เจ้าแม่กวนอิม

อย่าไปว่าคนอิสลามเลย เราเคยมีเพื่อนเป็นมุสลิมหลายคน เค้าก็นิสัย มีเมตตาดีนะ ศาสนาเขาสอนให้เอื้ออาธรเหมือนกัน คงมีบางกลุ่มมากกว่าที่บิดเบือ นคำสอนเพื่อประโยชน์ของตน

ส่วนตายแล้วไปไหนเคยถามเหมือนกัน เขาเชื่อว่าพอตายไปแต่ละคนจะถูกจับใส่กล่อง กล่องใครกล่องมัน ไม่มีได้พบญาติพี่น้องเพื่อนสนิท จนกว่าวันพิพากษาสุดท้ายจึงจะถูกนำออกมาตัดสินน่ะ อย่างนี้กระมังหลวงพ่อจึงไม่เคยเห็นพวกเขาบนสวรรค์

 

ทำบุญได้ทุกคนทุกศานาแหละ บุญก็เกิดได้ 10 วิธีไม่ใช่หรือ????? ทุ่มเถียงกันทำไม อย่างเช่น สมมุติว่าคนอิสลามเขาให้ขนมคุณกิน นั่นบุญเกิดแล้ว สมมุติคนคริสต์เขาร้องเตือนคุณ ตอนที่เห็นว่าคุณจะเดินไปให้รถชนโดยคุณเองไม่ทันสังเกตุแต่เขาตะโกนช่วยคุณออกมาได้ นั่นก็เกิดบุญแล้ว ทุกศาสนามีทั้งทั้งคนดีและคนเลว คนที่เข้าถึงหัวใจของแต่ละศาสนาจริงๆนั้นมีน้อย คนที่ทำอะไรไม่ถูกต่างๆ เพราะเขาเข้าถึงเพียงเปลือกศาสนา ขนาดชาวพุทธซึ่งถือว่าเป็นศาสนาแห่งแนวทางตามหลักปัญญายังมีชาวพุทธบางกลุ่มที่ได้แค่ลูบๆคลำ เปลือกนอก หรือ ได้แค่เอาพระมาแขวนคอแล้วประกาศตนไปทั่วว่าตัวกูเป็นพุทธ แต่คนคนนั้นศีล5 ก็ไม่มี เบียดเบียนใครๆไปทั่ว ดูหมิ่นถากถางคนไปทั่ว มั่วกามทรามประพฤติ ไม่เคยทำตัวเป็นประโยชน์แก่ใครเลย แล้วจะยังมาถือว่ามีพระแขวนคอ แล้วจะแคล้วคลาด นี่ก็แสดงว่ายังไม่เข้าถึงแม้กระทั่งเงาฝุ่นแห่งความเป็นศาสนาพุทธเลย อาศัยแค่เอาสัญลักษณ์ศาสนามาไว้ที่ตน แล้วร้องปาวๆ ประกาศศักดาของตนไปทั่ว ศาสนาทุกศาสนามีบุญเหมือนกัน คนทุกศาสนาก็ขึ้นสวรรค์ได้ หรือไปนิพพานได้ถ้ารู้จักละในสิ่งที่ควรละ รู้จักเลิกในสิ่งที่ควรเลิก รู้เท่าทันกิเลส ภายในใจของตน และละกิเลสไปจนเสียสิ้น โยคี นักพรตบางท่าน ก็เข้านิพพานไปได้ แต่ท่านไม่ใช่นักบวชในเขตพระพุทธศาสนา ท่านรู้เองท่านดับทุกข์เองของท่าน

 

มนุษย์ทุกคนมีสิ่งที่ได้เปรียบภพภูมิอื่นๆตรงที่ มีการสร้างเหตุต่างๆได้ง่าย มีการสร้างเหตุแห่งความดีได้ มีการสร้างเหตุแห่งการทำชั่วได้ แล้วไปเสวยผลในภพภูมิอื่น ภพภูมิอื่นส่วนใหญ่ เป็นการไปเสวยผลที่ตนเองสร้างไว้ตอนเป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์ศักยภาพสูงกว่าเทวดา เป็นมนุษย์ ธาตุขันธ์พร้อมและดีกว่า เทวดา หรือเทพชั้นต่างหรือแม้กระทั่งพรหมอีกด้วย มนุษย์นั้นมีร่างกายและธาตุขันธ์ที่จะสามารถแยกแยะและหยาบ ง่ายต่อการกำหนดพิจารณาเพื่อการละกิเลส ไม่เช่นนั้นพระโพธิสัตว์ไม่มาตรัสรู้ในเมืองมนุษย์หรอก เมืองมนุษย์และมนุษย์สมบัติมีคุณค่ายิ่ง ไม่สำคัญหรอกว่าคุณ เกิดที่ไหน หรือศาสนาใด หาก คุณใช้ศักยภาพของมนุษย์ของคุณ และทำไปตามทางที่ถูกที่ควร ก็มีทางไปสู่ความสุขทั้งนั้น

 

โอม........ศานติ

โอม................ศานติ

 

หักเหลี่ยม เฉือนคม คนมองต่างมุม

ชาวศาสนาอิสลามที่ดีก็มีที่เลวก็มี ในตัวของอิสลามเองก็มีหลายนิกาย ทั้งซุนหณี่

ชีอะ และยังมีที่แอบแฟงมาอีกในรูปของลัทธิการก่อการร้าย ซึ่งท้าเทียบแล้วชาวมุสลิมในบ้านเราก็ยังนับว่าดีกว่าชาติอื่น อันเนื่องมาจากเป็นพื้นฐานของคนไทยอยู่แล้วไม่ว่าเขาจะเป็นอิสลามก็ตาม แต่เป็นเพราะทั้ง 2 ท่านที่โต้แย้งกันนั้นอาจเนื่องมาจากพบเห็นชาวมุสลิมที่ต่างสถานที่กันทั้ง ชนชาติ แหล่งสังคม วัฒนธรรม ลัทธิ หรือปัจจัยอื่นๆก็ตาม เราก็คอยดูกันไป (ท่ายักษ์ใหญ่นอกศาสนาจะห่ำหั่นกันก็คงเป็นเพราะกฏแห่งกรรม) เราชาวพุทธก็อย่าได้ประมาทกันเลย ถ้าถึงวันที่เขาเอาตระแกรงมาล่อนกระดุกเราแล้วจะหนาว
(bb-flower ​

 

ดีครับคุณเก้า อิอิ.....

 

ดัน ดัน ดัน

 

ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=11446

 

ทัชมาฮา สร้างด้วยความทุกข์ยากเนี่ย เล่าให้ฟังหน่อย

 

เมื่อใดจิตถึงจุดสงบนิ่ง.. เกิดแสงสว่างแห่งปัญญา ..ความสังสัยย่อมสิ้นไปฉนั้น...

 

ปัจจัตตา.. ผู้ปฏิบัติพึ่งรู้ได้ด้วยตนเอง

 

ไม่ว่ามนุษย์จะนับถือศาสนาอะไร ย่อมมีทั้งคนดี และคนไม่ดี

ไม่ว่ามนุษย์จะมีเชื้อชาติใด ย่อมมีทั้งคนดี และคนไม่ดี

มนุษย์เราเลือกเกิดไม่ได้แต่ เลือกที่จะทำดีได้

ศาสนา เชื้อชาติ สีผิว หาได้ใช่อุปสรรคของการทำดี

ท้ายที่สุดแล้ว ทำดีย่อมได้ผลในสิ่งที่ดี

 

เท่าที่ทราบบุญของศาสนาอิสลามถึงแค่สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาครับ ไม่ถึงชั้นดาวดึงส์เทวโลก

 

อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ



.

 

อนุโมทนา สาธุ กับเจ้าของกระทู้ค่ะ

จะนับถือสิ่งใดไม่ผิดหรอก
ขอแค่ผู้นับถือสิ่งนั้นมีจิตสำนึกอยู่เสมอที่จะ
มีความรัก เมตตา กรุณา และเอื้อเฟื้อ
ต่อทุกคนที่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิต
ไม่คอยคิดเบียดเบียน หรืออยากได้ของๆ เขา
ก็เพียงพอ และพอเพียงที่จะอยู่ร่วมกันได้แล้วค่ะ

สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ


^ ^

 

555+

 

ครับ สรุปง่ายๆศาสนาทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีครับ ใครทำคนนั้นก็ได้เหมือนกับพ่อกับลูกพ่อกินข้าวพ่อก็อิ่ม ลูกไม่ได้กินข้าวลูกก็หิว ลองคิดดูดีๆๆนะครับ อนุโมทนาครับ

 

ระวังหน่อยนะครับถ้าเขาเจอ

 

ผมว่าศาสนาไม่ใช่ตัวบ่งบอกความดี ความชั่วหรอกครับ อันนี้มันบอกกันไม่ได้จริงๆ เช้าดีบ่ายเลว บ่ายดี เย็นเลว หรือเย็นดี ค่ำเลว ตัวอย่างคือตัวผมเองเป็นต้น ถ้ายังเป็นปุถุชนเพียงใดมันก็วิ่งขึ้นวิ่งลงอย่างนี้แหละครับถือซะว่าความดีความเลวของใครไม่มี ทุกอย่างถูกกำหนดและแสดงออกด้วยวาระของกุศลกรรมและอกุศลกรรมที่แต่ละคนเคยทำมาเกิดให้ผลหรือจะเรียกว่าออกฤทธิ์ในขณะนั้นๆนะครับ อย่าลืมว่าดวงจิตทุกดวงคือว่าที่พระอรหันต์ทั้งนั้นนะครับ ไม่ว่าจะสุดแสนเลวแค่ไหนสุดท้ายก็ไปจบที่เดียวกัน เพียงแต่อาจยังไม่ใช่เวลานั้น เท่านั้นเอง พยายามทำใจให้เป็นกลางนะครับ ผมเองก็ต้องพยายามเหมือนกัน