วัวธนูรุ่นแรก หลวงปู่เท อายุ 102 ปี วัดยี่งอ จ.นราธิวาส ประสบการณ์แรง น.94

สาธุคะ ถ้ามีข่าวรุ่นสาม ยังไงจะแจ้งอีกทีนะคะ

 

พี่ครับ ผมจะบอกว่า ผมขอจอง มีดปากกา 4.7นิ้ว อีก 2ครับมีของมั๊ย ถ้ามีจะได้โอนครับ เผื่อทำหายแหะๆ

 

พอดีของผมให้พี่สาวไปผมจะจับเอาใหม่

 

ยังมีคะ ยืนยันการจองนะคะ

 

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ไม่ได้เข้าเว็บหลายวัน เนื่องจากไม่สบายจ้า

 

วันนี้จะนำประวัติอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ที่วัตถุมงคลของท่านั้นน่าเก็บสะสมบูชา เพราะท่านเป็นผู้สืบทอดพุทธาคม หลวงพ่อเนียม วัดน้อย หลวงพ่ออ่ำ วัดชีปะขาว หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ

 

ประวัติหลวงพ่อทองเหมาะ (พระครูสุวรรณพัฒนโกศล )
วัดชีปะขาว ม.3 ต.ตะค่า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

 

เดิมชื่อ ทองเหมาะ ศรีสุข เกิดวันที่ ๑๑ ก.พ. ๒๔๘๑ ปีขาล ณ.บ้านตะค่า ใกล้วัดชีปะขาว เป็นบุตรพ่อเอก แม่เจียน มีความสนใจในพระเวทย์วิทยาคมตั้งแต่เด็กเพราะท่านมีปู่เป็นนักเลงเรืองอาคม ปู่ของท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเนียม วัดน้อย ผู้ซึ่งเป็นศิษย์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรํสี วัดระฆังฯ และยังเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดันและเกจิดังอีกหลายรูปของจ.สุพรรณบุรี ปู่ของท่านนั้นก่อนมีครอบครัวได้บวชเป็นพระลูกศิษย์อยู่กับหลวงพ่อเนียม วัดน้อย สนิทกับของหลวงพ่ออ่ำ ที่เป็นหลานชายแท้ๆของหลวงพ่อเนียมมาก แถมได้รับการถ่ายทอดวิชาและตำราต่างๆมา โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการลงตะกรุดเลขยันต์คงกระพันชาตรีจากหลวงพ่อเนียมนั้นได้มาถึง ๓ เล่ม มีวิชาเด่นๆอยู่เช่น วิชาเสือมหาอำนาจ วิชามหากระดอน วิชาตรีนิสิงเหที่หลวงพ่อเนียมใช้ลงตะกรุดมหาอุตม์ วิชาหัวใจพระกัสสป(สี่เกลอ)ที่นำมาลงเป็นตะกรุดสังวาลเพชร วิชาลบผงต่างๆ วิชาเหล่านี้หลวงพ่อทองเหมาะและพี่ชายของท่านได้สืบทอดไว้จนหมดสิ้นตั้งแต่ก่อนบวชแล้ว อีกทั้งท่านยังได้รับพุทธาคมจากอาจารย์ยิ้ม ( อาจารย์สักฆราวาส) หนังเหนียวที่อยู่ข้างบ้านท่านด้วย ทำให้หลวงพ่อทองเหมาะนั้นเชี่ยวชาญอาคมตั้งแต่หนุ่ม รุ่นเดียวในยุคหลวงพ่อนั้นต่างนับถือยำเกรงท่านมากทั้งๆที่ท่านก็ไม่มีนิสัยเกเร แต่อาจเป็นเพราะท่านเป็นคนไม่ค่อยพูด มีจิตใจแน่วแน่ เป็นนักเลงเต็มตัว ที่สำคัญคือมีวิชาอาคมสูง เป็นอาจารย์สักตั้งแต่หนุ่ม ไม่มองสาวๆเลย พอคัดเลือกทหารเสร็จท่านจึงอุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๔ ก.พ. ๒๕๐๒ ณ.อุโบสถวัดชีปะขาวโดยมี พระสุนทรธรรมคณี วัดลานดา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อขมและหลวงพ่อเกลี้ยง วัดชีปะขาว เป็นพระกรรมวาจารย์และอนุสาวนาจารย์โดยลำดับ หลังจากบวชแล้วไปจำพรรษาอยู่ ณ.วัดลานคา กับพระพี่ชายคือ พระครูสุวิบูลย์สังฆกิจ (ประจวบ สมฺปณโณ ) และก็เริ่มศึกษาพระเวทย์วิทยาคม

 

โดยเรียนวิชาน้ำมนต์เดือดและวิธีเสกพระแบบวัดปากน้ำกับหลวงพ่อเล็ก วัดลาดหอย ศิษย์หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ผู้เป็นลุงของท่าน และเรียนวิชาต่างๆอีกมากมายกับ อาจารย์หล่อ ศิษย์ฆราวาสของหลวงพ่ออ่ำ วัดชีปะขาว หลานชายแท้ๆของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ระหว่างนั้นท่านก็ได้ออกรุกขมูลทุกปี โดยในปีแรกมีโอกาสไปเข้าปริวาสร่ำเรียนกรรมฐาน กับหลวงพ่อแผ่ว ที่วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรีด้วย แต่หลวงพ่อบอกอัศจรรย์มาก เห็นหลวงพ่อแผ่ว เป็นหลวงพ่อทองสุขตลอดเวลา บางปีเข้าไปถึงเขมรได้พบปะแลกเปลี่ยนร่ำเรียนพระเวทย์อีกมาก เคยถูกลองของมาก็ไม่น้อย กระทั่งครั้งที่ท่านได้ออกธุดงค์ไปทางป่าทุ่งใหญ่ฯจ.กาญจนบุรี เดินผ่านไปพบอาจารย์ฆราวาสชาวกะเหรียงคนหนึ่งซึ่งแก่กล้าทางวิชาอาคมเป็นอย่างมากชื่ออาจารย์ริน (ออกเสียงแบบไทยๆ) หลวงพ่อได้ทดลองวิชาแข่งกันด้วย ปรากฏว่าสู้อาจารย์คนนี้ไม่ได้ เพราะแกสามารถเสกส้มแล้วโยนลงไปในบ่อให้กลายเป็นหญิงสาวนอนดิ้นดุกดิกให้ดูได้ ท่านจึงขอเรียนกับอ.รินอยู่นานหลายเดือนจึงสำเร็จแล้วก็เดินธุดงค์กลับมาจ.สุพรรณบุรี พอกลับมาถึง หลวงพ่อจวบพระพี่ชายกำลังถูกส่งไปเป็นเจ้าอาวาสวัดบางใหญ่ หลวงพ่อก็ติดตามไปด้วย ทำให้ท่านได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ พระเกจิอาจารย์ดังในยุคนั้นตามกิจนิมนต์ต่างๆ เนื่องจากวัดอยู่ใกล้กัน จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากับหลวงพ่อครื้น และเดินลัดทุ่งไปเรียนกับท่านที่วัดสังโฆทุกเย็นเป็นเวลาสองสามปีจึงสำเร็จได้หัวใจตุ๊กแกไว้แต่เพียงผู้เดียว จากนั้นแล้วหลวงพ่อครื้นก็ไม่เคยมอบหัวใจนี้ให้ใครทั้งสิ้น หลวงพ่อทองเหมาะจึงเป็นศิษย์รูปเดียวที่ร่ำเรียนจนสามารถเสกตุ๊กแกร้องได้แบบหลวงพ่อครื้นผู้เป็นอาจารย์ แต่ตุ๊กแกของหลวงพ่อนั้นเก่งทางโชคลาภ มหาเสน่ห์และเตือนภัย ใครๆก็อยากได้ไว้ทั้งนั้น

 

เมื่องานไหว้ครูปีที่แล้วมีศิษย์ฆราวาสที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆไปจากท่านได้ทำมาถวายให้หลวงพ่อเสกในวันไหว้ครู ปรากฏว่าท่านเสกจนกับพระสวดแทบไม่ถูกเพราะมัวแต่มองตุ๊กแก คงไม่ต้องเล่าต่อนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น แหม.. หากใครไม่เคยเห็นตุ๊กแกเปิดคอนเสิร์ต ก็ไปดูท่านปลุกเสกได้ที่วัด หลังจากเสกเสร็จปรากฏว่าตุ๊กแกขนาดใหญ่หลายตัวถูกยื้อแย่ง หมดลงในพริบตา ตุ๊กแกของท่านนั้นคนที่ได้ไปมีโชคลาภดีตลอด หากงวดใดไม่ถูก ก็แบบว่าจะมีคนเอาโน่นเอานี่มาให้เอาของมาฝาก เอาสตางค์มาให้ หรืออาจได้รับมรดกแบบไม่รู้ตัว และก็มีไม่น้อยแบบว่ามีเพศตรงข้ามมาชอบ มาติดพันมากมาย แถมบางคนพกพาไปเล่นการพนันอีก แบบนี้ไม่น่าสนับสนุนเลย ไม่ควรทำตาม ผู้เขียนมีโอกาสได้มาตัวหนึ่งก็เห็นจะดีจริงตามนั้น แต่ที่แปลกมากๆก็เรื่องตุ๊กแกตัวเป็นๆที่ยกขบวนกันเข้ามาอยู่ในบ้านมากมาย ไม่รู้มาได้ไง เมื่อก่อนไม่เคยมี พอเอาตุ๊กแกของหลวงพ่อเข้ามาบูชาเท่านั้นแหล่ะ ได้ยินเสียงร้องมาจากห้องพระที่ตั้งบูชาก่อนเลย ต่อจากนั้นก็ถูกหวย แล้วก็ตามด้วยมีเด็กๆมาชอบมาติดพันหลายคน พร้อมๆกับตุ๊กแกจริงๆตัวเขื่องๆเข้ามาอาศัยร่วมชายคาหลายตัว ตกกลางคืนนี่ร้องกันระงมเลย จนทุกวันนี้ชินเสียแล้ว ยิ่งร้องยิ่งเฮงๆๆ เลยชอบที่เขาร้องกัน
ในช่วงต้นที่หลวงพ่อมาอยู่วัดบางใหญ่กับหลวงพ่อประจวบพระพี่ชายนั้นค่อนข้างลำบาก มีปัญหามาก เพราะกลุ่มอำนาจเก่าที่นั่นถูกปลดและกำลังเคืองอยู่ ปรากฏว่าคืนแรกหลวงพ่อก็ถูกอันธพาลเจ้าถิ่นซึ่งเป็นพวกที่ถูกปลดมาลอบยิงถึง ๓ แชะแต่ไม่ออกสักนัด พอหลวงพ่อฯหันไปเห็ มันตกใจวิ่งหนี หลวงพ่อ จึงหยิบขันมาเสกและคว่ำครอบไว้ที่พื้น พอเช้าพวกกรรมการวัดชุดใหม่มากราบ หลวงพ่อจึงสัพยอกบอกกรรมการวัดให้ไปปล่อยหมาที่ท่านขังไว้ใต้ถุนศาลาที แล้วหลวงพ่อก็หงายขันขึ้น พอกรรมการวัดลงไปใต้ถุนศาลาก็พบมือปืนนั่งจับเสาศาลาอยู่และสติฟั่นเฟือนกลายเป็นบ้าไป หลังจากข่าวนี้เริ่มแพร่สะพัด ชาวบ้านต่างก็พากันมาขอของดีแต่หลวงพ่อไม่มีอะไรให้เพราะไม่ได้สร้างวัตถุมงคล ท่านจึงเริ่มใช้วิชาอาคมสงเคราะห์ชาวบ้านด้วยการสักยันต์ ปรากฎว่าคนที่ได้สักไปแล้วก็ไปเกิดประสบการณ์ทางคงกระพันอีกมาก ทำให้ในแต่ละวันมีผู้คนที่รับทราบถึงเกียรติคุณมารอสักจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนตัวท่านเองแทบไม่มีเวลาพักผ่อน กระทั่งพระพี่ชายของหลวงพ่อซึ่งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอบางปลาม้าและเจ้าอาวาสวัดบางใหญ่ในสมัยนั้นขอร้องให้เลิกอยู่หลายครั้ง เพราะเป็นห่วงว่าพระน้องชายจะล้มป่วยประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาขอร้อง เพราะลูกศิษย์ท่านหนังดี เริ่มฮึกเหิมไม่เกรงกลัวกฏหมาย ในที่สุดหลวงพ่อจึงยอมเลิกโดยนำเข็มสักไปทิ้งแม่น้ำท่าจีนหน้าวัด เป็นการปิดตำนานสักมหาคงกระพันลง

 

เสือหล่อโบราณปลุกเสกเสาร์ ๕ ปีขาล ปี ๒๕๕๖

 

จากนั้นไม่นาน วัดชีปะขาว ต. ตะค่า ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านได้ว่างสมภารลง ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันไปขอหลวงพ่อมาเป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อประจวบ(พระพี่ชายของหลวงพ่อ) เลยตกลงส่งท่านมาตามคำขอ เมื่อมาอยู่วัดชีปะขาวแล้วหลวงพ่อก็เริ่มพัฒนาวัดจนเจริญผิดหูผิดตา ด้วยศีลาจารวัตรอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและอำนาจพุทธาคมที่สูงยิ่ง ทำให้ชาวบ้านเคารพและศรัทธาในตัวหลวงพ่อมาก จึงอยากได้ อยากมีวัตถุมงคลจากหลวงพ่อไว้บูชา หลวงพ่อจึงเริ่มทำตะกรุดสังวาลเพชรออกมา จนเกิดประสบการณ์มากมาย เช่นกรณี ลูกลุงร้านขายของชำหน้าวัด (ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม)ไปเที่ยวงานกาชาดจังหวัดแล้วเกิดเขม่นกับวัยรุ่นด้วยกันกระทั่งถูกแทงเข้าอย่างจังจนจุก แต่ไม่เข้าเพราะตะกรุดของหลวงพ่อนั่นเอง รายนี้ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ตามมากราบหลวงพ่อในเวลาต่อมาเป็นจำนวนมาก ส่วนอีกรายเป็นลูกเขยลุงชินแขวนเดี่ยวตะกรุดหลวงพ่อฯตลอดเวลา วันหนึ่งกลับไปเยี่ยมบ้านที่สมุทรปราการเกิดเมาแล้วทะเลาะกับพี่ชายตนเอง ถูกพี่ชายฟันเสื้อขาดกระจุยแต่ไม่เข้าสักแผล หากใครไปกราบหลวงพ่อแล้วลองแวะถามลุงชินดูได้ ลุงแกเป็นศิษย์หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว แกบอกว่าตั้งแต่เกิดมาเจอหลวงปู่เผือกเท่านั้นที่เป็นของจริง แล้วก็ยังไม่เคยเจอใครที่ไหนอีก จนกระทั่งมาได้เมียหน้าวัดนี้ ทำให้เจอหลวงพ่อทองเหมาะอีกองค์นี่หล่ะ ที่เป็นของจริง !!!!

 

ข่าวประสบการณ์ต่างๆที่เกิดต่อเนื่องขึ้นอย่างมากมายค่อยๆแพร่สะพัดออกไป ทำให้มีคนทยอยเดินทางมาขอบูชาตะกรุดกับหลวงพ่อแทบทุกวัน แต่ก็ต้องผิดหวังกลับไปเกือบหมดเพราะหลวงพ่อฯทำคราวละไม่กี่ดอกและไม่สร้างตะกรุดมานานเกือบหน้าปีแล้วเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาสุขภาพและสายตาไม่เอื้ออำนวยเขียนตะกรุดมากๆไม่ไหว เป็นเหตุให้คณะศิษยานุศิษย์ปรึกษาหารือกันขอให้หลวงพ่อจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นเรื่องเป็นราวสักครั้งเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของทุกคน (หลวงพ่อเคยสร้างเหรียญขึ้นมาครั้งหนึ่งจำนวน ๔ พิมพ์ แต่ปรากฏว่าระหว่างที่หลวงพ่อยังปลูกเสกอยู่กลับมีคนนำไปวางจำหน่ายในตลาด แสดงว่าโรงงานมีการสร้างเสริมออกมา และคงคิดว่าหลวงพ่อออกของแล้ว ท่านจึงเลิกปลุกเสก เก็บเอาไว้ไม่ออกให้บูชาและประกาศยกเลิกเหรียญรุ่นนี้ไป) พอหลวงพ่อฯทราบความจึงสั่งให้ไปทำ เสือหล่อโบราณ (ตามแนวเหรียญหล่อโบราณหลวงพ่ออ่ำ) จำนวน ๕๐๐ ตัว มาปลุกเสกในวันเสาร์ ๕ ปีขาล พ.ศ.๒๕๕๓ เนื่องจากหลวงพ่อเองเกิดปีขาลและมีความรักความชอบ ความชำนาญในการผูกพยนต์ลงเสือโดยท่านผูกและเลี้ยงเสือไม้ตัวใหญ่ของท่านไว้เอง ๒ ตัวมาเนิ่นนาน ชื่อ ไอ้เหลือง กับ ไอ้ดำ พระลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านต่างทราบกิติคุณของเสือ ๒ ตัวนี้ดี ถ้าหลวงพ่อฯไม่อนุญาติจะไม่มีใครกล้าแตะหรือแม้แต่จะคิดปัดฝุ่นเขาเลย เพราะมีคนเคยไปล่วงเกินแหย่เล่นเข้า ตกกลางคืนโดนฟัดเสียจับไข้มาแล้ว เสือ ๒ ตัวนี้นอกจากจะแก่กล้าทางมหาอำนาจจนใครๆกลัวแล้วเขายังแก่กล้าทางด้านโภคทรัพย์อีก หลวงพ่อท่านผูกทางเรียกทรัพย์ไว้ด้วย ท่านบอกเป็น เสือล่าทรัพย์ โดยเฉพาะไอ้เหลือง หลวงพ่อฯบอกว่าเก่งกว่าไอ้ดำ

 

และหากจะค้นหาวิชาผูกพยนต์ลงเสือของหลวงพ่อว่ามาจากไหนแล้วก็คงจะหนีไม่พ้นว่าต้นตำรับคงสืบมาจากหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย เพราะจากประวัติหลวงพ่อเนียมได้กล่าวว่า วันหนึ่งหลวงพ่อเนียมเอ่ยปากขอสำรับเพลจากชาวบ้านแถบนั้นจำนวน ๕๐ สำรับโดยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรที่ไหน เพียงแต่ท่านพูดแล้วอมยิ้มน้อยๆ ว่าถึงคราวแล้วรู้เองครั้นใกล้จะถึงเวลาเพลสำรับที่ขอชาวบ้านไว้ก็ค่อยๆ ทยอยมาสู่วัดครบตามจำนวนอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่ชาวบ้านก็ยังงงๆว่าหลวงพ่อเนียมจัดไว้ให้ใคร ไม่เห็นมีวี่แววว่าจะมีแขกมา แต่พอกลองเพลงดังลั่นขึ้นเท่านั้น หลวงพ่อปานวัดบางเหี้ย ซึ่งขณะนั้นก็เป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่เหมือนกัน พาภิกษุรวม ๕๐ รูป เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พอเดินทางมาถึงหน้าวัดน้อย ปรากฏว่าเกิดพายุขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน เป็นที่ผิดปกติ หลวงพ่อปาน จึงพูดกับพระลูกศิษย์ที่ติดตามท่านมาว่า "เอ เห็นจะต้องแวะที่วัดนี้เสียแล้วเจ้าของท้องที่เขาเชิญให้แวะ ไม่ควรขัดศรัทธา" จึงสั่งให้เรือจอดที่ท่าวัดน้อยแล้วพาภิกษุทั้งหมดขึ้นไปบนวัด ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับจากหลวงพ่อเนียมและชาวบ้านที่รออยู่ก่อนแล้วด้วยการถวายเพลแก่คณะหลวงพ่อปาน ทุกรูป

 

เสือมหากระดอนแกะ หลวงพ่อทองเหมาะ วัดชีปะขาว บูชาตัวละ 500 บาท จำนวนสร้าง 500 ตัว ปี 57 มีโค๊ดและหมายเลขกำกับ

 

ในครานั้นเองที่ทำให้ทั้งอาจารย์และศิษย์ของวัดน้อยกับวัดบางเหี้ยมีโอกาสได้รู้จักแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ตำรับเสือหลวงพ่อปานจึงถูกสืบข้ามสายสู่วัดน้อยตอนนี้เอง
หลวงพ่อเล่าว่า เสือเสาร์ ๕ ปีขาล หล่อโบราณ รุ่นแรก (ตอกโค๊ดทุกตัว) ของท่านนี้จะอุดมไปด้วย ตบะเดชะอำนาจ คงกระพันมหาอุตม์ มหาเสน่ห์ และเป็นสื่อโภคทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับฤกษ์ในวันเสาร์ ๕ พ.ศ.๒๕๕๓ ที่มีทั้งราชาฤกษ์ เพชรฤกษ์ และมหัทโนฤกษ์ ในวันเดียวกันและสอดคล้องกับพฤติกรรมของเสือที่ดุร้ายมีอำนาจเป็นที่ยำเกรงของคนและสัตว์ (มหาอำนาจตบะเดช)แต่ใครๆก็อยากเห็นเสือใกล้ๆ(มหาเสน่ห์)ขณะเดียวกันเสือก็เป็นสัตว์ที่อุดมสมบูรณ์กินครั้งหนึ่งแล้วก็มานอนไป ๒-๓ วันจนเกิดสำนวนเสือนอนกิน(อุดมโภคทรัพย์) เสือรุ่นแรกของหลวงพ่อฯนี้จึงเหมาะสำหรับ คนที่รับราชการหรือคนทั่วไปตัองการบารมีอำนาจปกครองคน เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง คนที่กำลังถูกรังแก (ผู้หญิงก็ใช้ป้องกันผู้ชายรังแก) หรือ คนที่ต้องการเครื่องรางทางคงกระพันมหาอุตม์ คนทั่วไปหรือพ่อค้าแม่ขายที่ต้องการมหาเสน่ห์และสื่อเรียกโภคทรัพย์ ต่อไปเสือนี้จะมีค่าหายาก ซึ่งก็คงจริงตามนั้น เพราะเสือรุ่นแรกนี้ออกมาเพียงสัปดาห์ก็หมดลงทันที เนื่องจากเกิดประสบการณ์ปืนแตก เป็นเหตุให้คนที่ไปช้าอดได้ ปัจจุบันมีผู้เช่าหาไปถึงหลักพัน

 

ความต้องการนั้นมีมากจริงๆแต่หลวงพ่อยังไม่ยอมจัดสร้างใหม่ ท่านบอกว่าจะจัดสร้างเสือใส่ในเหรียญรุ่นแรกของท่านที่จะออกเป็นทางการในปีนี้ แต่เมือปีที่ผ่านมา หลวงพ่อทนความรบเร้าของศิษย์ใกล้ชิดไม่ได้ เลยต้องจัดสร้างแบบขัดตาทัพให้พวกศิษย์ใกล้ตัวไปก่อน โดยนำวิชามหากระดอน ซึ่งเป็นวิชาเอกสายหลวงพ่อเนียมวิชาหนึ่งที่หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ก็ได้สืบไป แล้วหลวงพ่อฤๅษีลิงดำนำไปทำตะกรุดมหาสะท้อน มาลงเสือที่แกะจากไม้กระท้อน เรียกว่า เสือมหากระดอน สร้าง ๑๐๘ ตัว และตะกรุดหนังเสือมหาอุตม์ที่เขียนจากหนังเสือแท้ๆจำนวน ๑๐๘ ดอก ออกให้บูชาทดแทนความต้องการเสือรุ่นแรกหล่อโบราณเสาร์๕ พร้อมกันนั้น หลวงพ่อได้จัดสร้างพระขุนแผนออกศึกรุ่นแรกของท่าน จำนวน ๑,๓๐๐ องค์ ให้ศรัทธาญาติโยมที่มาแสดงมุทิตาจิตเนื่องในงานอายุวัฒนะมงคลครบ ๗๒ปี (๑๒ ก.พ.พ.ศ.๒๕๕๔) ได้บูชา ขุนแผนรุ่นแรกนี้มีจีวรประทับยันต์ธงออกศึกของหลวงพ่อปิดที่หลังทุกองค์ เก่งทั้งรักและรบ แถมยังเก่งในด้านโชคลาภ เพราะหลวงพ่อแจกไปก็บอกให้กลับนะ กลับนะ คนทั่วๆไปได้ยินก็นึกว่าหลวงพ่อให้กลับหลังดูยันต์บนจีวรที่ปิดอยู่ แต่พวกเล่นหวยรู้ทันทีเลยว่าหลวงพ่อบอกให้ทำอะไร เพราะปกติหลวงพ่อเป็นพระไม่พูด แต่คราวนี้ท่านสั่งแบบนี้ย่อมมีนัยยะแอบแฝงแน่ เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวบ้านหัวดีและศิษยานุศิษย์ที่ไปร่วมงานมุทิตาจิตที่ได้รับพระขุนแผนกลับไปในวันนั้นถูกหวยกันเป็นจำนวนมาก เพราะหวยงวดนั้นออก ๒๗ กลับจากอายุท่านพอดี

 

ความต้องการนั้นมีมากจริงๆแต่หลวงพ่อยังไม่ยอมจัดสร้างใหม่ ท่านบอกว่าจะจัดสร้างเสือใส่ในเหรียญรุ่นแรกของท่านที่จะออกเป็นทางการในปีนี้ แต่เมือปีที่ผ่านมา หลวงพ่อทนความรบเร้าของศิษย์ใกล้ชิดไม่ได้ เลยต้องจัดสร้างแบบขัดตาทัพให้พวกศิษย์ใกล้ตัวไปก่อน โดยนำวิชามหากระดอน ซึ่งเป็นวิชาเอกสายหลวงพ่อเนียมวิชาหนึ่งที่หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ก็ได้สืบไป แล้วหลวงพ่อฤๅษีลิงดำนำไปทำตะกรุดมหาสะท้อน มาลงเสือที่แกะจากไม้กระท้อน เรียกว่า เสือมหากระดอน สร้าง ๑๐๘ ตัว และตะกรุดหนังเสือมหาอุตม์ที่เขียนจากหนังเสือแท้ๆจำนวน ๑๐๘ ดอก ออกให้บูชาทดแทนความต้องการเสือรุ่นแรกหล่อโบราณเสาร์๕ พร้อมกันนั้น หลวงพ่อได้จัดสร้างพระขุนแผนออกศึกรุ่นแรกของท่าน จำนวน ๑,๓๐๐ องค์ ให้ศรัทธาญาติโยมที่มาแสดงมุทิตาจิตเนื่องในงานอายุวัฒนะมงคลครบ ๗๒ปี (๑๒ ก.พ.พ.ศ.๒๕๕๔) ได้บูชา ขุนแผนรุ่นแรกนี้มีจีวรประทับยันต์ธงออกศึกของหลวงพ่อปิดที่หลังทุกองค์ เก่งทั้งรักและรบ แถมยังเก่งในด้านโชคลาภ เพราะหลวงพ่อแจกไปก็บอกให้กลับนะ กลับนะ คนทั่วๆไปได้ยินก็นึกว่าหลวงพ่อให้กลับหลังดูยันต์บนจีวรที่ปิดอยู่ แต่พวกเล่นหวยรู้ทันทีเลยว่าหลวงพ่อบอกให้ทำอะไร เพราะปกติหลวงพ่อเป็นพระไม่พูด แต่คราวนี้ท่านสั่งแบบนี้ย่อมมีนัยยะแอบแฝงแน่ เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวบ้านหัวดีและศิษยานุศิษย์ที่ไปร่วมงานมุทิตาจิตที่ได้รับพระขุนแผนกลับไปในวันนั้นถูกหวยกันเป็นจำนวนมาก เพราะหวยงวดนั้นออก ๒๗ กลับจากอายุท่านพอดี

 

ขุนแผนออกศึก บูชาองค์ละ 400 บาท

 

เมื่อจัดสร้างวัตถุมงคลออกมาครั้งใด จะหมดลงอย่างรวดเร็วและมีประสบการณ์มากมาย จนเป็นที่จับตาของเหล่าบรรดาลูกศิษย์และเซียนพระที่ต้องคอยเช่าบูชาให้ทันก่อนของจะหมดทุกครั้งไป และนี่ก็เป็นอีกวาระหนึ่งเช่นกัน ที่หลวงพ่อทองเหมาะท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อสืบสานพุทธาคม สายหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ (วัดสังโฆสิตาราม จ.สุพรรณบุรี)เจ้าของตำนานตุ๊กแกร้องได้ หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองสุพรรณบุรี ที่ท่านได้เรียนสืบวิชานี้ไว้เมื่อครั้งเป็นหนุ่ม โดยตอนนั้นท่านได้เดินทางลัดเลาะทุ่งนาเพื่อไปเรียนวิชา กับหลวงพ่อครื้นจนหลวงพ่อครื้นเห็นความตั้งใจจึงมอบหัวใจพระคาถาตุ๊กแกและเคล็ดการปลุกเสกให้ แบบที่ไม่เคยให้ศิษย์คนใดมาก่อนก็ว่าได้
ตุ๊กแกมหาเสน่ห์และตุ๊กแกเรียกทรัพย์ หลวงพ่อทองเหมาะท่านจัดสร้างทั้งขนาดพกพา ขนาดบูชาและตัวครู นับเป็นครั้งแรกที่หลวงพ่อทองเหมาะได้จัดสร้างตุ๊กแกตามตำรับหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ เป็นตุ๊กแกมหาเสน่ห์และตุ๊กแกเรียกทรัพย์ซึ่งท่านได้จัดสร้างขนาดพกพาอย่างละ ๑,๕๐๐ตัว ขนาดบูชา(ยาว ๗.๒ นิ้ว)สร้างเพียง ๓๐๐ ตัว และตัวครู(ยาว ๑๗.๕ นิ้ว)สร้างเพียง ๕ คู่เท่านั้น ตุ๊กแกเรียกทรัพย์สร้างจากผงมหาจินดามณี โรยหลังด้วยธนบัตรโชคลาภ เพื่อเป็นเคล็ดให้ตุ๊กแกนี้เรียกทรัพย์ เรียกโชคลาภ ส่วนตุ๊กแกมหาเสน่ห์ท่านนำว่านตองแตก(แหย่แย้)และว่านมหาเสน่ห์ รักซ้อน มาผสมเป็นมวลสารแล้วโรยหลังด้วยพลอย เนื่องด้วยพลอยนั้นเป็นของสวยงาม มีเสน่ห์ดึงดูดในตัว สาวๆทุกคนเห็นพลอยเป็นต้องชอบ ต้องเดินเข้าไปหาและหยิบจับมาชื่นชม พลอยนี่แหละดึงดูดสาวๆดีนัก จากนั้นปลุกเสกด้วยพระคาถาหัวใจตุ๊กแกตามตำราที่สืบทอดมาจากพระอาจารย์อีกครั้งส่วนว่านตองแตกหรือไม้แหย่แย้ ที่เรียกไม้แหย่แย้เพราะว่า ถ้านำไม้นี้ไปแหย่รูแย้ มันจะอ่อนระทวยเกาะติดไม้ออกมาให้เราจับแต่โดยดี โบราณจึงเชื่อว่าว่านชนิดนี้มีพุทธคุณด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหาละลวย ดึงดูดใจคน และสามารถพกเป็นเครื่องรางของขลังด้านโชคลาภได้ด้วย จึงมั่นใจได้ว่าพุทธคุณทางเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยมจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าทวี!!! ส่วนขนาดบูชาและตัวครู ท่านใช้ดินศักดิ์สิทธิ์สถานที่ต่างๆ มารวมปั้นเป็นตัวตุ๊กแก แล้วนำน้ำคั้นจากใบว่านตองแตกมาทาลงบนตัวตุ๊กแกด้วย จากนั้นบรรจุปลุกเสกอัดอีกรอบเป็นตุ๊กแกที่มีพุทธคุณทั้งเรียกทรัพย์และเมตตามหาเสน่ห์ในตัวเดียว! ขนาดจิ้งจกตัวเป็นๆยังกระโดดลงมาเกาะ คิดดูก็แล้วกันว่ามหาเสน่ห์แรงแค่ไหนส่วนในพิธีปลุกเสกตุ๊กแกของท่านก็เปิดคอนเสิร์ตมาแล้ว อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ลองไปถามหลวงพ่อและศิษย์ใกล้ชิดดูได้แล้วโรยหลังด้วยพลอยปลุกเสก พุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยมยิ่งนัก จากนั้นนำมาปลุกเสกอัดด้วยหัวใจตุ๊กแกตามตำราที่สืบทอดมาจากพระอาจารย์ ซึ่งวิชานี้หลวงพ่อครื้น อมโร หรือพระครูโฆสิตธรรมสาร แห่งวัดโฆสิตาราม ท่านได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์ชาวเขมร เมื่อครั้งที่ท่านออกเดินธุดงค์ไป และนำกลับมาจัดสร้างเป็นตุ๊กแกมหาลาภ ซึ่งตุ๊กแกนี้หลวงพ่อครื้นท่านสร้างจากดินศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ต่างๆ นำมารวมปั้นเป็นตัวตุ๊กแก และบรรจุปลุกเสกด้วยอาคม มีพุทธคุณโดดเด่นทางเรียกทรัพย์ มีโชค มีลาภ ทำมาค้าขึ้น แต่การปลุกเสกตุ๊กแกของหลวงพ่อครื้นนั้น ท่านจะต้องทำการปลุกเสกในมุ้งทุกครั้งไป... จนกระทั่งปัจจุบัน นับเป็นครั้งแรกที่หลวงพ่อทองเหมาะ ท่านได้จัดสร้างและปลุกเสกวิชาที่หลวงพ่อครื้นท่านถ่ายทอดไว้ให้โดยไม่ผิดเพี้ยน ปลุกเสกจนเกิดปาฏิหารย์ตุ๊กแกกระดิกหาง แลบลิ้นแผลบๆ โห่ร้องตุ๊กแก ตุ๊กกก....แกกกก ๆๆๆ จนผู้ร่วมพิธีบางคนตกใจถึงขั้นร้องกรี๊ดขึ้นมาก็มี ตัวไหนที่กระโดดออกนอกพิธีกรรม ลูกศิษย์ที่เห็นต่างแย่งกันเก็บและครอบครองทันที จนกระทั่งหลวงพ่อทองเหมาะปลุกเสกเสร็จ บรรดาตุ๊กแกทั้งหลายจึงเงียบสงบลง และหลวงพ่อได้เอ่ยสำทับอีกว่า “ดีแล้ว หลวงพ่อครื้นมาเสกเอง”


ตุ๊กแกขนาดพกพา บูชาตัวละ 199 บาท
สีเขียวเป็นมหาเสน่ห์ มหานิยม โรยด้วยพลอย
สีขาวเรียกทรัพย์ ทำมาค้าขาย โรยด้วยแบงค์