เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

“..คิดว่าอะไรเราจะเกิดขึ้นมากับร่างกายก็ตามที
และอะไรจะเกิดขึ้นมากับอารมณ์ก็ตาม ถือว่าช่างมัน
มันธรรมดาของมันเป็นอย่างนั้น..”

คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

กิเลส แปลว่าความชั่วที่เข้ามาถึงจิต ทำจริตจริยา
ของเราให้เศร้าหมอง คือเลว อาการของคนเราที่จะดี
จะชั่วนี่ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าอยู่ที่ใจโดยเฉพาะ
ถ้าใจดีเสียอย่างเดียว กายวาจาก็ดีด้วย ถ้าใจเลว
เสียอย่างเดียว กายวาจาก็เลวด้วย นี้คำว่าที่สุดของ
ความทุกข์ ก็คือว่าจิตหมดความชั่ว เมื่อจิตหมดความ
ชั่ว จิตก็ไม่สั่งงานชั่วมันทางกายและวาจา เมื่อความ
ชั่วไม่มี ความทุกข์ใจมันก็ไม่มี หมดเรื่องกันไป

จาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๓ หน้า ๖๙



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

หากว่าท่านทั้งหลายจะบอกว่าบารมีที่ข้าพเจ้าสร้าง
มาน้อยเต็มที ไม่สามารถจะเป็นพระอรหันต์ได้ ถ้า
หากว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายคิดอย่างนี้ก็
ขอโปรดประทานอภัยกลับใจคิดเสียใหม่ คิดว่าถ้า
เราไม่เคยมีบุญบารมีที่เคยสะสมไว้ เราจะพอใจใน
คำสอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัม
มาสัมพุทธเจ้าไม่ได้

จาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๓ หน้า ๑๘



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

การให้ธรรมเป็นทานชนะทานทุกอย่าง

การถวายทานนี่มีอานิสงส์ไม่เสมอกัน ถวายทาน
เป็นส่วนบุคคลก็มีอานิสงส์ตามลำดับ ก็ขอตัดเอา
ขั้นสูงเลย ที่ท่านบอกว่า ถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง
มีผลไม่เท่ากับถวายวิหารทานหนึ่งครั้ง และต่อมา
ท่านต่อว่า สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ การให้
ธรรมเป็นทานชนะทานทุกอย่าง ก็หมายความว่า
การสร้างหนังสือธรรมะ การให้วิชาความรู้ หรือว่า
บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทที่สอนธรรมะแก่คนก็ดี
สอนกรรมฐานแก่คนก็ดี นี่เป็นธรรมทาน สอนกรร
มฐาน เป็นทานขั้นสูงสุด

โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
( ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๓๙ หน้า ๕๗ )



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ต้องพิจารณาก่อนให้

การให้ทานพระพุทธเจ้าบอกว่าอย่าให้เบียดเบียน
ตัวเอง ถ้าเบียดเบียนตัวเองเป็น อัตตกิลมถานุโยค
เป็นการทรมานตัว และการให้ทานพระพุทธเจ้าให้
ดูอีกว่าควรให้หรือไม่ควรให้ ถ้าให้ในเขตของคน
เลว อานิสงส์ก็น้อย อาจจะไม่มีเลย รู้ว่าคนนี้ควรจะ
ให้เราก็ให้ ถ้าไม่ควรให้เราก็ไม่ให้ ให้แล้วไปกิน
เหล้าเมายา ไปสร้างอันตรายกับคนอื่นเราไม่ให้ดี
กว่า เป็นการต่อเท้าโจร ให้พลังแก่โจร

โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
(ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๗ หน้า ๘๗)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“ถ้าพูดถึงทำบุญบอกว่าสตางค์ไม่มี แต่ความจริง
การทำบุญไม่ต้องใช้สตางค์ก็มี แล้วก็มีอานุภาพ
มาก มีอานิสงส์หนัก นั่นก็คือการภาวนา”

ธัมมวิโมกข์ฉบับ ๑๑๖ หน้า ๙๘



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“..มันมีเรื่องในพระไตรปิฎกว่า มีวันหนึ่ง มีนางฟ้าคน
หนึ่ง มาจากชั้นนิมมานรดีชั้นที่ ๕ ลงมาเยี่ยมพี่สาวที่
ชั้นดาวดึงส์ พี่สาวเวลาถวายทาน ชอบถวายทานเป็น
ส่วนบุคคล แต่น้องสาวก็อยากถวายทานเป็นส่วนบุค
คลเหมือนกัน แต่ว่ามีพระอรหันต์ท่านหนึ่ง ท่านแนะ
นำว่า ถวายทานเป็นส่วนบุคคล แม้จะเป็นพระอรหันต์ อานิสงส์ก็มาก แต่ว่าอานิสงส์สู้ถวายสังฆทานไม่ได้
สังฆทานอานิสงส์มากกว่ามาก ท่านแนะนำว่า ควรถว
ายเป็นสังฆทาน น้องสาวก็เลยถวายสังฆทานเรื่อยมา

ต่อมาเมื่อตายแล้ว พี่สาวที่เคยชอบถวายทานเป็นส่ว
นบุคคลนะ พระองค์นั้น พระองค์นี้ ฉันชอบ ก็เลยไป
เกิดเป็นนางฟ้าชั้นดาวดึงส์ มีวิมานสูงใหญ่มาก สวย
มาก แต่ว่าน้องสาว เมื่อตายจากความเป็นคน ก็ไปเกิด
ชั้นนิมมานรดี มีวิมานสวยกว่า เครื่องประดับประดา
สวยกว่า แสงสว่างมากกว่า”

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง)
(ธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๑๐๐ หน้า ๒๙)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ทำบุญอย่างไรรวยเร็ว

ผู้ถาม :: “ทีนี้มีคำถามอีกว่า จะทำบุญทำกุศลอย่างไร จะปฏิบัติอย่างไร จะให้เจ้าที่เจ้าทางจะได้มีความ
ศักดิ์สิทธิ์ จะได้ช่วยสงเคราะห์กระฉับกระเฉง
กระชุ่มกระชวย รวยเร็ว มีไหมขอรับ…?”

หลวงพ่อ :: “มี ๑. สร้างทิพจักขุญาณให้เกิดขึ้น
ประการที่ ๒. พบท่านเสมอทุกวัน
ประการที่ ๓. ถามความต้องการของท่าน
ประการที่ ๔. ถามถึงความสามารถของท่าน
ประการที่ ๕. ปฏิบัติตามที่ท่านสั่ง แค่นี้แหละ และ
ก็จะสบาย ท่านจะบอกทั้งเหตุทั้งผล เมื่อไรก็ยังไม่
สามารถที่จะแก้ไข ท่านจะบอกว่ายังไม่ได้ ตอบ
ได้เมื่อนั่น เมื่อนี่นะ เอาแน่นอนกัน”

ตอบปัญหาธรรมโดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
(ธัมมวิโมกข ์ฉบับที่ ๑๓๐ หน้า ๒๘)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ฉะนั้นทุกคนเวลาทำบุญให้ปรารภอย่างนี้ อย่าว่าตาม
เขานะ บางคนเขาว่าทำบุญด้วยวัตถุ ไม่มีความหมาย
ไอ้นี่อย่าไปเชื่อเขา เราทำบุญทุกอย่างทำให้หนัก แต่
อย่าใช้เงินให้มาก ใช้เงินมากเกินไปเดือดร้อน ทำน้อยๆ ทำบ่อยๆ แต่กำลังใจเต็ม อันดับแรกต้องถือว่าเราต้อง
การไปนิพพาน ถ้ายังไม่ถึงนิพพานพักอยู่สวรรค์หรือ
พรหมโลก มันจะพักเองไม่ต้องหวัง ในเมื่อกำลังใจเดิม
ต้องการนิพพาน ไปเป็นเทวดาหรือพรหมก็หวังนิพพา
นต่อไป มีหวังไปได้นะ

โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
(ธัมมวิโมกข ์ฉบับที่ ๑๐ หน้า ๓๒)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ถ้ายังปรารภคนอื่นว่าดีหรือชั่ว แสดงว่าเรายังเลวมาก ถ้าเราไม่เลว เราก็ไม่เห็นความเลวของคนอื่นหรอก ถ้าเราเห็นความเลวของบุคคลอื่นมากเพียงไร แสดง
ว่าเรา เลวมากเพียงนั้น

โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม

ธัมมัสวนานิสงส์ นี่เป็นบาลีหมายความถึง อานิสงส์
แห่งการฟังธรรม ๕ อย่าง อานิสงส์นี่หมายถึงว่า ผล
ที่เราจะพึงได้จากการฟังธรรม ถ้าขืนบอกอานิสงส์ๆ เดี๋ยวไม่รู้อานิสงส์เป็นยังไง อานิสงส์นี่ก็คือผล ผลที่
เราจะได้จากการฟังธรรมนี่เรียกว่า อานิสงส์การฟัง
ธรรม
๑. ผู้ฟังย่อมได้ฟังในสิ่งที่ไม่เคยฟัง ไม่ยากนะ
๒. สิ่งใดที่เคยฟังแล้วแต่ไม่เข้าใจชัด ถ้าเราฟังซ้ำก็
เป็นเหตุให้เราเข้าใจชัดขึ้น
๓. บรรเทาความสงสัยนี่ได้ ถ้าเราสงสัยอยู่บังเอิญได้
ฟังจุดนั้น สิ่งนั้นที่เราสงสัยเราก็คลายความสงสัย
ได้
๔. ทำความเห็นให้ถูกต้องได้ ก็หมายความว่า ถ้าเขา
ฟังเทศน์ตรงไปตรงมา บังเอิญความเห็นของเรา
ไม่ตรงไม่ถูกไม่ต้อง ก็สามารถจะแก้ความเห็นให้
ถูกต้องได้
๕. จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส หมายความว่าในขณะที่
เราฟังธรรมอยู่นี่ จิตมันว่างจากกิเลสเรียกว่าอา
รมณ์ผ่องใส

โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๔๘ หน้า ๖๖-๖๗)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

โมทนาย้อนหลัง

ผู้ถาม : “กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกได้
อ่านหนังสือที่มีรายชื่อทำบุญต่างๆ เมื่อ ๑๐ ปีบ้าง
๑๐๐ ปีบ้าง ปรากฏว่าชื่นอกชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก
เลยนั่งยกมือไหว้โมทนาไปอย่างนี้เรียกว่าเป็นปัตตา
นุโมทนามัยหรือไม่ เพราะลูกเห็นว่านานเกินไป
จำต้องเรียนถามหลวงพ่อเพื่อความแน่ใจ”

หลวงพ่อ : “เป็น เป็นปัตตานุโมทนามัย เขาเรียกว่า
โมทนามัยขั้นลายคราม หลายร้อยปีแล้วนี่นะ ได้นะ
มีผล ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ โมทนาหมายความว่ายินดีด้ว
ยใช่ไหม มัย แปลว่า สำเร็จ โมทนามัยสำเร็จด้วย
ความยินดี ในเมื่อเรายินดีในการกระทำด้วยความ
ดีของใคร เชื่อว่าผลนั้นสนองผล แต่ว่าจะนานเท่า
ไรก็ช่าง บุญไม่สลายตัว”

หลวงพ่อตอบ ปัญหาธรรม (ธัมมวิโมกข์ฉบับ ๙๘)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“บาปถึงแม้มันจะกลั่นแกล้งขนาดไหนก็ตาม แต่ว่าเรา
มีกำลังบุญสูง คือว่าคล้ายๆ กับสุนัขไล่กัด ถ้าเราวิ่งเร็ว
มันก็กัดไม่ทัน ถึงกัดทันก็กัดไม่ถนัด”

พระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“คนที่ด่าเราว่าเรา ทำให้เราไม่ชอบใจ เขาเลว เราจง
อย่าเลวมากกว่าเขา ถ้าเราไม่ยอมรับซะเพียงใด เขา
ก็เลวแต่ผู้เดียว”
..หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

เราต้องการคนสวย เราต้องการคนแข็งแรง มีร่างกาย สมบูรณ์ แล้วใครคนไหนที่มันสวยมันสมบูรณ์ทรง
ตัวบ้าง เขาแก่ให้เป็นตัวอย่าง เขาทุกข์ให้เป็นตัวอย่าง คนเดียวก็ทุกข์ หาคู่ครองเข้ามามันก็เพิ่มทุกข์ ในที่
สุดมีลูกมีหลานมันก็ทุกข์มาก เลอะเทอะไม่ได้ความ
ตายด้วยกันทั้งหมด เอาของสกปรกเข้าไปกก ของ
สกปรกมันก็เพิ่มความสกปรก เอาทุกข์เข้าไปร่วม
ทุกข์ มันก็บวกทุกข์คูณทุกข์ ผลที่สุดก็ตายด้วยกันมี
ประโยชน์อะไร

โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จาก ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๓๘



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

สุขหรือทุกข์นี่มันอยู่ที่ใจ เพราะว่าใจมันเกาะจะให้มัน อยู่อย่างนั้น นั่นมันเป็นอาการของความทุกข์ ในเมื่อ
มันไม่อยู่ด้วย ถ้าใจเราปล่อยก็ถือว่านี่เป็นเรื่อง
ธรรมดาของขันธ์ ๕ มันก็ไม่มีอะไรเป็นทุกข์
ขันธ์ ๕ ของเรา ขันธ์ ๕ ของเขา ขันธ์ ๕ ของสัตว์ มัน
จะเป็นอย่างไรก็ช่าง ถือว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา วาระ
มันเข้ามาถึงมันก็เป็นอย่างนั้น ทรงใจให้มันเป็นปกติ
อย่างนี้มันก็หมดอาการของความเป็นทุกข์
สรรพวัตถุต่างๆ ที่เรามีมันขึ้นมา มันมีการเกิดขึ้น มัน
มีการเสื่อมตัว และก็มีการสลายไปในที่สุด
ถ้ามันสลายตัวจริงๆ เราเกาะมันหรือเปล่าล่ะ
ถ้าอารมณ์ยังเป็นทุกข์ก็แสดงว่าเราเกาะมัน
ถ้าอารมณ์เป็นทุกข์ไม่มี ก็แสดงว่าเราไม่ได้เกาะมัน
แล้วก็จะไปเกาะมันทำเกลืออะไร สภาวะของมันต้อง
เป็นอย่างนั้น ก็ปล่อยมันไปตามนั้น มันอยากจะ เป็น
อย่างไรก็ช่างหัวมัน มีความรู้สึกไว้ก่อนเสมอว่า มันจะ ต้องเป็นอย่างนั้น

ธรรมโอวาทหลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ (ที่ตั้งแห่งบุญ, ทางทำความดี)

การที่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายได้พากันมา
บำเพ็ญกุศลบุญราศีในโอกาสนี้ ก็เพราะว่ามีความมั่น
ใจในคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดา
ว่าผู้ปฏิบัติตามจะเป็นปัจจัยให้มีความสุข
สำหรับการที่จะบำเพ็ญกุศลในศาสนาขององค์
สมเด็จพระทศพลบรมศาสดานี้ สมเด็จพระชินสีห์ทร
งเรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ
สำหรับบุญกิริยาวัตถุนี้ สมเด็จพระบรมศาสดาตรัส
ไว้โดยพิสดาร ๑๐ อย่างด้วยกัน
๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ปันสิ่งของ
๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีลหรือประพฤติดี
๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการภาวนาคือฝึกอบรม
จิตใจ
๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยการประพฤติอ่อนน้อม
๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยขวนขวายรั
บใช้
๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการเฉลี่ยส่วนแห่งควา
มดีให้แก่ผู้อื่น
๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยยินดีในความดีข
องผู้อื่น
๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรมศึกษาหา
ความรู้
๙. ธัมมัสเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการสั่งสอนธรรมให้
ความรู้
๑๐. ทิฎฐุชุกัมม์ บุญสำเร็จด้วยการทำความเห็นให้ตรง
แต่โดยย่อมี ๓ อย่าง จะกล่าวเฉพาะโดยย่อ คือ
หนึ่ง ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
สอง สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
สาม ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา

(รวมคำสอนธรรมปฏิบัติของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
เล่ม ๗ หน้า ๒๕๖)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

” พ่อรักลูก ทุกคนมาก ”

พระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

จิตใจของชาวโลกียวิสัยยังมีความโกรธ ยังมีความหลง
ยังมีความปรารถนาต่างๆ ก็เหมือนกับคนธรรมดา
แต่ว่าคนธรรมดานี่ไม่รู้จักแบ่ง ถ้าลองโกรธใครแล้วก็
โกรธหามรุ่งหามค่ำ ไม่รู้จักแบ่งเวลา ไม่รู้จักวาง วางไม่
ลง มีแต่จะแบกให้มากเข้า โกรธเท่านี้อยากจะเพิ่มความ
โกรธให้เท่าโน้น แต่พวกที่ได้ฌานนี่เขาโกรธใครเขา
เกลียดใคร เขารักใคร เขาทำอะไรใคร เขามีแบ่งเวลา เวลาที่เขาจะทำงานเขาก็เอาของอื่นวางไว้ก่อน
เหมือนกับคนที่หาบของมาบนบ่า แต่เวลาที่เราจะต้อง
การจะกินน้ำจะพักผ่อนเราก็เอาของนั้นวางทิ้ง นั่งก็ได้
นอนก็ได้ กินน้ำอาบน้ำได้ นี่เป็นความฉลาดของเขา
ซึ่งตรงกันข้ามกับคนโง่ซึ่งไม่ยอมวางอะไร จะอาบน้ำ
ก็แบกหาบลงไปด้วย

พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดํา)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“ก่อนจะตายไอ้โน่นก็ของกู ไอ้นี่ก็ของกู เวลาเขา
ตายจริงๆ น่ะเขาแบกอะไรไปได้บ้าง”

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง