รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

ตั้งแต่ผมเกิด มีอะไรให้เห็นทุกปีครับ ทั้งเหตุการณ์ธรรมชาติ และไม่ใช่ธรรมชาติ ไม่มีปีไหนจะไม่เกิดอะไรเลย

อยู่ที่ว่า ใคร จะคิดไปในทางไหน เชื่อทางไหนก็มักจะพยายามเอาไปผูก ปีแล้วปีเล่า

ประสบการณ์ มันสอนให้ผมเข้าใจว่า
ก่อนจะให้สติใคร ให้ตัวเราเองมีสติก่อน มีเหตุ มีผลก่อน แล้วเราจะรู้คำตอบได้ด้วยตัวเราเองว่าจัะคิดอะไรไปในทิศทางไหน

.

 

พุทธทำนายจากศิลาจารึก ขอบอกศิลาจารึกนี่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ศักดิ์สิทธิ์จนไม่มีใครเคยเห็น ธรรมทูตไปอินเดียดันมีนักโบราณคดีสามารถอ่านภาษาโบราณได้ด้วย สุดอัศจรรย์ขนลุกเบย

จารึกทำนายภัยพิบัติอันนี้สุดๆแล้ว ยาวเป็นหน้า บรรยายซะละเอียดยิบให้ทำโน่นนี่นั่น

ความเชื่อมันพัฒนาจนไร้กาลเวลาแล้ว พ.ศ.2555คนจะคลาน ไม่เป็นไรหลับหูหลับตาอย่าไปพูดถึงมัน พ.ศ. 2556 ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล อ้าว!ผ่านมาแล้วหรือ เออๆ ตูไม่สนแล้ว พอศง พอศอ ตูไปอีกมิติแล้ว

คาถามหานิยม1.ของผู้วิเศษ
มันเลื่อน เบื้องบนทำหน้าที่กันเต็มกำลัง แต่ใกล้จะไม่ไหวแล้ว เอ่อ!เบื้องบนนี่อยู่ยุครามเกียรติ์หรือครับ แบบมีสู้รบกัน ใครแพ้โดน

คาถามหานิยม2.ของผู้วิเศษ
แผนล้างโลกถูกเปิดเผย ทำให้มันไม่เกิด อ้าว! มันยังไงฟระ แผนล้างโลกถูกเปิดเผยเลยหมดพลัง ปล่อยแสงไม่ได้ เขย่าแผ่นดินไม่ไหว หมดแรงพังเขื่อน เบื้องบนพลังฝ่อกระทันหันหรือครับ

คาถามหานิยม3.ของผู้วิเศษ
ไม่เกิดน่ะดีแล้ว โล่งเลย เอ่อ!จริงๆมันก็ไม่มีอะไรมาตั้งแต่แรกแล้วครับท่าน ที่ท่านมโนมาทั้งหมดควรวงเล็บไว้ด้วยว่าควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน เป็นความมโนส่วนบุคคลนะครับ

 

เรื่องพุทธทำนายจากศิลาจารึกนี่ ผมเคยพยายามค้นหาจากข้อมูลภาษาอังกฤษของอินเดีย ศรีลังกาและจีน แต่ยังไม่เจอที่มีการทำนายเรื่องเหล่านี้ และที่สำคัญ มีการระบุเหตุการณ์พร้อมปี พ.ศ. ยิ่งไปกันใหญ่เลย ผมมองว่าเป็นการเขียนขึ้นใหม่เมื่อเร็วๆนี้ ใครมีหลักฐานยืนยัน ขอรบกวนนำมาแสดงด้วยนะครับ จะได้สืนค้นไปยังต้นตอแหล่งที่มาว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ไม่เช่นนั้นก็จะวนเวียนอยู่ในโลกไซเบอร์อีกนานเลยครับ

.

 

ศิลาจารึกมันไม่มีมาตั้งแต่แรกแล้วครับ แต่เรื่องที่มีคณะธรรมทูตผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ น่ะมีจริง

คนทั่วไปจะหลงเชื่อได้ อันนี้ไม่แปลก แต่มีพระสงฆ์องค์เจ้าบวชมาเป็นสิบปีลากเอามาเล่นนี่ผมแปลกใจมาก

 

เห็นมีกระทู้ดัง คนในกระทู้เริ่มปลงกันแล้วเพราะมันไม่มีอะไรซักที
ผมเห็นใจนะครับที่ไปหลงเชื่อตั้งแต่แรก เสียเงินกันไปขั้นต่ำก็หลักพันหลักหมื่น และหลังจากเกิดอุปทานหมู่ บางคนเสียไปเป็นหลักล้าน

กระทู้นั้นมันเป็นเรื่องแต่งขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมจขกท.ที่เข้ามาลบบางโพสของตัวทิ้งเพื่อคงความน่าเชื่อของกระทู้ไว้ น่าจะทำให้หลายคนเข้าใจมากขึ้นครับ

เจ้าของกระทู้ดัง เค้าล็อกไอดีนั้นเข้ามาแทบทุกเดือนแหละครับ ไม่ได้วางมืออะไร เดือนนี้ตอนต้นเดือนก็ล็อกไอดีนั้นเข้ามา ผมคิดว่ามันก็คนกันเองที่ยังวนเวียนในบอร์ดพลังจิตแหละครับ มีอย่างที่ไหน ดูประวัติการviewหยุดนิ่งมาเป็นปี แต่ดันรู้ด้วยว่าจะต้องเข้ามาลบโพสไหนของตัวเองทิ้ง หลังจากมีคนวิเคราะห์คำทำนาย

เชื่อว่าคงเข้ามาอ่านความเห็นนี้ คนเขาเดือดร้อนกันครับ มันหลายปีเต็มทนแล้ว ตัวเองก็เสียเวลาไปตั้งเจ็ดแปดปี

 

เอามาให้คิดเล่นๆ

สมมุติว่าผมต้องขับรถออกจากบ้านทุกวันกับครอบครัว วันดีคืนดีผมเกิดมโนว่า ถ้าเราขับไปอาจเกิดอุบัติเหตุเสียเลือดมากอาจมีเลือดไม่พอ หัวของเราอาจกระแทกรถสมองเสื่อม กระดูกแตกหัก หัวใจอาจหยุดเต้น

ผมเลยเตรียมตัวถ่ายเลือดตัวเองกับคนในครอบครัวใส่กระติกน้ำแข็งเขียนอธิบายว่าถ้าเกิดอะไรแล้วเลือดไม่พอ ให้ใช้เลือดนี้ ตอนขับรถยนต์ผมก็ใส่หมวกกันน๊อคนั่งขับ พร้อมสวมเสื้อเกราะแบบทหารโรมันขับรถ มีถังออกซิเจนเผื่อไว้เกิดมีปัญหาเรื่องการหายใจ มีที่ปั๊มหัวใจด้วย

ถ้าผมทำแบบที่ว่าผมจะเป็นนักเตรียมตัวเพื่อความไม่ประมาทมั้ยครับ อย่าลืมว่าอุบัติเหตุรถยนต์มันเกิดได้ตลอดเวลา

 

ผมก็คิดเช่นนี้ครับท่าน 90210 ผมมองว่าเป็นการแอบอ้างและสอดแทรกข้อมูลผิดๆ อาจทำไปด้วยความหลงผิด นึกสนุก แต่ข่าวสารในโลกอินเตอร์เน็ตไปไปเร็วและกว้าง แถมยังยากที่จะพิสูจน์ถึงต้นตอ และคนพุทธส่วนใหญ่จะเชื่อง่ายซะด้วย

พระสงฆ์ยุคปัจจุบัน มีเยอะมากที่ท่องโลกไซเบอร์ไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาทั่วไป เพื่อติดตามข่าวสาร หาข้อมูล เพราะไม่งั้นก็จะตอบญาติโยมไม่ได้ ยิ่งเรื่องที่คนทั่วไปสนใจและกระหายอยากรู้ที่สุดคือ ภัยพิบัติใหญ่ ข้อมูลต่างๆในช่วง 10-15 ปี มานี่ มันก็วนเวียน ผสมผสาน ตกผลึกออกมาเป็นหลายฝ่ายหลายแนว หรือแม้แต่พระสงฆ์ที่เคร่งทางวินัย แต่ลูกศิษย์ญาติโยมกลับเป็นผู้ให้ข้อมูลข่าวสารโดยไม่รู้ตัว โดยการเอาเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปถาม ว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้มั๊ย ....

.

 

สำหรับประเทศไทย อุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน มีโอกาสเกิดขึ้นสูงกว่าภัยพิบัติมาก และไม่มีสัญญาณเตือนด้วยครับ

.

 

เรื่องจริง หรือ เรื่อง หลอก ??

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/xgz_m76rN0M" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


ข้อควรสงสัย :

1. กระแสไฟฟ้าอาจเชื่อมต่อมาจากทางพัดลม หรือไม่ ??

2. นาทีที่ 2:50 ตอนที่ใช้มือหมุนเพื่อกระตุ้นให้แกนไดนาโมทำงาน ทำไมหลอดไฟไม่ติดเลย ทั้งๆที่ตัวเจนเนอเรเตอร์ก็หมุนแล้ว น่าจะมีกระแสไฟบ้าง หลอดไฟอาจจะติดแต่ไม่สว่างมากก็พอจะเข้าใจได้

3. ทำไมไฟฟ้าจากตัวเจนเนอเรเตอร์ ถึงไหลทันทีที่ปิดครอบเฟรมแม่เหล็ก เมื่อวิเคราะห์ร่วมกับข้อ 2 น่าจะมีการเปิดสวิทช์จ่ายกระแสไฟเข้ามา เพราะความสว่างของหลอดมันไม่ค่อยๆติดหรือมีอาการวูบวาบเลย

ดูแล้ว Fake ครับ

.

 

คือคลิปพวกนี้ตามยูทูปมันโม้ซะเป็นส่วนใหญ่ ใช้เทคนิคตัดต่อมั่ง ใช้โปรแกรมคอมช่วยมั่ง หรือไม่ก็แบบเล่นกล
มาดูอันนี้มั่ง ดูแล้วไม่ต้องคิดรัยมาก Fake1000% 555555<object height="315" width="420">

<embed src="//www.youtube.com/v/CN064vzXMA0?hl=en_US&version=3&rel=0" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" height="315" width="420"></object>

 

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/zz-Lupbn7mc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/QIMOG1vJ5h8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

อีกคลิปหนึ่งที่ทำเอาผมมึนในตอนแรก แต่พอพิจารณาความน่าจะเป็นแล้วมัน Fake แน่ๆ จากนั้นผมตามล่าหาความจริงจนสุดท้ายรู้ว่า มันก็ Fake จริงๆนั่นแหล่ะ


หลายครั้งที่ฝรั่งชอบเล่นกลให้ดูทาง YouTube แต่กลับมีคนเชื่อเป็นตุเป็นตะ เพราะคิดแต่ว่าฝรั่งทำอะไรก็ถูก ทำอะไรก็น่าเชื่อไปหมด หรือไม่ก็คิดแค่ว่า ของๆฝรั่งยังไงก็ดีกว่าเสมอ


เตือนว่าอย่าเชื่ออะไรง่ายๆนะครับ ยิ่งอะไรก็ตามที่มันขัดกับหลักการและเหตุผลหรือความน่าจะเป็นตามธรรมชาติด้วยแล้ว ยิ่งต้องใช้สติให้มากๆ ถึงจะนั่งสมาธิ ทำบุญทุกวัน ก็ใช่ว่าสิ่งที่คุณเชื่อจะถูกเสมอ บางทีความเป็นจริงมันกลับกันจากหน้ามือเป็นหลังมือด้วยซ้ำไปครับ

.

 

สิ่งที่ในคลิปไม่ได้ทำ คือ แกะกล่องปลั๊กพ่วงให้ดูว่าข้างในมีเซลล์แบตเตอรี่แห้งซ่อนอยู่ เดี๋ยวนี้แบตก้อนเล็กๆแต่ประยุกต์ใช้งานได้สาระพัดเลย

UPS Power outlet type มีขายนานแล้วนะครับ

.

 

หลอด LED ที่มีแบตเตอรี่เก็บไฟอยู่ในตัวหลอด โดยใช้ร่วมกับแผงโซล่าร์เซลล์ ตอนกลางคืนถอดหลอดออกมาใช้แทนไฟฉายได้ครับ มีขายนานแล้วครับ เคยใช้ครั้งแรกเมื่อต้นปีที่แล้วที่วัดป่า แถวภูฝอยลม ลองเสิร์ช solar cell LED Bulb ดู เพียบเลยครับ

.

 

ปกติคลิปพวกพลังงานฟรีเหล่านี้ ผมไม่เคยเปิดดูมาก่อนเลยครับ...
ที่ไม่เปิดดูเพราะไม่สนใจ และเสียเวลาเปล่าๆ...
มากระทู้ท่านบินสูงนี่แหละครับ จึงได้เปิดดูครั้งแรก...บ่องตง...
ขี้เกียจไปวิจารณ์ เพราะไปวิจารณ์กระทู้อื่น เดี๋ยวจะโดนมิใช่น้อย...

คืองี้ครับ...

Input = Output+Loss

ประสิทธิภาพสูงสุดของมอเตอร์ ไม่เกิน 33 % ทั้งนี้อาจเรียกเป็น Alternator ละกัน คือทำหน้าที่เป็นได้ทั้งมอเตอร์และเจนเนอเรเตอร์ในตัวซึ่งแน่นอนประสิทธิภาพก็ต่ำลงไปอีก..
การจะได้พลังงานมาพอสำหรับพัดลม หลอดไฟ 5 หลอด และ Heater หรือเตารีด ต้องมีกำลังไฟไม่น้อยกว่า 2500 วัตต์ นั่นหมายถึงเจนเนอเรเตอร์ต้องได้รับพลังงานประมาณ 10 กิโลวัตต์ จากการหมุนขดลวดตัดสนามแม่เหล็กถาวร ซึ่งตรงนี้มันต้องมีพลังงานทางกลจ่ายเข้าไปให้กับเจนเนอเรเตอร์ที่จะหมุนมัน...การหมุนด้วยมือแล้วให้แกน Rotor ทำงานต่อได้ด้วยตัวเองเลย เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะมันไม่มีพลังงานจากไหนเพิ่มเข้าไปให้ คือ Input ไม่มี Output เกิดขึ้นไม่ได้แน่ๆ...

ส่วนอันที่2นี่ เป็นการจ่ายไฟด้วย Piezoelectric ตัวนี้เป็นสารกึ่งตัวนำที่มีผลจากแรงกระแทกทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงที่สูงมากประมาณ 10 กิโลโวลท์ แต่มีกระแสที่ต่ำมากคืออยู่หลักนาโนโวลท์เท่านั้น อีกทั้งกระแสเป็นพัลล์ คือพุ่งแหลมเหมือนเข็มแว๊บเดียวแล้วหายไป ซึ่งพลังงานนี้มีขนาดเล็กมาก แต่การสปาร์คได้นั้นเกิดจากแรงดันที่สูง ทำให้อิออนในอากาศแตกตัว คือเกินกว่า 10 กิโลโวลท์ต่อซม. ก็เกิดสปาร์คได้แล้ว...พลังงานตรงนี้ต่ำเกินกว่าจะนำมาใช้งานได้เช่นเดียวกับพลังงานจากฟ้าผ่า เพราะเป็นแรงดันสูง กระแสต่ำและระยะเวลาเพียงชั่วขณะคือประมาณมิลลิวินาทีเท่านั้น เอามาใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ครับ...

เคยมีคนคิดเอา Piezoelectric ไปวางให้รถวิ่งทับเพื่อสะสมพลังงานเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ...

วิธีจะหาพลังงานฟรีๆมาใช้นั้น มีอยู่หลายวิธีครับ...เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่า มีงานวิจัยที่เป็นความหวังและพอจะเป็นไปได้นั้นมีอยู่บ้างเหมือนกัน...

 

เคยมีเรื่องเล่าที่ชาวเขาเดินถือหลอดฟลูออเรสเซนต์ขึ้นเขาแล้วให้แสงสว่างได้...เนื่องจากที่ยอดเขามีเสาส่งคลื่นวิทยุกำลังส่งสูง...คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้ทำให้แกสในหลอดฟลูออเรสเซนต์แตกตัวปล่อยพลังงานมาให้สารฟลูออเรสเซนต์เปล่งแสงได้...แต่ว่ามันไม่ได้สว่างโร่ เหมือนอย่างที่เราเปิดในบ้านหรอกครับ มันเรืองแสงเพียงแค่พอมองเห็นทาง..

ในเมืองหลวงก็มีเหมือนกันคือบริเวณใกล้ๆสายส่งแรงสูง ที่เราเคยเห็นการเรืองแสงสีม่วงอ่อนๆ และเสียงฮัม คือปรากฎการโคโรนา ที่อากาศบริเวณนั้นแตกตัวเนื่องจากความเครียดสนามไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งมันมีการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาด้วย ถ้าเราเอาขดลวดไปวางขนานสายไฟฟ้าแรงสูงก็สามารถเหนี่ยวนำกระแสนั้นมาใช้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าความเข้มของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าตรงนั้น ขึ้นอยู่กับโหลดที่ชาวบ้านใช้งานด้วย และวิธีนี้ผิดกฎหมาย...แม้ว่าจะพยายามบอกว่าคลื่นมันก็วิ่งของมันทิ้งๆขว้างๆอยู่ในอากาศก็ตาม...

วิธีที่2 คือ ลมช่องตึก เรื่องนี้เคยมี จนท.การไฟฟ้ามาขอคำปรึกษาว่าต้องการใช้ลมที่พัดอยู่ระหว่างตึกสูง2ตึก ซึ่งมีความแรงและต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน...
ผมอธิบายหลักการไปให้ฟังแล้วว่ามีทางเป็นไปได้ด้วยการติดตั้งใบพัด พัดลมที่มีลักษณะคล้ายเทอร์บายจำนวนหลายชุดพ่วงเข้าด้วยกันก่อนจะไปผ่านเจนเนอเรเตอร์ แต่เรื่องนี้เงียบไปเพราะต้องใช้ทุนวิจัยพัฒนาซึ่งต้องผ่านองค์กรและถูกหักหัวคิวอีก 40-67% ก็เลยเลิกเหอะ...

 

เรื่องน้ำดื่มอีกอย่างนึงครับ ซึ่งน้ำดื่มนี้สำคัญจำเป็นกว่าไฟฟ้าเสียอีก...
วิธีง่ายๆ แต่ไม่ค่อยมีใครอยากทำเลยคือ ใช้ปั๊มมือโยก ที่ใช้สำหรับทดสอบท่อ ซึ่งสามารถทำแรงดันไปได้เกินกว่า 10 บาร์ ผ่านเครื่องกรองน้ำแบบ RO ก็จะได้น้ำบริสุทธิ์แล้วโดยไม่ต้องพึ่งกระแสไฟฟ้าเลย ไม่ต้องไปหาพลังงานไฟฟ้ามาจ่ายผ่านปั๊มน้ำเพื่อไปดันผ่าน เซลภายในเพื่อให้ได้น้ำบริสุทธิ์แต่อย่างใด...พลังงานคนนี่แหละครับ ทำได้...

 

คงจำกันได้ เป็นคำทำนายล่วงหน้า ที่ผมเห็นว่าใกล้เคียงมากๆ ไม่มโนเหมือนคำทำนายทั้งหลายที่ได้ยินได้ฟังมา



<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/HK_OBPnmddg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

.

 

ระหว่างคำทำนายที่ว่า " น้ำท่วมจะท่วมกรุงเทพ ภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ " กับ " แผ่นดินไหวใหญ่ทางภาคเหนือ ภาคใต้ หรือ ทางตะวันตก " เหตุการณ์ไหนมีโอกาสเกิดมากกว่ากัน และเหตุการณ์ไหนจะเกิดก่อนกัน ???

คงต้องให้เวลาเป็นผู้เฉลย รอดูกันต่อไปครับ

.

 

เรียนคุณ hiflyer

เมื่อประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ผมขับรถกลับกรุงเทพจากระยองมาทางมอเตอร์เวย์ เวลาประมาณ 17.45 น. เห็นสายรุ้งสีจางๆ ตั้งฉากจากพื้นขึ้นท้องฟ้าข้างบน จำนวน 3 แท่ง ขนาดความกว้างของแท่งรุ้งใหญ่มาก ในจิตผมเหมือนมีบางอย่างบอกในความคิดว่า มหาเทพ 3 องค์ลงมาช่วยประเทศไทยแล้วโดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร คนเลวคนชั่วคนไม่ดีกำลังถูกจัดการ เพื่อให้ปี 2558 เป็นปีที่เป็นความหวังใหม่ของชาวศิวิไลโดยทั่วกัน ก็จับตาดูกันต่อไปว่าคนโกงบ้านกินเมืองทั้งหลายจะเดี้ยงกันมากขนาดไหน ผมจำได้คร่าวๆปีที่แล้วมีหลวงปู่ท่านหนึ่งบอกว่าในหลวงของชาวไทยท่านเป็นพระโพธิสัตว์เหล่าเทพเบื้องบนได้เวียนลงมาคอยช่วยพระองค์โดยตลอด แต่ครั้งนี้ผมมั่นใจว่าเป็น 3 ทัพใหญ่ลงมาช่วย คนดีมีศีลมีธรรมจะปลอดภัยดี คนเลวคนชั่วคนทุศีลก็คงย่ำแย่แน่อาจถึงตายได้ครับ

เรื่องน้ำท่วมใหญ่ เรื่องแผ่นดินไหวใหญ่ ในเมืองไทย ผมยังรู้สึกว่ายังรุนแรงไม่มากเท่าของต่างประเทศครับคนไทยรับมือได้ครับ

 

ขอให้เป็นอย่างที่ท่าน tossapornk ได้รู้ได้เห็น ได้เข้าใจครับ

พระนามของในหลวงเรา แปลว่า พลังของแผ่นดิน พระองค์ทรงเป็นที่สุดของราชาทั้งปวง เหมือนเลข 9 เป็นเลขที่มากที่สุดในเลขฐานสิบ สุดท้ายแล้วความดีย่อมชนะความไม่ดี ความชั่ว เสมอครับ เพราะจิตใจของสามัญชนคนธรรมดา รู้ว่าอะไรดี ไม่ดี ถูกหรือผิด จริงใจหรือหลอกลวง ผลประโชน์ของชาติหรือของพวกพ้อง ฯลฯ

ทำเลที่ตั้ง ภูมิประเทศ ของไทยเรา ถือว่าอยู่ในจุดที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติใหญ่ที่รุนแรง มากๆเลย ไม่ว่าจะ แผ่นดินไหว สึนามิ พายุ ความหนาวเย็น ที่เหลือคือ น้ำท่วมตามฤดูกาล และ ภัยแล้ง ที่ต้องอาศัยการจัดการจากภาครัฐ ในหลวงทรงมีพระราชดำริการแก้ปัญหาน้ำท่วมมาตั้งแต่ปี 2523 แล้ว ผ่านมา 34 ปี ถ้ารัฐบาลตั้งใจที่จะทำเรื่องนี้จริงจัง คงไม่มีผลกระทบรุนแรงเหมือนที่เห็นๆกัน ส่วนอากาศร้อน การขยายพื้นที่ของชุมชน การบุกรุกทำลายป่าอย่างรุนแรงในช่วงสิบยี่สิบปีนี้ หน่วยงานรัฐหย่อนประสิทธิภาพแถมยังร่วมมือกับนักการเมือง นายทุนอีกต่างหาก ป่าไม้ ต้นไม้ใหญ่ หายไปมากมายเลย

.