ปิดรับบริจาค อ.ทองทิพย์ โอภาโส รายการ 84000 ช่อง 5 ขอเชิญร่วมบูรณะองค์พระศรีสมณโกฏบพิตร อยุธยา

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Ramtongthai, 17 กรกฎาคม 2013.

  1. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ขออนุโมทนาบุญสาธุการ ทุกๆท่านที่ได้เข้ามาอ่านด้วยเทอญ ขอให้ทุกท่านจงเจริญในทางโลกและในทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปเทอญ
     
  2. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    เรียนเชิญ มาสร้างมหาทานบารมี พร้อมท่านอาจารย์ทองทิพย์ โอภาโส เพื่อสะสมสะเบียงบุญ เทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2013
  3. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ในคืนนี้ ขอให้ทุกท่านนอนหลับอย่างสบายกายสบายใจ ฝันดีด้วยเทอญ 18/7/56
     
  4. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ในวันนี้ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดคุ้มครองทุกๆท่าน ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขด้วยเทอญ 19/7/2556
     
  5. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้

    เบอร์โทรศัพท์ รายการพลังใจ เฮช พลัส แชลแนล 082-782-5905 ถึง 6

    เบอร์โทรศัพท์ วัดสมณโกฏฐาราม-อยุธยา 035-881650
     
  6. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ขออนุโมทนาบุญสาธุการ ทุกๆท่านที่ได้เข้ามาอ่านด้วยเทอญ ขอให้ทุกท่านจงเจริญในทางโลกและในทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปเทอญ
     
  7. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ในคืนนี้ ขอให้ทุกท่านนอนหลับอย่างมีความสุขกายและใจ ฝันดีด้วยเทอญ 19/7/56
     
  8. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ในวันนี้ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดคุ้มครองทุกๆท่าน ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขด้วยเทอญ 20/7/2556
     
  9. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    เรียนเชิญ มาสร้างมหาทานบารมี พร้อมท่านอาจารย์ทองทิพย์ โอภาโส เพื่อสะสมสะเบียงบุญ เทอญ
     
  10. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ในคืนนี้ ขอให้ทุกท่านนอนหลับอย่างสบายกายสบายใจ ฝันดีด้วยเทอญ 20/7/56
     
  11. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ในวันนี้ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดคุ้มครองทุกๆท่าน ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขด้วยเทอญ 21/7/2556
     
  12. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "..แก้กรรมได้ ด้วยตัวเอง!!??..

    "...."..ศิษย์รักทั้งหลาย..สิ่งสำคัญที่เราจะแก้กรรมหรือตัดกรรมลงได้อย่างเด็ดขาดนั้น ก็คือตัวเรานั่นเอง!!??.."
    "..ขนาดพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นองค์พระศาสดา พระพุทธองค์ยังไม่สามารถจะแก้กรรม หรือตัดกรรมให้แก่ผู้ใดได้ ..นับประสาอะไรกับเหล่าปุถุชนทั้งหลายที่ยังหนาด้วยกิเลส จะมีอำนาจอะไรที่จะไปตัดกรรมให้แก่ใครๆได้..นอกจากตัวของเธอเองจะเป็นผู้แก้และตัดกรรม ของเธอเอง พระพุทธองค์ หลวงพ่อ หลวงปู่ ครูบาอาจารย์ ทั้งหลาย ท่านเป็นเพียงผู้ชี้บอกทาง แนะนำแนวทาง และสร้างกำลังใจให้แก่เธอ..ถ้าเธอทั้งหลายไม่ช่วยตัวของเธอเองแล้วใครไหนๆก้ไม่สามารถ จะช่วยได้...."
    "การที่เธอทั้งหลายจะแก้กรรม ตัดกรรม ของเธอได้อย่างเด็ดขาดนั้น ก็คือทางแห่งไตรสิกขา ที่พระพุทธองค์ทรงได้วางแนวทางไว้แล้ว อันคือ "ศีล สมาธิ และปัญญา " ...เมื่อเธอทั้งหลายมีความเป็นปกติแห่งศีลแล้ว ดวงจิตของเธอย่อมจักตั่งมั่น ปัญญาอันแท้จริงของเธอจักบังเกิดขึ้น...กรรมแก้ได้ถ้าใช้ปัญญา!!
    "....เมื่อเธอมีสติเป็นตัวรู้และตื่น ศีลเป็นเครื่องรักษา เธอทั้งหลายจักไม่กระทำในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะมีสติมั่นอยู่ในความดีทุกขณะจิต ปัญญาอันแท้จริงย่อมจักเกิดขึ้นแก่เธอ กรรมชั่วใดๆก็จักไม่เกิดขึ้นแก่เธอ..เช่นนี้ถือว่าเธอทั้งหลาย ได้แก้กรรม ให้แก่ตัวเธอเองแล้ว ในเบื้องต้น..
    "..ไม่ต้องไปรดน้ำมนต์ ไม่ต้องไปนอนในโรงศพ ไม่ต้องไปหาเจ้าทรงผี ทำพิธีพิศดารใดๆ ให้ช่วย..เธอก็สามารถสะเดาะเคราะห์แก้กรรม ด้วยตัวของเธอเองได้แล้ว....ฯลฯ.." สาธุ สาธุ สาธุ
    คัดลอกจากคำสอนบางตอน ของท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส จาก ".หนังสือแก้กรรมตัดกรรม ทำอย่างไร? "

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
    (ศิษย์ผู้ดูแลfb)

    ที่มา facebook.com อาจารย์ทองทิพย์ โอภาโส
     
  13. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "...จิตเป็นกำลัง..ธรรมเป็นอาวุธ!!.." "..อย่ารบกับธรรม..แต่จงใช้ธรรมเป็นอาวุธ!!?? " "..ศิษย์รักทั้งหลาย เธอจงทำจิต ของเธอนั้นให้สงบ ระงับ และบริสุทธิ์ ดวงจิตอันบริสุทธิ์นั้นมีพลานุภาพ มีกำลังมาก อาวุธมหาประลัยใดๆ ในโลกนี้ก็เทียบมิได้??
    ..เธอจงกำจัดความอิจฉา ริษยา แลความอาฆาตมาดร้าย ในดวงจิตของเธอให้หมดสิ้น...แลใช้ธรรมอันประเสริฐเป็นศาตราวุธอันทรงอานุภาพ ในการทำลายล้างศรัตรู คือหมู่มารทั้งหลาย ทั้งมารภายนอก..และมารภายในที่สถิตอยู่ในดวงจิตของเธอ อันคือมารผู้มีทิฐิ..ที่ชักใยให้เหล่ามวลมนุษย์ทั้งหลายได้มีจิตใจวิปริตเห็นผิดเป็นชอบ ทำให้เป็นผู้มีความโลภ ความโกรธและและความหลง ให้หมดสิ้น ให้ย่อยยับดับไป ด้วยปัญญาของเธอ..."
    "เธอทั้งหลายจงหมั่นฝึกสติและกำลังใจ ของเธอให้เข้มแข็ง ให้มีกำลัง ที่พร้อมจะจับอาวุธ อันแหลมคม คือพระธรรมอันประเสริฐ เพื่อจะตัด ประหาร ให้ศรัตรูอันคืออวิชชา ให้ขาด ให้ดับสูญสิ้น ได้โดยฉับพลัน ดังใจปรารถนาโดยพลันเทอญ พระอะระหังเมตตา บุญรักษา ..." สาธุ สาธุ สาธุ คำสอนธรรม จากท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์" โอภาโส ณ. สวนธรรมริมหาด จ.ภูเก็ต พ.ศ. 2544

    คัดลอกโดย (ศิษย์ผู้ดูแล fb)

    ที่มา facebook.com อาจารย์ทองทิพย์ โอภาโส
     
  14. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ขออนุโมทนาบุญสาธุการ ทุกๆท่านที่ได้เข้ามาอ่านด้วยเทอญ ขอให้ทุกท่านจงเจริญในทางโลกและในทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปเทอญ
     
  15. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ในคืนนี้ ขอให้ทุกท่านนอนหลับอย่างสบายกายสบายใจ ฝันดีด้วยเทอญ 21/7/56
     
  16. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "..กลุ่มทำความดี..ไม่ต้องมีหน้ากาก!!.." ....ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส ได้นำคณะศิษย์ได้ร่วมกันกระทำความดีด้วยการร่วมตัวเพื่อเชื่อมความสมัครสมานสามัคคีขจัดความขัดแย้งในสังคมเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินเกิด อย่างปิดทองหลังพระมาตลอด..ในการเป็นกำลังสร้างความสามัคคีขึ้นในแผ่นดิน..โดยยึดหลักของชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นที่ยึดเหนี่ยวอันยิ่ง โดยใช้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ในหลักของ"เมตตาธรรม..นำให้เกิดความสามัคคี.."..โดยไม่ยุ่งเกี่ยวและไม่เป็นเครื่องมือของนักการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทั้งสิ้น
    โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาท่านอ.อุบาสกทองทิพย์ โอภาโสได้เห็นถึงปัญหาที่ได้สร้างความวิกฤติขึ้นในแผ่นดิน ด้วยเหตุแห่งการแตกแยกความสามัคคี การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งพรรคแบ่งพวก การแย่งชิงซึงอำนาจความเป็นใหญ่ซึ่งกันและกัน ซึ่งปัญหานี้นับเป็นมูลเหตุสำคัญ ที่จะทำให้ประเทศชาติ บ้านเมือง เกิดวิกฤติ มากกว่าปัญหาอื่นๆ...ท่านอาจารย์ย้ำว่า.."มากกว่าปัญหาอื่นๆ!!??".. ที่ต่างฝ่ายต่างก็เอามากล่าวอ้างกัน...ในฐานะที่พวกเราทุกๆคนต่างเป็นคนไทยเหมือนกันซึ่งต่างเป็นผู้ที่อยู่ในใต้ร่มพระบารมีแห่งองค์พระประมุขของชาติคือองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว...ที่พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกายเกือบตลอดพระชนมชีพของพระองค์เพื่อความสงบสุขสถาพรของพสกนิกรของพระองค์ แต่กลับมีบุคคลบางพวก บางเหล่า ได้ก่อความวุ่นวายขึ้นในแผ่นดิน ทำให้เกิดความแตกแยก แบ่งพรรค แบ่งพรรค..เข่นฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไทยกันเอง!!.. ทำไมพวกเราไม่ทำให้พระองค์ทรงมีความสุขเกษมสำราญเพื่อตอบแทนคุณแห่งพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงมีพระชนมายุถึงขนาดนี้แล้ว สมควรที่จะให้พระองค์ได้พักผ่อนได้เห็นพสกนิกรของพระองค์ได้อยู่กันอย่างสมัครสมานสามัคคีและได้ทรงเห็นแผ่นดินร่มเย็นเป็นสุขชั่วลูกหลาน...."
    " ....เราจึงขอวิงวอนถึงพี่น้องชาวไทยทุกหมู่เหล่า ขอให้เลิกทิฐิมานะ ที่จะเอาชนะกัน เพื่อแก่งแย้งความเป็นใหญ่ซึ่งกันและกัน ได้หันมาสร้างความสมัครสมานสามัคคีความปองดอง ใช้เหตุใช้ผลแห่งปัญญา อย่าเห็นแก่พรรคแก่พวก ยังความยุติธรรมให้เกิดขึ้นทั่วทุกองค์กร เมื่อนั้นแผ่นดินจะประสพสุขชั่วลูกหลาน และเพื่อให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลุกหลานในอนาคตสืบต่อไป...."...."..พระอะระหัง เมตตา บุญรักษา..."

    จากคำปรารภด้วยความห่วงใยต่อประเทศชาติบ้านเมือง.. แด่คณะศิษย์ โดยท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส
    ท่านใดเห็นจริงตามนี้ ขอได้ช่วยกันกดแชร์ คนละ ๑ แชร์ เพื่อร่วมสร้างความสามัคคีในแผ่นดิน....สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
    คัดลอกโดย ...(ศิษย์ผู้ดูแลfb)

    ที่มา facebook.com อาจารย์ทองทิพย์ โอภาโส
     
  17. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    วันอาสาฬหบูชา-ประวัติและความสำคัญ

    วันอาสาฬหบูชา คือวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จน พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช 45 ปี ทั้งนี้ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 เรียกว่า "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร"แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม ซึ่งหลังจากปฐมเทศนา หรือเทศนากัณฑ์แรกที่พระองค์ทรงแสดงจบลง พระอัญญาโกณฑัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม สำเร็จเป็นพระโสดาบัน จึงขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าก็ได้ประทานอุปสมบทให้ด้วยวิธีที่เรียกว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"พระโกณฑัญญะจึงได้เป็น พระอริยสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา ต่อมา พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม และได้อุปสมบทตามลำดับ สำหรับใจความสำคัญของการปฐมเทศนา มีหลักธรรมสำคัญ 2 ประการ คือ 1. มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง เป็นข้อปฏิบัติที่เป็นกลาง ๆ ถูกต้องและเหมาะสมที่จะให้บรรลุถึงจุดหมายได้ มิใช่การดำเนินชีวิตที่เอียงสุด 2 อย่าง หรืออย่างหนึ่งอย่างใด คือ การหมกมุ่นในความสุขทางกาย มัวเมาในรูป รส กลิ่น เสียง รวมความเรียกว่าเป็นการหลงเพลิดเพลินหมกมุ่นในกามสุข หรือกามสุขัลลิกานุโยค การสร้างความลำบากแก่ตน ดำเนินชีวิตอย่างเลื่อนลอย เช่น บำเพ็ญตบะการทรมานตน คอยพึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น ซึ่งการดำเนินชีวิตแบบที่ก่อความทุกข์ให้ตนเหนื่อยแรงกาย แรงสมอง แรงความคิด รวมเรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค ดังนั้น เพื่อละเว้นห่างจากการปฏิบัติทางสุดเหล่านี้ ต้องใช้ทางสายกลาง ซึ่งเป็นการดำเนินชีวิตด้วยปัญญา โดยมีหลักปฏิบัติเป็นองค์ประกอบ 8 ประการ เรียกว่า อริยอัฏฐังคิกมัคค์ หรือ มรรคมีองค์ 8 ได้แก่ 1. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ คือ รู้เข้าใจถูกต้อง เห็นตามที่เป็นจริง 2. สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ คิดสุจริตตั้งใจทำสิ่งที่ดีงาม 3. สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือ กล่าวคำสุจริต 4. สัมมากัมมันตะ กระทำชอบ คือ ทำการที่สุจริต 5. สัมมาอาชีวะ อาชีพชอบ คือ ประกอบสัมมาชีพหรืออาชีพที่สุจริต 6. สัมมาวายามะ พยายามชอบ คือ เพียรละชั่วบำเพ็ญดี 7. สัมมาสติ ระลึกชอบ คือ ทำการด้วยจิตสำนึกเสมอ ไม่เผลอพลาด 8. สัมมาสมาธิ ตั้งจิตมั่นชอบ คือ คุมจิตให้แน่วแน่มั่นคงไม่ฟุ้งซ่าน 2. อริยสัจ 4 แปลว่า ความจริงอันประเสริฐของอริยะ ซึ่งคือ บุคคลที่ห่างไกลจากกิเลส ได้แก่ 1. ทุกข์ ได้แก่ ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ บุคคลต้องกำหนดรู้ให้เท่าทันตามความเป็นจริงว่ามันคืออะไร ต้องยอมรับรู้ กล้าสู้หน้าปัญหา กล้าเผชิญความจริง ต้องเข้าใจในสภาวะโลกว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ไม่ยึดติด 2. สมุทัย ได้แก่ เหตุเกิดแห่งทุกข์ หรือสาเหตุของปัญหา ตัวการสำคัญของทุกข์ คือ ตัณหาหรือเส้นเชือกแห่งความอยากซึ่งสัมพันธ์กับปัจจัยอื่นๆ 3. นิโรธ ได้แก่ ความดับทุกข์ เริ่มด้วยชีวิตที่อิสระ อยู่อย่างรู้เท่าทันโลกและชีวิต ดำเนินชีวิตด้วยการใช้ปัญญา 4. มรรค ได้แก่ กระบวนวิธีแห่งการแก้ปัญหา อันได้แก่ มรรคมีองค์ 8 ประการดังกล่าวข้างต้น

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  18. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวรธรรมคติ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา พ.ศ. 2556 ความว่า

    วันอาสาฬหบูชา เป็นอภิลักขิตกาล คือ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา คือ คำสอนที่เป็นหลักสำคัญของพระพุทธศาสนาครั้งแรก เรียกว่า ธัมมจักกัปปวัตนสูตร และเป็นวันที่เกิดพระสงฆ์ซึ่งเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย อันเป็นที่เคารพสูงสุดในพระพุทธศาสนา เป็นเหตุให้พระรัตนตรัยบังเกิดขึ้นในโลกครบบริบูรณ์ ซึ่งจะถือว่าเป็นวันบังเกิดขึ้นของพระรัตนตรัยก็ได้

    เมื่ออภิลักขิตกาลเช่นนี้เวียนมาถึง ควรที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จักได้น้อมใจรำลึกถึงพระรัตนตรัย พร้อมทั้งสำรวจตรวจสอบดูใจของตนเองว่า ได้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งแท้จริงแค่ไหนเพียงไร

    อันการถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งตามนัยแห่งพระพุทธศาสนานั้น มิใช่ถึงโดยการกราบไหว้อ้อนวอน หรือถึงโดยการอธิษฐานขอพรให้พระรัตนตรัยมาช่วยปกป้องรักษา เพื่อที่ตนจะได้มีชีวิตอย่างปลอดภัยเป็นสุข

    แต่การถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะอย่างแท้จริงนั้น คือ การศึกษาเรียนรู้พระรัตนตรัยให้เข้าใจแจ่มชัดแล้วน้อมนำเอาความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ พระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนและพระสงฆ์สาวกของพระพุทธองค์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นแบบอย่าง มาเป็นหลักเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมถูกต้อง อันจะทำให้ได้ชื่อว่านับถือและบูชาพระรัตนตรัยอย่างแท้จริงด้วยทั้งพระรัตนตรัยก็จะปกป้องคุ้มครองมิให้ตกไปสู่ความชั่ว โดยไม่ต้องอธิษฐานอ้อนวอน

    ขออำนวยพรให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรม ประสบสันติสุขทั่วกัน

    ขออำนวยพร




    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  19. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ธัมมจักกัปปวัตนสูตร หรือเขียนอย่างภาษามคธว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เป็นปฐมเทศนา เทศนากัณฑ์แรก ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระปัญจวัคคีย์ เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสธัมมจักกัปปวัตนสูตรนี้อยู่ ดวงตาเห็นธรรม ปราศจากธุลีปราศจากมลทิน ก็ได้เกิดขึ้นแก่ท่านพระโกณฑัญญะนับเป็นพระสงฆ์ สาวกองค์แรกในพระพุทธศาสนา วันนั้นเป็นวันเพ็ญกลางเดือนอาสาฬหะหรือเดือน 8 เป็นวันที่พระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ บังเกิดขึ้นในโลกเป็นครั้งแรก คือมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ครบบริบูรณ์

    ธัมมจักกัปปวัตนสูตร มีเนื้อหาแสดงถึงการปฏิเสธส่วนที่สุดสองอย่าง และเสนอแนวทางดำเนินชีวิตโดยสายกลางอันเป็นแนวทางใหม่ให้มนุษย์ มีเนื้อหาแสดงถึงขั้นตอนและแนวทางในการปฏิบัติเพื่อบรรลุถึงอริยสัจทั้ง 4 คืออริยมรรคมีองค์ 8 โดยเริ่มจากทำความเห็นให้ถูกทางสายกลางก่อน เพื่อดำเนินตามขั้นตอนการปฏิบัติรู้เพื่อละทุกข์ทั้งปวง เพื่อความดับทุกข์ อันได้แก่นิพพาน ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา


    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  20. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    วันเข้าพรรษา

    เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า จำพรรษา ("พรรษา" แปลว่า ฤดูฝน, "จำ" แปลว่า พักอยู่) พิธีเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง ละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม การเข้าพรรษาตามปกติเริ่มนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี (หรือเดือน 8 หลัง ถ้ามีเดือน 8 สองหน) และสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา

    สาเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตการจำพรรษาอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งตลอด 3 เดือนแก่พระสงฆ์นั้น มีเหตุผลเพื่อให้พระสงฆ์ได้หยุดพักการจาริกเพื่อเผยแพร่ศาสนาไปตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นไปด้วยความยากลำบากในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันความเสียหายจากการอาจเดินเหยียบย่ำธัญพืชของชาวบ้านที่ปลูกลงแปลงในฤดูฝน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงเวลาจำพรรษาตลอด 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลาและโอกาสสำคัญในรอบปีที่พระสงฆ์จะได้มาอยู่จำพรรษารวมกันภายในอาวาสหรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ด้วย

    มูลเหตุที่พระพุทธเจ้าอนุญาตการจำพรรษาแก่พระสงฆ์

    ในสมัยต้นพุทธกาล พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงวางระเบียบเรื่องการเข้าพรรษาไว้ แต่การเข้าพรรษานั้นเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์และพระสงฆ์สาวกปฏิบัติกันมาโดยปกติเนื่องด้วยพุทธจริยาวัตรในอันที่จะไม่ออกไปจาริกตามสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงฤดูฝนอยู่แล้ว เพราะการคมนาคมมีความลำบาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระสงฆ์ในช่วงต้นพุทธกาลมีจำนวนน้อยและส่วนใหญ่เป็นพระอริยะบุคคล จึงทราบดีว่าสิ่งใดที่พระสงฆ์ควรหรือไม่ควรกระทำ
    ต่อมาเมื่อมีพระสงฆ์มากขึ้น และด้วยพระพุทธจริยาที่พระพุทธเจ้าจะไม่ทรงบัญญัติพระวินัยล่วงหน้า ทำให้พระพุทธเจ้าจึงไม่ได้ทรงบัญญัติเรื่องให้พระสงฆ์สาวกอยู่ประจำพรรษาไว้ด้วย จึงเกิดเหตุการณ์กลุ่มพระสงฆ์ฉัพพัคคีย์พากันออกเดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนาในที่ต่าง ๆ โดยไม่ย่อท้อทั้งในฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน ทำให้ชาวบ้านได้พากันติเตียนว่า พวกพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาไม่ยอมหยุดพักสัญจรแม้ในฤดูฝน ในขณะที่นักบวชในศาสนาอื่น พากันหยุดเดินทางในช่วงฤดูฝน การที่พระภิกษุสงฆ์จาริกไปในที่ต่างๆ แม้ในฤดูฝน อาจเหยียบย่ำข้าวกล้าของชาวบ้านได้รับความเสียหาย หรืออาจไปเหยียบย่ำโดนสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่ออกหากินจนถึงแก่ความตาย เมื่อพระพุทธเจ้าทราบเรื่อง จึงได้วางระเบียบให้ภิกษุประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง เป็นเวลา 3 เดือนดังกล่าว

    ข้อยกเว้นการจำพรรษาของพระสงฆ์

    แม้การเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระภิกษุโดยตรง ที่จะละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม แต่ว่าในการจำพรรษาของพระสงฆ์ในระหว่างพรรษานั้น อาจมีกรณีจำเป็นบางอย่าง ทำให้พระภิกษุผู้จำพรรษาต้องออกจากสถานที่จำพรรษาเพื่อไปค้างที่อื่น พระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาตให้ทำได้โดยไม่ถือว่าเป็นการขาดพรรษาโดยมีเหตุจำเป็นเฉพาะกรณี ๆ ไป ตามที่ทรงระบุไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการพระศาสนาหรือการอุปัฏฐานบิดามารดา แต่ทั้งนี้ก็จะต้องกลับมาภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน การออกนอกที่จำพรรษาล่วงวันเช่นนี้เรียกว่า "สัตตาหกรณียะ" ซึ่งเหตุที่ทรงระบุว่าจะออกจากที่จำพรรษาไปได้ชั่วคราวนั้นเช่น

    1.การไปรักษาพยาบาล หาอาหารให้ภิกษุหรือบิดามารดาที่เจ็บป่วย เป็นต้น กรณีนี้ทำได้กับสหธรรมิก 5 และมารดาบิดา
    2.การไประงับภิกษุสามเณรที่อยากจะสึกมิให้สึกได้ กรณีนี้ทำได้กับสหธรรมิก 5
    3.การไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์ เช่น การไปหาอุปกรณ์มาซ่อมกุฏิที่ชำรุด หรือ การไปทำสังฆกรรม เช่น สวดญัตติจตุตถกรรมวาจาให้พระผู้ต้องการอยู่ปริวาสเป็นต้น
    4.หากทายกนิมนต์ไปทำบุญ ก็ไปให้ทายกได้ให้ทาน รับศีล ฟังเทสนาธรรมได้ กรณีนี้หากโยมไม่มานิมนต์ ก็จะไปค้างไม่ได้.

    ซึ่งหากพระสงฆ์ออกจากอาวาสแม้โดยสัตตาหกรณียะล่วงกำหนด 7 วันตามพระวินัย ก็ถือว่า ขาดพรรษา และเป็นอาบัติทุกกฎเพราะรับคำ (รับคำอธิษฐานเข้าพรรษาแต่ทำไม่ได้)ในกรณีที่พระสงฆ์สัตตาหกรณียะและกลับมาตามกำหนดแล้ว ไม่ถือว่าเป็นอาบัติ และสามารถกลับมาจำพรรษาต่อเนื่องไปได้ และหากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องออกจากที่จำพรรษาไปได้ตามวินัยอีก ก็สามารถทำได้โดยสัตตาหกรณียะ แต่ต้องกลับมาภายในเจ็ดวัน เพื่อไม่ให้พรรษาขาดและไม่เป็นอาบัติทุกกฎดังกล่าวแล้ว


    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...