สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 5 มีนาคม 2009.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณนิวรณ์ นี่ตัวหลงเลย คนอ่านคนอื่นอย่าอยู่เฉย ให้เตือนนิวรร์กันบ้าง
    ส่วนเรื่องหมั่นไส้ผม เอาไว้ทีหลัง เตือนคนที่หลงมากๆ ก่อน

    พูดออกมาได้ว่า ผมสอนให้คนไปศาสนา เชน ก็วันก่อนนิวรณ์เพิ่งเถียงผมว่า แนวทางของตนเองก็เหมือนของผม
    พอผมว่าไปว่า แนวทางดูจิตใช้ไม่ได้ ไม่ครบ นิวรณ์ก็ว่า เหมือนกันกับผมพูดเพียงแต่ ผมไม่ยอมเข้าใจเอง
    มาวันนี้บอกว่า แนวทางผมเป็นศาสนาเชน หรือ ชินะ
    สรุปเอายังไงกัน ทิฎฐิผมสม่ำเสมอ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ตรงแล้ว ไม่มีสงสัยแล้ว ส่วนคุณนี่ยังเพี้ยนๆ ขึ้นๆลงๆ จะมาเถียงผมทำไม
    ยิ่งเถียงรังแต่จะสร้างความอับอายให้ตนเอง

    คุณจะเอามีดมากรีดหินได้ยังไง นิวรณ์
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ถามเอาง่ายๆ ก็ได้ ขณะปัจจุบันที่นึกจะ ควานหากิเลส ตอนนั้นเป็นกิเลสหรือ
    เปล่า คือ การตรึกไปในรูปหรือเปล่า มันคือ กามวิตกใช่ไหม จำเป็นไหมที่
    จะต้องมองว่า กามวิตกคือเรื่องเห็นของสวยงามในพารากอน รูปนามปริเฉท
    อยู่ตรงไหน ทำไม กาม ถึงได้ตกลงไปเฉพาะที่ปรากฏใน พารากอน

    * * *

    จิตมี กำลังเมื่อไหร่ ต้องไป

    อุบายธรรมของ ครูบาอาจารย์เขา ไม่ได้มุ่งให้เห็นว่า ชนะกิเลส หรือ ไม่ชนะ

    อุบายธรรมของการธุดงค์ คือ อย่าให้จิตติดเฉยๆ ทำสมาธิจนมีกำลังนั้นแหละ
    ครูบาอาจารย์เรียกว่า ติดเฉย จึงให้ออกไปข้างนอกกระทบผัสสะ แล้วกระทบ
    ก็ไม่ใช่เพื่อให้เห็นว่า กำลังของสมาธิมีเต็มที่หรือไม่เต็ม เขาให้ปล่อยเพื่อ
    เห็นจิตที่มันฝุ้ง เขาให้รู้ทุกข์ ไม่ใช่ธุดงค์ออกไปแล้วยังติดเอาเฉยๆ ว่าเที่ยง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2009
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ตอบให้ง่ายๆ ขณะปัจจุบันที่นึก เป็นฉันทะก็ได้ และถึงแม้ว่าจะเป็นตัณหา ก็เป็นแพที่พาข้ามฟาก ข้อนี้พระศาสดาตรัสไว้แล้ว คุณอย่าไปสุดโต่ง กลัวตัณหาจนพลอยพาไม่ทำอะไร นั่นแหละสีลพตรปรามาส

    กาม วิตกในพารากอน ไม่ใช่วิตก แต่ จิตที่อยู่กับบ้านมันไม่เคยพบกับ รูปหรือสภาพแวดล้อมที่ทำให้ อนุสัยนั้นสะท้านขึ้นมา
    ข้อนี้แหละ ที่จริงๆ แล้วเรามีอนุสัย แต่มันไม่กระเจิงไม่ฟุ้ง เนื่องจากมันยังไม่สบช่อง ก็อนุสัยหรือสิ่งที่เคยทำมาเนิ่นนานจนชินนั่นแหละ
    เมื่อไม่ได้สบช่อง มันก็ไม่ขึ้น แต่เมื่อสบช่องเมื่อไร มันจะวิ่งไปทางนั้นทันทีอย่างไม่มีเหตุผล นั่นแหละเรียกว่า สังโยชน์
    เป็น อาสวะ เป็นสิ่งที่นอนอยู่
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ตอบไม่ตรงจุดที่ถามครับ ผมถามว่า ตรงที่นึกอยากออกไปทดสอบ
    ตอนนั้นเกิด กามวิตก หรือยัง อนุสัยผุดแล้วหรือยัง

    โดยทัศนะผม ตอนที่นึกอยากจะออกไปลองวิชา ตอนนั้นแหละครับ
    เรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว กามวิตกเกิดเป็นเจตสิก เข้าคู่กับวิภวตัณหา
    ไปเรียบร้อยแล้ว ...หากดูไม่ทันก็จะไปเชื่อมัน คิดว่าเป็น ฉันทะ พอ
    ก้าวเท้าเดินออกไป ก็กอดกิเลสไปตลอดทางแล้วครับ ไม่ต้องเดินไปถึง
    หรอก
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณนิวรณ์ คุณไม่ต้องมาพูดอะไรแล้ว แต่ให้ระลึกทบทวนตนเองก่อน
    คือ
    1 คุณมุสาครั้งแล้วครั้งเล่า พูดจาเกินความจริงด้วยอารมณ์บ้าง ใส่ไคล้ผมบ้าง
    2 คุณพูดธรรมผิด หลายครั้ง หลบเลี่ยงการโต้ตอบเมื่อครั้งตนเองจนมุม
    3 คุณตีความธรรมเรื่อยเปื่อย ตามทัสนะตนเอง

    สิ่งเหล่านี้คุณไม่ทบทวน ธรรมในตน แต่คุณมาทบทวนและจับผิดธรรมของคนอื่น ข้อนี้แหละจะทำให้คุณธรรมที่มีของคุณนั้นมันเหือดหายไป
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ผมแนะนำให้คุณไป ถามพระพุทธองค์ หรือ พระธุดงค์ว่า ตอนที่ท่านคิดจะไปธุดงค์ หรือ ตอนที่พระพุทธองค์จะออกบวชท่านใช้กำลังใจตัวไหน นั่นแหละเข้าใจง่ายๆ
    แต่ถ้าคุณยังเชื่อ สติปัญญา อันมาจากมาร ในตัวคุณ มันก็จะสลับซับซ้อน ไปเรื่อยๆ แล้วมันจะพันกันเอง
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ผมจะไปจับผิดอะไรคุณ หากคุณแสดงธรรมไปเรื่อยๆ ผมเคยไปยุ่งหรือเปล่า

    วันนี้เกิดการโต้อีกรอบเพราะอะไร

    เพราะ อยู่ดีๆ คุณเอาแต่อ้างความเป็นอริยะ เสร็จแล้วก็ ยกนรกให้จินนี่

    ทำแบบนี้กบผมครั้งหนึ่งตอนนู้น ก่อนหน้าผม ก็เที่ยวยกให้พี่เกสท์

    แต่พี่เกสท์เขานับถือคุณ ผมจึงหยุดไป

    แต่วันนี้เอาอีก สอนธรรมะแบบอวดตน ยกตน นำหน้า ผมก็ต้องออกโรงอีก
    รอบเท่านั้นเอง

    คุณจะสอนธรรมะ สอนคนทำสมาธิ คุณก็สอนไปสิครับ ไม่ใครเขาว่าคุณ
    สอนผิดหรอก

    แต่เมื่อไหร่ คุณจนปัญญาชักชวนเขาฟังธรรม จนต้องอวดของลับ อันนี้ผม
    ไม่นิยมการสอนธรรมะแบบนี้ ผมก็ต้องแสดงความไม่ชอบเป็นธรรมดา
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    บังเอิญ คุณได้อาจารย์ผิด คุณนิวรณ์ คุณถึงพันกันให้มั่วไปหมด
    ถ้าผม ไม่มีหลัก ผมจะทนสติปัญญาอันหลักแหลมและจับยากของคุณได้หรือ
    นี่กี่ครั้งแล้วหละ คุณนิวรณ์ ที่คุณพันตัวเอง ก็ผมบอกว่า มีดจะเอามากรีดหินได้หรือ
     
  9. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อาจานนิวรณ์ ทำความเข้าใจเสียใหม่ดีกว่ามั้ย?
    แหล่งธรรมไม่ว่าของใครนั้น ล้วนแล้วแต่มาจากจุดกำเนิดเดียวกันทั้งสิ้น
    ในภายหลังมีพระไตรปิฎกเป็นเพียงแนวทาง
    แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะเหตุว่าพระปิฎกนั้นเริ่มจากพระสูตร พระวินัย
    มีพระอภิธรรมมาเพิ่มเติมในภายหลัง ผมขอยกไว้ไม่วิจารณ์

    การอ้างอิงพระพุทธพจน์เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ
    ไม่ใช่เพื่อเพื่อรับรองความถูกต้อง
    ส่วนการยอมรับนั้นเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลห้ามยาก
    ต่อให้มีใครนำเหตุผลที่ดีเยี่ยมอย่างไร มาแสดงให้เห็นเป็นประจักก็ยังไม่ยอมรับเลย

    คนเราถ้าลองได้เชื่อถือเข้าแล้ว จะพูดขาดเหตุผลยังไงก็ได้
    ผมถึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมปัจจุบัน
    คนที่หันมาสนใจพุทธศาสนาเข้าถึงธรรมน้อยลงไปทุกทีๆ
    ขนาดมีเหตุผลยังไงก็ไม่รับ

    ส่วนเรื่องทิฐิไม่เสมอกันนั้น ไม่ใช่เพราะไม่ปรับเข้าหากัน
    เป็นเพราะการเข้าถึงธรรมะต่างระดับกัน
    ถึงปรับเข้าหากันยังไงความต่างระดับย่อมปรากฏอยู่ให้เห็น
    ธรรมะของพระบรมครูไม่ว่ายกตรงไหนขึ้นมาปฏิบัติล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น
    ถ้าสามารถเข้าถึงได้ ไม่ใช่ แค่เพียงการอ่าน จำ นึกคิดเองแล้วนำมาพูดได้
    อันนั้นสิไม่เกิดประโยชน์

    ที่คุณพูดถึงแหล่งของผมนั้น ผมเองก็ยังแปลกใจอยู่เลย
    ว่าผมไปซุกซ่อนแหล่งธรรมอะไรไว้ที่ไหน
    ส่วนใหญ่แล้วผมเป็นคนชอบค้นคว้าหาความจริง(สัจจธรรม)
    ฉะนั้นไม่ว่าหนังสือของอาจารย์ใดหรือคำเทศนาสั่งสอนของท่านอาจารย์ท่านใด
    ผมล้วนแล้วแต่น้อมนำมาสมาทานดูแล้วทั้งสิ้น
    นอกจากพวกชอบแอบอ้างหรือพวกนอกพุทธศาสนาเท่านั้นที่ผมไม่ให้ความสนใจเลย...

    อย่าลืมสิว่าพุทธศาสนาของพวกเรานั้นวางอยู่บนหลักเหตุผล
    พระบรมครูจอมศาสดาถึงได้รับการยกย่องเป็นศาสดาเอกของโลก
    ถ้าขาดซึ่งเหตุผลแล้ว ตำแหน่งนี้คงไม่ได้มาเพราะโชคช่วยหรอก จะบอกให้....

    ;aa24
     
  10. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อาจานเกสท์ จำเอาไว้นะ การจำเอาคำพูดครูบาอาจารย์และอ่านมามาก
    แล้วนำมาประติดประต่อเป็นความเห็นของตนเอง รู้จักมียางอายบ้าง
    เอาแต่ด้นแต่เดาเมาหมัดตัวเองยังไม่รู้ตัวอีกหรือ

    แน่ใจนะว่ายกหางไม่เป็น ของแค่นี้ยังไม่รู้ตัวเลย
    คุณจะไปเอาอะไรกับธรรมะขั้นละเอียดหละ

    ถ้าปฏิบัติจนเห็นเกิด-ดับของขันธ์ได้จริงแล้ว
    มันเท่ากับพิจารณาเห็นไตรลักษณ์ชัดเจนในตัวอยู่แล้ว
    ยังต้องยกขึ้นไปพิจารณาอะไรอีกหละ
    พูดแบบนี้เค้าเรียกว่า
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อะไรนะ ให้ไปถามพระพุทธองค์เหรอครับ .....!!!!????

    ไม่ต้องไปถามหรอกครับ ผมพอจำได้ พระพุทธองค์ตรึกไปในความสุข
    ที่เสพอยู่เหล่านั้นไม่เที่ยง การอยู่ในเรือนเป็นเรื่องที่เปื้อนธุลี จึงดำหริ
    ออกจากเรือน แล้วจึงออกผนวช บวชแล้วพระพุทธองค์ก็ไม่ได้เดินเข้าเมืองอีก
    เพื่อพิสูจน์ว่าสมาธิแน่นหรือยัง ปฏิปทาท่านไม่มีปรากฏแบบนั้น จะมี
    ก็เฉพาะสาวกที่เล่าความให้พระพุทธองค์ได้ทราบ หรือเห็นว่าสาวก
    สำคัญผิดคิดว่าฌาณนั้นเลิศแล้วจึงให้เดินไปในเมือง หรือ ป่าช้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2009
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อวดของลับอีกละ ชอบจังเลยนะครับ จุ๊กกรู !
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ผมพูดตรงๆ ผมบอกว่า ดูถูกธรรม ปรามาสธรรม เพราะใจตนเองปิดบัง ด้วยความผูกโกรธ ความไม่ชอบความอคติเอง
    นั่นแหละ ปิดทาง ขนาดว่า ผมพูดธรรมได้ตรง ยังจะคิดไปว่า เป็นเพราะอย่างนั้นอย่างนี้
    นั่นแหละ จิตตนเอง บิดเบือนเพราะกรรมตนเอง

    คนเรา มันต้องพัฒนา ผมชี้ให้คุณเพื่อพัฒนา คุณไปดูซิว่า แล้วทำไมผมไม่กลัวนรกเล่า
    ใครต่อใครมาด่าผมกี่ครั้ง ก็ถ้าตนเองมีหลักจริง มันก็ต้องทนการพิสูจน์ซิ
    คุณ ประกาศว่า คุณรู้ธรรมตรง จินนี่เขาก็เคยประกาศ ผมก็ลองบ้างแล้วมันจะเป็นอะไรไป จะกลัวทำไมหละ
     
  14. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อาจานเกสท์ นี่ไม่ใช่โม้ธรรมดานะ อภิมหาโม้เลยทีเดียว<O:p</O:p
    แบบนี้ ถ้าไม่ใช่ยกหางตัวเอง จะให้เรียกว่าอะไรดีหละ???<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แน่ใจหรือว่า รู้เองเห็นเอง...คิดเองเออเองมากกว่า จำไว้นะ

    ;aa24<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2009
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อาจานเกสท์ จำเอาไว้นะ อย่าโม้อมตะอีกเลย
    อย่าคิดว่าคนอื่นเค้าไม่รู้สิ พูดมาได้
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    พูดตรง ตรงไหนหละ เรื่อง กามวิตก อธิบายผิดไปหมด อ้างว่าเป็นฉันทะ
    ก็ได้อีก คนละเรื่องเลย

    พรหมจรรย์อันบริสุทธิตามที่พระพุทธองค์ตรัสแสดงไว้ ยังเข้าไม่ถึง จะมา
    บอกว่าอธิบายได้ตรง แปลกไปหน่อยหละครับ
     
  17. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    ไม่ต้องโต้เถียง ขัดแย้งกันมากหรอกครับ
    ต่างคน ก็ต่างคิดไปต่าง ๆ นานา ไม่ถูกซักคน

    ความจริงก็คือ...ถ้าผมไม่โต้ตอบธรรมกับคุณธรรมภูต แบบนี้
    ผมก็ไม่มีเหตุที่จะต้อง แสดงธรรมที่ได้รู้ที่ได้เห็นมาด้วยตัวเอง
    เมื่อมีเหตุให้แสดง จึงได้แสดงธรรมต่าง ๆ ที่ได้รู้เห็นมาจากภาคปฏิบัติ

    อ่านแต่ตัวหนังสือของคนนั้นคนนี้ก็ได้แต่อารมณ์ ความจำ คิดเห็นไปต่าง ๆ นานา
    เพราะกระทบใจจากการอ่าน สิ่งที่แสดงออกมาก็ตามจริตนิสัยของแต่ละคนเมื่อได้อ่าน
    ทำไมไม่ลองนำไปปฏิบัติดูล่ะครับว่าคนนั้นเค้าพูดอย่างนั้นอย่างนี้มันเป็นยังไง
    ยังไม่ต้องเชื่อ ยังไม่ต้องคัดค้าน ลองปฏิบัติดูถ้าถูกกับนิสัยตัวเองก็นำไปปฏิบัติ
    ถ้าไม่เวอร์ก ก็ทิ้งไปก็แค่นั้น ไม่เห็นเสียหายอะไร
    หรือถ้าไม่เชื่อผู้กล่าว ก็ว่าเค้าด้นเดามาพูดก็แค่นั้น
    หรือว่าไม่แน่ใจว่าผู้กล่าวจะถึงธรรมนั้นหรือยัง แต่คิดว่าธรรมนั้นใช่
    เพราะผู้กล่าวอาจจำคำครูบาอาจารย์มากล่าว
    ก็คิดซะว่าเราดูแต่ธรรม ธรรมที่เค้ากล่าว เราเคยอ่านมาเหมือนกับครูบาอาจารย์เคยกล่าวไว้
    ดังนั้นธรรมนั้น ก็เหมือนกับครูบาอาจารย์ได้รับรอง
    แต่ครูบาอาจารย์ไม่ได้รับรองผู้นำมากล่าวนี่ครับ เรื่องความลังเลสงสัยในบุคคลนั้นก็ตกไป

    อย่าไปเอาเรื่องราวของผู้ที่เราโต้ตอบธรรม หรือ อ่านธรรมมาติดพันกับเรา
    อ่านแล้วก็จบ โต้ตอบแล้วก็จบ
    จะได้ไม่มีเครื่องคอยรบกวนใจ

    ส่วนผู้ที่กล่าวธรรมที่ไม่มีในตนแล้ว แสดงเจตนาว่าเป็นของตนนี่
    บาปกรรมตกถึงเค้าตั้งแต่วินาทีที่เค้าแสดงออกมาแล้วครับ
    แต่มันก็กรรมของเค้า

    ใจเราก็เบาสงบสบาย ไม่กดถ่วง
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อาจานขันธ์ เอาอะไรมามั่นใจถึงขนาดชี้ถูกชี้ผิดให้คนอื่นเค้า
    เอาตนเองให้รอดจากอาสวะกิเลสให้ได้ก่อนเถอะ
    อย่าให้ราคะ โทสะ โมหะลอยไปลอยมา หาที่ตั้งไม่ได้อยู่เลย

    ถ้าเค้าไม่เชื่อกรรมการ แล้วจะเป็นกรรมการไปทำไม
    สู้ลงสนามเองเลยซิ แพ้คัดออก เอาที่ชนะมาเจอกัน

    ตกลงจะถกธรรมะกันหรือลงนวมชกกันแน่???

    ;aa24
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อีกอย่างนะครับ เลิกพูดได้เลยว่า หากฉันพูดตรงธรรม นี่คือหลักฐานว่า ฉันบรรลุ

    คุณไปอ่านพุทธพจน์เลยว่า ไม่มีหรอกที่จะใช้วิธีดูอย่างนั้น เขามีแต่ต้องอาศัย
    การคลุกคลี 1 อาศัยเวลา 1 และดูข้อ ศีล อีกหนึ่ง จึงจะเห็นได้ว่าผู้แสดงธรรม
    นั้นมีพรหมจรรย์บริสุทธิหรือไม่

    หากผมยึดหลักการตามที่คุณยกใช้ ผมคงแยก คุณขันธ์ กับ ลุงใบไม้ไม่ออก

    เพราะ กรีดไม่เข้า เหมือนกัน อ้างว่าบริสุทธิก็เหมือนกัน อ้างว่ากล่าวตรองธรรม
    ก็เหมือนกัน
     
  20. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ก็ฝ่ายหนึ่งว่าวิปัสสนาอย่างเดียวเพียงพอจะให้สิ้นทุกข์ได้
    อีกฝ่ายก็ว่าวิปัสสนาอย่างเดียวเห็นไม่พอ ต้องใช้สมาธิที่มีกำลังเสริมด้วยก็ได้

    ผมเห็นท่านขันธ์กับท่านนิวรณ์สนทนากันเรื่องนี้นะ แล้วผมว่าก็ไม่ได้ผิดอะไร ช้าเร็ว มันก็สิ้นอยู่ดี ก็แล้วแต่ความเพียรก็แต่ละบุคคลไป ^-^
     

แชร์หน้านี้

Loading...