เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ยินดี ปรีดา อิ่มอกอิ่มใจมากมายค่ะ
ที่ได้รับคำชม...จากท่านอ.สามตา ที่เคารพอย่างสูง

ขอบคุณในความยินดี...จากคุณตัวกลมๆ ที่น่ารักค่ะ

นกมีเรื่องเล่า...ตอนที่ไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดมเหยงคณ์
มีโอกาสได้ไปบวชที่วัดนี้ในวันสำคัญต่างๆ เกือบ 10 ปีแล้วค่ะ



เรื่องที่ 1 ประสบกับตัวเองค่ะ คือได้ไปนั่งสมาธิที่โบสถ์นี้...
ตอนนั้นเป็นเวลา 9.30 น. วันนี้รู้สึกว่านั่งได้ประมาณ 10 นาที
จิตรวมดีมากค่ะกำหนดรู้ดูที่ลมหายใจเบาๆ สบายๆ ไม่เพ่งใดๆทั้งสิ้น
รู้แล้วปล่อย รู้แล้ววาง ไปเรื่อยๆ ลมหายใจเริ่มหายไป เกิดแสงสว่างวาบ
กลางหน้าผาก ก็พยายามประคองความรู้สึกตามแสงสว่างไป

ไปโผล่กลางทะเล ลงไปใต้ทะเล ไปโผล่ในถ้ำ มีรูปพญานาคเป็นหินแกะสลัก
เต็มสองข้างทาง ได้ยินเสียงน้ำไหล เริ่มได้กลิ่นไอเย็นๆ มากขึ้น มากขึ้น
ตามรู้ไปเรื่อยๆ เห็นเงาดำอยู่ไกลๆ ในถ้ำตัวใหญ่มาก กำลังจะตามเข้าไปดู

ว่าคืออะไร...ทันใดนั้นเสีนงระฆังดังขึ้น เป็นสัญญาณให้ทุกคนรวมกันเพื่อเข้าแถว
ทานอาหารเช้า ซึ่งที่นี่จะทานตอน 6.00 น.รอบที่ 1 เป็นข้าวต้มเบญจรงค์
(คือมี พืช 5 ชนิดจะเน้นมังสวิรัตค่ะ) รอบ 11.00 น. รอบที่ 2 พอหลังเที่ยง
ห้ามทานอะไรนอกจากน้ำ

เพื่อนที่ไปด้วยก็หวังดีกลัวว่าจะไม่ทันทานข้าวก่อนเที่ยง
เห็นนกไม่ออกจากสมาธิสักที ก็รีบเขย่าตัว ให้ออกจากสมาธิ
น่าเสียดายมากค่ะเลยไม่ได้เห็นภาพที่ชัดเจนเลย

เรื่องที่ 2 ยังรู้สึกสงสัยว่าเงาดำๆ ที่เห็นในถ้ำคือ อะไร ???
เช้าวันต่อมาก็ไปนั่งสมาธิที่เดิมค่ะ กราบอาราธนาคุณพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์ เรียบร้อยกำหนดจิตว่าง ทรงอารมณ์ความรู้สึกเหมือน
เมื่อวานเลยค่ะ จิตรวมได้อย่างรวดเร็วดีเหมือนเดิมค่ะ และที่สำคัญวันนี้มาคนเดียว
ยังไงต้องรู้ ต้องเห็นให้ได้ นั่งไปประมาณ 15 นาที ไม่เห็นอะไร

แต่สักพัก ได้ยินเสียงคนแก่ผู้ชาย บอกว่ารู้ในปัจจุบันว่าทำอะไรสำคัญ
ที่สุดแล้ว ที่จะนำพาให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด จะไปสนใจกลับอดีต
อยู่ทำไม ตอนนั้นรู้สึกสลดใจยังไม่บอกไม่ถูกค่ะ น้ำตาไหล

กำหนดจิตถามว่าท่านเป็นใคร ท่านก็มาปรากฎให้เห็น ในสมาธิ เป็นผู้ชาย
สูงอายุมาก นุ่งขาว ห่มขาว เล็บมือ เล็บเท้ายาวมาก ผมขาวยาว มีหนวดเครา
สีขาว คล้ายฤาษี ใบหน้าท่านอมยิ้มใจดีมาก

ท่านบอกว่า วิปัสสนากรรมฐาน ที่ศึกษาและปฏิบัติอยู่มาถูกทางแล้ว
เลิกเล่นฤกธิ์ เล่นเดช แวะดูนี่ โน้น นั้น ข้างทางได้แล้ว จะได้หลุดพ้นสักที
แล้วท่านก็หันมายิ้มให้ แล้วเดินหายเข้าไปในผนังโบสถ์ นกรู้สึกซาบซึ้ง
ในคำสอนของท่านมากค่ะ ก็เลยไม่ได้สนใจในภาพต่างๆ เสียง กลิ่น
ที่ปรากฎขึ้นในสมาธิอีกเลยค่ะ แต่พอจิตรวมทีไร ทั้งภาพ เสียง กลิ่น
ก็มาปรากฎทุกที วิธีแก้คือจะสูดหายลมหายใจเข้าลึก เข้ามารู้ที่ลมหายใจ
พิจารณาที่สังขารร่างกายที่เน่า เหม็น เต็มไปด้วยน้ำเลือด น้ำเหลือง
ย่อยสลายไป ลด ละ ปล่อย วาง พิจารณาไปเรื่อยๆ รู้สักแต่ว่ารู้
เห็นสักแต่ว่าเห็น ได้กลิ่นสักแต่ว่าได้กลิ่น ไม่เพ่งไม่ตาม ก็จะสามารถช่วยได้เหมือนกันค่ะ

(จะมีอยู่ช่วงนึงที่นกจะชอบพาเพื่อนๆ ไปที่บูธท่านอ.สามตาบ่อยมาก
วันนึงท่านก็บอกว่ามีพญานาคยาว 5 เมตรตามมาด้วย ให้นกบอกกับท่าน
ให้อยู่เฝ้าบ้านให้สบายไม่ต้องตามมา จึงถามอ.ต่อว่าเค้าตามมาทำไมคะ

อ.สามตาบอกว่า เค้าเคยเป็นลูกน้องเก่าของนก มีอยู่ชาตินึงที่นกเคยเป็น
พญานาค เป็นระดับหัวหน้า แล้วลูกน้องคนนี้เค้ารักเคารพนกมาก จึงตามมา
คุ้มครองในชาตินี้

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนา กับท่านอ.สามตา มากค่ะที่ช่วยไขปริศนา
ในการนั่งสมาธิที่โบสถ์ในวันนั้น...ว่าเงาดำๆ ที่เห็นคือ...อะไร สิ้นสงสัยแล้วเจ้าค่ะ สาธุ)

เรื่องที่ 3 ตอนคุณแม่ยังมีชีวิตอยู่...
เคยพาท่านมานั่งสมาธิที่โบสถ์นี้เหมือนกันค่ะ สักพักท่านบอกนกว่า แม่ขอกลับ
ไม่นั่งสมาธิต่อที่ที่พักนะ

ก็ถามแม่ว่าที่นี่เงียบสงบดี ทำไมล่ะ แม่บอกไปถึงที่พักแล้วจะเล่าให้ฟัง
พอไปถึงที่พักแม่บอกว่านั่งสมาธิที่นี่ แล้วเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทย
มาชวนแม่ให้ไปเอาสมบัติ แม่บอกไม่ไปจะนั่งสมาธิ

ผู้หญิงชุดไทยก็พยายามชุดกระชาก ลากดึงแม่ แม่ก็สู้ ยือกับผู้หญิงคนนั้นจนเหนื่อย
สักพัก ผู้หญิงคนเดิมก็วิ่งกลับมาพร้อมกับสร้อย แหวน กำไร
ส่งให้แม่ แม่ก็บอกว่าไม่เอา ฉันไม่ชอบของคนอื่น ฉันไม่เอาของใครทั้งนั้น

แล้วแม่ก็รีบออกจากสมาธิ คือปกติ แม่จะเป็นคนที่กลัวผีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พอนั่งสมาธิแล้วเห็นแบบนั้น เลยกลัวใหญ่เลย นกสังเกตเห็นว่าท่านเหนื่อย
และหน้าซีดมาก ก็เลยไม่ได้พาท่านไปที่โบสถ์อีก
ให้ท่านนั่งปฏิบัติในศาลาแทนค่ะ

(คุณแม่นกเสียไป 8 ปีแล้วค่ะ พอได้อ่านที่อ.สามตา บอกว่าเคยนับหีบสัมบัติ
ที่ฝังอยู่ใต้พื้นได้ 13 หีบ นกว่าใต้โบสถ์วัดนี้ต้องมีสมบัติอยู่มากมายเลยค่ะ
ถ้าอ.กลับไปที่อยุธยาอีกรอบ ช่วยแวะที่วัดนี้ด้วยนะคะ สาธุ)

 

เห็นรูปแล้วขนลุก ขนลุกมากมาย ว้าว! ว้าว! วัดนี้ถูกโฉลกแฮ่ะ

อยากไปปฏิบัติธรรมมั่ง รอเคลียร์งานอีกไม่กี่วัน ผมไปแน่นอน


ในรูปถ้าจ้องให้ดี มีเลขให้เห็น ชัดเจนมาก แจ่ม ๆ ชัด ๆ แต่...

เฮ้อ! เห็นแค่ตัวเดียว เป็นเลขสีทอง ขวา นะ ขวามือ (ใช้ทำไรหว่า)

 

ขอบพระคุณเรื่องเล่านะคะท่านอ.สามตา

ท่านพี่มังกรจะไปปฏิบัติธรรมจริงเหรอคะ? เอาเจ้ารูดี้ไปด้วยหรือเปล่า?

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ยิ่งอ่าน ยิ่งอยากอ่านต่อๆๆไปเรื่อยๆๆ;20
ข้อดีของคนเพิ่งเข้า คือ มิต้องรอต้นฉบับ อิๆๆ
สนุกมากๆเลยค่ะ อนุโมทนา
ขอบคุณทุกๆท่าน ที่เมตตา นั่งพิมเพื่อให้พวกเราได้อ่านกันค่ะ
สาธุ สาธุ :z4

 

จริง อย่าง ที่คุณ จิดา กล่าว

คน ที่เข้ามาใหม่ ๆ อ่าน ได้ เพลิดเพลิน ตั้ง ร้อยกว่า หน้า

สี่ห้าวันแรก อ่าน ได้ อย่าง สมใจอยาก....... ว่าง เป็น อ่าน
พอ อ่านหมด ... นะซิ

ทีนี้ ... คิดบ่นในใจ

อ. เขียน ช้า จัง ไม่ ทันใจ.......... 55

 

อยากไปเที่ยวอยุธยาจังเรย ๆๆ จังเรยๆๆ :z1

 

เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้ ตอนที่ 47
บนเส้นทางสู่ พระธาตุนาดูน มหาสารคาม
...................................................
ก่อนหน้านี้ สมาชิกขมรมคนตาทิพย์..ได้วางแผนจะเดินทางสำรวจ
ในอีกมิติ..บนเส้นทางสู่ ศรีมหาโหธิ์/ปราสาทหินสีชมภู/
ปราสาท สด๊อกก๊อกธม..เขต ปราจีณ และ สระแก้ว
แต่เกิด ความยุ่งยาก ทางการเมือง ระหว่างชายแดนกับ กำพูชา
จึงได้หยุด แผนเดินทางดังกล่าวไว้ก่อน
เมื่อใด ที่เหตุการณ์สงบ ลง...ก็ค่อย ว่า กันใหม่
......................................................
พอดี เห็นประกาศ..การมีงาน ฉลอง พระธาตุ นาดูนในช่วงจังหวะพอดี
และพักนี้ผู้นิยม สะสมพระเครื่องชุด " พระพิมพ์นาดูน"
มาให้ตรวจพลังกันมากผิดปกติ.
.และพบว่า พระเครื่องชุดพระธาตุนาดูน พลัง ค่อน ข้างสูง
มีคนเล่นกันมาก..มีความต้องการสูง ในตลาดพระเครื่อง
จนมีการขโมย ออกมาจาก พิพิธภัณฑ์.
.ออกมาเพื่อการจำหน่ายเช่า ในราคาสูงมาก
ตามที่เป็นข่าวเกรียวกราวใน หนังสือ พิมพ์ เมื่อไม่นานมานี้
...............................................................
ดังนั้น สมาชิกชมรม คนตาทิพย์
จึงวางแผนไป ตามเส้นทางสู่ " พระธาตุนาดูน มหาสารคาม
โดยออกเดินทาง ไป-กลับ วันเดียวเพราะ ไม่ไกลมากนัก
วันที่กำหนด คือ วันเสาร์ ที่ 27 กพ 2553
....................................................................

 

เสาร์ที่ 27กพ 2553..เราออกเดินทาง จาก สถานที่นัดหมาย บู๊ธ 042
ออก เวลา 7.00 น..ต้องออกเช้าหน่อย เพราะ ต้องแวะ หลายที่..
หลายที่ที่ เราจะแวะ..เราได้สำรวจล่าวงหน้าไว้แล้ว..ว่า น่าจะเป็นที่ใด
............................................................................
การสำรวจใชัวิธีส่งจิตสัมผัสทางไกล
โดยกางแผนที่ ที่ แสดงเส้นทางที่ จะต้องไป
พระธาตุนาดูน มหาสารคาม..ตามเส้นทางจะแสดง ตำแหน่ง ชื่อ วัด
และ สถานที่ที่ศักดิ์ สิทธิ์..ที่เรียงรายตามเส้นทาง
.................................................................
พอเราเอานิ้วแตะที่ตำแหน่ง นั้น เราจะรู้ทันที ว่า
สถานที่นั้นๆๆ เป็น อย่างไร..น่าแวะหรือ ไม่
ตามเส้นทางที่จะไป พบว่า มีอยู่มากกว่า 10 แห่ง
มีเพียง 5 แห่งเท่านั้น ที่ มีคุณค่า แห่งการ แวะ
.............................................................
ออกมาตามเส้นทาง ถนน พหลโยธิน...มุ่งสู่ สระบุรี
สังเกตุว่า ถนนที่กว้าง มีรถมาก ผิด ปกติ
พแดี คนนั่งหลัง อธิบายว่า..หยุดสามวัน ในโอกาส วันมาฆะบูชา
มีเสาร์- อาทิตย์ และ ชดเชยวันจันทร์..
เราก็เลยถึง บาง..อ้อ เขตบางพลัด
.......................................................................
7 โมงกว่า ..เรามาถึง แุถวประตูน้ำพระอินทร์
ประคูน้ำ พระอินทร์ เปลี่ยนไป มาก จาก อดีต
ที่เคยเป็นที่จอดของ รถ สิบล้อ ที่ ห้ามเข้า กทม ก่อน 3 ทุ่ม
ก็เลยมาจอดรอเวลา....ย่านนั้น จึงเต็มไปด้วยรถสิบล้อมาจอด
นับร้อยๆๆคัน ผู้คนที่เกี่ยวข้องมากมาย..
จึงเกิดกิจการร้านอาหารโต้รุ่ง...และบ้านโคมแดง..โสเภณีราคาถูก
........................................................................

 

รถเราชลอความเร็วลง...มองหาร้านขายอาหารเช้า..เพราะ ท้องร้องแล้ว
พบอยู่ร้านหนึ่ง ค่อนข้างใหญ่..มีรถจอดหนาแน่น.ทั้งด้านหน้า และด้านใน
ป้ายบอก ชื่อ "ร้านบ้านสวน"
เราเลยรถเช้ามาจอด ด้านใน ที่ ยังพอมีที่ว่างจอดรถได้ อีก 2-3 คัน
..........................................................................
เิดินเช้ามาใน ร้าน..
อ้อ... จัดเป็นสวนอาหาร..มีซุ้มกระจาย ทั้งข้าว/ ก๊วยเตี๋ยว/น้ำเต้าหู้..ฯลฯ
ที่ หนาแน่นคือ ซุ้ม ข้าวแกง..ผู้คนมุงกันเต็ม มาก กว่า 20-30 คน
ซุ้มอื่นๆๆ คนน้อย..แสดงง่า คนไทย ชอบกินข้าว..มากกว่า อย่างอื่น
............................................................................
มองๆๆ ดู มากันเป็น รถๆๆ ..เป็น ครอบครัว คันละ 3-7 คน
รวมๆๆ กันเลยแยะ....ที่มามุงร้านข้าว
ครอบครัวใหญ่ที่ มี คนแก่ และเด็ก ก็เข้าที่โตํะอาหาร หาที่นั่ง ที่ มีอยู่มากมาย
คนหนุ่มก็สั่งอาหารเป็นชุด ยกรวมถาดมาเสริฟ
..............................................................................
พวกหนุ่มสาว มาเป็นกลุ่ม แยะเหมือนกัน
ก็สไตล์ หนุ่ม-สาว คือ ตัวใครตัวมัน
สั่งอาหารราดเป็น จานๆๆ ตามที่ชอบ
..................................................
พวกเราเป็นคนแก่..ก็นิยม ทานแบบ กับข้าวเป็น ชามๆๆ
เอาข้าวมาต่างหาก...แต่มั่นใจในตัว..ไม่ยอม นั่งโต๊ะ
แต่ละคนสั่งตามตัวชอบ โดยไม่ได้ ถามกัน
พอกับข้าว มารวมกัน..ไอ๊ หย่า..มากมาย หลายอย่าง
จะกินกันหมด มั๊ยเนี๊ยะ..คนสามคน กับข้าว ห้าจานห้าอย่าง
............................................................
จึงต้องทนๆๆ ยัดเข้าปากไป....เพราะปากโลภมาก เกิน
สั่งมาอย่าง คือ ปลาทู ต้วงาม 2 ตัว อ้วนท้วนดี
อยากกิน เพราะ ไม่เจอ ปลาทู อ้วนๆๆ ตัวมันๆๆมานานแล้ว
.....................................................................
ไปตลาดซื้อ ปลาทูเข่ง ที่ ไร..พอทอดที กินไม่ลง
ที่กินไม่ลง เพราะ ในปัจจุบัน..ตามตลาด กลัวของเสียเร้ว
ต้องขายข้ามวัน ข้ามค้น จึงจะหมด..
เวลาต้ม จึงใส่เกหลือ ลงไปด้วย..เพื่อให้ความเค็ม รักษา ไม่ให้เสีย
.......................................................................

 

เราสั่งมาเฉพาะ ปลาทู..แต่ไม่สั่งน้ำพริก..จะราดน้ำปลาพริก หอมๆๆแทน
ไม่สั่งน้ำพริก เพราะ เกรงใจ คนนั่งรถมาด้วยกัน..
เพราะ ถ้าไปไหน ด้วยกัน เขาห้ามกิน น้ำหริก หรือ แกงใส่ปลาร้า
เพราะ เวลา เรอ หรือ ..เอิ๊ก ออกมา..กลิ่นเฉพาะตัวจะออกมาด้วย
.........................................................................
ยังคิดเลยว่า...ถ้าจะกิน ปลาทู หอมๆๆ เนิ้อ นิ่มๆๆ ไม่เค็ม เพราะเกลือ
ต้องไป ซื้อ ที่ ตลาดสด อตก จตุจักร
เคยลองเดินไป ดูมาแล้ว..โอ้โฮ!!!..ปลาทู ที่ ตลาด อตก
ตัวขนาด กลางหีิอ ไซด็ เอ็ม ( M )ตัวละ 50.- บาท
ถ้าไซด์ แอล ( L )ตัวละ 70.-บาท.
................................................................
ปลาทู ตัวงามมาอยู่ ตรงหน้า..ก็ลงมือ เอ๊ย!! ลงปากเลย
ว๊าว เค็ม ปิ๊ด เหมือน ปลาเข่ง ตามตลาดเลย..ไม่ผิืดเพี้ยน
จึงต้องกินคนเดียว ทั้งตัว...คนอื่นคงจะรู้แกว เลยไม่มีใครกินด้วย
เลยเสียต่าโง่ไป....อีกหนึ่ง ตัว อ้วนๆๆ ก็จะ ทิ้งไว้ในจานก็ จะเสียดาย
และอาจจะโดน เเเเเเจ้าของ ร้าน นินทาให้ ปวด ท้อง
" อาหารหายาก คนจนก็แยะ.
.ยังมีคนมาสั่งปลามาทิ้งขยะเล่นๆๆ... อวดรวยเสียอีก
.............................................................
ก็เลยต้องจำใจไปเอาถุงพลาสติคมา ใส่ปลา เอาออกมาด้วย
กะว่า กลางทาง..ถ้าไม่เจอ ร้านอาหารที่.ืั้ถูกใจ.
ก็จะกินปลาทู..ต้ม เหลือ .นี่ แหละหว่ะ
ไม่แบ่งใครด้วย..ฮึ่มๆๆ..ที่มามองว่า เราเสีย โง่
............................................................
(มีต่อ)

 

กำลังติดตามตอนต่อไปครับอาจารย์...

 

ข้าน้อย ขออนุญาติ แซว อ.ตาที่สามสักหน่อย
ตอนแรกว่าจะไปแซวถึงที่บูท ในวันพุธที่จะถึง แต่ก็กลัวว่าจะช้าไป

ได้นำยาแก้วจินดา ไปให้ อ. ๑ ห่อ
อ. แกก็ใจดีแจกอุตลุด แม้แต่หนู(ลูกน้องใครหว่า) ก็ยังได้ไป ๒ เม็ด

อยู่ๆ ห่อยาก็หายไปหาไม่เจอ เห็น อ.แกบ่นพึมพรำ ว่าข้างบนเก็บคืนเป่าหว่า
(แฮ่ะๆ... ของฟรีไม่มีในโลก)

สุวิเลยให้ อ.ท่านไปอีกหน่อยหนึ่ง(ท่านให้ค่าบูชาครูมาหลายอัฐอยู่)
อีคราวนี้ ท่าน อ. เลยไม่ยอมแจกของจริง เล่น COPY ใส่น้ำ ใส่เม็ดนม แจกอุตลุดเช่นเดิม

ตอนที่สุวิ ทำยาตัวนี้ได้สำเร็จ ด้วยความมึนๆ
เจ้าของสมุนไพรพิเศษ(ดอกแก้วจินตนา) ที่สุวิคว้าเอามาทำยาซะครึ่งแปลง ยังจะมาเอาตัวสุวิไปเป็นคนสวน ปลูกสมุนไพรต้นนี้ใช้คืนเขา
โชคดีลูกพี่ใหญ่ของสุวิ เจรจาความเมืองเก่ง ได้ต่อรองเขา ทำบุญส่งขึ้นไปให้แทน(ทุกครั้งที่ใช้ยา)

แต่นี่ อ. เล่น copy แจก อุตลุด
อ. นา อ.
ระวังนา ไม่รู้ของมีลิขสิทธิ์ หรือไม่
ถ้ามี เขามาขอเก็บค่าลิขสิทธิ์ทีหลัง ถ้าไม่มีจ่ายเขา อาจโดนฟ้องล้มละลายได้นา

อ. รีบๆไปเจรจาต่อรองเขาซะก่อนนา
แต่ระวังนา หากอีให้ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาอุทิศให้อีละก็ ถามให้แน่ใจนา

เดี๋ยว อ. รีบรับปาก ด้วยคิดว่า ปล่อยปลาซิวปลาสร้อย จะซักเท่าไร่เชียวว้า อย่างเก่งก็ให้ไอ้ช่อนตัวงามๆในตลาด เลย พอรับไหวน่า

พอเผลอรับปากอีไปแล้ว ซายด์คอนเทคเสร็จ
อีก็จะบอกว่า ชั้นอยากได้ปลาโลมากะปลาวาฬ นะ
ส่วนนก อีก็จะเอานกกินนรี ก้า นกครุฑ นะ

งานนี้รับรอง อ. เจ็กอักแน่(แปลว่าช้ำในจะ)

 

เรื่อง กฏหมาย ก็ เคย เรียนมาบ้าง

เค้า ก็มี นะ หลักสูตร กฏหมายระหว่างประเทศ

แต่ กฏหมาย ระหว่าง ภพภูมิ นี่ ไม่รู้ มีสอนที่ ไหน .... มหาลัย ราชภัทร มี เปล่า...
ใคร จบ ด้านนี้ มา ช่วย .... อ.สุวิ กับ อ.สามตา หน่อย.. เร้ว.....

เดี๋ยว พลาดพลั้ง ไป โดน ด.บ. แพงๆ
จะ ตัองรับ บท ครูน้อย... หาเงิน จ่าย ด.บ. ไม่ หวัด ไม่ ไหว..

 

เอ๊ะ เอ๊ะ .......... อ.สวิ .. เฉลย หน่อย ยาแก้ว จินดา นี้ เอาไว้ ทำอะไร

ลอดดู แล้ว แปลกๆ ไม่ แน่ใจ

มันมีพลัง แน่นๆ ถ่วงๆ ที่ ท้อง จะว่า เดินลมปราณ ก็ ไม่ ใช่
เหมืน ตอน เรา รับพลัง มากกว่า
เสริม สร้าง สุขภาพ หรือ อายุวัฒนะ หรือเปล่า

อ. สุวิ เฉลย ให้ หน่อย ว่า ยานี้ ดี อย่างไร..........
ขอบคุณครับ

 

ยานี้มี
สรรพคุณ ดั่งจิต จินตนา
กระสายยา บุญอันควรแก่โรค
วิธีใช้ ตั้งจิต อธิษฐาน บุญและยา (โปรแกรมยา)
ใช้แล้วอุทิศบุญให้เจ้าของยา และผู้ปลูกต้นยา

ดังนั้น ก่อนกิน ต้องโปรแกรมสรรพคุณยาก่อนใช้ ด้วยบุญ

ที่ดาวทะเลทรายได้ทดลองยา เป็นการทดลองที่ไม่มีการโปรแกรมยา
พลังยาจึงไม่รู้ว่าตนเองจะต้องทำงานอะไรบ้าง จึงไปอัดไปกองอยู่เฉยๆ

 

ข้า ฯ น้อย มิทราบ

ด้วย ความอยากรุ้ ก็ ดึงพลังยา มา ดู ... จึงได้ อาการ ดัง ที่กล่าว มา

........55

บัดนี้ ทราบแล้ว ... ขอบคุณ อ.สุวิ ... มากๆ ครับ

 

ระวังแกรมมี่ มาทวงถามค่าลิขสิทธ์การใช้ นา
ข้าน้อยมิได้หวงนา แต่
ตัวใครตัวเผือก วุ้ย

 

เดี๋ยวพรุ่งนี้แวะไปรับรูปที่บูทอาจารย์นะคะ ต้องเอามาสแกนใหม่ catt26
ก็อาจารย์สามตาท่านใจดี วันโน้นๆๆ(นานหลายวัน) พอสแกนว่าเจ้ากลมเป็นโน่นนี่นั่น
เลยเอายามาโฆษณาให้ว่ายาอ.suwiพัฒนาแล้ว ไ้ด้ยาดีมาก เราก็มองน้ำลายหก
เพราะเวลาเป็นอะไรแปลก ต้องเอายามิรู้ลืม(ชื่ออะไรจำมิได้แล้ว)มาสกัด ทุ่นแรงไปเยอะ
จินดามณี ชื่อไพเราะเชียว ขอแว้บไปดูกระทู้ปรึกษายาเสียหน่อย

เพราะว่ามีเคสที่เอายาไปให้น้าที่เป็นเนื้องอกที่มดลูก ถามอ.สามตาว่าต้องผ่ารึป่าว
ตอนนี้กินยา อ.suwiแล้ว อ.บอกว่ามีโอกาสไม่ผ่า พอคว้ารูปกลับ เลยถามเล่นๆว่า
น้าแกจะแก่ตายมั้ยเพิ่งจะ44ปีเอง ถามเล่นๆ แต่ว่าตอบแบบขนหัวลุก นับปีไม่ผ่าน
เลยนับเดือนไปตันตอนก่อนเดือนเกิด เลยนับวันให้อีก ง่ะ อีก 6เดือน ไม่ต้องผ่า
แล้วไหงมาเด้ดซะล่ะ อ.ว่าที่ตายน่ะไม่ลำบากหรอก หัวใจวายซะเฉยๆ แล้วก็แนะวิธี
ทำบุญให้ เจ้ากลมก็โทรไปบอกกับเขาตรงๆนี่แหละ เพราะเขาฝากมาให้ดู แล้วก็
ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง(คุ้นๆนะำคำนี้ ) คราวนี้จะได้ทำเสียที

พี่ดาวทะเลทรายทดลองแล้วเป็นไง ไม่เล่ามั่งล่ะคะ

 

ท่านหมอสุวิเพิ่งจะเปิดเผยวีรกรรมของอาจารย์สามตา แหมเสี่ยงต่อการกลายเป็นวีรชนไปซะแล้ว ตอนรับทราบเกี่ยวกับดอกไม้ครึ่งแปลงที่ท่านหมอสุวิไปเอาเค้ามาจนเกือบต้องไปเป็นชาวสวน(สวรรค์) วรรณนันท์ก็คิ๊ดๆๆๆว่าจะทำอะไรได้บ้าง พอดีโอกาสทำบุญผ่านเข้ามาเลยทำบุญไปเรื่อยๆ แล้วเรียนให้ท่านหมออนุโมทนาไปเรื่อยๆ ขอให้อาจารย์สามตาอนุโมทนาในกุศลผลบุญกับวรรณนันท์ด้วยนะคะ<O</O
ร่วมทำบุญบวชพระแสนรูป<O</O
ร่วมทำบุญในการจัดอบรมพระที่บวช 49 วัน<O</O
ถวายสมเด็จพระมหาธีราจารย์เนื่องในวันคล้ายวันเกิดท่านเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา<O</O
ถวายปัจจัยพระที่อุปปัฏฐากเป็นรายเดือน 2 รูป<O</O
ร่วมสร้างพระประธานในโบสถ์ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิชื่อพระพุทธรัตนสัมมาสัมโพธิญาณ ซึ่งจะประดิษฐานที่วัดโพธิญาณรังสี จังหวัดสุรินทร์
<O(รายการนี้น่าสนใจเพราะเททองเสาร์ห้าเลยนะเนี่ย)
วันศุกร์ที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๓– พิธีบวชชีพราหมณ์ พระสงฆ์และชีพราหมณ์ สวดอิติปิโส ตลอดคืน
วันเสาร์ที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓- พิธีบวงสรวงเทพเทวา และพิธีเททองหล่อพระพุทธรัตนสัมมาสัมโพธิญาณ<O</O
(ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5)
วันอาทิตย์ที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๓- พิธีถวายองค์พระพุทธรัตนสัมมา สัมโพธิญาณ และพิธีทอดผ้าป่า<O</O
</O
ร่วมสร้างห้องน้ำและมุงหลังคาโบสถ์วัดโพธิญาณรังสี<O</O
ร่วมมุงหลังคาวัดสว่างอารมณ์ที่จัดหวัดอุบลราชธานี<O</O
ร่วมทำบุญกับสถาบันวิมุตตยาลัย ของท่าน ว. วชิรเมธี
<O</O

 

หรือเราจะทดลองโปรแกรมยา ภายหลังได้เหมือนกันนะครับจารย์ พอกลืนยาลงท้องเสร็จ

สูดลม(ปราณ)เข้าจมูก พอรู้สึกลมตกถึงท้อง นึกสมมุติให้กองลม พัดพากระจายพลังยา

ไปยังจุดที่เจ็บป่วย ใช้ได้เหมือนกันครับ


ยาแก้วจินดา มามะ มามา , มามะ มามา , วิ่งเป็นระลอกคลื่น โฮเฮะ! หลังเท้าเย็นเฉียบ

พวงกุญแจมังกรเย็นฉ่า ปลายนิ้วมือเย็นเจี๊ยบ กลางท้องหนาวเหน็บ ผ่านคอ ขึ้นจมูกด้านหน้า

วิ่งออกกระหม่อมเฉย แต่.........จุดที่อยู่เหนือท้ายทอย(ด้านหลัง) ติดขัดเล็กน้อย

ถือว่าเป็นยาวิเศษ 95 %


รักษาได้ทั้งโรคที่เกิดจากกายทั่วไป โรคที่เกิดจากการฝึกปราณ หรือพลัง สามารถช่วยหนุน

ทะลวงจุดชีพจร/จักรระ ให้ง่ายขึ้น