สุดขลัง!!...สายสิญจน์ไม่ไหม้ไฟ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย A_ty, 25 ธันวาคม 2012.

  1. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    นอกจากจะศักดิ์สิทธิ์ไม่พอแล้ว A_ty ว่าบางทีอาจเิกิดปฏิหารบางอย่างก็ได้ค่ะ เพราะมีพระเกจิล้านนาได้เสกตั้งหลายองค์ซะขนาดนั้น
     
  2. ชวัลลักษ์

    ชวัลลักษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +279
    วันที่ 9 พุทธาภิเสกเริ่มตั้งแต่กี่โมงค่ะ ถึงกีโมง ตอนเสกนะ
     
  3. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    พิธีเริ่มตั้งแต่ 12.49 น. เป็นต้นไปค่ะ แล้วเจอกันนะค่ะ:cool::cool:
     
  4. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    เมื่อก่อนหน้านี้เราได้เห็นภาพพระล้านนาเมืองเหนือ เสกเหรียญเจ้าสัว 2 หน้า รุ่นแรก ไปแล้วแต่บางท่าน อาจจะยังไม่รู้ความหมายขอคำว่า ล้านนา A_ty จะเอาเล่าคุยให้ฟังกันนะค่ะ
     
  5. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ล้านนา คือพื้นที่ ที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนบน หมายรวมพื้นที่ ๘ จังหวัดอันได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน และแม่ฮ่องสอน โดยมีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง “ล้านนา”
     
  6. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    “ล้านนา” หมายถึง พื้นที่กว้างใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ มีผืนนามากมายนับได้เป็นล้านแปลง มีความหมายตรงกับคำในภาษาบาลีว่า เขตฺตทสฺลกฺข ที่ปรากฏในเอกสารตำนานพญาเจี๋อง และคำว่า ทศลักษณ์เกษตร ซึ่งเป็นคำท้ายพระนามพระเจ้ากาวิโรรสสุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ทั้งสองคำแปลว่า สิบแสนนา หรือ ล้านนา
     
  7. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    แค่ความหมายของคำว่า ล้านนา ก็ยิ่งใหญ่ อุดมสมบูรณ์กันขนาดนี้ แล้วพระล้านนาเสกเจ้าสัว 2 หน้า รุ่นแรก จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน ลองคิดดูกันนะค่ะ
     
  8. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ชมภาพพระล้านนาเสกเจ้าสัว 2 หน้า รุ่นแรกได้ที่หน้า 15 -16 นะค่ะ
     
  9. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    PM ถามรายละเอียดเจ้าสัว 2 หน้าได้เลยนะค่ะ
     
  10. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ประวัติศาสตร์สมัยล้านนา
    ชื่อ“ล้านนา” เชื่อกันว่าคู่มากับชื่อ “ล้านช้าง” (หรือที่รู้จักกันดีว่าหมายถึงประเทศลาว) ด้วยปรากฏชื่อทั้งสองจารอยู่ใน ศิลาจารึก ของ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ลาวเมื่อประมาณพ.ศ. ๒๐๙๖ นอกจากนี้ “ล้านนา” ยังมีความหมายสอดคล้องกับระบบการปกครองภาคเหนือสมัยนั้นที่ใช้จำนวนนากำหนดฐานะความสำคัญของเมือง เช่น พันนา แสนนา สิบสองพันนา เป็นต้น ความเป็นมาของดินแดนล้านนาพบว่าเคยมีร่องรอยมนุษย์อยู่อาศัยมาก่อนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคหินเก่า หินกลาง หินใหม่และโลหะตามลำดับ หลักฐานทางโบราณคดีพบว่าคนก่อนประวัติศาสตร์เหล่านี้อาศัยอยู่ตามที่ราบลอนลูกคลื่น ที่ราบริมน้ำ รวมทั้งบนที่สูงตามสันเขาและตามถ้ำในเขตจังหวัดต่างๆเช่นแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปางและน่าน มีพัฒนาการทางเทคโนโลยีตั้งแต่รู้จักการทำเครื่องมือหินกระเทาะ เครื่องมือหินขัด เครื่องมือโลหะ เครื่องประดับที่ทำมาจากโลหะหรือแก้วและหินมีค่า นอกจากนี้ยังรู้จักทำเครื่องปั้นดินเผาตลอดจนมีพิธีกรรมการฝังศพ และรู้จักการเกษตรกรรมปลูกข้าวที่เก่าที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค
     
  11. cmosbkk

    cmosbkk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +159
    รอๆๆๆใกล้ได้...เจ้าสัวแล้ว:cool::cool:
     
  12. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ใช่จร่า วันที่ 9 กพ 2556 เวลาตั้งแต่ 12.49 น. เชิญเข้าร่วมพิธีพุทธาพิเษกใหญ่เจ้าสัว 2 หน้า รุ่นแรก :cool::cool:ที่วัดกลางบางแก้วนะค่ะ
     
  13. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    เรื่องของการปลุกเสก วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง
    การปลุกเสก...
    คือการกระทำให้สิ่งที่เป็นวัตถุที่กำหนดไว้ให้มีคุณค่าขึ้นมา เช่น การปลุกเสกพระเครื่อง
    การปลุกเสกพระเครื่อง เดิมทีเดียวพระเครื่องเป็นวัตถุผสมด้วย ดิน หรือโลหะ หรือธาตุ หรือกระดูกคนตาย หรือสิ่งอื่น และตัวทำแข็ง ทำเหลว ตัวยึดติด อาจเป็นเป็นน้ำมันเหลวแห้งได้ดีเมื่อรมด้วยควันไฟ มีอาทิเช่น ตั่งออิ้วที่มีกลิ่นหอม ยางไม้รมบาตรมาจากประเทศจีนมีราคาแพง หรือน้ำมันชนิดอื่น หรือการทำด้วยปูนพลาสเตอร์ (ปูนปารีส) ชนิดแห้งไว หรือหล่อด้วย ธาตุแข็งชนิดอื่น เช่น ทองคำ ทองเหลือง ทองแดง ตะกั่ว ทองขาว เหล็ก อื่น ๆ หรือด้วยพืชวัตุ สัตว์วัตถุ ธาตุวัตถุต่าง ๆ แล้วนำมาปลุกเสก ๆ เรียกเป็นภาษาราชการว่า ทำพิธีกรรม

    จาก http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=17202
     
  14. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    การปลุกเสกแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ พิธีทางราชการ และพิธีไม่ใช่ราชการ
    ที่ทราบกันดีคือการพุทธาภิเษก หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าการปลุกเสกพระเครื่องรางของขลัง ของมงคล ตามพิธีกรรมที่สิบทอดกันมา หรือทำให้สิ่งธรรมมีชีวิตทางไสยวิทยาขึ้นมา
    จนเสร็จพิธี ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ เมื่อเสร็จตามขั้นตอน แบบที่ คติชนวิทยา หรือภูมิปัญญาชาวบ้านจะยอมรับว่าสิ่งนั้นศักดิ์สิทธ์ได้ด้วยพิธีกรรมเหล่านี้แล้ว จะปรากฏออกมาในท้องตลาด หรือในสังคม เช่นพระเครื่อง วัตถุมงคล รุ่นต่าง ๆ จากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ดั่งที่ทราบกันว่า บางชนิดเมื่อเสร็จพิธี แล้ว สามารถใช้ป้องกันตัว หรือพกพาติดตัวเป็นมงคลอื่น ๆ เช่นยิงรันฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาด กันผี บำรุงขวัญ เป็นเสน่ห์ เป็นมงคล เมตตามหานิยม ค้าขายดี ร่ำรวย เงินทอง

    จาก http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=17202
     
  15. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    การปลุกเสก มี 2 ชนิด
    ชนิดใช้นักบวชปลุกเสก และใช้คนที่ไม่ใช่นักบวชปลุกเสก
    การปลุกเสกยังแยกออกไปอีกเช่น การปลุกเสกด้วยน้ำธรรมดาเพื่อเสกให้เป็นน้ำมนตร์ เพื่อรดป้องปัดความรังควาญเสนียดจัญไร เป็นต้น ให้ผู้ป่วยทำให้รักษากายใจได้ มันเป็นเรื่องจิตบำบัดชนิดหนึ่ง
    การปลุกเสกอีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นของชาวบ้าน ที่เรียกว่า การเล่นของ เช่น คนธรรมดา อยากจะปลุกพระเครื่อง เขาจะนั่งสมาธิ บริกรรมคาถาในสูตรของเขา มีมือกำพระเครื่องไว้ในอุ้งมือแน่น แล้วภาวนา หลับตาอย่างมีสมาธิแน่วแน่ตามสูตร จนพระเครื่องหรือสิ่งของที่ปลุกเสกนั้นขึ้น คนที่ทำคือคนที่ปลุกเสกจะมีอาการเต้นสั่นบ้างบางครั้ง และตามปกติคนที่ทำพิธีจะใส่ชุดขาว เว้นอาหารเนื้อสัตว์ก่อนทำ เป็นตามที่กำหนดไว้ หรือเป็นโยคีหนึ่งระยะ และยังมีอีกหลายวิธีตามแต่ละสำนักสืบทอดกันมา

    จาก http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=17202
     
  16. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    การปลุกเสกแบบสมถฌานกรรมฐาน
    เป็นกำลังหลักการคือพระเกจิผู้ปลุกเสก ต้องสำเร็จฌานระดับจตุถฌาน หรือฌาน 4 ขึ้นไป การปลุกเสกเริ่มจากการตั้งสมาธิจากสมาธิขั้นกลางจนได้สมาธิระดับจตุถฌาน หรือฌาน 4 หรือสูงกว่านั้น แล้วก็คลายสมาธิลงมาในสมาธิขั้นกลางแล้วก็อธิษฐานจิต หรือว่ามนต์คาถาจึงทำให้วัตถุศักดิ์สิทธิ์ได้

    จาก http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=17202
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2013
  17. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ซึ่งการปลุกเสกแบบสมถฌานกรรมฐาน มี 4 วิธี ขึ้นกับพระเกจิว่าชำนาญแบบใด
    1.วิธีการสวดอัดประจุคาถา การเสกว่าคาถาบทสวดต่างๆ เช่น บทสวดเจ็ดตำนาน คาถาชินบัญชร เป็นการอาราธนาบารมีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือเทวดา หรือพรหมมาช่วย แต่ว่าคาถาบางอย่างก็จะว่าแต่เฉพาะบางจุด เรียกว่าคาถาพุทธาคม ซึ่งสมาธิขั้นฌาน 4 เป็นต้นไป จะว่ากล่าวคาถาพุทธาคมบทใดก็บังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น
    ส่วนคาถาไสยศาสตร์นั้นความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอยู่กับบทมนต์คาถาทุกอักขระที่ประจุ เคล็ดวิชาขั้นตอนพิธีการ และแรงวิญญาณของครูบาอาจารย์ผนวกรวมกัน หากผู้เสกที่เป็นพระเกจิ หรือฆราวาสเป็นผู้มีวิชาอาคมมาก และสร้างถูกต้องตามตำรา และได้รับการครอบครูบาอาจารย์ถ่ายทอดวิชามาอย่างถูกขั้นตอน วัตถุมงคลย่อมมีพลังสูงมากปลุกเสก


    จาก http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=17202
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2013
  18. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    2.วิธีการอธิษฐานจิต สามารถทำได้สองแบบ แบบแรก คือ การอธิษฐานจิตอ้างถึงการอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสาวก ทั้งหมด พรหมหรือเทวดาชั้นฟ้าทั้งหมดขออนุเคราะห์ท่านมาช่วยช่วยดลบันดาลให้พระเครื่องที่สร้างขึ้นนี้สูงสุดด้วยพระพุทธานุภาพ และกฤตยานุภาพ ส่วนแบบที่สองอธิษฐานอ้างถึงบุญญาบารมีคุณงามความดี ความมีศรัทธาพระบวรพุทธศาสนา และผลบุญกุศลที่ตั้งมั่นอยู่ในการประกอบแต่กรรมดี ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติของตัวพระเกจิหรือฆราวาสของตัวผู้ปลุกเสกเอง ได้ช่วยดลบันดาลให้พระเครื่องสร้างขึ้นนี้สูงสุดด้วยพระพุทธานุภาพ และกฤตยานุภาพ คุ้มครองให้คลาดแคล้วผองภัยพิบัติ อำนวยความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ที่ได้นำไปสักการบูชา โดยมีหลักการ เริ่มจากการเข้าสมาธิให้เข้าถึงจตุถฌานเรียกอีกอย่างว่าฌาน 4 จนกระทั่งอารมณ์จิตเป็นแก้วทั้งหมด เป็นแก้วประกายพฤกษ์ทั้งหมดแล้วจึงเข้าสมาธิใหม่ จัดเป็นโลกุตตรญาณ แล้วก็อธิษฐานจิต

    จาก http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=17202
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2013
  19. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    3.วิธีเจริญกัมมัฏฐานเดินอารมณ์กัมมัฏฐานเพ่งกระแสจิต ไปยังวัตถุมงคล
    ถ้าให้เป็นเมตตาระหว่างนั่งเราก็กำหนดอารมณ์ที่สงบนิ่ง เยือกเย็น ในการเจริญกัมมัฏฐาน
    แต่ถ้าต้องการให้อยู่ยงคงกระพัน ก็ใช้อารมณ์ที่แข็งกร้าว เหี้ยมโหด ในการเจริญกัมมัฏฐาน หรือการเพ่งกสิณไฟในการปลุกเสกให้เกิดพลัง

    จาก เรื่องของการปลุกเสก วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง
     
  20. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    4. วิธีทิพยจักขุญาณ ถ้าพระเข้าขั้นที่เรียกว่าได้ทิพยจักษุญาณ โดยมากเขาไม่ทำเอง
    ปัจเจกพุทธเจ้าบ้าง พระอริยสงฆ์บ้าง เทวดาชั้นฟ้าบ้าง พรหมบ้าง อันนี้ก็สบายดี แต่หากว่าทำเองไม่ช้ามันก็เจ๊ง ตัวเองยังคุ้มครองตัวเองไม่ค่อยได้ คนทำมันก็ตายนี่ แล้วมันจะไปคุ้มครองความตายของใครเขาได้ นี่ว่ากันตามธรรมดานะ การเสกพระเสกเจ้า หรือเสกผ้ายันต์ เสกอะไรต่ออะไรพวกนี้ ถ้าเราเอาตัวของเราออกเสีย เราไม่เข้าไปยุ่ง แต่อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสาวกทั้งหมด พรหมหรือเทวดาทั้งหมดท่านมาช่วย ท่านทำประเดี๋ยวเดียว ๒-๓ นาทีมันก็เสร็จ ดีกว่าเราทำ ๑,๐๐๐ ปี
    ขอขอบคุณข้อมูล องค์ความรู้เรื่องการปลุกเสกจาก อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม มา ณ ที่นี้

    จาก เรื่องของการปลุกเสก วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...