สูงสุดยอด...สู่สามัญ...ความว่าง ????

มาแนวนี้ แนวเต๋า แนวเซน เคยผ่านตาผมมา ชอบครับ ถูกใจมากเลย ว่าง และก็ ว่าง ทุกสรรพสิ่งล้วน ว่างเปล่า

แนวศาสนาพุทธในประเทศไทยส่วนมาก วุ่นวายครับ มีบาป มีอกุศลกรรม มีนรก อสุรกาย มีเปรต เป็นแดนรองรับ มีโลกหน้า โลกไหนๆ มีโทษทัณ มีศีล มีข้อห้ามมากมาย โอ๊ย วุ่นวายไปหมด เล่นเอา ผมเหงื่อตก เสียวหวาบ เวลานึกถึง สิ่งที่ตัวเองได้กระทำลงไป


ของคุณนี่ดี วันก่อน ผมไปล่อเมียชาวบ้านมา กลับมานึกถึง ความว่าง

ไอ้ที่คุณว่า แหม มัน ว่าง มันสบายกาย สบายใจ บอกไม่ถูก ตัวเบาเลยนะ

แต่ก็แอบมันเล็กๆนะ คงไม่ว่ากัน แต่ก็ช่างเหอะ เพราะว่า ว่าง เสียเป็นส่วนใหญ่

อาทิตย์หน้า ก็นัดเจอกันอีก งานผมก็ ว่าง พอดี ผมพกความ ว่าง ว่างเปล่าไป ไม่คิดไร ผมจะทำภารกิจแบบว่างๆ

เพราะทุกสรรพสิ่ง ล้วนคืนสู่สามัญ อย่างทีคุณบอก

โอ้...ช่างว่างเปล่าเสียนี่กระไร สุญญตา ว่าง และก็ว่าง

ผมเกือบจะบรรลุแล้วนะ

 

แหม คุณ maxgatod ช่างเข้าใจพูดนะ

พวกความว่าง เค้าโกรธคุณเอาน้า

แต่คงไม่หรอก เพราะ เค้า จะมีก็แต่ความว่างเปล่า

ทุกสรรพสิ่ง ล้วนว่างเปล่า สูงสุด คืนสู่ความว่างเปล่า

กลับสู่สามัญ สุดยอด............................

 

อิทัปปัจจยตา ว่าด้วยเรื่อง ความหยาบคาย

การกระทำ คำพูด ภาษา ที่หยาบคาย ล้วนมีที่มาจาก ความคิด ที่หยาบคาย
ความคิด ที่หยาบคาย ล้วนมีที่มาจาก จิตใจ ที่หยาบกระด้าง

ความมืดมนค้นหาหนทาง โผล่จากปลักโคลนตม ช่างยากลำบากแท้หนอ
แต่คงพอมีทางหลงเหลืออยู่บ้าง ที่ยังรู้จักเข้ามาในเว็บธรรมมะนี้
(f)(ping-love(f)

 

อิทัปปจยตา = มีเหตุเช่นนั้น มันจึงเป็นเช่นนั้นเอง

ว้าว!!! ไมว่าง สะแหละ ของขึ้น ซะงั้น ไม่อธิบาย แถมว่าไห้อีกตั้งหาก หุหุ

แถมมาว่าคนนั้น คนนี้หยาบคาย และการทำงานด้วยจิตว่าง ฟังธรรมด้วยจิตว่าง หายไปไหนแล้วอะ อิอิ

คนที่มีความว่าง อยู่ในตน ช่างสรรหา คำพูดมาว่า มาเปรียบเปรย

ต่างๆนาๆ หายากนะ พวกสุญญตา พวกจิตว่าง วางเฉย......ช่างมีความคิด

ที่ลึกซึ้ง หยาบคายยิ่งหนัก จิตใจที่โสมมยิ่งนัก ข้าพเจ้า ขอคารวะ ท่าน สักจอก คิคิ

แต่ถึงจะเป็นจอก ก็ไม่ยึดติดอะไร จะมีก็แต่ความว่าง และก็ว่าง.......ว่าง



เราไม่ได้ยืดมั่น ถือมั่น จะมีก็แต่ ศรัทธาในความว่าง โอ้..พระเจ้ายร์อช มันยอดมากเลยยย..อ่ะ!!!
ช่าง ว่าง และก็ว่าง อะไรเยี่ยงนี้

 

ขอแสดงความเห็น

คำนิยามในสภาวะของคำว่า "ความว่าง" เป็นไฉน
- ว่างจากตัวตน ด้วยการไม่ยึดติด
- ว่างจากการปรุงแต่ง ด้วยการไม่ฟุ้งซ่าน
- ว่างจากกิเลส ด้วยการลดละเลิก หรือปล่อยว่าง
- ว่างจากองค์ฌาน ด้วยการพิจารณาอากาสานัญจายตน
- ว่างจากความทุกข์ ด้วยการยอมรับในทุกข์นั้น ปล่อยวาง หรือรู้ให้เท่าทัน
- ว่างจากสูญตา ด้วยการเข้าสู่ธรรมชาติอันไร้ขอบเขต อันเป็นนิรันดร์
- ว่างจากนิพพาน สะอาดด้วยศีล สงบด้วยสมาธิ สว่างด้วยปัญญา

จะว่างแบบไหน ก็เลือกเอา แต่สำหรับเราแล้ว ขอว่างด้วย "จิตอาสา"

ชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์ กับโครงการจิตอาสา เร็วๆ นี้

 

กฎเหล็ก3ข้อ

1.ทุกสิ่งอย่างใลกขึ้นอยู่กับเหตุ-และผลไม่มีการเกิดขึ้นโดยหลักลอยแต่มีเหตุ-และผลอยู่ในตัวเอง

2.กฎแห่งกรรมกรรมแปลว่าการกระทำใครหรือผู้ใดได้กระทำกรรมอันไว้แล้วยอมที่จะหนีไม่พ้นผลกรรมของตัวเองไปได้ไม่ว่าผลกรรมนั้นจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม

3.ความไม่จีรังความเสื่อมไปความไม่เที่ยงแท้ทุกสิ่งอย่างในโลกนี้ล้วนแต่ไม่มีอะไรที่จะอยู่ไปได้ตลอดทุกสิ่งอย่างล้วนต้องมีวันดับไปสิ้นไปสลายไปไม่ทนอยู่นานพอถึงเวลาไม่ว่าเป็นใครหรืออะไรก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา

เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงดำเนินชีวิตของท่านทั้งหลายด้วยความไม่ประมาทเถิดดังพระพุทธพจน์ของพระพุทธองค์ทั้งหลาย