หลวงพ่อสด แยกกายมาจากต้นธาตุต้นธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย belives, 29 ตุลาคม 2010.

  1. belives

    belives เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +234
    ปาฏิหารย์พระธรรมกาย

    หยุดซ้ำหยุดๆลงไปตรงศูนย์กลางของธรรมกายเมื่อถูกส่วนได้ที่องค์พระจะเปล่งรัศมีสว่างไสวใสสะอาดสว่างกว่าดวงอาทิตย์ในยามเที่ยงนับๆล้านดวงมารวมกันแต่เยือกเย็นชุ่มชื่นยิ่งกว่าแสงจันทร์องค์พระก็ขยายใหญ่ตามส่วนขึ้นไปไม่มีที่สิ้นสุดใหญ่กระทั่งสามารถวางโลกทั้งโลกไว้กลางฝามือเหมือนวางผลมะขามป้อมไว้กลางฝ่ามือฉะนั้น<O:p

    เพราะพระธรรมกายสามารถรู้เห็นไม่มีขอบเขตจำกัด และมีปาฏิหารย์น่าอัศจรรย์ถึงปานนี้ พระบรมศาสดาจึงทรงกล่าวปฏิญาณว่า พระองค์ทรงรู้ทั่วทุกสรรพสิ่ง รู้ตลอดทั้งเรื่องของมนุษย์ เทวดา รูปพรหม อรูปพรหม พระนิพพาน ตลอดเรื่องของมาร สัตว์นรก สัตว์เดียรัจฉาน เปรต อรุสกาย ฯลฯไม่มีสิ่งใดๆ ในและนอกวัฏฏสงสารเลยที่พระองค์จะไม่ทรงรู้
    หยุดซ้ำหยุดๆๆๆ เข้าไปกลางองค์พระแก้วในตัว ไม่ยอมถอยหลังกลับ องค์พระก็ใสสะอาด สว่างไสว ขยายใหญ่โตขึ้นตามลำดับ ครั้นสว่างกว่าดวงอาทิตย์ยามเที่ยงแล้ว ก็อาราธนาพระธรรมกายปาฏิหารย์ไปนรก สวรรค์ได้ตามความปรารถนา ไปถึงนรก ก็เข้าไปจับมือถือแขน พูดคุยถามไถ่กับสัตว์นรก หรือจะไปในเปรต ๑๒ สกุล ไปจับมือถือแขนพูดจาถามไถ่อสุรกาย หรือจะไปในสัตว์เดียรัจฉานก็จับมือถือแขนพูดจาถามไถ่กับสัตว์ได้แบบเดียวกัน เพราะกายละเอียดของสัตว์เดียรัสสฉานล้วนเป็นกายละเอียดมนุษย์ทั้งสิ้น

    เมื่อไปตลอดอบายภูมิทั้ง ๔ แล้ว ก็อาราธนาพระธรรมกายไปสวรรค์ไปรูปพรหม ไปอรูปพรหม ไปจับมือถือแขน พูดจาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับพระอินทร์ พระพรหมได้ดั่งใจปรารถนา หรือจะตรวจดูบิดามารดาบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วว่าไปเกิดอยู่ไหน ก็ไปเยี่ยมได้สิ้น ผู้ถึงธรรมกายธรรมแล้วย่อมหมดสงสัยในเรื่องบุญ บาป สวรรค์ นรก ด้วยประการฉะนี้
     
  2. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035

    ถูกต้องแล้ว
    ใครจะรีบไปนิพพานก็อนุโมทนาด้วย
    แต่จะไปกับหลวงพ่อ จะรื้อวัฏฏะนี้เสีย ให้หมดแก่หมดตาย หมดทุกข์กันเสียที
     
  3. belives

    belives เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +234
    วิธีบูชาพระธรรมกายเพื่อความก้าวหน้าในชีวิต<O:p</O:p



    ทุกอริยาบถ จะยืน เดิน นั่งนอน ก็ตาม หมั่นนึกถึงพระธรรมกายจนกว่าใจจะหยุด เห็นพระแก้วใสในตัวดังกล่าวแล้ว ครั้นเห็นองค์พระชัดใส ก็ทำใจให้หยุด ซ้ำหยุด อยู่กลางองค์พระนั้นไม่ถอยหลังกลับ เมื่อทำได้ดังนี้บุญเก่าที่เคยทำมามากน้อยเท่าใด ตั้งแต่ร้อยชาติพันชาติ หมื่นชาติ แสนชาติ ฯลฯ ก็ตาม จะไหลมาบรรจบกับบุญใหม่ในชาตินี้ กลายเป็นบุญปัจจุบัน อันศักดิ์สิทธิ์ สามารถส่งผลได้ทันที ถ้าต้องการสิ่งใดในทางที่ถูกที่ควร ให้ตั้งใจอธิษฐาน สิ่งนั้นย่อมสำเร็จผลทันตาเห็นทุกประการ ดังตัวอย่างการอธิษฐานต่อไปนี้

    สำหรับท่านที่เป็นนักธุรกิจการค้า ถ้าปรารถนาก็อธิษฐานให้กิจการค้าของตน เจริญก้าวหน้ากว้างขวางเต็มประเทศ กระทั่งล้นออกนอกประเทศให้ซื้อง่ายขายคล่องกำไรงาม ฯลฯ อธิษฐานซ้ำอยู่อย่างนี้ทุกวัน แล้วตั้งใจปฏิบัติธุรกิจต่อเนื่องไปด้วยความไม่ประมาท ไม่ช้าย่อมสำเร็จได้ตามคำอธิษฐานนั้นทุกประการ

    สำหรับท่านที่เป็นข้าราชการ ถ้าปรารถนาก็อธิษฐานให้หน้าที่ราชการของตนราบรื่น เรียบร้อย ไม่เป็นที่ผิดตาผิดใจของผู้หลักผู้ใหญ่แต่ประการใดให้ปฏิบัติราชการให้ดี จนสูงสุดในสายงานนั้นโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ เลย ฯลฯอธิษฐานซ้ำๆ เช่นทุกวันนี้ แล้วตั้งใจปฏิบัติราชการอย่าให้บกพร่องหน้าที่ย่อมได้รับความก้าวหน้าอย่างอัศจรรย์ทันตาเห็นตามคำอธิษฐานทุกประการ

    สำหรับท่านที่เป็นชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ถ้าปรารถนาก็อธิษฐานให้พืชพันธุ์ธัญญาหาร ผลหมาก รากไม้ของตนงอกงามดี ไม่มีสัตว์มีโรค ไม่มีแมลงมารบกวน ทำได้ง่ายสะดวก พืชผักผลไม้รสโอชา ได้ผลเกินควรเกินค่าฯลฯ อธิษฐานซ้ำๆ อยู่อย่างนี้ ก่อนออกจากไร่ ออกสวน ออกนา แล้วตั้งใจไม่เกียจคร้านทำงานไป ย่อมได้ผลเกินควรเกินค่าอย่างน่าอัศจรรย์

    สำหรับท่านที่เป็นแพทย์ เป็นพยาบาล ก็อธิษฐานด้วยความเมตตาให้คนไข้ของตนหายป่วย หายไข้ สิ้นทุกข์ สิ้นโศก สิ้นโรค สิ้นภัย หายวัน หายคืน เหมือนกินยาทิพย์ ฯลฯ แล้วตั้งใจรักษาคนไข้เหมือนมารดารักษาบุตรอันที่เกิดในอกของตน ย่อมมีชื่อเสียงร่ำรวยได้อย่างน่าอัศจรรย์

    ครั้งถึงคราวต้องเดินทาง จะไปทางบก ไปทางน้ำ ทางอากาศก็ตาม ให้อธิษฐานก่อนเดินทาง ขอให้เดินทางโดยสวัสดีมีชัยทั้งไปและกลับ มีผู้คอยต้อนรับเป็นมือเป็นเท้าให้อย่างสะดวก ฯลฯ ครั้นถึงเวลาเดินทาง ก็อาราธนาพระธรรมกายให้ขยายใหญ่ ซ้อนยานพาหนะที่อาศัย และซ้อนกายเราไว้ในกลางองค์พระแก้วนั้น ทำดังนี้ แม้รถคว่ำ เรือจม เครื่องบินตก ก็หาเป็นอันตรายไม่ เพราะอาศัยบุญเก่าบุญใหม่คอยคุ้มครอง

    เมื่อทราบว่าพระธรรมกายมีความศักดิ์สิทธิ์ มีปาฏิหารย์มากมายถึงปานนี้ ให้เร่งขวนขวายตั้งใจทำให้หยุดไม่ว่างเว้น ยืนก็อย่ายืนเปล่า เดินก็อย่าเดินเปล่า นั่งก็อย่านั่งเปล่า นอนก็อย่านอนเปล่า ให้ผูกใจไว้กับพระธรรมกายตลอดไป จะเป็นบุญสิริของตนอย่างสำคัญที่สุดในชาติให้จดจำไว้จงดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010
  4. belives

    belives เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +234
    แม้หลวงพ่อสดท่านจะละสังขารไปแล้ว

    การทำบุญโดยบูชาธรรมท่าน ก็ยังถือว่าได้บุญมหาศาล

    นับได้ว่า ทำบุญถูกเนื้อนาบุญ ถูกทักขิไนยบุคคล ถูกต้นธาตุต้นธรรม

    บุญนั้น จะนับประมาณไม่ได้เลย เป็นอจินไตย

    ท่านใดมีจิตศรัทธา ก็สามารถไปสั่งสมบุญได้ที่วัดปากน้ำ

    เกิดมาเจอพระพุทธศาสนาแล้ว เจอวิชชาธรรมกายแล้ว ซึ่งเป็นแก่นของพระพุทธศานสา ก็ อย่าให้เสียชาติเกิด นะครับ สั่งสมบุญสร้างบารมีให้เติมที่เลยนะครับ
    อนุโทนาบุญนะครับ
     
  5. โลกนี้คือละคร

    โลกนี้คือละคร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +103

    ผมก็เหมือนกันครับ ต้องขอขมาด้วยความไม่รู้ในหลายเรื่องที่เคยคิดในทางลบมาก่อน
     
  6. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    [​IMG]


    หลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นใครและตอนนี้อยู่ที่ใด” ผมขอนำเสนอหลักฐานข้อมูลมาให้พิจารณาเพิ่มเติมกัน ดังนี้...



    จากหนังสือมรรคผลพิสดาร ภาค ๓ ยุทธวิธี และ ยุทธศาสตร์ การสะสางธาตุธรรม (อาสวขยญาณ) ชั้นสูง พิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๐ โดยพระภาวนาโกศลเถร (วีระ คณุตฺตโม) พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ


    ตำราเล่มนี้เป็นวิชชาชั้นสูง เกี่ยวเนื่องกับวิชชาภาคปราบ โดยตั้งเป็นคำถาม ให้ตอบ ทั้งหมด ๔๙ ข้อ มีอยู่ข้อหนึ่งในหน้า ๒๓ คือข้อ ๒๘ ที่ถามเกี่ยวกับ ต้นธาตุ กลางธาตุ ปลายธาตุ ดังจะแสดงให้อ่านต่อไปนี้



    ๒๘. ถาม
    ต้นธาตุ กลางธาตุ ปลายธาตุ ต้นจักรพรรดิ กลางจักรพรรดิ ปลายจักรพรรดิ มีลักษณะอย่างไร
    ศูนย์จักรพรรดิ ศูนย์ย่อย ศูนย์ใหญ่ มีลักษณะอย่างไร ต้นธาตุกายมนุษย์หมายความว่าอย่างไร ?


    ตอบ
    ต้นธาตุมีลักษณะธาตุธรรม แก่ ละเอียด ใสกว่ากลางธาตุ
    กลางธาตุก็แก่ ละเอียด ใสกว่าปลายธาตุ
    ต้นจักรพรรดิก็คู่กับต้นธาตุ มีหน้าที่อำนวยความสำเร็จให้แก่ต้นธาตุ
    กลางจักรพรรดิก็คู่กับกลางธาตุ ปลายจักรพรรดิก็คู่กับปลายธาตุ
    ศูนย์จักรพรรดิอยู่ศูนย์กลางภพ เป็นที่เกิดของจักรพรรดิ
    จักรพรรดิมีหน้าที่ดูแลมนุษย์อยู่ที่ศูนย์
    ศูนย์ย่อยก็ศูนย์ที่ประจำภพ หลายๆ ศูนย์ย่อยก็มีจักรพรรดิปกครองศูนย์ย่อยเรียกว่า ศูนย์ใหญ่
    ต้นธาตุกายมนุษย์หมายถึงต้นธาตุที่แบ่งธาตุธรรมบางส่วนมาเกิดเป็นมนุษย์ เช่น หลวงพ่อ (พระมงคลเทพมุนี สด จนฺทสโร).


    นี่เป็นหลักฐานกล่าวชัดเจนว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นต้นธาตุ ที่แบ่งธาตุธรรมลงมาเกิด จึงชื่อว่า ต้นธาตุกายมนุษย์ แสดงว่าไม่ใช่การเกิดแบบสัตว์โลกทั่วไป เพราะสัตว์โลกทั่วไปแบ่งธาตุธรรมลงมาเกิดไม่ได้ แม้พระโพธิสัตว์ก็ทำไม่ได้เพราะพระโพธิสัตว์ยังเวียนว่ายอยู่ในภพ ๓ เวลามาเกิดก็มาเกิดแบบสัตว์โลกทั่วไป จะแบ่งธาตุธรรมมาเกิดแบบต้นธาตุไม่ได้ ต้นธาตุก็แปลว่า ท่านมีบารมีแก่ ละเอียด ใสที่สุด ท่านอยู่นอกภพ ๓ แล้ว เวลามาเกิด ไม่ต้องมาทั้งหมด แบ่งธาตุธรรมมาเกิดเพื่อมาทำหน้าที่ได้



    จับประเด็นให้ดีนะครับ ผมสรุปให้ฟังดังนี้

    ๑. หลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นต้นธาตุ เรื่องนี้รู้กันมาแต่ครั้งบุคคลที่ร่วมยุคกับหลวงพ่อแล้ว

    ๒. ต้นธาตุ มีลักษณะอย่างไร ข้างบนอธิบายชัดแล้ว ไม่ใช่บารมีธรรมดาแล้ว ระดับต้นธาตุบารมีมากที่สุดแล้ว ไม่ต้องมาสร้างบารมีแบบโพธิสัตว์แล้ว

    ๓. การมาเกิดของ ต้นธาตุ ท่านแบ่งธาตุธรรมลงมาเกิด แสดงว่าไม่ได้เกิดแบบสัตว์โลกทั่วไป แล้วจะเป็นโพธิสัตว์ได้อย่างไร

    ๔. ระดับต้นธาตุ ในกรณีของหลวงพ่อมีบารมี แก่ ละเอียด ใสกว่าธาตุธรรมระดับอื่นๆ แล้ว

    ๕. การแบ่งธาตุธรรมลงมาเกิดแปลว่า ท่านพ้นจากภพ ๓ แล้ว เพราะเป็นอสังขตธาตุ อสังขตธรรมที่พ้นการปรุงแต่งแล้ว เวลามาเกิดเพื่อทำกิจของต้นธาตุ ท่านเพียงแบ่งธาตุธรรมมาเกิดเท่านั้น



    ยังมีอีกท่านคือพระธรรมรัตนากร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เจ้าคณะเขตภาษีเจริญ
    ท่านมีโอกาสได้รับใช้อุปัฏฐาก หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) อย่างใกล้ชิด ในสมัยที่ท่านยังบวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านพระธรรมรัตนากรกล่าวตอนหนึ่งว่า...


    "ต้องยอมรับว่า บารมีของหลวงพ่อนั้นศักดิ์สิทธิ์ ไม่เช่นนั้นหลวงพ่อจะไม่พูดว่า “หลวงพ่อแยกมาจากต้นธาตุต้นธรรม” ประโยคนี้ประทับใจผมมากๆ ผมก็แคลงใจมานานว่า “เอ...จะไปถามใครได้” ไม่กล้าถามหลวงพ่อ และท่านยังบอกว่า ให้มาปราบมารด้วย"


    ตามข้อมูลนี้ก็สัมพันธ์กับข้อมูลแรก คือทราบว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำ เป็นต้นธาตุ แยกธาตุธรรมลงมาเกิด และมาทำหน้าที่ปราบมาร


    ยังมีเรื่องเล่าของพระดร.มหาทวนชัย อธิจิตโต ที่ท่านได้สังเกตอิริยาบถของหลวงพ่อวัดปากน้ำในสมัยที่ท่านยังเป็นสามเณรอยู่ ท่านกล่าวไว้ ดังนี้


    หลวงพ่อท่านจะไม่เหมือนคนทั่วไป ปกติท่านจะอยู่ในฌาณ ท่านมีฌาณสูงมากเลย การปฏิบัติของท่านคือท่านจะอยู่ในธรรมกาย จิตของท่านอยู่ในธรรมกายจะอยู่ในฌาณอยู่ในสมาบัติ ท่านไม่ใช่พระธรรมดา ท่านอยู่ในสมาธิ อันนี้เท่าที่อาตมาวัดได้นะ เพราะว่าท่านจะไม่มีการขาดสติ การทำอะไรโดยขาดสติจะไม่มี จะเป็นคล้ายๆ พระอรหันต์งั้นแหละ หลวงพ่อท่านเดินก็มีสติ เอี้ยวแขนก็มีสติ นอนก็มีสติ จะนั่ง จะฉัน จะเดิน จะทำอะไรรู้สึกว่าท่านมีสติเต็มบริบูรณ์ สิ่งนี้อาตมารู้สึกประทับใจแล้วก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่แปลก ซึ่งไม่เห็นจากพระองค์อื่นๆ เราเป็นเณร เราก็ช่างสังเกตนะ พระองค์อื่นตลกคะนอง หัวเราะเอิ๊กอ๊าก อยากหัวเราะก็หัวเราะ อยากกระโดด หรือวิ่ง หรืออะไร บางทีมันขาดสตินะ หลวงพ่อไม่มี เดินนี้คล้ายพระอรหันต์ เหมือนพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง เรื่องนี้แปลก อาตมามารู้ทีหลังตอนเรียนปริยัติแล้วว่า พระอรหันต์คือผู้ไม่ขาดสติ ทำอะไรทำด้วยสติ มาเจอกับหลวงพ่อวัดปากน้ำนี่แหละ


    เราสังเกตได้ว่าผู้ที่อยู่รับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อวัดปากน้ำ ถ้าเป็นผู้ที่ได้ทำวิชชาในโรงงาน ได้เรียนรู้วิชชาธรรมกายชั้นสูงต่างทราบกันดีว่าหลวงพ่อท่านเป็นใครมาจากไหน มาทำงานอะไร แม้การสังเกตอากัปกิริยาของหลวงพ่อก็พอจะทราบว่าหลวงพ่อไม่ใช่พระธรรมดา และน่าจะหมดกิเลสแล้วเป็นพระอรหันต์หรือพระพุทธเจ้า อย่างที่พระดร.มหาทวนชัย อธิจิตโตท่านสังเกตได้


    นี่เป็นเพียงข้อมูลหลักฐานทางตัวหนังสือ แต่ก็ชัดเจนพอจะให้เราเข้าใจได้ว่า

    ๑. หลวงพ่อเป็นต้นธาตุ แบ่งธาตุธรรมลงมาเกิด เพื่อปราบมาร

    ๒. การแบ่งธาตุธรรมลงมาเกิด ก็แปลว่าหลวงพ่อท่านไม่ได้อยู่ในภพ ๓ เพราะภพ ๓ มาเกิดแบบนี้ไม่ได้ หลวงพ่อต้องอยู่พ้นภพ ๓ ไปแล้ว จึงแบ่งธาตุธรรมมาเกิดได้

    ๓. หลวงพ่อไม่ใช่พระธรรมดา เพียงแค่สังเกตก็รู้ได้ว่าเหมือนพระอรหันต์หรือพระพุทธเจ้า

    ๔. ต้นธาตุมีบารมีมากที่สุด ละเอียดที่สุด ใสที่สุด ไม่ต้องมาสร้างบารมีเพิ่มเติมแล้ว จะเป็นเพียงพระโพธิสัตว์ได้อย่างไร


    ผมสรุปให้เพียง ๔ ข้อนะครับ ที่เหลือท่านก็สรุปกันเอาเองเถิดครับ...




    รวมพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อวัดปากน้ำ http://khunsamatha.com/blog/dhammakaya-C5.html

    ตำราวิชชาธรรมกายทุกหลักสูตร http://www.crystalmind.org/library/index.asp

    เวบวิชชาธรรมกาย http://khunsamatha.com/

    ห้องสนทนาวิชชาธรรมกาย http://forums.212cafe.com/samatha/<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010
  7. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    [​IMG]

    ถามว่า ที่ว่า ต้นธาตุคือหลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่ระหว่างนิพพาน กับ ภพ ๓ อยู่อย่างไร ตรงนั้นมีสภาพอย่างไร...?

    นิพพานอยู่สูงจาก ภพ ๓ ไปอีก ๓ เท่าตัว โปรดนึกวาดมโนภาพ ดวงกลมๆ ๓ ดวง วางลอยเป็นเส้นตั้งตรง นะครับ ดวงล่างสุดคือโลกันต์ ดวงกลางคือ ภพ ๓ ดวงบนสุดคือ นิพพาน ตรงช่องว่างที่เป็นระยะห่างระหว่างนิพพานกับภพ ๓ ห่างกัน ๓ เท่าตัวตรงนี้แหละบริเวณนี้คือว่างใส เราจะเห็นกายธรรมใหญ่โตมหึมานั่นคือ กายธรรมของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ถ้าอยากทราบว่าใช่หลวงพ่อจริงหรือไม่ก็ให้เราเดินวิชชาลำดับกายในกายของหลวงพ่อจากกายธรรมปฏิโลมมาถึงกายโลกีย์จนเห็นกายฝันก็จะทราบว่าหลวงพ่ออยู่ตรงนี้ ถ้าจะไต่ถามพูดคุยกับหลวงพ่อวัดปากน้ำ ให้เราเอาดวงเห็น ดวงจำ ดวงคิด ดวงรู้ของเราซ้อนกับดวงเห็น ดวงจำ ดวงคิด ดวงรู้ของหลวงพ่อ หยุด นิ่ง แน่น ให้ดีแล้วไต่ถามพูดคุย ถ้าเราหยุด นิ่ง แน่น ดีจริงเราก็จะได้ยินเสียงหลวงพ่อวัดปากน้ำ...


    ส่วนเรื่องการเข้าไปเดินวิชชากับพระพุทธเจ้าในอายตนะนิพพานนั้น ทำได้และควรทำให้ได้ด้วยเพราะตามหลักการเดินวิชชามีอยู่ และถ้าเราทำได้ความหยุด ความนิ่ง ความใส ของใจและธาตุธรรมของเราจะสะอาดยิ่งขึ้น ส่งผลให้การเรียนรู้ทางวิชชาธรรมกายของเราก้าวหน้าได้ดีขึ้น....


    ผมขอยกหลักฐานข้อมูลมาอธิบายเพิ่มเติม ดังนี้...


    หลวงปู่ชั้ว โอภาโส ท่านกล่าวถึงเรื่องของ ระยะห่างระหว่างนิพพานกับภพ ๓ และ การที่เราจะเข้าไปในอายตนะนิพพานนั้นทำได้อย่างไร ดังนี้...


    นิพพาน ในศูนย์กำเนิดกลางกายมนุษย์เข้าไปเรียกว่า นิพพานเป็น หรือ สอุปาทิเสสนิพพาน อยู่ในกายมนุษย์ ส่วนนิพพานที่อยู่ข้างบน เหนือภพสามขึ้นไป ๓ เท่าของภพสามนั้น เป็นที่เสด็จอยู่ของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ขีณาสพทั้งหลายที่นิพพานไปแล้วนั้น ท่านเรียกว่า อายตนนิพพาน หรือ อนุปาทิเสสนิพพาน เป็นนิพพานที่มีศูนย์ตรงกันกับศูนย์นิพพานเป็น หรือที่เรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพานที่อยู่ในกายมนุษย์ เมื่อธาตุธรรมเดินฌานสมาบัติตกสูญนิพพานเป็นแล้ว ก็เป็นอันเข้าสู่ศูนย์อายตนนิพพานด้วย อายตนนิพพานเบื้องบนนั้น ก็ดึงดูดธาตุธรรมขึ้นไปสู่อายตนนิพพาน ไม่ผิดอะไรกับกายทิพย์เมื่อจะตั้งปฏิสนธิในครรภ์มารดา ถ้าตกสูญแล้ว ศูนย์กำเนิดเดิมซึ่งตั้งอยู่ขั้วมดลูกของมารดา ก็ดึงดูดกายทิพย์เข้าไปตั้งอยู่กลางกำเนิดมดลูกฉะนั้น


    ก็ เหมือนกับอนุปาทิเสสนิพพานที่อยู่เหนือขอบภพสามขึ้นไป ๓ เท่า นั้น ดึงดูด สอุปาทิเสสนิพพานที่อยู่ในกายมนุษย์ขึ้นไปติดอยู่ในอายตนนิพพาน เพราะมีอายตนะด้วยกัน สอุปาทิเสสนิพพานก็มีอายตนะ อนุปาทิเสสนิพพานก็มีอายตนะ เมื่อธาตุธรรมเดินสมาบัติตกสูญตรงกันเข้าก็ดึงดูดเข้าไปติดกัน เหมือนอายตนะในตากับอายตนะในรูป เมื่อตกสูญตรงกันเข้าก็ดึงดูดเข้าไปหากันฉะนั้น



    ดังนั้นเรื่องเช่นนี้ท่านต้องทำความเข้าใจด้วยใจเป็นกลางๆ ผมเองมิได้มุ่งหวังให้ท่านเชื่อก่อน เพียงแต่ให้ท่านพิจารณาตามหลักเหตุและผลแล้วลงมือปฏิบัติเพื่อพิสูจน์ให้จงได้เถิด สำหรับแนวเดินวิชชาไปพบหลวงพ่อวัดปากน้ำและเข้าไปซ้อนกายสับกายกับพระพุทธเจ้าบนนิพพาน มีขั้นตอนอย่างไรนั้น โปรดเข้าไปศึกษาได้ ตามลิงค์นี้ครับ...


    เรื่องเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า

    http://gotoknow.org/blog/dhammakaya-07/85633

     
  8. ผมยังเลวอยู่มาก

    ผมยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +539
    สายหลวงพ่อสดจริงๆ กับ สายวัดพระธรรมกายปทุมธานี ดูเผินๆเหมือนจะเหมือนกัน
    แต่พิจารณาดีดี แล้ว ต่างกัน มิได้เป้นอันเดียวกันเปรียบเสมือนทองคำแท้ กับ ทองคำชุบ ฉันนั้น

    กล่าวแรงไปไหมคับ !!!
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,997
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
  10. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035

    กล่าวแบบคนไม่รู้ หนะคับ

    ต่างก็มีหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายมา ต้องทำหน้าที่ของตัวเอง

    แบ่งแยกกันไปทำ จะมากล่าวชิงดีชิงเด่นกัน มันไร้สาระและไม่รู้จักหน้าที่คับ
     
  11. boyy365

    boyy365 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +830
    ขอกราบนมัสการหลวงปู่สดครับ
     
  12. วิมุติมรรค

    วิมุติมรรค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,754
    [​IMG]


    ขอกราบนมัสการ พระเดชพระคุณหลวงพ่อสด จันทสโร ด้วยเศียรเกล้า



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2010
  13. วิมุติมรรค

    วิมุติมรรค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,754
    [​IMG]


    18 กาย
     
  14. วิมุติมรรค

    วิมุติมรรค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,754
    [​IMG]




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • psohd-b53.jpg
      psohd-b53.jpg
      ขนาดไฟล์:
      158 KB
      เปิดดู:
      1,161
  15. วิมุติมรรค

    วิมุติมรรค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,754
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2010
  16. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    ของจริงมีของปลอมก็มีครับ คนส่วนใหญ่มักหลงไปตามกระแสและฉากหน้าที่เขาจัดไว้ แต่หารู้ไม่ว่าฉากหลังที่กำกับอยู่เป็นธาตุธรรมภาคใด...??? ท่านทั้งหลายต้องจับที่หลักวิชชา จับที่ความรู้ทางวิชชา อย่าเอาควมเชื่อออกหน้า จงเอาความรู้ออกหน้า

    ของหลอกกับของจริง อาจแยกแยะได้ยากถ้าท่านไม่จับที่แก่น แต่ไปใช้ศรัทธานำแล้วไปจับที่เปลือก การสร้างความหวัง การใช้เงิน การสร้างพิธีกรรมใหญ่ๆ ใช้จำนวนคนมากๆ ฉากหน้าที่ตกแต่ง คำพูดที่เสกสันปั้นแต่ง แต่ไม่ตรงหลักความรู้ไม่ใช่หลักวิชชา นั่นคือธรรมกลาย....


    ถ้าท่านเข้าถึงธรรมกายได้จริง ท่านต้องแยกธาตุแยกธรรมเป็น แยกธาตุแยกธรรมได้ ธาตุธรรมปนเป็น ธาตุธรรมกลายพันธ์ หรือ ธาตุแท้ธรรมแท้ ท่านจะจับได้ไล่ทันเอง คนที่เรียนรู้ไม่ถึงขีดถึงขั้นก็เปรียบเหมือน ปลาที่ว่ายวนอยู่ในแอ่งน้ำใหญ่ เจอแต่ของหลอกก็หลงว่าจริงแท้ พอให้ฝึกเอาเหตุเอาผลทางวิชชา เขาจะไม่สนใจ เขาจะไม่ยินดี คนเช่นนี้แปลว่าเป็น ปลารอวันตาย ตอนมีชีวิตอยู่ก็วนเวียนอยู่ในแอ่งน้ำที่เขาขุดขึ้นมาหลอก ตายไปแล้วจึงจะถึงบางอ้อว่า....เกิดมาเสียเวลาไปชาติหนึ่งแล้ว....


    วิชชาธรรมกายต้องฝึกกันให้ได้ในชาตินี้ การรื้นขนสัตว์แท้จริงแล้วต้องเข้าถึงต้นธาตุต้นธรรมของภาคขาวจริงๆ แล้วท่านจะทราบว่าการรื้อขนสัตว์ ไม่ใช่อยู่ที่สะสมบุญอ่อนๆ บุญภายนอก แต่อยู่ที่การเข้าถึงกรุวิชชาภายใน และเข้าถึงวิชชาที่จะทำลายทุกข์-สมุทัย อันเป็นธรรมของภาคมาร เราไปทำงานให้พญามารด้วยการสะสมบุญที่ทำให้ติดอยู่ในโลกียะอยู่ทำไม การเวียนว่ายตายเกิดแบบนั้นจึงเป็นเพียงเหลี่ยมคูหรือหลุมพลาง ภาคมารทำให้คนหลงในวัฏฏะ สร้างเรื่องสร้างเงื่อนไขให้เราเชื่อเพื่อหลงเวียนตายเวียนเกิดให้นานที่สุด ถ้าไปอธิษฐานรื้อขนสัตว์เพื่อเข้านิพพานคนสุดท้าย มันเป็นความจริงไปไม่ได้ เพราะธรรมภาคมารเขาสร้างทางให้เราเดินต่างหาก เราไปหลงเดินตามที่เขาขีดเส้นไว้ทำไม ธรรมภาคขาวสะสมบุญด้วยการเข้าถึงธรรมกายแล้วทำวิชชากำจัดทุกข์-สมุทัย ให้เป็นธาตุชนะธรรมชนะที่นี่และเดี๋ยวนี้ ทั้งโดยส่วนตัวและส่วนรวม

    โดยส่วนตัว เมื่อเราปฏิบัติให้เข้าถึงธรรมกายเราก็หมั่นแก้ไขธาตุธรรมของเราให้พ้นจากปกครองของทุกข์-สมุทัย ด้วยการเดินวิชชา ให้ใจ หยุด-นิ่ง-แน่น เดินหน้าต่อไปไม่ถอยหลังกลับ สะสางกายในกายให้ใสในใสไปทุกกายจนสุดหยาบสุดละเอียด เป็นทางมรรคผลส่วนตัว อย่างน้อยกายในกายก็มีกำลังขึ้นมาเพราะหมั่นพัฒนาใจให้ หยุด-นิ่ง-แน่น-สว่างใส


    โดยส่วนรวมเรามุ่งรื้อขนสัตว์ด้วยการทำวิชชาปราบมาร แก้ไขให้สัตว์โลกอยู่เย็นเป็นสุข ดับ ละลาย อวิชชาของธรรมภาคมารให้หลุดออกจากใจของสัตว์โลก ให้ยุคทุกข์-สมุทัย กลับมาเป็น ยุค ทาน-ศีล-ภาวนา ให้เป็นธาตุเป็นธรรมเป็น ธาตุชนะธรรมชนะ


    นี่ต่างหากที่เรียกว่าการสร้างบารมีตามแบบวิชชาธรรมกายของธรรมภาคขาวที่แท้จริง อย่าไปหลงทำงานให้พญามาร จงทำงานให้พระพุทธเจ้าภาคขาวเถิด...วิธีเข้าถึงธาตุธรรมภาคพระ หรือธาตุธรรมภาคขาวใส(กุศลาธัมมา) ปราชญ์ขยะ - วิชชาธรรมกายระดับกลาง - เรื่องเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า




    รวมพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อวัดปากน้ำ http://khunsamatha.com/blog/dhammakaya-C5.html

    ตำราวิชชาธรรมกายทุกหลักสูตร http://www.crystalmind.org/library/index.asp

    เวบวิชชาธรรมกาย http://khunsamatha.com/

    ห้องสนทนาวิชชาธรรมกาย http://forums.212cafe.com/samatha/<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2010
  17. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    สาเหตุที่หลวงพ่อใสท่านยอมรับหลวงพ่อวัดปากน้ำเพราะท่านได้ดวงตาเห็นธรรมกับหลวงพ่อวัดปากน้ำ


    มาที่วัดปากน้ำในระหว่างสงครามโลก หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านตั้งชื่อหลวงพ่อใสให้ใหม่ว่า “ณรงค์” ซึ่งแปลว่า “นักรบ” ท่านเคยพูดในท่ามกลางประชุมสงฆ์ในโบสถ์ว่า “อาจารย์ณรงค์องค์นี้ไม่ธรรมดา” ซึ่งปกติท่านไม่พูดกับใครอย่างนี้ หลวงพ่อใสท่านได้ธรรมกายตอนลืมตา คือ ท่านดูพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ ดูจนเพลินใจสบายจนจิตเคลื่อนเข้าสู่ภายใน จนเห็นธรรมกายใสสว่างที่ศูนย์กลาง หลวงพ่อใสท่านก็รอต่อวิชชา เรียนวิชชาต่างๆ ท่านให้นอนอยู่ที่โบสถ์ต่อวิชชา การเข้าโรงงานปิดเป็นความลับไม่เปิดเผยฉะนั้นพระที่อยู่ฝ่ายเล่าเรียนจะไม่รู้เรื่องเลย นอกจากระดับพระผู้ใหญ่ หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านให้อยู่เป็นเอกเทศเลยสำหรับผู้ที่ทำวิชชา ถึงเวลาเขาก็สะกิดหลวงพ่อใสไปทำวิชชา


    หลวงพ่อใสท่านเล่าให้ฟังว่าต้องไปรบกับเขาด้วย ต้องไปรบที่วัดปากน้ำ เราได้ยินแต่ศัพท์นี้ ตอนที่เราเรียนหนังสือนั้นอยู่ระหว่างสงครามญี่ปุ่น หลวงพ่อใสท่านเข้าวัดปากน้ำบ่อยมีพระมีโยมถามว่า “ไปไหน” ท่านก็พูดแบบตลกๆ บอกว่า “ไปรบ” ตอนนั้นเราก็ไม่รู้นะว่า “ไปรบ” คืออะไรทีหลังมารู้ อ๋อ...หลวงพ่อวัดปากน้ำพาพระและแม่ชีออกรบ (ด้วยการทำสมาธิ)


    ข้อมูลเบื้องต้น ให้คลิ๊กที่ลิ๊งค์ด้านล่าง


    มารคืออะไร
    http://www.kayadham.org/105.htm#a

    เรื่องของมารที่ควรทราบ
    http://www.kayadham.org/105.htm#b

    ที่ว่ามารปกครองด้วยเครื่องนั้น คืออย่างไร
    http://www.kayadham.org/105.htm#c

    จะดูมารจะไปดูได้ที่ไหน
    http://www.kayadham.org/index-93.htm

    นรก อเวจี โลกันต์
    http://www.kayadham.org/105-1.htm#a

    ทุกข์และสมุทัย
    http://www.kayadham.org/index-94.htm

    เหตุว่าง
    http://www.kayadham.org/105-2.htm#a

    หลักในการเดินวิชารบ
    http://www.kayadham.org/index-95.htm

    ยุทธศาสตร์การส่งวิชาของมาร
    http://www.kayadham.org/105-3.htm#a

    มารเข้ายึดปกครองอะไรบ้าง
    http://www.kayadham.org/105-3.htm#b

    ความรู้พื้นฐานที่จำเป็นต้องเรียน
    http://www.kayadham.org/105-3.htm#c

    พิจารณายุทธศาสตร์การรบของมาร
    http://www.kayadham.org/index-96.htm

    วิธีรบของธรรมภาคขาว
    http://www.kayadham.org/105-4.htm#a

    เป้าหมายที่สำคัญที่เราต้องค้นคว้าไปให้ถึง
    http://www.kayadham.org/index-97.htm

    การเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับทำวิชาปราบมาร
    http://www.kayadham.org/105-5.htm#a

    การวางแผนรบ
    http://www.kayadham.org/105-5.htm#b


    ตำราวิชชาธรรมกายทุกหลักสูตร http://www.crystalmind.org/library/index.asp

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2010
  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436
    [​IMG]


    [​IMG]
     
  19. ต้นไม้โพธิ

    ต้นไม้โพธิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +85
    สวัสดีครับทุกท่าน

    ผมเองสนับสนุนวัดพระธรรมกายนะครับ แล้วก็สนับสนุนสำนักที่สอนวิชชาธรรมกายทุกสำนัก(ที่สอนถูกต้อง)


    ขออนุญาตให้คำแนะนำวัดพระธรรมกายดังนี้
    สิ่งที่ชื่นชม

    คือความอินเตอร์และยิ่งใหญ่ของวัดนี้ เป็นภาพที่อัศจรรย์ตาและใจ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายเบื้องต้น ไปทั่วโลก นำชาวศาสนาอื่นๆเปลี่ยนมาเป็นชาวพุทธได้เป็นอันมาก ต้องขอบอกว่าสุดยอดมากจริงๆ ระบบระเบียบแนวทางและรูปแบบของวัดนี้ เหมาะกับสหัสวรรษใหม่ เหมาะกับจริตคนรุ่นใหม่มากๆ เป็นประโยชน์มหาศาลแด่พระพุทธศาสนา ขอสาธุๆๆๆอย่างสุดใจครับ

    สิ่งที่อยากให้ปรับ

    แต่อยากให้วัดพระธรรมกายศึกษาวิชชาธรรมกายอย่างเข้มข้นมากกว่านี้ มีการสอนวิชชาธรรมกายอย่างจริงจังมากกว่านี้ เพราะเท่าที่เข้าไปสัมผัส เน้นสอนเบื้องต้น และไม่ค่อยมีการสอนให้พิจารณาวิปัสสนา เน้นสอนแต่ให้สงบ เป็นวิชชาธรรมกายเบื้องต้น การสัมภาสน์ผู้ปฏิบัติธรรม ก็เน้นแค่เห็นในระดับนิมิต คือ แสงสว่าง ดวง กาย ธรรมกาย แล้วก็ให้ปลื้มกันแค่นั้น บ้างก็ให้นั่งแช่อิ่มนิ่งๆเฉยๆทั้งวันทั้งคืน ไม่มีการพัฒนาไตรสิกขาให้สมบูรณ์ ทำให้สายอื่นๆเขาเข้าใจผิดว่าวิชชาธรรมกายเป็นแต่สมถะติดนิมิต ไม่มีวิปัสสนา ซึ่งน่าเสียดายมาก

    ทราบมาว่าที่วัดพระธรรมกายมีอาคารสำหรับผู้ถึงธรรมกายแล้ว แต่ก็ไม่ปรากฎเป็นรูปธรรมให้สายวิชชาธรรมกายอื่นๆภายนอกได้ยอมรับกันว่าถูกต้องมากน้อยเพียงไร เพราะวิชชาที่ได้นั้นมาจากแม่ชีจันทร์ ศิษย์แม่ชีทองสุก ไม่เหมือนกับสายวิชชาธรรมกายอื่นๆที่เขาได้รับโดยตรงมาจาก หลวงปู่สด หลวงพ่อเล็กธีระ และหลวงพ่อวีระ เป็นมาตรฐาน

    แต่ถ้าไปถามคนวัดพระธรรมกายแทบจะไม่รู้จักเลยว่า ใครคือหลวงพ่อเล็ก ? ใครคือเจ้าคุณวีระ ทั้งๆที่ท่านเหล่านี้เป็นเสาหลักของวิชชาธรรมกาย เป็นผู้รับสืบทอดวิชชาธรรมกายทุกระดับอย่างใกล้ชิดจากหลวงปู่สด ซึ่งถ้าไปถามคนวัดปากน้ำก็รู้จักกันหมด อย่างในคลิปสัมภาสน์ยังมีการกล่าวถึงหลวงพ่อเจ้าคุณเล็กเลย เพราะชาววัดปากน้ำนับถือหลวงพ่อเล็กว่าเป็นตัวแทนหลวงปู่สด บางสิ่งบางอย่างถ้าหลวงปู่สดท่านไม่ว่างหรือท่านจากพวกเราไปแล้ว ชาววัดปากน้ำก็ถือคำของหลวงพ่อเล็กเป็นที่สิ้นสุด แต่...ชาววัดพระธรรมกายไม่รู้จักหลวงพ่อเล็กธีระ และเจ้าคุณวีระ(รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฝ่ายวิปัสสนา)....

    สำหรับฉายาที่เรียกหลวงพ่อธีระ ว่าหลวงพ่อเล็ก ก็เพราะชาววัดปากน้ำนับถือหลวงปู่สดเป็นเจ้าคุณใหญ่ แล้วยกย่องหลวงพ่อธีระให้ป็นเจ้าคุณเล็ก พอหลวงพ่อสดสิ้น หลวงพ่อเล็กก็สืบทอดภาควิปัสสนาตามเจตนารมณ์หลวงปู่สด พอหลวงพ่อเล็กสิ้นมรณะภาพไป ในภาคบริหารก็ยกกันให้เจ้าประคุณสมเด็จช่วงตามเจตานารมณ์หลวงปู่สด ส่วนภาควิปัสสนาก็ยกให้ท่านเจ้าคุณวีระตามเจตนารมณ์หลวงปู่สด เพราะหลวงปู่สดสั่งไว้ให้หลวงพ่อเจ้าคุณวีระทำวิชชาภาคปราบอยู่ที่วัดปากน้ำไม่ให้ย้ายไปที่ไหน.....

    นี่แหละครับ พระมหาเถระผู้ใหญ่ผู้สืบทอดวิชชาธรรมกายตัวจริงเสียงจริง ใครบารมีไม่ถึง ไปยกย่องตัวเองเข้าว่าเป็นผู้สืบทอดวิชชาธรรมกายที่แท้จริงหนึ่งเดียวเท่านั้น ระวังวิบากนะครับ ถ้าบอกว่าเป็นหนึ่งในบรรดาผู้สืบทอดหรือผู้เผยแผ่อันนี้อ่ะพอได้อยู่ เพราะมีกันหลายท่าน ดูที่ผลงาน โดยเฉพาะดูงานภาคปราบ คำพูดของโยมปู่ผงฆราวาสธรรมดาๆ ไม่สามารถเทียบได้กับคำพูดของพระมหาเถระผู้ใหญ่ใกล้ชิดและชาววัดปากน้ำทั้งมวล ย่อมเป็นที่รับรู้ ไม่เชื่อไปถามชาววัดปากน้ำเลยครับ เอ้าไปถามเจ้าประคุณสมเด็จช่วงเลยก็ได้ แถมคุณครูตรีธา เนียมขำ ให้อีกหนึ่ง ว่าชาววัดปากน้ำเขานับถือหลวงพ่อเล็กและเจ้าคุณวีระว่าอย่างไร

    สิ่งสำคัญมากที่ต้องปรับคือ การอธิบายเชื่อมโยงวิชชารรมกายกับวิชาการสมถะวิปัสสนาสติปัฏฐาน ในเชิงปริยัติธรรม วัดพระธรรมกายต้องศึกษาให้เข้าใจแตกฉาน อย่างช่วงที่มีกรณีธรรมกาย วิชชาธรรมกายถูกลากเข้าไปเสียด้วย จนได้เจ้าคุณหลวงป๋าเสริมชัยวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม บรรยายเชิงวิชาการจนพระผู้ใหญ่และนักวิชาการยอมรับ แม้แต่ท่านเจ้าคุณ ปอ.ปยุตโต ก็รู้จักเจ้าคุณหลวงป๋าดี
    แต่กลับกันทางวัดพระธรรมกายส่งบุคคลากรมาอธิบายได้ไม่ดีพอ แถมยังลากเอามหายานมาอ้างอิงอีก ซึ่งนักวิชาการเถรวาท เขาไม่รับฟังครับ

    อีกสิ่งที่ต้องปรับคือ ที่วัดนี้เน้นสร้างทานบารมีมาก ซึ่งก็ดีครับ และเป็นสิ่งจำเป็น เม็ดเงินทุกเม็ด วัดธรรมกายนำไปใช้เพื่อพระพุทธศาสนาอย่างคุ้มค่า แต่นั่นก็อยากให้สร้างบารมีภาคปราบกันให้มากๆ ไม่น้อยไปกว่าทานบารมี นั่นก็คือ เน้นสอนวิชชาธรรมกายอย่างจริงๆจังๆ ทุกระดับ มิใช่แค่เบื้องต้น เพราะบารมีระดับทานนั้น ก็เป็นแค่พื่นฐาน ไม่ถึงระดับบารมีภาคปราบ แบบที่สำนักวิชชาธรรมกายอื่นๆเขาทำกันจริงๆจังๆ ถ้าเอาแต่ให้ศาสนิกเห็นดวงเห็นกาย แล้วก็หยุดไว้เท่านั้น แล้วก็ไปกระตุ้นให้เขาทำทานมากๆ ผมว่าแบบนี้ไม่ใช่หนทางที่ดีนัก

    เท่าที่ได้เข้าไปสัมผัส หลายๆท่านเห็นดวงมาเป็นปีๆก็อยู่แค่นั้น หลายท่านอยู่มาสิบกว่าปีพึ่งจะเดินกายได้แค่รูปพรหม นี่คืออะไรกัน??? หลายท่านพอถามไถ่ถึงวิปัสสนาวิชชา ก็งงๆ รู้จักแต่หยุดๆดิ่งๆใสๆเท่านั้นเอง วิปัสสนาปัญญาหายไปไหน? แล้วแบบนี้วิชชาธรรมกายที่แท้จริงจะดำรงอยู่ได้อย่างไร แถมจะทำให้ผู้อื่นที่เขามีภูมิรู้ดูหมิ่นเอาอีก ว่าวิชชาธรรมกายมีเท่านี้หรือ เป็นสมถะติดนิมิต แล้วก็ทำทาน !!!

    สิ่งที่ไม่เห็นด้วย

    นั่นคือการยกย่องหมู่คณะของตนเองมากเกินไป ทั้งๆที่ถ้าเทียบกับสำนักวิชชาธรรมกายอื่นๆที่เขาทำวิชชาภาคปราบกันจริงๆจังๆเป็นรูปธรรมมากกว่าซะอีก ดังนั้นควรจะแสดงออกอย่างความพอดีๆ อย่าให้ยึดมั่นกันไปจนปิดกั้นวิชชาความรู้การปฏิบัติจากสำนักวิชชาธรรมกายอื่นๆ แล้วก็ยึดติดกันอยู่แค่หมู่คณะของตนเท่านั้น ส่วนตัวผมเองผมเองกลับมองว่าวัดพระธรรมกายเป็นภาคโปรดรวยโลกิยะสมบัติจักรพรรดิ์ที่มีบุญบารมีมากๆซะด้วยซ้ำ แต่วัดพระธรรมกายกลับเข้าใจว่าหมู่คณะของตนเป็นภาคปราบกันอย่างจริงๆจังๆ ทั้งๆที่เน้นแต่ทานบารมีและวิชชาธรรมกายเบื้องต้น

    ขออนุญาตเรียนถึงศิษย์สายคุณลุงการุณย์ด้วยว่า

    ขออนุโมทนาสาธุในการตั้งใจเผยแผ่วิชชาเบื้องสูงภาคปราบกันอย่างจริงๆจังๆ แต่ผมเองก็ไม่อยากให้เผยแผ่อาสวักขยญาณเบื้องสูงในที่สาธารณะมากไปนะครับ แต่สนับสนุนให้เผยแผ่กันอย่างเต็มที่ในที่ๆเหมาะสม หรือในบริบทที่เหมาะสม เพราะผมเองก็เป็นห่วงว่าผู้เข้าไม่ถึงเขาอ่านแล้วจะเกิดการจาบจ้วงได้นะครับ

    แม้วัดหลวงพ่อสดธรรมกายารามเองก็ต้องมีการปรับปรุงในหลายๆอย่างเป็นธรรมดาครับ เจ้าคุณหลวงป๋าเสริมชัยก็อายุมากแล้ว

    สิ่งที่ผมเสวนานี้ เป็นกันเองๆแบบชาววิชชาธรรรมกาย อยากให้ทุกท่านเปิดใจกว้างรับฟังเพื่อเป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกายครับ

    โดยเฉพาะวัดพระธรรมกายผมไม่ได้ว่าท่านไม่ดี ผมย้ำว่าวัดพระธรรมกายนั้นสุดยอดมากในการเผยแผ่ศาสนาพุทธและวิชชาธรรมกายเบื้องต้น ผมเองก็ไปร่วมกิจกรรมบ่อยๆ แต่สิ่งที่ควรปรับปรุงทางวิชชาให้ดีขึ้นมากกว่านี้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2010
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ขออนุญาต

    วัดพระธรรมกาย บ้าในวัตถุเกินไป สอนให้ติดในนิมิต

    มีแต่ตักตวงบุญ อย่างไม่ลืมหูลืมตา สอนให้สาวกเรี่ยไร ยังกับไดเรคเซล

    อ้างความวิเศษ อ้างบุคคลที่ร่ำรวย

    ไม่อยู่ในโลกของความเป็นจริง ไม่ใช่คำสอนของพระศาสดา
     

แชร์หน้านี้

Loading...