รายงานภัยพิบัติประจำวัน

น้ำท่วมเมืองจันทบุรียังวิกฤต ระดับน้ำขยายวงกว้างเข้าสู่พื้นที่ชั้นในตัวเมือง

จันทบุรี - ระดับน้ำท่วมเมืองจันทบุรี ยังวิกฤต หลังกระแสน้ำป่าจากอำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอมะขาม ไหลเข้ามาสมทบในแม่น้ำจันทบุรี ทำให้พื้นที่ชั้นในตัวเมืองมีน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอีก

วันนี้ (25 ก.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจในเขตอำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ยังคงวิกฤตต่อเนื่อง ทั้งนี้ อันเนื่องมาจากได้มีกระแสน้ำป่าจากพื้นที่อำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอมะขาม เริ่มไหลเข้ามาสมทบ ทำให้ในพื้นที่เขตชั้นในอำเภอเมืองซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำ โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี เทศบาลตำบลจันทนิมิต และเทศบาลตำบลท่าช้าง ซึ่งมีพื้นที่อยู่ติดกับแม่น้ำจันทบุรี ได้มีน้ำล้นตลิ่งไหลเอ่อเข้าท่วม โดยพื้นที่วัดปริมาณน้ำท่วมสูงสุดกว่า 1.30 เมตร

ขณะนี้พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม คือ บริเวณวิทยาลัยนาฏศิลป์ วิทยาลัยสารพัดช่าง ชุมชนบ้านหัวแหลม ตำบลท่าช้าง ชุมชนบ้านดอนตาล ตำบลจันทนิมิต ชุมชนบ้านลุ่ม หมู่บ้านไชยยันต์ ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี วันนี้วัดได้ที่ 3.80 เมตร เกินจุดวิกฤต 3.45 เมตรแล้ว และพร้อมที่จะไหลล้นตลิ่งเข้าบ้านของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำจันทบุรี ทั้ง 2 ฝั่ง ชาวบ้านเริ่มที่จะมีการยกสิ่งของไว้ในที่สูง และบางครอบครัวเริ่มที่จะอพยพออกนอกพื้นที่เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก และระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับพื้นที่ต้นน้ำ คือ อำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอมะขาม มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ลงพื้นที่สำรวจพร้อมเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเมืองจันทบุรี โดยเฉพาะการระบายน้ำจากเขตจันทนิมิต ลงทุ่งสระบาป และน้ำจากเขตเมือง ลงคลองน้ำใส โดยการนำเครื่องจักรกล รถแบ็กโฮเร่งขุดทางระบายน้ำเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี มีคำสั่งให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรีให้รีบขนย้าย ยกสิ่งของขึ้นที่สูง คาดว่าประมาณ 7 ชั่วโมง จะมีกระแสน้ำป่าจากอำเภอมะขาม และอำเภอเขาคิชฌกูฏ จะไหลลงมาสมทบในแม่น้ำจันทบุรี และจะทำให้เกิดน้ำท่วมสูงในพื้นที่เศรษฐกิจในตัวเมืองจันทบุรี และจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมใน 7 อำเภอ ของจังหวัดจันทบุรี ยังทรงตัว เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมขัง มีการตั้งโรงครัวปรุงอาหารสดแจกจ่ายผู้ประสบภัย และตั้งจุดรับบริจาคสิ่งของ และเงินที่ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยราษฎรชาวจังหวัดจันทบุรี มูลนิธิราชประชานุเคราะห์มอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,000 ชุด ที่หอประชุมอำเภอมะขาม ในเวลาบ่าย 2 โมงวันนี้

ส่วนพื้นที่ประสบภัยรวม 7 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง อำเภอมะขาม อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอกิ่งหางแมว และอำเภอเขาคิชฌกูฏ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 21 ตำบล 141 หมู่บ้าน 19 ชุมชน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 6,500 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 8,000 ไร่ โรงเรียน สถานศึกษาประกาศปิดโรงเรียน 14 แห่ง ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ออกประกาศเตือนประชาชนอย่าลงแช่น้ำเป็นเวลานาน ควรใส่รองเท้าบูตป้องกันโรคฉี่หนู และโรคน้ำกัดเท้า













โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กรกฎาคม 2556

 

น้ำท่วมจันทบุรี-ตราดเริ่มคลี่คลาย เตือน 13 จ.เหนือรับมือฝน



"มท.3" เตรียมลงพื้นที่จันทบุรี ดูความเสียหายน้ำท่วม กำชับสื่อสารแจ้งเหตุ-เร่งช่วยชาวบ้าน ด้าน ปภ.เตือน 13 จว.ภาคเหนือ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก 25-26 ก.ค. เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคตะวันออก เผยจันทบุรียังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่เมืองทองธานี นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.จันทบุรี ว่า จากรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย ขณะนี้น้ำใน จ.จันทบุรี เริ่มลดลง แต่ในบางพื้นที่ยังมีปริมาณน้ำฝนมากถึง 400 มิลลิเมตร ทำให้น้ำระบายได้ช้า สำหรับสิ่งที่ขอให้ดูแลใกล้ชิดคือ การสื่อสารและการแจ้งข่าวให้ประชาชนทราบถึงการเตือนภัยล่วงหน้า และการเข้าไปรับความช่วยเหลือ ทั้งนี้ ตนจะเดินทางไป จ.จันทบุรี ในวันเดียวกันนี้ เพื่อลงไปดูสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่
ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคตะวันออก ช่วงวันที่ 23–24 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด โดย จ.สระแก้ว และ จ.ปราจีนบุรี สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วน จ.จันทบุรี เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 7 อำเภอ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จากการพลัดตกน้ำ 1 ราย และถูกไฟฟ้าดูด 1 ราย ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบัน ยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในเขตเทศบาลเมืองและเขตเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด
ส่วน จ.ตราด ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เขาสมิง ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากถนนและพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งมีน้ำท่วมขังในระดับสูง พร้อมนำเรือท้องแบน รถแบ็กโฮ และรถบรรทุกออกปฏิบัติการเผชิญเหตุ ขนย้ายสิ่งของ สนับสนุนการอพยพและช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งนำเครื่องอุปโภคบริโภค ถุงยังชีพ ข้าวกล่อง และน้ำดื่มสะอาด แจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย

นายฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย มีกำลังแรงต่อเนื่อง ประกอบกับร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือ ทำให้มีฝนตกชุกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงภัย 13 จังหวัด ประกอบด้วย ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน
ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ได้ประสาน 13 จังหวัดเสี่ยงภัย และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันที.


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สำหรับคนในพื้นที่ต้องเฝ้าระวังกันหน่อยครับ

 

ภาพถ่ายจากดาวเทียม GOES9 ประจำวันที่ 26-07-13

 

สำหรับคนในพื้นที่ต้องเฝ้าระวังกันหน่อยครับ