เชื่อหรือไม่เราเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานในจักรวาลนี้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย กลายแก้ว, 1 ตุลาคม 2013.

  1. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    เชื่อหรือไม่ ว่าผมเลิกเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานจักรวาลแล้ว นะจ๊ะ
     
  2. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    พลังงานจักรวาลมีขั้วบวกขั้วลบ ดวงจิตเรามีขั้วบวกขั้วลบที่เป็นตัวเชื่อมต่อกับจักรวาลในสถานะ ผู้รู้ ดังที่หลายคนถอดจิตออกไปรู้จักรวาลได้ อยากหลุดพ้นจากวัฏจักรก็คือ ดับพลังงานในจิตนี้ นะจ๊ะ ทำลายตัวผู้รู้ ทำลายอวิชชา นั่นเอง นะจ๊ะ
     
  3. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    รับสอนทำลายจิตอวิชชาฟรีนะจ๊ะ
    รันสอนดับอวิชชาธาตุฟรีนะจ๊ะ
    ของแท้ต้องฟรีเท่านั้นนะจ๊ะ
     
  4. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ที่สุดของคำสอนของพระพุทธเจ้าคือ มรรคแปด สัมมาทั้งแปด ความเป็นกลางทั้งแปด ก็เหมือนดับไฟในตน ดับขั้วบวกดับขั้วลบในตนให้เป็นกลาง เป็นธรรมชาตเหมือนต้นไม้ที่ไม่ได้สุขไม่ได้ทุกข์กับเรื่องของโลกเลย
     
  5. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    เมื่อดับขั้วบวกขั้วลบในรูปนามได้ ก็คืออิสระจากสมมุติทั้งปวง
    เมื่อดับจิตอวิชชาได้ ก็คือดับการรับรู้ความปรุงแต่งความไม่เที่ยงของจักรวาลนั่นเองนะจ๊ะ พ้นจากพลังงานจักรวาล พ้นจากวงจรวัฏสงสารนะจ๊ะ
     
  6. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ให้บริการ ดับจิตอวิชชา ฟรีนะจ๊ะ
    จริงไม่จริงพิสูจน์ได้นะจ๊ะด้วยตนเองนะจ๊ะ
    นะจ๊ะ นะจ๊ะ และ นะจ๊ะ
     
  7. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ขั้วบวกขั้วลบก็คือพลัง พลังที่เคลื่อนได้ ไม่เที่ยงได้ มาจาก ความอยากนั่นเองนะจ๊ะ ความอยากที่เรียกว่าตัณหาทั้งหลายนั่นแหล่ะนะจ๊ะ เกืดจากความไม่รู้นะจ๊ะ
    ที่เหลือก็ มาหาผมได้นะจ๊ะ
     
  8. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634


    ขอถามคุณวงกลมจุดจ๊ะ

    1.การทำลายอวิชชาธาตุซึ่งก็คือ ดวงจิตหรือผู้รู้นี้ได้ ก็คือ การเข้าไปรู้ความเป็นจริงอนัตตาที่เกิดกับกายใจของเราเท่านั้น โดยรู้ความเป็นจริงจากธรรมธาตุที่อยู่ในกายใจเรา ซึ่งเป็นอมตะธาตุที่รู้สภาวะนิพพานอยู่แล้ว ใช่หรือไม่จ๊ะ

    2.สภาวะนิพพานธาตุมีอยู่ในกายใจของเรา ซึ่งการจะเข้าไปรู้เห็นได้ ต้องเดินตามมรรคมีองค์แปด โดยตัวที่สำคัญที่จะทำให้เห็นได้ หรือ สัมมาทิฐิ ใช่ไหมจ๊ะ

    3.การวัดว่าการเข้าใกล้ถึงสภาวะนิพพาน ไม่ใช่วัดกันที่ระยะทาง วัดกันที่น้ำหนักของสติใช่ไหมเอ่ย

    4.แล้วการเข้าไปรู้เห็นอนัตตา โดยมีตัวสติเป็นตัวนำพาเข้าไปหาเห็น แล้วได้ความรู้จากภายใน ได้แสงสว่าง ได้ความจริงคือจากภายในตัวเราเอง

    โดยเกิดจากการหาพิจารณาให้เห็นอนัตตา(สัมมาสังกัปปะ)ความจริงกายใจของเราใช่ไหมนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2013
  9. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253


    ดังนั้นแล้ว สิ่งสำคัญ ก่อนที่จะ เข้าใจในสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิบายก็คือ
    การเข้าถึง ไตรลักษณ์ จริงๆ ก็คือ การวางกายไม่ทุกข์กับกายได้แล้ว การวางเวทนาไม่ทุกข์กับเวมนาได้แล้ว การวางจิตวางใจ ไม่ทุกข์กับความคิดหรือใจได้แล้ว เมื่อวางกายเวทนาจิตใจ ก็เหมือนวางความเป็นโลกได้ไม่ทุกข์กับโลก ก็เหมือน คนตายที่ไม่ทุกข์กับโลก ก็เหลือตัวสติตัวผู้รู้ นั่นเอง ที่ ต้อง รู้ความจริงของมันให้ได้ นะจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2013
  10. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    การวางกายวางเวทนาวางจิตใจ เหมือนการตายจากโลก ไม่ทุกข์กับโลก
    การเข้าถึงอนัตาธรรมของสติตัวผู้รู้ เหมือนตายจากภพภูมิ
    เหมือนเป็นการตายสองรอบ นะจ๊ะ
    แล้วร่างเดิมที่ยังไม่ตาย ก็ จะ ถ้าไม่นั่งนิ่งจนตายเพราะไม่กินข้าวกินน้ำภายในเจ็ดวันนิพพานตายจริงรูปนามดับสลาย
    หรือไม่ ก็ ต้อง เรียนการใช้มรรค เพื่อให้เข้าถึงความเป็น มนุษย์ผู้ประเสริฐ นะจ๊ะ
    เพราะสิ่งที่ผมถูกสอนมา นั้น ก็ เพื่อความเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐนะจ๊ะไม่ไช่ เพื่อนิพพาน
    ความปรารถนาของผมคือ ความพ้นทุกข์จากโลก ไม่ทุกข์กับโลก ไม่ไช่นิพพาน แต่อย่างใด
    มันก็เลย แตกต่างนิดหนึ่งนะจ๊ะ เพราะที่ผมต้องการคือไม่อยากทุกข์เพราะความคิดความจำได้ ไม่อยากมีความคิดไม่อยากตื่นมาแล้ว คิดนั่นคิดนี่ จำนั่นจำนี่มาคิด นั่นเองนะจ๊ะ
     
  11. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ความปรารถนาของผม ไม่ไช่แค่พระนิพพาน ดับจิตดับภพภูมิเท่านั้น
    แต่ผมต้องการ มีชีวิตแบบไม่ ทุกข์กับความคิดไม่ทุกข์กับความจำได้ไม่ทุกข์กับโลก นะจ๊ะ
    ดังนั้นสิ่งที่ผมรู้นี้ก็ เลย เป็น อนุพุทธะคือ รู้สิ่งเดียวกันเหมือนที่พระพุทธเจ้ารู้ แต่ไม่จำเป็นต้องรู้มากเท่า อนุพุทธะ คือ ผู้รู้ตาม ไม่อาจเทียบเท่า ท่านได้ นะจ๊ะ ที่จริงใครที่หมดสิ้นความอยาก มันก็ ไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากมายหรอกจ้า แค่ ไม่มีความอยากได้ ก็พอเองจ้า
     
  12. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    และสิ่งที่ผมรู้ ตามที่ท่านอาจารย์สอนมาก็คือ

    1.ทุกคนต้องการพ้นทุกข์ จากอนิจจังทุกขังอนัตตา ทุกสิ่งไม่เที่ยง เคลื่อนบังคับไม่ได้ เป็นทุกข์ แต่ที่ผมรู้ก็คือ ก็มันไม่เที่ยง มันเคลื่อน บังคับไม่ได้ จะไปหลงทุกข์กับมันทำไม ที่มันไม่เที่ยง ที่มันเคลื่อน ที่มันเปลี่ยนแปลง ที่มันพริ้วไหว นั่นแหล่ะ คือ ธรรมชาติที่สวยงาม เมื่อรู้ความจริงและยอมรับความจริง ก็จะนำสุขมาให้ จากโลกที่เป็นตัวทุกข์ ก็มาเป็นโลกที่ไม่ได้เป็นตัวทุกข์ ที่เคยทุกข์เพราะเราไม่รู้ความจริง จากการไม่ยอมรับความจริง พยายามฝืนธรรมชาตินั่นเอง

    2.ดังนั้นสิ่งที่รู้อีกก็คือ เหตุแห่งทุกข์ เพราะการใช้ชีวิตไม่เป็น นั่นเอง นะจ๊ะ เลยไม่พากันอริยะ ไม่พากันมีชีวิตแบบมนุษย์ผู้ประเสริฐกันเอง

    3.ทุกคนต้องการ ความสุข แต่เพราะไม่เข้าใจในความสุข ที่แท้จริงตามธรรมชาติก็เลย เข้าใจว่าความสุขคือ เหตุแห่งทุกข์ ซึ่งมันไม่ไช่เลยนะจ๊ะ เหตุแห่งทุกข์คือ ใช้ชีวิตไม่เป็น ต่างหาก เช่นการกิน ถ้ากินแต่พอดีก็อร่อย ถ้ากินแล้ว เป็นทุกข์แสดงว่ากินไม่เป็น ไม่ถูกต้อง นั่นเองนะจ๊ะ
     
  13. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    โอวาทปาฏิโมกข์ คือหัวใจสำคัญ มากนะจ๊ะ
    1.การไม่ทำบาปทั้งปวง ก็คือ ถ้าเป็นธรรมชาติแล้ว จะไม่ทำเลยนะจ๊ะ
    2.การทำกุศลให้ถึงพร้อมก็คือ หิริโอตัปปะ เมตตาธรรมค้ำจุนโลก พ้นจากข้อ1 แล้ว
    3.การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ คือ ไม่มีอุปาทาน ไม่มีอวิชชชา เป็นมรรคผลนิพพาน แล้วนั่นเองนะจ๊ะ

    ยังมีอีกนะจ๊ะ
    ขันตี ปะระมัง ตะโป ติติกขา,
    ขันตี คือความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง;(อดทนได้เพราะ มีบัวสี่เหล่า อดทนต่อผู้ที่ยังไม่รู้)

    นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา,
    ผู้รู้ทั้งหลาย กล่าวพระนิพพานว่าเป็นธรรมอันยิ่ง;(ธรรมสุดท้ายที่ควรรู้ก็คือ อนัตตาธรรมรู้อนัตตาธรรมทำให้นิพพาน)

    นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี,
    ผู้กำจัดสัตว์อื่นอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิตเลย;(กำจัดคือ จิตไม่เมตตา)
    (บรรชิต นักบวช หรือสมณะ หมายถึงมนุษย์ผู่ประเสริฐ)

    สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต.
    ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย.(เบียดเบียนเพราะตัณหา)

    อะนูปะวาโท อะนูปะฆาโต,
    การไม่พูดร้าย, การไม่ทำร้าย;(ทั้งกายกรรมวจีกรรมมโนกรรม)

    ปาติโมกเข จะ สังวะโร,
    การสำรวมในปาติโมกข์;(สำรวมเวลาอยู่ท่ามกลาง คนอื่น)

    มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสมิง,
    ความเป็นผู้รู้ประมาณในการบริโภค;(คือการเสพทางผัสสะทั้งหลาย)

    ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง,
    การนอน การนั่ง ในที่อันสงัด;(ไม่อยากให้มีใครรบกวนก็ หาที่สงบเอง)

    อะธิจิตเต จะ อาโยโค,
    ความหมั่นประกอบในการทำจิตให้ยิ่ง;(คืออยู่กับอานาปาณสติเป็น)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2013
  14. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    อ่านคำตอบแล้ว ท่านกลายแก้ว พอจะทำความเข้าใจได้บ้างมั้ยจ๊ะ
    ตอบตามจริง ตามที่ตนเอง ผ่านมานะจ๊ะ
    ขั้นตอนที่ท่านกลายแก้วถามนั้น ใช้ระยะเวลาเรียนรู้ จนออกจากธรรม และ เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ จากการที่ต้องเรียนรู้การใช้มรรค เพื่อพิสูจน์ผล ที่ว่า ไม่ทุกข์กับโลกจริงๆก็ประมาณ 5 ปีนะจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2013
  15. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634
    คุณวงกลมจุด คำตอบของท่านทำให้ข้าพเจ้าทึ่งและเข้าใจ แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้มา ยังมีข้อที่แตกต่างอยู่บ้าง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะ
    ข้าเจ้าขอถามกลับนะ


    1.การรู้ความจริงในสิ่งที่เคยไม่รู้ที่ถูกเก็บสะสมมานานนั่นแหล่ะจ้า ไม่ไช่รู้ความจริงของธรรมธาตุนะจ๊ะ การดับอวิชชาธาตุก็คือต้องรู้ความจริงของอวิชชาธาตุจ้า ก่อนจ้า แล้วค่อยมาเรียนรู้ความจริงในการใช้ ธรรมธาตุตามมรรคแปดทีหลังนะจ๊ะ

    ถาม การดับอวิชชาธาตุ ก็คือ ต้องรู้ความจริงของ อนัตตาธรรม ก่อนใช่ไหม ก็จะเป็นสัมมาทิฐิ เพี่อทำลายอัตตาตัวตนที่มีอยู่ ให้หมดความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน เพื่อที่จะเรียนรู้ใช้มรรคแปดให้ถูกต้อง



    2.โดยเกิดจากการหาพิจารณาให้เห็นอนัตตา(สัมมาสังกัปปะ)ความจริงกายใจของเราใช่ไหมนะ ตอบนะจ๊ะ ไม่ได้พิจารณาอะไรจากกายใจเราเลยจ้า เนื่องเพราะกายใจเราไม่มีอุปาทาน เป็นธรรม เป็นธรรมชาติแล้ว ก็แค่ เดินมรรคแปด เรียนรู้การใช้ชีวิตให้เป็นให้ถูกต้องการกฏแห่งกรรม กฏแห่งโลก กฏของไตรลักษณ์ นั่นเองจ้านะจ๊ะ

    ถาม แล้วถ้าไม่เรียนรู้ความเป็นอนัตตาจากกายใจของเรา เราจะเรียนรู้ได้จากที่ไหน ถ้าบอกว่าเรียนรู้จากธรรมชาติ ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่เรามองเห็นได้ในระดับหนึ่ง เพราะการเห็นทุกข์ คือ การเรียนรู้ทุกข์จากกายใจของเราเอง เราจึงอยากพ้นจากความทุกข์มิใช่หรือจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  16. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634


    การวางกายเวทนาจิตใจ ก็คือ การฝึกสติปัฎฐานสี่ คือ กาย เวทนา จิต ธรรม เป็นอนัตตา เมื่อสติระลึกมากเท่าไร ก็เหมือนกับเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้ไหลไปสู่ทางที่ไม่ดีหรือไม่ถูกต้อง ใช่ใหมจ๊ะ

    ความที่กระแสจิตเป็นคลื่นพลังงาน จึงมีแรงดึงดูดทางอารมณ์ ส่วนใหญ่หากเราไม่มีสติ เรามักจะไหลไปตามกระแสอารมณ์ที่ได้รับ แล้วสนองตอบตามอารมณ์นั้น อาทิเช่น คลื่นกระแสพลังงานของความคิดร้าย คิดไม่ดีต่อเรา คลื่นอารมณ์แห่งความโกรธ เป็นคลื่นพลังงานที่มีกระแสผลักดันสูง ที่จะทำให้เกิดแรงดึงดูดทางอารมณ์ของเรา เรามักจะสนองอัตตาตัวตน แล้วก็จะกระทำตอบเสมอมิใช่หรือจ๊ะ หากเราไม่รู้ความจริงอะไรเลย ถ้าเกิดกระทำทางกาย วาจา ตอบกลับคืนแก่เขา ก็จะเป็นเวรกรรมมีการชดใช้กรรม แต่ถ้าเกิดมโนกรรมทางความคิด ก็เป็นกิเลสเป็นความทุกข์ใจที่คืนให้กับเรา ใจจึงไม่สงบ ไม่บริสุทธิ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  17. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634


    นิพพาน คือ เป้าหมายสูงสุดทางพระพุทธศาสนา ปราถนาพ้นทุกข์จากโลก ใม่ใช่นิพพานแต่อย่างไร มีอะไรที่สูงกว่านิพพานหรือจ๊ะ หรือ มีนัยยะอยู่ช่วยเหลือสรรพสัตว์ก่อน คิดอย่างนี้ถูกต้องมั๊ยจ๊ะ
     
  18. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ตอบนะจีะ

    ตอบแล้วเป็นไงบ้างจ๊ะกำลังตอบนะจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  19. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ถูกต้องแล้วจ้า คนทุกคนเกิดมา มีเครื่องรับรู้เป็นของตนเอง นั่นก็คือ กายใจ กายมี ตาหูจมูกลิ้นกาย ใจคือใจ ซึ่งคือ เครื่องรับรู้ สื่อสารที่สามารถโต้ตอบ ทั้งรับและส่ง ในกายใจนี้ เหมือนกัน นะจ๊ะ คือ คิดถึงกันได้ไงจ๊ะ
    ดังนั้น ถึงแม้เราจะเข้าถึงอนัตตาธรรม แต่ ร่างกายเรายังมีชีวิตอยู่ คนที่เราเคยรู้จัก เช่น ญาติทั้งหลาย เขาเคยรู้จักเราไงจ๊ะ ดังนั้น ความคิดถึง จะส่งมาถึงเราได้ ถ้าเขาคิดถึงเรา ทั้งดีและไม่ดี นะจ๊ะ ความคิดถึงนี่เองคือ ความทุกข์ ที่หลีกเลี่ยงมิได้ เพราะ เรากับเขารู้จักกันไปแล้ว ทีนี้พอเรา เข้าถึงอนัตตาธรรม บริสุทธิ์เหมือนว่างมาก ก็เลยรับรู้ คลื่นความคิดของคนอื่นได้ชัดเจนไงจ๊ะ หรือถ้าเราอยากรู้ความรู้สึกของคนอื่นก็แค่คิดถึงเขา อารมณ์ความรู้สึกของเขาก็จะมาให้เรารับรู้ได้ ไงจ๊ะ
    ดังนั้นการเรียนรู้วิธีการใช้มรรคแปดก็คือ เพราะเหตุผลตรงนี้ไงจ๊ะ ว่าถ้าเราไม่ยังไม่ตาย การรับรู้พลังงานความคิด มันจะรับรู้ได้ตลอด แม้เราจะหนีไปอยุ่คนเดียว ถ้ามีคนที่เรารู้จักคิดถึงเรา มันก็มาที่เราทันทีนะจ๊ะ ความทุกข์ของคนอื่น หรือ ที่จริง ความคิดของคนเรา ที่มีหลายพันล้านคน มันล่องลอยไปลอยมาในอากาศเหมือนคลื่นวิทยุโทรทัศน์ มันก็ เข้ามาที่เราได้เช่นกันนะจ๊ะ ซึ่งก็ อธิบายได้ยาวเหมือนกันนะจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  20. วงกลมจุด

    วงกลมจุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,305
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ถูกต้องว่านิพพานการดับทุกข์ คือเป้าหมายสูงสุดนะจ๊ะ
    แต่ทุกคนก็รู้ อ่าน เข้าใจนี่นะจ๊ะว่า ถึงพระพุทธองค์จะนิพพานเข้าถึงนิพพานแล้ว แต่ก็ยัง ใช้ชีวิตเป็นตัวอย่าง ให้ทุกคนได้เห็นก็คือ ไม่มีทรัพย์สมบัติ ผ้าสามผืน ฉันมื้อเดียว ไม่สะสมทรัพย์ อยู่โคนไม้ ซึ่งนี่คือ เป็นการใช้ชีวิตที่อิสระให้ทุกคนได้เห็นและรับรู้ว่า มันก็ ไม่ไช่ว่า รู้นิพพานแล้ว ต้อง ตายหรือ หนีไปอยู่คนเดียวนี่จ๊ะ ไม่ไช่ว่าช่วยเหลือก่อนหรอกนะจ๊ะ แต่เล็งเห็นว่า ยังมีคนที่เขาอยากพ้นทุกข์มีปัญญาพอคือสัมมาฐิทิพอเหมือนบัวที่รอวันจะบาน ที่พระพุทธองค์พอจะช่วยได้ ก็จำเป็น ต้องช่วยนะจ๊ะ
    ความจริงทุกคน ก็ท่อง ทำวัตรสวดมนต์กันอยู่ ว่า พระอรหันต์คือผู้ไกลจากกิเลส
    พุทธะคือ ผู้รู้ ผู้ตื่นผู้เบิกบาน ซึ่งมันเกินคำว่า นิพพาน ที่แปลว่า ดับ หรือตาย นั่นเองนะจ๊ะ
    เพราะ ถ้าดับกิเลสแล้วไม่ตาย จะอยู่ยังไง พระพุทธองค์ก็แสดงการอยู่ ให้เป็นตัวอย่างอยู่แล้วนี่จ๊ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...