อยากรู้ว่าถ้าเหยีบมดตายจะบาปมั้ย?เพราะมดก็เป็นสิ่งที่มีชีวิตคนกับมดก็มี1ชีวิตเท่ากัน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ๙๙๙๙๙๙๙๙๙, 21 สิงหาคม 2005.

  1. sphvii

    sphvii สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +5
    ถ้าจะพูดกันถึงเรื่องศิลข้อปาณาปาติปาต ต้องเข้าใจสิ่งมีชีวิตในโลกก่อนว่าเป็นอย่างไร มีกี่ระดับวิวัฒนาการ

    สิ่งมีชีวิตหากพิจารณาจะเริ่มจากสัตว์เซลเดียว พืช สัตว์ คน การวัดสิ่งมีชีวิตถือกันตรงที่ความสามารถรับรู้ได้ การพัฒนาการมีชีวิต สิ่งมีชีวิตในโลกหยาบนี้มนุษย์ถือว่าวิวัฒนาการสูงที่สุด เพราะสามารถรับรู้ได้มากกว่า มีเหตุผล รู้จักผิดชอบชั่วดีมากกว่า สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ

    เริ่มจากพื้นโลกเราเป็นแผ่นดิน หินไม่มีความรับรู้ใด ๆ ต่อมาก็เป็นพืชซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้แต่เคลื่อนไหวไม่ได้ ต่อมาก็เป็นสัตว์ที่มีแค่สัญชาตญาณเท่านั้น ต่อมาเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณดีมีความรู้ใกล้เคียงมนุษย์แต่ยังไม่เท่ามนุษย์ ต่อมาก็เป็นมนุษย์ และต่อจากมนุษย์ก็เป็นมนุษย์นักบวชถือศิลที่ถือว่าสูงสุด จิตวิวัฒนาการใกล้หรือพ้นจากโลกนี้แล้ว

    ศิลข้อปาณาปาติปาตนี้การทำลายสิ่งมีชีวิต การตัดรอนชีวิต ถือเป็นบาปตรงที่ไปตัดรอนการมีชีวิต ซึ่งจะมีผลกระทบกลับมายังผู้กระทำกรรมนั้น หากกระทำต่อผู้ที่มีความรับรู้มาก มีความบริสุทธิ์มาก ก็จะเป็นบาปมาก(มีผลกระทบกลับมายังผู้กระทำ) แต่หากกระทำกับสิ่งมีชีวิตระดับล่างที่มีความรู้สึกรับรู้ยังไม่มากก็จะบาปหรือมีผลกับตนเองน้อยไปด้วย เช่นหากคุณไม่กินสัตว์แต่กินพืช คุณก็ถือว่าเป็นบาปเหมือนกันเพราะพืชก็เป็นสิ่งมีชีวิต แต่คุณจะบาปน้อยมากจนเกือบไม่บาปเนื่องจากพืชไม่มีความรู้สึกแต่ก็เป็นสิ่งมีชีวิตรักชีวิตตนเองเหมือนกัน (ต้องการมีชีวิต) แต่พืชไม่มีความเจ็บปวด ไม่มีความรู้สึก
    สาเหตุทำไม่ต้องเป็นเช่นนี้ เนื่องจากว่าหากมีการกระทำใดเกิดขึ้นระบบธรรมชาติ จะบันทึกไว้โดยอัตโนมัติ และจะติดตามวนเวียนอยู่กับวิญญาณของผู้กระทำตลอดไป และจะส่งผลเมื่อมีเหตุและปัจจัยที่เหมาะสม คือกระทำเท่าใดก็จะได้รับแบบนั้นหรือใกล้เคียงที่สุด
    เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน กล่าวคือ หากกระทำปาณาปาติปาตกับสัตว์ใดแล้วสัตว์นั้นเขาเจ็บปวด มีความรู้สึก ขนาดใหนผู้กระทำก็จะบาปได้รับผลกลับมาขนาดนั้น แต่หากกระทำกับผู้มีพระคุณหรือพระอรหันต์ หรือผู้ที่ถือศิลทำไมถึงทำให้บาปมากขึ่งเนื่องจากท่านเหล่านั้นเป็นผู้ที่มีจิตบริสุทธิ์กับท่าน ซึ่งจะนำพาให้ผลของการกระทำปรากฏเร็วมากขึ้น (กรรมติดจรวด) ส่วนทำไมหรือเกิดผลเร็วอย่างไร หากท่านเป็นผู้ฝึกจิตฝึกสมาธิได้ระดับหนึ่งแล้วท่านจะทราบเอง

    สรุปคือ ฆ่ามดบาปแต่ไม่บาปเท่าฆ่าคน ฆ่าคนบาปบาปแต่ไม่บาปเท่ากระทำต่อผู้มีจิตบริสุทธิ์
     
  2. tuntayapisailsoot

    tuntayapisailsoot สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +14
    *จิตคือพุทธะ แม้องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธะก็มีเพียงจิตเดียว สัตว์ทั้งหลายมีหลายร้อยพันขาก็มีจิตเดียว จิตเดียวนี้แหละที่ทำให้คนเป็นพุทธะอยู่ที่ความตั้งมั่น
    ศีลเมื่อสมาทานแล้วก็ควรจะรักษาให้ดี อย่าเห็นแก่อวิชชา ผิดก็คือผิด ไม่ผิดมากผิดน้อยมีแต่ผิดหรือไม่ผิด
    *การฆ่าถ้าทำให้ชีวิตในสังขารชนิดนั้นดับไปแล้วจากภพชาติเดิม ก็คือฆ่า
    ถ้าฆ่าเขาแล้วทำให้คืนกับขึ้นมาได้ดำรงอยู่ในพบชาติเดิมก็คือการเบียดเบียน
    ฉะนั้นทำอะไรใช้จิตกับสติร่วมกันคิดก่อนแล้วค่อนทำ
    *พระอรหันท่านฆ่าแล้วไม่บาป เพราะบาปนั้นไม่สามารถตกถึงท่านได้ จิตของท่านพ้นจากสิ่งครอบงำแล้ว กรรมทั้งหลายจึงไม่สามารถส่งผลได้ในภพชาติต่อไป จึงกลายเป็นอโหสิกรรมไปเท่านั้นเอง....แสดงความคิดเห็นเท่านี้ (พูดให้น้อยปฏิบัติให้มากแล้วจะรู้เองเห็นเอง)
     

แชร์หน้านี้

Loading...