อัพเดตน้ำท่วม/น้ำป่าไหลถล่ม ท่วม2เมตร สุราษฎร์เจอซ้ำ

<IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0pt; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0pt; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0pt; TOP: 0pt; BORDER-RIGHT: 0pt; LEFT: 0pt" id=_atssh832 src="http://s7.addthis.com/static/r07/sh26.html#"></IFRAME>
เตือน กทม. 6-11 พ.ย.น้ำทะเลหนุนสูงสุด

<SCRIPT type=text/javascript> var omitformtags=["input", "textarea", "select"]; //var message="You may not right mouse click this page."; /* Disable Right Click */ if (navigator.appName == 'Microsoft Internet Explorer'){ function NOclickIE(e) { if (event.button == 2 || event.button == 3) { alert(message); return false; } return true; } document.onmousedown=NOclickIE; document.onmouseup=NOclickIE; window.onmousedown=NOclickIE; window.onmouseup=NOclickIE; } else { function NOclickNN(e){ if (document.layers||document.getElementById&&!document.all){ if (e.which==2||e.which==3){ //alert(message); return false; } } } if (document.layers){ document.captureEvents(Event.MOUSEDOWN); document.onmousedown=NOclickNN; } document.oncontextmenu=new Function("return false") } /* ห้ามคลุมดำ */ function disableselect(e){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (omitformtags==(e.target.tagName.toLowerCase())) return; return false } function reEnable(){ return true; } function noSelect(){ if (typeof document.onselectstart!="undefined"){ document.onselectstart=new Function ("return false") if (document.getElementsByTagName){ tags=document.getElementsByTagName('*') for (j = 0; j < tags.length; j++){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (tags[j].tagName.toLowerCase()==omitformtags){ tags[j].onselectstart=function(){ document.onselectstart=new Function ('return true') } tags[j].onmouseup=function(){ document.onselectstart=new Function ('return false') } } } } } else{ document.onmousedown=disableselect document.onmouseup=reEnable } } window.onload=noSelect; </SCRIPT>
มท.1 กำชับ ผวจ.ห้ามมีการการทุจริตเงินช่วยเหลือ ขณะที่ศูนย์เมขลาเตือน เจ้าพระยา 6 - 11 พ.ย.น้ำทะเลหนุนสูงสุด ส่วนลุ่มน้ำชี ยังวิกฤต ขณะที่ลุ่มน้ำมูลลดลง...

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยประชาชนที่ประสบภัยพิบัติเป็นอย่างยิ่ง และมีพระกระแสรับสั่งให้ดำเนินการนำน้ำดื่มสะอาดไปแจกจ่ายแก่ประชาชนอย่าง ทั่วถึง กระทรวงมหาดไทย ได้รับสนองพระราชดำริในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเน้นย้ำให้จังหวัดที่ประสบอุทกภัยเร่งจัดหาสถานที่สำหรับเป็นแหล่งน้ำ ส่วนกลางของหมู่บ้าน ตำบล และสำรวจถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน หากเสียหาย ให้นำมาซ่อมแซม และทำความสะอาด พร้อมจัดทำแผนการแจกจ่ายน้ำและดำเนินการแจกจ่ายน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

โดยประสานการประปาส่วน ภูมิภาค หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบสนับสนุนการแจกจ่ายน้ำประปาอย่างทั่วถึงและเพียงพอ รวมถึงประชาสัมพันธ์จุดแจกจ่ายน้ำหรือที่ตั้งถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านให้ ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง ส่วนพื้นที่ประสบภัยที่เข้าถึงยาก ให้จัดหายานพาหนะของส่วนราชการบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบอุทกภัย และให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อดำเนินการฟื้นฟูบูรณะโดยเร็ว สำหรับการแจกจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้มีการทุจริต เพราะเงินที่ช่วยเหลือชาวบ้าน เป็นเงินพระราชทาน และเป็นภาษีของประชาชน

ด้าน นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่ายังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 19 จังหวัด 94 อำเภอ 716 ตำบล 5,474 หมู่บ้าน 545,447 ครัวเรือน 1,694,0199 คน แบ่งเป็น ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ภาคกลาง 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี ปทุมธานี

พื้นที่การเกษตร ที่คาดว่าจะเสียหาย 6,316,156 ไร่ ผู้เสียชีวิต 110 ราย ส่วนภาคใต้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 11 จังหวัด 114 อำเภอ 666 ตำบล 3,831 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 213,152 ครัวเรือน 750,905 คน ได้แก่ สงขลา สตูล ตรัง นราธิวาส ยะลา ปัตตานี พัทลุง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราชกระบี่ และชุมพร ผู้เสียชีวิต 30 ราย ใน 8 จังหวัด ได้แก่ สงขลา 13 ราย สตูล 1 ราย สุราษฎร์ธานี 4 ราย ปัตตานี 2 ราย พัทลุง 3 ราย ชุมพร 1 ราย ตรัง 3 ราย และนครศรีธรรมราช 3 ราย

ขณะที่ศูนย์เมขลา กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานว่า ขณะนี้ ปริมาณฝนสูงสุดในแต่ภาค พบว่า ที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่มีรายงานฝนตก ขณะที่ภาคใต้ ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช มีปริมาณฝนมากถึง 267.0 มม. อ.คลองสระ จ.สุราษฏร์ธานี 190.5 มม. อ.ชิงโค จ.สงขลา 157.0 มม.และอ.คลองทรายขาว จ.พัทลุง 119.0 มม.ทำให้สถานการณ์น้ำในจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลาและพัทลุง มีปริมาณมากส่วนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ล่าสุด มีปริมาณน้ำไหลผ่าน ณ จุดสำ คัญๆ ดังนี้ จ.นครสวรรค์2,436ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลง 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยา 3,171 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลง 110 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนพระรามหก 330 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลง 68 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,140 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลง 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

สรุปว่า ปัจจุบันยังคงมีปริมาณน้ำ เหนือสมทบกับน้ำ ที่ท่วมขังอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ต่างๆไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ยังคงอยู่ในเกณฑ์มาก กอปรกับในช่วงวันที่ 6 - 11 พ.ย.นี้ จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้มีผลกระทบกับสองฝั่งลำน้ำ ในเขตจังหวัดที่ได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์น้ำ ทะเลหนุนสูง ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร

สำหรับ สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ระดับน้ำในเขตเทศบาลเมืองหาดใหญ่ลดลงสู่สภาวะปกติแล้ว เนื่องจากอยู่ใกล้ทะเลสาบสงขลา ทำให้สามารถระบายน้ำลงทะเลสาบสงขลาได้เร็ว และมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งการระบายน้ำจากคลองอู่ตะเภาลงทะเลสาบสงขลา

ด้านสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำชี ยังมีน้ำล้นตลิ่ง และท่วมขังใน จ.ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สถานีโกสุมพิสัย มีระดับน้ำอยู่ที่ 150.90 ม. เพิ่มขึ้น 23 ซม. โดยยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มเขต จ.มหาสารคามที่ ต.หนองบัว ต.ยางท่าแจ้ง ต.โพนงาม ต.เลิงใต้ ต.แก้งแกง ต.หนองบอน ต.หัวขวาน อ.โกสุมพิสัย ต.เกิ้ง ต.ท่าตูมและต.ลาดพัฒนาอ.เมือง ต.ขามเรียง ต.ท่าขอนยางและ ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

ที่ สถานีเชียงขวัญ มีระดับน้ำเท่ากับตลิ่ง โดยมีพื้นทีอยู่ในเกณฑ์วิกฤติ ได้แก่ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ที่อาจเกิดภาวะน้ำท่วมที่ ต.พระธาตุ และ ต.พลับพลา ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังอุทกภัยอยู่ที่ อ.โกสุมพิสัย อ.ฆ้องชัย อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด , อ.เมือง จ.มหาสารคาม, อ.เมือง และ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร เพราะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสถานการณ์ลุ่มน้ำมูล

ด้าน ต้นน้ำมีแนวโน้มลดลงช้าๆอย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลต่อจังหวัดด้านท้ายน้ำจะมีระดับน้ำในลำน้ำเพิ่มขึ้น ดังนี้ สถานี อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มีระดับน้ำลดลงอย่างช้าๆ แต่ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ ต.สะแก และต.ท่าม่วง สถานี อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ โดยมีระดับน้ำอยู่ที่ 119.31 ม. เริ่มมีน้ำล้นตลิ่งประมาณ 41 ซม.ยังคงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมในพื้นที่ 6 ตำบล ในเขต อ.ราษีไศล สถานีอุบลราชธานี มีระดับน้ำลดลง และต่ำกว่าตลิ่ง 12 ซม. โดยมีอัตราการไหลอยู่ที่ 2,179 ลบ.ม./วินาที สถานีแก่งสะพือ มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 82 ซม. และอยู่ในภาวะลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์น้ำ ใน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ยังคงมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง พื้นที่เฝ้าระวังอุทกภัยอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ และจ.อุบลราชธานี เนื่องจากมีแนวโน้มของระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้นได้


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวการเมือง
• 5 พฤศจิกายน 2553, 17:00 น.

 

<IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0pt; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0pt; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0pt; TOP: 0pt; BORDER-RIGHT: 0pt; LEFT: 0pt" id=_atssh273 src="http://s7.addthis.com/static/r07/sh26.html#"></IFRAME>
น้ำป่าไหลถล่ม ท่วม2เมตร สุราษฎร์เจอซ้ำ



<SCRIPT type=text/javascript> var omitformtags=["input", "textarea", "select"]; //var message="You may not right mouse click this page."; /* Disable Right Click */ if (navigator.appName == 'Microsoft Internet Explorer'){ function NOclickIE(e) { if (event.button == 2 || event.button == 3) { alert(message); return false; } return true; } document.onmousedown=NOclickIE; document.onmouseup=NOclickIE; window.onmousedown=NOclickIE; window.onmouseup=NOclickIE; } else { function NOclickNN(e){ if (document.layers||document.getElementById&&!document.all){ if (e.which==2||e.which==3){ //alert(message); return false; } } } if (document.layers){ document.captureEvents(Event.MOUSEDOWN); document.onmousedown=NOclickNN; } document.oncontextmenu=new Function("return false") } /* ห้ามคลุมดำ */ function disableselect(e){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (omitformtags==(e.target.tagName.toLowerCase())) return; return false } function reEnable(){ return true; } function noSelect(){ if (typeof document.onselectstart!="undefined"){ document.onselectstart=new Function ("return false") if (document.getElementsByTagName){ tags=document.getElementsByTagName('*') for (j = 0; j < tags.length; j++){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (tags[j].tagName.toLowerCase()==omitformtags){ tags[j].onselectstart=function(){ document.onselectstart=new Function ('return true') } tags[j].onmouseup=function(){ document.onselectstart=new Function ('return false') } } } } } else{ document.onmousedown=disableselect document.onmouseup=reEnable } } window.onload=noSelect; </SCRIPT>
น้ำป่าจากภูเขาจังหวัดนครศรีธรรมราช หลากเข้าท่วมพื้นที่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี สูงกว่า 2 เมตร ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวเกาะสมุยคลี่คลาย ขณะที่ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย...

น้ำป่าบนภูเขาได้ไหลหลากเข้าท่วมอย่างรวดเร็วในพื้นที่อำเภอ กาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ส่งผลให้ ตำบลช้างซ้าย 12 หมู่บ้าน ตำบลช้างขวา 14 หมู่บ้าน และตำบลทุ่งรัง อีก 5 หมู่บ้าน โดนกระแสน้ำไหลมารวมกองอยู่แนวริมถนนเซ้าท์เทิร์นซีบอร์ดสายสุราษฎร์-กระบี่ มีสภาพขวางทางน้ำระบายออกไม่ทันเข้าท่วมบ้านหัวหมากบน บ้านหัวหมากล่าง ในตำบลช้างขวา และบ้านปากคู ตำบลช้างซ้าย มีระดับสูงกว่า 2 เมตรถึงหลังคา ประมาณ 100 หลังคาเรือน รวมทั้งสวนยางและสวนปาล์มอีกจำนวนมากที่จมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากอยู่ต่ำกว่าระดับถนนโดยมีประชาชนประมาณ 10 ครัวเรือนต้องย้ายขึ้นมาอาศัยพักที่เต้นท์ริมถนนชั่วคราว นอกจากนี้ โรงเรียนบ้านหัวหมากล่าง ที่อยู่แนวกระแสน้ำพัดผ่านได้รับความเสียหายด้วย

ทั้ง นี้ มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้นำเรือ อาหารแห้งและน้ำดื่มเข้าไปแจกจ่ายในพื้นที่บรรเทาความเดือดร้อนเป็นการ เบื้องต้น



ส่วนที่อำเภอเกาะสมุย สถานการณ์ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ ยังมีน้ำท่วมขังบนถนนเลียบชายหาดเฉวงเหลือเพียง 20 เซนติเมตร ซึ่งเจ้าของร้านค้าเข้าสำรวจและทำความสะอาดพื้นที่พบเสื้อผ้าและของที่ระลึก จำพวกไม้เสียหายจำนวนมาก เหลือจุดน้ำท่วมขังสูงที่สามแยกหน้าสนามมวยและถนนทางเขาเข้าพระ รถทุกชนิดยังผ่านไม่ได้ อย่างไรก็ตามถนนสายหลักรอบเกาะและระบบไฟฟ้าประปาใช้ได้ตามปกติแล้ว

สถานการณ์ โดยรวมจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนถึงขณะนี้มีฝนตกในพื้นที่เขาเท่านั้น มีพื้นที่ประสบภัยคลุมทั้ง 19 อำเภอ 110 ตำบล 743 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 41,220 ครัวเรือน จำนวน 133,984 คน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย มีบ้านเสียหายทั้งหลัง 2 หลัง เสียหายบางส่วน 1,228 หลัง พื้นที่เกษตรเสียหายเกือบ 20,000 ไร่ ถนนชำรุด 154 สาย นอกจากนี้มีรายงานว่าได้เกิดดินถล่มที่หมู่ 13 ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี หมู่ที่ 5 ตำบลนาใต้ อำเภอบ้านนาเดิม และเกิดดินแยกที่ซอยทัพสมิง บ้านในทับ หมู่ที่ 11 ตำบลคลองพา อำเภอท่าชนะ ต้องอพยพราษฎร 90 ครัวเรือน จำนวน 400 คนไปพักที่โรงเรียน ตชด.บ้านกอเตยและบ้านญาติ

ด้าน หน่วยบรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย ได้ตั้งโรงครัวทำอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อำเภอพุนพิน และหน่วยแพทย์โรงพยาบาลค่ายวิภาวดีรังสิต ได้ไปแจกจ่ายสิ่งของและตรวจรักษาผู้ป่วยที่อำเภอไชยา

ที่ศาลา อเนกประสงค์ ที่ว่าการ อำเภอท่าชนะจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายดิศธร วัชโรทัย ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยคณะ ได้นำถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด มอบให้ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ อำเภอท่าชนะ โดยมีราษฎรที่ได้รับความเดือนร้อน เข้ารับสิ่งของ พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสร้างความปลื้มปิติให้แก่ราษฎรเป็นอย่างมาก



ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวภูมิภาค
• 5 พฤศจิกายน 2553, 19:00 น.