รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

และแล้วลางสังหรณ์เมื่อ 1 อาทิตย์ที่แล้ว ก้อได้เกิดขึ้นจริง

.

 

ภาคเหนือ กับ แผ่นดินไหว เป็นเรื่องปกติของพื้นที่ ที่ไหนมีภูเขา ที่นั่นมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ภูเขาทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ คือผลจากการเคลื่อนที่ของแผ่นอินโด-ออสเตรเลีย ในทิศทางมุ่งตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วก็มาผลักแผ่นทวีปยูเรเซีย จนธรณีสัณฐานเกิดการโก่งตัวเกิดเป็นแนวภูเขาด้านแนวซ้ายของประเทศตั้งแต่เหนือลงไปถึงภาคใต้ แต่บริเวณที่มีการเคคลื่อนตัวมากที่สุดคือ ทางเหนือของประเทศไทย ระหว่างพม่ากับจีน จากภาพข้างบนเราจะเห็นร่องรอยการผลักของแผ่นอินโด-ออสเตรเลียอย่างชัดเจน ทิ่มและพุ่งเข้าไปในแผ่นทวีปยูเรเซียเยอะมาก ด้วยเหตุนี้ โซนทางเหนือของไทยระหว่างพม่ากับจีน จึงเกิดแผ่นดินไหวอยู่ทุกวัน

ส่วนความรุนแรงและจะบ่อยขนาดไหน คงตอบไม่ได้ เราจะรู้ก็ต่อเมื่อมันได้เกิดขึ้นแล้ว

.

 

จุดศูนย์กลางบนพื้นดินของแผ่นดินไหว จากสำนักดัง USGS, GEOFON, EMSC, สำนักวัดความสั่นสะเทือนเชียงใหม่ ส่วนสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว พิกัดที่ระบุในแผนที่กับประกาศเตือน ไม่ตรงกัน





.

 

ใครที่คิดจะย้ายไปภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะเชียงใหม่กับเชียงราย ต้องทำใจกับภัยแผ่นดินไหวครับ เพราะสักวันหนึ่งอาจเป็นภัยใกล้ตัวที่ควรตระเตรียมการป้องกันและแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้า เพราะในภาวะฉุกเฉินขั้นรุนแรงจะหาคนช่วยเหลือคงลำบาก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ครับ



.

 

กาลเวลา จะทิ้งร่องรอยให้เรา เอาไว้ศึกษาเสมอ

ให้สังเกตความแตกต่างของ บริเวณหมายเลข 1, 2 และ 3 ซึ่งอัตราเร่งของการเคลื่อนของเปลือกโลกทั้ง 3 บริเวณไม่เท่ากัน ร่องรอยทางธรณีวิทยาบอกเราว่า โซนหมายเลข 3 มีอัตราเร่งที่สูงสุด ดูจาก curve การโค้งเว้าของแนวภูเขา ส่วนโซนที่ 2 ดูจากแนวโค้งเว้าของไหล่ทวีปตามแนวมุดสอด แรงผลักดันจากแผ่นอินโด-ออสเตรเลียที่เกิดขึ้นจากการขยายตัวของพื้นท้องมหาสมุทร จะส่งแรงผลักเป็นโดมิโนไปทางด้านหน้าตามทิศทางการเคลื่อนที่ของลูกศรเรื่อยๆ การเคลื่อนที่ของเปลือกโลกเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ที่โลกได้กำเนิดขึ้นมา มีการขยับเคลื่อนที่อยู่ทุกวันไม่มีวันหยุด แต่เราไม่รู้สึก เพราะมันเกิดวันละนิด เหมือนเราผลักก้อนหินใหญ่ โดยการค่อยๆออกแรงที่ละนิด ช่วงระยะแรกก้อนหินจะไม่ขยับ ผ่านไปสักระยะหนึ่งเราจะรู้สึกตึงมือตึงแรง เหมือนจะใกล้ขยับแล้ว เมื่อเราพยายามออกแรงให้มากขึ้นๆ จนแรงที่เราผลักเอาชนะมวลของก้อนหินได้ ก้อนหินก็จะเริ่มขยับตัว และเคลื่อนที่ไปข้างหน้า การเกิดแผ่นดินไหวก็มีหลักการเดียวกัน มีการสะสมพลังงานไปเรื่อยๆจนความเครียดในชั้นหินถึงจุดสูงสุดไม่สามารถทนต่อแรงผลัก(แรงเค้น) จนแตกหักพังทลายในที่สุด กระบวนการเหล่านั้นเกิดขึ้นใต้พื้นดิน เราไม่สามารถมองเห็นได้ จนกระทั่งมีการขยับตัว การขยับตัวที่รุนแรงจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกบนพื้นดินด้วย




.

 

ไม่อยากจินตนาการเลยว่า รอยนี้บนดาวอังคารจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวแรงขนาดไหน?
และเกิดขึ้นได้อย่างไร?

 

คอยดูแผ่นดินไหวเมื่อวานนี้จะมีหมอเดาและผู้วิเศษจำนวนมาก รวมถึงนักกลัวตาย
ทั้งหลายจะมากระพือกระแสนี้กันอย่างล้นหลาม เพราะนี่คือช่วงเวลากอบโกยล่ะ

 

บริเวณวัลลีสมาริเนอริส (Valles Marineris) บนดาวอังคารซึ่งนักดาราศาสตร์คาดว่าเกิดจากการเลื่อนของแผ่นเปลือกดาว (จาก MOLA Science Team)

ข่าวดาราศาสตร์ : พบแผ่นเปลือกดาวเลื่อนบนดาวอังคาร

.

 

จุดเกิดแผ่นดินไหว เทียบกับ แผนที่เตือนเขตเสี่ยงภัยแบบแบ่งโซนความรุนแรง ของกรมทรัพยากรฯ ปี 2005




อันนี้ของต่างประเทศ ที่ค่อนข้างละเอียดกว่า



.

 

เป็นข่าวนานเเล้วตั้งแต่ปี๕๕ แต่ยังน่าสนใจอยู่ เป็นอีกหนึ่งความรู้ ที่หลายคนบอกงมงาย
แต่ก็มีและศึกษากันมา น้อยคนที่จะลึกซึ้ง เอามาลงให้เป็นอีกทางหนึ่งเพื่อศึกษากันครับ



นิตยสารต่วย’ตูนพิเศษ ฉบับเดือนเมษายน 2555 เน้นเรื่องในเล่ม “คัมภีร์สุริยยาตร์” ปฏิทินการเกิดแผ่นดินไหวในคาบสมุทรทะเล จีนใต้ ไว้ที่ภาพปกเหมือนกับ “คุณต่วย” วาทิน ปิ่นเฉลียว บก.ใหญ่ จะรู้ล่วงหน้าว่า จะเกิดแผ่นดิน ไหวครั้งใหญ่ ขนาด 8.7 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา

“อัฏฐสิทธา” และอัตถนิช โภคทรัพย์ ผู้เขียนเรื่อง เล่าความสำคัญของคัมภีร์สุริยยาตร์ คัมภีร์ของวิชาโหราศาสตร์ เป็นคัมภีร์ภาคคำนวณที่พัฒนามาจากโครงสร้างของท้องฟ้าในไตรภูมิ...

นี่คือหนึ่งในหลายหลักฐาน ที่ยืนยันว่า ชนชาติสยามคือทายาทสายตรง ของอารยธรรมโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ปฏิทินแผ่นดินไหว เป็นเกร็ดสัจจพจน์ ตามกฎเกณฑ์การคำนวณในคัมภีร์สุริยยาตร์ ไม่เคยมีการนำมาใช้ ทีมงานดึงรายละเอียดข้อมูลส่วนนี้ออกมาวิเคราะห์จากความสัมพันธ์กับตำนาน “อสุรินทราหู”

คนไทยรู้จักอสุรินทราหู คือยักษ์ใหญ่ที่ถูกจักรพระนารายณ์ ตัดขาดเป็น 2 ท่อน ขณะที่นักปราชญ์โบราณที่ค้นพบเรื่องนี้ เรียก “พลวัต”ที่อยู่เบื้องหลังการจัดระเบียบโคจร ระหว่างโลก และดวงจันทร์ว่า อสุรินทราหู

อธิบายว่า...ตอนเริ่มกำเนิดโลกในระบบสุริย-จักรวาล โลกและดวงจันทร์เคยเป็นมหาเมฆก้อนเดียวกันมาก่อน

ตอนที่เกิดแรงเหวี่ยง เพื่อการเกิดสมาชิกต่างๆที่เข้ารวมกันเป็นระบบสุริยจักรวาล ก้อนมหาเมฆก้อนนี้ถูกแรงเหวี่ยงเพื่อสร้างระบบ ทำให้ขาดออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งพัฒนามาเป็นดาวโลก และอีกส่วนเกิดเป็นดวงจันทร์

และพื้นที่ (โลกและดวงจันทร์) แยกขาดจากกันในวันนี้ คือบริเวณพื้นที่ที่เราเรียกว่า มหาสมุทรแปซิฟิก

พื้นที่เชื่อมต่อนี้ เปราะบางมาก มีรอยแผลเป็นเรียกว่า “วงแหวนแห่งไฟ” ขอบของรอยเชื่อมต่อที่อ่อนไหวมากๆ ก็คือไหล่ทวีปเอเชีย ที่ตั้งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเต็มไปด้วยความมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์ จนปโตเลมี (พุทธศตวรรษที่ 15) เรียกดินแดนแถบนี้ว่า ไครส์เคอร์โสเนโสส หรือสุวรรณภูมิ สุวรรณทวีป

เทพอสูร หรือระบบพลวัตที่ขับเคลื่อนดวงดาว ปกปิดความเปราะบางของตนเองไว้ ด้วยความมั่งคั่งทางทรัพยากร คือน้ำมันและแก๊ส เมื่อมนุษย์ดูดน้ำมันและแก๊สขึ้นมาใช้ ถึงวันหนึ่งแผ่นดินไหล่ทวีปก็จะไหว ทวีความรุนแรงขึ้น

เรื่องอาเพศแห่งแผ่นดินไหว เป็นพระสูตรในพระพุทธศาสนา ชื่อ “ภูมิจาลสูตร” การคำนวณหาปฏิทินการเกิดแผ่นดินไหว เป็นปฏิบัติการภายใต้พิธีกรรมของโหราศาสตร์ และไสยศาสตร์

(ผู้เขียนออกตัวไว้ท้ายเรื่องว่า บทความนี้ ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆมารองรับ การวิเคราะห์นี้ใช้หลักการที่อยู่ในหลักสูตรโบราณของมหาวิทยาลัยนาลันทา เมื่อราว 1,300 ปีที่แล้ว)

ใช้จินตนาการชั้นสูง อธิบายได้ว่า เทวดา อินทร์ พรหม ทั้งหลายในศาสนาอารยธรรมโบราณแห่งเอเชีย เป็นแบบจำลอง ปรากฏการณ์เชิงลึกของธรรมชาติ มีฐานทางคณิตศาสตร์ และสัญลักษณ์ทางเรขาคณิตรองรับ

คณิตศาสตร์ค้นพบตั้งแต่สมัยอาณาจักรบาบิ-โลเนียนเรืองอำนาจ เรขาคณิตค้นพบโดยชาวกรีกไอโอเนียน

โดยฐานทางคณิตศาสตร์ ถูกนำไปพัฒนาเป็นตรรกะแห่งคำพยากรณ์ของวิชาโหราศาสตร์ และฐานทางเรขาคณิตถูกนำไปพัฒนา เป็นตรรกะแห่งการใช้อำนาจไสยศาสตร์ (ซึ่งถูกยัดเยียดข้อกล่าวหา งมงาย และล้าหลัง)

ต่อไปนี้ เป็นปฏิทินแผ่นดินไหว ที่จะเกิดต่อไป ตลอดปี 2555

(คำทำนาย 1-3 เดือน ตั้งแต่ต้นปี...แม่นไม่แม่นอย่างไร ไปหานิตยสารต่วย’ตูนพิเศษ อ่านกันเอา ขอคัดเอามาให้ลุ้นระทึกกันเล่นๆ เฉพาะคำทำนาย เดือนมีนาคม เดือนเมษายน และเดือนต่อๆไป)

วันที่ 2-3 มีนาคม แผ่นดินจะไหวทางขอบตะวันตกเฉียงใต้ของวงแหวนแห่งไฟ ประมาณทิศตะวันออกของญี่ปุ่น ความรุนแรง ราว 6 ริกเตอร์ วันที่ 19 วันที่ 30 มีนาคม แผ่นดินจะไหวบนไหล่ทวีปชายฝั่ง ได้แก่ ภาคตะวันตกและภาคเหนือของราช– อาณาจักรสยามโบราณ ความรุนแรงราว 40-60 เปอร์เซ็นต์ ของแผ่นดินไหว เมื่อต้นเดือนมีนาคม

วันที่ 30-31 มีนาคม แผ่นดินจะไหวทางทิศตะวันออกของญี่ปุ่น หรืออินโดนีเซีย ความรุนแรงราว 6 ริกเตอร์ และจะเกิดติดต่อกันยาวนานกว่าหลายๆครั้งที่เกิดขึ้นแล้ว

และ...ก่อนหน้า วันที่ 12 เมษายน หรือ 13 เม-ษายน แผ่นดินจะไหวบนไหล่ทวีปชายฝั่ง คือภาคตะวันตก และเหนือสุดของราชอาณาจักรสยามโบราณ

หรือไหวข้ามแผ่นเปลือกโลก ไปที่เอเชียกลาง คืออัฟกานิสถานหรืออิหร่าน ระดับความรุนแรงไล่เลี่ยกับที่ไหวไปก่อน

วันที่ 29 หรือ 30 เมษายน แผ่นดินจะไหวที่ตอนล่างของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ทิศใต้ของทะเลจีนใต้ อาจหมายถึงประเทศฟิลิปปินส์ หรือนิวซีแลนด์ ความรุนแรงมากกว่า 6 ริกเตอร์

วันที่ 11-12 พฤษภาคม แผ่นดินจะไหวบนไหล่ทวีปชายฝั่ง โดยเฉพาะในแนวเหนือ-ใต้ ของราชอาณาจักรสยาม อาจคาบเกี่ยวมาทางมหาสมุทรอินเดีย ความรุนแรง 40-60 เปอร์เซ็นต์ ของความรุนแรง วันที่ 29-30 เมษายน

วันที่ 22–23 พฤษภาคม แผ่นดินจะไหวทางทิศใต้ของทะเลจีนใต้ อาจคาบเกี่ยวมาทางมหาสมุทรอินเดีย ทำนองเดียวกับที่เคยเกิดสึนามิถล่มจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย

วันที่ 8-9 มิถุนายน แผ่นดินจะไหวในแนวเหนือ-ใต้ของราชอาณาจักรสยามโบราณ หรือคลื่นอาจจะส่งข้ามไปยังเปลือกโลกแผ่นถัดทางตะวันตกเฉียงเหนือของราชอาณาจักรสยาม หมายถึงปากีสถาน หรืออิหร่าน ความรุนแรงราว 40-60 เปอร์เซ็นต์ สัมพันธ์กับแผ่นดินไหวในวันที่ 22-23 พฤษภาคม

มีข้อสังเกต สูตรคำนวณหาแผ่นดินไหว จากคัมภีร์สุริยยาตร์ ของทีมงานเห็นชัดว่า แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเป็นรายปักษ์ (15 วัน) เกิดในทะเลก่อน แล้วจึงมาเกิดบนไหล่ทวีป หรือกินลึกเข้าไปในทวีป ตามความสัมพันธ์ของแผ่นเปลือกโลก

แผ่นดินไหว นับแต่ไหวน้อยๆ จนถึงขั้นไหวมากๆ ทีมงานวิเคราะห์คัมภีร์บอกว่า เกิดขึ้นเพราะวงแหวนแห่งไฟใต้มหาสมุทรแปซิฟิกกำลังถูกปลุกให้ตื่น โดยมีคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ พยายามดึงแผ่นยันต์ที่เทพรักษาโลก (ชาวพุทธโบราณเรียก “ ท้าวโลกบาล”) ปะเอาไว้บริเวณทะเลจีนใต้

แผ่นยันต์ที่ว่า หมายถึงน้ำมันและแก๊ส.


O บาราย O

ที่มา ปฏิทินแผ่นดินไหว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ขอบคุณท่าน ดูงาน ครับที่นำข้อมูลมาแชร์ ถึงจะเป็นช่วงเวลาปี 2555 ก็ตาม

ผมเข้าไปเช็คดูแล้ว ไม่ตรงตามที่ทำนายไว้เลย ( ปี 2555 นะครับ ) ผมมองว่าเป็นการทำนายแบบกว้างๆ ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ จะว่าเหวี่ยงก้อได้นะ ส่วนที่กล่าวอ้างถึงอาณาจักรสยามโบราณ ก็ไม่ได้ระบุว่าจะเกิดในพื้นที่ประเทศไทยปัจจุบัน แต่หมายถึงประเทศพม่าเรื่อยลงไปทางใต้จนถึงเกาะสุมาตรา ( ชายฝั่งไหล่ทวีป หรือ แนวมุดสอดนั่นเอง)

ส่วน M 8.2 และ M 8.6 ที่เกิดทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา ในวันที่ 11 เมย. 2555 ก็ไม่ได้ทำนายไว้




น่าเสียดายที่ไทยเราเสียดินแดนถึง 14 ครั้ง ไม่งั้น ...

.

 

M 6.3 ที่ลาวเมื่อ 7 ปีที่แล้ว และ M 6.8 ที่พม่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิด M 6.3 ที่เชียงราย เป็นระยะทาง 140 กม. และ 110 กม เท่านั้นเอง เหมือนกับว่า รอยเลื่อนในกลุ่มนี้เริ่มมีการขยับตัวถี่ขึ้นหรือปล่าว เหมือนจะทุก 3-4 ปี ??




.

 

EMSC ได้ปรับตำแหน่ง epicenter และปรับขนาดจาก M 6.0 เป็น M 6.2 ซึ่ง epicenter อยู่ใต้แนวเขาสูงประมาณ 800 เมตร ใกล้เคัยงกับข้อมูลของ GEOFON




.

 

หมอดูอีทีไม่ได้บอกอย่างนั้นดอก คนที่บอกคือคนที่ไปหาหมอดูอีที ผมไม่เชื่อว่าหมอดูอีทีจะพูดแบบนั้น เพราะ ผมไม่ได้ฟังเองกับหู น้องหมอดูอีทีจะบอกคำพยากรณ์เป็นภาษาอังกฤษ ผมฉลาดพอที่จะฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องก็แล้วกัน

 

ไม่มีอะไรครับลงเอาไว้ให้คนที่สนใจพิจารณาอะไรบางอย่าง ผมก็เช็คแล้วว่าไม่ตรง

ไม่ต้องเสียดายครับ มันเป็นอดีตที่เราก็ไม่รู้ว่ามันถูกหรือเปล่า โลกก็เเปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะตอนไหน

 

ท่านคงหมายความว่า แม่น/ไม่แม่น ขึ้นอยู่กับคนตีความอีกต่อหนึ่ง
โลกเรานี้มันซับซ้อนจริงครับ ยิ่งพวกที่พิศมัยหลงใหลในภัยพิบัติ ยิ่งซับซ้อนขึ้นทุกวัน เหตุการณ์อะไรที่เกินปกติธรรมดาไปนิดหน่อย ก็ทำเหมือนกับประเทศไทยกำลังล่มสลายคนจะตายเป็นเบือ(หลักล้านคน) อะไรทำนองนั้น...

.

 

เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดในอเมริกา (Cr. เวปกระปุก) อเมริกันชนมองว่าแค่ของหาดูยากนานๆเกิดที ไม่มีใครตาย

ท่านทั้งหลายลองจินตนาการละกันว่า ถ้ามาเกิดในประเทศไทยช่วงนี้ล่ะ?
รับรองเราจะได้เห็นอภินิหารเกินจินตนาการที่ไม่สามารถคาดเดาได้จากคนไทย โดยเฉพาะหลายๆคนในเวปนี้ ผู้ที่คลั่งไคร้และศรัทธาอย่างแรงกล้าในภัยพิบัติ

หลักการทางวิทยาศาสตร์มันมีอยู่จริง แต่จะเชื่อกันหรือเปล่า?

 

ผมไม่ทราบว่า การที่อาจารย์หม่าไปพบหมอดูอีที 2 ครั้ง ได้ถามและได้ตอบอะไรกันบ้าง เราแค่ได้รับการถ่ายทอดมาอีกชั้นหนึ่ง ส่วนจะจริง จะเท็จ จะโกหก จะต่อเติมเสริมแต่ง คงไม่สามารถทราบได้ครับ

.

 

แต่ผมดูเงียบๆนะครับ โดยเฉพาะพวกชวนคนย้ายบ้านนี่ แทบไม่มีแสดงความเห็นเลย ผมคิดว่าพวกเชื่อมากๆถึงขนาดย้ายบ้านหนีหรือไปสร้างที่หลบภัยในห้องนี้90% ย้ายไปอยู่แถวๆที่มันมีแผ่นดินไหวนั่นแหละครับ จะมาปั่นกระแสมันก็จะย้อนเข้าตัว
ตอนนี้ตู้คอนเท็นเนอร์ที่ไปติดตั้งไว้ ไม่รู้ฐานรากมันจะเป็นยังไงด้วย

คงเป็นกรรมน่ะครับ ส่วนใหญ่หนีน้ำท่วมโลกไปอยู่กันแถวใกล้ที่มันเป็นรอยเลื่อน

 

ผมเชื่อว่าจะมีพวกเชื่อภัยใหญ่ล้างแผ่นดินมาดูกระทู้นี้อยู่บ้าง ผมเห็นมีกระทู้ดังกระทู้หนึ่ง มีการพูดคุยเกี่ยวกับการเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นจำนวนมาก

ขอให้ระวังนะครับว่างานจะเข้าเอา บางอย่างอาจจะติดไฟยากก็จริง แต่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ปุปปัปขึ้นมานอกจากบ้านคุณเองแล้วเพื่อนบ้านจะซวยไปด้วย และการจะเก็บไว้เป็นจำนวนมาก มันมีระบบระเบียบปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยอยู่

เอาน้ำมันเยอเเยะมาเก็บไว้เพราะกลัวภัยที่ไม่รู้จะเกิดเมื่อไหร่ ระวังงานเข้าขอบอกอีกครั้ง

มีอาจารย์นักเตรียมรับภัยคนหนึ่ง เตรียมโน่นนี่นั่นสารพัด ย้ายไปอยู่เหนือเพราะกลัวภัย เมื่อเดือนสองเดือนก่อนโดนไฟไหม้เสียไปหลายแสนได้ ฟืนไฟไม่เข้าใครออกใครนะครับ