต่อละคะ? (แต่ที่แน่ๆ แบบตะลึงก็คือ หมอสุวิยอมรับในชื่อ บุปฝา ทารวดี ทั้งๆ ที่กะทิเธอกังวลในตอนเขียนไปเล่าให้หมอฟัง ว่าหมอจะหาว่ากะทิเธอมั่วรึเปล่า?

    แต่สิ่งที่หมอเขียนกลับมา หมอกลับยอมรับชื่อนี้และเขียนตอบกลับมาเฉย แสดงว่ากะทิได้คุยกับดวงจิตจริงๆ แล้ว ไม่ได้มั่ว และถูกหลอกจากอสูรด้วย


    หมอสุวิ : แล้วได้ขอดูหนังสือพยากรณ์ที่เธอมีรึเปล่า?


    กะทิ(คิดในใจระหว่างอ่านข้อความ) : อ้าว ขอดูได้ด้วยรึคะ?



    ดังนั้นในคราวต่อมา กะทิเธอจึงได้ส่งสมาธิจิตไปขออนุญาตดูหนังสือพยากรณ์ที่คุณ บุปฝา ทารวดีมีอยู่นะคะ กะทิเธอไม่เคยถามถึงว่า ปฐมของคุณ บุปฝา ทารวดี ที่เธอแบ่งกายมานั่นคือใคร ตามที่หมอสุวิให้ถามค่ะ แต่คิดว่าคงไม่ไกลจากมหาเทวีจากเกษียรสมุทร

    แต่หลังจากนั้นหลายเดือนกะทิก็มีถามไปเหมือนกันว่าทำไมเลือกมาอยู่กับกะทินะคะ (อันนี้กะทิสอบถามทั้งเทวีฯ ถามทั้งกับหมอสุวิด้วยค่ะ)


    (ปล : หมอสุวิช่วยเข้ามาขยายความด้วยนะคะ >>> หมอเธอสัญญาหลังไมค์แล้วว่าจะเข้ามาขยายความ ผู้อ่านที่ต้องการทราบก็ส่งจิตไปทวงสัญญากับหมอสุวินะคะ ร่วมด้วยช่วยกัน 555 หมอบอกว่ารอจังหวะปลอดจาก... ก่อน แล้วจึงจะเข้ามาขยายความให้ค่ะ)



    เทวีบุปฝา ทารวดีเธอก็เปิดหนังสือพยากรณ์ให้ดู หน้าตาของหนังสือก็เป็นแบบเรียบๆ ค่ะ แต่หนังสือเล่มใหญ่และหนามากนะคะ เนื้อกระดาษเป็นสีขาวครีมเก่าๆ ไม่มีรอยผุ

    แต่เวลาเธอยกขึ้นอ่านหรือดูนั้น เหมือนหนังสือจะเบากว่าความเป็นจริงในโลกมนุษย์อยู่สักหน่อยนะคะ

    กะทิจะใช้แค่สายตามองดูหน้าหนังสือที่เขียนไว้ค่ะ โดยเทวีบุปฝาจะเป็นผู้เปิดหน้าหนังสือตามที่กะทิเธอถาม แต่กะทิจะไม่เคยจับต้องหนังสือนะคะ(ไม่กล้าไปแตะของของเธอหนะค่ะ เพราะใครๆ ก็อยากแตะ อยากเอาไปเป็นเจ้าของอะนะคะ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล มาหลอกผ่านกะทิเธอต่างๆ นานา)


    หลังจากเอาไปเล่าให้หมอสุวิฟังต่อแล้ว หมอก็บอกว่า

    หมอสุวิ : มีอะไรก็คุยกับเธอนะ

    กะทิ : จะให้คุยอะไรดีคะ?

    หมอสุวิ : มีอะไรก็คุยกับเธอไปซิ ดินฟ้าอากาศอะไรก็ได้หนะก็คุยๆ ไป

    กะทิ : เอางั้นรึคะ? (...วุ้ยให้คุยเรื่องดินฟ้าอากาศเนี่ยนะ???)



    /ยังมีต่อ
     
  19. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168

    ก่อนอื่นต้องขอทักทาย สวัสดีคุณจาวา108 ก่อนนะคะ


    ที่อยากเข้ามาคุยด้วย เพราะคุณจาวา กับคุณกะทิเธอ เจอมุกเดียวกันในสิ่งที่หมอตอบหนะค่ะ


    ตอนที่หมอสุวิบอกกะทิเธอว่า...>>

    หมอ : กะทิเธอหนะไม่มีดวงจิตแล้วนะ

    กะทิ : อ้าว...ดวงจิตของเธอหายไปหรือคะ? หายไปไหนอะคะ?

    หมอ : หายไปไหน...ไม่บอก



    5555 เราเจอมุกเดียวกันเลยหนะค่ะ กะทิเธอก็กลุ้มใจก็ไม่เชิง วางใจให้เป็นกลาง ไม่ทุกข์ไม่ร้อน(อุเบกขา) ก็ไม่เชิง เพราะในช่วงนั้น (หรือในช่วงไหนๆ ก็มักถูกมาร และอสูร หลอกอยู่บ่อยๆ ก็กังวลว่าจะเหมือนกับพี่ดอกแก้ว(นามสมมติ) พี่สาวในอดีตชาติหนะค่ะ ที่กังวลก็มีเพียงเท่านั้น


    แต่ทว่า ก็มีเทวีฯ เข้ามาแทนที่ ซึ่งหมอสุวิบอกว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเคยมีกรรมร่วมกันมา แต่จากที่กะทิเธอคุยกับเทวี ก็มีเหตุผลอื่นๆ อยู่ด้วย(จะขยายในนิทานตอนต่อๆ ไปค่ะ)


    อนึ่งสิ่งที่คุณยังไม่วาง หรือวางไม่ได้ แต่ละคนก็มีสิ่งนี้แตกต่างกันออกไป ในส่วนของคุณน่าจะใช้สิ่งที่คุณ Lazaza เขียนไว้ หรือในสิ่งที่กะทิคิดว่าน่าจะได้ก็คือ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ความไม่แน่นอน คือความแน่นอน น่าจะได้นะคะ ซึ่งคิดว่าคุณจาวาก็คงรู้อยู่แล้ว


    แต่การตระหนักรู้ มันง่าย กับการปฏิบัติจริง มันยาก ใช่ไหมคะ? หัวอกเดียวกันนะคะ
     
  20. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    สวัสดี คุณ อธิฐาน เช่นกัน จำได้ว่าเคยเจอคุณ ที่บูธคนตาทิพย์ที่เก่า ครั้งหนี่ง วันนั้นพี่ดาวทะเลอยู่ด้วย อ.สุวิ ก็อยู่ด้วย และมีน้องใหม่อีกหลายคน คุณอาจจำเราไม่ได้เพราะยังไม่ได้คุยกัน ส่วนใหญ่จะมาเจอกัน แบบงงๆ ไปเล่าให้ใครฟัง เขาก็ว่าเราบ้า ถ้าไปเจอมาร ตอนที่เรายัง งงๆ ก็จะถูกหลอก เอาของวิเศษไป คงเจอเรื่องแบบนี้คล้ายๆกันอะนะ ภาระหน้าที่ทางโลกก็ต้องรับผิดชอบ ทางธรรม ก็ต้องปฏิบัติ อุปสรรค ก็มีแตกต่างกันไป ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว มีโจทย์ให้ต้องแก้ตลอด แต่ถ้าจะออกจากสมมุติ ก็คือ ต้องอยู่เหนือสมมุติ เท่านั้น อะนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 เมษายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...