อาการเคลิ้มและวิธีจัดการในขณะทำสมาธิ

เนียะเราไปฟังการบรรยาย วิทยากร หรือ เซลย์ขายของ
มีอาถรรพ์ประเภท จูงจิต ประมาณสีผึ้ง อะไรงี้
ถ้าเราเคยภาวนามาจิตทรงดีๆ ทีมาตรฐานเราจะรู้เลย
ว่าอาถรรพ์ที่วิทยากรใช้อยู่กำลังดึงจิตเรา
วูบเลย
แแบฝันซ้อนฝัน อะไรงี้ แต่อย่าตกใจมาก
ให้เห็นว่าทุกข์ เพราะตัญหา อะไรก็ไม่รู้ไม่ใข้อาถรรพ์เรา ไม่ใช่ของเรา
จะกลายเป็นธรรมวิจายะ ถ้ามีวิริยะ ปิติ ปัสสะทิ เด๊ยวสมาธิ
อุเบกขามาเอง

 

ใช้ไสยเวทย์กับคนภาวนา บาปสุดๆ
อย่างผมก็มักพกวัตถุอาถรรพ์ บ่อยๆ
ถ้าเห็นว่าจะบาปหนักก็ให้เปลี่ยนเป็นภาพพระแทน

 

ถ้าปักใจเชื่อไปแบ้วว่านี่เราโดนอาถรรพ์แน่แท้
อย่าเพิ่งโกรธคนใช้แรงเกินไปเร็วเกินไป
เพราะบางที่คนใช้ก็พกไปงั้น แบยเห็นคนอื่นแนะรำก็ลองดู
แต่ถ้าเกิดมีผบจะกวนรักภาวนาอย่างเป็นทางการ
หมอดู หมอผีในทีวีหลายคนก็ใช้
เป็นว่าเราภาวนาคาถาชินปัญชรดูอย่าเปลี่ยนท่าทางต้องอยู่ท่าเดิม
อาสนะเดิม ตามภาษานักภาวนา ครบเก้าจบจะทรายเลยว่านี่
มีการใช้อาถรรพ์หรือเปล่า
คาถาชินปัญชรทีอานุภาพศักดิ์สิทธิจริวๆ
ผมเพิ่งหัดสวดได้มาปีเดียวเอง
ถ้าปมหัดสวดได้เมื่อกลานปีก่อน ชีวิตผมดีกว่าปัจจุบันนี้แน่ๆ
แต่คาถาชินปัญชร ถ้าเปลี่ยนอาสนะ คือสวดไปขยับนู่นนี่นั้น
จะต้องสวดใหม่ให้ครบเก้าจบ
แต่ถ้าใช้ค่ถาจักรพรรดิ์ปลุกขินปัญชร
สวดครยเก้าจบ จะลุกไปไหนๆได้บ้าง ถ้าไม่ไกลนัก ไปเจ้าห้องน้ำ ไรงี้ จะยังไม่ต้องรีบสวดใหม่อีกเก้าจบ
ต่อให้ใข้คาถาจัดรพรรดิ์ปลุกค่ถาชินปัญชร อานุภาพจองคาถาก็หมดได้
ต้องอยู่นิ่งๆ สวดปลุกใหม่อีกเก้าจบ

 

เอ๊อะ!

ห้องติดกับผมเพิ่งย้ายออกเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ก่อนไป เอาซะขนลุกเลย

คือ ก็อยู่มานานหลายเดือนนะครับ

จนมาวันหนึ่งเขาก็บ่นๆๆ ไม่พอใจนู่นนี่นั่นห้องผม เรื่องเศษอาหารมันไหลไปกองห้องเขา

ซึ่งผมไม่ได้รู้เรื่องเลย ห้องผมก็กินข้าวข้างนอก ไม่มีล้างจาน ทำอาหาร

แล้วรางระบายน้ำมันรางเดียวทะลุหลังห้องทุกห้อง ห้องผมรองบ๊วย ห้องเขาท้ายสุด

ผมก็ไม่ได้โกรธอะไร ไม่ได้พูดอะไรเลย

แต่ก่อนเขาจะออกเขาเล่าให้ลุงกับป้าร้านขายของหน้าห้องเช่าฟังว่า

เขานอนไม่ได้เลย นอนหลับก็เหมือนมีคนมาหยิกเขา อาบน้ำก็ร้อนเนื้อตัวไปหมด

จนวันที่เขาออกไป แต่อยู่ห้องแถวใกล้ๆห่างประมาณ 100 เมตร

มาอีกครับ มาขอให้ลุงกะป้าพาเขามาขอโทษผม แกว่าผมทำของใส่

ผมก็บอก ไม่ได้ทำ ชี้ให้ดูหิ้ง มีแต่พระพุทธ พระสงฆ์ อดีตพระมหากษัตริย์ วัตถุมงคลธรรมดา ไม่มีเลยสายดำ ไสยเวทย์

เขาก็ไม่เชื่อ บอกว่าขนาดย้ายไปห้องใหม่ก็ตามไปอีก ทั้งหยิก ทั้งดึง หนักขึ้น แถมมีเคาะประตูห้องอีก เปิดมาก็ไม่มีใคร

ผมก็ยืนยันว่า ต่อหน้าพระพุทธ เนี่ย ให้พูดร้อยครั้งพันครั้งก็เหมือนเดิม ผมไม่ได้ทำ จนเขาขอโทษแล้วก็ออกจากห้องไป

แล้วเขาก็ซื้อของในร้านของลุงกะป้าให้เพื่อขอโทษที่เข้าใจผิด

สุดท้าย ย้ายไปแล้วครับ ลุงมาบอกว่า คืนวันที่มาหาผม ราบรื่นดี หลับสบาย

แต่คืนถัดไป เหมือนเดิมเลย เขาก็ไปดูอะไรที่ไหนสักแห่ง บอกว่าคนทำรู้จักผม อยู่ที่ทำงานเดียวกัน อยู่ที่สูงๆ

งง หนักเข้าไปอีกผม ที่ทำงานผมเป็นโรงซ่อมบำรุงชั้นเดียว ออฟฟิศเจ้านายมี 2 ชั้น

ไม่มีใครสนิทกะผมเลยชั้น 2 อ่ะ

ตกลง แกเจออะไร แล้วคนที่สูงนั่นใคร ผมทำงานกะเขาหรือ

หรือนี่คือเหตุที่ท่านว่าเป็นอุปสรรคของผม

ยังมีเรื่องเหลือเชื่ออีกครับ ชีวิตผม จะว่าไปมันก็แปลกแหวกแนวไปจากคนอื่นอยู่มากเหมือนกัน

 

ผมว่า คุณเป็นสาเหตุละ 555555555+

ใครก็ตามถึงจะไม่ใช่ จขกท ถ้าเป็นคนมีศีล และ + ปฏิบัติภาวนา นี่ ถ้ามีบุคคลอื่น คิดไม่ดี จะโดนแรงกรรมกลับไปหนักมาก

และถ้าคนที่คิดไม่ดี มุ่งร้ายก็คือไม่ดี ไม่ใช่คนมี ศีล ไม่ใช่คนปฏิบัติ ก็ยิ่งหนักเข้าไปอีกนั้นละครับ

ยังไม่รวมพวก วัตถุมงคลอื่นๆ ที่มีไว้อีก

ถ้าเจอใครอีก ก็บอกไปเลยครับ ว่าตัวเอง นับถือพุทธ ถือศีล เป็นผู้ปฏิบัติกรรมฐาน ถ้าไม่อยากซวย อยากมีโทษหนักกรรมหนัก ก็อย่ามายุ่ง หรือ คิดไม่ดี

กรรม ทาง กาย วาจา ใจ

ยิ่งตัวเองปฏิบัติ จิตมีกำลังมากเท่าไหร่ พวกคนอื่นที่คิดไม่ดีก็ยิ่งจะโดนหนักไปเท่านั้นละครับ

มันเป็นเรื่องของคนอื่นที่อยู่ดีไม่ว่าดี หากรรมเข้าตัวเอง ทั้งๆที่ตัวเราเองไม่ได้เป็นผู้ก่อ นั้นเอง

ก็ต้องปล่อยไปเป็นเรื่องของกฏแห่งกรรม

ตราบใด ที่บุคคลนั้น ยังสำนึกไม่ได้ ยังไม่รู้ตัว ยังไม่สำนึก ก็จะโดนหนักไปเรื่อยๆ ละครับ

.

 

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยแนะนำ ชี้แนะในเรื่องที่ผมไม่รู้ให้ได้รู้ เรื่องที่ผิดให้ถูก

รู้สึปีติสุข ที่ได้สนทนาธรรม กับท่านทั้งหลาย

ช่วงนี้มีทุกข์ใจมาก ได้สนทนาธรรม ก็ช่วยบรรเทาไปได้มาก

 

ไม่ต้องทำอะไร ตั้งสติ อยู่กับลมหายใจ จะเพ่งจุดไหนก็จุดนั้น

ถ้ามีสติ ไอ้ที่บอกวู้บๆว้าบๆ เดี๋ยวมันก็หายไปเอง สรุป อยู่กับลมหายใจ