รายงานภัยพิบัติประจำวัน

ตารางสรุปสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ วันที่ 14 สิงหาคม 2556

<a href="http://pic.free.in.th/id/a5cd21ed3a4f6ccadaa0ac5caebfa977" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/it/130814022450.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

14:00 ไต้ฝุ่นอูตอร์ลดกำลังจาก CAT2 เป็น CAT1 ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 80 น็อต เข้าประชิดฝั่งที่เมืองเม่าหมิง เขตอิทธิพลลมส่งผลถึงฮ่องกง กวางเจา และหลายเมืองสำคัญ

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/a691e27a459ea569864bfc924737877b" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ih/130814042016.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

<a href="http://pic.free.in.th/id/1a27e8972d6008d2a69bdf696d9bec30" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ib/130814042102.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

ปภ.เตือน27จังหวัดฝนตกหนัก13-16ส.ค.นี้



นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 13 - 16 ส.ค.นี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะพัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกพื้นที่ 27 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมาชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง จึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งระยะนี้

ทั้งนี้ ได้ประสาน ปภ.ทั้ง 27 จังหวัดเสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์เพื่อเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย เฝ้าระวังแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเพื่อให้สามารถประกาศอพยพนักท่องเที่ยวอย่างทันท่วงที

 

07:00 พายุโซนร้อนอูตอร์ อยู่ที่พิกัด N23°05′ E111° ความเร็วลมใกล้ศูนย์ 50 น็อต แนวโน้มอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ ทาง JTWC ออก Final Warning แล้ว

 

น้ำท่วม “ลาดยาว” ขยายวง เจอฝนซ้ำ

นครสวรรค์ - พื้นที่ย่านเศรษฐกิจ-ชุมชนโดยรอบของอำเภอลาดยาว เมืองปากน้ำโพอ่วมเพิ่ม หลังน้ำท่วมขยายวงกว้าง และเพิ่มระดับต่อเนื่อง แถมเจอฝนถล่มซ้ำ

รายงานข่าวจากจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (14 ส.ค. 56) ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชนโดยรอบของ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ได้เพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นอีก หลังพนังกั้นน้ำระหว่างคลองขุนราช กับพื้นที่เศรษฐกิจของ อ.ลาดยาว พังลง นอกจากนี้ยังมีฝนตกอย่างหนักในพื้นที่อีก ทำให้ระดับน้ำที่เอ่อท่วมเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ประชาชนเร่งกรอกกระสอบทรายทามกลางสายฝน

ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลลาดยาว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ และกำลังพลทหารจาก มทบ.31 ได้ลงพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพิ่มเติม เพื่อเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังออกอย่างเต็มที่ แต่ล่าสุดเช้าวันนี้ (15 ส.ค.56) น้ำท่วมยังคงขยายวงกว้าง และมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ















โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 สิงหาคม 2556

 

ลาดยาวอ่วม เจอน้ำป่าทะลักท่วม



จากกรณีเกิดน้ำป่าจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ไหลบ่าเข้าท่วมสถานที่ท่องเที่ยวแก่งเกาะใหญ่ และนาข้าวของชาวบ้านทั้งใน อ.แม่วงก์ และ อ.ลาดยาว หลายร้อยไร่ รวมถึงยังท่วมถนนสายลาดยาว-แม่วงก์อีกหลายจุด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.ลาดยาว ยังคงมีน้ำป่าไหลเข้ามาสมทบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลลาดยาว พบว่า ยังมีระดับน้ำท่วมขังสูงเฉลี่ย 10-70 ซม.

ส่วนพื้นที่ ต.วังซ่าน อ.แม่วงก์ และ ต.ลาดยาว ต.ศาลเจ้าไก่ต่อ ต.สระแก้ว ต.บ้านไร่ ต.หนองนมวัว ต.เนินขี้เหล็ก อ.ลาดยาว พบว่าบางแห่งในพื้นที่ต่ำ มีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 100 ซม. เช่นเดียวกันกับถนนสาย อ.ลาดยาว มุ่งหน้าสู่ อ.แม่วงก์นั้น พบว่า มีน้ำท่วมถนนหลายสูงจุด ตั้งแต่บริเวณหน้าที่ทำการเทศบาล ต.ลาดยาว ไปจนถึง ต.ศาลไก่ต่อ จนรถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งในส่วนของการบรรเทาความเดือดร้อน ทางอำเภอลาดยาวได้นำทรายมากองไว้ที่บริเวณหน้าที่ทำการ โดยมีประชาชนจำนวนมาก เร่งนำทรายกรอกใส่กระสอบ เพื่อนำไปทำเป็นแนวกั้นในที่ของตนเอง

นายธีรวัฒน์ สุดสุข นายอำเภอลาดยาว เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ มีพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด จำนวน 48 หมู่บ้านใน 6 ตำบล โดยมีราษฏรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 1,250 ครัวเรือน 3,858 ราย และนอกจากนี้ ยังมีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอีกกว่า 8,000 ไร่ด้วย ส่วนถนนหนและสิ่งก่อสร้างที่ได้รับความเสียหาย กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งสาเหตุที่เกิดอุทกภัยน้ำป่าในครั้งนี้ เนื่องจากเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.แม่วงก์ จึงทำให้มีมวลน้ำป่าจำนวนมาก ไหลบ่าลงสู่ที่ต่ำอย่างรวดเร็ว โดยน้ำได้ไหลเข้าฝายยายไข่ ต.วังซ่าน ก่อนจะผ่านลงสู่คลองต่างๆ จนกระทั่ง มาถึง อ.ลาดยาว

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ นายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะกรรมการมูลนิธิฯ นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้แก่ราษฎรที่ประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ อ.ลาดยาว จำนวน 1,000 ครัวเรือน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ โดยมีนายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ และหัวหน้าส่วนราชการ มาร่วมให้การต้อนรับ และร่วมกันมอบสิ่งของช่วยเหลือ ซึ่งสร้างความปราบปลื้มให้แก่ราษฎรที่ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้น ปรากฏว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือนางพะเยา ตรีรัตน์ อายุ 68 ปี ถูกกระแสไฟฟ้ารั่วภายในบ้านไฟช็อต ขณะกำลังเดินลุยน้ำมาหยิบสิ่งของ ช่วงกลางดึก ส่วนสถานการณ์ทั่วไป พบว่า ทางโรงเรียนหลายแห่งในเขต อ.ลาดยาว ได้สั่งปิดเรียนไม่มีกำหนด จนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งมีการคาดการกันว่า หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มในพื้นที่ อ.แม่วงก์ซ้ำอีก ภายใน 1-2 วันนี้ สถานการณ์จะคลี่คลายเบาบางลง แต่ล่าสุด มวลน้ำป่าที่ไหลผ่าน อ.ลาดยาว ได้ไหลเข้าท่วมสายนครสวรรค์-ลาดยาว ช่วงบริเวณบ้านหนองนมวัว เป็นระยะทางกว่า 300 เมตร อีกทั้ง น้ำยังไหลบ่าเข้าสู่ อ.บรรพตพิสัย และบางแห่งของ อ.เมืองนครสวรรค์แล้ว.











ที่มา/เดลินิวส์ออนไลน์

 

เพลิงไหม้'โรบินสัน บางรัก'ขณะปิดปรับปรุง จนท.คุมไว 1ชม.ดับ



เพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้า "โรบินสัน บางรัก" โชคดีอยู่ระหว่างปิดปรับปรุง พนักงานรักษาความสะอาดสำลักควันเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 1 ชม.ในการดับไฟ เพลิงจึงสงบ...
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาบางรัก กทม. ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหาร โดยหลังเกิดเหตุไม่นาน เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ระดมเครื่องฉีดน้ำสกัดไฟ พร้อมเร่งระบายควันออกจากตัวอาคาร สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาในบริเวณใกล้เคียง กระทั่งเมื่อเวลา 11.20 น. จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้



ทั้งนี้ ภายหลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นพนักงานทำความสะอาดของห้างดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันไฟ 1 ราย

ขณะที่จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่าต้นเพลิงเกิดจากกองวัสดุที่ติดไฟขึ้นมา คาดว่าอาจได้รับประกายไฟจากการซ่อมแซมงานท่อสายไฟเก่า ที่บริเวณชั้น 1 ก่อนที่กลุ่มควันจะลอยเข้าปล่องระบายอากาศและออกสู่นอกอาคาร บริเวณชั้นที่ 3 และ 4 ส่วนกองวัสดุดังกล่าว เป็นวัตถุดิบและวัสดุที่ใช้ในการซ่อมแซม ปรับปรุงห้างฯ เนื่องจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ห้างฯ ดังกล่าวอยู่ระหว่างปิดปรับปรุง ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นมา.





ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์