เกิดก่อนเกิด..พรแปดประการ...

(เป็นนิทานความเชื่อส่วนตัว และโปรดพิจารณา)

..เพื่อนๆ รู้หรือไม่ ว่ามีช่วงหนึ่ง ก่อนที่เราจะเดินไปที่ "ชะเวดากอง" นะ เมื่อวันที่ ๒๘ มกรา ๕๕

...มีเฮลิคอปเตอร์ มาวนบ้านเราประมาณ สีลำนะ แต่เขาก็สื่อจิตมาก่อนว่าเขานะ..(เป็นเจ้าชายแห่งอาหลับ(ขอสงวนชื่อ)..และเขาก็บอกว่าเขานะจะมาปกป้องดูแลและขอมาร่วมสร้างโลกใบใหม่กับเรานะ

....และเจ้าชายอาหรับ เขาก็รายงานตัวว่า เขานะมาจาก "สภาแกแล๊คซี่แอนโดรมีด้า"..และเขาก็เป็นเจ้าชายที่นั้นนะ ตอนนี้อายุเขาประมาณ สามสิบกว่านะ..

...และเขาก็บอกว่า คนที่อยู่ที่เมืองไทยไม่ช่วยเราสร้างโลกใหม่ เขาให้พิจารณาเขาด้วย และเขาก็บอกว่า เขานะพร้อม ทั้ง อำนาจ เงินตรา และบารมี กองกำลัง

...ขอแค่เรานะเปิดจิตและตัวตน และเขาก็บอกว่าเขาจะรอจนกว่าเรานะจะยอมเปิดตัวตนและไปพบเขา

....และเพื่อความบริสุทธิ์ใจ เขาก็บอกว่าเขาจะขอมอบ "เพชรที่นำมาจากแอนโดรมีด้า" เป็นของคู่บารมีเขานะ

...(เราถือว่าเขาเก่งมากๆเลยนะ และเขาขับเฮลิคอปเตอร์มาเองด้วยนะ)

...แต่ช่วงนั้นจะมีการคุ้มกันตัวเราอย่างดี มีการต่อสู้กันสุดๆบนน่านฟ้า ระหว่าง ท่านพ่อสายฟ้าฟาด กับองค์กรลับ(เพราะพวกนั้นก็จะมาชิงตัวเรานะ)


....แต่มนุษย์ธรรมดานะคงจะรับรู้ไม่ค่อยได้หรอกนะ เพราะมันคือ ระบบต่างดาวด้วยและเหล่าจิตวิญญาณนะขึ้นเคร่ื่องบิน เพื่อไปดูแลคุ้มกันเรานะเยอะมากๆ...


(นิทานเวอร์ ๆ...)...ตัวตนเรานะ ขี้เหร่ สุดๆ....

 

เมตตรัย มีหลายตัว
ตัวที่เอ๋ออยู่กับเขา
นั่นก็ใช่ ตัวหนึ่ง


เขาก็วางแผนที่จะ
ทำลายตัวอื่นๆ ให้
สิ้นไป จะได้มีแต่
ตัวของเขาตัวเดียว


เรื่องของเรื่องก็แบบนี้

 

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหนือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน


มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน
บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่ "ใจตน"
เกิดเป็นคนควรหัดคิดพิจารณา

 

เล่าต่อเลยท่านเจ้าของกระทู้รออ่านอยู่จ้า

 

..............

(เป็นนิทาน ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดพิจารณา)

..."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"....


....เราไม่ซีเรียสหรอกนะ ..เพราะสิ่งที่เราต้องการที่ สุดก็คือ .."อิสระ"..

....ถ้าหากสิ่งที่เราทำ และผลสุดท้ายเรา ได้รับ.."อิสระ"...และไม่ต้องเป็นไปตามที่เบื้องบนกำหนดให้ตรงไปอยู่จุดโน้นจุดนี้

.....จากใจของเราโดยแท้จริง ตัวตนของเรานั้นมิต้องการสิ่งใดมากว่าคำว่า "อิสระ"...และที่เราพยายามทำและทำ เพราะเราคิดว่า "กรรม" ของเราเองเราทนทำมันไปก็จะสิ้นสุดเอง


....และอีกอย่าง "องค์พระศรีอริยะเมตรไตรย" นะบารมีและพลังท่านมากมายมิมีใครสามารถจะไปต้านท่านได้หรอกนะ...

...และถ้าเป็นไปได้ ชีวิตของเรานั้น เมือทำกิจจบแล้ว ..เราขอกลับมาอยู่แบบคนธรรมดา และไม่ต้องเกี่ยวข้องอะไรอีกเลย (นั่นแหละคือสิ่งที่เราเฝ้าขอทุกวัน...ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย)


....และเราก็มีครูบาอาจารย์ และปุ่ฤาษี ระดับที่คนใหญ่ในประเทศต้องคารวะ และเก่งและบารมีสุดยอดตัวจริงเสียงจริงทั้งนั้น..แต่ถ้าหากเราจะถูกหลอก "เราถามหน่อยสิ ปุ่ฤาษี และครุบาอาจารย์เรานั้นนะถูกหลอกด้วยหรือไม่..ท่านจะไม่รู้เลยเหรอว่า ไหนจริงไหนปลอมนะท่าน...

....

 

การถวายตัวรับใช้สิ่งศักดิสิทธิ์
ก็ควรจะรับบัญชาสวรรค์ ไม่ใช่
ไปรับคำสั่งจากมนุษย์หน้าไหน
กิเลสเต็มใจไปหมด ไว้ใจไม่ได้
เขาเป็นตัวแทนพระเจ้าหรือไง?
ไหนๆ ก็สื่อสารกับเบื้องบนได้
แล้วทำไมต้องรอรับคำสั่งจาก
คนเดินดิน?

 

มันก็โดนหลอกกันทั้งจักรวาลนี่ละ
มันถึงยังได้ไม่นิพพานกันซะทีนี่ไงเล่า


ถ้าไม่ถูกหลอกนะ ป่านนี้นิพพานไปแล้ว

 

คนฉลาด ก็อย่าให้คนครอบงำ
ฟังเจ้านายคนนั้นที คนนี้ที
แล้วเอามาคิดพิจารณาเอง
ว่าสิ่งใดควรทำ ไม่ควรทำ
เล่นทางนั้นบ้าง ทางนี้บ้าง
อย่าทำตัว "ง่าย" เป็นลูกไก่
ในกำมือของใครเขา เจ้านาย
มีมาก ก็อย่าไปทำให้คนๆ เดียว
ไปขวาบ้าง ซ้ายบ้าง ให้เจ้านาย
ทั้งหลายมันตีกันเองบ้าง ลูกน้อง
จะได้รอรับผลประโยชน์ โอเค?

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ angry_bird
น้องหญิงถูกหลอก ให้ทำงาน เพื่อชาติบ้านเมือง
แต่มีจิตศรัทธาตรงต่อสิ่งที่ดีงาม แม้ว่าจะถูกหลอก
แต่บั้นปลายสุดท้าย จะดีได้


ร่างที่ถวายดวงใจแล้ว โดยเฉพาะผู้หญิง จะมีที่ว่าง
มาก มีพลังดึงดูดพลังเข้ามาในตัวสูง และจะดึงดูด
ได้แม้แต่จิตวิญญาณที่มีกำลังมากๆ นั่นคือ วิธีทำ
ให้ได้เมตตรัยยะแบบสตรีเพศ ผลตามมาคือ ผู้ชาย
เสียจิตวิญญาณ หมดฤทธิ์ หมดเดช นั่นคือ เจ้านาย
เขาวางแผนหลอกใช้มาอย่างนี้ เลยให้น้องหญิงไร้
ซึ่งหัวใจ ถวายดวงใจออกจากร่างไปก่อน ไงล่ะ หรือ
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เขาวางแผนใช้ผู้หญิงคนนี้มาทำ
ลายเมตตรัยตัวจริง ด้วยวิธีเอาจิตวิญญาณจากร่าง
กันเลยละ คนที่วางแผนน่ะ เขาใจร้ายแค่ไหนนะ?...

............

"เป็นนิทานและความเชื่อส่วนตัวและโปรดพิจารณา)


...ดวงจิตที่ท่านบอกว่าถูกหลอกให้นำออกจากร่าง..นะเราไม่เถียง เพราะดวงจิตที่นำออกจากร่างเรานั้นเป็นดวงจิตที่แอบไว้ภาคมนุษย์ธรรมดา


...แต่พอดวงจิตว่าง ของเราว่างแล้ว เราก็ได้ไปนำดวงจิตที่แท้จริงเรากลับมาใส่ร่างเรา "ผิดด้วยเหรอ"...

....และดวงจิตนั้น ที่เราเคยเขียนนิทานเล่าให้ฟัง ว่าเรานะไปที่วัดพระแก้วมา เมื่อวันที่ ๑๒- ๑๓ กค.และไปตั้งจิต

....และเราก็รับ"ดวงจิตที่แท้จริงเรากลับมาแล้ว ที่เรานำไปฝากไว้ตอนที่เราทำกิจช่วงแรกที่ไปตั้งสัจจะและดวงจิต ..และตอนนี้ "ดวงจิตที่แท้จริงที่อยู่ในตัวตนของเราก็คือ...


...."ดวงจิต ...ที่ชื่อว่า..."แก้วเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง"...เป็นดวงจิตช่วงที่เราาบำเพ็ญเป็นพญานาค และมีเศียร ถึง ๑๖ และได้ญาณบารมี "อนันตรสุริยะจักรวาลโอพาส"


...ชีวิตเรานะถูกหลอกจากเบื้องบนเสมอ แต่หลอกเพื่อให้ตัวเราเองนะ ยอมทีจะเปิดจิต และตัวตน และรีบทำหน้าที่ และจะได้กลับสู้เบื้องบนเสียทีไงละ

 

ทำความดี สร้างบารมีน่ะ
"คิดเองก็ได้" ไม่ต้องให้
ใครมา "สั่ง" หรอก


ไม่เชื่อก็ถามดวงใจ
ของตัวเองดูสิ ...

 

...........


...(เป็นนิทาน และความเชื่อส่วนตัว โปรดพิจารณา)

...คุณลองไปอ่านนิทานช่วงแรกสิคะ สำหรับตัวตนของเรา

...และเราขอถามคุณหน่อยว่า " เวลาเกิดของมนุษย์นะ ..เกิดมาแล้วเดินได้ และพูดได้เลยหรือไม่ ..หรือต้องมีพ่อและแม่คอยดูแลก่อน" และถ้าเด็กคนนี้เป็นมนุษย์ ถามหน่อยสิ คุณจะให้เทพ หรือเทวดามาเลี้ยงแทนได้ไหมคะ

..และถามคุณหน่อยว่า ...เวลาที่คุณเข้าโรงเรียนนะ คุณต้องเริ่มจากอนุบาล ก่อน หรือว่า เป็นปริญญาตรีเลย และถามหน่อยแต่ละโรงเรียนมีครูสอนหรือไม่

...และถามคุณหน่อย "แม้นแต่พระพุทธเจ้ายังต้องมีครูบาอาจารย์ที่เป็นมนุษย์ หรือที่เรียกว่า "ปู่ฤาษี"ใช่หรือไม่

...และถ้าหากผุ้ที่เราทำกิจแต่แรกนั้นเป็นผุ้ทีทุกคนเห้นกันทั้งโลกว่า บารมีมากมายขนาดไหน (สิบปากว่า ไม่เท่าตัวเห็น) และถามหน่อยสิ..ส่วนผุ้ที่ชอบอ้างว่า ..ทำกับเทพ องค์โน้น องค์นี่ รับบัญชามากับคนนั้นคนนี้...


...ใครรู้เห็นกับคุณหรือพวกเขาบ้าง


...และความคิดและความรับรู้ของเรานะ..."เราชอบและมองดูสิ่งที่อยู่ข้างหน้า และเห็นชัดนั้นแหละ แท้แน่นอนที่สุด.."

....หรือจะมีใครที่กล้าปฎิเสธว่า ผุ้ที่เราเคารพเทิดทูนนะ ในโลกนี้มิมีใครที่ทำได้เหมือนท่าน และสิ่งที่ท่านกล่าวอ้างมานะ "คุณนะถ้าไม่รู้ความจริงว่า จริงแล้ว จิตของผุ้ที่เรารักและเทิดทูนนะ คือ จิตขององค์ไหน "


...เราก็คงยากจะอธิบาย "ตาในตานอกคุณจะมองหา มิเห็นหรอก แต่หากใช้ใจสือใจ คุณพบแน่แผ่นทองแท้ศิลาแลง"


(และความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ...เราขอประกาศและการันตีในสิ่งที่เรารับรุ้และสำผัส กับผุ้ที่เรารักเคารพเทิดทูน ว่าในชาตินี้และในโลกนี้นั้น..มิมีใครที่มีพระบารมีมากเท่าท่านและมีพระปรีชาสามารถเท่าท่านอีกแล้ว..มีความลับมากมายที่มนุษย์ไม่รู้สำหรับตัวตนของผุ้ที่เราเคารพนับถือ...รับรองเมือถึงเวลาที่ความจริงปรากฎนั้น พวกมนุษย์ทั้งหลายจะร้องไม่ออก)

 

อายุเท่าไรแล้วเนี่ย
อนุบาลหรือไง ถึง
ต้องให้คนนั้นมาสั่ง
คนนี้มาชี้ใช้


แก่... ขนาดนี้แล้ว
ทำดีคิดเองได้ครับ

 

ความดี ทำจากใจ
ไม่ต้องให้ใครสั่งใช้

 

เราเคยฝันถึงเหตุการณ์นี้ช่วงต้นปีค่ะ อยากสอบถามว่า ตัวท่านคือมังกรสีน้ำเงินหรือเปล่าคะ

เพราะในฝันของเราทั้ง 2 องค์กรนี้กำลังสู้รบกันเพื่อแย่งสิ่งนี้ค่ะ

และในฝันมีมนุษย์ต่างดาวมาช่วยเราไว้ไม่ให้โดนลูกหลงด้วยค่ะ

เค้านำตัวเราขึ้นยานไป มนุษย์ต่างดาวคนนั้นมีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ เป็นเพศหญิง

แต่ก็หน้าตาดูแปลกๆ ไม่ค่อยเหมือนมนุษย์โลกเท่าไร

จากการหาข้อมูลแล้วพบว่าน่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ Arcturian ค่ะ

(ความฝันเรามันอาจจะเพ้อเจ้อก็ได้นะคะ อิอิ)

 

.............

(เป็นนิทาน ความเชื่อส่วนตัว และโปรดพิจารณา)


..."สำหรับความคิดของเรานะ .."ถ้าหากผุ้มีบารมีนั้น "สั่งให้เราทำคุณงามความดี และแนะในสิ่งที่ดี และแก้กรรมที่เราติดบ่วงได้" และทำไมเราจะไม่ทำ

....และตอนนี้คุณไปเช็คดู ตัวตนของเราหน่อยสิ..."ว่าคนทั้งโลก" หรือ ข้างบน นะ มีใครสามารถสั่งและมายุ่งกับตัวตนเราได้บ้าง


...ถ้าหากเราไม่เดินหรือไม่ทำ....(เราไม่ได้ท้า)..แต่แค่ให้คุณลองขึ้นไปถามใครก็ได้ ที่คุณจะเรียก ว่าพระเจ้าอะไรของคุณก็ได้


....และนำรหัสตัวตนเราไปถาม..."ดอกบัวสรรค์"

หรือ...."ดวงตาสวรรค์"...ลองถามให้หน่อยนะว่า "จริงแท้แล้ว "ตัวตนญาณในที่แท้จริงเรานะ เป็นใคร และทำไมเราถึงกล้าพูดว่า


....ไม่ว่า จะข้างล่างหรือ ข้างบน ทั้งจักรวาล ถึงไม่มีใครกล้ายุ่งตัวตนและจิตญาณในของเรา และมิมีใครกล้ามาสั่งให้เราเดิน ช่วงหลังมานี้ ..และทำไมระบบทั่งหมดถึงต้องรอเรา...


....ช่วยคุณไปถามให้หน่อยนะ และถ้าหากไปถาม แล้ว ช่วยถาม..รหัส ..เทพ ..หรือ พระเจ้า ที่คุณขึ้นไปถามด้วยว่า ท่านมีรหัสว่าเช่นไร...เพราะของแท้ ทุกองค์ทุกผุ้ทุกนาม จะต้องมี"รหัสดวงจิต"กันหมด ...


...เราคอยฟัง และถ้าหากคุณนำรหัส ลงมาบอกได้ถูกและตรงกับเทพหรือพระเจ้าที่คุณขึ้นไปถาม เราก็จะเคารวะ ทำตามที่คุณแนะนำ และหยุดทันที...

(โอเค ตกลงตามนี้เราจะรอฟังข่าวดีนะคะ)...

 

ความศรัทธาก็อย่างหนึ่ง
การทำความดี ก็อย่างหนึ่ง
ไม่จำเป็นต้องเอามาเกี่ยวกัน


คนเราทำความดีได้ด้วยใจเราเอง
ในขณะที่ใจเราจะศรัทธาใครก็ได้
แต่เราไม่จำเป็นต้องให้ความศรัทธา
กลายเป็นบ่วงผูกมัดตัวเรา ให้ต้อง
ตกเป็นทาสของใคร ถ้าใจเราดี เรา
ไว้ใจเราได้ เราก็ "ทำดีด้วยใจ" ได้


ไม่ต้องไปถามใครหรอกครับ ใจเราบอก หึๆๆ
(ผมไม่ได้สั่งใช้ให้คุณหยุดบำเพ็ญอะไรนะ)

 

โพธิจิต ทำดีจากใจ
พวก "ม้าทรง" ทำดี
เพราะถูกสั่งใช้ให้ทำ

 

""""""""""""""""

(เป็นนิทาน และความเชื่อส่วนบุคคล โปรดพิจารณา)


...คุณคนเก่งจ้า..ช่วยยกคุณงามความดี ในสิ่งที่คุณทำและเห็นชัดที่สุดนำมาให้เรา ประจักษ์กับตาหน่อยสิคะ..ประเภทบอกว่า ..ต้องนั่งญาณในดุอย่างเดียวนะ ไม่เอานะคะ...

...เรานะคงอาจจะไม่เก่งเท่ากับคุณหรอกนะคะ

...เราถึงต้องเดินตาม และดุูในสิ่งที่พ่อกับแม่ หรือผุ้มีบารมีที่เราเคารพรักและศรัทธานะ..(สงสัยคุณนะ เกิดมาและรู้ หรือตรัสรู้เอง..ก็ดีนะคะ..ช่วยทำความดีให้ตอนนี้ "รากหญ้าอยู่ดีมีสุขให้เห็นหน่อยสิคะ ไม่ต้องมากแค่สักหนึ่งจังหวัดก็พอ ...

นะ นะ จะรับฟัง และเห็นความดีที่คุณบอกว่า คุณนะ ทำเองดีเอง...

 

แสดงว่าไม่ไว้ใจธรรมชาติ
ไม่เชื่อธรรมะ และกฏแห่งกรรม
ถ้าเราเชื่อใจในธรรม ในกฏแห่งกรรม


จะต้องไปทำอะไรให้เมื่อยตุ้มทำม้ายยยย
ธรรมะ ธรรมมาให้เราอยู่แล้วตามกฏแห่งกรรมหมด
จะต้องไปเจ้ากี้เจ้าการ จัดการอะไรมันกันนักกันหนาอีกเล่า

 

...........

...จร้า ท่านโพธิจิตอิทธิฤทธิ์ บารมี...

..."เราถามคุณหน่อยสิ ..ว่า ..การล้างคำสาปและการที่คนเราต้องทำอะไรบ้างอย่างที่มันเหนือธรรมชาตินะ...

...คุณคิดว่า "ถ้าหากจิตข้างในเขาไม่บริสุทธิ์และคิดดีทำดี นะ จะผ่านหรือไม่


..."และคุณช่วย พิจารณา คำว่าที่เป็นรหัสของเราหน่อยว่า.."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"


...แปลออกไหมคะ ไขออกไหม รหัสตัวนี้ของเรา "ที่ย้ำนะ..."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"


...เราถามหน่อยสิ ว่ามันคืออะไร...