หลวงปู่พิบูลย์ถูกถ่วงน้ำไม่ตาย

โอ๊ะโอ ทำกันเป็นกลุ่ม และยังมีอีกกลุ่ม

พี่โก๋บอกน้องหน่อยนะครับน้องจะได้มีวัคซีนป้องกันจากมิจฉาชีพพวกนี้

 

เอาไว้วันที่ 10 ละกัน รับรองถ้าได้รู้แค่วัดก็ไม่อยากเดินเฉียดแล้ว

 

พวกเดรัจฉานวิชานี้ไม่ใช่ภาคส่วนของวัด เพียงแต่เบื้องต้นพยายามเข้ามาใกล้ชิดไปมาหาสู่เสมอ นำผลประโยชน์มาหลอกล่อ แล้วก็เป็นอย่างที่คุณเห็น สุดท้ายไปรวมกันทำอย่างที่ปรากฏจนหลายคนอนาถใจ

เรื่องอ้างว่าหลวงปู่องค์หนึ่งตอนนี้เข้านิโรธกรรมอยู่บอกจะหมดกรรมต้นปี พูดมาแค่นี้ก็มั่วแล้วครับ คำว่านิโรธกรรมไม่มีในคัมภีร์ใดๆของพระพุทธศาสนา มีแต่นิโรธสมาบัติ แม้กระทั่งทางเหนือเองก็มีแต่การเข้ากรรม หมายถึงการถือธุดงควัตร ๑๓ (ตามตำราครูบาชุ่มที่สืบมาจากครูบาศรีวิชัยก็เรียกเข้ากรรมคือธุดงควัตร๑๓)ไม่มีคำว่านิโรธกรรม และการถือธุดงควัตร ๑๓ ก็ไม่เหมือนกับนิโรธสมาบัติ มาระยะหลังนี่ถึงมีการบิดเบือนรังสรรค์คำว่านิโรธกรรมมาหาลาภหลอกคนไม่รู้ ดังนั้นการออกมาพูดบอกว่า เข้านิโรธกรรมนั้น พยายามจะทำอะไร? แล้วยังพยายามบิดเบือนหลักความเข้าใจในพระศาสนาให้คนเข้าใจผิดอีกในทำนองว่า เข้านิโรธกรรมแล้วจะหมดกรรม พูดออกมาแบบนี้จะสร้างกรรมใหม่เพิ่มอีกสิไม่ว่า........

ข้างล่างนี่ผมก๊อปมาจากเวปธรรมะเวปหนึ่งเห็นเป็นประโยชน์จึงนำมาให้อ่าน

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD>[SIZE=+2]นิโรธกรรม[/SIZE] </TD></TR></TBODY></TABLE>






<CENTER><TABLE cellSpacing=10 width=700 bgColor=#853a7b border=0><!"#853A7B"><TBODY><TR><TD align=middle width="100%"><CENTER><TABLE width="100%" bgColor=#bbddff border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>เนื้อความ :

นิโรธกรรมหมายความว่าอย่างไร เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินได้รู้มา คือมีพระทางภาคเหนือขณะนี้องค์หนึ่งกำลังเข้าอยู่เข้าทำไมเพื่ออะไร ในพระไตรปิฏกมีหรือเปล่าคำว่านิโรธกรรมพระพุทธเจ้าสอนไว้หรือเปล่า เคยได้ยินได้รู้มาว่ามีแต่คำว่านิโรธสมาบัติ ชาวพุทธแท้ต้องคิดก่อนอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายจึงจะเรียกว่าพุทธแท้อย่าเป็นผู้ที่หลงงมงายโดนเขาหลอกง่าย ๆ
​

พระพุทธองค์สอนให้เชื่อตนเอง พึ่งตนเอง คนเราจะรวยมิใช่ไปทำบุญกับพระที่ออกจากนิโรธกรรม (ขอยืนยันไม่ได้เขียนผิด) พระอรหันต์เท่านั้นที่เข้านิโรธสมาบัติได้ นอกนั้นก็กรรมใครกรรมมันก็แล้วกัน

​

</TD></TR><TR><TD colSpan=2>จากคุณ : เลิศ su @chai [ 22 ก.พ. 2544 / 13:58:19 น. ]

[SIZE=-1][ IP Address : 203.170.133.70 ][/SIZE] ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>






</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>








<CENTER><TABLE cellSpacing=10 width=700 bgColor=#853a7b border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="100%"><CENTER><TABLE width="100%" bgColor=#e4f3f3 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 1 : (ปิ่น)

ดูเหมือนน่าจะเป็นความหมายเดียวกัน จากคำว่า
​

นิยมทำบุญกับพระที่เพิ่งออกจาก นิโรธกรรม

เพราะมีบางคนเข้าใจว่าถ้าได้ทำบุญกับพระที่เพิ่ง
ออกจากนิโรธสมาบัติจะได้อานิสงค์มาก
เท่าที่ได้ศึกษา พระอริยบุคคลขั้นอนาคามีก็สามารถ​

เข้านิโรธสมาบัติได้เหมือนกันนะครับ

​

</TD></TR><TR><TD colSpan=2>จากคุณ : ปิ่น [ 22 ก.พ. 2544 / 16:30:59 น. ]

[SIZE=-1][ IP Address : 203.126.118.146 ][/SIZE] ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>






</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>









<CENTER><TABLE cellSpacing=10 width=700 bgColor=#853a7b border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="100%"><CENTER><TABLE width="100%" bgColor=#e4f3f3 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 2 : (tchurit)

กาลามสูตร เป็น เข็มทิศที่ใช้ตรวจสอบ
​

ปรากฏการณ์ศรัทธาที่เกิดขึ้น ก็เป็นตัวชี้วัดชาวไทยพุทธว่า

ปัจจุบันเข้าใจพุทธศาสนาดีมากน้อยแค่ไหนครับ

​

</TD></TR><TR><TD colSpan=2>จากคุณ : tchurit [ 23 ก.พ. 2544 / 07:15:26 น. ]

[SIZE=-1][ IP Address : 203.157.42.217 ][/SIZE] ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>






</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>









<CENTER><TABLE cellSpacing=10 width=700 bgColor=#853a7b border=0><TBODY><TR><TD align=middle width="100%"><CENTER><TABLE width="100%" bgColor=#e4f3f3 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>ความคิดเห็นที่ 3 : (พุทธศาสนิกชน)

เคยอ่านพบในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ รู้สึกว่าวิธีปฏิบัติไม่ใช่การเข้านิโรธสมาบัติ เป็นเพียงการอดอาหารตามกำหนดเวลา แต่ยังคงฉันน้ำอยู่ และเก็บตัวปฏิบัติภาวนาจนครบกำหนดเวลาจึงออกมาพบปะผู้คน แต่พระผู้ปฏิบัติเอาเหตุการณ์นี้ไปเกี่ยวกับอาการป่วยจวนมรณภาพของพระอีกรูปหนึ่งว่าการปฏิบัตินี้สามารถที่จะทำให้พระรูปนั้นไม่มรณภาพ จึงได้บัญญัติว่าการทำเช่นนี้คือนิโรธกรรม ซึ่งตามการกระทำนั้นออกจะขัดคำสอนของพุทธศาสนาที่ว่าทุกคนแต่ละคนต่างมีกรรมเป็นของคนเอง มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ไม่อาจหนีผลกรรมของตนเองได้ จึงค่อนข้างจะเห็นด้วยกับคุณเลิศ su @chai ว่าชาวพุทธแท้ต้องคิดและศึกษาก่อนอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ จึงขอขอบคุณ คุณเลิศ su @chai ที่ตั้งกระทู้นี้มาเตือนสติชาวพุทธ
​

</TD></TR><TR><TD colSpan=2>จากคุณ : พุทธศาสนิกชน [ 23 ก.พ. 2544 / 21:55:12 น. ]

[SIZE=-1][ IP Address : 203.151.96.13 ][/SIZE] ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>






</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

 

<table id="post2800014" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">น้ำดี1<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2800014", true); </script>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 5,952
Groans: 1
Groaned at 29 Times in 15 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,110
ได้รับอนุโมทนา 19,965 ครั้ง ใน 6,994 โพส
พลังการให้คะแนน: 1021


</td> <td class="alt1" id="td_post_2800014" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ที่ จริงอยากจะบอกว่าพระเกจิแต่ละองค์ที่พี่เอกแนะนำมาท่านเป็นพระอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นพระที่ต้องให้กลุ่มลูกศิษย์ช่วยกันเชียร์ ช่วยกันดัน ช่วยกันปั้น สร้างเรื่องนิทานหลอกเด็ก เพื่อหาเงินเข้าพกเข้าห่อ น่าบัดสีจริง ๆ เด๋วนี้มีเยอะซะด้วยประเภทนี้ ไม่รู้เอาอะไรคิด ทำกันไปได้ ที่จริงก่อนนั้นไม่ได้เชื่อพี่เอกร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ฟังหูไว้หู แต่หลังจากที่สืบเสาะข้อมูลมาเลยได้รู้ว่าสิ่งที่พี่เอกพูดนี่จริงแท้แน่นอน <!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->รับจัดหาพระเครื่องหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วค่ะ โทร.081-1834285
</td></tr></tbody></table>

 

โอ้ เจียงใหม่บ้านเฮา
====>ดูข้างล่าง มันเบิ้ลอะครับ

ขออภัยครับ

 

โอ้ เจียงใหม่บ้านเฮา
โจ้คดีตี้ช่วงนี้บ่อค่อยเจ้าพระ หันเปิ้นตั้งกระทู้สุดยอดๆเฮาก่อคะได้ แต่ก็บ่อได้เจ้า โจ้คดีไป
(เวลาอ่านกระทู้ และประสบการณ์ แล้วใจมันอยากเช่า อะครับ)
อนุโมทนาบุญครับ

 

สรุปของฟรีดีที่สุดไม่ต้องเช่า ให้ด้วยใจรับด้วยใจ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ฟ้าสร้าง
10 ม.ค. 2553 ตั้งแต่ 9.00น. เป็นต้นไป



ครูบาแม้ว
1. เป่าน้ำตรวจเคราะห์กรรมสำหรับคนที่มีปัญหาติดขัด ทำอะไรไม่ขึ้น พร้อมบอกวิธีแก้ไข

2. สักหรือเจิมเสน่ห์ยาแดง

3. ถอดถอนคุณไสย์

<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->4. รับถวายกรด 3 ฤดูจากผู้ร่วมทำบุญ

5. แจกเทียนลดเคราะห์หนุนดวงรับโชครวม ๓ เล่ม

ครูบาธร
1. สักหมึกผสมว่านยา/น้ำมัน ทางเมตตามหาเสน่ห์ เช่น แมงวันคำ ดอกไม้สวรรค์ ห้าแถว ทางคงกระพันข่ามคง เช่น หัวใจพระรอด

2. ลงคำ(ทอง) 9 แผ่น ตามตำรับล้านนาที่สืบทอดมา จัดทองคำแท้มาเอง10 แผ่น

3. ทำพิธีปลุกเสกอิ่นแต่งงานแจกแก่ผู้มากราบ

ครูบาบุญทา
1. ครอบครูในสายของท่านผ่านหัวพระฤๅษี๑๐๘

2. ลงสาริกาลิ้นคำ

3. แจกสาริกายอดรัก

ครูบาสิทธิ
1. ประสิทธิ์ประสาทพร

2. แจกน้ำมนต์หมุน

หลวงปู่หริ
1. เป่ายันต์เกราะเพชร

2. แจกตะกรุดนะหน้าทอง

ในวันที่ ๑๐ มค.นี้ จะนำพระขุนแผนรักชาติหลวงปู่เจือไปแจกเพื่อเชิดชูเกีรยติคุณของหลวงปู่ฯ โดยไม่ต้องมีการทำบุญ หรือ ยกขันครูใดๆ มารับได้เลยที่วัดทุ่งครุ ๕๐๐ องค์ส่วนท่านที่อยู่นอกเขตกทม.และปริมณฑล จะแจกอีก ๕๐๐ องค์ ลงชื่อบนหน้าบอร์ดนี้ได้เลย

โทร ๐๘๐ ๑๘๑๐๒๒๐<!-- google_ad_section_end -->



</TD></TR></TBODY></TABLE>
พระผงขุนแผนรักชาติหลวงปู่เจือที่เหลือจากแจกในเวปแล้วจะแจกวันที่ ๑๐ มค.นี้ให้หมด ๑,๐๐๐ คน เพื่อให้ทุกท่านรู้ว่าหลวงปู่ฯตั้งใจกับการก่อตั้งหอบูรพาจารย์แล้วสมเด็จพระนเรศวรก็ทรงเห็นด้วยกับสิ่งที่พวกเราดำเนินการอยู่จึงแสดงปาฏิหารย์ให้ปรากฏตามคำอธิษฐาน ดังนั้นคนที่ชอบพูดจาให้ร้ายสิ่งที่พวกผมกำลังดำเนินการอยู่วันหนึ่งคงจะถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษ

 

<TABLE class=tborder id=post2797808 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 12:10 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#2223 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->น้ำดี1<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2797808", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 5,879
Groans: 1
Groaned at 29 Times in 15 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,110
ได้รับอนุโมทนา 19,961 ครั้ง ใน 6,993 โพส
พลังการให้คะแนน: 1012








</TD><TD class=alt1 id=td_post_2797808 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ในช่วงที่ผ่านมามีผู้คนมากมายที่เช่าวัตถุมงคลโดยขาดการพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ แต่จะโทษเสียทีเดียวก็คงไม่ได้ค่ะ เพราะน้ำเชื่อว่าน้อยคนที่จะรู้เรื่องราวลึก ๆ ภายใน แต่น้ำรู้ดีทุกเรื่อง แต่คงไม่เหมาะสมที่จะนำมาพูดหรือมาบอกเล่า นับจากนี้วัตถุมงคลหลวงปู่เจือจะยิ่งมีราคาสูงมากขึ้น และมีคนต้องการกันมากขึ้น ดังนั้นจะเช่าหาอะไรต้องได้จากผู้รู้จริงเท่านั้นนะค่ะ มิฉะนั้นก็จะได้ของปลอมที่ออกจากโรงงาน หรือของที่ไม่ได้ปลุกเสกหรือผ่านมือหลวงปู่มาใช้อย่างแน่นอนค่ะ แต่จะมีวิธีดูอย่างไร ขอสงวนสิทธิ์ที่จะบอกเล่าในนี้นะค่ะ<!-- google_ad_section_end -->






</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post2798421 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 05:06 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#2245 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->น้ำดี1<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2798421", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 5,880
Groans: 1
Groaned at 29 Times in 15 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,110
ได้รับอนุโมทนา 19,961 ครั้ง ใน 6,993 โพส
พลังการให้คะแนน: 1013








</TD><TD class=alt1 id=td_post_2798421 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->โดนกวาดเรียบร้อยแล้วค่ะ ของหลวงปู่ต่อจากนี้จะแพงขึ้นทุกรายการค่ะ<!-- google_ad_section_end -->






</TD></TR></TBODY></TABLE>

ล่าสุดข่าวจากทุกที่ตรงกันหมดว่า ที่วัดโดนเช่าหมดแล้ว เหลือแต่ที่นี่ที่เป็นของดี ไม่ต้องห่วงปลอมห่วงเสริมเพราะตั้งใจสร้างมาแจก แถมแจกฟรี นี่ถ้าให้ข่าวไปตามหนังสือพิมพ์รายวัน วัดทุ่งครุจะคนเยอะมาก ดังนั้นแจกเงียบๆอย่างนี้พอแล้ว<!-- google_ad_section_end -->










ในภาวะที่วัตถุมงคลของหลวงปู่เจือถูกเก็บจนหมดทุกที่แล้ว ราคาพุ่งขึ้นไปหลายเท่าตัว หากผมจะนำพระขุนแผนรักชาติซึ่งเป็นวัตถุที่ดีที่สุดรุ่นนึงของหลวงปู่เจือไปจำหน่ายก็คงได้ปัจจัยอยู่หลายสตางค์ แต่ผมไม่ทำอย่างนั้นครับ เพราะว่าวัตถุประสงค์ของหอบูรพาจารย์ที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่เป็นไปเพื่อเงิน แต่เป็นไปเพื่อเชิดชูเกียรติประวัติของครูบาอาจารย์และอนุรักษ์พระเวทย์วิชาโบราณที่สืบทอดกันรุ่นสู่รุ่นมานานกว่า ๒,๐๐๐ ปีไว้มิให้สูญหายไปจากสังคมไทย ทุกวันนี้ผมต้องตระเวนถ่ายรูปเนื้อหาในสมุดข่อยคัมภีร์ต่างๆเพื่อจะเก็บไว้แสดงในระบบคอมพิวเตอร์ของหอในอนาคต เพื่อเป็นที่สืบค้น ค้นคว้าของผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวเหล่านี้จะได้ไม่ถูกใครเขาหลอกอ้างวิชาที่ไม่มีจริงมาขายของกิน และหอบูรพาจารย์จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่จะอัญเชิญบารมีครูบาอาจารย์ลงประสิทธิมงคลให้กับทุกท่านที่มาสักการะได้ แต่ถ้าหากหอไม่เสร็จแต่ผมตายซะก่อนก็ไม่เป็นไรเพราะนั่นเป็นเรื่องที่ไม่อาจกำหนดได้
แต่การที่ทำให้คนได้รู้จักเกียรติคุณและเข้าใจศาสตร์ที่ครูบาอาจารย์เราได้สืบต่อใช้กันมาอย่างถูกต้องแท้จริงเพื่อจะได้ไม่โดนเขาหลอกนั้นคือ ความสำเร็จที่แท้จริงของเรา

 

สู้ๆพี่ ยังมีคนคอยให้กำำลังใจอยู่ ถึงจะไม่มาก แต่ก็ไม่น้อย ;ปรบมือ

เดี่ยวตอนเย็น ไปถนนคนเดิน อยากได้ไรก็โทรมานะพี่ ตอนนี้ไปเดินห้างก่อน ร้อนอีกละ

 

ข่าวดีๆปีใหม่ครับ

ขณะนี้วัดอโยธยาพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าโครงการ มินิรามเกียรติ์พาร์ค โดยจะเริ่มปรับปรุงพื้นที่บริเวณด้านข้างพระอุโบสถ(พื้นที่อนุรักษ์กรมศิลป์ฯ) โดยปรับพื้นดินและปูคอนกรีตบล็อคหลังจากนั้นซุ้มที่นั่งพักและตัวหุ่นรามเกียรติ์จะค่อยๆตามมา ต่อจากนั้นก็เตรียมดำเนินโครงการอุทยานฤๅษีต่อไป และในเดือนเม.ย.คงมีงานประจำปียิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพราะหากทันจะเป็นการเปิดตัวอุทยานดังกล่าวไปพร้อมๆกัน


สิ่งดีๆที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของพวกเราที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนมาในปี พศ. ๒๕๕๒แต่จะมาเริ่มเป็นรูปธรรมในปีพศ.๒๕๕๓

 

เหนื่อยใจจริงๆพอเราจะเอาความจริงๆมาเปิดเผยกลับโดนคนบางกลุ่มเข้ามาจัดการทำให้เรื่องมันหายเงียบไปกับสายลมซะงั้น แต่เอาเหอะไม่เป็นไร เรื่องนี้ตัวใครตัวมันแล้ว ใครคิดได้ก็จะเข้าใจ ใครที่คิดไม่ได้ก็จงคิดไม่ได้ต่อไป

 

องค์การพุทธพาณิชย์คงไม่ชอบกระทู้นี้แน่เลย เพราะมีกระทู้นี้เป็นตัวแปรในการวางแผนจำหน่ายสินค้าบนความศรัทธา

 

ขอให้เพื่อนๆพี่น้องมาร่วมกระทู้พูดคุยทักทายแสดงความคิดเห็นในกระทู้ให้มากๆครับ เปิดเครื่องดูไว้ทั้งวันก็ได้ การที่คนดีท้อแท้ต่างคนต่างอยู่ เป็นเหตุให้สังคมขาดความเข้มแข็ง ทำให้หลายๆคนที่คิดไม่ดีทำการสำเร็จ และขยายอิทธิพลครอบคลุมบางภาคส่วนของสังคม

 

เป็นกำลังใจให้ครับ...สืบสานวิชา...สร้างสรรค์สังคม

 

มาเป็นกำลังใจให้พี่เอกครับ

 

มาคอยขัดขาพี่ครับ 555

 

เรื่องการเทหล่อพระด้วยดินไทยก็เหมือนกัน พาคนไม่รู้สับสนไปหมด เทดินไทย หรือคลุกดินไทย ดินฝรั่ง มั่วกันไปหมด คนบูชาก็อยากได้พระสวย แต่ก็ชอบเทดินไทย สวยด้วย ดินไทยด้วย ราคาไม่แพงด้วย ผู้สร้างก็เจ๋งซิครับ เลยตามเลย ก็ต้องบอกว่าเทแบบโบราณ

 

ชอบครับคุณมะขามป้อม

สืบสานวิชา สร้างสรรค์สังคม

 

ประวัติหลวงปู่ครูบาสิทธิ อภิวัณโณ เทพเจ้าดอยลาง

​

ประวัติโดยย่อครูบาสิทธิ​

หลวงปู่ครูบาสิทธิ อภิวัณโณ ปัจจุบันอายุ ๘๙ ปี(นับตามหลวงปู่ฯบอก) นามเดิมชื่อสิทธิ เมืองใจ เกิด ๑๐ มิย. พศ .๒๔๖๕ ณ. บ้านแม่ฮ่าง ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรคนโตของพ่อบุญมา และแม่ป้อ เมืองใจ ในพี่น้องทั้งหมด ๕ คน หลังจากหลวงปู่ฯเกิดได้ไม่นานพ่อแม่ก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านปางกลาง
<O
<O
อายุ ๑๖ ปีได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดปางกลาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ในวันที่ ๕ เม.ย. ๒๔๘๑ โดยมีครูบาแก้ว กาวิชโย วัดมงคลสถาน อุปัชฌาย์
<O
<O
ต่อมาได้อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดชัยสถาน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ในวันเสาร์ที่ ๑๓ มิ.ย. ๒๔๘๕ โดยมีครูบาก๋องคำ วัดมาตุการาม เป็นพระอุปปัชฌาย์ ครูบาอุ่นเรือน ธีรปัญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระคำภีร์ ธมฺมวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากที่ได้อุปสมบทแล้วก็ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม กับครูบาสิงห์แก้ว ที่วัดแม่อายหลวง จนจบนักธรรมเอก ขณะเดียวกันก็ได้ศึกษาอักขระและเวทย์มนต์ล้านนากับพระอธิการวงศ์ เจ้าอาวาสวัดจองกล๋าง อีกทั้งยังใช้เวลาว่างศึกษาค้นคว้าพระเวทย์จากปั๊ปสาต่างๆอีกจำนวนมาก
<O
หลังจากนั้นในปี ๒๔๙๓ หลวงปู่ท่านได้ถูกส่งไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดห้วยม่วงจนถึง พ.ศ.๒๔๙๗ วัดถ้ำตับเต่าซึ่งอยู่ในป่าลึกเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ พระต้องอยู่ในถ้ำที่มีปู่ฤาษีเจ้าที่แรง เป็นเหตุให้พระที่มีศีลไม่บริสุทธิ์อยู่ไม่ได้ ทำให้ขาดพระจำพรรษามาตลอด ดังนั้นท่านเจ้าคณะอำเภอจึงอาราธณาหลวงปู่ครูบาสิทธิไปช่วยจำพรรษา พอไปถึงหลวงปู่ฯก็ถูกทดสอบอย่างหนัก จนปู่ฤาษีเจ้าที่ยอมรับและดลบันดาลให้การเจริญกรรมฐานของหลวงปู่ฯรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว มีกำลังฌาณสมาบัติสูง ขณะเดียวกันพ่อหนานมูล บ้านร้องธาร ฆาราวาสผู้แก่กล้าอาคมที่โด่งดังสุดๆในยุคนั้นมีบ้านอยู่ใกล้วัดถ้ำตับเต่าก็ได้ถ่ายทอดวิชาอาคมและยกตำราให้หลวงปู่จนสิ้น ทำให้หลวงปู่ฯได้ใช้เวลาศึกษาพระเวทย์และปฎิบัติภาวนาอยู่ในถ้ำตับเต่าแห่งนี้นานถึง ๙ ปี
<O
กระทั่งปี พศ.๒๕๐๘ พ่อหลวง (ผู้ใหญ่บ้าน) เสา แห่งหมู่บ้านปางต้นเดื่อ ยอดดอยลาง ดินแดนที่อำนาจรัฐของประเทศไทยในขณะนั้นเข้าไปไม่ถึง ในพื้นที่เต็มไปด้วยกองกำลังกลุ่มต่างๆ ของหลายชนเผ่า ได้มาขอพระสงฆ์กับท่านเจ้าคณะอำเภอฝาง(สมัยนั้นยังไม่มีอำเภอแม่อาย) ให้ไปจำพรรษาณ.ที่พักสงฆ์ปางต้นเดื่อเพื่อเป็นที่พึ่งและช่วยสงเคราะห์ชาวบ้านชาวเมืองที่ขึ้นไปบุกเบิกป่าทำไร่ชา เนื่องว่าในขณะนั้นบนดอยลางมีแต่ฤๅษีไม่มีพระ ท่านเจ้าคณะอำเภอทราบเรื่องดังนั้นแล้วก็พิจารณาเห็นว่าคงมีเพียงหลวงปู่ครูบาสิทธิรูปเดียวเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้และสามารถจะพัฒนาที่พักสงฆ์ให้กลายเป็นวัดสำเร็จ จึงได้ให้พ่อหลวงเสานำคณะศรัทธาไปรับหลวงปู่จากถ้ำตับเต่าขึ้นสู่ยอดดอยลางมาจนกระทั่งปัจจุบัน<O

 

ใครเขาอยากทำอะไรให้เขาทำไปเถิดค่ะ เขาขยันสร้างความเลวสักวันกรรมก็ตามสนองพวกเขาเอง ของเราทำดีอยู่แล้ว ไม่ต้องแคร์ใครเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ