อาจารย์ "ธนะสิทธิ์" ผู้มีตาทิพย์ กำลังช่วยเหลือผู้ประสบทุกข์จากวิบากกรรม

รายละเอียดการเดินทางมากรุงเทพฯ ของท่านส่วนหนึ่งอยู่ที่กระทู้ สมเด็จพระพุทธองค์ ศรีอาริยเมตไตรย์ กับ ช่วงกึ่งพุทธกาลของพระโคดม (1 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3) หน้า ๓ ค่ะ

 

สวัสดีค่ะ
เท่าที่ได้คุยกับอาจารย์เมื่อวานนี้ อาจารย์บอกว่าจะมาที่ In house ประมาณวันที่ 3 พค ช่วงบ่ายค่า
(สถานที่ In house อยู่หลัง รพ.นนทเวช ม.เกร็ดแก้วการ์เด้น 3 ซอย 1 ติดรั้ว The mall สาขางามวงค์วาน ถ้ามาไม่ถูกติดต่อ 081 3159971)

 

ผมเข้ากระทู้ไม่ได้ครับ

 

<table id="post2052391" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> 22-04-2009, 08:47 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #49 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Thepkanya<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2052391", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Sep 2008
ข้อความ: 152
<if condition=""></if> พลังการให้คะแนน: 23


</td> <td class="alt1" id="td_post_2052391" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->วัน อาทิตย์ ที่ 3 พ.ค.52 เวลา 13.30 น. อาจารย์ ธนะสิทธิ์ ผู้บำเพ็ญเพียรจนเต็มบารมีแล้ว จะมาจาก อ.ฝาง จ. เชียงใหม่ เพื่อแสดงธรรม และช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก (โดยค้างที่ สถานปฏิบัติธรรม สมเด็จพระพุทธองค์ศรีอาริยเมตไตรย์ หรือ IN house 1 คืน และอยู่แสดงธรรมต่อ จนถึง เวลา 15.00 น. ของวันจันทร์ ที 4 พ.ค.52 แล้วจึงเตรียมเดินทางกลับ อ.ฝาง

fficeffice" /><o>></o>>
<o>></o>>
จอดรถที่ เดอะมอล์ล งามวงค์วาน หรือ โฮมโปร ประชาชื่น
สถานที่ In house - เป็นทาวน์เฮ้า ซอย 1 หมู่บ้านเกร็ดแก้วการ์เด้น 3
(หลัง รพ.นนทเวช ติดรั้ว-ห้างเดอะมอล์ล งามวงค์วาน หากเดินมาจาก ห้างฯ เข้าหมู่บ้านฯ (ซอย 1) ตรงประตูเล็ก ใกล้ศาลพระภูมิ ของ เดอะมอล์ลฯ)

โทร 080 315 9971

สถานปฏิบัติธรรม In house หมู่บ้านเกร็ดแก้วการ์เด้น 3 ติดห้าง เดอะมอล์ลงามวงค์วาน (หลังรพ.นนทเวช) ได้ถวายเป็น พุทธบูชา แล้ว เมื่อ วันที่ 4 เม.ย.52 โดยกาลต่อไป คือ สถานปฏิบัติธรรม สมเด็จพระพุทธองค์ศรีอาริยเมตไตรย์ จะเป็นที่ที่บุคคลสามารถมา สวดมนต์เจริญธรรม หรือมา นมัสการ ครูบาอาจารย์ได้ เมื่อท่านเดินทางมาแสดงธรรม
</td></tr></tbody></table>

 

อนุโมทนากับทุกท่านที่มีจิตอันเป็นกุศลด้วยนะคะ และได้เข้าเวปmahavihan951.comแล้วค่ะก็เห็นรูปอาจารย์ด้วยค่ะแต่เข้าเวปแล้วเพื่อที่จะได้ไปศึกษาหาความรุ้บ้างแต่ไม่มีอะไรเลยค่ะเงียบจังเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่ามีแต่โดนแทรกพวกโฆษณายาอะไรไม่รู้ค่ะอย่างไรแล้วท่านผู้ใจดีขอเบอร์โทรของอาจารย์ได้มั้ยค่ะkhanthaly@hotmail.fr ขอบคุณมากค่ะ

 

ได้พบท่านอาจารย์ในสามช่วงเวลา และได้รับความกรุณาด้านข้อธรรมะและความช่วยเหลืออีกหลายประการตั้งแต่ ๗ มีค. ๕๒ จนถึงวันนี้ เลยจะเล่าสู่กันฟังค่ะ

 

ดิฉันเองก็ได้พบท่านอาจารย์ในวันเดียวกับคุณตุ๊กที่คุณรักไร้พ่ายกล่าวถึงนั่นเอง โดยพี่เจ้าของร้านกาแฟ In House หลังเดอะมอลล์งามวงศ์วานเป็นผู้แจ้งข้อมูลในกระทู้ "ประเทศไทยจะมีภัยพิบัติหรือไม่" ในห้องภัยพิบัติและการเตรียมการ พี่เขาบอกเป็นส่วนตัวหลายสัปดาห์ก่อนหน้าวันดังกล่าวว่า ได้พบอาจารย์ท่านหนึ่งส่งพลังทางโทรศัพท์มือถือได้ และท่านสอนธรรมะง่ายๆ แต่ปฏิบัติตามแล้วเกิดความก้าวหน้า อาจได้เชิญท่านลงมาสนธนาธรรมะในเร็วๆนี้

 

แจ้งให้ทราบก่อนว่าเดิมดิฉันใช้ชื่อ sutatip_bในพลังจิต แต่เนื่องจากเปลี่ยนชื่อตัวและตั้งนามสกุลใหม่ตามคำแนะนำของท่านอาจารย์ธนสิทธิืเมื่อเร็วๆนี้จึงตั้ง log in ใหม่เป็น k_karn ตามชื่อปัจจุบันค่ะ

ตัวเองรู้จักพี่เจ้าของสถานที่ตั้งแต่สิงหาคม ๒๕๕๑ ที่งานสัมมนาพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ณ รพ. วิชัยยุทธ (ตัวเองในฐานะเจ้าภาพและวิทยากร พี่เขาในฐานะผู้เข้าร่วมสัมมนา งานฟรีค่ะ) พี่ท่านเป็นคนที่เห็นไฟกระพริบบนฟ้า แต่ใครๆในบ้านก็ไม่เห็นไปด้วย จึงแนะนำให้รู้จักกับคุณสุดใจจากกระทู้เขากะลา หลังสัมมนาพี่เขาเดินมาแจ้งว่าคุณสุดใจอธิบายให้ฟังหมดแล้ว สิ่งที่เห็นน่ะจริงทีเดียว สบายใจขึ้นมาก หลังจากวันนั้นก็ได้พบพี่เขานานๆ ครั้งจากกระทู้เขากะลา พี่เขาเคยให้กลุ่มเขากะลาใช้สถานที่ที่ร้านกาแฟในการจัดกิจกรรมกลุ่ม และได้พบกันอีกที่เขากะลา จ. นครสวรรค์ ในช่วงเดือนกพ.พี่เขาไปพบครูบาอาจารย์ที่จ. อยุธยาและกาญจนบุรียังได้แจ้งข่าวและสงเคราะห์ดิฉันและสามีร่วมทางไปจ. กาญจนบุรีด้วย เนื่องจากสามีดิฉันไม่สบายถึงขั้นต้องลาออกจากงานมาพักผ่อนตั้งแต่ตค. ๕๑ พี่เขาพบครูบาอาจารย์ที่ไหนดีก็พลอยสงเคราะห์ดิฉันและครอบครัวด้วย กราบขอบคุณในความกรุณาของพี่และครอบครัวเป็นอย่างสูงค่ะ

ในกลุ่มเขากะลาจะมีศัพท์ว่า "เว้ป/wave" เหมือนกับข้อมูลส่งมาที่จิตนั่นเอง เมื่อพี่เขาเชิญท่านอ. ธนสิทธิ์เว้ปบอกให้พี่เขาแจ้งข่าวที่กระทู้ภัยพิบัติ สามีพี่เขายังถามภรรยาอยู่ว่าดิฉันจะมาร่วมสนธนาธรรมด้วยหรือถ้าไม่โทรแจ้งหรือลงในกระทู้เขากะลา แต่ตัวเองในช่วงนั้นยังตามกระทู้ประเทศไทยอยู่จึงพบข้อมูลดังกล่าว การที่มาร่วมเสวนาก็ไม่ได้ถามเจ้าของสถานที่เลยว่าผู้รับเชิญเป็นใคร มาจากไหน เพราะเชื่อในเจตนาว่าพี่เขาคัดกรองแล้วต้องดีแน่นอน เลยขับรถมาลุ่นๆ

 

เช้าวันดังกล่าวดิฉันทำแว่นตาหาย วางไว้บนหิ้งแต่หาไม่พบ ดูหลังหิ้งก็แล้วว่าตกลอดลงไปไหมก็ไม่พบ แต่มาใช้คำถามของกลุ่มเขากะลาว่า อยากจะทุกข์มากหรือทุกข์น้อย จึงคิดว่ายังขับรถได้อยู่ก็ช่างมันไปก่อนเถอะ แล้วจึงกระวีกระวาดขับรถไปงามวงศ์วานคนเดียว

เมื่อไปถึงเห็นมีหญิงผู้หนึ่งก้าวลงจากรถหน้าร้านกาแฟ ต้องมีคนประคองเดินและมี walker ด้วย พอเข้าไปในร้านกาแฟได้สักพักจึงเห็นว่าสตรีท่านนั้นก็ค่อยๆ ประคองตัวขึ้นบันไดมาชั้นสอง ณ. สถานที่เดียวกัน

เมื่อมาถึงตอน ๑๐.๐๐ น.เห็นมีคนสัก ๑๕ คนแล้ว จึงเดินไปนั่งทางด้านหลัง ด้วยความที่ตาสั้นไม่สวมแว่นก็เห็นไกลๆ ว่าบนเก้าอี้ยาวมีคนแต่งสีชมพูอมแดงนั่งเป็นประธานอยู่ ก็เลยก้มกราบพระที่โต๊ะหมู่ไปทางทิศดังกล่าว แล้วสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ เพราะไม่ทราบว่าวันนี้จะมีพิธีหรือกำหนดการอะไร

สักพักเห็นสตรีที่ใช้ walker ผู้นั่งบนเก้าอี้ใกล้บันไดสนทนากับท่านเสื้อสีทับทิม แล้วได้ยินเสียงลูกปัดกระทบกัน แล้วมีเสียงว่า จัดการให้แล้ว ไหนลุกขึ้นสิ สตรีท่านดังกล่าวก็ลุกจากเก้าอี้ คนมาด้วยเตรียมประคองแต่เธอบอกไม่ต้อง อาจารย์ว่าไหนเดินสิ เธอก็เดินโดยไม่ใช้ walker เจ้าของบ้าน (รู้ว่าสตรีท่านนี้เป็นใคร) ยังถามว่าเจ็บไหมถ้ายังเจ็บก็บอกนะ เธอบอกไม่เจ็บจริงๆ เจ้าของบ้านดูยังไม่ค่อยเชื่อเลยว่าแขกเดินเองได้แล้ว ยังบอกว่าอย่าฝืนนะ ถ้ายังเจ็บก็บอกมาตรงๆ สตรีท่านดังกล่าวบอกว่าเดินได้ไม่เจ็บจริงๆ สักพักเธอก็ลากลับ (คงจะดีใจมาก) คราวนี้กระย่องกระแย่งลงบันไดเองไม่ต้องมีคนประคองแล้ว

ว๊าว...

 

เท่าที่ฟังๆ อยู่ใครๆ ในช่วงเช้าก็มาให้ท่านรักษาโรค ยังนึกอยู่ว่าในกระทู้ลงเรื่องธรรมะและภัยพิบัติ แล้วใครรู้ล่ะว่าท่านนี้รักษาโรคได้ พอคนซาลงจึงขยับไปนั่งข้างหน้าจะได้เห็นท่านอาจารย์ชัดๆ หน่อย

สิ่งแรกที่สะดุดตาคือมงกุฏหน้าตาแปลกๆ และชุดที่สวมใส่ พอใช้ความกล้าสนทนากับท่านๆ ก็บอกว่าเครื่องแต่งกายนี้สวรรค์เป็นผู้กำหนด ท่านไม่ได้อยากแต่งตัวเช่นนี้ เดิมท่านแต่งขาว พอปฏิบัติธรรมบารมีเพิ่มก็มีบัญชาลงมา ท่านถามว่า เป็นคุณๆ อยากแต่งชุดนี้เดินเล่นไปไหนมาไหนไหม แฮ่ๆ พวกเราก็ส่ายหน้าเหมือนกัน

ขณะนั้นท่านใช้คำแทนตัวว่าผู้แทนพระองค์พระพุทธองค์ศรีอาริยะเมตไตรย์ ท่านกล่าวว่าเมื่อปฏิบัติถึงจุดหนึ่งคำสั่งก็ลงมาเป็นระยะๆ เดิมท่านเป็นคนธรรมดา มีกรรมต้องชดใช้ เมื่อหมดสวรรค์จึงเปิดออกและลิขิตเส้นทางให้ (อะไรทำนองนั้น) ท่านบอกว่ามาทำอย่างนี้ใหม่ๆ คู่ชีวิตยังรับไม่ค่อยได้เลย ต้องแยกบ้าน ต้องรับประทานมื้อเดียว บริโภคแต่ผลไม้ (คงเลิกทำงานทางโลกด้วย) ฟังดูคล้ายๆมันต้องทำต้องเป็นไปก็เลยเลยตามเลยประมาณนั้น (ต่อมามีคนถาม จำไม่ได้ว่าเมื่อไร ว่าเห็นเขาว่าพระศรีอาริย์มาเกิดเป็นเณรมีฤทธิ์จริงหรือ ท่านบอกว่าจริง แต่ท่านเณรทำผิดกฏสวรรค์อำนาจวิเศษจึงถูกถอนคืนไปหมดแล้ว ท่านจึงถูกกำหนดให้รับงานนี้ คือมาสืบต่อศาสนาของพระสมณโคดมให้เจริญครบ ๕๐๐๐ ปี)

เมื่อทุกท่านกำหนดจิตนั่งสมาธิท่านอาจารย์บอกจะส่งพลังไปให้ เมื่อหลับตากำหนดลมหายใจดิฉันมีสภาวะจิตที่นิ่งกว่าปรกติมาก เมื่อถูกขอให้ถอนจากสมาธิก็อยากกลับไปหลับตาต่อ (ไม่เคยเป็น) เมื่อลืมตาผู้ร่วมสนทนาธรรมจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคท่านหนึ่งบอกว่า ระหว่างทำสมาธิเห็นใครไม่รู้แต่งสีแดงๆอย่างชุดท่านอาจารย์นี่แหละ แต่ท่านที่เห็นในสมาธิรูปงามเหลือเกิน ผ้าแพรพรรณเป็นแบบนี้แต่เนื้อผ้าเป็นของสูงค่ากว่าชุดของท่านมาก ท่านอาจารย์ก็ยิ้มๆ

ช่วงเที่ยงเจ้าของสถานที่กรุณาเลี้ยงอาหาร ข้าวปลาดูมีไม่มากวางเต้มโต๊ะขนาดไม่โตนัก แต่ทุกคนทานจนอิ่มก็ยังมีอาหารเหลือ (เหมือนเรื่องก่องข้าวน้อยกระมัง) ขออนุโมทนาบุญท่านค่ะ ช่วงสิบเอ็ดโมงท่านอ.บริโภคผลไม้ ช่วงบ่ายคุยกันหัวข้อภัยพิบัติ แต่ตัวเองไม่ใส่ใจ เพราะรู้มานานว่าภัยจะเกิด แต่่ก่อนก็วิตกจริตเพราะไม่รู้จะเตรียมตนอย่างไร มาพบเขากะลาเขาบอกให้เตรียมใจอย่างเดียว วาง วาง วาง.. เลยไม่ใส่ใจกับบทสนทนา มาตื่นเต้นช่วงท่านกล่าวว่าผู้คนสูงศักดิ์มีตำแหน่งการเมืองในปัจจุบันเป็นใครกันบ้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไม่ทราบว่าจริงไหม (เพราะเราไม่มีทางรู้) แต่ถ้าจริงอธิบายอะไรๆ ได้แจ่มมากเลย แต่อย่าถามมานะคะ เพราะรู้ก็ไม่ได้ช่วยให้เราพ้นวัฏฏะสงสารกันหรอก

เวลาผ่านไปไวมากๆ สี่โมงเย็นต้องกลับบ้านแล้ว มาทราบตอนกลางคืนว่าหลังจากลากลับเขาสวดมนต์กัน บอกได้คำเดียวว่า เสียดายไม่ได้ร่วมสวดมนต์...

_heart+love_

 

วันเสาร์เจอของดี อธิบายไม่ได้ว่าดีอย่างไร แต่ต้องรีบบอกต่อ
คืนนั้นโทรบอกป้า (พี่เลี้ยงลูก) ให้มานั่งสมาธิที่ร้านกาแฟในวันอาทิตย์ด่วน เจอกันแปดโมง ก่อนคนเยอะ อยากถามอะไรจะได้ถามแต่เช้า
ตัวเองเตรียมขนสามีและลูกไปรับพลังในวันรุ่งขึ้นเต็มที่ ถึงสัมผัสไม่ได้อย่างคุณเทพฯเจ้าของสถานที่ แต่รู้สึกดี (แหม นั่งสมาธิได้นิ่งนี่ดีสุดๆ)

แต่เช้าวันอาทิตย์กลับไปปากคลองตลาดแต่เช้า (wave ดอกไม้ลง) ซื้อดอกบัวไปจัดพาน และเกิดจะขอรดน้ำท่านอาจารย์ละ มีซื้อมะลิไปลอยน้ำอบด้วย

ไปถึงร้านกาแฟพบแต่ป้าพรมาแต่เช้าตามสั่ง ไปนั่งหลบอยู่ไกลๆ พามานั่งใกล้ๆ บอกว่าจะถามอะไรท่านก็ถามสิ

ป้าถามว่า คนที่บ้าน (สามีป้า) สวดมนต์ไหว้พระ เขาไม่เอาเลย จะน้อมนำเขามาทางนี้ได้อย่างไร

ท่านอาจารย์ถามว่า ป้าเองว่ายน้ำถึงฝั่งวัฏฏะสงสารหรือยัง ป้าบอกยัง ท่านจึงถามว่า เราเองก็ยังไม่ถึงฝั่ง จะไปพยุงเขาอีก จะจมทั้งคู่ไหม ท่านว่านิพพานไม่สูญนะ เมื่อถึงฝั่งแล้วค่อยมาช่วยกันวิธีอื่นดีไหม คราวนี้ป้ายิ้มแฉ่งพยักหน้า ตั้งแต่นั้นนั่งฟังเขาคุยกันอย่างเดียวไม่ถามอะไรเลย

วันนี้ไม่มีใครมาแก้กรรม มีแต่ครอบครัวมิตรสหายของท่านเจ้าของสถานที่ จึงได้คุยกันสัพเพเหระ ได้จัดดอกบัวถวายท่าน แต่ดอกบัวจัดแล้ววางพักไว้ถูกแอร์เป่าก็เหี่ยวเฉา เลยต้องคิดว่ามันก็เป็นอนัตตา ถวายบัวเหี่ยวๆไม่รู้ได้อานิสสงฆ์อะไร (ตอนจัดยังงามอยู่เลย โทษแอร์ได้ไหมคะ)

ท่านแนะนำให้ท่านเจ้าของสถานที่รื้อศาลพระภูมิที่บ้านแล้วตั้งศาลพระพรหมแทนที่ เอาพระพรหม ๙ นิ้ว จึงโทรหาช่างหล่อพระที่รู้จักกัน เขาบอกมีแบบแล้วหล่อให้ได้วันจันทร์เลย จึงขอให้ท่านจารแผ่นทองไปร่วมหล่อพระพรหม เพื่อนคุณเทพอาสาไปซื้อแผ่นทองมา ๒ แผ่น

ขณะท่านจารอยู่นึกถึงพระเจ้าองค์แสนของห้องภัยพิบัติ จึงขอให้ท่านจารแผ่นทองไปร่วมหล่อพระ เพื่อนคุณเทพบอกว่าช้าไปแล้วเพราะกว่าจะออกปากท่านจารแผ่น ๒ เกือบเสร็จแล้ว พอจารแผ่นสองเสร็จท่านส่งให้คุณเทพ ถามว่าเป็นพลังเช่นไร คุณเทพวางบนมือสักครู่กล่าวว่าพลังปกป้อง ปัดเป่า คุ้มครอง คุณเทพถามว่าแผ่นทองหล่อในพระพรหมทำไมพลังเป็นเช่นนี่ตอบผิดหรือไม่ พอท่านบอกว่าแผ่นนี้ไปหล่อพระคุณเทพจึงถึงบางอ้อว่าคำตอบจากพลังสัมผัสถูกต้อง (แล้วท่านทราบได้อย่างไรว่าเราจะขอแผ่นสองไปหล่อพระเมื่อเรายังไม่ได้คิดเลยเมื่อท่านเริ่มจารแผ่นสอง...) เพื่อนคุณเทพมันสมองเฉียบคมไปซื้อแผ่นทองเพิ่มให้ท่าอาจารย์จารให้ทุกคนเก็บไว้คุ้มตัว ใครไม่อยู่บ่ายนั้น อด...

 

พอตกบ่ายก็ขอรดน้ำท่าน ตัวเองไปนั่งลอยดอกมะลิในน้ำอบ
เกิดไม่พอใจขึ้นมา ขอกรรไกรมาตัดก้านดอกมะลิสีเขียวๆ ออก จิตบอกต้องขาวบริสุทธิ์ เราน่ะเหรอจะละเอียดอย่างนี้ ยายม้าดีดกะโหลก...

ป้าเขาเอามาลัยมาถวาย เลยได้ใช้เป็นมาลัยรองน้ำอบ

ก่อนรดน้ำก็กราบกันธรรมดา พอถึงคุณเทพเธอกราบงามเหมือนฝัน (ไม่เคยเห็น) เธอกล่าวภายหลังว่าไม่รู้ทำอะไร กายในน้อมกายนอกทำตามคำสั่งจากภายใน...

น้ำอบที่ผ่านมือแล้วแบ่งกันไปเป็นน้ำมนต์ น้ำอบลอยดอกมะลิที่ไม่ได้ใช้ให้สามีเจ้าของบ้านไปสรงน้ำพระที่ห้องทำงานเพื่อความเป็นสิริมงคล

เสร็จแล้วท่านก็เล่าเรื่องสวรรค์จัดการทั้งรูปลักษณ์และเครื่องแต่งกาย ท่านเล่าว่าแม้แต่รอยหนูแทะเขาก็จัดให้ โดยให้ท่านไปโดนฟาดท้ายทอยด้วยด้ามปืนเอ็ม ๑๖ เมื่อครั้งทำงานเป็นครูดอย แล้วท่านจะให้สามีของเพื่อนคุณเทพไปคลำดู แต่คนถูกถามไม่รู้ว่าจะคลำรอยอะไรคลำไปทำไมจึงบอกปฏิเสธ ตัวเองทราบเรื่องรอยหนูแทะจากกระทู้ประเทศไทยของคุณเกษม แต่ไม่ได้ตามท่านเพราะท่านเป็นพระศรีอาริยเมตไตรย์ลงมาก่อนเพื่อบำเพ็ญบารมีเป็นพระยาธรรมิกราชหรือไม่เลยไม่ใส่ใจเรื่องนี้ จริงๆท่านก็อยู่เชียงใหม่ เขาก็บอกไว้แล้วว่าไม่สองเชียงก็สองลำ ก็เชียงใหมเชียงรายลำปางลำพูนไง

ก่อนกลับบ้านอดรนทนไม่ไหว กราบเรียนถามว่าขอตัดชุดให้ท่านใหม่ได้ไหม กลัวถูกตำหนิแต่จิตมันยุกยิกๆหลายรอบแล้วว่าอย่างไรก็ขอถาม ท่านเขย่ามือลูกปัดกระทบกันกรุ๋งกริ๋ง แล้วลืมตาบอกว่าสวรรค์อนุญาต

แล้วจะหาผ้าหาแถบอย่างไรจึงจะถูกต้องเล่า เราติดต่อกับสวรรค์ไม่ได้นี่นา

ท่านบอกว่า ถ้าจิตเราว่าอย่างไรก็หาซื้อเอาชิ้นนั้นแหละเป็นถูกต้อง

อยู่ๆ คุณเทพก็บอกว่า พี่เห็นแล้ว ของใหม่สวยนะ เดี๋ยวจะวาดรูปเอาไว้ว่าอ. ไก่จะตัดเย็บมาเหมือนไหม

ยังไม่ทันทำข้อสอบสวรรค์เลยคุณครูมารอให้คะแนนแล้ว อึ๋ย....

ก่อนกลับได้ทำสวดมนต์ทำสมาธิร่วมกัน ท่านบอกว่าสอบผ่านทุกคนจิตเป็นสมาธิพอใช้ได้ ดีใจเพราะสามีนั่งสมาธิด้วย ถ้าครูอาจารย์บอกว่าฝรั่งพอสอบผ่านก้เป็นบุญของเขา..

คราวหน้าจะเล่าเรื่องการตัดเย็บเครื่องแต่งกายค่ะ

-cool day-

 

คุณ k karn ค่ะ หากเราสนใจการแก้กรรมละคะและไม่สามารถจะไปพบท่านด้วยตัวเองเพราะอยู่ไกลมากอยากขอรบกวนท่านช่วยแก้กรรมได้มั้ยค่ะ

 

มีเพื่อนสมาชิกเวบพลังจิตเป็นสุภาพสตรีท่านหนึ่ง
ได้อ่านกระทู้นี้แล้วได้โทรหา อ.
เพื่อให้ อ ช่วยรักษาโรคปวดหลังของเธอ
แล้วเธอกลับมาบอกผมว่า อ. ธนสิทธิ์ได้รักษาให้เธอหาย
ปวดหลังได้ และเป็นการรักษาโรคผ่านทางโทรศัพท์

เล่นเอาผม งง เลย

 

Ajan Thanasit

ขออนุญาตนำภาพท่านอาจารย์ธนะสิทธิ์ มาประกอบเรื่องเล่าของคุณ k_karn ด้วยความเคารพครับ ท่านอาจารย์มีเมตตามาก ท่านอาจารย์มาอินเฮ้าเมื่อไร จะไปกราบท่านอีก พี่เทพก็ใจดีทำให้เราได้พบสิ่งดีๆในชีวิต

 

ภาพถ่ายที่อ.ฝาง ๑๒ เมษายน ๒๕๕๒

เรียนคุณ lissent และทุกท่าน

ท่านอาจารย์อาจจะได้ลงมาโปรดลูกศิษย์และบุคคลทั่วไปอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมิย. นี้ พอจะรอไหวไหมคะ ถ้าทราบกำหนดการแล้วจะรีบแจ้งให้ทราบค่ะ

ถ้าคุณ lissent รอไม่ไหวหรืออยู่ไกลจากกท. ให้ติดต่อมาทาง pm นะคะจะส่งหมายเลขท่านไปให้ค่ะ

ขอขอบคุณคุณ sodalith สำหรับภาพของท่านอาจารย์ค่ะ ถ้าวันไหนคอมเร็วกว่านี้หน่อยจะลงภาพท่านที่ถ่ายที่ฝางให้ชมค่ะ ตั้งแต่พบกับท่านนี่ไม่กล้าขอถ่ายภาพเลย มีอยู่รูปเดียว กลัวเผยแพร่ไปในที่ที่มีคนปรามาสท่านจะเป็นบาปต่อผู้ปรามาสค่ะ

 

รูปที่คุณ sodalith ลงเป็นเครื่องแต่งกายที่ตัดเย็บใหม่ (ตามเรื่องที่จะเล่าต่อไป) คาดว่าถ่ายวันที่ ๓-๔ พค. ๕๒ ที่อินเฮ้าส์ค่ะ

 

ในวันเสาร์ที่ ๗ มีค. ๕๒ มีท่านหนึ่งขอความช่วยเหลือเรื่องญาติที่เป็นโรคออทิสติก ท่านอ.ธนสิทธิ์กล่าวว่าเป็นกรรมฆ่าวัว เจ้าของคำถามบอกว่าญาติไม่เคยฆ่าวัวเพราะเป็นโรคนี้ตั้งแต่เด็ก ท่าอ.บอกว่าในชาติก่อนเขาเคยเป็นเจ้าของโรงฆ่าสัตว์ ทุบหัววัวทุกวัน แล้วท่านก็บอกว่า อย่างพวกที่เป็นไมเกรนน่ะพวกทุบหัวปลา กำลังจะถามว่าชาติไหน ท่านหนึ่งที่อยู่ในที่นั้นบอกว่าชาตินี้แหละ เคยทุบหัวปลาช่อนให้แม่ วันหนึ่งทุบตัวใหญ่หนึ่งโป้งมันไม่ตายบิดหัวไปมา ต้องโป้งที่สามจึงตาย จากนั้นจึงบอกแม่ว่าแม่จะแกงก็ฆ่าเอาเองเถอะ ปัจจุบันนี้ท่านผู้นั้นเป็นไมเกรน บอกว่า "มันปวดจากในเนื้อสมองเลยรู้ไหม เวลาปวดก็บิดหัวเหมือนปลาช่อนตัวสุดท้ายนั่นเอง"

จึงขอเรียนถามท่านว่าพวกป่วยเป็นโรคภูมิแพ้นี่เกิดจากกรรมอะไร ท่านถามว่าใครเป็นโรคนี้ บอกท่านว่าลูกชายคนเล็กอายุ ๑๐ ปี ท่านอ.เขย่าลูกปัดหินบนข้อมือที่สวมอยู่พลางบอกว่าลูกทำกรรมจับหัวกบกระแทกฝาให้ตาย บอกท่านว่าลูกอายุ ๑๐ ปีเองไม่เคยฆ่าสัตว์อะไร ท่านบอกว่าชาติก่อนๆ น่ะซิ ฆ่าตั้งเยอะ เดี๋ยวจัดการให้นะ...เอ้า เจ้ากรรมนายเวรมารับบุญขอเราไปแล้วอโหสิกรรมให้เขานะ...

เย็นนั้นกลับบ้านลองดูไม่ให้ลูกกินยาแก้แพ้อากาศ ไม่สูดไอน้ำร้อน ไม่กินยาแก้ไอ (จากสารคัดหลั่งใสๆ ในโพรงจมูกด้านหลังที่ไหลลงคอ คนเป็นภูิมิแพ้รู้จักอาการดี) เอ คืนนั้นนอนได้ตลอดคืนแฮะ เช้ามาก็ไม่ต้องทานยา ตั้งแต่นั้นมาสามเดือนแล้วไม่ได้ทานยาเลย เรียกว่าหายจริงๆ ยาหมอรพ. ยังอยู่เต็มแผง....

แล้วที่แปลกอีกประเด็นหนึ่งคือ ลูกคนนี้แม่ตั้งชื่อเล่นให้เองให้ชื่อ "กบ"

คนที่ญาติเป็นออทิสติกนี่ท่านอ.ให้นำพระพุทธรูปหน้าตัก ๙ นิ้วมามอบให้ท่าน (ถวาย) แล้วจะเอาบุญกุศลตรงนี้ไปต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวรให้

ในวันนั้น ๗ มีนาคม ๕๒ ฟังๆ ดูจึงขอถามถึงคุณพ่อของสามี พอบอกชื่อนามสกุลแล้วท่านก็หลับตา บอกว่าอยู่นรกลึกพอดู (รู้สึกจะอยู่ขุม ๒๓) "เพราะเป็นทหาร เป็นหัวหน้าทหาร ลูกน้องฆ่าเขากรรมก็มาถึงผู้สั่งด้วย"

จะช่วยพ่อสามีอย่างไรดี ท่านรู้ได้อย่างไรว่าพ่อสามีที่เป็นชาวฮังการีเป็นนายทหารสัญญาบัตร เป็นหัวหน้าหน่วยทหาร รบทั้งสงครามโลกครั้งที่ ๒ และสมัยรัสเซียบุกฮังการี ถามว่าจะช่วยได้อย่างไร ท่านอ.บอกให้ถวายพระพุทธรูปหน้าตัก ๑๙ นิ้วแล้วจะไปต่อรองกับข้างล่างให้

ขณะนั้นเป็นช่วงที่สามีไม่สบายและตกงาน จะหาปัจจัยที่ไหนหนอไปจัดหาพระ ๑๙ นิ้วมาได้ ท่านอ.บอกว่าไม่ต้องรีบก็ได้

ขออนุญาตเล่าเรื่องคุณปู่ของเด็กๆ ต่อตรงนี้เลย คือเมื่อช่วงสงกรานต์ได้ขึ้นไปหาท่านอ.ที่สำนักปฏิบัติอ.ไชยปราการ ได้ถวายเครื่องแต่งกายชุดใหม่ ถวายสังฆทานคิลานเภสัช ถวายอาหารเที่ยงมื้อแรกหลังครองผ้าใหม่ และสวดมนต์เจริญกรรมฐาน (วันละครั้ง) เป็นเวลา ๒ วัน แล้วได้คุยปรึกษากับท่านอาจารย์เรื่องแนวทางสร้างพระ ๑๙ นิ้วเพื่อถวายเพื่อช่วยคุณปู่ ท่านบอกว่า "ไม่ต้องถวายพระแล้วนะเขาขึ้นมาแล้ว"

ดิฉันก็ร้องอ้าว "อ้าว ก็คราวก่อนท่านบอกว่าให้ถวาย ทำไมคราวนี้ไม่ต้องแล้วละคะ"

ท่านก็บอกด้วยความเมตตาว่า "คนเรามีแต่สร้างกรรม แล้วจะมาขอให้เราแก้ แต่ไมได้ปฏิบัติธรรมเป็นคนดี จะไปแก้กรรมให้ญาติเขา เจ้าตัวก็ยังเป็นคนบาปอยู่ แก้กรรมให้ญาติคนบาปก็เหนื่อยเปล่า ตั้งแต่พบกันที่อินเฮ้าส์ครั้งนั้นแล้วท่านดร.(หมายถึงตัวดิฉัน)ก็ถือศีลห้า สวดมนต์ เจริญภาวนา และสร้างบุญใหญ่อีกมากมาย เราก็เลยช่วยเหลือญาติของท่านให้บุญเขาก็ไม่ทุกข์แล้ว ถ้าใครมาติดตามเราเราก็จะดูแลครอบครัวเขา เขาจะได้ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง
มีจิตใจปฏิบัติธรรมได้เต็มที่ เข้าใจแล้วนะท่าน ดร."

สามสัปดาห์ถัดมา ช่วงวันวิสาขบูชา ๘ พค. ๕๒ สอบถามผ่านตัวกลาง (ร่างผ่าน medium ไม่ใช่ร่างทรง) ขณะไปร่วมปฏิบัติธรรมที่ไชยปราการอีกครั้ง ทราบว่าคุณปู่เป็นเทวดาอยู่ชั้นหนึ่งแล้ว ตัวกลางพูดภาษาอังกฤษจ้อ ปรกติพูดได้แค่โนโน โอเค โคคาโคล่า ตัวกลางก็งงว่าตนเอง "โกอินเตอร์" ไปตั้งแต่เมื่อไหร่

เล่าให้ฟังตามเห็น สติไม่ได้ฟั่นเฟือน ท่านที่ตามอ่านไม่เชื่อไม่ว่าแต่ขออย่าลบหลู่ ถ้าสงสัยให้มาตามดูเองค่ะ

:z10

 

แนะนำกระทู้ค่ะ อ่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับ อ. ธนสิทธิ์ ณ.สถานปฏิบัติธรรม อ.ฝาง จ. เชียงใหม่ได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

สมเด็จพระพุทธองค์ ศรีอาริยเมตไตรย์ กับ ช่วงกึ่งพุทธกาลของพระโคดม

 

ขอเบอร์อาจารย์ด้วย thien99_2000@thaimail.com