สมถกรรมฐาน-วิปัสสนากรรมฐาน หลวง พ่อเทียน จิตฺตสุโภ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ไข่น้อย, 23 เมษายน 2010.

  1. ไข่น้อย

    ไข่น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +348
    มันทำไรกัน

    ไม่เคยเห็นด้วยซี
    ลองทำให้ดูหน่อยซีฮะ
    หุหุหุ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2010
  2. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    บอกจริง ๆ ที่คุณโพสต์ข้อความกวนผมนี่
    ผมไม่รู้สึกว่าโกรธ ว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ
    ดูไปหัวเราะไปด้วยซ้ำ

    แล้วที่พูดจาโต้ตอบกับคนอื่นแรง ๆ นี่เหมือนกัน
    ก็โต้ตอบไปตามเรื่องไม่ได้มีอารมณ์โกรธอารมณ์ไม่พอใจอะไรเลย

    เพียงแต่คิดว่า
    เออ...ถ้าคนนี้เค้าโพสต์มาอย่างนี้
    เราจะพลิกแพลงคำตอบเรายังไง
    ส่วนมากอ่านไปยิ้มไปหัวเราะไป

    เอาธรรมะที่พอรู้เรื่องรู้ราวของเรา
    สอด ๆ แทรก ๆ ไปในโพสต์เหล่านั้น

    ส่วนคุณอยากจะเต้นแร้งเต้นกา
    เพื่อครูเพื่ออาจารย์ของคุณ ผมก็เข้าใจ

    อืม...การที่จะทำให้ใครสักคนหนึ่ง
    ไปนิพพานได้นี่ยากจริง ๆ นะคุณ

    เพราะขนาดเอาความจริงความถูกต้อง
    ที่รู้ที่เห็นมาพูดให้ฟัง ยังไม่ยอมรับกันเลย
    กิเลสมันครอบเอาไว้หมดเลยนะ
    ปิดหู ปิดตา ปิดอายตนะ ปิดทั้งหมดเลย

    ผมถึงได้ "ถึงใจ" จริง ๆ
    ใน พระเมตตาคุณ พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ ของพระพุทธองค์
     
  3. bigboom007

    bigboom007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +570
    ผมเคยมีโอกาสได้ไปปฏิบัติสายของหลวงพ่อเทียนน่ะ ความจิงท่านเป็นลูกศิษของหลวงพ่อคำเขียน วิธีการปฏิบัติของท่านเน้น ที่การขยับมือเป็น14จังหวะ เน้นการเดินจงกรม แล้วก็ตามรู้การเคลื่อนไหวของร่างกาย สำหรับผมจะขยับมือ14จังหวะหรือเดินจงกลม มันก็คล้ายๆกันเลย ไม่ต่างกันเลยเพียงแต่เดินกับนั่ง ช่วงที่ผมมีโอกาศปฏิบัติเป็นเวลา7วัน 3วันแรกก็พบกับธรรมปิติแล้ว อยู่ดีๆน้ำหูน้ำตาไหลพลากเลย ร่างกายเบาสบาย รู้สึกว่าตัวเองมีสติมั่นคงขึ้น อารมณ์ได้เข้ามาก็ตัดออกได้ไม่เก็บมาปรุงแต่ง ขึ้นชื่อว่าการปฏิบัติแล้ว พ้นทุกข์ทุกทาง แต่อยู่ที่เราจะเลือกสายไหนมากกว่า เพราะสายหลวงพ่อคำเขียนเขาไม่มานั่งหลบตาดูลมหายใจกันคับ แต่ผลที่ได้ก็เหมือนกัน คือพ้นทุกข์ นิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2010
  4. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    คุณไข่น้อย.. คุณมีพฤติกรรม การโพสต์ข้อความเหมือนจะปกปิดตนเอง....อ่านจากข้อความที่โพสต์ กลัวคนอ่านจะรู้ว่า เป็นใคร มาจากไหนหรือ ไข่น้อย..?
     
  5. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721
    กำเสี่ย อึ่มก๊อย แต๊งกิ้วครับ
    คุยกันเฮฮาประสาเพื่อนกันนะครับ
    อย่าได้ถือสาหาความ จริงจังเลยนะครับ
     
  6. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721
    สาธุนะครับ ยินดีด้วยครับ ถูกจริตดีนะครับ ฟังดูมีความก้าวหน้าไม่น้อยเลยนะครับ
    ส่วนที่ว่ามา เรียกว่า วิปัสสนูปกิเลสนะครับ เป็นอาการของสมาธิหลังล่วงพ้นนิวรณ์ เป็นสิ่งดีแต่ก็ควรละนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2010
  7. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    แล้วคราวนี้ผมจะพูดถึงการปฏิบัติแบบเคลื่อนไหว
    พอดีคุณไข่น้อย โพสต์ที่กระทู้โน้น
    แต่ผมอยากตอบที่กระทู้นี้

    ผมว่าถ้าจะปฏิบัติแบบนี้
    ก็ฝึกมวยไทเก๊ก แทนก็ได้
    สำคัญต้องมีสติสัมปชัญญะ(เหมือนดูจิตนั่นล่ะ)

    การมีสติกับการเคลื่อนไหวนี่
    ท่านเรียกสัมปชัญญะ คือมีสติระลึกรู้ซ่านไปทั่วร่างกาย

    ท่านที่นำมาปฏิบัติ
    ก็คงศึกษามาจากมหาสติปัฏฐานสูตร
    ในหมวดสัมปชัญญะบรรพ

    คราวนี้เราต้องรู้ว่าสัมปชัญญะ เกิดได้อย่างไร
    สัมปชัญญะ เกิดจาก การมีสติแล้วเคลื่อ่นไหวกาย
    เมื่อสติมีกำลังพอ
    เราเคลื่อนไหวกายความรู้สึกรอบตัวที่แผ่ซ่านไปทั่วกายนี่เรียกว่าสัมปชัญญะ
    เพราะฉนั้นการที่จะมีสัมปชัญญะได้ จึงต้องมีสติเสียก่อน

    เพราะฉนั้นการฝึกเคลื่อนไหวการเริ่มแรก
    โดยที่ไม่ฝึกสติเลยนี่ จึงเป็นไปได้ยากจนถึงไม่ได้
    เพราะสติยังไม่มีเลย จะไปเจริญสัมปชัญญะซะก่อน
    อย่างนี้เหมือนชิงสุกก่อนห่าม

    ผมจะยกตัวอย่างเกิดสัมปชัญญะได้ยังไง
    เมื่อหลายปีก่อนผมไปเดินตลาดนัด
    ผมก็บริกรรมพุทโธไป
    พอเดินบริกรรมพุทโธไป
    อ้าว...ทำไม่ความรู้สึกของเราถึงแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายอย่างนี้
    แต่ผมก็บริกรรมพุทโธ ความรู้สึกแผ่ซ่านทั่วกายก็มีไป
    ผมจึงรู้ทุกอริยาบทของการเคลื่อนไหวกาย
    โดยที่ไม่ต้องไปจับดูการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
    เพราะเราฝึกเจริญสติ แล้วเราเคลื่อนไหวกาย
    เราก็จะรู้เอง สติจึงสำคัญ...

    นี่ท่านจึงกล่าวว่าสติเปรียบเหมือนไฟที่ติดบนเทียน
    สัมปชัญญะเปรียบเหมือนแสงเทียน

    เพราะฉนั้นวิธีปฏิบัติที่ถูกทางคือ
    ท่านบริกรรมพุทโธ หรือ อานาปานสติ ไปเถอะ
    เมื่อสติมีกำลังพอ แล้วท่านจะเคลื่อนไหวกายด้วยความมีสัมปชัญญะเอง
    การรู้การเคลื่อนไหวกายจะเกิดขึ้นเอง

    หลายท่านคงค้านว่า ก็ฝึกแบบเคลื่อนไหวกายก่อนก็ได้
    แล้วก็จะเป็นเหมือนกันเองนั่นล่ะ

    แต่ความจริงเป็นไปได้น้อยจนกระทั่งเป็นไปไม่ได้
    เพราะอะไร พรุ่งนี้ผมจะมาอธิบายต่อ....

    แต่ผมจะเกริ่นก่อนแล้วกัน
    อย่างอานาปานสติสูตรกล่าวว่า
    การจะเจริญสติปัฏฐานสี่ได้นั้น
    ต้องเจริญอนุสติ หรือ สติ ก่อน
    ให้สติพอมีกำลัง เมื่อเจริญสติให้มากแล้ว
    ก็ทำให้สติปัฏฐาน 4 บริบูรณ์ได้เอง

    ไม่ต้องใจเร็วด่วนได้
    ชิงสุกก่อนห่ามหรอกครับ

    ผมกลัวจะหลงทางจนกู่ไม่กลับซะก่อน

    แต่ผมไม่หลงแน่
    เพราะเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น
    จิตใจเคยมีสติยังไง ก็มียังงั้น
    แน่นหนามั่นคงในตัวเองเสมอ...
     
  8. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721
    สาธุครับ รักษาจิตใจได้ดีจ้า แหย่กันเล่นพอครึ้มๆ ไม่เอามาเป็นอารมณ์เคืองกันจนเลยเถิดได้นี่ เยี่ยมยอดจินๆ บรรยากาศเอื้อต่อการเฮฮาภาษาธรรมดีครับ
     
  9. ไข่น้อย

    ไข่น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +348
    ขอบคุณสำหรับธรรมมะดีๆนะฮะ

    คุณเตชต้องมีตาทิพย์แน่เลยฮะ
    ที่เห็นว่าผมเต้นแรงเต้นกา เพื่ออาจารย์

    555+
    หรือคุณเตชอาจมีเจโตฯ
    ที่รู้ใจผมได้ด้วย

    แต่อย่าเอาแบบคุณเกิดสับสนฯนะฮะ
    ชอบมั่วมาตลอด

    แต่ก็ดีนะ ฮาดี 555+

    ปล. ถ้าคุณเตชบรรลุอรหันต์เมื่อไรแล้วมาบอกผม
    ผมจะยอมรับความจริงของคุณเตชเลยฮะ
    แต่ตอนนี้ยังหลงป่าเหมือนกันเลยไม่รู้จะเชื่อดีรึปล่าว?

    ตอนนี้ขอทำความเคารพคุณว่าที่อาจารย์ก่อนนะ
    ชาบู ชาบู
    บร๊ะเจ้าเตชพโล
    ชาบูๆๆๆๆๆ
     
  10. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    ถ้าอย่างนั้นมอบเพลงของพี่น้องตระกูล gibb ให้อีกเพลงเลยครับ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=RRNTQvXSsfA&feature=related"]I Started a Joke[/ame]
     
  11. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    นี่แค่ธรรมะขั้นสติ ขั้นเริ่มต้น
    ที่คุณพอจะทดลองทำ แล้วเกิดผลขึ้นมาประจักษ์ใจได้
    คุณยังไม่เชื่อ ไม่ทดลองทำเล๊ย

    แล้วธรรมะขั้นอรหัตผลผมมาบอกแล้ว
    คุณจะเชื่อผมเหรอครับ....
     
  12. ไข่น้อย

    ไข่น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +348
    อ้าววว แล้วทำไปผมต้องเชื่อคุณฮะ
    มีเหตุผลน่าเชื่อถืออันใด
    หือ?
    อิอิ
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
  14. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    เมื่อมีเหตุควรเชื่อ ก็ควรเชื่อใช่มั้ยครับ
    แต่ที่คุณไม่เชื่อเพราะไม่มีเหตุควรเชื่อใช่มั้ย

    แล้วทำไมคุณไม่มีเหตุควรเชื่อล่ะคุณทราบมั้ย

    ก็เพราะว่าคุณสาวไปไม่ถึงเหตุครับ
    ถ้าคุณสาวไปถึงเหตุ คุณก็มีเหตุควรเชื่อ

    เหตุที่คุณสาวไปไม่ถึงเหตุนั้น
    ผมจะบอกให้ครับ
    เพราะวิธีการปฏิบัติเพื่อสาวไปถึงเหตุของคุณนั้นไม่ใช่ มรรค
    แต่เป็น กิเลส นี่ล่ะครับคือปัญหาการปฏิบัติของคุณ

    จะเปรียบปัญหาของคุณก็อาจจะเปรียบได้ว่า

    ทำไม...ถึงมีคนเลือกไปเชื่อศาสนาอื่น
    ไม่เชื่อศาสนาพุทธหมดทุกคน

    เมื่อเจาะลงไปอีกในเนื้อหา

    ทำไม...ถึงมีคนเลือกไปเชื่อผู้ยังมีกิเลส
    ไม่เชื่อผู้สิ้นกิเลส ไม่สนใจในธรรมของผู้สิ้นกิเลส

    เฮ้อ...ทุกขัง นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2010
  15. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    อยากเตะคนโพสต์ข้อความนี้มากกว่า

    คนปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้านับประมาณการไม่ได้

    และในกลุ่มของผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ในจำนวน ล้าน ๆ คนนี่
    จะได้เป็นพระพุทธเจ้าสักคน สองคน นี่ก็ทั้งยากนะ

    แล้วหลุดหายไปน่ะ หายไปไหนรู้มั้ย
    ไม่ได้ไปนิพพานทั้งหมดนะ
    ตกนรกหมกไหม้เวียนตายเวียนเกิดในวัฏสงสาร
    ไปจนหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ นี่ มีเยอะนะ

    คิดว่าประกาศตนว่าเป็นพุทธภูมิ แล้วมันรู้สึกว่าตัวดีกว่าคนอื่นเหรอ
    ก็ตัวเองเลวมันไม่ดูน่ะสิ กลับไปดูพฤติกรรมตนเองนะ...

    เฮ้อ...ทุกขัง นะ
     
  16. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    [​IMG]
     
  17. ไข่น้อย

    ไข่น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +348
    อ่ะ งง
    สาวยังไงฮะ ให้ถึงเหตุ
    สาวรัวๆ หรือสาวเรื่อยๆ
    แล้วเหตุคืออะไรฮะ
    อ่านแล้ว งง
    ชี้ชัดๆได้ไม๊ขราบบบ
     
  18. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    ก็นี่ไง วิธีปฏิบัติของคุณไม่เป็น มรรค
    แต่เป็น กิเลส

    คุณถึงได้รู้จักแต่
    สาวรัว ๆ กับ สาวเรื่อย ๆ

    สาวหาเหตุ ถึงรู้ไม่ได้ไง

    เฮ้อ... ทุกขัง นะ
     
  19. ไข่น้อย

    ไข่น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +348
    โอเค
    เอาเวลาไปสาวรัวๆ กับ สาวเรื่อยๆ ดีกั่ว
    อิอิ
     
  20. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    ถ้าคุณคิดว่าการสาวของคุณทำให้ถึงสวรรค์ถึงนิพพานได้
    ก็ทำไปเถอะครับ...

    ลมหายใจขาดไปก็รู้เองหรอกว่าไปไหน

    เฮ้อ...ทุกขัง นะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...