เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

ได้โอนเงินร่วมบุญ
1. กองทุนยา 100 บาท
2. ไถ่ชีวิตสัตว์ 100 บาท

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยคับ.

 

คุณกะทิร่วมบุญบัญชีไถ่ชีวิตโคกระบือ โมทนาสาธุ...

 

สุดยอด อ่านละยิ้ม อ่านละ เข้าใจความหมายทั้งหมด มันโดนใจสุดๆ

 

มีผู้มาร่วมบุญกับหมอสุวิอีกจำนวนมากในกองทุนไถ่ชีวิตสัตว์
เมื่อวันเสาร์ พบว่ามียอดเงินพุ่งขึ้นถึง หมื่นแก่ๆ ดังนั้นช่วงบ่าย จึงนัดไปทำบุญปล่อยสัตว์กันอีก
งานนี้คุณนามจงกล จะไปด้วย และเสนอ ไปวัดสวนแก้วกัน ที่วัดนี้ หลวงพ่อพระพยอม ท่านจัดให้มีการไถ่ชีวิตสัตว์ด้วย
พอตกบ่ายเราก็ไปถอนเงิน ได้มา ๑๗,๐๐๐.-
และมีผู้สมทบทุนอีก พันกว่าบาท รวมเป็น หมื่นแปดพันกว่าบาท(ไม่รู้ยอดแน่นอน เพราะมันมีหยอดเพิ่มเข้ามาอีกก่อนถวายท่าน)
และในงานนี้ ยังมีการรวมเงินกันซื้อ พันธ์ต้นไม้(ไม้ผล)ถวายท่านอีกเป็นเงิน ๒,๐๐๐.-เพื่อเอาไปปลูก ในเขตวัด
และท่านให้คนวัด พาทัวร์ รอบวัด
ตามรูปที่แนบมาให้ดูกัน

ว่าจะเอารูป มาให้ดูกันแยะหน่อย ใส่เข้ามาได้หกรูปนี่ เล่นเอาเกือบ สองชั่วโมง
ยอมแพ้จ้า

 

ใครตาดีๆช่วยมองหน่อเถอะ
ในรูปสุดท้าย ในชุดวัดสวนแก้ว คนวัดเขาพาทัวร์ เข้าไปข้างในด้านหลัง
ซึ่งเป็นสวนป่าของวัด เขาปลูกต้นไผ่เต็มไปหมด และมีผลไม้แทบทุกชนิด แซมไปทั่ว
แล้วหลวงพ่อท่านก็เอามาแจกให้ผู้มาทำบุญกัน ทั่วหน้า

ใครตาดีก็ช่วยมองในรูปสุดท้ายหน่อยเถอะนะ
ว่ามีพวกชาววัด มายืนต้อนรับพวกเรากลางถนน อยู สองท่าน
และยืนกันข้างถนนลึกเข้าไปในป่าไผ่อีกเพียบ(ด้านซ้ายมือของรูป-ขวามือของผู้ดู)

แต่ละท่านหล่อๆทั้งน้านนนนนนน
เอิ้กกกกก

 

ของวิเศษสุดขอบฟ้า

เรื่องเล่าตื่นนอนตอนสายๆ นี่ ช่วงนี้ชักไม่ค่อยสนุกนัก มีแต่เรื่องเครียดๆ
อย่ากะนั้นเลย เล่าเรื่องก่อนตื่นนอนให้ฟังดีกว่า
เพื่อความหนุกหนาน ก็ต้องตีใข่ใส่สีตามสไตย์หมอสุวิ พื่อความมันในอารมณ์

ในช่วงที่ ไอ้เจ้า สุวิ2 ยังอยู่เป็นพี่เลี้ยงให้หมอสุวิ มันพาท่องเที่ยวไปทั่ว ทุกคื้นทุกคืน
เคยเล่าไว้ มันพาไปอ่านหนังสือในห้องสมุดแห่งหนึ่ง ล้วนเป็นตำราที่สุดยอดทั้งสิ้น หาไม่ได้อีกแล้วในสามโลก
มีตำราจักรพรรดิ ของทั้งมาร อสูร มหาเทพ ฯลฯ หลังจากฝึกแล้ว ก็เกิดเป็นดวงแก้วบ้าง เป็นพระอาทิตย์บ้าง เป็นระฆังทองบ้าง เป็นดอกบัวบ้าง ฯลฯ เกิดขึ้นเป็นสมบัติส่วนตั๊วส่วนตัว

ที่สำคัญมีบันทึกการสร้างโลก การสร้างกฏแห่งกรรม ฯลฯ
และมีตำราเหมือนๆเป็นการจดบันทึกไว้ว่า ท่านๆที่มาร่วมกันหยิบโน่นจับนี่นั่น ที่มาปรับแต่งให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง
ท่านเหล่านี้ ล้วนถือสมบัติวิเศษติดตัวมา เพื่อใช้ในงานสร้างโลก หลังจากเสร็จงาน ก็ไม่ได้ นำกลับไปยังอภัสราพรหม ทิ้งๆขว้างไว้
บ้างก็ใช้วิธีอธิษฐาน ให้ไปซ่อนตัวอยู่ในที่อันควร รอคอยผู้มีบุญ มานำไป

มีอยู่วันหนึ่ง ไอ้หนังสือเล่มดังกล่าว ก็ปรากตัวให้หมอสุวิเห็น แถมชักชวนให้หมออ่าน(ก็นึกเอานะ แบบกาตูนย์ของวอลดีสย์นี่ หนังสือมันมีปากพูดได้นะ)
ไอ้หนังสือเล่มนี้มีกุญแจนะ ต้องใช้กุญแจไขก่อนจึงเปิดอ่านได้

ไอ้เจ้าสุวิ2 มันสอนวิธีอ่านหนังสือภาคพิศดารได้ ว่า ถ้าเขาอย่ากให้อ่านนี่ ก็ไม่ต้องไปเสียเวลาเปิดอ่านทีละหน้าให้เสียเวลา
อีให้หมอเอามือ วางไว้บนหน้าปกแล้วกำหนดจิตเข้าไปและขอรัยรู้เรื่องราวทั้งหมด แค่นี้ก็จบ ทุกอย่างก็คล้ายกับก๊อปปี้เข้ามาไว้ในหน่วยความจำของเราสิ้น

ในหนังสือ กล่าวถึงการสร้างโลก การกวนเกษียรสมุทร การเกิดขึ้นของน้ำทิพย์อันสุดยอด
และยังกล่าวถึงความผิดพลาดที่เอานาค มาพันเสาในการกวน โดยเอานาคมาแทนเชือก แล้วชักไปชักมา (ให้นึกถึงตอนที่เขาทำไอติมแบบโบราณนะ จะเข้าใจ)
ก็เล่นเอานาคมาพันต้นเสาแล้วชักไปชักมา ทำให้นาคมันงงนานเข้ามันเลยอ้วกแตก ลงในน้ำมหาสมุทร ก็อ้วกนาคนะพิษทั้งน้านนนน
น้ำทิพย์ ก็เลยกลายเป็นยาพิษไปด้วยปะการะฉะนี้ แต่มีผู้รู้วิธีขจัดพิษนี้ได้นะ เขาแอบบันทึกไว้สั้นๆ ในบันทึก
ในการกวนเกษียรสมุทรนี้ ก็เกิดของวิเศษขึ้นอีกมากมาย เขาก็แบ่งๆกันไป
ที่สำคัญมันเกิดดาปขึ้นเล่มหนึ่ง ไอ้เจ้าดาปเล่มนี้มันพูดได้นะ มันว่า มันคือผู้ปกครองสามโลกธาตุนี้ มันมีอำนาจสูงสุด
ผู้ใดมีบุญสูงมาก ผู้ได้ครอบครองดาป จะกลายเป็นจักรพรรดิของสามโลกธาตุนี้
และเมื่อรวมพลังระหว่างดาปกับคนได้ ผู้นั้นก็จะเป็นผู้เลิศสุดจะไม่มีผู้ใดต่อต้านได้
นั่นคือเป็นจักรพรรดิของจักรวาล

ในบันทึกกล่าววถึงความวุ่นวาย การช่วงชิง ระหว่าง มาร อสูร มหาเทพ เพื่อการครอบครองของวิเศษ และสุดท้ายก็ได้แบ่งกันไปคนละนิดละหน่อย
แต่ไอ้ดาปของสำคัญนี่ก็หายจ้อยไป จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าอยู่กับใคร อยู่ที่ไหน
นี่เป็นเรื่องที่เขาเกริ่นไว้ในคำนำนะ
ต่อไปนี่ก็เข้าเรื่อง เขาก็แนะนำของวิเศษต่ละชิ้นว่าเก็บไว้ที่ไหน ใช้ทำอะไรได้บ้าง วิธีที่จะไปเอา ต้องทำอย่างไร แม้แต่ไอ้ดาปเล่มนั้น ก็มีบันทึกไว้ในหน้าสุดท้าย

ยังกะนวนิยาบู้ลิ้ม + หนังอินตระเดียเลย

ยังมีต่อจ้า

 

ของวิเศษสุดขอบฟ้า 2 (ตอนผลไม้วิเศษ)

มีบันทึกถึงของวิเศษพื้นๆ ที่เหล่ามหาเทพนำมาจากอภัสราพรหม อุตระกุรุทวีป และบุพพะวิเทหะทวีป
หมอสุวิ ก็รู้หรอกนะว่าแต่ละอย่างเขามีชื่อเรียกของเขา แต่มันเรียกยาก ไม่คุ้นกับลิ้นที่จะออกเสียง ก็เลยตั้งชื่อให้ใหม่ซะเลย

ผลไม้วิเศษที่เขาเอามาปลูกในโลกมนุษย์นี่นะมีหลายต้นเช่น
๑. ผลไม้แห่งความรอบรู้ ไอ้ผลไม้ลูกนี้นะเขาปลูกไว้ในสวนอีเดน(อยู่ในทวีปอเมริกา) ก็ไอ้ลูกแอปเปิ้ลนั่นแหละ
แต่เป็นพันธ์แอปเปิลจิ๋วนะ(บางคนก็เรียกแอปเปิ้ลแคระ) สีสรรนี่แดงฉานสดใสนะ
สรรพคุณ ผู้ที่กินเข้าไปบ่อยๆ จะรอบรู้ในทุกสรรพสิ่ง ทั้งในโลกนี้และจักวาล

๒. ผลไม้แห่งปัญญา ไอ้ลูกนี้หน้าตาก็เหมือนแอปเปิ้ลแคระ แต่สีเป็นสีเหลืองทองคำต้นอยู่บนพื้นใต้มหาสมุทรน้ำแข็ง
สรรพคุณ ผู้ที่กินเข้าไปนี่จะเป็นผู้มีปัญญา มีไหวพริบปฏิภานรวดเร็วสุดยอด(ถ้าได้กินคู่กับผลไม้แห่งความรอบรู้นี่ ก็สุดยอดมนุษย์เลย)

๓. ผลไม้แห่งอำนาจ ผลไม้นี้เกิดบนพื้น มหาสมุทรใกล้สะดือทะเลในเขตอุนเย็น ลักษณะผลเหมือนลูกไหนลูกเล็กๆ สีแดง
จะว่าเหมือนลูกตะขบลูกโตๆสีแดง(คล้ำ-สีไม่สด)ก็ได้นะ แต่ลูกไม่กลม จะออกรีๆเหมือนลูกรักบี้
ไอ้เจ้ากะทิมันว่าเหมือนลูกแก้วมังกร ย่อส่วน
สรรพคุณ ผู้ที่กินเข้าไป จะเป็นผู้ที่มีพลังฝีมือ เพิ่มขึ้น ลมปราณเพิ่มขึ้น(เหมือนหนังจีนกำลังภายในนะแหละ)

๔.ผลไม้แห่งแห่งเลือดลม ผลไม้นี้หน้าตาเหมือนผลองุ่น นะ เขาเอามาปลูกไว้ที่สวรรคชั้นหก
สรรพคุณ กินเข้าไปแล้ว จะทำให้มีลมปราณกล้าแข็ง หากกินคู่กับผลไม้แห่งอำนาจนี่ สุดยอดเลย

๕.ผลไม้แห่งอายุวัฒนะ หน้าตาของผลไม้ลูกนี้นี่หน้าตามันก๊คือผลท้อเราดีๆนี่เอง ปลูกกันอยู่ที่ สวรรค์ชั้นหก ที่หนึ่ง และอยู่ที่วิมาณลอยฟ้าของเง็กเซียนอีกที่หนึ่ง
สรรพคุณ ผู้ที่ได้กินจะมีรูปร่างหน้าตาเยาว์วัย อายุยืน

๖. ผลไม้แห่งความสมปรารถนา(จินดามณี) ไอ้ลูกไม้ต้นนี้ มันรูปร่างคล้ายๆลูกอินทผาลัมนะ ถิ่นกำเนิดอยู่ที่สวรรค์ชั้นห้า
สรรพคุณ ผู้ที่ได้กินจะสมปรารถนาในทุกเรื่อง(ต้องอธิษฐานบุญรองรับ) และใช้แก้พิษนาคได้
ผลไม้ต้นนี้ หมอเคยเล่าไว้นานแล้ว

๗. ผลไม้ฟื้นคืนสภาพ มาจากสวรรค์ชั้นหก หน้าตาคล้ายลูกพลับ สีแดงชาด(แดงสด)
สรรพคุณ ผู้ที่กินเข้าไปแล้ว จะฟื้นคืนจากสภาพเหน็ดเหนื่อย หมดแรง ฟื้นจากโรคภัยไข้เจ็บ ให้เป็นปกติ

๘. ผลไม้ฟื้นคืนพลัง มาจากสวรรค์ชั้นหกเช่นกัน หน้าตาคล้ายลูกมะเฟือง สีทองคำ
สรรพคุณ ผู้ที่กินเข้าไปแล้ว จะฟื้นคืนจากสภาพเหน็ดเหนื่อย หมดแรง ทำให้มีกำลังวังชา ฟื้นจากโรคภัยไข้เจ็บ ให้เป็นปกติ

จะเห็นได้ว่า ผลไม้เบอร์ ๗ และ ๘ นี้ สรรพคุณคล้ายๆกัน แต่กินร่วมกันไม่ได้
ลูกพลับ จะออกไปในตระกูลอัลคาไรด์
มะเฟืองจะออกไปตระกูลกรด
ก็ขึ้นอยู่กับคนกินนะ ว่าสภาพร่างกายเขาเป็นกรดหรือด่าง

ผลไม้เบอร์ ๑-๕ ผู้ที่มาฝึกวิชากับหมอสุวิ ได้กินกันทุกคน
ส่วนเบอร์ ๖-๗-๘ ก็มีบางท่านได้กินแล้ว แต่ส่วนใหญ่หมอใช้ผสมยา

 

ของวิเศษสุดขอบฟ้า 2 (ตอนผลไม้วิเศษ ๒)

มีดอกบัวอีกดอกหนึ่งที่เป็นของวิเศษจากฟากฟ้า
หมอใช้ผสมยา มณีฟ้าประทาน ดอกบัวดอกนี้มีกายเนื้อสัมผัสจับต้องได้ ถิ่นกำเนิดอยู่ที่อุตระกุรุทวีป
มีท่านผู้เป็นใหญ่นำมาปลูกในโลกมนุษย์ ในบริเวณเหนือประเทศไทยในปัจจุบัน-และได้กระจายพันธ์ไปทั่วเอเซียตะวันตกเฉียงใต้
เป็นบัวที่ไม่มีเมล็ด ไม่มีฝัก อยู่ในน้ำที่สะอาด หากน้ำสกปก ก็จะตาย
แต่ก็แปลก ผ่านมาแสนนาน บัวต้นนี้ก็ยังอยู่คู่โลก คล้ายมีผู้ดูแลอยู่
แต่ก็เหลือน้อยเต็มที ทำท่าจะศูนย์พันธุ์เอา

ยาดอกบัว (ปัทมาคืนชีพ)
บัวหนึ่งนามจงกลนี ดอกบานได้สองราตรี เก็บดอกพร้อมก้านติดมา
อีกหนึ่งรากไม้เร่งหา มีรูปลักษณ์กายา ดูไปคล้ายดังหุ่นต์พยนต์
ครบถ้วนหัวกายแขนขาดั่งคน กำเนิดอยู่บน เขาสูงเสียดฟ้าหนาวเย็น
ง้วนดินเสมอภาคบดผสมปนเป็น ผึ้งรวงเคี่ยวคร่ำจวบเย็น ปั้นก้อนเท่าเม็ดในพุทรา
กินวันละสองครา เมื่ออรุณเบิกฟ้า แลก่อนนิทราคำคืน
ช่วยที่จักตายให้ฟื้น จากนิทราพลันตื่น ฟื้นคืนชีพกลับมา
นับเป็นวาสนา แล้วเร่งจัดหา จินดามณี
หายสิ้นโรคภัยที่มี กายาแข็งแรงพ่วงพี ดุจดังดรุณี-มานพอ่อนวัย

 

กะทิเธอทำงานทางโลกอยู่นะคะ จึงไม่สะดวกใช้จิตเพ่งอะไร ก็ยังเห็นว่ามีพลังมหาศาล เคลื่อนไปมา ไม่อยู่นิ่ง อยู่ในภาพล่ะค่ะ (ไปๆ มาๆ จะเหมือนบันไดโรงเรียนฮอกวอตส์ ของแฮรี่พอตเตอร์)

 

Merry x' mas ค่ะผู้อ่านทุกท่าน (เป็นฝรั่งมังฆ้อง กับเขาซะหน่อย)

ช่วงเวลาเทศกาลคริสมาส เรามักคุ้นชินกับเพราะคริสมาส สไตล์ฝรั่ง ตั้งแต่เล็กจนโต แต่ในความเป็นจริงแล้ว เทศกาลนี้นิยมทั่วโลก หรือก็คือเทศกาลการให้ของขวัญแก่กันและกัน

และที่กะทิเธออยากนำเสนอ คลิปนี้ก็เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นอะไรๆ ในมุมที่แตกต่างออกไปจากเพลงฝรั่งรับซานตร้า ที่เราเคยได้ยินได้ฟังกันมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากมันมีมุมมองของการฝึกอบรม แทรกอยู้ในเพลง และนั่นหมายถึง การปลูกฝังนิสัย วัฒนธรรม และความเชื่อนี้ จะหยั่งรากในตัวเด็กๆ ให้เติมโตมาเป็นทรัพยากรของประเทศของเขาอย่างไร


https://www.youtube.com/watch?v=0VdbyrRP2YE


กะทิขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าแปลไม่ค่อยได้เรื่องนะคะ เพราะว่ารีบแปลแบบรถด่วนเรียกพี่ ดังนั้นอาจมีตกหล่น เพี้ยน ก็ขออภัยนะคะ


"อย่าร้องไห้ ปาป้าซานต้าไม่ชอบคนร้องไห้ และต้องเป็นเด็กดี ไม่ควรเป็นเด็กไม่มี ไม่เช่นนั้นปาป้าซานต้าจะไม่มาหาเธอ

ในคืนนี้ซานตร้าจะมา เมื่อเธอ(เด็กๆ) เข้านอนนะ (ให้รีบเข้านอนซะ) และเธอตื่นเช้าขึ้นมานะ อย่าทำตัวเป็นเด็กไม่ดี (เช่น) อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้ล่ะ ซานตร้าไม่ชอบเด็กร้องไห้ และต้องทำตัวดีๆ ถ้าทำตัวเป็นเด็กไม่ดี ซานตร้าก็จะไม่มาหานะ"



ถ้าเด็กๆ ไม่ร้องไห้ง่ายๆ คนในประเทศของเขาจะเป็นอย่างไร จะเป็นทรัพยากรที่เข้มแข็ง อดทน และมีหัวใจแข็งแรงรึเปล่าคะ?

 

อยากทราบว่า น้ำทิพย์(ผสมพิษนาค)ที่เกิดจากการกวนเกษียรสมุทรเอามาทำอะไรได้บ้างครับ อ.suwi

 

ของวิเศษสุดขอบฟ้า 3 (จอกศักสิทธิ์ และหีบแห่งพันธะสัญญา)

เห็นเจ้ากะทิ มาอวยพรวัน คริสต์มาส และพูดถึงพระคริสต์
ก็นึกได้ว่า ในบันทึกโบราณเล่มนั้น มีกล่าวถึงของวิเศษอีกสองสามชิ้น ที่เกี่ยวข้องกับพระคริสต์
จอกศักสิทธิ์ และ หีบแห่งพันธะสัญญา อีกชิ้นอะไรหว่า นึกไม่ออก
ทบทวนความจำดู แปลกๆแฮะ คล้ายหน่วยความจำถูกยกหายออกไปทั้งกะบิ ใช้เวลาพักหนึ่งก็พอปะติดปะต่อเรื่องราวได้

อ้าวไปนึกออกเรื่องของน้ำพุแห่งความอ่อนเยาว์ ซะได้ ตามบันทึกนะไอ้น้ำพุนี้มีหลายบ่อนะ กระจายอยู่ทั่วโลก
ตอนแรกนึกว่าไม่มีเจ้าของ ก็ไปตามหานะ พอเจอจะตักเอามาใช้สักหน่อย เจ้าของเขาโผล่มา ร้องว่า ขโมยๆๆๆๆ ทำเอาโต๊ะจายหมดเลยตรู
จึงต้องเจราจาต้าอ่วยกัน พักใหญ่ อุทิศบุญขอขมากรรมกันไปอีกพัก เจราจาภาษาดอกไม้ ปลิวว่อนหมอมฟุ้งกระจายไปทั่ว
เขาก็ให้ความรู้เกี่ยวกับไอ้เจ้าน้ำพุแห่งความเยาว์วัยมาเพียบเลย

น้ำพุแต่ละบ่อมีสรรพคุณพื้นฐานเหมือนกัน ทำให้ผู้ดื่มกินเป็นประจำ จะเป็นผู้มีพลังชีวิตสูง อายุยืนยาว และมีความอ่อนเยาว์(ไม่แก่)
คำว่าดื่มกินเป็นประจำนี่ไม่ใช่ดืมกินทุกวัน แต่ละคนจะมีลิมิตของมัน เช่น กินเดือนละครั้ง ปีละครั้ง ฯลฯ

แต่ละบ่อ จะมีผู้ครอบครองอยู่ บ้างก็เป็นของมาร บ้างก็เป็นของอสูร
แต่ละบ่อก็มีพิษบางอย่างละลายปนอยู่และพิษนั้นไม่เกิดโทษต่อผู้ครอบครอง เช่นหากบ่อนี้อสูรเป็นเจ้าของ พวกอสูรดื่มกินกันจะไม่เกิดโทษ มีแต่คุณประโยชน์
แต่หากต่างเผ่าพันธิ์มาดื่มกินนี่ก็จะถูกพิษ ทำให้ลดทอนพลังชีวิตแก่เร็วและอายุสั้น

อย่างบ่อที่หมอสุวิจะไปตักเอานี่ เป็นของชาวบังบถ (อยู่บนเขาแถวอุตรดิตร์)
เขาเป็นมนุษย์ตัวเล็กๆ-สูงเฉลี่ยประมาณ เมตรหนึ่งโดยประมาณ ร่างกายสมส่วน
ส่วนมนุษย์เรานี่สูงประมาณ ๑.๘๐-๒.๐๐ เมตรนะ ก็สูงกว่าเขาเท่าตัวหนึ่ง
เขาว่า น้ำพุในบ่อนี้ มนุษย์ธรรมดาอย่างหมอสุวินี่ดื่มกินได้ แต่กินมากไม่ได้ แม้โครงสร้างจะคล้ายกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน ร้อยเปอร์เซ็น หากดื่มกินบ่อยๆจะเกิดโทษ

และเขาก็อนุญาติให้หมอสุวิตักเอาไปใช้ได้ตามใจชอบ
เอ ก็มันมีโทษอยู่เอาไปทำไมหว่า ใหนๆก็ไหนๆ ก็เลยเอาติดมือมาสองขวด(ขวดละลิตรกว่า)
เอามาเข้าห้องตแลปแก็ปในตัวหมอสุวิ เอามาทดสอบทดลองดู
และเอบไปเอาของพวกอสูรและมาร มาอย่างละหน่อยหนึ่ง เอามาเปรียบเทียบ
จึงรู้ว่า อ้อ ที่แท้ ไอ้น้ำในบ่อนี่มันก็มาจากที่เดียวกันนะแหละ ก็คือไอ้น้ำอมฤต(น้ำทิพย์)ที่กวนเกษียรสมุทรกัน
พอน้ำทิพย์เกิดขึ้น มารและอสูร ก็จ้วงกันไปคนละถังสองถัง เอาไปสร้างบ่อน้ำพุแห่งความอ่อนเยาว์กัน ก่อนที่นาคมันจะอ้วกใส่(สงสัยว่าจะกันท่าไม่ให้อสูรและมารเอาน้ำทิพย์ไปแยะ)

เหล่าอสูรและมาร เมื่อจะสร้างบ่อน้ำพุแห่งความอ่อนเยาว์ นั้น
ต่างก็ได้นำธาตุประจำตัวของเผ่าพันธ์ตน ผสมทิ้งลงไปที่ก้นบ่อ และมอบให้ลูกหลานเหลนโหลนเป็นผู้เฝ้า และสร้างบ้านเมืองของเผ่าพันธ์ตนเองไว้ไม่ไกลจากบ่อน้ำพุนั้น
ไอ้ธาตุประจำตัวของอสูรนี่ก็เป็นโทษต่อมารและมนุษย์
ไอ้ธาตุประจำตัวของมารนี่ก็เป็นโทษต่ออสูรและมนุษย์เช่นกัน

แล้วไม่มีบ่อน้ำพุของมนุษย์บ้างเชียวหรือ
เอ เท่าที่ผ่านตานี่มีนะ น้ำพุแห่งความอ่อนเยาว์ของมนุษย์ จำได้ว่า พวกมหาเทพนี่เขามาสร้างไว้ให้ พวกมนุษย์นะ อยู่ตรงไหนบ้างหว่า
นึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นึกไม่ออกวุ้ย
คล้ายๆอยู่ใกล้ๆวัดดังโบราณๆ ทางภาคเหนือของประเทศไทยนะ
ทางยุโรป และอเมริกา ก็มีนะ

อ้าว ว่าจะเขียนเรื่องจอกศักสิทธิ์ ไหงกลายมาเป็นเรื่องของน้ำพุซะนี่
แต่ก็ ดีนะ หมอเคยเอาจอกนี้มาใส่น้ำพุแห่งความอ่อนเยาว์ของมนุษย์ กินไปครั้งหนึ่ง

โอ้ พระเจ้าจ๊อด มานสุดยอด ยั่งกะกินลิโพ+กระทิงแดง ยางงายยางง้านนนนเลย
สดชื่น ตาสว่าง ปายสามวันสามคืน
(ฮิฮิ.. ตีไขใส่สีไปตามจายฉาน)

 

คุณหมอครับ ผลไม้ที่พบในโลกมนุษย์ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับผลไม้วิเศษชนิดต่างๆ นั้น มีหน่อเนื้อเชื้อพันธุ์หรือสรรพคุณอันใดเกี่ยวข้องกันหรือเปล่าครับ หรือแค่รูปร่างคล้ายกันเฉยๆ ครับ ขอบคุณครับ

 

ในบันทึกเขาว่านะ
ไอ้พวกที่กินน้ำทิพย์ในช่วงทีหลังนี่ ต่างชักดิ้นชักงอกันริมชายหาด ในจังหวะสามช่า กันเป็นพันเป็นหมื่นๆท่านนะ
คิดดูซิ ริมชายหาด พระจันทร์สวยเด่น จิบน้ำอฤต(ผสมยาพิษ)ฟรีๆ มีฟามสุกออกกกก ไม่ออกอาการชักดิ้นชักงอก็ไม่ได้ ก็หัวจายมันพาปายนะ

สรุป งานเลยกร่อย ตัวครายตัวมาน ต่างแยกย้ายกันกลับไป บ้านใครบ้านมัน
เก็บความอัดอันตันใจ เก็บความน้อยเนื้อต่ำใจ เก็บความกินแหนงแครงใจกันและกันไว้ในส่วนลึกของหัวจาย
หลังจากนั้น อสูร มาร ต่างก็ไม่ค่อยจะไว้วางใจกันสักเท่าใด
ส่วนพวกมหาเทพนี่ก็ ขอลอยตัวเหนือปัญหาทั้งปวง

แล้วน้ำทิพย์ผสมพิษนาคนี่ เอาไปทำอะไรได้
ก็เห็นทิ้งไว้อย่างงั้น เห็นน้ำดำปิดปี้เลย
ไม่เห็นมีใครอวดตัวเป็นพระศิวะ ดื่มน้ำในเกษียรสมุทรนี้ กรองน้ำให้สะอาดและบริสุทธิ์หมดจดแล้วแจกให้ผู้คน

เอ..เกิดไอเดียรบันเจิดนะ ไปเอาไอ้เครื่องกรองน้ำทะเลเป็นน้ำจืดมาใช้กรองพิษนาคออกไปได้เปล่าหว่า

 

อีกชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพระคริสต์น่าจะเป็นหอกศักสิทธิ์ ลองกินุสครับ
แล้วของวิเศษแบบไม้กายสิทธิ์ของแฮรี่ พอตเตอร์ที่ใช้เสกอะไรก็ได้ มีของจริงด้วยหรือเปล่าครับอาจารย์

ถ้าเอาใบเสลดพังพอนตัวเมีย(พญายอ)มาสกัดตัวยาจะช่วยแก้พิษนาคได้ไหมครับ ถ้าใช้ได้จะเอาไปผสมกับน้ำทิพย์ก่อนแล้วค่อยกรองออกมาอีกทีน่าจะดี

ไม่ทราบว่าต้นไม้ต่างๆรวมทั้งสมุนไพรด้วย มีใครแอบสร้างขึ้นมาหรือเปล่าครับ ในสมัยยุคที่เริ่มมีต้นไม้ใหม่ๆ ในตำนานบอกไว้ด้วยไหมครับ

เรื่องหอกลองกินุส wowboom: หอกศักดิ์สิทธิ์ ลองกินุส (Holy Lance)

 

สวัสดี ปีใหม่ ครับพี่น้อง

ขอให้มี ความสุข กันทุกๆ คน นะครับ

 

เพิ่งกลับมาถึง กทม. ได้สักพัก
ไป เชียงใหม่ เชียงราย เมืองปาย มา เสียหลายวัน

ตากอากาศ
เปลี่ยนสถานที่ เลื่อนตำแหน่ง องศา A เสียบ้าง เพื่อความ กระชุ่มกระชวย ดี เหมือนกัน

ได้รับพลัง จากสถานที่ ต่าง ออกไป บ้าง อยู่ บ้าน กทม. ก็ ได้ แบบ กทม.
ไป ตจว. บ้าง นอนหลับ สบาย ดี
แม้น ต้อง ขับรถ ไกล ทุกวัน ติดต่อกัน ห้าหกวัน ก็ ยัง กระชุ่มกระชวย ดี แท้

งวดนี้ ขึ้นไปเมืองปาย ได้เจอหมอเฉิน จังหวะดี ไปถึง เย็นมากแล้ว หมอแก ว่างจากการตรวจคนไข้ พอดี

จึงได้ คุย กัน สบาย หน่อย มีเวลา มากหน่อย
หมอแกความจำ ดี นะ

พอเห็นเจ้าลูกชาย ร้องทัก เลย " เด็กมหัศจรรย์ มาแล้ว...55"

งวดนี้ ได้คุยกันสนุกสนาน
ทดลอง ทำนั่นทำนี่ หลายอย่าง
คุยกันไป ลองทำ ไป

แบบนี้ ถ้ามี สมาชิกของพวกเรา ติดไป ด้วย คง มัน พะยะ ค่ะ เป็นแน่

ทำให้นึกถึง สมัย ที่ อ.สามตา ยังอยู่ มีอะไรใหม่ๆ เอามา ทดลองกัน

............

เพิ่งกลับมา ไว้ มีเวลา ค่อย โม้ ต่อ

 

สวัสดี ปีใหม่ เช่นกันครับ พี่น้องทุกท่าน
คุณดาว ว่างก็รีบเข้ามาเล่าเลยครับ...

 

นิทานพลังอธิษฐานของกะทิ ตอน ชื่อนั่นสำคัญฉะนี้



ช่วงประมาณเกือบ 3 ปีมาแล้ว ที่กะทิเธอทราบเรื่องเกี่ยวกับการทำนายพื้นดวงจากเบอร์โทรศัพท์ + อื่นๆ ซึ่งถ้าถามว่ากะทิเธอเริ่มอ่านเบอร์โทรศัพท์ได้เมื่อไร? คำตอบคือ ก็เพิ่งจะไม่นานสักเท่าไหร่เอง แต่หากถามว่าสนใจเรื่องนี้มานานเท่าไหร่ ก็ต้องบอกว่า ตั้งแต่กะทิเธอยังเด็กๆ อะนะคะ เพียงแต่ทราบแล้วก็ไม่ได้นำมาพัฒนาและเกิดการประยุกต์ใช้จริงๆ จังๆ จึงเพิ่งนำมาใช้จริงจังไม่กี่ปีมานี้นั่นเองหนะค่ะ



นอกจากนี้กะทิเธอยังก้าวไปสู่การทำนายทายทักชื่อของคนด้วย ซึ่งอันนี้มันต้องคำนวณเยอะ ดังนั้นจึงไม่ค่อยอยากเข้าไปเกี่ยว เพราะคนไทยชื่อย้าวยาว ยิ่งนามสกุลก็ยิ่งย้าวยาว ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ กะทิเธอก็ไม่อยากจะคำนวณล่ะค่ะ



ถึงกระนั้นก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่กะทิเธอได้รับอีแมวหลังไมค์เกี่ยวกับเรื่องของ ด.ช. คนหนึ่ง นามสมมติว่า ภู ละกันนะคะ อีแมวฉบับนั้นคุณพ่อของน้องภูส่งมาถึงกะทิ ประมาณความว่า คุณพ่อเป็นห่วงเรื่องสุขภาพพัฒนาการของลูก เนื่องจากมีอาการเหมือนจะเข้าข่ายเด็กพิเศษ คุณหมอเธอก็ว่าอย่างนั้น จึงเป็นเหตุให้คุณพ่อคุณแม่ของน้องภู กังวลใจมาก คุณพ่ออ่านเรื่องราวของกะทิเธอไม่ทราบว่าจากกระทู้ในเว็บพลังจิตเรื่องอะไรมาอะนะคะ จู่ๆ วันหนึ่งท่านก็ได้ติดต่อมาโดยส่งเป็นข้อความมาถึงกะทิดังกล่าว


กะทิเธอนั้นแต่เดิมเคยเป็นกองบรรณาธิการนิตยสารพัฒนาการเด็กฉบับหนึ่งค่ะ จึงเข้าใจเรื่องของพัฒนาการเด็กและปัญหากลุ้มอกกลุ้มใจของคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างดี ว่ารักลูกมากมายเท่าชีวิต ยิ่งเป็นลูกคนแรกและคนเดียวในขณะนั้นด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีความกังวลมากกว่าปรกติ และเพราะความรักลูก โดยเฉพาะอาจมีปัญหาเข้าข่ายเด็กพิเศษด้วยแล้ว ความกังวลใจยิ่งมีมากทวีคูณ และนอกจากนั้นที่บ้านหมอสุวินี้ ก็มีเด็กหญิงตัวน้อยที่ใครๆ ก็ว่าเธอเข้าข่ายเด็กพิเศษอยู่ด้วยอีกคนเหมือนกัน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของเธอ เป็นพื่อนกับลูกชายของบ้านหมอสุวิหนะค่ะ กะทิเธอจึงเคยมีปฏิสัมพันธ์ ประสบการณ์ กับทั้งเด็กพิเศษ ที่เธอเคยทำงานขณะเป็นกองบรรณาธิการนิตยสารเมื่อคราวบริษัทจัดงานสัมมนาให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อยู่หลายครั้ง และรวมถึงเจ้าหญิงตัวน้อยหลานของคุณหมอสุวิดังกล่าวด้วย


เมื่อเป็นเช่นนี้ กะทิเธอก็ต้องขอดูหน้าน้องภูเขาหน่อยล่ะค่ะ ว่ามีอาการเข้าข่ายเด็กพิเศษมากน้อยประการใด จะเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยที่กล้ามเนื้ออ่อนนิ่มไปหมดไหม? (แต่เจ้าหญิงเธอก็แข็งแรงพัฒนาการจัดว่าโอเค เพราะมาให้หมอสุวิเธออุ้มอยู่บ่อยๆ หมอไม่ได้รีบส่งพลังให้น้อง เพราะหากส่งมากเกินไป บางทีเด็กจะรับไม่ไหวอะนะคะ ซึ่งกะทิเธอก็เคยเผลอโอบกอดน้องภูส่งพลังจัดเต็มไปให้(เผื่อเหลือเผื่อขาด) จนโดนหมอสุวิเตือนหนะค่ะ)



กะทิเธอขอให้คุณพ่อน้องภูส่งรูปน้องมาให้กะทิดูสักหน่อย และรูปที่ส่งมาทางอีแมวก็ไม่ได้ทำให้กะทิเธอรู้สึกว่าน้องเขาจะป่วยตรงไหน? หรือเพราะว่าภาพที่ได้จะไม่แสดงออกซึ่งอาการที่ชัดเจนกันหนอ?



ในระยะต่อมาไม่นานจากที่ได้เห็นภาพน้องภู คุณพ่อก็ส่งข้อความมาประมาณว่า คิดว่าจะไปเปลี่ยนชื่อของลูกค่ะ และยังบอกว่าคิดว่าจะไปพบหมอสุวิที่บ้านด้วย ซึ่งเป็นช่วงจังหวะพอดีกับที่กะทิเธอจะไปเยี่ยมคุณหมอพอดีค่ะ โดยเรื่องชื่อของน้องภูนั้น กะทิเธอได้เก็บไปเขียนถามหมอสุวิ ซึ่งหมอก็รับทราบอยู่ก่อนแล้ว เพราะคุณพ่อคุณแม่ มีเขียนหลังไมค์ไปปรึกษาท่านก่อนจะโทรศัพท์ไปนัดพบด้วยอยู่เหมือนกัน



หมอได้คุยกับกะทิในตอนนั้นว่า มีชื่อที่เข้ามาอยู่ในใจหมอ 2 ชื่อ ซึ่งเดิมทีหมอได้แจ้งว่า ให้คุณพ่อของน้องเป็นผู้ขอประทานชื่อจากเทพท่านด้วยตัวเอง เนื่องจากท่านประสงค์ต้องการดูแลน้องภูอะนะคะ แต่หมอเห็นว่าคุณพ่ออยู่ในช่วงดวงตก เกรงจะไปเจอตัวปลอมเข้าให้ หมอสุวิจึงเป็นผู้ขอให้แทน จากนั้นหมอจึงได้ส่งชื่อมาให้กะทิเธอช่วยดูหน่อยว่า1 ใน 2 ชื่อนี้ ชื่อไหนจะโอเคกว่า



ชื่อที่ว่านี้อย่างที่กล่าวแล้วว่า เป็นชื่อของเทพองค์หนึ่งอะนะคะท่านผู้อ่าน ต้องวงเล็บด้วยว่า ได้มีการขออนุญาตนำมาใช้จากท่านด้วยแล้ว เพราะหากเด็กคนใด นำชื่อสูงๆ คำศัพท์สูงๆ มาใช้ โดยที่บุญของเด็กไม่ถึง ก็อาจมีเหตุทำให้เด็กมีอันเป็นไปจากการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุต่างๆ นานาได้ ซึ่งหากผู้อ่านยังพอจำได้ ถึงเหตุการณ์ระเบิด จนเป็นเหตุให้เด็กชายคคนหนึ่งชื่อน้องฮ่องเต้ บาดเจ็บสาหัส และเสียลูกตาไปหนึ่งข้าง สมเด็จฯ ท่านรับสั่งเป็นผู้รับเข้ารักษา จนเป็นข่าวใหญ่ในช่วงหลายปีก่อน ทำให้น้องรอดมาได้ และคุณแม่ต้องแก้เคล็ดด้วยการเปลี่ยชื่อน้องซะใหม่เป็นน้องแทนอะนะคะ



เช่นกันกับกรณีการเปลี่ยนชื่อจากผู้มีสมณะศักดิ์สูง เช่นเทพต่างๆ โดยกะทิขออนุญาต ยกตัวอย่างจากชื่อขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้ามาเพื่อทำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจกันเพื่อให้เห็นตัวอย่าง อย่างง่ายๆ และเข้าใจได้ทันทีก่อนดีกว่า เช่น พระพุทธเจ้า ในหลายๆ ตำรามีการเรียกท่านว่า พระตถาคต บ้างก็เรียก พระมหาสมณะโคดม บ้างก็เรียก พระมหาสมณะโคตรมี ฯลฯ เป็นต้น เช่นเดียวกันกับเทพเทวดาเพียงองค์ท่านองค์เดียว ก็อาจมีชื่อเรียกและ/หรือเขียนได้หลากหลายแบบ และตัวสะกดก็ย่อมมีหลากหลายแบบกันไปด้วยดังยกตัวอย่างอธิบายมา


ปล. ขอเอารูปน้องมาฝาก จากอัลบั้มของคุณพ่อของน้องเขาค่ะ





/ยังมีต่อ



ปล. ประกาศ ประกาศค่ะ ใครพอมีความรอบรู้จากประสบการณ์การขายห้องพัก คอนโด หรือพอที่จะรู้จักใครที่พอจะมีเส้นสาย ที่สนใจต้องการห้องพักคอนโดเป็นของตนเอง ชาวต่างชาติ ต่างจังหวัดที่ต้องการห้องพักในกรุงเทพ ฯลฯ กะทิกำลังประกาศช่วยลูกพี่ลูกน้องเธอ ขายห้องพักห้องนี้ ซึ่งจากการดูภาพแล้วสวยมากๆ น่าอยู่จริงๆ ค่ะ อยู่ถนนสุขุมวิท 97 ขนาดห้อง 218 units ใกล้รถไฟฟ้า และ7-11 (ได้แนบเอกสารมาให้ดูกันด้วย) ใครพอมีอะไรให้ช่วยกันได้ ก็ช่วยๆ กันไปอะนะคะ ขอบคุณมากค่ะ


ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจาก การเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญและบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าในพระพุทธศาสนา พระอริยะเจ้าและพระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงจิต และขอบุญนี้จงคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์ และอมนุษย์ทั้งปวง ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ

 

นิทานพลังอธิษฐานของกะทิ ตอน ชื่อนั่นสำคัญฉะนี้ (ตอนต่อ)



อนึ่งก่อนจะเข้าสู่นิทาน...

ลืมบอกท่านผู้อ่านไปค่ะ ว่านิทานเรื่องนี้ได้ผ่านการขออนุญาต และผ่านตรวจสอบรับรองคุณภาพจาก ISO อันประกอบด้วยคณะกรรมการ คุณพ่อ และคุณแม่ของน้องภู(นามสมมติเรียบร้อยแย้ว ก่อนนำมาเล่านะคะ อิอิ)




กะทิเธอก็ทำตามการบ้านที่หมอให้ช่วยคำนวณ เพียงแค่ตัวสะกดที่เปลี่ยนแปลงไปนิดเดียว ก็มีผลทำให้มีความแตกต่างในผลลัพธ์ของผู้ใช้ที่แตกต่างกันได้มากมาย สุดท้ายหมอและกะทิเธอก็ได้มาลงเอยกันที่ชื่อของเทพผู้นั้น ดัวยตัวอักษร และตัวสะกดที่ออกจะแปลกเล็กน้อย แต่ก็ถือได้ว่าลงตัวมากที่สุดแล้ว เมื่อรวมกับนามสกุลของน้องภู



ในวันนัดพบ กะทิเธอไปที่บ้านหมอสุวิ และเข้าไปคุยเรื่องโน่นนั่นนี้อยู่ในห้องที่หมอใช้ทำงานกับคอมพิวเตอร์ พอคุณพ่อคุณแม่ของน้องภูมา กะทิเธอก็ยังนั่งอ่านคอมฯ ที่หน้าเครื่องอยู่อีกพักนึ่ง พอให้คุณพ่อคุณแม่น้องภูหายตื่นสถานที่แล้ว เธอจึงได้โผล่หน้าไปดูน้องภูเพื่อสังเกตการณ์ (ในขณะนั้นหมอหายตัวไปเข้าห้องน้ำหรืออะไรสักอย่าง กะทิเธอก็จำไม่ได้ แต่ได้ทิ้งครอบครัวน้องภูไว้ที่ห้องรับแขก)


กะทิเธอก็โผล่มาแต่หัวไปสังเกตการณ์อะนะคะ อธิบายคือ ที่บ้านหมอสุวิ ถ้าใครเคยไปจะทราบว่า ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องอื่น จะใช้ม่านกั้นไว้ก็เพื่อไม่ให้ลมแอร์ไหลออกมาจากห้องหนะค่ะ ไม่ได้ใช้ประตูกั้นอะนะคะ กะทิเธอก็ไม่ได้รายงานตัวกับคุณพ่อคุณแม่น้องภู ว่ากะทิเธอเป็นผู้ใด เพียงแต่กะทิต้องการสมาธิในการสำรวจพัฒนาการของน้อง และพลังชีวิตของน้อง ว่าน่ากังวลอย่างที่คุณพ่อเธอเขียนมาบอกกะทิไว้ไหม? จึงได้โผล่แต่หัวออกมาจากผ้าม่าน และจ้องมองไปที่น้องสักพักใหญ่ได้


คุณพ่อคุณแม่น้องภูก็หันมามองว่ากะทิเธอเป็นใครหว่า โผล่มาแต่หัวและจ้องไปที่น้องอย่างไม่วางตา และไม่พูดกล่าวอะไรสักคำ ได้แต่จ้องอยู่อย่างนั้น


สิ่งที่กะทิเธอเห็นคือน้องมีพัฒนาการปรกติ และมีออร่ากระจายเป็นสีชมพูใสจางๆ รอบๆ ดวงหน้า ซึ่งกะทิก็ไม่แปลกใจ เพราะทราบจากหมอแล้วว่า หมอสุวิได้เริ่มส่งพลังไปรักษาน้องภูตั้งแต่ทราบเรื่องจากคุณพ่อคุณแม่มาหลายวันแล้ว และพลังนั้นก็เริ่มทำงานไปแล้ว พร้อมๆ กับเทพองค์นั้นก็ได้ลงมาช่วยน้องแล้วเช่นนั้น กะทิเธอจึงได้เห็นดวงหน้าของน้องภูมีออร่าสีชมพูเช่นนั้น


กะทิเธอเปิดตัวกับคุณพ่อคุณแม่ของน้องภู ก็เมื่อหมอสุวิเดินออกมาที่ห้องรับแขก แล้วถามกะทิเธอว่ายืนทำอะไรอยู่กันล่ะเนี่ย? จึงได้ตอบหมอไปว่า ยืนสังเกตการณ์ และถึงได้ทักทายกับครอบครัวน้องภู วันนั้นเราคุยกันหลายเรื่อง ได้แก่ เรื่องการเปลี่ยนชื่อที่กะทิเธอได้คำนวณมา และอาการของน้องที่ก้านสมองถูกรบกวนจากตัวประหลาดจำนวนหนึ่ง ก็ได้รับการรักษาจากการส่งพลังของหมอสุวิหนึ่ง จากพลังของเทพที่ต้องการช่วยปกป้องหนึ่ง และจากยาของหมอสุวิด้วยอีกหนึ่ง


ซึ่งยานี้ก็อย่างที่รู้ว่าหมอสุวิเป็นแพทย์ทางเลือก (ไม่ใช่สิ เป็นเภสัชกรทางเลือกที่มีใบประกอบโรคศิลป์ถึงจะกล่าวถูกต้อง) ที่เน้นด้านสมุนไพร ยาของท่านจึงมีรสชาติและกลิ่นที่เด็กๆ ชื่นชอบ (ชอบบ่วนทิ้ง)




ปล. ขอเอารูปน้องมาฝาก จากอัลบั้มของคุณพ่อของน้องเขาค่ะ



ดังนั้นในช่วงนี้หมอจ่ายยาให้แรกๆ น้องภูก็ยังไม่ค่อยรู้ความ จึงรับไปกินได้ไม่มีปัญหา กระทั้งโตขึ้นมาอีกหน่อยก็รู้มาก ไม่ยอมกินซะแล้ว กะทิเธอเลยได้ไอเดีย จากการที่คุยกับหมอบ่อยๆ จึงขอให้หมอใส่พลังยาลงไปในนมอัดเม็ดแทน คราวนี้น้องภูอยากจะกินยิ่งกว่า 1 เม็ด ในหนึ่งวันซะอีก อิอิ


แต่อันนี้ใช้บุญของหมอ น้องภูจะติดหนี้บุญหมอยังไงอะไรบ้าง จะแก้กันอย่างไร อันนี้ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่คุยตกลงกันอะนะคะ ท่านผู้อ่าน กะทิเธอก็ไม่ทราบรายละเอียดนะคะ



/ยังมีต่อค่ะ



ปล. ประกาศ ช่วยน้องเขาขายคอนโด Casa สุขุมวิท 97 ค่ะ ใครพอมีความรอบรู้จากประสบการณ์การขายห้องพัก คอนโด หรือพอที่จะรู้จักใครที่พอจะมีเส้นสาย ที่สนใจต้องการห้องพักคอนโดเป็นของตนเอง ชาวต่างชาติ ต่างจังหวัดที่ต้องการห้องพักในกรุงเทพ ฯลฯ กะทิกำลังประกาศช่วยลูกพี่ลูกน้องเธอ ขายห้องพักห้องนี้ ซึ่งจากการดูภาพแล้วสวยมากๆ น่าอยู่จริงๆ ค่ะ อยู่ถนนสุขุมวิท 97 ขนาดห้อง 218 units ใกล้รถไฟฟ้าบางจาก และ7-11 (ได้แนบเอกสารมาให้ดูกันด้วย) ใครพอมีอะไรให้ช่วยกันได้ ก็ช่วยๆ กันไปอะนะคะ ขอบคุณมากค่ะ










































รบกวนติดต่อ น้องนัน 0909038252 ค่ะ





ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจาก การเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญและบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าในพระพุทธศาสนา พระอริยะเจ้าและพระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงจิต และขอบุญนี้จงคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์ และอมนุษย์ทั้งปวง ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ