หมดแล้ว ***$$$สมบัติหลวงพ่อฤาษีลิงดำและพระเกจิอาจารย์ครับ บูชาเบาๆ$$$****

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Loungpor, 11 สิงหาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    รายการจัดส่งวันนี้ครับ


    20230923_121441.jpg
     
  2. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014
    เริ่มลงให้บูชากันเลยครับผม

    10904. พระหยดน้ำ หลังเรียบจารมือ เนื้อชินตะกั่ว หลวงพ่อชิต เตชธมฺโม วัดบ้านสนวน จ.ศรีสะเกษ พระเนื้อตะกั่วสวยๆเก็บไว้อย่างดี รอยจารคมๆ น่าเก็บครับ
    สามารถใช้แทนไม่ครูของท่านที่มีราคาแพงได้ทุกอย่างครับ

    ....อดีตชาติ ความเป็นมา มีพระอริยสงฆ์รูปหนึ่งเคยเดินทางมากราบหลวงพ่อชิต เตชธัมโม ท่านได้ทำนายทายทักและพูดให้ฟังว่าหลวงพ่อชิต เตชธัมโม อดีตชาติของท่านเมื่อชาติที่แล้วท่านได้เป็น พญานาคผู้ทรงฤทธิ์ ท่านได้ละสังขารเพื่อที่จะมาบวชสะสมผลบุญในชาตินี้ คำที่หลวงพ่อรูปนั้นพูดให้ฟัง ตรงกับคำบอกเล่าของตายายและคนเฒ่าคนแก่ที่เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งหลวงพ่อเกิดมา ท่านมีเส้นสังวาลย์พาดตามอกหลวงพ่อมาแต่กำเนิด และไม้ครูที่ท่านได้ทำขึ้นมานี้เป็นอาวุธของเมืองบาดาล เป็นของท่านราชครูพญานาค แห่งเมืองบาดาลที่ทำได้แบบนี้ พระเกจิอาจารย์ที่สามารถทำได้แบบนี้ต้องจบวิชาหนุนธาตุเดินธาตุ จบอภิญาใหญ่และมีวิชาอาคมที่แก่กล้ามากๆถึงจะทำแบบนี้ได้ หลวงพ่อท่านเก่งมากๆนะ ให้ดูที่ดวงตาท่านนะ พระที่ทรงอภิญญา แววตาจะไม่เหมือนพระรูปอื่น ท่านสามาถรถ เหาะ เหิน เดินอากาศได้นะแต่ท่านไม่ทำให้เห็น ท่านหยิบจับอะไรสิ่งนั้นคือของวิเศษหมดนะให้เก็บรับษาไว้ดีๆ ยากที่จะมีคนทำไม้ครูได้แรงแบบนี้

    วิธีใช้ตระกรุดสารพิษ ไม้ครู และพระหยดน้ำ หลวงพ่อชิต เตชธมฺโม วัดบ้านสนวน
    1. คาถาบูชา
    ตั้งนะโม 3 จบแล้วอาราธนา ว่า...
    พุทธัง อาราธนา
    ธัมมัง อาราธนา
    สังฆัง อาราธนา
    2. ข้อห้ามขณะพกพาพระหยดน้ำ ตะกรุด หรือไม้ครู
    * ห้ามพกติดตัวตอนร่วมประเวณีเด็ดขาด
    * ห้ามพกติดตัวตอนฆ่าสัตว์มีพิษ หรือรังแกสัตว์มีพิษ ถ้าจำเป็นต้องฆ่าให้ถอดออกจากตัวแล้วฆ่าเพื่อไม่ให้เสียพระหรยดน้ำ ตระกรุด และไม้ครู
    * ห้ามพกพาพระหยดน้ำ ตระกรุดหรือไม้ครูลอดสะพานหัวเดียวเด็ดขาด(เช่นท่าเรือ)
    * ห้ามเอาพระหยดน้ำ ตระกรุดหรือไม้ครู ฟาด ตี เคาะ ผู้อื่นอาจทำให้ตายได้ ถ้าเกิดมีการลืมพลั้งมือให้รีบตั้งขันธ์ 5 ขอขมาครูบาอาจารย์
    * ห้ามใช้พระหยดน้ำ ไม้ครูหรือตระกรุดจี้ตามตัวผู้ที่มีเข็มอาคมหรือตระกรุดฝังไว้ในตัว พุทธคุณของไม้ครูและตระกรุดจะทำให้เข็มวิ่งตามตัวและหาที่ออกอาจวิ่งออกทางตาทำให้ตาบอดได้
    3. ถ้าผีเข้าให้เอาพระหยดน้ำกดหน้าผากไม้ครูหรือตระกรุดจิ้มแทงทันทีจะดีขึ้นหรือหายทันที
    4. ถูกผีรบกวนสถานที่อยู่อาศัย บ้านเรือนเข้าอยู่ใหม่ ให้นำเอาปลายตระกรุดหรือไม้ครูฝังไว้ในที่ดิน 1 คืนจะดีขึ้น
    5. ถูกคุณไสย์ วิธีทำน้ำมนต์ให้ตั้งขันธ์ 5
    * นำพระหยดน้ำ ตระกรุดหรือไม้ครูด้านปลายแช่น้ำไว้จุดธูป 5 ดอกแช่ไว้จนกว่าธูปจะไหม้จนหมด
    * นำน้ำมนต์มาดื่มกินหรืออาบ พรมบ้านส่วนหนึ่ง
    * ที่เหลือให้นำมาแช่เท้าผู้ที่ถูกคุณไสย์ และเอาปลายไม้ครู หรือตระกรุดแช่น้ำไว้ด้วย ให้ทำ 3 วัน วันละไม่เกิน 3 ชั่วโมงก่อนเที่ยงวัน คุณไสย์จะถูกไม้ครูหรือตระกรุดดูดออกมาทางน้ำมนต์จะเห็นเป็นสีดำและค่อยจางจนหมดไป
    6. ผู้ที่พกพระหยดน้ำ ไม้ครู หรือตระกรุดติดตัว ปกติแล้วสัตว์มีพิษจะไม่กัดต่อย ยกเว้นสัตว์บางชนิด ผู้ใดที่ถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย ปัก แทง ให้อาราธนา ไม้ครูหรือตระกรุดด้านปลายจี้ตรงที่โดนต่อยหรือกัดกดไว้ตรงที่แผล กดลงไปจะเพิ่มความปวดขึ้นอีกมากให้อดทนกดเอาไว้ห้ามดึงออกจะค่อยทุเลา และหายเจ็บปวด สัตว์มีพิษน้อยให้กดทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ก็เริ่มดีขึ้น แต่ถ้าสัตว์ที่มีพิษรุนแรงเช่น งูเห่า งูจงอาง ใช้เวลาดูดประมาณ 2 ชั่วโมงจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
    7. พระหยดน้ำ ตระกรุด และไม้ครูเป็นพุทธคุณ จะไม่อยู่รวมกันกับ ภูต ผี ปี ศาจ ปอบ วัวธนู หุ่นพยนต์ โหงพราย กุมารทอง และคุณไสย์ทุกชนิด เมื่อเข้าใกล้ตระกรุด และไม้ครูจะขับไล่ทำลายให้เสื่อมสิ้นไป หรือเข้ามาใกล้ตระกรุดหรือไม้ครู คุณไสย์จะสั่นร้อนจนตกดินได้ยินเสียงทันใด
    8. พระหยดน้ำ ตระกรุดหรือไม้ครูเป็นพุทธคุณชั้นสูง มีอนุภาพแคล้วคลาด เมตตามหานิยม ครอบจักรวาล ให้อธิฐานจิตเรียกเอาแล้วแต่จะใช้งาน สร้างโดยพระภิกษุผู้ทรงอภิญญา

    พระหลักร้อยพุทธคุณหลักล้าน มีพุทธคุณเหมือนตะกรุดและไม้ครูของท่านเลย ใช้ได้เหมือนกันครับ ราคายังถูกและสามารถจับต้องได้น่าบูชามาก

    บูชาองค์ละ 250 บาท มีให้บูชา 2 องค์

    ++++++ ปิดรายการ++++++


    379408349_1040592900285608_4245755028368617648_n.jpg

    _temp_hash=0f202563898e85b8bf8873d69d6a6f7d.jpg

    _temp_hash=0f202563898e85b8bf8873d69d6a6f7d.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2024
  3. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10905. พระสมเด็จวัดพลับพลา จ.นนทบุรี ปี2514 พิธีใหญ่ครับมีเกจิอาจารย์ที่เก่งๆในยุคนั้นร่วมอธิฐานจิตปลุกเสกหลายท่าน

    อาธิ .
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อคำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์ ลพบุรี หลวงพ่อคล้าม วัดกุ่มหัก สระบุรี หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี หลวงพ่อแก้ว วัดปทุมวนาราม อยุธยา หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา ปทุมธานี. หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก ระยอง หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณ์ กทม. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี หลวงพ่อโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. หลวงพ่อพระโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิต กทม. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง เพชรบุรี หลวงพ่อพยนต์ วัดเกตุมวดีย์ สมุทรสาคร หลวงพ่อพระพุทธมนต์วราจารย์ วัดสุทัศน์ฯ กทม. หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง หลวงพ่อกาหลง (ไม่ทราบวัด) จังหวัดจันทบุรี หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ นนทบุรี หลวงพ่อสะอาด วัดฝาง นนทุบุรี ฯ
    และที่พิเศษสุดของรุ่นนี้ผสมมวรสารเก่าพระสมเด็จบางขุนพรหมด้วยครับ โดยนำพระสมเด็จบางขุนพรหมที่ชำรุดมาผสมรวม และได้มวลสารสมเด็จบางขุนพรหม ที่ใช้สร้างพระสมเด็จบางขุนพรหมปี17มาอีกโดยท่านเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส บางขุนพรหมได้มอบให้กับวัดพลับพลาเพื่อการสร้างพระรุ่นนี้

    บูชาเบาๆ 350 บาท

    **** ปิดรายการ ***


    379405930_1564923920581798_6953982042045036359_n.jpg

    379317570_162026060228853_5217830879295933627_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2024
  4. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10906.จ้าแม่กวนอิม วัดโขงขาว เนื้อกะไหล่ชุบทอง จัดสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในงานวัดเกิดพระครูปิยรัตนาภรณ์ (หลวงพ่อบุญรัตน์) เจ้าอาวาสวัดโขงขาว จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๓๕ ผ่านพิธีพุทธาภิเษกโดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง พบเจอน้อยครับ สภาพสวยกะไหล่ทองเดิมๆจากวัดครับ

    บูชา 500 บาท

    +++++ ปิดรายการ ++++


    379385743_1300869097212852_3836689188594284495_n.jpg

    379430837_331010756051075_6716471407714565885_n.jpg

    379391901_343166614828910_5115177579174221509_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2024
  5. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10907.ปิดตา 6 รอบ หลวงปู่คร่ำวัดวังหว้าปี28ฝังพลอยเสกหลวงปู่ทิม

    ปิดตา 6 รอบ หลวงปู่คร่ำวัดวังหว้าปี28ฝังพลอยเสกหลวงปู่ทิม
    กำเนิดหลวงปู่คร่ำมีนามเดิมว่า คร่ำ อรัญวงศ์ ท่านเกิด วันพุธ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีระกา
    ตรงกับวันที่๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๐ ที่บ้านวังหว้า ตำบลวังหว้า อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
    เมื่ออายุได้ประมาณ๑๑ปีโยมบิดาได้นำไปฝากเรียนหนังสือกับพระอาจารย์ตรีเจ้าอาวาสวัดวังหว้า
    ตำบลวังหว้าซึ่งอยู่ใกล้บ้าน โดยจัดพานดอกไม้ธูปเทียนเครื่องสักการะนำไปถวายในวันพฤหัสบดี(วันครู)ตามประเพณีการเล่าเรียนและการบวชเรียนของสังคมไทยเราแต่โบราณมาในสมัยนั้นต้องเรียนกันตามวัด อาศัยวัดเป็นโรงเรียน มีพระเป็นครูสอนการเรียนไม่มีหลักสูตรกำหนดไว้ชัดเจนเช่นปัจจุบันแต่พระก็สอนจนลูกศิษย์สามารถอ่านออกและเขียนได้เป้นอย่างดีทั้งอักษรไทยและอักษรขอมซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเนื่องจากตำราต่างๆสมัยก่อนเฉพาะอย่างยิ่งคัมภีร์ทางพุทธศาสนาจะเขียนด้วยอักศรขอมทั้งสิ้น ไม่มีหนังสือที่พิมพ์ด้วยอักษรไทยเช่นทุกวันนี้ผู้ที่เรียนหนังสือจะต้องเรียนภาษาไทยควบคู่ไปกับภาษาขอมด้วยเสมอการเรียนของหลวงปู่คร่ำนั้นมิได้เรียนเฉพาะที่วัดวังหว้าเท่านั้นท่านยังไปเรียนต่อกับสมภารหลำ ที่วัดพลงช้างเผือก ซึ่งอยู่ใกล้กับตำบลวังหว้าอีกด้วยเรียนอยู่จนอายุได้๑๕ปีมีความรู้หนังสือดีแล้วจึงได้กลับไปอยู่กับบิดามารดาตามเดิม เพื่อช่วยเหลือครอบครัวประกอบอาชีพต่อไปสมณเพศ เมื่ออายุครบ๒๐ปีหลวงปู่ได้อุปสมบทที่วัดวังหว้าเมื่อวันจันทร์ แรม ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง
    ตรงกับวันที่๑๑มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐ ได้รับฉายาว่า”ยโสธโร”แปลว่าผู้ทรงไว้ซึ่งยศหรือผู้ดำรงยศ
    พระอุปัชฌาย์ คือ พระครูสังฆการบูรพทิศ (ปั้น อินทสโร) เจ้าคณะแขวงแกลงวัดราชบัลลังก์
    พระกรรมวาจารย์ คือพระใบฎีกาหลำ ปัญญายิ่ง รองเจ้าคณะแขวงแกลง วัดพลงช้างเผือก
    พระอนุสาวนาจารย์ คือพระอธิการเผื่อน เจ้าอาวาสวัดวังหว้าหลวงปู่คร่ำมุ่งศึกษาด้านพระธรรมวินัยซึ่งเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของพุทธศาสนาและหลักธรรมของ

    องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสมัยนั้นวัดวังหว้ายังไม่มีสำนักสอนธรรม
    หลวงปู่ต้องไปเรียนที่วัดพลงช้างเผือก และสอบได้นักธรรมตรีและโทเป็นลำดับ
    นอกจากเรียนรู้พระธรรมวินัยเป็นพื้นฐานแล้ว ท่านยังศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ
    และตำรับยาสมุนไพรจนมีความรู้ความสามารถนำไปใช้บำบัดรักษาช่วยเหลือชาวบ้านได้เป็นอย่างดี
    ในสมันที่ยังไม่มีสถานีอนามัยหรือโรงพยาบาลดังเช่นทุกวันนี้ วิชาที่หลวงปู่ชำนาญเป็นพิเศษ คือ
    กรรมวิธีต่อและประสานกระดูกอันเกิดจากอุบัติเหตุต่างๆ
    มีผู้มารับการรักษาที่วัดวังหว้าเป็นประจำและหายกลับไปทุกคน จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว
    การศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานและพุทธาคม หลวงปู่ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ
    พระครูนิวาสธรรมสาร(หลวงพ่อโต) วัดเขากะโดนและวัดเขาบ่อทอง
    ซึ่งหลวงพ่อโตเป็นพระที่เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐานชำนาญการธุดงควัตร เป็นผู้มีพลังจิตรแก่กล้า
    และวิทยาคมขลังเป็นเลิศ
    หลวงปู่คร่ำได้ร่ำเรียนด้วยอุตสาหะพากเพียรจนมีความรู้ความชำนาญในวิชาอาคมหลายด้านเมื่อกลับมาที่วัดวังห

    ว้าก็ได้ฝึกฝนพลังจิตเจริญสมาธิภาวนาโดยตลอดมิได้ขาด
    ในกาลต่อมาหลวงปู่ได้ใช้วิทยาคมที่ได้ฝึกฝนร่ำเรียนมานั้นให้เป็นประโยชน์
    ต่อญาติโยมและบุคคลทั่วไปนานัปการจนชื่อเสียงเกียรติคุณขจรไกลไปทั่วเมืองไทยและต่างประเทศ
    สิ่งหนึ่งที่หลวงปู่ยึดมั่นโดยตลอดคือ กตัญญุตาการรำลึกถึงคุณของบูรพาจารย์
    ทุกปีของหลวงปู่จะประกอบพิธีไหว้ครู ตามหลักปฏิบัติสืบเนื่องมาไม่เคยขาด
    จึงส่งผลให้หลวงปู่คร่ำเจริญยิ่ง ด้วยชื่อเสียงเกียรติคุณตลอดมา
    การปกครองและอบรมสานุศิษย์หลังจากหลวงปู่อบรมได้ ๔ พรรษา
    พระอธิการเผื่อนเจ้าอาวาสวัดวังหว้าได้มรณภาพลงหลวงปู่คร่ำได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เจ้าอาวาสสืบแทน
    หลวงปู่ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างแก่พระภิกษุสงฆ์โดยทั่วไป จึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างๆดังนี้
    ปี พ.ศ. ๒๔๖๔เป็นเจ้าอาวาสวัดวังหว้า
    ปี พ.ศ. ๒๔๗๔เป็นเจ้าคณะหมวดเนินฆ้อ
    ปี พ.ศ. ๒๔๗๙เป็นเจ้าคณะตำบลเนินฆ้อ
    ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ เป็นพระอุปัชฌาย์
    เมื่อหลวงปู่สูงอายุขึ้น สุขภาพพลานามัยไม่สมบูรณ์ จึงลาออกจากเจ้าคณะตำบลเนินฆ้อ
    มุ่งสร้างเสนาสนะและปฎิสังขรณ์วัดวังหว้าจนเจริญรุ่งเรืองตราบเท่าทุกวันนี้
    หลวงปู่คร่ำได้อบรมสั่งสอนศิษย์ให้ยึดมั่นในคำสั่งสอนของพระพุทธองค์
    ประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ถูกที่ควร ท่านได้กำหนดระเบียบการปกครองของวัดวังหว้า
    ให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติและระเบียบคณะสงฆ์ กฎมหาเถรสมาคม รวมทั้งระเบียบต่างๆของทางราชการทุกประการกฎระเบียบของวัด ภิกษุสามเณรทุกรูปในวัด ต้องยึดถืออย่างเคร่งครัดต้องตั้งใจเล่าเรียนพระธรรมวินัย
    ต้องทำวัตรทุกเช้าเย็น ภายในบริเวณวัดงดเว้นอบายมุขทุกชนิดของดีหลวงปู่ วัตถุมงคล เครื่องรางของขลังของหลวงปู่คร่ำ มีมากมายหลายอย่าง ทั้งตะกรุดโทนสีผึ้งเมตรตา ผ้ายันต์ น้ำมันงา และเหรียญแบบต่างๆสิ่งที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของหลวงปู่คร่ำ คือผ้ายันต์พัดโบก ชื่อเต็มว่า”ผ้ายันต์พัดโบกมหาลาภหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า อ.แกลงจ.ระยอง”แบ่งเป็นสองท่อนท่อนบนสีแดงท่อนล่างสีขาวประกอบด้วยรูปหลวงปู่และยันต์หลายชนิด
    ผ้ายันต์พัดโบกนี้หลวงปู่ทำขึ้นเพื่อป้องกันวาตภัย ทั้งลมและฝนในยามที่มรสุมรุนแรงจะพัดทำความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือนผ้ายันต์พัดโบกจะโบกให้ลมเปลี่ยนทิศทาง รวมทั้งโบกเอาความชั่วร้ายอื่นๆมิให้กล้ำกรายมาถึงบ้านเรือนของผู้ที่ครอบครองผ้ายันต์นี้ได้ผ้ายันต์พัดโบกเป็นยันต์พัดโบกให้ร้านค้าต่างๆโบกนำลาภผลเข้าสู่อาคารร้านค้าอีกด้วยบรรดาบ้านเรือนแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกเกือบทุกบ้านจะมีผ้ายันต์พัดโบกหลวงปู่คร่ำไว้คุ้มภัยและเป็นมงคลแก่บ้านเรือนรวมไปถึงกรุงเทพฯและจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศไทยก็ปรากฏยันต์พัดโบกของหลวงปู่คร่ำอยู่ทั่วไปแม้แต่ในประเทศลาว ผ้ายันต์พัดโบกหลวงปู่คร่ำยังโบกสะบัดไปถึงเวียงจันทน์ในประเทศเขมรซึ่งเป็นดินแดนแห่งไสยศาสตร์ผ้ายันต์พัดโบกของหลวงปู่ก็โบกไปทั่วจากคนไทยที่ไปทำมาค้าขายที่นั่น
    เมตตาธรรมค้ำจุนโลกตลอดระยะเวลาที่อยู่ภายใต้ร่มกาสาวพัตร์หลวงปู่ปฏิบัติตนสำรวมในศีลอย่างเคร่งครัดได้รับความเคารพนับถือและศรัทธาจากสานุศิษย์และมหาชนทั่วประเทศที่เดินทางมานมัสการทุกวัน
    หลวงปู่จะนั่งพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้พูดคุยด้วยถ้าพอมีเวลาใครขอให้ช่วยทำอะไรถ้าไม่ขัดต่อศีลธรรมและเป็นเรื่องที่ดีงามแล้วหลวงปู่ไม่เคยขัดช่วยทุกเรื่องตั้งแต่เริ่มเป็นเจ้าอาวาสเป็นต้นมา ไม่เคยอยู่นิ่งเฉยสร้างวัด
    สร้างโรงเรียนหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำบลวังหว้าทุกโรงเรียนหลวงปู่ได้มีส่วนช่วยก่อสร้างและทะนุบำรุงตลอดเวลาสมณศักดิ์ พ.ศ. ๒๔๗๔ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูประทวนพ.ศ. ๒๔๘๑
    ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโทพ.ศ. ๒๕๓๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอกพ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระมงคลศีลาจารย์อาพาธเนื่องจากหลวงปู่อายุมาก แต่หลวงปู่ยังปฏิบัติกิจนิมนต์ต่างๆตลอดมาต้อนรับสาธุชนจากสารทิศทุกวัน แม้บางวันจะเหน็ดเหนื่อยจนลุกแทบไม่ได้ แต่เมื่อมีผู้คนมาคอยพบมากมายหลวงปู่จะพยายามลุกขึ้นลำให้ศิษย์ประคองออกมาประพรมน้ำมนต์แก่ผู้มากราบไหว้บูชาจนร่างกายเสื่อมโทรมแพทย์ประจำตัวต้องคอยปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด ในที่สุดกรรมการวัดและศิษย์ผู้ใกล้ชิดมีความเห็นร่วมกันว่าควรให้พักผ่อนให้มาก จึงได้นำไปบำบัดโรคพยาธิในโรงพยาบาล เพื่อพักฟื้นหลายครั้งแต่หลวงปู่จะพักในโรงพยาบาลไม่นาน รบเร้าต่อแพทย์และผู้ใกล้ชิดให้ส่งกลับวัดตลอดเวลา
    จึงไปๆมาๆระหว่างวัดและโรงพยาบาลโดยตลอด ในที่สุดแพทย์จากดโรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา
    ตรวจพบว่าหลวงปู่มีเนื้อร้ายที่ลำคอจึงได้นิมนต์ให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชาโดยไม่คิดค่ารักษาแต่ประการใด ตลอดระยะเวลาหลายเดือนมรณภาพในที่สุดแห่งชีวิตที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ หลวงปู่ได้ละสังขารถึงแก่มรณภาพในวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๐ เวลาประมาณ ๑๔ นาฬิกา ด้วยอาการสงบ ณ. โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชาท่ามกลางความเศร้าโศกอาลัยของสานุศิษย์และสาธุชนทั่วประเทศนับล้านคนที่ได้ทราบข่าว
    ต่างหลั่งไหลมากราบไหว้ เคารพศพที่วัดวังหว้าตลอดเวลา ๑๕ วัน ที่บำเพ็ญกุศล
    นับเป็นบุญญาบารมีของหลวงปู่โดยแท้


    ขอบคุณเครดิตข้อมูล:

    https://www.web-pra.com/shop/itsda/show/1304043


    สภาพสวยเดิมๆ บูชา 350 บาท


    379412782_850080403173677_2073549979290265983_n.jpg

    379444998_270886862566463_7139320439654733741_n.jpg
     
  6. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10908.พระนาคปรก ปรกมะขาม เนื้อนวะโลหะ หลวงพ่อพระใส รุ่นแผ่บารมี (ในรุ่นฟ้าผ่าไม่ตาย) วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย ปี 2558 พร้อมกล่องเดิมจากวัด

    พุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาดจากอันตราย อุบัติเหตุเป็นเลิศ และก็พิสูจน์มาแล้วหลายเหตุการณ์ จนคนจังหวัดหนองคาย และใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือมาเป็นเวลาช้านานแล้ว แม้แต่เครื่องบินเดินอากาศไทยสมัยนั้นตกที่ปทุมธานีเมื่อหลายสิบปีก่อน ก็มีคนรอดมาแล้ว

    ภาคปาฎิหารย์ของหลวงพ่อพระใส
    หลวงพ่อพระใสเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เดิมมาปรากฎตามประวัติว่า เมื่อรัชสมัยพระเจ้าสุริยวงศ์ จะเสด็จเสวยราชย์ขึ้นครองนครเวียงจันทร์ พระองค์ได้ทรงตั้งจิตอธิษฐาน ต่อหน้าพระพักตร์ของหลวงพ่อพระใสว่า ถ้าการปกครองไพรฟ้าของข้าพเจ้าจะเป็นไปด้วยความสันติสูขปราศจากศัตรูหมู่ไพรีที่จะมาเบียดเบียดแล้ว ขอให้หลวงพ่อพระใสแสดงเหตุอัศจารรย์ให้ประจักษ์ ครึ้งถึงเสวยราชย์เดือนอ้าย ได้เกิดอัศจรรย์ให้เป็นประจักษ์ตามคำอธิษฐาน คือ ฟ้า คึกคะนองร้องลั่น หวั่นไหวแลบแปลบปลาบสาบฟ้าฟาดสนั่นสั่นสะเทือน แต่จะได้เป็นอันตรายแก่คนและสัตว์ก็หามิได้ นิมิตอัศจรรย์นั้นปรากฏว่า พระองค์ได้เสวยราชย์ทรงปกครองไพร่ฟ้าประชาชนได้อยู่เย็นเป็นสุขโดยทั่วกัน ตลอดรัชสมัยของพระองค์

    ความอัศจรรย์หรืออภินิหารครั้งที่สอง คราวที่ขุนวรธานีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสออกจากวัดหอก่อง เพื่อที่จะนำไปกรุงเทพ ปรากฎว่า พออัญเชิญมาถึงวัดโพธิ์ชัย ปรารภจะนำไปพร้อมกับพระเสริม คนที่สมมุติให้เป็นพราหมณ์ผู้อัญเชิญหลวงพ่อพระใสไปนั้น ไม่สามารถลากเกวียน ซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อพระใสให้เคลื่อนต่อไปได้แม้จะใช้เครื่องฉุดก็สุดความสามารถเช่นเดียวกันได้ทำการอ้อนวอนด้วยประการต่างๆ ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุด เกวียนก็ได้หักลง คราวนี้ได้หาเกวียนใหม่มาเป็นที่ประดิษฐาน แต่ก็อัศจรรย์อีกครั้ง เพราะไม่สามารถจะนำให้เคลื่อนที่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงปรึกษาตกลงกันว่า จะอัญเชิญไปไว้ที่วัดโพธิ์ชัย แล้วก็ทำการอ้อนวอน เป็นผลดังใจนึก พอเข้ามาหามเพียงไม่กี่คนหลวงพ่อพระใสก็ถูกยกขึ้น ประดิษฐานไว้ในอุโบสถวัดโพธิ์ชัย ให้เราได้กราบไหว้เคารพสักการบูชาและเป็นเกียรติอันสูงส่งแก่ชาวจังวัดหนองคายมาตลอดจนบัดนี้

    ในคราวต่อมา องค์หลวงพ่อพระใสก็ได้แสดงความอัศจรรย์อีกหลายครั้ง เช่น เมื่อคราวขุนเชาว์ เป็นผู้เชิดชูหลวงพ่ออยู่นั้นขณะที่ทางวัดโพธิ์ชัยมีงานสมโภชหลวงพ่อพระใส ได้มีท่านผู้หนึ่งซึ่งเดินทางมาจากต่างถิ่น ไม่สู้จะเชื่อความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระใสมากนัก เพือเป็นการทดลองจึงได้พูดว่าถ้าหากหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ขอให้ดลบันดาลให้ฟ้าผ่าทันที ทันใดนั้้นฟ้าก็ผ่าลงมาจริงๆ

    หลวงพ่อพระใส หรือ หลวงพ่อเกียนหัก เป็นพระพุทธปฏิมาที่มีประวัติความเป็นมานับตั้งแต่เริ่มเททองหล่อ โดยพระราชธิดากษัตริย์ล้านช้างเป็นเจ้าศรัทธา มาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้มีพิสดารมากมายพอสมควร จึงเป็นพระพุทธรูปที่มีชาวพุทธศาสนิกชน ตลอดสองฟากฝั่งแม่น้ำโขงให้ความเคารพบูชาศรัทธาเลื่อมใสกันอย่างมากและหลวงพ่อพระใสเองก็ได้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ท่านอยู่เสมอมา แม้ตราบเท่าทุกวันนี้พระบารมีของหลวงพ่อพระใสยังคงปกป้องแผ่คุ้มครองขจัดปัดเป่าภับพิบัติให้แก่ผู้หวังพึ่งอย่างไม่เสื่อมคลาย ดังจะเห็นได้อย่างแจ่มชัดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อคราวที่เครื่องบินของบริษัทเดินอากาศไทย ประสบอุบัติเหตุบริเวณทุ่งนาคลองรังสิตเมื่อปลายเดือนเมษายน 2523 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเรายังคงจำกันได้ว่ามีผู้โดยสารสองท่าน ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยสามารถลุกขึ้นเดินกลับบ้านได้โดยทันทีไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลแต่อย่างใดและหนึ่งในสองท่านคือ คุณศักดิ์ดา อัครเมธาทิพย์ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดหนองคาย ก่อนออกเดินทางได้ไปนมัสการหลวงพ่อพระใสพร้อมกับบูชาหลวงพ่อพระใสจำลองขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว นำขึ้นเครื่องบินเดินทางไปด้วย เมื่อเกิดเหตุทั้งคนและองค์พระกลับไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆ ที่องค์พระก็เป็นวัตถุทองเหลืองชนิดหนึ่ง โดยไม่มีส่วนใดแตกหักบุบสลายเลย ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนั้นนับเป็นปาฎิหารย์ที่รู้เห็นกันอย่างกว้างขวาง จนมีสื่อมวลชนหลายแขนงเสนอภาพ และข่าวอย่างละเอียดพร้อมกับตั้งสมญานามหลวงพ่อพระใส จึงเป็นที่มาของคำว่า พระพุทธรูปปาฎิหารย์ บ้าง หลวงพ่อพระใสเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เดิมมาปรากฎตามประวัติว่า เมื่อรัชสมัยพระเจ้าสุริยวงศ์ จะเสด็จเสวยราชย์ขึ้นครองนครเวียงจันทร์ พระองค์ได้ทรงตั้งจิตรอธิฐาน เฉพาะพระพักตร์ของหลวงพ่อพระใสว่า ถ้าารปกครองไพรฟ้าของข้าพเจ้าจะเป็นไปด้วยความสันติสูขปราศจากศัตรูหมู่ไพรีที่จะมาเบียดเบียดแล้ว ขอให้หลวงพ่อพระใสแสดงเหตุอัศจารรย์ให้ประจักษ์ครึ้งถึงเสวยราชย์เดือนอ้าย ได้เกิดอัศจรรย์ให้เป็นประจักษ์ตามคำอธศฐาน คือ ฟ้า คึกคะนองร้องลั่น หวั่นไหวแลบแปลบปลาบสาบฟ้าฟาดสนั่นสั่นสะเทือน แต่จะได้เป็นอันตรายแก่คน และสัตว์ก็หามิได้ นิมิตอัศจรรย์นั้นปรากฏว่า พระองค์ได้เสวยราชย์ทรงปกครองไพร่ฟ้าประชาชนได้อยู่เย็นเป็นสุขโดยทั่วกัน ตลอดรัชสมัยของพระองค์
    ความอัศจรรย์หรืออภินิหารครั้งที่สอง คราวที่ขุนวรธานีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสออกจากวัดหดก่อง เพื่อที่จำนำไปกรุงเทพ ปรากฎว่า พออัญเชิญมาถึงวัดโพธิ์ชัย ปรารภจะนำไปพร้อมกับพระเสริม คนที่สมมุติให้เป็นพราหมณ์ผู้อัญเชิญหลวงพ่อพระใสไปนั้น ไม่สามารถลากเกียน ซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อพระใสให้เคลื่อนต่อไปได้แม้จะใช้เครื่องฉุดก็สุดความสามารถเช่นเดียวกันได้ทำการอ้อนวอนด้วยประการต่างๆ ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุด เกวียนก็ได้หักลง คราวนี้ได้หาเกวียนใหม่มาเป็นที่ประดิษฐาน แต่ก็อัศจรรย์อีกครั้ง เพราะไม่สามารถจะนำให้เคลื่อนที่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงปรึกษาตกลงกันว่า จะอัญเชิญไปไว้ที่วัดโพธิ์ชัย แล้วก็ทำการอ้อนวอน เป็นผลดังใจนึก พอเข้ามาหามเพียงไม่กี่คนหลวงพ่อพระใสก็ถูกยกขึ้น ประดิษฐานไว้ในอุโบสถวัดโพธิ์ชัย ให้คณะเราได้กราบไหว้เคารพสัการบูชาและเป็นเกียรติอันสูงส่งแก่ชาวจังวัดหนองคายมาตลอดจนบัดนี้
    ในคราวต่อมา องค์หลวงพ่อพระก็ได้แสดงความอัศจรรย์อีกหลายครั้ง เช่น เมื่อคราวขุนเชาว์ เป็นผู้เชิดชูหลวงพ่ออยู่นั้นขณะที่ทางวัดโพธิ์ชัยมีงานสมโภชหลวงพ่อพระใส ได้มีท่านผู้หนึ่งซึ่งเดินทางมาจากต่างถิ่น ไม่สู้เชื่อความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระใสมากนัก เพือเป็นการทดลองจึงได้พูดว่าถ้าหากหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ของให้ดลบันดาลให้ฝ่าผ่าทันที ทันใดนั้้นฟ้าก็ผ่าลงมาจริงๆฃ
    หลวงพ่อพระใส หรือ หลวงพ่อเกียนหัก เป็นพระพุทธปฏิมาที่มีประวัติความเป็นมานับตั้งแต่เริ่มเททองหล่อ โดยพระราชธิดากษัตริย์ล้านช้างเป็นเจ้าศรัทธา มาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้มีพิสดารมากมายพอสมควร จึงเป็นพระพุทธรูปที่มีชาวพุทธศาสนิกชน ตลอดสองฟากฝั่งแม่น้ำโขงให้ความเคารพบูชาศรัทธาเลื่อมใสกันอย่างมากและหลวงพ่อพระใสเองก็ได้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ท่านอยู่เสมอมา แม้ตราบเท่าทุกวันนี้พระบารมีของลวงพ่อพระใสยังคงปกป้องแผ่คุ้มครองขจัดปัดเป่าภับพิบัติให้แก่ผู้หวังพึ่งอย่างไม่เสื่อมคลาย ดังจะเห็นได้อย่างแจ่มชัดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อคราวที่เครื่องบินของบริษัทเดินอากาศไทย ประสบอุบัติเหตุบริเวณทุ่งนาคลองรังสิตเมื่อปลายเดือนเมษายน 2523 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเรายังคงจำกันได้ว่ามีผู้โดยสารสองท่าน ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยสามารถลุกขึ้นเดินกลับบ้านได้โดยทันทีไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลแต่อย่างใดและหนึ่งในสองท่านคือ คุณศักดิ์ดา อัครเมธาทิพย์ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดหนองคายก่อนออกเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อพระใสพร้อมกับบูชาหลวงพ่อพระใสจำลองขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว นำขึ้นเครื่องบินเดินทางไปด้วย เมื่อเกิดเหตุทั้งคนและองค์พระกลับไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆ ที่องค์พระก็เป็นวัตถุทองเหลืองชนิดหนึ่ง โดยไม่มีส่วนใดแตกหักบุบสลายเลย ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนั้นนับเป็นปาฎิารย์ที่รุ้เห็นกันอย่างกว้างขวาง จนมีสื่อมวลชนหลายแขนงเสนอภาพ และข่าวอย่างละเอียดพร้อมกับตั้งสมญานามหลวงพ่อพระใส จึงเป็นที่มาของคำว่า พระพุทธรูปปาฎิหารย์ บ้าง ยิ่งกว่าอัศจรรย์บ้าง

    พระคาถาหลวงพ่อพระใส
    ว่า นะโม สามจบ
    อะระหัง พุทโธ โพธิชะโย เสยะคุโณ
    โพธิสัตโต มะหาลาโภ ปิยัง มะมะ
    ภะวันตุ โน โหตุ สัพพะทา ฯ

    สภาพสวยๆ พร้อมกล่องวัดเดิมๆ ครับ


    บูชา 290 บาท

    +++++++ ปิดรายการ ++++++++


    277225007_2109947192497642_3222816290707836059_n-jpg-jpg.jpg

    277091994_1119646475436096_7401357983269113308_n-jpg-jpg.jpg

    277290703_5309909689039509_3262200830035852569_n-jpg-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2024
  7. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10909.ข้าวสารหิน วัดโพธิ์ลอย บรรจุในหลอดพร้อมตระกรุดโภคทรัพย์ พร้อมคาถาบูชาครับ

    พุทธคุณ

    ผู้ใดมีข้าวสารหินติดตัว ติดบ้านเรือนจะร่ำรวยมีกินมีใช้ ไม่อดไม่อยาก กันคุณไสย์ กันการกระทำจากมนต์ดำหรือของเขมร กะเหรี่ยงกันคุณผี คุณคน หรือ คนถูกผีอำ

    ผู้ใดมีข้าวสารหินศักดิ์สิทธิ์ จะมีเงินไม่ขาด ผู้ใดค้าขายให้ตักน้ำฝนมา 1 แก้ว แล้วเอาข้าวสารหินศักดิ์สิทธิ์แช่ลงไปแล้วอธิษฐาน เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นำไปประพรมสินค้า จะขายดี เป็นเมตตามหานิยมแก่ชาย หญิง และเทวดาทั้งหลาย แม้แต่สัตว์ต่าง ๆ ก็ไม่กล้ารบกวน
    ผู้ใดเจ็บป่วย นำไปทำน้ำมนต์ดื่ม จะเห็นผลทันตา ด้วยบารมีแม่โพสพ

    บูชาชุดละ 190 บาท



    144869417_744633089811919_2897952888887609658_n_resize-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  8. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10910.สำหรับท่านที่ชอบสะสม ธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ แบบแปลกๆนะครับ

    ธนบัตร (ตัวเลขทะลุ ) เขาจะเรียกธนบัตรตลกหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจนะครับ แต่ว่าหายากมาก นานๆจะเจอสักใบครับ วงการสะสมเขาก็เล่นหากันครับ

    บูชา 1200 บาท



    275557896_624020388697331_8985814168105491781_n-jpg-jpg.jpg

    275554058_1674027506288312_6252517536678894433_n-jpg-jpg.jpg


    275545855_1026208337972864_3257034248432257715_n-jpg-jpg.jpg
     
  9. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10911.พระพิมพ์สมเด็จ หลังรูปเหมือนหลวงพ่อกวย อาจารย์ตั้วสร้าง ออกวัดทับขี้เหล็ก ปี2533 จ.ชัยนาท

    พระสมเด็จนี้ท่านอาจารย์ตั้วสร้างสมัยที่ท่านอยู่วัดทับขี้เหล็ก และจัดพิธีใหญ่ปลุกเสกติดต่อกันหลายวัน อาจารย์ตั้วท่านได้ผงอิทธิเจจากหลวงพ่อกวยไว้เป็นโหลใหญ่ ในการสร้างพระเนื้อผงท่านได้นำผงอิทธิเจของหลวงพ่อมาผสมใส่ สามารถใช้แทนพระของหลวงพ่อได้ และหากพระแตกหักก็สามารถนำมาเป็นส่วนผสมในการทำพระใหม่ได้ พระอาจารย์ตั้วได้นำพระชุดนี้มาปลุกเสกที่วัดซับลำใย อีกหลายวาระ ร่วมทั้ง หลวงปู่หมุนได้เมตตาปลุกเสก ให้ในพิธีมหาสมปรารถนา ปี43 เนื้อหามวลสารเข้มขลัง

    ขอบคุณเครดิตข้อมูล:

    https://www.web-pra.com/auction/show/3034451


    บูชาเบาๆ 550 บาท

    **** จองทางไลน์ ****


    379394742_853280573060582_5339614352803878315_n.jpg


    379321596_311684171451889_3129884112633900781_n.jpg

    get_auc3_img.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2023
  10. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014
  11. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    สำหรับวันนี้ก็ลงแค่นี้ก่อนนะครับ ขอบพระคุณทุกๆท่านที่ได้เยี่ยมชมและเช่าบูชาด้วยครับ ทุกรายการจองได้ไม่เกิน 15 วัน ส่วนท่านที่โอนมาแล้วผมจะรีบจัดส่งให้โดยเร็วครับ..
    อาทิตย์หน้าจะมีลงรายการใหม่ให้บูชากันอีก ท่านที่สนใจติดตามชมได้ครับผม..:)
     
  12. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    รายการจัดส่งวันนี้ครับ

    20230925_143023.jpg
     
  13. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    รายการจัดส่งวันนี้ครับ


    20230926_100945.jpg
     
  14. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014
    เริ่มลงให้บูชากันเลยครับผม

    10913.สีผึ้ง เส่นห์หมื่นจันทร์เพ็ญ พระพุทธบาทวัดป่ากล้วย
    ปลุกเสกโดย
    #ครูบาเลิศ วัดดอนแท่น อ.เทิง จ.เชียงราย
    #ครูบาจันทร์ทิพ วัดม่วงม้าใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
    #พระธรรมนูญ ปุริสาโก วัดสบบง จ.พะเยา
    #มวลสารหลักในการสร้างสีผึ้งได้แก่
    ๑.ผงว่านเมตตามหานิยมต่างๆ
    ๒.ดอกไม้ปาฏิโมกข์ที่พระสงฆ์ทำพิธี ทุกวันศีลใหญ่ ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ ๙ วัด
    ๓.น้ำตาเทียนในวันเข้าพรรษา ๙ วัด
    ๔.ผงไม้กาฝาก ๑๐๘ ชนิด
    ๕.ขี้ตังนี (ชันโรง) ติดประตูทางเข้าวัดที่คนเข้าออกไปๆมา
    ๖.ขี้ผึ้งติดต้นโพธิ์
    ๗.รังแมลงใบ้ติดตามเทวดาหรือสิงห์หน้าอุโบสถหรือในโบสถ์
    ๘.สวยดอกไม้ซ่างซอ
    ๙.สวยขันครูกลองแห่ครัวตานในงานวัดที่คนรื่นเริง
    สีผึ้งชุดนี้ หุงตามตำรับโบราณทุกขั้นตอน
    ด้วยน้ำมันมะพร้าวมิได้ปรุงแต่งเติมสีหรือเติมกลิ่น
    ให้ผิดแปลกไปจากธรรมชาติ ในทางเวชศาสตร์ก็
    มีคุณในการบำรุงรักษาฝีปากให้มีความชุ่มชื่นและ
    ในทางไสยศาสตร์ก็มีอิทธิคุณเป็นมงคลมหาเมตตา
    เพราะหุงขึ้นด้วยขี้ผึ้งชนวนอันเป็นมหามงคล
    อาทิ.
    [ ขี้ผึ้งตามตำราทั้ง๕ชนิด ]
    - ขี้ผึ้งนางหาบ
    - ขี้ผึ้งนางนางคอน
    - ขี้ผึ้งนางเหลียว
    - ขี้ผึ้งเปลวปล่องฟ้า
    - ขี้ผึ้งบังตะวัน
    สุดยอดแห่งขี้ผึ้งมงคลตามตำราที่โบราณจารย์
    ท่านว่ามีคุณวิเศษแม้ไม่เสก เป็นยอดแห่งขี้ผึ้งทั้งปวง
    ถือเป็นหัวใจสำคัญหลักของสีผึ้งเลยก็ว่าได้
    ( สายสีผึ้งจะรู้กันดี )
    อีกทั้ง
    - ขี้ผึ้งจับโบสถ์
    - ขี้ผึ้งจับวิหาร
    - ขี้ผึ้งจับเจดีย์
    - ขี้ผึ้งจับตลาด
    - ขี้ผึ้งจับบ้านเศรษฐี
    - ขี้ผึ้งจับไม้มงคลกิ่งชี้ไปทางทิศตะวันออก
    - ขี้ผึ้งยอดเทียนชัย๙วัด๑๐๘พิธี
    - ขี้ผึ้งเทียนคาถาพัน๙วัด
    - ขี้ผึ้งเพียงดิน
    - ขี้ผึ้งกล่อมนางนอน
    - ขี้ผึ้งปิดตาพระเจ้า
    - ขี้ผึ้งเทียนชัย เทียนมงคล เทียนพุทธาภิเษก
    พระคณาจารยณ์และในพระอารามต่างๆในพิธีสำคัญ อีกมาก
    ฯลฯ
    ตามตำราท่านอุปเท่ห์การใช้ไว้ว่าบุคคลใดได้ครอบครองพกพา ทาปาก ติดตัวจักเป็น เมตตา มหานิยม เป็นที่เสน่หารักใคร่แก่บุคคลผู้พบเห็น ทั้งมนุษย์ และเทวดา หากพกติดตัวเข้าเฝ้า ท้าวพญา ผู้หลักผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ จักเป็นที่ปิยะเอ็นดูแก่ท่านทั้งหลาย เป็นที่รักใคร่ของเพศตรงข้าม ทั้งชาย และหญิง ใช้ในการเจรจาคดีความก็ชนะท่านแลฯ
    แม้นว่าท่านใช้ไปในทางเสน่ห์ กามะความใคร่ หากสำเร็จท่านจงรับผิดชอบด้วย ไม่เช่นนั้น แรงครูอาจารย์จักแช่งชักท่านไม่มีที่ดี เหตุด้วยผิดศีลข้อ ๓ ดังนั้นท่านจงปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี รักษาศีล ข้อ ๓ ว่าด้วยกาเมสุมิจฉาจาร อย่างเคร่งครัด รักษาสัจจะวาจาเป็นนิตย์ สิ่งที่ท่านปรารถนาก็จักบังเกิดมีแก่ท่านทุกประการแลฯ

    ************************

    บูชาตลับละ 200 มีให้บูชา 3 ตลับ

    ***** ปิดรายการ *****


    377583724_268148366143384_3729370338974895397_n.jpg

    377571750_268149799476574_705532396709662076_n.jpg

    376679008_268148339476720_6141336189217351742_n.jpg

    376901812_268149402809947_3598387553991403936_n.jpg

    375986915_268147682810119_4917456449701091837_n.jpg

    376569951_268149429476611_7657534754448173365_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2024
  15. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10914. ลูกตะกรุดใบลานบังภัย ปลุกเสกโดย หลวงพ่ออมร วัดท้าวพญาผาบ
    อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
    ใบลานโบราณอายุเกือบ200ปี
    ตามที่คัดนำส่วนที่ชำรุดได้ระบุเรื่องราวต่างๆตามหัววัดและหัวเมืองต่างๆเขตรอยเชื่อมติดต่อ เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน และภาษาธรรมล้านนา อักขระคาถาตัวเมือง ที่ได้ชำรุด ได้ระบุไว้ ปี พ.ศ.2378 ได้นำส่วนที่ผุผังนำจารอักขระด้านในแล้วม้วนปิดผนึกไว้ ความกว้าง 1cm x1cm จะนำให้บูชาในวันพญาวันเดือนเมษายน ตรงกับวันที่16เมษายน 2566 วันสิทธิโชค

    ลูกตะกรุดใบลานบังภัย จัดสร้าง 399 ลูก
    #ตะกรุดใบลาน (พิสมร)
    นอกจากการจารอักขระลงบนแผ่นโลหะแล้วคนโบราณยังมีความนิยมสร้างตะกรุด หรือเครื่องรางของขลังจากวัสดุธรรมชาติอย่าง #ใบลาน ซึ่งจะจารอักขระคาถาลงบนใบลาน เมื่อจารเสร็จนำมาม้วนเข้าด้วยกันแล้วนำเข้าพิธีอธิษฐานจิตหรืออาจบรรจุลงในบาตรขณะทำพิธีอุปสมบทพระภายในอุโบสถ ตระกุดพิสมรนี้คนโบราณเชื่อว่าจะสามารถป้องกันอันตรายจากภูตผีปีศาจ ศาสตราวุธ เขี้ยว เขา เวทย์มนต์กลอาถรรพ์ต่างๆได้

    บูชาลูกละ 200 มีให้บูชา 3 ลูก


    379846756_273789518912602_9009451281615804931_n.jpg

    380366623_273789548912599_2036448225967408618_n.jpg

    380490373_273789342245953_4107017484060696742_n.jpg

    381572407_273789462245941_5917776987778427854_n.jpg
     
  16. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10915.พระปิดตาจัมโบ้ รุ่นแรก หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ระลึกงานผูกพัทธสีมา ปี 2536


    หลวงพ่อยิด จันทสุวัณโน หรือพระครูนิยุตธรรมสุนทร แห่งวัดหนองจอก ต.ดอนยายหนู อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
    ท่านเป็นอีกหนึ่งในบรรดาพระเกจิอาจารย์ ที่เปี่ยมด้วยอภิญญาอาคมเข้มขลัง
    ย้อนกลับไปประมาณซัก 15 ปี ผู้ที่นิยมพระเครื่องน้อยคนที่ไม่รู้จักชื่อหลวงพ่อยิด แห่งวัดหนองจอก
    ด้วยที่ว่างานสรงน้ำปีละครั้งเดียว และจะอนุญาติให้ลูกศิษย์มาสรงน้ำท่าน โดยให้ใช้แปรงทองเหลือง (ชนิดเดียวกับที่ใช้ขัดพื้นปูนซีเมนต์
    ขัดทำความสะอาดตัวท่าน โดยที่แปรงทองเหลืองที่แหลมคม หาได้ระคายผิวหนังของหลวงพ่อท่านไม่
    ซึ่งเป็นข่าวขจรขจายไปทั่วประเทศในเวลานั้น ส่วนวัตถุมงคลของท่าน ก็เด่นในด้านเมตตามหานิยม
    และแคล้วคลาดจากภัยอันตราย มีโชคลาภมากมาย

    สภาพสวยๆ พร้อมกล่องวัดเดิมๆ ครับ

    บูชา 290 บาท

    ++++ ปิดรายการ +++



    379574618_628512382775514_909216772279303309_n.jpg

    379574125_1729273994208662_4697665661226567081_n.jpg

    379536400_838575641006405_7029910173255540831_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2024
  17. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10916.เหรียญพระชัยหลังช้าง สก. ปี2535 พิธีใหญ่ นิยม สภาพสวย
    เหรียญพระชัยหลังช้าง สก. ปี2535

    จัดสร้างเนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระชนมพรรษา 5 รอบ วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2535 มหาเถระสมาคม จัดสร้างถวายเพื่อพระราชทานแก่มูลนิธิศิลปาชีพ พิธีมหาชัยมังคลาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    "พระชัยหลังช้าง" ก่อนจะได้เรียกดังนี้ พระนามเดิมคือ "พระชัย" หรือ "พระไชย" ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4ได้ออกพระนามเพิ่มว่า "พระไชยวัฒน์" ก่อนเปลี่ยนพระนามเป็น "พระชัยวัฒน์" ในสมัยรัชกาลที่ 7พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงมีพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลทุกพระองค์ มีเพียงรัชกาลที่ 8ที่ไม่มี ปัจจุบัน พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลทุกพระองค์ ประดิษฐาน ณ หอพระสุราลัยพิมาน พระบรมมหาราชวัง พระชัยเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีลักษณะพิเศษคือเป็นแบบนั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในลักษณะถือด้ามพัด เป็นพระพุทธรูปขนาดย่อมหรือค่อนข้างเล็ก เพื่อสะดวกเคลื่อนย้ายไปในการพระราชพิธีสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพระราชสงคราม ถ้าเป็นทางสถลมารคจะเชิญขึ้นช้างนำหน้าช้างพระที่นั่ง จึงเรียกว่า "พระชัยหลังช้าง" ทางชลมารคก็เชิญลงเรือพระที่นั่งหน้าเรือพระเจ้าอยู่หัวเช่นกัน สันนิษฐานว่าการหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลเป็นราชประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องยาวนาน คือเมื่อพระมหากษัตริย์ทรงรับบรมราชาภิเษก ที่ปรากฏในพงศาวดารรัชกาลสมเด็จพระนเรศวร มีการเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ไปในงานพระราชสงครามด้วย บ่งชี้ว่ามีพระชัยมาตั้งแต่รัชกาลนั้นแล้ว คณะสงฆ์จัดสร้างเหรียญพระชัยหลังช้าง เพื่อเทิดพระบุญญาธิการสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เจริญพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๕ หน้าเหรียญเป็นรูปพระชัยหลังช้าง ด้านหลังเป็นตราพระปรมาภิไธย่อ ส.ก. เหรียญเป็นเหรียญพระชัยหลังช้าง หลังพระปรมาภิไธยย่อ สก.ออกที่วัดบวรฯ ออกเมื่อปี 12สิงหาคม 2535คณะสงฆ์สร้างถวายในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5รอบ เป็นพระพิธีใหญ่เข้าพิธีปลุกเสกซ้ำหลายวาระด้วยกัน สามารถใช้บูชาติดตัวได้อย่างอุ่นใจครับ เหรียญมีขนาด 2.2 X 3.7 c.m.ให้ใช้คำอธิษฐาน ว่า ?ร. 1ไม่เคยแพ้ใครฉันใด ขอเราจงเป็นผู้ชนะ แบบ ร. 1และขอได้โปรดคุ้มครองข้าพเจ้า จะเดินทางไป ณ ที่ใด ขอให้รอดตลอด ปลอดภัย ทั้งไป และกลับ .... โชคดี มีชัย คล่องตัว ตลอดเวลา. "พระชัยหลังช้าง สก." องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง ท่านก็มีส่วนร่วม ครับ.... "

    เหรียญพระชัยหลังช้าง" เหรียญดังพิธีดีอีกเหรียญหนึ่งที่หยิบยกมากล่าวถึง เป็นเหรียญที่ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ แห่งวัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร ในนามคณะสงฆ์ได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้น สืบเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5รอบ 60พรรษา ในปี พ.ศ.2530เป็นเหรียญปั๊มด้านหน้าเป็นรูปพระชัยวัฒน์ที่เรียกกันว่า "พระชัยหลังช้าง" ด้านหลังเป็นพระปรมาภิไธยย่อ "ภปร." มีอักษรปรากฏบนเหรียญว่า "5ธันวาคม 2530" และ "คณะสงฆ์สร้างในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 5รอบ" "เหรียญพระชัยหลังช้าง" เป็นเหรียญดีเพราะพิธีการจัดสร้างเปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งเจตนาการจัดสร้างเพื่อนำรายได้จากการบริจาคบูชานั้น ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 5ธันวาคม พ.ศ.2530ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร มีพระเกจิอาจารย์ดังปลุกเสกมากมาย ประการสำคัญยิ่ง เหรียญพระชัยหลังช้าง มีสมเด็จพระสังฆราชถึง 2พระองค์ ปลุกเสก นั้นคือ สมเด็จพระสังฆราช (วาส) วัดราชบพิธฯ และสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ที่ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี พ.ศ.2532และ"เหรียญพระชัยหลังช้าง"มีสมเด็จพระราชาคณะที่ร่วมปลุกเสกอีก คือ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา สมเด็จพระวันรัต วัดโสมนัสวิหาร สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปทุมคงคา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เมื่อครั้งยังเป็นที่พระพรหมคุณาภรณ์ แล้วยังมีพระเกจิอาจารย์ดังแห่งยุคนั้น อาทิ หลวงพ่อแพ แห่งวัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) วัดท่าซุง หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระครูสันติวรญาณ (สิม) วัดถ้ำผาปล่อง พระอุดมสังวรเถร (อุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี พระครูฐาปนกิจสุนทร (เปิ่น) วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม หลวงปู่ม่น วัดเนินตาหมาก จังหวัดชลบุรี พระครูเกษมธรรมนันท์ (แช่ม) วัดดอนยายหอม พระครูปริมานุรักษ์ (พูล) วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม

    ที่สำคัญ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง ท่านเคยกล่าวไว้กับลูกศิษย์ของท่านว่า เหรียญพระชัยหลังช้างนี้เป็นเหรียญที่มีพุทธานุภาพดีมากๆ กล่าวสำหรับพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์รัชกาลปัจจุบันนี้ มีความเป็นมาสืบเนื่องจากราชประเพณีหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาล เริ่มเมื่อ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงมีพระราชดำริว่า พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำพระองค์ที่เชิญไปในราชการศึกสงคราม ซึ่งเรียกกันว่า "พระชัยหลังช้าง" นั้น ได้เชิญไปประดิษฐานหน้าพุทธบัลลังก์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพราะเป็นพระพุทธรูปคู่บารมีมาด้วยกัน จึงขาดพระพุทธปฏิมาสำหรับถวายสักการะ ณ พระราชมณเฑียร จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ขึ้นแทน ถวายพระนามว่า พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาล ในรัชกาลต่อมา เมื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว ถือเป็นราชประเพณีที่จะต้องหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์สืบมาทุกรัชกาล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 5พฤษภาคม พ.ศ.2493ยังไม่ได้สร้างพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาล ในการพระราชพิธีจึงต้องเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ของรัชกาลที่ 5ซึ่งเป็นสมเด็จพระบรมอัยกาธิราช เป็นพระพุทธรูปประธานในงานพระราชพิธี ครั้น พ.ศ.2495เสด็จพระราชดำเนินกลับจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาประทับพระนคร พ.ศ.2506จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลตามราชประเพณี และโปรดเกล้าฯ ให้ นายพิมาน มูลประมุข เป็นช่างปั้นหุ่นพระพุทธรูป พระเครื่องและเหรียญที่ระลึกที่มีพระปรมาภิไธยย่อ "ภปร" ประดิษฐานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า หรือด้านหลัง ถือว่าเป็นสิ่งมงคลที่น่าเก็บสะสมบูชาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเหรียญพระพุทธรูปของ วัดต่างๆ ที่มีตรา ภปร.ประดิษฐานอยู่ด้านหลังนั้นมีอยู่จำนวนมากเช่นกัน หลายๆ รุ่นมีพิธีการสร้างที่เข้มขลัง และมีพุทธศิลป์ที่งดงามอย่างยิ่ง ดั่งเช่นเหรียญพระพุทธ หรือเหรียญพุทธคุณ พระปรมาภิไธยย่อ ภปร.ที่เรียกขานกันว่า "เหรียญพระชัยหลังช้าง" สร้างโดยคณะสงฆ์ทั้ง 2นิกายในปีมหามงคลเจริญพระชนมพรรษาครบ 5รอบ 60พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5ธ.ค.2530 "เหรียญพระชัยหลังช้าง" มีเนื้อทองคำ, เนื้อเงิน, เนื้อกะไหล่ทอง
    มูลเหตุที่นำรูป พระชัยหลังช้างมาจัดสร้างเพื่อเทิดพระเกียรติล้นเกล้าทั้งสอง พระองค์ ด้วยเห็นว่าพระชัย (หลังช้าง) เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง คู่บุญญาบารมีของปฐมกษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ ควรที่ประชาชนจะมีไว้สักการบูชา เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในพระองค์ ดังเช่น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรุงเทพฯ ได้ลิขิตไว้ว่า"เหรียญพระชัยหลังช้าง" "หากอยู่กับบ้านก็คุ้มบ้าน หากอยู่กับตัวก็คุ้มตัว" และเพื่อเป็นการยืนยันคำพูดดังกล่าว ท่านจึงได้จัดพิมพ์หนังสือเรื่อง "ปรากฏการณ์อันน่าพิศวงเกี่ยวด้วยเหรียญพระชัย (หลังช้าง)" ขึ้น โดยรวบรวมเรื่องราวจากผู้ที่ได้รับประสบการณ์จากเหรียญนี้มากมายหลายท่าน เหรียญพระชัยหลังช้าง เหรียญพระชัยหลังช้าง ความเป็นมาของ "พระชัยวัฒน์" เดิมมีพระนามว่า "พระชัย" หรือ "พระไชย" ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ออกพระนามเพิ่มว่า "พระไชยวัฒน์" และได้เปลี่ยนพระนามมาเป็น "พระชัยวัฒน์" ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลปัจจุบัน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร มีฉัตรปรุ 5ชั้นปักกั้น หน้าตักกว้าง 7นิ้ว สูงจากทับเกษตรถึงยอดพระรัศมี 9นิ้ว มีพัดแฉกหล่อด้วยเงินปักข้างหน้า ที่ฐานมีคำจารึก ซึ่งเป็นต้นแบบในการนำมาสร้าง เหรียญพระชัยหลังช้าง

    ***************************************************************

    สภาพคัดสวยเปิดบูชาเบาๆ เป็นคู่ ๆ ละ 250 บาท (ทั่วๆไปเปิดแพงกว่านี้มากพอสมควรครับ ลองหาข้อมูลดู) ค่อนข้างหายากกว่าพิมพ์หลัง ภปร.นะครับ


    **** ปิดรายการ *****


    379629316_848185920149428_4059568845857968003_n.jpg

    379606915_746961793858925_5981908476570063128_n (2).jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2024
  18. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10917.เต่าสำลีชุบเทียน หลวงปู่ครูบาวงศ์ท่านจึงได้เมตตาจัดทำเต่าขึ้นไว้สำหรับแจกจ่ายแก่บรรดาลูกศิษย์ไว้บูชาเป็นมหาลาภ
    มีทั้ง เต่าสำลี เต่าสำลีชุบสีผึ้ง เต่ากระดาษทิชชู่ เต่าไม้ เต่าจีวร
    ซึ่งทุกสิ่งที่นำมาทำเต่านั้นมาจากของใช้ของท่านครูบา
    ท่านทำเองและปลุกเสกเองทุกตัว ระหว่างทำท่านก็จะภาวนาไป ปั้นไป เสกไปเรื่อยๆ จนเสร็จ
    ภายในตัวเต่าจะบรรจุเกศา พระธาตุข้าวบิณฑ์ ผ้าจีวร และของศักดิ์สิทธิ์มงคลไว้ภายในตัวเต่า

    เต่าสำลีชุบเทียนท่านเริ่มทำมาตั้งแต่ประมาณปี 2512 ได้
    หายากกว่าเต่าสำลีหลายเท่าเพราะทำน้อย มีหลายขนาด ทั้งปิดทองและไม่ได้ปิดทอง
    สีผึ้งที่นำมาชุบเต่า ยุคแรกจะเป็นสีผึ้งที่ได้จากรังผึ้งร้างที่มาทำรังที่องค์พระธาตุเจดีย์ที่วัด

    ต่อมาในช่วง 3-4 ปีก่อนท่านจะละสังขาร (ท่านละสังขารปี 2543)
    ทางวัดจึงได้ขอให้ท่านจัดทำเต่าสำลีชุบสีผึ้งจากเทียนชัย
    สีผึ้งปิดตาพระพุทธรูปในพิธีเบิกเนตรปลุกเสกพระ ซึ่งเป็นของมงคลมหานิยม
    แล้วปิดทองขึ้นมาให้หลวงปู่ครูบาท่านปลุกเสกทีละหลายๆ ตัว เพื่อให้พอกับความต้องการของลูกศิษย์

    เต่าสำลีเป็นเต่าที่ครูบาท่านปั้นเองกับมือ โดยทำมาจากสำลีที่ท่านเช็ดตา
    ซึ่งตอนนั้นหลวงปู่ได้ไปรักษาเกี่ยวกับดวงตาแล้วมีน้ำตาไหลตลอด
    สำลีที่ซับน้ำตาท่านๆ ก็เลยเอามาปั้นเป็นเต่า บางทีท่านทำแล้วก็ให้เลย
    ข้างในตัวเต่าจะมีเส้นเกศา ผ้าจีวรของท่าน และพระธาตุข้าวบิณฑ์

    เคยมีคนถามท่านว่า " เต่าครูบานั้นดีอย่างไร "
    ท่านตอบว่า " น้ำต๋าก็บ่หื้อเสี้ยง "
    ท่านเห็นทำหน้างงๆ ท่านก็เลยถามต่อว่า " เข้าใจไหม "
    ท่านเห็นคนฟังไม่เข้าใจ ท่านเลยขยายความว่า " เต่านั้นเฝ้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะทรัพย์สิน เจ้าของไม่มีให้เจ้าของเสียน้ำตา "

    ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่ไม่คล่องตัวแบบนี้
    แนะนำให้ลองบูชาพญาเต่าคำของท่านดู

    คาถาบูชาพญาเต่าคำมหาลาภ

    ตั้งนะโม 3 จบ...
    นะเมตตา โมกรุณา พุทธะปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู
    เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
    ไมตรีนานา จิตตังปิยัง มะมะ

    ตัวนี้เป็นเต่าทำด้วยสำลีชุบด้วยสีผึ้งจากเทียนชัย หายาก สภาพสวย


    บูชาองค์ละ 450 บาท มีให้บูชา 6 องค์ครับ


    **** จองแล้วครับทางไลน์ ****


    379556565_327290639849710_7487656685618590826_n.jpg


    379631837_1046899846340265_5877843021979512971_n.jpg



    126621770_1597663757096284_6462818553319281004_n-jpg-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2023
  19. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10918.รกช้างเสกโดยครูบากฤษดา พร้อมด้ายไหม6สี
    #ปลุกเสก 4วาระ
    #ครูบากฤษดา สุเมโธ 2 วาระ
    #ครูบาจันทิพย์ วัดม่วงม้าใต้1วาระ
    #หลวงพ่อเสน่ห์ วัดเชียงขาง 1 วาระ

    เป็นรกช้างที่เหลือจากการบรรจุหลอดตะกรุดรกช้าง รุ่นเเรกวัดแสนตอง

    #รกช้าง (รกช้างมหาลาภ) รกช้างของเก่าโบราณ ขนาดรกแมวยังว่าวิเศษสุดแล้วและหายากสุดๆ(หมายถึงรกแมวของแท้มีคุณจริงๆ) แต่รกช้างยิ่งหายากและวิเศษกว่าอีกหลายเท่า
    "รกช้าง " เป็น "ของมหัศจรรย์" ชนิดพิเศษ ที่น้อยคนจะได้รู้จักและน้อยคนที่จะมีไว้ใน "ความครอบครอง" จะต้องเป็น "ผู้มีบุญวาสนาใหญ่" และ ต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ เนื่องจากว่า การจะได้ "รกช้าง " มาสักรกหนึ่งนั้น ต้องใช้เวลานาน ต้องรอนานมาก จนกว่า "แม่ช้าง"" สักตัวหนึ่ง จะให้แก่เจ้าของมันเอง โดยที่ "แม่ช้าง"" ไม่กินรกของมันเอง ไม่ใช่ไปแข็งขืน หรือ แย่งชิงจากแม่ช้างมาเอง!! (ซึ่งเป็นบาปอย่างยิ่ง) โดยแม่ช้างมันจะนอนรอจนกว่าเจ้านายของมันจะมาเจอ เสมือนมันเฝ้าไว้ให้เจ้านายผู้มีโชคลาภของมัน เพราะช้างตามธรรมชาติเวลาออกลูกมันจะหลบลี้หนีไปหาที่ที่ปลอดภัยออกลูก จะไม่ค่อยได้เจอตามธรรมชาติ และเมื่อแม่ช้างออกลูกช้างมาแล้วแม่ช้างจะต้องกินรกของมันเองจนหมด เพื่อเป็นอาหารบำรุงกำลัง ตอนมันออกลูกช้าง ซึ่งมันเสียเลือดเป็นอย่างมาก จะไม่ค่อยได้เจอรกช้างเลย จะเจอได้ต่อเมื่อแม่ช้างให้รกแก่เจ้าของเองโดยตามธรรมชาติ ไม่ใช่ทำกันเล่นๆ
    * รกช้าง * ของขลังชนิดพิเศษ ที่ไว้เรียกโชคลาภเงินทองขั้นสูง หากินคล่อง ไม่ติดขัด เจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ปกป้องคุ้มครองป้องกันคุณไสย์ทุกประเภทจึงถือเป็นของมหัศจรรย์ "ชนิดพิเศษ" ที่มีอานุภาพแรงมากๆๆๆ มีประสบการณ์โชกโชน จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการเมือง นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเดินทางรอบโลก นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง เด็กเสี่ย ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกอาชีพ มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม ผู้มีอิทธิพล ผู้ที่มีศัตรูมากคอยจ้องคิดจะทำร้ายเราอยู่เสมอๆๆๆ พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

    รกช้างบูชาหลอดละ 250 บาท มีเข้ามาใหม่ให้บูชาอีก 2 หลอด


    **** จองแล้วครับ *****



    (ขอใช้รูปเดิมไปก่อนนะครับ)

    376653893_266047246353496_2042940634823277148_n-jpg.jpg

    376483965_266047386353482_668000590170291913_n-jpg.jpg

    372761529_262459520045602_900641193957991989_n-jpg.jpg

    375039091_266047293020158_2572141146267338572_n-jpg.jpg

    375663986_266047419686812_1682046018407305839_n-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2023
  20. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    25,881
    ค่าพลัง:
    +9,014

    10919.พระขุนแผนพลายเดี่ยว เนื้อดินเผา หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง


    พระขุนแผนพลายเดี่ยว เนื้อดินเผา หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง

    กว้างประมาณ 3 cm

    สูงประมาณ 5.3 cm

    มีหลายคนอยากทราบเหลือเกินว่าหลวงพ่อเป็นศิษย์ใครทำไมหนุ่มอย่างนี้และเก่งมาก หลวงพ่อสนใจไสยศาสตร์ตั้งแต่เป็นนักเรียน พ่อท่านให้ไปโรงเรียนท่านก็หนีไปหลบอยู่กับคนแก่แถววัดบ้าง ไปหลบอยู่กับสัปเหร่อบ้าง ท่านบวชเณรตั้งแต่เล็กๆ ออกธุดงค์หาครูบาอาจารย์สายไทยสายมอญทั้งพระและฆราวาสตั้งแต่เป็นเณร ท่านยังเคยไปเรียนวิชาที่เมืองมอญเลย ท่านเรียนวิชามาแยะ วิชาหมอแผนโบราณท่านก็เรียน ท่านมาอยู่กับหลวงปู่สุรินทร์ เรวโต อดีตเจ้าอาวาสวัดบางกุฎีทอง ซึ่งหลวงปู่เป็นลูกศิษย์เจ้าคุณรามัญมุนี วัดบางหลวง และอยู่รับใช้หลวงปู่สุรินทร์จนท่านมรณภาพ หลวงพ่ออยู่กับหลวงปู่ทุกเวลาเลยก็ว่าได้ หลวงพ่อนอนกุฏิเดียวกับหลวงปู่คอยบีบนวดให้ท่าน จนเมื่ออายุครบบวชหลวงปู่สุรินทร์เป็นคนจัดการเรื่องบวชให้หลวงพ่อ ได้นิมนต์พระราชพุฒิเมธี (เทียน ฐานุตตโม) วัดบางหลวงเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่สุรินทร์หรือพระครูปทุมธรรมานุสิฐเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูปทุมสุตคุณ เจ้าคณะตำบลบางกะดีเป็นพระอนุสาสนจารย์ เมื่อบวชแล้วหลวงพ่อก็ยังรับใช้หลวงปู่สุรินทร์อยู่ หลวงปู่ท่านถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้หลวงพ่อมาก ในกุฎิหลวงพ่อจะเห็นตำราเก่าของหลวงปู่สุรินทร์มากมายเขียนจดอยู่ในสมุดกระดาษหยาบๆ แบบโบราณทุกวิชาทุกคาถา หลวงปู่จะเขียนไว้หมดว่าไปเรียนมาจากใครที่ไหน เช่น...เรียนมากับหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง เจ้าคุณรามัญมุนี วัดบางหลวง (ท่านเจ้าคุณรามัญเป็นอุปัชฌาย์ของหลวงปู่สุรินทร์และเป็นอาจารย์ของหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ผู้สร้างสมเด็จสิบสองนักษัตริย์จนโด่งดัง) อาจารย์จง วัดหน้าต่างนอก บทแม่ธรณี หลวงปู่ไปเรียนกับอาจารย์กี วัดหูช้าง หลวงพี่เทียน วัดโบสถ์ (หลวงปู่สุรินทร์จะเรียกหลวงปู่เทียนวัดโบสถ์ว่าหลวงพี่ เพราะท่านเป็นพระมอญเหมือนกัน)



    หลวงพ่อเป็นพระมอญที่สืบทอดวิทยาคม สายเจ้าคุณรามัญมุนี ตั้งแต่เป็นเณร เรียนกับพระครูฆราวาสมากมายที่สำคัญ คือฝึกกระแสจิตอาคมกับครูพระสงฆ์อมตะ 5 องค์ เป็นที่รู้กันดีว่าหลวงพ่อเป็นพระจริงทั้งกายวาจาใจ สร้างพระได้ขลังและแรงอย่างน่าประหลาด เมื่อได้เป็นศิษย์ของท่านแล้วคำว่าแย่ลงจะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด เมตตาของหลวงพ่อที่มีต่อศิษย์ ไม่มีอะไรมาเป็นขีดจำกัดแม้ความตาย เหล่าศิษย์ขอก้มกราบแทบเท้าหลวงพ่ออย่างบริสุทธิ์ใจ หลวงพ่ออุตตมปัญโญ (หรือหลวงพ่อชำนาญ) ท่านเป็นบรรพบุรุษเชื้อสายมอญเมืองปทุมโดยแท้ อาจจะกล่าวได้ว่าในยุคปัจจุบันจะหาคนรู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีวัตถุมงคลพิธีกรรมของมอญมากเท่าหลวงพ่อองค์นี้ไม่มี หลวงพ่อบวชและศึกษาสายมอญมาตั้งแต่เป็นสามเณรจนถึงปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดมอญคือวัดบางกุฎีทอง (เดิมชื่อวัด บางกุฎีมอญ) ท่านเป็นพระที่พึงได้เมื่อศิษย์ของท่านมีปัญหาอะไรก็จะมาโทรปรึกษาบ้าง เข้ามาพูดคุยให้หลวงพ่อช่วยแก้ปัญหาตัดสินใจบ้าง ไม่มีซักคนที่หลวงพ่อแก้ปัญหาไป บอกกล่าวไปแล้วจะประสบความล้มเหลวเลย ถ้าเป็นศิษย์ท่านอย่างจริงใจเพียงหลวงพ่อเห็นหน้าสบตาหลวงพ่อเท่านั้น หลวงพ่อก็จะได้รู้ทันทีว่า มีปัญหาอะไรควรแก้ที่ไหน ปัญหานั้น แก้ได้หรือไม่ทั้งนี้ก็เพราะบารมีทีที่ท่านบำเพ็ญมาเองมีเจตนาแน่วแน่ที่จะช่วยเหลือลูกศิษย์ของท่านทุกคน

    ขอบคุณเครดิตข้อมูลบางส่วน:

    http://www.siamluckycharms.com/product/110/พระขุนแผน-หลวงพ่อชำนาญ-วัดบางกุฎีทอง-จ-ปทุมธานี

    สภาพสวยตามรูปครับ



    บูชา 350 บาท

    **** จองแล้วครับ *****


    379335065_2177611689095541_8049558854216165563_n.jpg

    379333764_836242991319294_8475853401940715632_n.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2023
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...